Share

บทที่ 7

Author: กระจอก
หวังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ เห็นกู้รั่วเสวี่ยที่เดินเข้าก็รีบโค้งตัวอย่างสุภาพนอบน้อม “คะ คุณหนูกู้ มาได้ยังไงคะ?”

“เพียะ!”

กู้รั่วเสวี่ยก้าวเข้ามาสะบัดฝ่ามือใส่แก้มของหวังฮุ่ย พูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมพูดจาอย่างงั้นกับคุณฉู่! ขอโทษเขาซะ!”

“ขอโทษ?” หวังฮุ่ยมึนงง เธอยกมือกุมแก้มที่รู้สึกแสบร้อน ก่อนจะอธิบายว่า “คุณหนูกู้ ไอ้นี่เป็นแค่คุณชายตกอับไร้ที่ไป เขามาซื้อสมุนไพรทั้งที่ไม่มีเงิน แถมยังบอกว่าจะซื้อเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี ฉันก็แค่…”

“เพียะ!”

กู้รั่วเสวี่ยยกฝ่ามือขาวๆ สะบัดออกไปอีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงเย็นอีกครั้ง “ฉันบอกว่าให้ขอโทษซะ!”

คราวนี้หวังฮุ่ยตกใจแล้ว

กู้รั่วเสวี่ย คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลกู้ เพิ่งมาเติบโตในเจียงจงสองปีที่ผ่านมานี้เอง

จินจือหลินเป็นของกู้รั่วเสวี่ยทั้งหมด

หากพูดถึงตระกูลกู้ในจิงตู ก็นับว่าเป็นตระกูลที่ใหญ่สุดๆ!

พวกเขามีอุตสาหกรรมที่หลากหลาย มีทั้งด้านสมุนไพร ด้านศึกษาวิจัยทางการแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมด้านความบันเทิงก็ด้วย…

อุตสาหกรรมแต่ละด้านล้วนนับว่าอยู่แนวหน้าของประเทศทั้งนั้น

ได้ยินมาว่า รวยเทียบเท่าประเทศหนึ่งเลยทีเดียว!

“ขะ ขอโทษ…” หวังฮุ่ยก้มหน้างุด หันไปขอโทษฉู่เฉินเสียงเบา

ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

กู้รั่วเสวี่ยปั้นหน้าเย็นชา ก่อนจะหันไปพูดกับหวังฮุ่ยว่า “ตอนนี้ คุณออกไปจากจินจือหลินได้แล้ว”

“หา? ไม่นะ คุณหนูกู้ ฉันผิดไปแล้วค่ะ ต่อไปฉันไม่กล้า…” หวังฮุ่ยรีบอ้อนวอนทั้งน้ำตา

ต้องบอกก่อนว่า เธอลงทุนลงแรงไปมหาศาลกว่าจะได้งานที่จินจือหลิน เธอต้องนอนกับผู้จัดการใหญ่ของที่นี่ถึงสามคืน กว่าจะได้งานนี้มา

แม้แต่เมื่อกี้ เธอก็กำลังร่ายเพลงรักกับผู้จัดการใหญ่อยู่หลังร้านด้วยซ้ำ

เพราะงานที่จินจือหลินแห่งนี้ ให้เงินเดือนสูงถึงห้าหมื่นเชียวนะ!

ในเจียงจง เงินเดือนจำนวนนี้นับว่าเป็นระดับสูงสุดของเหล่าพนักงานออฟฟิศแล้วล่ะ

“ไสหัวไป! ถ้ายังไม่ไปอีก เรื่องจะไม่จบแค่โดนไล่ออก” กู้รั่วเสวี่ยเอ่ยเสียงเย็น

หวังฮุ่ยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก่อนจะถลึงตามองฉู่เฉินอย่างคับแค้น จากนั้นก็หมุนตัวจากไป

ฉู่เฉินที่ดูเหตุการณ์อยู่รู้สึกแปลกใจ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดหญิงสาวตรงหน้าถึงมาช่วยเขา

คุณหนูกู้?

คุ้นหูอยู่นะ

พอมองให้ชัด คุณหนูกู้คนนี้นับว่าหน้าตางดงามชนิดล่มเมืองได้ทีเดียว เธอใส่กระโปรงสั้นลายดอกเล็กๆ สีขาว ในความบริสุทธิ์มีความงามอันเย่อหยิ่งปะปนอยู่

ผิวที่ขาวเนียนจนแทบโปร่งแสง เล่นแสงแวววาวราวกับหยกขาว ยังมีเอวคอดเล็กที่มีขนาดโอบมือเดียว ประกอบกับเรียวขายาวขาวดุจหยก และเท้านุ่มๆ อมชมพูคู่นั้นที่สวมใส่รองเท้าส้นสูงคริสตัล ช่างชวนให้ผู้ชายเพ้อฝันเสียจริง

รูปลักษณ์นางฟ้าในฝันของเหล่าผู้ชายชัดๆ

“ทำไม จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?” กู้รั่วเสวี่ยเห็นฉู่เฉินจ้องเธอ จึงยิ้มน้อยๆ พลางถาม

ฉู่เฉินสายตางุนงง เขาถามว่า “เรารู้จักกันเหรอ?”

เพิ่งพูดจบ ฉู่เฉินที่มองกู้รั่วเสวี่ยอยู่ก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้!

เดี๋ยวก่อน เธอคือผู้หญิงเมื่อคืนที่ทำเรื่องบ้าสุดขีดไปกับเขาทั้งคืนนี่!

ชั่วพริบตา ฉู่เฉินตะลึงตาค้าง

ในสมองของเขามีภาพหวือหวาในโรงแรมเล็กๆ เมื่อคืนผุดขึ้น

ในความจำ เมื่อคืนเธอบ้าคลั่งมาก เหมือนแมวป่าเล็กๆ ตัวหนึ่ง ที่เป็นฝ่ายรุกเต็มตัว ทำให้ฉู่เฉินไม่อาจต้านทานความปรารถนาได้

มาเจอวันนี้ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคุณหนูผู้สูงส่งขนาดนี้ ราวกับเป็นคนละคนจริงๆ

ไม่ใช่หรอกมั้ง อีกฝ่ายมาหาถึงที่แบบนี้…

ฉู่เฉินเริ่มกลัวขึ้นมา

อย่างไรเสีย เรื่องวันไนท์สแตนก็เป็นครั้งแรกของเขาเหมือนกัน

“นึกออกแล้วเหรอ?” กู้รั่วเสวี่ยยิ้มกริ่ม จ้องฉู่เฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าเธอเองก็นึกถึงภาพที่เธอกับเขานัวเนียกันทั้งคืน

พอนึกถึงภาพเร้าอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แก้มของกู้รั่วเสวี่ยค่อยๆ ร้อนผ่าว

ครั้งแรกของเธอ ถูกเขาเอาไปเสียแล้ว

แต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อกี้เขากลับจำเธอไม่ได้

เป็นไอ้สารเลวน่าชังจริงๆ!

ฉู่เฉินเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนบอกว่า “คือว่า คุณหนูกู้ เมื่อคืนต้องขอโทษด้วย แต่คุณวางใจได้ ผมจะรับผิดชอบคุณแน่นอน”

“คุณคิดจะรับผิดชอบยังไง?” กู้รั่วเสวี่ยแสร้งถามอย่างเย็นชา

ฉู่เฉินเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบว่า “ผมจะสู่ขอคุณ!”

พรืด!

กู้รั่วเสวี่ยลั่นเสียงหัวเราะ ดวงตาดอกท้อน่ามองยิ่งนัก แม้แต่ทรวงอกเอิบอิ่มก็สั่นสะเทือนไปตามแรงหัวเราะของเธอด้วย

ฉู่เฉิน ฉู่เฉินอดจิตใจฟุ้งซ่านไม่ได้

เมื่อคืน เขารู้สึกได้ว่าเธอใหญ่มาก

“คุณจะสู่ขอฉัน? คุณจะเอาอะไรมาสู่ขอฉัน? รู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร?” กู้รั่วเสวี่ยเชิดคางเล็กน้อย ถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ เธอเริ่มรู้สึกว่าฉู่เฉินน่ารัก

เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่กล้าบอกว่าจะสู่ขอเธอ

“ถึงตอนนี้ผมจะไม่มีเงินหรืออำนาจ แต่ผมเชื่อว่าสักวันผมจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน!” ฉู่เฉินพูดด้วยท่าทางจริงจัง

อาศัยสิ่งที่เขาได้รับสืบทอดมาในตอนนี้ การแย่งฉู่ซื่อกรุ๊ปคืนมาเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอยู่ที่ว่าช้าหรือเร็วเท่านั้น!

กระทั่งจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปก้าวไปเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของประเทศก็ยังได้!

อีกอย่าง ฉู่เฉินในตอนนี้มีทั้งทักษะการแพทย์ วรยุทธ์โบราณ หยินหยาง ฮวงจุ้ย วิชาลึกลับ และหลอมยาสร้างอาวุธ…

เขาไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น!

“งั้นเหรอ?”

กู้รั่วเสวี่ยยิ้มหวาน พูดขึ้นว่า “อย่างนั้นก็ได้ ฉันจะรอวันที่คุณประสบความสำเร็จแล้วมาสู่ขอฉันนะ แต่ตอนนี้น่ะ คุณต้องไปกับฉันก่อน”

“หา ไปไหน? ไปทำอะไร?” ฉู่เฉินถามอย่างสงสัย

“ไปช่วยคนกับฉัน!” กู้รั่วเสวี่ยบอก ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ เธอรีบลากฉู่เฉินขึ้นรถทันที

ฉู่เฉินที่นั่งอยู่ในรถอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ กู้รั่วเสวี่ยคนนี้รวยจริงๆ

นั่งรถโรลส์รอยซ์รุ่นลิมิเต็ดเสียด้วย!

“คุณกู้ พวกเรากำลังไปไหนกันเหรอ?” ฉู่เฉินถาม

กู้รั่วเสวี่ยตอบเขา “เมื่อคืนคุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าคุณมีวิชาแพทย์?”

“อ้อ ใช่ ก็มีความรู้อยู่บ้างจริงๆ” ฉู่เฉินพยักหน้า เขาไม่ได้โกหก

เขามีความรู้ด้านการแพทย์อยู่บ้างจริงๆ

“แสดงว่าเมื่อคืนคุณก็เป็นคนรักษาโรคกายเย็นให้ฉัน?” กู้รั่วเสวี่ยกะพริบดวงตากลมสวยปริบๆ จ้องหน้าฉู่เฉิน

ฉู่เฉินตะลึง โรคกายเย็น?

ชั่วพริบตา ในสมองก็มีข้อมูลและวิธีการรักษาที่เกี่ยวกับโรคกายเย็นผุดขึ้นมา

โรคกายเย็น เป็นโรคที่รักษาไม่หาย ในคืนจันทร์เต็มดวงร่างกายจะเย็นไปทั้งตัว ราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง เจ็บปวดทรมานจนแทบอยากตาย

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยจะอยู่ได้ไม่เกินอายุยี่สิบสี่ปี!

วิธีการรักษาคือ บำเพ็ญคู่ เพื่อดูดกลืนความเย็นในร่างกายของผู้ป่วย

เฮือก!

ฉู่เฉินตะลึงพรึงเพริด

บำเพ็ญคู่?

เชี่ย!

แสดงว่าเมื่อคืนที่เขาร่วมเร่าร้อนไปกับกู้รั่วเสวี่ยทั้งคืน กลับกลายเป็นว่าช่วยรักษาโรคกายเย็นให้เธอโดยไม่ได้ตั้งใจ?

“เป็นอะไรไป คุณคิดอะไรอยู่?” กู้รั่วเสวี่ยเห็นฉู่เฉินเหม่อลอย สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จึงถามอย่างสงสัย

ฉู่เฉินหัวเราะแห้งๆ จากนั้นก็พูดอย่างมีหลักการว่า “ถูกต้องแล้ว เมื่อคืนผมช่วยรักษาโรคกายเย็นให้คุณจริงๆ นั่นแหละ”

กู้รั่วเสวี่ยถอนหายใจ ก่อนบอกว่า “เป็นอย่างที่คิดจริงๆ งั้นก็ง่ายแล้ว”

“แต่คุณหนูกู้ โรคกายเย็นนั้น…” ฉู่เฉินหมายจะบอกเธอว่าโรคกายเย็นของเธอยังไม่หายสมบูรณ์ ยังต้องรักษาอย่างสม่ำเสมออีกหลายครั้ง ถึงจะหายขาดได้

และการรักษาอย่างสม่ำเสมอนั้น ตามบันทึกของตำราแพทย์ก็หมายถึง ต้องบำเพ็ญคู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับสมดุลของหยินหยาง

พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ ต้องร่วมเตียงกับกู้รั่วเสวี่ย เพื่อช่วยทะลวงจุดลมปราณและเส้นชีพจรของเธอผ่านอารมณ์อันเร่าร้อนของชายหญิง ใช้ปราณหยางบริสุทธิ์ของผู้ชาย ขับไอเย็นในร่างกายของเธอออกมา

หากไม่รีบรักษา เธอจะอยู่ได้ไม่เกินอายุยี่สิบสี่ปี!

แต่กู้รั่วเสวี่ยกลับตัดบทเขาทันที “ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้ฉันพาคุณมาเพื่อรักษาแม่ของฉัน”

“คุณฉู่ ฉันขอร้องคุณ ไม่ว่ายังไงก็ต้องรักษาแม่ฉันให้ได้นะคะ!”

“ขอแค่ช่วยแม่ฉันได้ คุณจะให้ฉันทำอะไรให้ก็ได้ทั้งนั้น”

กู้รั่วเสวี่ยพูดด้วยสีหน้าจริงจังสุดขีด แววตาซื่อตรง

เหมือนกลัวฉู่เฉินจะปฏิเสธ เธอรีบกระซิบเสริมอีกหนึ่งประโยคด้วยใบหน้าแดงผ่าว “ถึงแม้จะให้ฉันมีค่ำคืนสุดบ้าคลั่งร่วมกับคุณอีกสักกี่คืน ฉันก็ยอม…”

เฮือก!

ฉู่เฉินอึ้ง เขาเบิกตากว้างจ้องกู้รั่วเสวี่ยผู้สูงส่งจนมิอาจเอื้อมที่นั่งอยู่ตรงหน้า

เธอหมายความว่ายังไง?

มีค่ำคืนสุดบ้าคลั่งอีกสักกี่คืน?

ก็คือเป็นคู่นอนงั้นเหรอ…

ตอนนี้ กู้รั่วเสวี่ยเองก็รู้สึกอับอายและประหม่ามาก บอกตามตรง เธอไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าคำพูดพวกนี้จะออกมาจากปากของเธอ

ขอแค่ช่วยคุณแม่ได้ ไม่ว่าอะไรเธอก็ทำได้ทั้งนั้น

แต่ถ้าพูดจากอีกมุมหนึ่ง ประสบการณ์สุดคลั่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ทำให้กู้รั่วเสวี่ยห้ามใจไม่อยู่เหมือนกัน ถึงขนาดที่เธออยากจะลิ้มลองอีกนับครั้งไม่ถ้วน

ฉู่เฉินที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มองกู้รั่วเสวี่ยที่หน้าตาน่าสงสาร เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับพยักหน้าบอกว่า “ได้! ผมจะพยายามเต็มที่”

เขามีวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์อยู่ในมือ ทั้งสามารถรักษาโรคกายเย็นให้เธอได้ และสามารถยกระดับให้ตัวเองด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องปฏิเสธอีก?

กู้รั่วเสวี่ยดีอกดีใจ รีบสั่งให้คนขับรถมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ทันที

ขณะเดียวกัน

หลิ่วหรูเยียนเพิ่งมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลกู้ที่อยู่ในเมือง ในมือถือกล่องผ้าไหมที่ใส่ยาอายุวัฒนะไว้ข้างใน ด้านหลังของเธอคือ ‘ซุนเซี่ยวเหริน’ หมอเทวดาของเจียงจงที่เธอลงทุนควักเงินก้อนใหญ่เพื่อเชิญมา

“หมอเทวดาซุน อีกเดี๋ยวคุณต้องทำให้คุณหญิงกู้กินยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ให้ได้นะคะ!” หลิ่วหรูเยียนกำชับ

ซุนเซี่ยวเหรินที่ผมหงอกทั้งหัวแบกกล่องยาไว้ข้างหลัง ยกมือลูบหนวดเครา ตอบว่า “ประธานหลิ่ว คุณวางใจเถอะ ยาอายุวัฒนะนี้ไม่ธรรมดา มันช่วยเรื่องโรคของคุณหญิงกู้ได้เป็นอย่างดี ผมจะทำให้เธอกินมันให้ได้”

หลิ่วหรูเยียนยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับซุนเซี่ยวเหริน

พ่อบ้านออกมารับแขก

“ประธานหลิ่ว เชิญคุณไปพักที่ห้องรับรองด้านข้างสักครู่ ผมจะพาหมอเทวดาซุนไปดูอาการคุณผู้หญิงก่อน” พ่อบ้านบอกกล่าวอย่างสุภาพ

หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า ไม่เหลือคราบความหยิ่งยโสดังเดิม เธอเดินไปที่ห้องรับรองด้านข้างอย่างว่าง่าย

อย่างไรเสีย ที่นี่ก็เป็นคฤหาสน์ตระกูลกู้

ตระกูลกู้ ตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศเชียวนะ

แค่ชื่อเสียงด้านการแพทย์ของตระกูลกู้ พูดคำเดียวก็สามารถทำลายรากฐานที่สองแม่ลูกตระกูลหลิ่วร่วมกันสร้างอย่างยากลำบากได้แล้ว

ที่วันนี้เธอเอายามาเสนอให้ ก็เพื่อที่จะประกาศการวิจัยยาตัวใหม่ของเธอที่ใช้เวลาถึงสามปีในงานชุมนุมวงการแพทย์ของตระกูลกู้วันพรุ่งนี้ และเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลกู้ด้วย

ขอแค่วันนี้คุณหญิงกู้กินยาอายุวัฒนะนี้ และอาการป่วยดีขึ้น งั้นเธอหลิ่วหรูเยียนจะต้องก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการแพทย์ กลายเป็นราชินีที่ทุกคนใฝ่ฝันอย่างแน่นอน!

หลังจากที่หมอเทวดาซุนเข้าไปได้ไม่นาน กู้รั่วเสวี่ยก็พาฉู่เฉินกลับมาอย่างเร่งรีบ เธอพาเขาไปทางประตูหลัง และเข้าไปที่ห้องนอนแม่ของเธอโดยตรง

ในห้องนอน หญิงสาวผิวขาว ร่างกายผอมเพรียวสมส่วนคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนเตียง เธอสวมชุดนอนบางๆ วับๆ แวมๆ ชวนให้หลงใหลนัก

หญิงสาวอายุราวสามสิบเจ็ดสามสิบแปด กิริยาสง่างาม มีดวงหน้างดงามชนิดล่มเมือง คล้ายกับกู้รั่วเสวี่ยอยู่แปดส่วน

ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา เธอก็คือแม่ของกู้รั่วเสวี่ยนั่นเอง

เป็นหญิงงามหาที่เปรียบไม่ได้ดังคาด บนหน้าและร่างกายของเธอ แทบไม่เห็นร่องรอยของกาลเวลาเลยสักนิด

ในห้องนอน ยังมีชายวัยกลางคนที่หน้าตาเคร่งขรึมแต่ก็ดูออกว่ากำลังประหม่าอยู่อีกคนหนึ่ง และชายชราที่เส้นผมขาวโพลนไปทั้งหัว ใส่เสื้อแขนสั้นคนหนึ่ง กำลังหยิบยาเม็ดหนึ่งออกจากกล่อง และยัดใส่ปากหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง

“ยานั่นกินไม่ได้! ถ้ากิน เธอจะตาย!”

ฉู่เฉินตกใจมาก เขารีบตะโกนออกไป เขาจำยาที่อยู่ในมือชายชราได้ตั้งแต่แวบแรก มันคือยาอายุวัฒนะที่หลิ่วหรูเยียนคิดค้นขึ้นมา!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 8

    สิ้นเสียง สองคนที่อยู่ในห้องนอนหันขวับไปทางฉู่เฉินและกู้รั่วเสวี่ยที่กำลังเดินเข้ามาซุนเซี่ยวเหรินหน้าคล้ำทันที เขาตำหนิอย่างไม่พอใจสุดๆ “เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! พูดจาเหลวไหลอะไรของเธอ! นี่เธอกำลังตั้งคำถามกับทักษะทางการแพทย์ของฉันงั้นรึ หรือว่าสงสัยในตัวยาเม็ดนี้? เธอรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร!”ซุนเซี่ยวเหรินไม่สบอารมณ์อย่างมากเด็กเปรตนี่โผล่มาจากไหน ถึงได้กล้าเข้ามาตะคอกเขาอย่างนี้กินยาอายุวัฒนะในมือเขา แล้วผู้ป่วยจะตายงั้นรึ?เหลวไหลทั้งเพ!ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้เขาศึกษามาหลายวันแล้ว มันคือยาบำรุงชั้นดี!ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสี่เหลี่ยมเย็นชาแข็งกร้าว สายตาเคร่งขรึม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องฉู่เฉินแล้วตวาดเสียงต่ำ “เธอเป็นใคร? ใครให้เธอบุกเข้ามาที่นี่? ไสหัวออกไป! อย่ามาขัดขวางการรักษาของภรรยาฉัน!”“คุณพ่อ เขาชื่อฉู่เฉินค่ะ เป็นหมอที่หนูพากลับมาเอง วิชาแพทย์ของเขาร้ายกาจมาก แม้แต่โรคกายเย็นของหนูเขาก็รักษาได้” กู้รั่วเสวี่ยรีบเข้ามาอธิบายชายวัยกลางคนได้ยินก็ตะลึง “ลูกว่าไงนะ? เขารักษาโรคกายเย็นของลูกได้เหรอ? รั่วเสวี่ย ลูกอย่าโกหกพ่อนะ”กู้เหวินไห่ พ่อของกู้รั่วเสว

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 9

    สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ทั่วทั้งห้องรับรองเงียบสงัดทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก!พวงแก้มของกู้รั่วเสวี่ยแดงเรื่อฉู่เฉินคิดจะให้พ่อของเธอยกเธอให้เขาจริงๆเธอยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยนะกู้เหวินไห่เองก็หน้าดำคร่ำเครียด เขาลังเลอยู่นานมากฉู่เฉินพูดขึ้น “ผู้นำตระกูลกู้ อย่าลังเลเลย คุณเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”“ผมขอบอกคุณชัดๆ ตรงนี้เลยว่า บนโลกนี้ คนที่ช่วยภรรยาคุณได้ มีแค่ผมฉู่เฉินคนเดียวเท่านั้น!”กู้เหวินไห่กัดฟัน เขาไม่ลังเลอีกต่อไป คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุบ ก่อนจะอ้อนวอนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมเลอะเลือน ได้โปรดช่วยชีวิตภรรยาของผมด้วย”“ขอแค่ช่วยภรรยาของผมได้ ผมยอมยกลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนให้คุณ”“คุณพ่อ…” กู้รั่วเสวี่ยพึมพำเรียกพ่อของเธออย่างกระมิดกระเมี้ยนฉู่เฉินวางแก้วชา และยิ้มตอบเล็กน้อย “ได้ เห็นแก่หน้ารั่วเสวี่ย ผมจะช่วยเอง ลุกขึ้นเถอะครับ”กล่าวจบ ฉู่เฉินลุกเดินไปทางห้องนอนกู้เหวินไห่เดินตามไปติดๆกู้รั่วเสวี่ยก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน เธอถามว่า “คุณพ่อ เมื่อกี้คุณพ่อพูดเล่นใช่ไหมคะ?”กู้เหวินไห่ตัดบททันที “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าเขาช่วยแม่ของลูกได้จริง ก็แสดงว่าเจ้าห

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 10

    ด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉู่เฉินออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้ ก็มุ่งไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ครั้นเห็นบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ในสภาพซอมซ่อ บวกกับกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากไม้เน่าลอยมาแตะจมูก ฉู่เฉินอดทอดถอนใจไม่ได้บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็กของฉู่เฉินตั้งแต่ที่พ่อแม่หายตัวไป ฉู่เฉินก็แอบสืบอย่างลับๆ มาตลอด หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่แม่บุญธรรมของเขา หลิ่วชิงเหอ!ในตอนที่ฉู่เฉินตั้งใจจะโจมตีหลิ่วชิงเหอ เขาก็ถูกลอยแพเสียก่อน! จากนั้น เรื่องราวก็เป็นอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาถูกสองแม่ลูกขังไว้ในห้องอาบน้ำของคฤหาสน์ เพียงแวบเดียว เขาก็ถูกทรมานมานานถึงสามปีเต็ม!“หลิ่วชิงเหอ หวังว่าเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันหายตัวไปจะไม่เกี่ยวกับเธอนะ! ถ้าฉันสืบเจอว่าเป็นลูกไม้สกปรกของเธอ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา ในดวงตาตาสุกใสสะท้อนแววเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกฉู่เฉินเก็บกวาดบ้านอย่างง่ายๆ จากนั้นก็ตั้งป้ายวิญญาณสองป้ายไว้ในบ้านให้พ่อแม่ของเขาผ่านมาหลายปีแล้ว พ่อกับแม่อาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ ในฐานะลูกชาย เขาควรกราบไหว้หลังจากคำนับสามครั้ง ฉู่เฉินจัดการทำความสะอา

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 11

    “โอ๊ย! สารเลว! แกปล่อยฉันนะ! แกกล้าทำเรื่องน่าขยะแขยงเช่นนี้กับฉัน ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!” ป้าอู๋ร้องออกมาด้วยความตกใจเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะกล้าลงมือกับเธอเช่นนี้เจ้าคนสารเลว!โครม...หลังจากนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้นมาจากห้อง พร้อมทั้งเสียงร้องขอชีวิตของป้าอู๋“ฉู่เฉิน อย่า ฉันขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”อย่างไรก็ตาม หลังจากขอความเมตตาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นมาเป็นระยะ และในช่วงท้ายของการขอความเมตตาของป้าอู๋ ก็กลายเป็นเสียงครวญครางที่ส่งเสียงดังราวกับอารมณ์เร่าร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ 20 กว่าปี แค่ครู่เดียวก็ปลดปล่อยออกมา!หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเดินออกมาด้วยหน้าระรื่นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “หากไม่ใช่เพราะป้า ผมคงไม่มีโอกาสอย่างนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะปล่อยป้าไปแล้วกัน รีบไสหัวไปซะ!”ภายในห้องป้าอู๋นอนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าถูกฉีกไม่เป็นชิ้นดี ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยว โดยเฉพาะบั้นท้ายที่เธอภาคภูมิใจนั้นเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ!เธอกัดฟันโกรธ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น“ไอ้เดรัจฉาน! แกรังแกฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ป้าอู๋สบถออกมารุนแรง ฝืนร่างกายล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 12

    เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมาฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”ฉู่เฉิน?เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”ฉู่เฉินกวาดสายต

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 13

    “ที่รัก! จัดการมัน รีบจัดการมันสิคะ!”เฉาถิงถิงพูดคะยั้นคะยออยู่ข้างๆ เธอหวังแต่เพียงว่าจ้าวหู่จะบดขยี้ฉู่เฉินและหลิวเฉียงลงไปที่พื้นทันที!จ้าวหู่ทำราวกับไม่ได้ยิน รีบวิ่งไปข้างหน้า โค้งตัวลงไป “คุณคือคุณฉู่ ฉู่เฉินใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้ว พยักหน้าตอบ “ใช่”“แหมๆ คุณฉู่จริงด้วย สวัสดีครับๆ ผมชื่อจ้าวหู่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ ขอโทษที่ไม่ได้มาต้อนรับนะครับๆ”จ้าวหู่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่นับถือและประจบประแจงภาพนี้ทำให้ฉู่เฉินงุนงงเล็กน้อยหลิวเฉียงก็เช่นกันคนที่ตกตะลึงและสับสนที่สุดคือเฉาถิงถิง“ที่รัก คุณทำอะไรเนี่ย? คุณฉู่อะไรกัน? คุณบ้าไปแล้วเหรอ? เขาคือไอ้คนเหลือขอที่ตบตีฉันเมื่อกี้นะคะ! คุณรีบจัดการมันสิ!”เฉาถิงถิงพูดอย่างร้อนรน กระทืบเท้า หน้าอกใหญ่และอวบอิ่ม ก็สั่นขึ้นลงทันที“เพียะ!”เป็นผลให้จ้าวหู่หันหลังกลับมาไปและตบเข้าไปที่หน้าเฉาถิงถิง และดุว่า “อวดดี! ไอ้คนเหลือขอเหรอ? เขาคือคนที่ผมบอกคุณว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่ผู้นำตระกูลกู้ยังต้องเคารพ!”“ฉู่เฉิน คุณฉู่!”“คุณยังไม่รีบมาขอโทษคุณฉู่อีก!”จ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 14

    ฉู่เฉินหัวเราะอย่างนึกสนุกและพูดว่า “ผู้จัดการจ้าวไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?"คิ้วของจ้าวหู่ขมวดมุ่น ฉู่เฉินยังคงพูดต่อว่า “ตอนนี้ผู้จัดการจ้าวอายุสี่สิบแล้วใช่ไหมครับ หลายปีมานี้ที่มีลูกไม่สำเร็จ ไม่เคยสงสัยตัวเองเหรอ?”“หากคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดูได้”“เมื่อถึงเวลานั้น เด็กในท้องใช่หรือไม่ใช่ลูกของคุณ ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจเองนะครับ”จ้าวหู่ได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกัดฟันพูดว่า “ได้! หวังว่าที่คุณฉู่พูดจะถูกต้องนะครับ หากผมไม่ได้มีปัญหาจริงๆ ล่ะก็ คุณฉู่ต้องคิดผลลัพธ์ให้ดีนะครับ!”พูดเสร็จ จ้าวหู่ก็หมุนตัวออกไปจากร้านอาหารเฉาถิงถิงเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ร้อนรนขึ้นมารั้งจ้าวหู่ “ที่รัก ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ ให้พวกเขาไปเถอะค่ะ”จ้าวหู่คิ้วขมวดอีกครั้ง เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฉาถิงถิง ในใจเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา“ไม่ได้ พวกเขาลบหลู่ผมได้ แต่จะมาลบหลู่ลูกของผมจ้าวหู่ไม่ได้!” จ้าวหู่พูดอย่างเย็นชา เดินหันหลังออกไป มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำการตรวจ หลังผลตรวจออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนขั้นสุด!ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต!หลังจากนั้นเขาก

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 15

    ฉู่เฉินนั่งขัดสมาธิ จนถึงช่วงเวลาเย็นของอีกวันหนึ่งฉู่เฉินลืมตาขึ้นมา พรูลมหายใจหยาบแล้วก็กำหมัด รู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง!จากนั้นฉู่เฉินก็ยืนขึ้น เพียงก้าวออกไปก็เคลื่อนตัวไปด้านข้างสองเมตร!เป็นความเร็วที่รวดเร็วมาก!จากนั้นเขาก็ต่อยออกไป และเสียงที่ทะลุผ่านอากาศก็ทำให้ได้ยินเสียงอึกทึกกำแพงที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ภายใต้การโจมตีของหมัด ก็พังทลายเป็นราบกองแข็งแกร่ง!ฉู่เฉินดีอกดีใจ!ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องกังวลว่าจะไม่สามารถโล่นแล่นในเจียงจงได้!หลิ่วชิงเหอ หลิ่วหรูเยียน พวกเธอรอก่อนเถอะ ฉันจะแก้แค้นพวกเธอให้สาสมฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะกลับมาอยู่ในมือของฉู่เฉินอีกครั้งถอนหายใจออกมา ฉู่เฉินรับโทรศัพท์จากกู้รั่วเสวี่ย“หมอเทวดาฉู่ คุณอยู่ที่ไหนคะ?” กู้รั่วเสวี่ยถามด้วยรอยยิ้มฉู่เฉินบอกที่อยู่ของตัวเองไปไม่นานเฟอร์รารี่สีแดงสุดเท่ เสียงมอเตอร์ดังมาจากระยะไกลและหยุดอยู่หน้าบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ประตูรถถูกเปิดออก กู้รั่วเสวี่ยสวมกระโปรงยาวถึงเข่าสีแดงเพลิงและแว่นกันแดด ก้าวลงจากรถด้วยขาเรียวสีขาวแล้วจึงออกมา งดงาม!ท่าทางสง่างามนี่มันระดับเทพธิ

Latest chapter

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1027

    เวลานี้ฉู่เฉินที่ยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ในหอหลิงซวีคล้ายกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ยังคงดูเหมือนเข้าสู่สมาธิอย่างแท้จริง ฉากนี้ทำให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเดือดดาลมากยิ่งขึ้น!“คนแซ่ฉู่ คะ...คุณกล้ารังแกสำนักชิงอวิ๋นของผมแบบนี้ ไม่กลัวว่า...”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นใช้วิชาส่งเสียงต่อว่าฉู่เฉินอย่างเกรี้ยวกราด แต่เพิ่งจะพูดได้ครึ่งเดียว ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ทำตัวเหมือนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “โกรธมากเลยเหรอครับ? อยากอ้อนวอนให้ผมออกไปใช่หรือเปล่า?” ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเอ่ยพลางกัดฟันกรอดว่า “คนแซ่ฉู่ วันนี้ถือว่าคุณโชคดี ผมจะไม่เอาสืบหาเอาความชั่วคราว ตอนนี้คุณไปได้แล้ว”ตอนนี้เขากลัวแล้วจริง ๆคำว่าเปิดศึกของเทพสังหารเมื่อครู่นี้ไม่ใช่การหลอกลวงสำนักชิงอวิ๋นไม่อาจต้านทานการบุกโจมตีของเทพสังหารกับลูกศิษย์สำนักว่านเซียนได้อย่างแน่นอนเพื่อสำนักชิงอวิ๋น และเพื่อตัวเขาเอง ทำได้เพียงพักการล้างแค้นให้คุณชายเซียวเหยาเอาไว้ก่อน “ผมจำได้ว่าเมื่อกี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา ใครบอกผมว่าเข้าง่ายออกยากกันนะ? ใครอยากให้ผมอยู่ที่นี่ตลอดกาล?”

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1026

    ตามกฎของโลกแห่งการหยั่งรู้ สำนักรอบนอกสี่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจทำการเข่นฆ่าที่โลกมนุษย์ธรรมดาได้ตามอำเภอใจ ส่วนยอดฝีมือระดับทารกวิญญาณในเขตศูนย์กลางก็ไม่อาจก้าวเข้ามาในสำนักรอบนอกได้ตามอำเภอใจเช่นเดียวกันแต่เทพสังหารเหมือนกัน แม้ว่าเขาอยู่สำนักว่านเซียน แต่ว่าระดับพลังกลับถูกกดให้อยู่ขั้นสูงสุดของระดับควบแก่นแท้มาโดยตลอดหากเทพสังหารลงมือ ต่อให้เป็นพวกระดับสูงของโลกแห่งการหยั่งรู้ก็ไม่อาจพูดอะไรได้เช่นกันตลอดเวลาที่ผ่านมา สำนักว่านเซียนเองก็เฝ้าติดตามที่อยู่ของหยกโลหิตกิเลน เพียงแต่ว่าที่ผ่านมา ตระกูลฉู่ซ่อนหยกโลหิตกิเลนไว้อย่างลึกลับสุดขีด สำนักว่านเซียนส่งคนไปที่โลกมนุษย์ธรรมดาหลายครั้ง แต่ก็หาหยกโลหิตกิเลนไม่เจอเลยทว่าครั้งนี้ เมื่อข่าวแพร่ออกไปว่าฉู่เฉินผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลฉู่ถูก “เชิญ” ไปที่สำนักชิงอวิ๋นพร้อมกับหยกโลหิตกิเลน สำนักว่านเซียนยังจะทนไหวได้ที่ไหนกัน?ในสายตาของสำนักว่านเซียน สำนักชิงอวิ๋นอะไร วังเทียนเจี้ยนอะไร ก็เป็นเพียงตัวตนที่เหมือนกับมดปลวกเท่านั้นหากหยกโลหิตกิเลนตกอยู่ในมือมดปลวกพวกนี้ก็เท่ากับปล่อยให้ของดี ๆ ถูกทำลายไม่ใช่หรือไง? ด้วยเ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1025

    ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงศิษย์สำนักชิงอวิ๋นที่กำลังคืบคลานเข้ามาจากด้านหลัง ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นพลางเอ่ยว่า “ทำไมครับ พวกคุณสำนักชิงอวิ๋นทำได้แค่เรื่องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้งั้นเหรอ?”ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นได้ยินดังนั้นก็หัวเราะลั่นแล้วกล่าวว่า “ด้วยสภาพของคุณตอนนี้ คิดว่าพวกเราสำนักชิงอวิ๋นยังต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่อีกเหรอ?”“ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าคุณเอาความกล้ามาจากไหน ถึงกล้ามาเพียงลำพัง มาตามนัดงั้นเหรอ คุณคิดว่าสำนักชิงอวิ๋นของผมเป็นที่แบบไหนกัน? คุณอยากมาก็มา อยากไปก็ไป?”“อย่าว่าแต่คุณเลย ไม่ว่าเจ้าสำนักที่อยู่รอบนอกของภูเขาสือว่านคนไหน ก็ไม่กล้าทำตัวดูหมิ่นสำนักชิงอวิ๋นของผมอย่างคุณหรอก!”สิ้นเสียง สีหน้าของธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็ยิ่งเย็นเยือกลง เห็นชัดว่ารู้สึกมั่นใจว่าชัยชนะอยู่ในกำมือแล้ว“คุณแน่ใจเหรอ? ต่อให้สำนักชิงอวิ๋นจะทรงพลัง จะสามารถรับมือได้กับทั้งโลกแห่งการหยั่งรู้ได้จริงเหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเบา แล้วเอ่ยออกมาอย่างเฉยเมย “อย่าว่าแต่สำนักชิงอวิ๋นเล็กๆ ของคุณเลย แม้แต่คนของวังว่านเจี้ยนจะร่วมมือกับคุณด้วย ผมก็ไม่เคยสนใจพวกคุณเลย”“อีกเดี๋ยว คุณก็จะรู้ถึงความทรงพลัง

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1024

    ฉู่เฉินยิ้มบาง กล่าวว่า “เชิญเจ้าสำนักก่อนเลยครับ”ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นยิ้มอย่างสงบ ก้าวเข้าไปในห้องด้านข้างทันที แต่ในขณะที่เขาก้าวข้ามธรณีประตูนั้นเอง ฉู่เฉินก็เห็นชัดเจนว่าอากาศรอบข้างพลันเกิดระลอกคลื่นเหมือนคลื่นน้ำฉู่เฉินเอาสองมือไพล่หลัง เดินตามหลังธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นด้วยฝีเท้าที่มั่นคง และก้าวข้ามธรณีประตูไปเหมือนกันตูม!ฉู่เฉินรู้สึกเพียงมีเสียงดังขึ้นในหัว จากนั้นพลังวิญญาณทั่วร่างก็ราวกับถูกผนึกไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อยเมื่อเห็นฉู่เฉินติดกับแล้ว เหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋นจำนวนไม่น้อยก็รีบกดด้ามกระบี่ไว้ มองไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยเจตนาฆ่าพวกเขาอดทนมาตลอดทางแล้ว ในที่สุดก็หลอกฉู่เฉินเข้ามาในหอหลิงซวีได้สำเร็จ หลายคนอดใจไม่ไหวอยากจะชักกระบี่ออกมาแล่ฉู่เฉินให้เป็นชิ้นๆ เสียเดี๋ยวนี้หอหลิงซวีเป็นสถานที่ลึกลับที่ปรมาจารย์หลายรุ่นก่อนของสำนักชิงอวิ๋นทิ้งไว้ สถานที่แห่งนี้ถูกปิดผนึกพลังด้วยยันต์อันทรงพลัง แม้แต่ผู้มีพลังระดับควบแก่นแท้ ถ้าเข้ามาในหอหลิงซวีก็ไม่ต่างจากคนธรรมดานับประสาอะไรกับฉู่เฉิน?สามารถกล่าวได้ว่าเกือบหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ห

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1023

    ฉู่เฉินมองไปยังธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มจางว่า “หากได้นอนหลับยาวอยู่ที่นี่ ชีวิตนี้จะต้องการสิ่งใดอีก”ขณะกล่าว ฉู่เฉินก็มองไปยังภูเขาเขียวขจีและน้ำใสสะอาดโดยรอบ ต้องยอมรับว่าสภาพแวดล้อมของสำนักชิงอวิ๋นนั้นดีจริงๆ แม้กระทั่งในอากาศยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่บริสุทธิ์แบบนี้ ในโลกมนุษย์แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วโดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่หน้าประตูสำนักที่สูงเสียดฟ้า แค่ดูต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ที่หลายคนก็โอบไม่รอบ อายุต้นไม้อย่างน้อยก็หนึ่งร้อยปีขึ้นแล้ว“คุณฉู่ช่างมองโลกในแง่ดีเสียจริง”ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋เดินไปตามทางเดินหินสู่ยอดเขากับฉู่เฉิน พลางกล่าวเยาะเย้ยไปด้วย“ที่นี่มีทั้งภูเขาเขียวขจีและน้ำใสสะอาด แล้วมีอะไรที่ต้องคิดมากอีกล่ะครับ?”ฉู่เฉินเดินทอดน่องไปพลาง มองไปรอบๆ ไปพลาง ราวกับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นไร้ตัวตนภาพนี้ทำให้เหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋นที่เห็นต่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟฉู่เฉินคนนี้มันไม่ได้เสียสติธรรมดาแล้ว ทำตัวราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นยังไงอย่างนั้นแม้แต่ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเอง เมื่อเห็นท่าทีโอหังของฉ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1022

    ในบ่ายวันนั้น ฉู่เฉินก็ถูกพาไปถึงหน้าประตูของสำนักชิงอวิ๋นสำนักชิงอวิ๋นได้ก่อตั้งมานานกว่าร้อยปีแล้ว และในสายตาของผู้บำเพ็ญพรตธรรมดา เรียกได้ว่าเป็นการดำรงอยู่ราวกับทวยเทพในช่วงเกือบหนึ่งร้อยปีนี้ สำนักชิงอวิ๋นมีผู้มีความสามารถมากมายปรากฏตัวขึ้น และยังเคยมีผู้มีพลังระดับทารกวิญญาณอีกด้วยเหตุนี้ยิ่งทำให้สำนักชิงอวิ๋น ดูมีความลึกลับมากขึ้นไปอีกและในช่วงที่ฉู่เฉินเดินมาถึงตีนเขา ทั้งสำนักชิงอวิ๋น ก็ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ศิษย์สำนักชิงอวิ๋นจำนวนไม่น้อยต่างถือกระบี่จ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธ“คนแซ่ฉู่กล้าจริงๆ ““ครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะต้องล้างแค้นให้ศิษย์พี่ใหญ่ให้ได้”เมื่อเผชิญหน้ากับจิตสังหารของเหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋น ฉู่เฉินกลับไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย เงยหน้ามองไปยังยอดเขาหลักด้านหลังสำนักชิงอวิ๋น“เจ้าหนุ่มนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ “บรรดาผู้เฒ่าในสำนักชิงอวิ๋น ยืนอยู่กลางเชิงเขา ใช้สายตาพิจารณามองไปที่ฉู่เฉินอย่าพูดว่าฉู่เฉินเป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระจากโลกมนุษย์ แม้แต่เจ้าแห่งขุนเขาหรือเจ้าสำนักของภูเขาสือว่าน เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่น ก็ยากที่จะรักษาความสงบได้เช่นเดียวกับฉู่เฉิ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1021

    “เดี๋ยวก่อน!”หลิงเสวี่ยเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังขึ้นจากด้านหลัง“ทำไม คุณกลัวแล้วเหรอ?”หลิงเสวี่ยค่อยๆ หันกลับมา มองสำรวจฉู่เฉินด้วยสีหน้าดูถูกฉู่เฉินกลอกตาใส่หลิงเสวี่ย พร้อมกล่าวเสียงเย็นว่า “คุณเอาแต่บอกให้ผมไปที่สำนักชิงอวิ๋น แล้วไม่คิดจะนำทางไปหน่อยเหรอ? ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าประตูภูเขาของสำนักชิงอวิ๋นเปิดไปทางไหน?”ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา หลิงเสวี่ยก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยท่าทางของฉู่เฉินดูมั่นใจมาก หรือว่าฉู่เฉินจะมีแผนสำรองอยู่?แต่สำนักชิงอวิ๋นก็ถือเป็นสำนักใหญ่ อีกทั้งท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นยังเป็นยอดฝีมือระดับควบแก่นแท้ขั้นที่สอง ต่อให้ฉู่เฉินเก่งกล้าขนาดไหน ก็คงยากที่จะมีชีวิตรอดออกมาจากสำนักชิงอวิ๋น?ใครให้ความกล้ากับเขา ถึงได้ทำตัวมั่นอกมั่นใจขนาดนี้?ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลิงเสวี่ยจึงยิ้มบางๆ กล่าวว่า “พรุ่งนี้เช้า ฉันจะส่งคนไปรับคุณ”กล่าวจบ หลิงเสวี่ยก็หันหลังเดินจากไป ฉู่เฉินมองแผ่นหลังอันเย้ายวนของหลิงเสวี่ย ก่อนเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเมื่อได้ยินว่าฉู่เฉินกำลังจะไปที่สำนักชิงอวิ๋น ในขณะนั้น พี่น้องตระกูลต้วนและอินซู่ซู่น

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1020

    ซี้ดๆ!ผีดิบเลือดคลั่งระดับสูงสุด?!แม้แต่ซ่งหนิงซวงยังลอบตกตะลึงในใจเมื่อเห็นเจ้าทึ่มเดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร ซ่งหนิงซวงก็หันมองไปทางห้องรับแขกของฉู่เฉินด้วยสายตาขุ่นเคือง จากนั้นเดินออกจากวิลล่าเฟิ่งหมิงไปด้วยความโมโหจนกระทั่งซ่งหนิงซวงเดินไปไกล อวี้ลู่ค่อยๆ เดินออกมาจากหลังฉากกั้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะกล่าวกับฉู่เฉินว่า “ฉู่เฉิน เจ้าไม่ควรปฏิเสธข้อเสนอของนางอย่างเด็ดขาดเช่นนั้น”“ยามนี้ข้าเองพลังไม่มั่นคง ไม่อาจช่วยอะไรเจ้าได้เลย ถ้าสองสำนักใหญ่คิดเล่นงานเจ้าจริงๆ เกรงว่าเจ้าคงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้”ได้ยินดังนั้น ฉู่เฉินกลับหัวเราะเสียงเบา กล่าวว่า “เป็นผู้ชายสูงเจ็ดฟุตแท้ๆ ยังต้องให้ผู้หญิงมาปกป้องอีกเหรอ? ดูถูกกันอยู่หรือไง?”อะไรนะ?พอได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาคู่สวยของอวี้ลู่ก็หรี่ลงเล็กน้อย ใบหน้าเล็กซีดขาวและกล่าวว่า “เจ้าอย่ามาไม่รู้จักดีชั่วนะ ข้า... ข้าก็หวังดีต่อเจ้า!”ฉู่เฉินกลอกตามองอวี้ลู่ ก่อนจะถ่มน้ำลายกล่าวว่า “เพื่อผมงั้นเหรอ?”“ถ้าหวังดีกับผมจริง ก็ไม่ควรยุให้ผมไปล้างเท้าให้พวกยายแก่จากสำนักจื่อเซียวนั่นสิ!”แม่ง!อวี้ลู่เกลียดจนกัดฟ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1019

    อีกด้านหนึ่งในสำนักเทียนเยว่ ตอนนี้บรรยากาศตึงเครียดอย่างถึงที่สุดแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าข่าวนี้แพร่กระจายมาจากไหน แต่ชัดเจนว่าเป็นการยุยงให้แตกแยกกัน“นี่มันชัดเจนว่าเป็นการใส่ร้ายสำนักเทียนเยว่ของเรา!”ไป๋เหมยพูดโกรธจนแก้มแดงก่ำ ลูกตาแทบจะถลนออกมาขณะนี้ชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปีคนหนึ่งนั่งอยู่กลางห้องโถงใหญ่ สวมชุดคลุมสีขาว ใบหน้าเคร่งขรึมราวกับน้ำนิ่งและสง่างามอย่างหาที่เปรียบมิได้ สีหน้าก็ดูไม่สู้ดีเช่นกันคนคนนี้คือเจ้าสำนักเทียนเยว่ หลินเทียนชิงเมื่อได้ยินข่าวนี้ หลินเทียนชิงจึงได้รวบรวมเหล่าผู้อาวุโสหลายท่านของสำนักเทียนเยว่และเหล่าศิษย์ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดนับสิบคนมาหารือที่ห้องโถงใหญ่เมื่อเห็นหลินเทียนชิงมีสีหน้าไม่น่าดูนัก ไป๋เหมยจึงลุกขึ้นก่อน เดินไปยังผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในห้องโถงใหญ่และกำหมัดคารวะ “เจ้าสำนัก ฉันจะไปชี้แจงกับสำนักว่านเจี้ยนและสำนักชิงอวิ๋นให้ชัดเจนค่ะ”หลินเทียนชิงส่ายศีรษะและกล่าวว่า “พูดมากเกินไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เพียงจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง ไม่มีความจำเป็นต้องเสียแรงเปล่า”กล่าวถึงตรงนี้ หลินเทียนชิงหันไปมองทุกคนรอบตัวแล้วกล่าวว่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status