Share

บทที่ 7

Author: กระจอก
หวังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ เห็นกู้รั่วเสวี่ยที่เดินเข้าก็รีบโค้งตัวอย่างสุภาพนอบน้อม “คะ คุณหนูกู้ มาได้ยังไงคะ?”

“เพียะ!”

กู้รั่วเสวี่ยก้าวเข้ามาสะบัดฝ่ามือใส่แก้มของหวังฮุ่ย พูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมพูดจาอย่างงั้นกับคุณฉู่! ขอโทษเขาซะ!”

“ขอโทษ?” หวังฮุ่ยมึนงง เธอยกมือกุมแก้มที่รู้สึกแสบร้อน ก่อนจะอธิบายว่า “คุณหนูกู้ ไอ้นี่เป็นแค่คุณชายตกอับไร้ที่ไป เขามาซื้อสมุนไพรทั้งที่ไม่มีเงิน แถมยังบอกว่าจะซื้อเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี ฉันก็แค่…”

“เพียะ!”

กู้รั่วเสวี่ยยกฝ่ามือขาวๆ สะบัดออกไปอีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงเย็นอีกครั้ง “ฉันบอกว่าให้ขอโทษซะ!”

คราวนี้หวังฮุ่ยตกใจแล้ว

กู้รั่วเสวี่ย คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลกู้ เพิ่งมาเติบโตในเจียงจงสองปีที่ผ่านมานี้เอง

จินจือหลินเป็นของกู้รั่วเสวี่ยทั้งหมด

หากพูดถึงตระกูลกู้ในจิงตู ก็นับว่าเป็นตระกูลที่ใหญ่สุดๆ!

พวกเขามีอุตสาหกรรมที่หลากหลาย มีทั้งด้านสมุนไพร ด้านศึกษาวิจัยทางการแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมด้านความบันเทิงก็ด้วย…

อุตสาหกรรมแต่ละด้านล้วนนับว่าอยู่แนวหน้าของประเทศทั้งนั้น

ได้ยินมาว่า รวยเทียบเท่าประเทศหนึ่งเลยทีเดียว!

“ขะ ขอโทษ…” หวังฮุ่ยก้มหน้างุด หันไปขอโทษฉู่เฉินเสียงเบา

ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

กู้รั่วเสวี่ยปั้นหน้าเย็นชา ก่อนจะหันไปพูดกับหวังฮุ่ยว่า “ตอนนี้ คุณออกไปจากจินจือหลินได้แล้ว”

“หา? ไม่นะ คุณหนูกู้ ฉันผิดไปแล้วค่ะ ต่อไปฉันไม่กล้า…” หวังฮุ่ยรีบอ้อนวอนทั้งน้ำตา

ต้องบอกก่อนว่า เธอลงทุนลงแรงไปมหาศาลกว่าจะได้งานที่จินจือหลิน เธอต้องนอนกับผู้จัดการใหญ่ของที่นี่ถึงสามคืน กว่าจะได้งานนี้มา

แม้แต่เมื่อกี้ เธอก็กำลังร่ายเพลงรักกับผู้จัดการใหญ่อยู่หลังร้านด้วยซ้ำ

เพราะงานที่จินจือหลินแห่งนี้ ให้เงินเดือนสูงถึงห้าหมื่นเชียวนะ!

ในเจียงจง เงินเดือนจำนวนนี้นับว่าเป็นระดับสูงสุดของเหล่าพนักงานออฟฟิศแล้วล่ะ

“ไสหัวไป! ถ้ายังไม่ไปอีก เรื่องจะไม่จบแค่โดนไล่ออก” กู้รั่วเสวี่ยเอ่ยเสียงเย็น

หวังฮุ่ยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก่อนจะถลึงตามองฉู่เฉินอย่างคับแค้น จากนั้นก็หมุนตัวจากไป

ฉู่เฉินที่ดูเหตุการณ์อยู่รู้สึกแปลกใจ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดหญิงสาวตรงหน้าถึงมาช่วยเขา

คุณหนูกู้?

คุ้นหูอยู่นะ

พอมองให้ชัด คุณหนูกู้คนนี้นับว่าหน้าตางดงามชนิดล่มเมืองได้ทีเดียว เธอใส่กระโปรงสั้นลายดอกเล็กๆ สีขาว ในความบริสุทธิ์มีความงามอันเย่อหยิ่งปะปนอยู่

ผิวที่ขาวเนียนจนแทบโปร่งแสง เล่นแสงแวววาวราวกับหยกขาว ยังมีเอวคอดเล็กที่มีขนาดโอบมือเดียว ประกอบกับเรียวขายาวขาวดุจหยก และเท้านุ่มๆ อมชมพูคู่นั้นที่สวมใส่รองเท้าส้นสูงคริสตัล ช่างชวนให้ผู้ชายเพ้อฝันเสียจริง

รูปลักษณ์นางฟ้าในฝันของเหล่าผู้ชายชัดๆ

“ทำไม จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?” กู้รั่วเสวี่ยเห็นฉู่เฉินจ้องเธอ จึงยิ้มน้อยๆ พลางถาม

ฉู่เฉินสายตางุนงง เขาถามว่า “เรารู้จักกันเหรอ?”

เพิ่งพูดจบ ฉู่เฉินที่มองกู้รั่วเสวี่ยอยู่ก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้!

เดี๋ยวก่อน เธอคือผู้หญิงเมื่อคืนที่ทำเรื่องบ้าสุดขีดไปกับเขาทั้งคืนนี่!

ชั่วพริบตา ฉู่เฉินตะลึงตาค้าง

ในสมองของเขามีภาพหวือหวาในโรงแรมเล็กๆ เมื่อคืนผุดขึ้น

ในความจำ เมื่อคืนเธอบ้าคลั่งมาก เหมือนแมวป่าเล็กๆ ตัวหนึ่ง ที่เป็นฝ่ายรุกเต็มตัว ทำให้ฉู่เฉินไม่อาจต้านทานความปรารถนาได้

มาเจอวันนี้ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคุณหนูผู้สูงส่งขนาดนี้ ราวกับเป็นคนละคนจริงๆ

ไม่ใช่หรอกมั้ง อีกฝ่ายมาหาถึงที่แบบนี้…

ฉู่เฉินเริ่มกลัวขึ้นมา

อย่างไรเสีย เรื่องวันไนท์สแตนก็เป็นครั้งแรกของเขาเหมือนกัน

“นึกออกแล้วเหรอ?” กู้รั่วเสวี่ยยิ้มกริ่ม จ้องฉู่เฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าเธอเองก็นึกถึงภาพที่เธอกับเขานัวเนียกันทั้งคืน

พอนึกถึงภาพเร้าอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แก้มของกู้รั่วเสวี่ยค่อยๆ ร้อนผ่าว

ครั้งแรกของเธอ ถูกเขาเอาไปเสียแล้ว

แต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อกี้เขากลับจำเธอไม่ได้

เป็นไอ้สารเลวน่าชังจริงๆ!

ฉู่เฉินเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนบอกว่า “คือว่า คุณหนูกู้ เมื่อคืนต้องขอโทษด้วย แต่คุณวางใจได้ ผมจะรับผิดชอบคุณแน่นอน”

“คุณคิดจะรับผิดชอบยังไง?” กู้รั่วเสวี่ยแสร้งถามอย่างเย็นชา

ฉู่เฉินเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบว่า “ผมจะสู่ขอคุณ!”

พรืด!

กู้รั่วเสวี่ยลั่นเสียงหัวเราะ ดวงตาดอกท้อน่ามองยิ่งนัก แม้แต่ทรวงอกเอิบอิ่มก็สั่นสะเทือนไปตามแรงหัวเราะของเธอด้วย

ฉู่เฉิน ฉู่เฉินอดจิตใจฟุ้งซ่านไม่ได้

เมื่อคืน เขารู้สึกได้ว่าเธอใหญ่มาก

“คุณจะสู่ขอฉัน? คุณจะเอาอะไรมาสู่ขอฉัน? รู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร?” กู้รั่วเสวี่ยเชิดคางเล็กน้อย ถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ เธอเริ่มรู้สึกว่าฉู่เฉินน่ารัก

เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่กล้าบอกว่าจะสู่ขอเธอ

“ถึงตอนนี้ผมจะไม่มีเงินหรืออำนาจ แต่ผมเชื่อว่าสักวันผมจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน!” ฉู่เฉินพูดด้วยท่าทางจริงจัง

อาศัยสิ่งที่เขาได้รับสืบทอดมาในตอนนี้ การแย่งฉู่ซื่อกรุ๊ปคืนมาเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอยู่ที่ว่าช้าหรือเร็วเท่านั้น!

กระทั่งจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปก้าวไปเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของประเทศก็ยังได้!

อีกอย่าง ฉู่เฉินในตอนนี้มีทั้งทักษะการแพทย์ วรยุทธ์โบราณ หยินหยาง ฮวงจุ้ย วิชาลึกลับ และหลอมยาสร้างอาวุธ…

เขาไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น!

“งั้นเหรอ?”

กู้รั่วเสวี่ยยิ้มหวาน พูดขึ้นว่า “อย่างนั้นก็ได้ ฉันจะรอวันที่คุณประสบความสำเร็จแล้วมาสู่ขอฉันนะ แต่ตอนนี้น่ะ คุณต้องไปกับฉันก่อน”

“หา ไปไหน? ไปทำอะไร?” ฉู่เฉินถามอย่างสงสัย

“ไปช่วยคนกับฉัน!” กู้รั่วเสวี่ยบอก ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ เธอรีบลากฉู่เฉินขึ้นรถทันที

ฉู่เฉินที่นั่งอยู่ในรถอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ กู้รั่วเสวี่ยคนนี้รวยจริงๆ

นั่งรถโรลส์รอยซ์รุ่นลิมิเต็ดเสียด้วย!

“คุณกู้ พวกเรากำลังไปไหนกันเหรอ?” ฉู่เฉินถาม

กู้รั่วเสวี่ยตอบเขา “เมื่อคืนคุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าคุณมีวิชาแพทย์?”

“อ้อ ใช่ ก็มีความรู้อยู่บ้างจริงๆ” ฉู่เฉินพยักหน้า เขาไม่ได้โกหก

เขามีความรู้ด้านการแพทย์อยู่บ้างจริงๆ

“แสดงว่าเมื่อคืนคุณก็เป็นคนรักษาโรคกายเย็นให้ฉัน?” กู้รั่วเสวี่ยกะพริบดวงตากลมสวยปริบๆ จ้องหน้าฉู่เฉิน

ฉู่เฉินตะลึง โรคกายเย็น?

ชั่วพริบตา ในสมองก็มีข้อมูลและวิธีการรักษาที่เกี่ยวกับโรคกายเย็นผุดขึ้นมา

โรคกายเย็น เป็นโรคที่รักษาไม่หาย ในคืนจันทร์เต็มดวงร่างกายจะเย็นไปทั้งตัว ราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง เจ็บปวดทรมานจนแทบอยากตาย

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยจะอยู่ได้ไม่เกินอายุยี่สิบสี่ปี!

วิธีการรักษาคือ บำเพ็ญคู่ เพื่อดูดกลืนความเย็นในร่างกายของผู้ป่วย

เฮือก!

ฉู่เฉินตะลึงพรึงเพริด

บำเพ็ญคู่?

เชี่ย!

แสดงว่าเมื่อคืนที่เขาร่วมเร่าร้อนไปกับกู้รั่วเสวี่ยทั้งคืน กลับกลายเป็นว่าช่วยรักษาโรคกายเย็นให้เธอโดยไม่ได้ตั้งใจ?

“เป็นอะไรไป คุณคิดอะไรอยู่?” กู้รั่วเสวี่ยเห็นฉู่เฉินเหม่อลอย สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จึงถามอย่างสงสัย

ฉู่เฉินหัวเราะแห้งๆ จากนั้นก็พูดอย่างมีหลักการว่า “ถูกต้องแล้ว เมื่อคืนผมช่วยรักษาโรคกายเย็นให้คุณจริงๆ นั่นแหละ”

กู้รั่วเสวี่ยถอนหายใจ ก่อนบอกว่า “เป็นอย่างที่คิดจริงๆ งั้นก็ง่ายแล้ว”

“แต่คุณหนูกู้ โรคกายเย็นนั้น…” ฉู่เฉินหมายจะบอกเธอว่าโรคกายเย็นของเธอยังไม่หายสมบูรณ์ ยังต้องรักษาอย่างสม่ำเสมออีกหลายครั้ง ถึงจะหายขาดได้

และการรักษาอย่างสม่ำเสมอนั้น ตามบันทึกของตำราแพทย์ก็หมายถึง ต้องบำเพ็ญคู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับสมดุลของหยินหยาง

พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ ต้องร่วมเตียงกับกู้รั่วเสวี่ย เพื่อช่วยทะลวงจุดลมปราณและเส้นชีพจรของเธอผ่านอารมณ์อันเร่าร้อนของชายหญิง ใช้ปราณหยางบริสุทธิ์ของผู้ชาย ขับไอเย็นในร่างกายของเธอออกมา

หากไม่รีบรักษา เธอจะอยู่ได้ไม่เกินอายุยี่สิบสี่ปี!

แต่กู้รั่วเสวี่ยกลับตัดบทเขาทันที “ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้ฉันพาคุณมาเพื่อรักษาแม่ของฉัน”

“คุณฉู่ ฉันขอร้องคุณ ไม่ว่ายังไงก็ต้องรักษาแม่ฉันให้ได้นะคะ!”

“ขอแค่ช่วยแม่ฉันได้ คุณจะให้ฉันทำอะไรให้ก็ได้ทั้งนั้น”

กู้รั่วเสวี่ยพูดด้วยสีหน้าจริงจังสุดขีด แววตาซื่อตรง

เหมือนกลัวฉู่เฉินจะปฏิเสธ เธอรีบกระซิบเสริมอีกหนึ่งประโยคด้วยใบหน้าแดงผ่าว “ถึงแม้จะให้ฉันมีค่ำคืนสุดบ้าคลั่งร่วมกับคุณอีกสักกี่คืน ฉันก็ยอม…”

เฮือก!

ฉู่เฉินอึ้ง เขาเบิกตากว้างจ้องกู้รั่วเสวี่ยผู้สูงส่งจนมิอาจเอื้อมที่นั่งอยู่ตรงหน้า

เธอหมายความว่ายังไง?

มีค่ำคืนสุดบ้าคลั่งอีกสักกี่คืน?

ก็คือเป็นคู่นอนงั้นเหรอ…

ตอนนี้ กู้รั่วเสวี่ยเองก็รู้สึกอับอายและประหม่ามาก บอกตามตรง เธอไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าคำพูดพวกนี้จะออกมาจากปากของเธอ

ขอแค่ช่วยคุณแม่ได้ ไม่ว่าอะไรเธอก็ทำได้ทั้งนั้น

แต่ถ้าพูดจากอีกมุมหนึ่ง ประสบการณ์สุดคลั่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ทำให้กู้รั่วเสวี่ยห้ามใจไม่อยู่เหมือนกัน ถึงขนาดที่เธออยากจะลิ้มลองอีกนับครั้งไม่ถ้วน

ฉู่เฉินที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มองกู้รั่วเสวี่ยที่หน้าตาน่าสงสาร เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับพยักหน้าบอกว่า “ได้! ผมจะพยายามเต็มที่”

เขามีวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์อยู่ในมือ ทั้งสามารถรักษาโรคกายเย็นให้เธอได้ และสามารถยกระดับให้ตัวเองด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องปฏิเสธอีก?

กู้รั่วเสวี่ยดีอกดีใจ รีบสั่งให้คนขับรถมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ทันที

ขณะเดียวกัน

หลิ่วหรูเยียนเพิ่งมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลกู้ที่อยู่ในเมือง ในมือถือกล่องผ้าไหมที่ใส่ยาอายุวัฒนะไว้ข้างใน ด้านหลังของเธอคือ ‘ซุนเซี่ยวเหริน’ หมอเทวดาของเจียงจงที่เธอลงทุนควักเงินก้อนใหญ่เพื่อเชิญมา

“หมอเทวดาซุน อีกเดี๋ยวคุณต้องทำให้คุณหญิงกู้กินยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ให้ได้นะคะ!” หลิ่วหรูเยียนกำชับ

ซุนเซี่ยวเหรินที่ผมหงอกทั้งหัวแบกกล่องยาไว้ข้างหลัง ยกมือลูบหนวดเครา ตอบว่า “ประธานหลิ่ว คุณวางใจเถอะ ยาอายุวัฒนะนี้ไม่ธรรมดา มันช่วยเรื่องโรคของคุณหญิงกู้ได้เป็นอย่างดี ผมจะทำให้เธอกินมันให้ได้”

หลิ่วหรูเยียนยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับซุนเซี่ยวเหริน

พ่อบ้านออกมารับแขก

“ประธานหลิ่ว เชิญคุณไปพักที่ห้องรับรองด้านข้างสักครู่ ผมจะพาหมอเทวดาซุนไปดูอาการคุณผู้หญิงก่อน” พ่อบ้านบอกกล่าวอย่างสุภาพ

หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า ไม่เหลือคราบความหยิ่งยโสดังเดิม เธอเดินไปที่ห้องรับรองด้านข้างอย่างว่าง่าย

อย่างไรเสีย ที่นี่ก็เป็นคฤหาสน์ตระกูลกู้

ตระกูลกู้ ตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศเชียวนะ

แค่ชื่อเสียงด้านการแพทย์ของตระกูลกู้ พูดคำเดียวก็สามารถทำลายรากฐานที่สองแม่ลูกตระกูลหลิ่วร่วมกันสร้างอย่างยากลำบากได้แล้ว

ที่วันนี้เธอเอายามาเสนอให้ ก็เพื่อที่จะประกาศการวิจัยยาตัวใหม่ของเธอที่ใช้เวลาถึงสามปีในงานชุมนุมวงการแพทย์ของตระกูลกู้วันพรุ่งนี้ และเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลกู้ด้วย

ขอแค่วันนี้คุณหญิงกู้กินยาอายุวัฒนะนี้ และอาการป่วยดีขึ้น งั้นเธอหลิ่วหรูเยียนจะต้องก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการแพทย์ กลายเป็นราชินีที่ทุกคนใฝ่ฝันอย่างแน่นอน!

หลังจากที่หมอเทวดาซุนเข้าไปได้ไม่นาน กู้รั่วเสวี่ยก็พาฉู่เฉินกลับมาอย่างเร่งรีบ เธอพาเขาไปทางประตูหลัง และเข้าไปที่ห้องนอนแม่ของเธอโดยตรง

ในห้องนอน หญิงสาวผิวขาว ร่างกายผอมเพรียวสมส่วนคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนเตียง เธอสวมชุดนอนบางๆ วับๆ แวมๆ ชวนให้หลงใหลนัก

หญิงสาวอายุราวสามสิบเจ็ดสามสิบแปด กิริยาสง่างาม มีดวงหน้างดงามชนิดล่มเมือง คล้ายกับกู้รั่วเสวี่ยอยู่แปดส่วน

ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา เธอก็คือแม่ของกู้รั่วเสวี่ยนั่นเอง

เป็นหญิงงามหาที่เปรียบไม่ได้ดังคาด บนหน้าและร่างกายของเธอ แทบไม่เห็นร่องรอยของกาลเวลาเลยสักนิด

ในห้องนอน ยังมีชายวัยกลางคนที่หน้าตาเคร่งขรึมแต่ก็ดูออกว่ากำลังประหม่าอยู่อีกคนหนึ่ง และชายชราที่เส้นผมขาวโพลนไปทั้งหัว ใส่เสื้อแขนสั้นคนหนึ่ง กำลังหยิบยาเม็ดหนึ่งออกจากกล่อง และยัดใส่ปากหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง

“ยานั่นกินไม่ได้! ถ้ากิน เธอจะตาย!”

ฉู่เฉินตกใจมาก เขารีบตะโกนออกไป เขาจำยาที่อยู่ในมือชายชราได้ตั้งแต่แวบแรก มันคือยาอายุวัฒนะที่หลิ่วหรูเยียนคิดค้นขึ้นมา!

Related chapters

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 8

    สิ้นเสียง สองคนที่อยู่ในห้องนอนหันขวับไปทางฉู่เฉินและกู้รั่วเสวี่ยที่กำลังเดินเข้ามาซุนเซี่ยวเหรินหน้าคล้ำทันที เขาตำหนิอย่างไม่พอใจสุดๆ “เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! พูดจาเหลวไหลอะไรของเธอ! นี่เธอกำลังตั้งคำถามกับทักษะทางการแพทย์ของฉันงั้นรึ หรือว่าสงสัยในตัวยาเม็ดนี้? เธอรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร!”ซุนเซี่ยวเหรินไม่สบอารมณ์อย่างมากเด็กเปรตนี่โผล่มาจากไหน ถึงได้กล้าเข้ามาตะคอกเขาอย่างนี้กินยาอายุวัฒนะในมือเขา แล้วผู้ป่วยจะตายงั้นรึ?เหลวไหลทั้งเพ!ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้เขาศึกษามาหลายวันแล้ว มันคือยาบำรุงชั้นดี!ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสี่เหลี่ยมเย็นชาแข็งกร้าว สายตาเคร่งขรึม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องฉู่เฉินแล้วตวาดเสียงต่ำ “เธอเป็นใคร? ใครให้เธอบุกเข้ามาที่นี่? ไสหัวออกไป! อย่ามาขัดขวางการรักษาของภรรยาฉัน!”“คุณพ่อ เขาชื่อฉู่เฉินค่ะ เป็นหมอที่หนูพากลับมาเอง วิชาแพทย์ของเขาร้ายกาจมาก แม้แต่โรคกายเย็นของหนูเขาก็รักษาได้” กู้รั่วเสวี่ยรีบเข้ามาอธิบายชายวัยกลางคนได้ยินก็ตะลึง “ลูกว่าไงนะ? เขารักษาโรคกายเย็นของลูกได้เหรอ? รั่วเสวี่ย ลูกอย่าโกหกพ่อนะ”กู้เหวินไห่ พ่อของกู้รั่วเสว

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 9

    สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ทั่วทั้งห้องรับรองเงียบสงัดทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก!พวงแก้มของกู้รั่วเสวี่ยแดงเรื่อฉู่เฉินคิดจะให้พ่อของเธอยกเธอให้เขาจริงๆเธอยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยนะกู้เหวินไห่เองก็หน้าดำคร่ำเครียด เขาลังเลอยู่นานมากฉู่เฉินพูดขึ้น “ผู้นำตระกูลกู้ อย่าลังเลเลย คุณเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”“ผมขอบอกคุณชัดๆ ตรงนี้เลยว่า บนโลกนี้ คนที่ช่วยภรรยาคุณได้ มีแค่ผมฉู่เฉินคนเดียวเท่านั้น!”กู้เหวินไห่กัดฟัน เขาไม่ลังเลอีกต่อไป คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุบ ก่อนจะอ้อนวอนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมเลอะเลือน ได้โปรดช่วยชีวิตภรรยาของผมด้วย”“ขอแค่ช่วยภรรยาของผมได้ ผมยอมยกลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนให้คุณ”“คุณพ่อ…” กู้รั่วเสวี่ยพึมพำเรียกพ่อของเธออย่างกระมิดกระเมี้ยนฉู่เฉินวางแก้วชา และยิ้มตอบเล็กน้อย “ได้ เห็นแก่หน้ารั่วเสวี่ย ผมจะช่วยเอง ลุกขึ้นเถอะครับ”กล่าวจบ ฉู่เฉินลุกเดินไปทางห้องนอนกู้เหวินไห่เดินตามไปติดๆกู้รั่วเสวี่ยก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน เธอถามว่า “คุณพ่อ เมื่อกี้คุณพ่อพูดเล่นใช่ไหมคะ?”กู้เหวินไห่ตัดบททันที “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าเขาช่วยแม่ของลูกได้จริง ก็แสดงว่าเจ้าห

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 10

    ด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉู่เฉินออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้ ก็มุ่งไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ครั้นเห็นบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ในสภาพซอมซ่อ บวกกับกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากไม้เน่าลอยมาแตะจมูก ฉู่เฉินอดทอดถอนใจไม่ได้บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็กของฉู่เฉินตั้งแต่ที่พ่อแม่หายตัวไป ฉู่เฉินก็แอบสืบอย่างลับๆ มาตลอด หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่แม่บุญธรรมของเขา หลิ่วชิงเหอ!ในตอนที่ฉู่เฉินตั้งใจจะโจมตีหลิ่วชิงเหอ เขาก็ถูกลอยแพเสียก่อน! จากนั้น เรื่องราวก็เป็นอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาถูกสองแม่ลูกขังไว้ในห้องอาบน้ำของคฤหาสน์ เพียงแวบเดียว เขาก็ถูกทรมานมานานถึงสามปีเต็ม!“หลิ่วชิงเหอ หวังว่าเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันหายตัวไปจะไม่เกี่ยวกับเธอนะ! ถ้าฉันสืบเจอว่าเป็นลูกไม้สกปรกของเธอ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา ในดวงตาตาสุกใสสะท้อนแววเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกฉู่เฉินเก็บกวาดบ้านอย่างง่ายๆ จากนั้นก็ตั้งป้ายวิญญาณสองป้ายไว้ในบ้านให้พ่อแม่ของเขาผ่านมาหลายปีแล้ว พ่อกับแม่อาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ ในฐานะลูกชาย เขาควรกราบไหว้หลังจากคำนับสามครั้ง ฉู่เฉินจัดการทำความสะอา

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 11

    “โอ๊ย! สารเลว! แกปล่อยฉันนะ! แกกล้าทำเรื่องน่าขยะแขยงเช่นนี้กับฉัน ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!” ป้าอู๋ร้องออกมาด้วยความตกใจเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะกล้าลงมือกับเธอเช่นนี้เจ้าคนสารเลว!โครม...หลังจากนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้นมาจากห้อง พร้อมทั้งเสียงร้องขอชีวิตของป้าอู๋“ฉู่เฉิน อย่า ฉันขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”อย่างไรก็ตาม หลังจากขอความเมตตาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นมาเป็นระยะ และในช่วงท้ายของการขอความเมตตาของป้าอู๋ ก็กลายเป็นเสียงครวญครางที่ส่งเสียงดังราวกับอารมณ์เร่าร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ 20 กว่าปี แค่ครู่เดียวก็ปลดปล่อยออกมา!หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเดินออกมาด้วยหน้าระรื่นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “หากไม่ใช่เพราะป้า ผมคงไม่มีโอกาสอย่างนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะปล่อยป้าไปแล้วกัน รีบไสหัวไปซะ!”ภายในห้องป้าอู๋นอนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าถูกฉีกไม่เป็นชิ้นดี ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยว โดยเฉพาะบั้นท้ายที่เธอภาคภูมิใจนั้นเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ!เธอกัดฟันโกรธ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น“ไอ้เดรัจฉาน! แกรังแกฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ป้าอู๋สบถออกมารุนแรง ฝืนร่างกายล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 12

    เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมาฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”ฉู่เฉิน?เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”ฉู่เฉินกวาดสายต

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 13

    “ที่รัก! จัดการมัน รีบจัดการมันสิคะ!”เฉาถิงถิงพูดคะยั้นคะยออยู่ข้างๆ เธอหวังแต่เพียงว่าจ้าวหู่จะบดขยี้ฉู่เฉินและหลิวเฉียงลงไปที่พื้นทันที!จ้าวหู่ทำราวกับไม่ได้ยิน รีบวิ่งไปข้างหน้า โค้งตัวลงไป “คุณคือคุณฉู่ ฉู่เฉินใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้ว พยักหน้าตอบ “ใช่”“แหมๆ คุณฉู่จริงด้วย สวัสดีครับๆ ผมชื่อจ้าวหู่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ ขอโทษที่ไม่ได้มาต้อนรับนะครับๆ”จ้าวหู่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่นับถือและประจบประแจงภาพนี้ทำให้ฉู่เฉินงุนงงเล็กน้อยหลิวเฉียงก็เช่นกันคนที่ตกตะลึงและสับสนที่สุดคือเฉาถิงถิง“ที่รัก คุณทำอะไรเนี่ย? คุณฉู่อะไรกัน? คุณบ้าไปแล้วเหรอ? เขาคือไอ้คนเหลือขอที่ตบตีฉันเมื่อกี้นะคะ! คุณรีบจัดการมันสิ!”เฉาถิงถิงพูดอย่างร้อนรน กระทืบเท้า หน้าอกใหญ่และอวบอิ่ม ก็สั่นขึ้นลงทันที“เพียะ!”เป็นผลให้จ้าวหู่หันหลังกลับมาไปและตบเข้าไปที่หน้าเฉาถิงถิง และดุว่า “อวดดี! ไอ้คนเหลือขอเหรอ? เขาคือคนที่ผมบอกคุณว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่ผู้นำตระกูลกู้ยังต้องเคารพ!”“ฉู่เฉิน คุณฉู่!”“คุณยังไม่รีบมาขอโทษคุณฉู่อีก!”จ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 14

    ฉู่เฉินหัวเราะอย่างนึกสนุกและพูดว่า “ผู้จัดการจ้าวไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?"คิ้วของจ้าวหู่ขมวดมุ่น ฉู่เฉินยังคงพูดต่อว่า “ตอนนี้ผู้จัดการจ้าวอายุสี่สิบแล้วใช่ไหมครับ หลายปีมานี้ที่มีลูกไม่สำเร็จ ไม่เคยสงสัยตัวเองเหรอ?”“หากคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดูได้”“เมื่อถึงเวลานั้น เด็กในท้องใช่หรือไม่ใช่ลูกของคุณ ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจเองนะครับ”จ้าวหู่ได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกัดฟันพูดว่า “ได้! หวังว่าที่คุณฉู่พูดจะถูกต้องนะครับ หากผมไม่ได้มีปัญหาจริงๆ ล่ะก็ คุณฉู่ต้องคิดผลลัพธ์ให้ดีนะครับ!”พูดเสร็จ จ้าวหู่ก็หมุนตัวออกไปจากร้านอาหารเฉาถิงถิงเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ร้อนรนขึ้นมารั้งจ้าวหู่ “ที่รัก ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ ให้พวกเขาไปเถอะค่ะ”จ้าวหู่คิ้วขมวดอีกครั้ง เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฉาถิงถิง ในใจเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา“ไม่ได้ พวกเขาลบหลู่ผมได้ แต่จะมาลบหลู่ลูกของผมจ้าวหู่ไม่ได้!” จ้าวหู่พูดอย่างเย็นชา เดินหันหลังออกไป มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำการตรวจ หลังผลตรวจออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนขั้นสุด!ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต!หลังจากนั้นเขาก

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 15

    ฉู่เฉินนั่งขัดสมาธิ จนถึงช่วงเวลาเย็นของอีกวันหนึ่งฉู่เฉินลืมตาขึ้นมา พรูลมหายใจหยาบแล้วก็กำหมัด รู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง!จากนั้นฉู่เฉินก็ยืนขึ้น เพียงก้าวออกไปก็เคลื่อนตัวไปด้านข้างสองเมตร!เป็นความเร็วที่รวดเร็วมาก!จากนั้นเขาก็ต่อยออกไป และเสียงที่ทะลุผ่านอากาศก็ทำให้ได้ยินเสียงอึกทึกกำแพงที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ภายใต้การโจมตีของหมัด ก็พังทลายเป็นราบกองแข็งแกร่ง!ฉู่เฉินดีอกดีใจ!ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องกังวลว่าจะไม่สามารถโล่นแล่นในเจียงจงได้!หลิ่วชิงเหอ หลิ่วหรูเยียน พวกเธอรอก่อนเถอะ ฉันจะแก้แค้นพวกเธอให้สาสมฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะกลับมาอยู่ในมือของฉู่เฉินอีกครั้งถอนหายใจออกมา ฉู่เฉินรับโทรศัพท์จากกู้รั่วเสวี่ย“หมอเทวดาฉู่ คุณอยู่ที่ไหนคะ?” กู้รั่วเสวี่ยถามด้วยรอยยิ้มฉู่เฉินบอกที่อยู่ของตัวเองไปไม่นานเฟอร์รารี่สีแดงสุดเท่ เสียงมอเตอร์ดังมาจากระยะไกลและหยุดอยู่หน้าบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ประตูรถถูกเปิดออก กู้รั่วเสวี่ยสวมกระโปรงยาวถึงเข่าสีแดงเพลิงและแว่นกันแดด ก้าวลงจากรถด้วยขาเรียวสีขาวแล้วจึงออกมา งดงาม!ท่าทางสง่างามนี่มันระดับเทพธิ

Latest chapter

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 728

    ถ้าไม่ใช่เพราะกระจกแปดทิศในมือฉู่เฉินเอาชนะสิ่งชั่วร้ายได้ละก็ ฉู่เฉินอาจถึงขั้นตกสู่สถานการณ์เลวร้ายมากกว่าดีฉู่เฉินสูดลมหายใจลึกๆ แล้วรีบเก็บกระจกแปดทิศ เว้นระยะและเผชิญหน้าจ้องมองผีดิบเลือดคลั่งสักพักใหญ่เมื่อเห็นว่าผีดิบเลือดคลั่งยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่ได้มีเจตนาลุกขึ้นจู่โจมใส่ฉู่เฉินสักนิด เขาจึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจบัดซบ!อันตรายมาก!ฉู่เฉินหยิบยาบำรุงปราณกลืนเข้าไปพลางเดินโซเซบนผิวน้ำตรงยังไปทิศทางของผีดิบเลือดคลั่งด้วยระดับของฉู่เฉินตอนนี้ม้าสามารถสังหารผีดิบเลือดคลั่งที่เทียบเท่าระดับรากฐานขั้นเจ็ดได้เลยถ้าสามารถทำให้จำนนได้ก็จะเป็นการดีที่สุด และก็นับว่าได้ผลตอบแทนกลับมาโดยไม่คาดคิดแต่ฉู่เฉินยังคงระมัดระวังตัวมากด้วยการกุมกระจกแปดทิศไว้ในมือ เตรียมพร้อมตอบโต้ทุกเมื่อถ้าผีดิบเลือดคลั่งเกิดระเบิดขึ้นมาเห็นฉู่เฉินเดินไปหาผีดิบเลือดคลั่งทีละก้าว หลูติ้งไห่และโจวอวี้หมิงต่างกลั้นหายใจ“นี่คุณฉู่จะทำอะไร?”โจวอวี้หมิงกลืนน้ำลายลงคออย่างแรงพร้อมกล่าวด้วยความตึงเครียด“ไม่… ไม่รู้สิ ทำไมผีดิบเลือดคลั่งตัวนั้นถึงคุกเข่าไม่ขยับเลยล่ะ?”หลูติ้งไห่ก็อยากรู้เหมือนกันแล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 727

    “ผู้บัญชาการเซียว รีบมานี่เร็ว!”หลูติ้งไห่พูดกับวิทยุสื่อสารเสียงดังลั่นเซียวเฟิงหอบหายใจด้วยความหนักอึ้ง จัดการขว้างวิทยุสื่อสารทิ้งไปอีกทางพร้อมจดจ้องผีดิบเลือดคลั่งด้วยความเคียดแค้นคนของแก๊งมังกรสี่นายที่หนีรอดมาได้ก็ไปหยุดอยู่บริเวณใกล้กับเซียวเฟิงแล้วในเวลานี้ ทุกคนยกมือไรเฟิลขึ้นเล็งผีดิบเลือดคลั่ง“ยังไม่ถอยอีก!”ฉู่เฉินหันหน้ามาก็เห็นพวกเซียวเฟิงที่หมอบลงพื้นยกเล็งปืนไปทิศทางที่ผีดิบเลือดคลั่งอยู่พอดี เขาจึงรีบตะคอกเสียงดังยกใหญ่“ถ้าไม่ล้างแค้นให้พี่น้อง ฉันแม่งจะตายอยู่ตรงนี้นี่แหละ!”เซียวเฟิงกัดฟันกรอด ร่างกายเขาสั่นไม่หยุดฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย สูดลมหายใจเข้าลึกๆตอนนี้เขาไม่สนอะไรมากแล้ว หากชักช้าผีดิบเลือดคลั่งจะตามมาพัวพันเขาอีกครั้ง ถึงตอนนี้ก็คงไม่มีทางชนะได้แล้วฉู่เฉินคิดแล้วก็ควักกระจกแปดทิศออกมาจากอกทันที เคลื่อนพลังวิญญาณรอบกายไปสู่กระจกแปดทิศ“วิ้ง!”เงาของกระจกแปดทิศเปล่งแสงสีขาวออกมาอย่างกะทันหันมันส่องสว่างท้องฟ้ายามค่ำรอบๆ ฉู่เฉินในทันทีเหมือนกับไฟฉายจากนั้นลำแสงสีขาวนั้นส่องไปยังร่างผีดิบเลือดคลั่งจนเกิดควันสีแดงขึ้นพร้อมกับเสียงดังซู่

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 726

    ขณะนี้เอง นักพรตชิงซงวิ่งหอบกลับมา กล่าวขึ้นด้วยความตื่นตระหนกพร้อมกับหายใจหอบไปด้วย “วิ่ง รีบหนี! นี่…นี่คือผีดิบเลือดคลั่ง ไม่อยากตายก็รีบหนีซะ!”“แต่ถ้าพวกเราหนีไป พวกพ้องแก๊งมังกรสิบกว่าคนนั้นจะทำยังไง?”โจวอวี้หมิงตวาดด้วยใบหน้าหนักใจ“ไปสนพวกเขาจะเป็นจะตายอะไรอยู่ ถ้ายังไม่หนี ยังไม่หนีอีกพวกเราได้ตายกันหมดแน่!”“ใครให้พวกเขายิงผีดิบเลือดคลั่งล่ะ? ถ้าไม่เป็นเพราะพวกเขายิงผีดิบเลือดคลั่งจนคลั่ง ผม... ผมคงทำให้ปีศาจร้ายนั่นยอมศิโรราบไปแล้ว!”นักพรตชิงซงตะคอกกล่าวเสียงดัง“แก!”แม้แต่เซียวเฟิงถึงกับจ้องมองนักพรตชิงซงด้วยใบหน้าเหลือเชื่อทั้งทั้งที่แกแม่งสั่งให้ยิงพวกพ้องของฉันทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยชีวิตแกอยู่ข้างหน้า แกกลับวิ่งหนีซะได้?ทั้งยังโยนความผิดมาให้บรรดาพวกพ้องของฉันอีก?!ถ้าสถานการณ์ไม่เร่งรัดจริงๆ เซียวเฟิงคิดจะยิงไอ้สารเลวคนนี้ให้ตายไปซะ!ในระหว่างที่ทะเลาะกันอยู่นี่เอง เห็นเงาร่างหนึ่งพุ่งสวนทางตรงไปยังผีดิบเลือดคลั่ง!“แกไปทำอะไรวะ!”นักพรตชิงซงมองแผ่นหลังของฉู่เฉินด้วยสีหน้าโมโหจนเขียวปัดนี่มันแย่งบทเขาไม่ใช่เหรอ?เขาที่วิ่งหนีอย่างทุลักทุเลเหมือนหมาไม

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 725

    ตูมตามตูมตาม!ขณะที่เขวี้ยงยันต์ปราบผีหลายสิบใบไปยังร่างผีดิบเลือดคลั่งก็เกิดควันดำขึ้น แต่นอกจากผีดิบเลือดคลั่งถูกแรงสะเทือนถอยหลังสองก้าวแล้วแม้แต่ขนก็ยังไม่เป็นอะไรนักพรตชิงซงอดสูดลมหายใจเข้าไม่ได้ตอนอวดเก่งได้ใจแค่ไหน ถึงคราวหน้าแหกก็เจ็บเท่านั้นจริงๆเมื่อเห็นว่าใช้ยันต์ปราบผีร้อยใบในตัวจนหมดเกลี้ยงแล้ว ผีดิบเลือดคลั่งตรงหน้าก็ยังไม่ตาย ตรงกันข้ามเหมือนได้กินยาบำรุงเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น พลังเพิ่มขึ้นสุดต้านทานและกลิ่นอายรอบตัวก็ยิ่งดุร้ายยิ่งขึ้นนักพรตชิงซงยังไม่ทันตั้งสติ ผีดิบเลือดคลั่งก็คำรามอย่างโมโหกระโจนเข้าไปหานักพรตชิงซงทันที“แม่งเอ๊ย! ไร้พลัง...ช่วยด้วย!”เดิมทีนักพรตชิงซงกะจะลองกระบี่ไม้ท้อในมือเขาแต่ผลลัพธ์คือเมื่อโดนตัวผีดิบเลือดคลั่ง กระบี่ไม้ท้อเล่มนั้นก็แตกเป็นเสี่ยงๆจนกลายเป็นขี้เลื่อย ระเบิดกลางอากาศเป็นลูกไฟนักพรตชิงซงเห็นฉากตรงหน้าแล้วก็ตัวเย็นแข็งทื่อไปเลย แม่งสะพรึงเกินไปแล้วท่ามกลางความเป็นความตาย ภาพลักษณ์เอ่ย หน้าตาเอย นักพรตชิงซงไม่สนอีกแล้ว โคจรปราณตันเถียนแล้ววิ่งใช้เท้าเหยียบไปบนผิวน้ำทะเลสาบหย่งติ้งถอนตัววิ่งหนีทันที“อ๊ากกก!”เขาวิ่ง

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 724

    โจวอวี้หมิงสั่งการอย่างเย็นชาในช่วงที่ทุกคนในทีมที่หนึ่งกำลังจะขว้างระเบิดมือครั้งที่สองนี้เองก็เกิดสิ่งผิดปกติขึ้นทันควัน“โอ่ว!”เสียงคำรามทุ้มต่ำดังขึ้นจากในถ้ำถึงแม้เป็นเพียงการคำรามโกรธ แต่พื้นดินรอบๆ หลายลี้กลับสั่นสะเทือนไม่หยุดแม้แต่ผิวน้ำทะเลสาบหย่งติ้งก็เกิดระลอกคลื่นเช่นกันแข็งแกร่งมาก!ฉู่เฉินหันหน้าขวับไปมองทางถ้ำพร้อมตะโกนเสียงดังลั่นทันที “ผู้บัญชาการกองทัพโจว รีบสั่งทีมแรกถอยออกมา เร็วเข้า!”โจวอวี้หมิงสั่นฉุกคิดขึ้นได้ฉับพลัน รีบพูดกับวิทยุสื่อสาร “ทีมแรก ถอย!”เขาเพิ่งสั่งการลงไปก็เห็นแสงสีแดงราวกับปกคลุมพื้นโลกพุ่งออกมาจากถ้ำ“ฟิ้ว!”ทหารที่ยืนแถวหน้าสุดยังไม่ทันตั้งสติได้ก็โดนลำแสงสีแดงนี้ฉีกจนเป็นเสี่ยงๆ“ถูกโจมตี! ถูกโจมตี!”วินาทีต่อมาทีมที่หนึ่งไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ ก็มีทหารสองนายกลายเป็นหมอกโลหิตฟุ้งกระจายท่ามกลางแสงสีแดงนั้นจากนั้นปากถ้ำก็มีเสียงปืนดังขึ้นทันที“ปังๆ ๆ ๆ!”ในขณะเดียวกันลูกกระสุนนับไม่ถ้วนถูกยิงไปในทิศทางเดียวอาศัยช่วงแสงอ่อนลง ทุกคนต่างมองเห็นเงาร่างใหญ่สูงสองเมตรรางๆ จ้องมองด้วยดวงตาสีแดงก่ำ บินตรงไปยังทหารคนอื่นๆ ที่เหลื

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 723

    จะว่ายังไงก็ตามนักพรตชิงซงก็เป็นผู้บำเพ็ญพรตปราณชั้นห้า และมียันต์ในมือที่ไม่รู้ใครวาดออกมา ด้วยเหตุนี้การกระทำเมื่อกี้ค่อนข้างข่มขวัญคนได้จริงๆ เมื่อเห็นอานุภาพยันต์ศักดิ์สิทธิ์แค่เพียงใบเดียวของนักพรตชิงซงที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าลูกระเบิดแม้แต่น้อย โจวอวี้หมิงจึงกล่าวออกคำสั่งกับทีมที่ซุ่มโจมตีโดยไม่ลังเลใจอีก “ทีมแรกเตรียมตัว บุกเข้าไปในอีกห้านาทีนี้!”“ครับ!”เสียงแน่วแน่ดังขึ้นจากต้นทางของวิทยุสื่อสารจากนั้นทีมสามสิบกว่าคนต่างหยิบปืนและระเบิดมือออกมาแล้วเคลื่อนทีมไปทิศทางถ้ำอย่างเงียบ ๆนักพรตชิงซงแกว่งไม้ปัดนักพรตพร้อมก้าวเดินอาด ๆ ด้วยความรวดเร็วไปยังฝั่งตรงข้ามของทะเลสาบหย่งติ้งอย่างน่าเกรงขาม“คุณฉู่…”เห็นเซียวเฟิงไม่ฟังคำของฉู่เฉินสักนิด หลูติ้งไห่จึงกระซิบข้างหูฉู่เฉินครู่หนึ่งฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยกล่าว “ถอยห่างร้อยเมตรใกล้เกินไป ถอยสักหนึ่งกิโลเมตร”“ได้ครับ!”หลูติ้งไห่ตอบรับแล้วก็ก้าวฉับๆ มาถึงหน้าโจวอวี้หมิงพร้อมกล่าว “ผู้บัญชาการกองทัพโจว ตามความเห็นผม ในเมื่อมีนักพรตชิงซงออกคำสั่งด้วยตัวเองแล้วก็ไม่ต้องใช้ทหารมากมายขนาดนั้นสักนิด”“ไม่งั้นเอาอย่างนี้ ให้คน

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 722

    เซียวเฟิงและโจวอวี้หมิงหันหน้าไปมองก็เห็นหลูติ้งไห่กับฉู่เฉินกำลังลงจากรถฝั่งซ้ายและฝั่งขวามุ่งหน้ามาทางนี้“ทำไมหัวหน้าหลูยังไม่ไล่คนแซ่ฉู่นั้นไปอีกนะ”ดวงตาเซียวเฟิงฉายแววความเกลียดชังจ้องมองไปที่ฉู่เฉิน“เหอะ ทำให้เจ้าหนุ่มผู้นั้นได้เห็นพลังของผมก็ดี อายุยังน้อยจะได้ไม่รู้จักเรียนที่ดี ๆ เอาแต่ทำเก่ง!”สองมือนักพรตชิงซงไพล่หลังมองไปทางฉู่เฉินด้วยสีหน้าดูแคลนโจวอวี้หมิงถอนหายใจเบาๆพร้อมกล่าว “พวกคุณพูดให้น้อยหน่อยเถอะ อีกเดี๋ยวยังมีศึกหนัก ความสามัคคีต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก”กล่าวเสร็จก็เดินไปหาหลูติ้งไห่และฉู่เฉินเป็นคนแรกเซียวเฟิงและนักพรตชิงซงมองกันแล้วก็เดินตามด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร“คนบางคนช่างไม่รู้ความจริงๆ ไม่มีความสามารถสักนิดยังแม่งมีหน้ามาร่วมแจมกับเขาด้วย ช่างไร้ยางอายจริงๆ”เซียวเฟิงเหลือบมองสำรวจท่าทีฉู่เฉิน กล่าวด่าแบบอ้อมๆฉู่เฉินหัวเราะเยาะหนึ่งครั้งและขี้เกียจที่จะสนใจเขาหลูติ้งไห่กล่าวเสียงเย็นชาด้วยใบหน้าบึ้งตึง “ผู้บัญชาการเซียว ผมหวังว่าคุณจะพูดจาให้เกียรติสักหน่อย บาดหมางกันไม่เป็นผลดีกับทุกคนสักนิด”เซียวเฟิงได้ยินแล้วก็เอามือไพล่หลังถลึงตาใส่กล่

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 721

    จนกระทั่งเกาหมิงหลายเดินไปไกลแล้ว หลูติ้งไห่จึงหันมากล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ คุณมั่นใจแค่ไหน?”ในเวลานี้เกาหมิงหลายถึงขั้นมีความคาดหวังในตัวฉู่เฉินสูงมาก เห็นได้ชัดว่าหลูติ้งไห่ได้เดิมพันทั้งหมดกับฉู่เฉินแล้วพูดได้ว่าฉู่เฉินคนเดียวสามารถตัดสินความเป็นความตายของคนนับพันได้นาทีนี้อนาคตหลูติ้งไห่ได้ถูกผูกติดกับฉู่เฉินอย่างแน่นหนาแล้ว“ไม่มั่นใจครับ”ฉู่เฉินพูดอย่างจริงจังมาก“มะ…ไม่มั่นใจ?”หลูติ้งไห่ได้ยินคำพูดนั้นแล้วก็อดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้“ใช่ คืนนี้จะสำเร็จหรือพ่ายแพ้ก็ได้แต่ลองทุ่มสุดตัวดูครับ”ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ พลางกล่าวเมื่อเห็นใบหน้าฉีกยิ้มของฉู่เฉิน หลูติ้งไห่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดีจริงๆแต่นี่มันถึงชีวิตเชียวนะ ทำไมฉู่เฉินยังยิ้มออกมาได้?ที่จริงแล้วฉู่เฉินยังมีไพ่ตายอยู่ในมือ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นผีดิบเหินฟ้าก็ตาม ขอแค่อวี้ลู่ลงมือให้ก็จะสามารถสะกดข่มได้ในชั่วพริบตาแต่ถ้าไม่ถึงสถานการณ์คับขันจริงๆ ฉู่เฉินจะไม่ใช่ไพ่ไม้ตายนี้เด็ดขาดอีกทั้งระหว่างฉู่เฉินและหลูติ้งไห่ก็ไม่ได้คบค้าสมาคมเชิงลึกอะไร จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะบอกเรื่องตัวตนของอวี้ลู่“คืนนี้ฉั

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 720

    จนกระทั่งในห้องประชุมเหลือเพียงฉู่เฉินกับกู้รั่วเสวี่ยสองคน เกาหมิงหลายถึงได้เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “เมื่อกี้ ติ้งไห่ได้เล่าคำพูดของคุณฉู่ให้ผมฟังหมดแล้ว”“ตามหลักแล้ว เรื่องใหญ่ขนาดนี้ การปฏิบัติการคืนนี้จะต้องโดนยกเลิก”พอได้ยินแบบนี้ ฉู่เฉินก็พยักหน้าติดต่อกันการเผชิญหน้ากับผีดิบโลหิต วิธีที่ดีที่สุดก็คืออย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น รอจนรวบรวมกำลังได้มากพอแล้วค่อยกำจัดมันทีเดียวให้สิ้นซาก ถึงจะเป็นแผนการที่ดีที่สุดแต่เกาหมิงหลายกลับเอ่ยอย่างเปลี่ยนท่าทีว่า “แต่ว่าในฐานะพ่อแม่ ผมทำแบบนี้ไม่ได้”“ทำไมล่ะ?”ฉู่เฉินกับกู้รั่วเสวี่ยเอ่ยถามขึ้นแทบจะพร้อมเพรียงกันรู้อยู่แก่ใจว่าบนเขามีเสือ แต่ยังจะขึ้นเขาไปท่องเที่ยวอีกเหรอ?แต่ปัญหาคือ ตอนนี้สิ่งที่อยู่บนเขาไม่ใช่เสือ แต่เป็นผีดิบโลหิต!เกาหมิงหลายใคร่ครวญอยู่พักหนึ่งก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นแล้วพูดว่า “เพื่อประชาชนครับ”“ประชากรในเมืองเอกของมณฑลมีมากกว่าสิบล้านคน ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าการออกคำสั่งห้ามจะสามารถห้ามไม่ให้ทุกคนเข้าไปใกล้ทะเลสาบหย่งติ้งได้ ยิ่งไปกว่านั้น ที่นั่นยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย ผมไม่อาจส่งคนไปเฝ้าตรงป

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status