Share

บทที่ 10

Author: กระจอก
ด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉู่เฉินออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้ ก็มุ่งไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่

ครั้นเห็นบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ในสภาพซอมซ่อ บวกกับกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากไม้เน่าลอยมาแตะจมูก ฉู่เฉินอดทอดถอนใจไม่ได้

บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็กของฉู่เฉิน

ตั้งแต่ที่พ่อแม่หายตัวไป ฉู่เฉินก็แอบสืบอย่างลับๆ มาตลอด หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่แม่บุญธรรมของเขา หลิ่วชิงเหอ!

ในตอนที่ฉู่เฉินตั้งใจจะโจมตีหลิ่วชิงเหอ เขาก็ถูกลอยแพเสียก่อน! จากนั้น เรื่องราวก็เป็นอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาถูกสองแม่ลูกขังไว้ในห้องอาบน้ำของคฤหาสน์ เพียงแวบเดียว เขาก็ถูกทรมานมานานถึงสามปีเต็ม!

“หลิ่วชิงเหอ หวังว่าเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันหายตัวไปจะไม่เกี่ยวกับเธอนะ! ถ้าฉันสืบเจอว่าเป็นลูกไม้สกปรกของเธอ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”

ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา ในดวงตาตาสุกใสสะท้อนแววเย็นยะเยือกไปถึงกระดูก

ฉู่เฉินเก็บกวาดบ้านอย่างง่ายๆ จากนั้นก็ตั้งป้ายวิญญาณสองป้ายไว้ในบ้านให้พ่อแม่ของเขา

ผ่านมาหลายปีแล้ว พ่อกับแม่อาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ ในฐานะลูกชาย เขาควรกราบไหว้

หลังจากคำนับสามครั้ง ฉู่เฉินจัดการทำความสะอาดบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ ตั้งใจจะอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว

อย่างไรเสียคฤหาสน์ตระกูลฉู่ก็ถูกหลิ่วชิงเหอกับหลิ่วหรูเยียนยึดไปครอบครองแล้ว!

ฉู่เฉินในตอนนี้ เรียกได้ว่าไร้ที่ไป

ฉู่เฉินนั่งลงและขัดสมาธิ หยิบเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปีที่กู้รั่วเสวี่ยมอบให้เขาตอนออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลกู้

ครั้นหยิบออกมา ภายในบ้านเก่าๆ ก็พลันเต็มไปด้วยไอร้อนรุ่ม และกลิ่นหอมสดชื่นของยาสมุนไพร

พริบตาเดียว ฉู่เฉินรู้สึกได้ทันทีว่าจุดตันเถียนของเขากำลังโคจรวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ในร่างเริ่มเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งแล้ว!

ฉู่เฉินไม่มีเวลาสนใจการกลั่นยาบำรุงปราณอีก เขาตัดสินใจจะหลอมและดูดซับเห็ดหลินจือเพลิงดอกนี้เสีย

ส่วนยาบำรุงปราณค่อยว่ากันทีหลัง!

ครั้นตัดสินใจได้ ฉู่เฉินก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา ล้อมรอบเห็นหลินจือเพลิงที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นใช้พลังวิญญาณค่อยๆ หลอมเห็นหลินจือเพลิง ตามด้วยค่อยๆ ดูดกลืนพลังวิญญาณอันร้อนรุ่มของมันเข้าไปในร่างกายผ่านเส้นชีพจร

ขั้นตอนนี้ใช้เวลาต่อเนื่องราวครึ่งชั่วโมง ครั้นเสร็จกระบวนการ เห็ดหลินจือเพลิงสูญสิ้นฤทธิ์ยาไปจนหมด เหลือไว้เพียงสภาพที่เหมือนเห็ดเหี่ยวๆ ดอกหนึ่งเท่านั้น

“ฟู่…”

ฉู่เฉินถอนหายใจ เขาลืมตา ดวงตาเต็มไปด้วยรัศมีเปล่งประกาย!

เขาลุกขึ้น เหวี่ยงหมัดใส่กำแพง

เสียงดังโครม กำแพงด้านนั้นถล่มลงมาในพริบตา!

ที่น่ากลัวคือ ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างกำแพงด้านนี้ออกไปสิบเมตร ถูกพลังหมัดซึ่งทะลุกำแพงออกไปซัดใส่จนโค่นลงมาด้วย

“นี่ก็คือพลังที่ได้จากการฝึกปราณระดับสามงั้นเหรอ? แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”

ฉู่เฉินดีใจมาก

นึกไม่ถึง เห็ดหลินจือเพลิงร้อยปีดอกหนึ่งจะทำให้เขาทะลวงขั้นไปถึงการฝึกปราณระดับสามได้ในครั้งเดียว

“หึๆ หลิ่วชิงเหอ เจอกันครั้งหน้าฉันมีเซอร์ไพรส์ให้เธอครั้งใหญ่เลยล่ะ!” ฉู่เฉินยิ้มเย็น ก่อนที่เสียงท้องร้องจ๊อกๆ จะดังขัดจังหวะขึ้นมา

เขาไม่ได้กินอะไรมาเกือบทั้งวัน ก็ควรหิวแล้วจริงๆ

ฉู่เฉินครุ่นคิด เขาเดินออกจากบ้านเก่าตระกูลฉู่ ตั้งใจจะไปหาอะไรกินแถวๆ นี้

แต่เพิ่งจะออกจากประตูบ้าน กลับมีร่างของใครคนหนึ่งยืนขวางทางฉู่เฉินไว้

“ป้าอู๋เหรอ!” ฉู่เฉินสีหน้าย่ำแย่ลงทันที

แม่บ้านคนสนิทของหลิ่วชิงเหอ

ก่อนที่ฉู่เฉินจะได้รับมรดกสืบทอดจากราชันมังกร ป้าอู๋เหมือนภูเขามหึมาที่เขาไม่อาจก้าวข้ามไปได้ เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวสำหรับเขา

แต่ตอนนี้ ฉู่เฉินฝึกพลังปราณถึงระดับสามแล้ว เพียงปล่อยพลังวิญญาณออกไปเล็กน้อย ก็สามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรอบตัวป้าอู๋แล้ว

หึๆ ก็แค่พลังปราณระดับหนึ่งเท่านั้น

ไม่มีอะไรน่ากลัวสักนิด

“ทำไม หลิ่วชิงเหอให้ป้ามาฆ่าผมเหรอ?”

ฉู่เฉินยิ้มหยัน เขาจ้องป้าอู๋

ต้องยอมรับว่าแม้ป้าอู๋ไม่ได้สวยเท่าหลิ่วชิงเหอ แต่เพราะติดตามหลิ่วชิงเหอมานาน เธอจึงรู้จักดูแลตัวเองอยู่ไม่น้อย

เรือนร่างนับว่าไม่เลว มีส่วนนูนและเว้าโค้ง สัดส่วนเหมาะสม

โดยเฉพาะขาคู่นั้นที่ดูเรียวยาวเพราะออกกำลังกายอยู่บ่อยๆ

“ใช่! คุณผู้หญิงต้องการให้แกตาย!” ป้าอู๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“รีบลงมือเถอะ ผมหิวแล้ว จะรีบไปกินข้าว” ฉู่เฉินลูบท้อง พลางพูดด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน

ป้าอู๋ได้ยินอย่างนั้นสีหน้าพลันขึ้งเคียด เธอขมวดคิ้วมุ่น ก่อนหัวเราะหยันและพูดว่า “ครั้งที่แล้วฉันพลาดเอง แต่ครั้งนี้จะไม่มีทางพลาดอีก ตายซะเถอะ!”

สิ้นเสียง ป้าอู๋เขย่งปลายเท้า พุ่งตัวใส่ฉู่เฉินด้วยความเร็ว แข้งที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กเส้นของป้าอู๋ฟาดมาที่หัวของฉู่เฉิน!

ฉู่เฉินไม่กลัว เสี้ยววินาทีที่ป้าอู๋ฟาดแข้งเข้ามา เขาเบี่ยงตัวหลบ

เสียงดังโครม สิ่งที่ป้าอู๋เตะเข้าอย่างจัง กลับกลายเป็นเสาต้นหนึ่งที่ถูกเธอเตะจนหักครึ่ง

พอเห็นฉู่เฉินหลบได้ ป้าอู๋ตะลึงตาค้าง

ไอ้สวะนี่มีฝีมืออย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?

“มาอีกสิ”

ฉู่เฉินยิ้ม เขากระดิกนิ้วท้าทายป้าอู๋

เขาเองก็อยากทดสอบดูว่าพลังของเขาเป็นอย่างไรกันแน่

ป้าอู๋บันดาลโทสะ คำรามเสียงแหลม ก่อนจะกำหมัดเหวี่ยงใส่ฉู่เฉินอีกครั้ง

แต่ฉู่เฉินตั้งรับอย่างคล่องแคล่วราวกับวานร เขาปล่อยให้ป้าอู๋โจมตี และคอยหลบหลีกอย่างง่ายดาย

“ถึงตาผมแล้ว!”

ยั่วโมโหป้าอู๋มานาน ฉู่เฉินหมดความอดทน เหวี่ยงหมัดออกไป ซัดใส่หน้าอกของป้าอู๋เต็มๆ

ป้าอู๋ไม่ทันตั้งตัว ถูกซัดหน้าอกเต็มๆ ร่างบางกระเด็นออกไปล้มกระแทกพื้น ก่อนจะกระอักเลือดออกมา ไร้เรี่ยวแรงลุกยืน

“เป็นไปได้ยังไง? ทำไมแกมีพลังอย่างนี้ได้?” ป้าอู๋สีหน้าตื่นตะลึง ไม่อยากเชื่อสายตา

ฉู่เฉินยืนเอามือไพล่หลัง เดินมาหยุดตรงหน้าป้าอู๋ ยืนมองป้าอู๋จากที่สูง พูดว่า “ไม่นึกว่าป้าจะอ่อนแออย่างนี้ ไม่มีค่าอะไรให้พูดถึงเลยจริงๆ”

“แก!” ป้าอู๋โกรธจนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

ฉู่เฉินมีความสามารถแค่ไหน เธอรู้ดียิ่งกว่าใคร เขาไม่ต่างอะไรจากขยะชิ้นหนึ่ง ไร้เรี่ยวแรงถึงขั้นสู้นกที่ถูกมัดปีกยังไม่ได้ เวลาแค่คืนเดียว ไม่เพียงแค่แขนขาทั้งสี่ข้างกลับมาเป็นปกติ แม้แต่พลังก็เพิ่มขึ้นจนน่ากลัวขนาดนี้

“แกจะทำอะไร?”

ป้าอู๋ถามฉู่เฉินที่ตอนนี้กำลังยืนทำหน้าเจ้าเล่ห์อยู่ตรงหน้า

ฉู่เฉินหัวเราะในลำคอ ก่อนถามว่า “ป้าอู๋ ปีนี้ป้าอายุเท่าไรแล้ว?”

“สามสิบสามปี แกถามทำไม?” ป้าอู๋กุมหน้าอก อดทนต่อความเจ็บปวด พยายามจะลุกขึ้นหลายครั้ง แต่ก็พบว่าร่างกายของเธออ่อนปวกเปียก ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

“ยังไม่เคยนอนกับผู้ชายใช่ไหม?” ฉู่เฉินยิ้มถาม ตวัดสายตามองป้าอู๋ที่ล้มอยู่บนพื้น สายตามีเลศนัย

ไม่ผิดจริงๆ ผู้หญิงยิ่งอายุมาก ยิ่งน่าหลงใหล

หนำซ้ำ อายุสามสิบสามปียังไม่นับว่าแก่ กลับเป็นช่วงอายุที่สวยงามที่สุดของผู้หญิง

ผู้หญิงอย่างป้าอู๋ อยู่กับหลิ่วชิงเหอและหลิ่วหรูเยียนอาจดูไม่มีอะไร แต่ถ้าอยู่ในฝูงชนทั่วไป ก็ถือว่าเป็นคนสวยแนวหน้าคนหนึ่งเลยทีเดียว

แต่ก่อน เพราะสองแม่ลูกหลิ่วชิงเหอกับหลิ่วหรูเยียน ฉู่เฉินจึงไม่เคยสังเกตเห็นความสวยของป้าอู๋ มาดูตอนนี้ นับว่าเป็นของดีหาตัวจับยากเหมือนกัน

ขาคู่นั้นทั้งยาวและตรง

บวกกับฝึกวิชามานาน ดูออกเลยว่าเรือนร่างของป้าอู๋ต้องกระชับได้สัดส่วน ไร้ไขมันส่วนเกินแน่นอน

โดยเฉพาะหมัดเมื่อกี้ ที่ทำให้เสื้อตรงหน้าอกของเธอฉีกขาด ทำให้เห็นผิวที่ขาวเนียนเหมือนหิมะ และหุบเหวที่ลึกจนแทบมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

ป้าอู๋นิ่งค้าง แววตาตกตะลึง เห็นฉู่เฉินจ้องเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ รีบตวาดเสียงดัง “ไอ้เด็กเปรต! แกคิดจะทำอะไร?”

“เปล่า แค่จะช่วยให้ป้ากลายเป็นผู้หญิงอย่างแท้จริง!”

ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็น เขาคว้าเข้าที่ข้อเท้าของป้าอู๋ ก่อนจะลากเธอเข้าไปในบ้านที่เขาเพิ่งทำความสะอาดเสร็จ
Comments (3)
goodnovel comment avatar
สรวุฒิ
เยี่ยมมาก สำหรับพระเอก และนางเอก
goodnovel comment avatar
ทศพร นานามั่นคง
พระเอกเรานี่ หื่นเสียจริง ถูกใจผมมาก ดีกว่าหลายๆ คนที่รักเดียวใจเดียว ที่อยู่กันมาหลายปีก็ไม่ยอมเผด็จสวาทเสียที
goodnovel comment avatar
Back Diller
พระเอกลากป้าอู๋ไปทำอะไรรู้ๆกันอยู่
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 11

    “โอ๊ย! สารเลว! แกปล่อยฉันนะ! แกกล้าทำเรื่องน่าขยะแขยงเช่นนี้กับฉัน ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!” ป้าอู๋ร้องออกมาด้วยความตกใจเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะกล้าลงมือกับเธอเช่นนี้เจ้าคนสารเลว!โครม...หลังจากนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้นมาจากห้อง พร้อมทั้งเสียงร้องขอชีวิตของป้าอู๋“ฉู่เฉิน อย่า ฉันขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”อย่างไรก็ตาม หลังจากขอความเมตตาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นมาเป็นระยะ และในช่วงท้ายของการขอความเมตตาของป้าอู๋ ก็กลายเป็นเสียงครวญครางที่ส่งเสียงดังราวกับอารมณ์เร่าร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ 20 กว่าปี แค่ครู่เดียวก็ปลดปล่อยออกมา!หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเดินออกมาด้วยหน้าระรื่นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “หากไม่ใช่เพราะป้า ผมคงไม่มีโอกาสอย่างนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะปล่อยป้าไปแล้วกัน รีบไสหัวไปซะ!”ภายในห้องป้าอู๋นอนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าถูกฉีกไม่เป็นชิ้นดี ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยว โดยเฉพาะบั้นท้ายที่เธอภาคภูมิใจนั้นเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ!เธอกัดฟันโกรธ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น“ไอ้เดรัจฉาน! แกรังแกฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ป้าอู๋สบถออกมารุนแรง ฝืนร่างกายล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 12

    เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมาฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”ฉู่เฉิน?เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”ฉู่เฉินกวาดสายต

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 13

    “ที่รัก! จัดการมัน รีบจัดการมันสิคะ!”เฉาถิงถิงพูดคะยั้นคะยออยู่ข้างๆ เธอหวังแต่เพียงว่าจ้าวหู่จะบดขยี้ฉู่เฉินและหลิวเฉียงลงไปที่พื้นทันที!จ้าวหู่ทำราวกับไม่ได้ยิน รีบวิ่งไปข้างหน้า โค้งตัวลงไป “คุณคือคุณฉู่ ฉู่เฉินใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้ว พยักหน้าตอบ “ใช่”“แหมๆ คุณฉู่จริงด้วย สวัสดีครับๆ ผมชื่อจ้าวหู่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ ขอโทษที่ไม่ได้มาต้อนรับนะครับๆ”จ้าวหู่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่นับถือและประจบประแจงภาพนี้ทำให้ฉู่เฉินงุนงงเล็กน้อยหลิวเฉียงก็เช่นกันคนที่ตกตะลึงและสับสนที่สุดคือเฉาถิงถิง“ที่รัก คุณทำอะไรเนี่ย? คุณฉู่อะไรกัน? คุณบ้าไปแล้วเหรอ? เขาคือไอ้คนเหลือขอที่ตบตีฉันเมื่อกี้นะคะ! คุณรีบจัดการมันสิ!”เฉาถิงถิงพูดอย่างร้อนรน กระทืบเท้า หน้าอกใหญ่และอวบอิ่ม ก็สั่นขึ้นลงทันที“เพียะ!”เป็นผลให้จ้าวหู่หันหลังกลับมาไปและตบเข้าไปที่หน้าเฉาถิงถิง และดุว่า “อวดดี! ไอ้คนเหลือขอเหรอ? เขาคือคนที่ผมบอกคุณว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่ผู้นำตระกูลกู้ยังต้องเคารพ!”“ฉู่เฉิน คุณฉู่!”“คุณยังไม่รีบมาขอโทษคุณฉู่อีก!”จ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 14

    ฉู่เฉินหัวเราะอย่างนึกสนุกและพูดว่า “ผู้จัดการจ้าวไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?"คิ้วของจ้าวหู่ขมวดมุ่น ฉู่เฉินยังคงพูดต่อว่า “ตอนนี้ผู้จัดการจ้าวอายุสี่สิบแล้วใช่ไหมครับ หลายปีมานี้ที่มีลูกไม่สำเร็จ ไม่เคยสงสัยตัวเองเหรอ?”“หากคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดูได้”“เมื่อถึงเวลานั้น เด็กในท้องใช่หรือไม่ใช่ลูกของคุณ ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจเองนะครับ”จ้าวหู่ได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกัดฟันพูดว่า “ได้! หวังว่าที่คุณฉู่พูดจะถูกต้องนะครับ หากผมไม่ได้มีปัญหาจริงๆ ล่ะก็ คุณฉู่ต้องคิดผลลัพธ์ให้ดีนะครับ!”พูดเสร็จ จ้าวหู่ก็หมุนตัวออกไปจากร้านอาหารเฉาถิงถิงเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ร้อนรนขึ้นมารั้งจ้าวหู่ “ที่รัก ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ ให้พวกเขาไปเถอะค่ะ”จ้าวหู่คิ้วขมวดอีกครั้ง เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฉาถิงถิง ในใจเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา“ไม่ได้ พวกเขาลบหลู่ผมได้ แต่จะมาลบหลู่ลูกของผมจ้าวหู่ไม่ได้!” จ้าวหู่พูดอย่างเย็นชา เดินหันหลังออกไป มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำการตรวจ หลังผลตรวจออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนขั้นสุด!ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต!หลังจากนั้นเขาก

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 15

    ฉู่เฉินนั่งขัดสมาธิ จนถึงช่วงเวลาเย็นของอีกวันหนึ่งฉู่เฉินลืมตาขึ้นมา พรูลมหายใจหยาบแล้วก็กำหมัด รู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง!จากนั้นฉู่เฉินก็ยืนขึ้น เพียงก้าวออกไปก็เคลื่อนตัวไปด้านข้างสองเมตร!เป็นความเร็วที่รวดเร็วมาก!จากนั้นเขาก็ต่อยออกไป และเสียงที่ทะลุผ่านอากาศก็ทำให้ได้ยินเสียงอึกทึกกำแพงที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ภายใต้การโจมตีของหมัด ก็พังทลายเป็นราบกองแข็งแกร่ง!ฉู่เฉินดีอกดีใจ!ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องกังวลว่าจะไม่สามารถโล่นแล่นในเจียงจงได้!หลิ่วชิงเหอ หลิ่วหรูเยียน พวกเธอรอก่อนเถอะ ฉันจะแก้แค้นพวกเธอให้สาสมฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะกลับมาอยู่ในมือของฉู่เฉินอีกครั้งถอนหายใจออกมา ฉู่เฉินรับโทรศัพท์จากกู้รั่วเสวี่ย“หมอเทวดาฉู่ คุณอยู่ที่ไหนคะ?” กู้รั่วเสวี่ยถามด้วยรอยยิ้มฉู่เฉินบอกที่อยู่ของตัวเองไปไม่นานเฟอร์รารี่สีแดงสุดเท่ เสียงมอเตอร์ดังมาจากระยะไกลและหยุดอยู่หน้าบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ประตูรถถูกเปิดออก กู้รั่วเสวี่ยสวมกระโปรงยาวถึงเข่าสีแดงเพลิงและแว่นกันแดด ก้าวลงจากรถด้วยขาเรียวสีขาวแล้วจึงออกมา งดงาม!ท่าทางสง่างามนี่มันระดับเทพธิ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 16

    โครม!เสียงดังสนั่นหวั่นไหว!สายตาของทุกคน หันไปมองฉู่เฉินที่อยู่ในมุมเป็นตาเดียวกันเต็มไปด้วยความสงสัย ตกตะลึง โกรธแค้น เหยียดหยามแล้วก็สะใจเกิดเรื่องอะไรขึ้น?เจ้าหมอนี่เป็นใครกันกล้าพูดจาแบบนี้ออกมาในงานเลี้ยงการแพทย์ของตระกูลกู้ อยากตายใช่ไหม!กู้รั่วเสวี่ยรีบกล่าวเตือนเสียงเบา “หมอเทวดาฉู่ คำบางคำอย่าพูดมั่ว ๆ จะดีกว่า นั่นคืออดีตผู้บัญชาการเว่ยของเขตทหารระดับมณฑลเลยนะ เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในมณฑล เป็นคนที่มีอำนาจล้นฟ้า ต่อให้เป็นตระกูลกู้ของฉัน ก็ยังให้ความเคารพเขา...”หญิงสาวที่มีรูปร่างอรชร บุคลิกเย็นชาโดดเด่นข้างเว่ยหนานเฟิงคนนั้น ท่าทางอายุราว ๆ นี่สิบสี่ถึงยี่สิบห้าปี ในเวลานี้ก็ขมวดคิ้วสวยเช่นเดียวกัน จ้องมองฉู่เฉินด้วยความไม่พอใจมากนี่ใคร?กล้าพูดจาแบบนี้ ต่อหน้าคุณปู่ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริง ๆสินะ!ส่วนหลิ่วหรูเยียนที่อยู่บนเวที ในเวลานี้ที่ได้ยินคำพูดของฉู่เฉิน สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที แทบอยากจะฉีกฉู่เฉินเป็นชิ้น ๆ!“ฉู่เฉิน! แกหมายความว่ายังไง? แกกำลังสงสัยในยาอายุวัฒนะที่ฉันคิดค้นอย่างนั้นเหรอ?”หลิ่วหรูเยียนตำหนิด้วยความไม่พอใจ คิ้วงามขมวดย่น

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 17

    ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หลิ่วชิงเหอโกรธจนหน้าอกสั่น พยายามดิ้นรนให้หลุดรอดจากเงื้อมมือของฉู่เฉิน!“ไอ้เดรัจฉาน! แกไปตายซะ!”หลิ่วชิงเหอยกเท้าขึ้นแล้วเตะเข้าไปที่ฉู่เฉินฉู่เฉินยกมือขึ้น คว้าต้นขาขาวนุ่มนิ่มของเธอเอาไว้ กล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทำไม รีบร้อนขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่า พวกเราจะทำกันตรงนี้เลย?”“แกปล่อยนะ!”หลิ่วชิงเหอโมโห พยายามจะชักขาของตนเองกลับ ยกมือขึ้น กำลังจะสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่แก้มของฉู่เฉินผลปรากฏว่า ทันทีที่ยกมือขึ้น ก็ถูกฉู่เฉินคว้าเอาไว้ทันทีตอนนี้ หลิ่วชิงเหอถูกฉู่เฉินควบคุมเอาไว้ ขยับเขยื้อนไม่ได้สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกว่าได้รับความเหยียดหยามมากที่สุดก็คือ ไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินกลับชิดเข้ามา ชั่วขณะ หลิ่วชิงเหอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันเร่าร้อนของความเป็นชายปะทะเข้าใส่ตัวเธอน่ารังเกียจ!มันคิดจะทำอะไร?มันคงจะไม่คิดจะลงมือกับเธอตรงนี้หรอกใช่ไหม?กรี๊ด ๆ ๆ!ระยำ!ไอ้เดรัจฉานนี่“ฉู่เฉิน แกคิดจะทำอะไร? ที่นี่คือเฉียนหลงวิลล่า! แกปล่อยฉัน!” หลิ่วชิงเหอร้อนใจ พยายามดิ้นรน แต่ยิ่งดิ้นเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ฉู่เฉินก็ถูกหลิ่วชิงเหอทำให้เลือดร้อนพลุ่งพล่าน“หลิ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 18

    “ฉัน...”หลิ่วหรูเยียนล้มลงไปนั่งบนพื้น ตัวสั่นเทาไปทั่วทั้งตัว สีหน้าซีดขาว ตื่นตระหนกเป็นอย่างมากถ้าจะให้เธอไปร้องขอคนไร้น้ำยาอย่างฉู่เฉิน?แบบนั้นสู้ฆ่าเธอทิ้งซะดีกว่าหลิ่วหรูเยียนจะเป็นบ้าแล้ว“มัวอึ้งอยู่ทำไม? ยังไม่ไปอีก!” เว่ยฉิงตะคอกเสียงเอาแต่ใจหลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างโซซัดโซเซ ภายในหัวสมองว่างเปล่า เดินออกจากห้องโถง วิ่งเหยาะ ๆ จนชนเข้ากับหลิ่วชิงเหอ“หรูเยียน เกิดอะไรขึ้น?” หลิ่วชิงเหอเห็นท่าทางของหลิ่วหรูเยียน ภายในใจแอบรู้สึกไม่ดี“แม่คะ ฮือ ๆ ๆ เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องแล้ว ยาอายุวัฒนะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อดีตผู้บัญชาการเว่ยอาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้วก็หมดสติไปแล้ว...” ขาทั้งสองข้างของหลิ่วหรูเยียนอ่อนยวบ ล้มลงไปนั่งบนพื้นอีกครั้ง พิงหลิ่วชิงเหอร้องไห้โฮออกมาเสียงดังหลิ่วชิงเหอย่อตัวลงไป ประคองหลิ่วหรูเยียนเอาไว้ ภายในใจแอบคิดว่าเป็นไปตามคาดจริง ๆโดนไอ้ระยำอย่างฉู่เฉินพูดถูกจนได้“อย่าร้อนใจไป แม่เข้าไปดูหน่อย” หลิ่วชิงเหอกล่าว ลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องโถงตอนที่เห็นฉากดังกล่าว รวมทั้งอดีตผู้บัญชาการเว่ย ที่นอนหมดสติอยู่บนเก้าอี้วีลแชร์ เธอในฐานะหญิง

Latest chapter

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 920

    ปัง!ในขณะนี้ ภายในร่างของฉู่เฉินได้เกิดเสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อกระดูกและเส้นลมปราณมีปราณจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกเย่หัวที่ฟื้นคืนพลังบางส่วน เบิกตากว้างมองด้วยความไม่เชื่อไอ้หนูคนนี้… กำลังทะลวงระดับ?!ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่กล้าเชื่อว่าหลังจากฉู่เฉินได้รับบาดเจ็บหนักจะสามารถทะลวงระดับได้นี่…นี่ยังเป็นคนอยู่ใช่ไหมเนี่ย?!แม้ว่าเขาจะอยากขัดขวางฉู่เฉิน แต่ปัญหาคืออาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ ทำให้ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้เลยในขณะนี้ จิตสำนึกของฉู่เฉินได้รวมรวมอยู่ที่จุดหนึ่งอย่างสมบูรณ์แล้ว บุกทะลวงขีดจำกัดของระดับพลังอย่างบ้าคลั่งหลิ่วหรูเยียนเองก็มีสีหน้าตกใจและจ้องไปที่ฉู่เฉิน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ทำได้แค่ถือกระบี่โดยสัญชาตญาณและยืนอยู่ข้างหน้าฉู่เฉิน“แก... แกอย่ามานะ ฉัน... ฉันก็กล้าฆ่าคนเหมือนกันนะ”ใบหน้าเล็กของหลิ่วหรูเยียนขาวซีด ตัวสั่นไปทั้งร่าง ถือกระบี่ยาวด้วยมือที่สั่นเทาชี้ไปที่เย่หัวและกล่าวออกมาเย่หัวยิ้มเย็น แม้กระทั่งคร้านที่จะมองหลิ่วหรูเยียนอีกผู้หญิงโง่คนนี้ ถ้าตอนนี้เธอใช้ดาบแทงเขา เกรงว่าเขาคงตายอย่างน่าอนาถอยู่ที่นี่แน่แต่โชคดีที่เธอไม่กล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 919

    “เย่หัวเอามือกุมหน้าอกอย่างไม่อยากเชื่อ แม้แต่ถอยหลังไปหลายก้าวและใช้กระบี่ชิงหลงค้ำพื้นเอาไว้ จึงฝืนไม่ล้มลงไปได้แค่ก! ในวินาทีต่อมา เย่หัวและฉู่เฉินก็กระอักเลือดออกแทบจะพร้อมกัน “นี่เป็นไปได้ยังไง?”เย่หัวเพียงรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เจ็บปวดจนกระทั่งเขาไม่มีแรงพอที่จะยกกระบี่ขึ้นได้ ผู้บำเพ็ญอิสระระดับสร้างรากฐานชั้นที่สี่ เหตุใดถึงสามารถทำร้ายเขาได้?!แค่ก!เย่หัวรู้สึกถึงเลือดลมแปรปรวน ก่อนจะกระอักเลือดออกมาอีกคำใหญ่แต่ฉู่เฉินในขณะนี้ก็ไม่ได้ต่างกันนัก เมื่อกี้นี้เขารับกระบี่ของเย่ฮัวอย่างเต็มแรง แม้ภายนอกดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่แท้จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น แค่แรงสะท้อนก็ทำให้แขนทั้งสองข้างของฉู่เฉินชาไปหมดแล้ว และภายในจุดตันเถียนก็ยิ่งรู้สึกถึงเลือดลมพลุ่งพล่านถ้าไม่ใช่เพราะเงามังกรในร่างกายที่ช่วยต้านการโจมตีไว้มากกว่าครึ่ง เกรงว่าตอนนี้ฉู่เฉินคงจะศีรษะขาดจากร่างกายไปแล้ว “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก วังเทียนเจี้ยนของพวกคุณก็แค่นี้แหละ มาอีกสิ!”ฉู่เฉินพยายามอดทนกับเลือดลมที่พลุ่งพล่านในร่างกายและยิ้มกว้างออกมา ความจริงแล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 918

    ดูเหมือนว่าฉู่เฉินที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ปัดป้องเจตจำนงกระบี่ที่พุ่งเข้ามาไปพลาง ขณะเดียวกันก็พูดเหน็บแนมว่า “ลูกเล่นนี่ใช้ได้เลยนี่ แต่เสียดายที่วิชาแมวสามขานี้ยังไม่เข้าตาผม”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เย่หัวยิ้มอย่างภูมิใจและเงยหน้าขึ้นกล่าวว่า “ไม่เข้าตาแก? มากสุดสามลมหายใจ ฉันจะทำให้เลือดของแกเลือดกระเซ็นไปห้าก้าว!”ทันทีที่พูดจบ เย่หัวก็เร่งความเร็วในการโจมตีมากขึ้นในเสี้ยววินาที แม้แต่อากาศโดยรอบล้วนปกคลุมไปด้วยลมกระบี่ที่หนาวเหน็บฉู่เฉินรับมืออย่างเยือกเย็นไปพลาง ขณะเดียวกันก็กำลังมองหาจุดอ่อนในท่าทางของเย่หัวความจริงแล้ว ตาข่ายกระบี่ที่ดูเหมือนจะยุ่งยากนี้ไม่ได้ไร้ช่องโหว่ แต่คนทั่วไปยังไม่ทันจะสังเกตเห็นจุดอ่อนก็ถูกพลังอำนาจของเย่หัวทำให้ตกใจกลัวโชคดีที่ในมรดกของมังกรเฒ่ามีทักษะกายาที่เรียกว่าเจ็ดก้าวดารา แม้จะเป็นทักษะกายาที่ใช้หนีเอาชีวิตรอด แต่ก็ยังเป็นวิชาระดับสวรรค์และถึงแม้ว่าฉู่เฉินจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบในขณะนี้ แต่ก็สามารถมองเห็นช่องโหว่ในกระบวนกระบี่ของเย่หัวและลอบคำนวณหาจังหวะทำลายการโจมตีในวินาทีต่อมา ฉู่เฉินเปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหัน แทงกร

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 917

    ในมุมมองของเย่หัว ฉู่เฉินที่เป็นแค่คนธรรมดาระดับสร้างรากฐานชั้นสี่ ไม่มีค่าพอที่เขาจะลงมือด้วยซ้ำเพราะเย่หัวเองมีพื้นเพมาจากหนึ่งในสิบสำนักใหญ่อย่างวังเทียนเจี้ยน!วิชาที่สืบทอด ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่าฉู่เฉินที่เป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระตัวเล็กๆ สักกี่เท่าแค่เรื่องระดับ ก็เหนือกว่าฉู่เฉินหนึ่งชั้นแล้วแม้จะเป็นการต่อสู้ในระดับเดียวกัน ผู้บำเพ็ญอิสระทั่วไปก็ไม่ใช่คู่มือของศิษย์จากสำนักใหญ่เลยและในมุมมองของเขา หลิงเสวี่ยให้ฉู่เฉินทำลายพลังของตัวเอง ถือเป็นความกรุณาแล้วถ้ายึดตามตามความต้องการของเขา คนโง่เง่าหัวแข็งที่กล้าท้าทายศิษย์พี่หลิงเสวี่ยแบบนี้ก็ควรถูกดาบฟันจนตายถึงจะถูก“ถ้าคุณตัดแขนขาทั้งสองข้างต่อหน้าผม ผมก็อาจจะพิจารณาไว้ชีวิตคุณก็ได้”ฉู่เฉินวางหลิ่วหรูเยียนในอ้อมแขนลง แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น“แกพูดว่าอะไรนะ?”เย่หัวเบิกตาขึ้นทันที ดวงตาปล่อยแสงเย็นเยียบมองไปที่ฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกเป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระ ใครให้ความกล้าหาญแกมาพูดจาไร้สาระกับฉันที่เป็นศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนอย่างนี้!”เมื่อคำว่าวังเทียนเจี้ยนสามคำถูกพูดออกมา สีหน้าของเย่หัวยิ่งแสดงความภูมิใจมากข

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 916

    หยางเทียนหลงและคนอื่นๆ ก็เดินตามหลังฉู่เฉินไป พร้อมเดินไปทางลิฟต์ด้วยกันหลิงเสวี่ยมองแผ่นหลังของฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนด้วยสายตาที่เย็นชา ดวงตาส่องประกายแสงเยือกเย็นสองเส้น! “คุณหลิงเสวี่ยครับ ไอ้หนูคนนี้อวดดีเกินไปแล้ว ต้องสั่งสอนให้เขารู้สำนึกบ้างแล้ว” เหล่าคนที่นำโดยเฉียนฮ่าวตงมองตามแผ่นหลังของฉู่เฉินที่เดินห่างออกไป เกลียดจนกัดฟันกรอด“ศิษย์พี่ ต้องทำ...”หลิงเฟิงก็ก้าวเดินไปข้างหน้า จ้องไปที่แผ่นหลังของฉู่เฉินและคนอื่นๆ พลางทำท่าตัดคอแล้วกล่าวเสียงเย็นหลิงเสวี่ยสูดหายใจเข้าลึก ทันใดนั้นใบหน้าสวยมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น กล่าวว่า “ช่างเถอะ งานเลี้ยงยังต้องดำเนินต่อ อย่าให้คนที่ไม่รู้คุณค่ามาทำลายบรรยากาศสนุกของทุกคนเลย”พูดจบ หลิงเสวี่ยก็เดินกลับไปนั่งบนโซฟา โบกมือให้หลิงเฟิงและกล่าวว่า “อีกเดี๋ยว ให้คนไปสั่งสอนฉู่เฉินสักหน่อย”“และจำกัดเวลาให้ส่งมอบหยกโลหิตกิเลนภายในหนึ่งเดือน ไม่งั้นจะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”หลิงเฟิงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าหนักๆ แล้วกล่าวว่า “ศิษย์พี่ ศิษย์พี่ความหมายว่า…”“ทำลายพลังของเขาก่อนเถอะ”หลิงเสวี่ยพูดด้วยความมั่นใจอย่างมากแค่ระดับสร้างรา

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 915

    เมื่อรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนถาโถมเข้าใส่อย่างฉับพลัน หลิ่วหรูเยียนก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน ร่างกายแนบชิดกับฉู่เฉินแน่นตามสัญชาตญาณอย่าหลงกลรอยยิ้มบนใบหน้าของหลิงเสวี่ย แต่รอบตัวกลับแผ่เจตนาฆ่าอย่างรุนแรงจนยากจะปกปิดฉู่เฉินยิ้มบางแล้วกล่าวว่า “ฆาตกร ย่อมถูกคนฆ่าตอบ”“ไม่ว่าเกาเซิ่งอี้จะเป็นสุนัขของใคร กล้ามาจ้องสมบัติล้ำค่าของตระกูลฉู่ของผม ก็สมควรได้รับโทษ ผมฆ่าเขาแล้วจะทำไมครับ”ซี้ดๆ!เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนรอบข้างต่างสูดลมหายใจเข้าลึกแม้ฉู่เฉินจะมีฝีมือ แต่หลิงเสวี่ยเป็นตัวแทนของหอการค้ากิเลนในมณฑลเจียงเขากล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้กับหลิงเสวี่ยได้ยังไง?“ฉู่เฉิน ไม่ว่าจะพูดยังไงก็เป็นความผิดของคุณก่อน คุณหลิงเสวี่ยก็ไม่ได้ถือโทษ กลับยังเชื้อเชิญอย่างอบอุ่น การขอโทษคุณหลิงเสวี่ย ก็เป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่เหรอครับ?”ในขณะนี้ ในฝูงชน มีชายวัยกลางคนผิวขาวสะอาดอายุราวสามสิบกว่าก้าวออกมา มองฉู่เฉินด้วยสีหน้ายิ้มเยาะแล้วกล่าวออกมาเมื่อคำพูดของเขาหยุดลง ผู้มีอิทธิพลจำนวนไม่น้อยที่อยู่ข้างหอการค้ากิเลนต่างพากันเปิดปากล่าวประณามฉู่เฉิน“พูดจาไร้สาระ!”ในขณะที่ท

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 914

    อย่างไรเสียงานเลี้ยงนี้จัดโดยหอการค้ากิเลน ใครจะกล้าหักหน้า?“ทั้งสองท่าน กรุณาแสดงบัตรเชิญของพวกคุณด้วยครับ”เมื่อมาถึงประตู ชายหนุ่มสองคนสวมเสื้อแขนสั้นสีดำและตัดผมสั้นก็มาขวางทางของฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียน“นี่คือบัตรเชิญของเรา เชิญตรวจสอบได้เลยค่ะ”หลิ่วหรูเยียนกล่าว พลางหยิบบัตรเชิญสองใบออกจากกระเป๋าสะพายแล้วยื่นให้ไปหนึ่งในชายผมสั้นรับบัตรเชิญไปเปิดดู กวาดตามองชื่อบนนั้น ความเย็นเยือกในแววตาวาบผ่าน จากนั้นจึงกล่าวกับฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนว่า “ทั้งสองท่านเชิญด้านนี้ครับ”ขณะพูด ชายผมสั้นก็พาฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนเข้าไปในลิฟต์ส่วนตัวที่อยู่ข้างๆ จากนั้นกดปุ่มชั้นสิบเอ็ด ก่อนจะส่งยิ้มให้และเดินจากไปแต่ในเสี้ยววินาทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาและกล่าวกับอีกฝ่ายว่า “ศิษย์พี่หลิงเฟิง ฉู่เฉินมาถึงแล้วครับ”“อืม ฉันรู้แล้ว”หลิงเฟิงตอบรับเสียงเรียบก่อนจะวางวิทยุสื่อสารลง รีบก้าวไปหน้าโซฟากลางห้องโถงจัดเลี้ยง ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบข้างหูหลิงเสวี่ยอยู่ครู่หนึ่งหลิงเสวี่ยพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ หันไปยังประตูทา

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 913

    ไม่นานนัก ข่าวหอการค้ากิเลนที่เข้ามามีบทบาทในมณฑลเจียงได้แพร่กระจายไปทั่ววงการของมณฑลเจียงคนจำนวนไม่น้อยที่เคยเข้าร่วมกับหอการค้าราชันมังกรก็ล้วนอยู่ในความหวาดระแวงเนื่องจากอิทธิพลของหอการค้ากิเลนไม่ใช่สิ่งที่นักธุรกิจมั่งคั่งเหล่านี้จะสามารถต้านทานได้แม้แต่หอการค้าราชันมังกรเอง เมื่อเผชิญหน้ากับหอการค้ากิเลนก็ไม่อาจต้านทานได้เช่นกันดังนั้น หลังจากคนจำนวนไม่น้อยชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียแล้ว จึงเลือกที่จะถอนตัวออกจากหอการค้าราชันมังกรเพื่อปกป้องตัวเองในเวลาไม่นาน โลกธุรกิจของมณฑลเจียงล้วนมีท่าทีเหมือนพายุฝนกำลังจะมาเยือนภายในคฤหาสน์ตระกูลเซียว เซียวจี้เซียนถือบัตรเชิญของหลิงเสวี่ยไว้ พลางมองไปที่เซียวถิงฮั่นด้วยสีหน้าลำบากใจ“พ่อครับ ความหมายของหอการค้ากิเลนชัดเจนมากแล้ว กำลังบีบให้พวกเราเลือกข้าง”“พ่อว่าคุณฉู่จะสู้กับหอการค้ากิเลนได้ไหมครับ?”ตระกูลเซียวเพิ่งเข้าร่วมฉู่เฉินไปหมาดๆ หากในเวลานี้หักหลังฉู่เฉินและกันไปเข้าข้างหอการค้ากิเลนอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คงไม่ต้องสงสัยถ้าฉู่เฉินพ่ายแพ้ก็แล้วไป แต่ถ้ากำจัดหอการค้ากิเลนเหมือนที่เคยกำจัดเกาเซิ่งอี้ งั้นผู้โชคร้ายค

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 912

    ความจริงแล้ว สิ่งที่สวีปินพูดก็เป็นเรื่องจริง ในสถานการณ์ตอนนั้น ใครจะกล้าพูดคำว่า “ไม่” กันล่ะ? เขาเชื่อว่าฉู่เฉินจะลงมือโดยไม่ลังเลแน่นอนส่วนเรื่องการชำระบัญชีกับหอการค้ากิเลน นั่นเป็นเรื่องของอนาคตอีกอย่าง กฎหมายไม่อาจลงโทษฝูงชนได้!หอการค้าตะวันออกใหญ่ทั้งหมด แค่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมก็มีมากกว่าร้อยคนแล้ว หอการค้ากิเลนคงไม่สามารถฆ่าทุกคนได้หรอกใช่ไหม?“โอ้? หมายความว่าตอนที่เกาเซิ่งอี้ถูกฆ่า คุณก็อยู่ที่นั่นและเห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเองงั้นเหรอ?”หลิงเสวี่ยขมวดคิ้ว ดวงตาค่อยๆ เย็นชาลง พร้อมตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเย็น“ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่เห็น วันนั้นทุกคนที่ไปร่วมงานฉลองครบรอบต่างก็เห็นกันหมด แต่จะทำอะไรได้ล่ะครับ? พวกเราเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา จะไปช่วยคุณเกาได้ยังไง...”สวีปินกล่าวแก้ตัวด้วยสีหน้าเศร้าโศก“งั้นฉันจะถามคุณ ใครเป็นคนฆ่าเกาเซิ่งอี้?”หลิงเสวี่ยลุกขึ้นช้าๆ มือหยกเรียวกดลงบนไหล่ของสวีปินเบาๆทันใดนั้น ความเย็นเยือกถึงกระดูกก็กลืนร่างของสวีปินไปจนหมด“คะ...คือชายคนหนึ่งชื่อฉู่เฉิน และดูเหมือนว่าบนตัวของฉู่เฉินจะมีหยกโลหิตกิเลนที่คุณเกาตามหาอยู่ด้วยครับ”สวีปิ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status