ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หลิ่วชิงเหอโกรธจนหน้าอกสั่น พยายามดิ้นรนให้หลุดรอดจากเงื้อมมือของฉู่เฉิน!“ไอ้เดรัจฉาน! แกไปตายซะ!”หลิ่วชิงเหอยกเท้าขึ้นแล้วเตะเข้าไปที่ฉู่เฉินฉู่เฉินยกมือขึ้น คว้าต้นขาขาวนุ่มนิ่มของเธอเอาไว้ กล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทำไม รีบร้อนขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่า พวกเราจะทำกันตรงนี้เลย?”“แกปล่อยนะ!”หลิ่วชิงเหอโมโห พยายามจะชักขาของตนเองกลับ ยกมือขึ้น กำลังจะสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่แก้มของฉู่เฉินผลปรากฏว่า ทันทีที่ยกมือขึ้น ก็ถูกฉู่เฉินคว้าเอาไว้ทันทีตอนนี้ หลิ่วชิงเหอถูกฉู่เฉินควบคุมเอาไว้ ขยับเขยื้อนไม่ได้สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกว่าได้รับความเหยียดหยามมากที่สุดก็คือ ไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินกลับชิดเข้ามา ชั่วขณะ หลิ่วชิงเหอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันเร่าร้อนของความเป็นชายปะทะเข้าใส่ตัวเธอน่ารังเกียจ!มันคิดจะทำอะไร?มันคงจะไม่คิดจะลงมือกับเธอตรงนี้หรอกใช่ไหม?กรี๊ด ๆ ๆ!ระยำ!ไอ้เดรัจฉานนี่“ฉู่เฉิน แกคิดจะทำอะไร? ที่นี่คือเฉียนหลงวิลล่า! แกปล่อยฉัน!” หลิ่วชิงเหอร้อนใจ พยายามดิ้นรน แต่ยิ่งดิ้นเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ฉู่เฉินก็ถูกหลิ่วชิงเหอทำให้เลือดร้อนพลุ่งพล่าน“หลิ
“ฉัน...”หลิ่วหรูเยียนล้มลงไปนั่งบนพื้น ตัวสั่นเทาไปทั่วทั้งตัว สีหน้าซีดขาว ตื่นตระหนกเป็นอย่างมากถ้าจะให้เธอไปร้องขอคนไร้น้ำยาอย่างฉู่เฉิน?แบบนั้นสู้ฆ่าเธอทิ้งซะดีกว่าหลิ่วหรูเยียนจะเป็นบ้าแล้ว“มัวอึ้งอยู่ทำไม? ยังไม่ไปอีก!” เว่ยฉิงตะคอกเสียงเอาแต่ใจหลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างโซซัดโซเซ ภายในหัวสมองว่างเปล่า เดินออกจากห้องโถง วิ่งเหยาะ ๆ จนชนเข้ากับหลิ่วชิงเหอ“หรูเยียน เกิดอะไรขึ้น?” หลิ่วชิงเหอเห็นท่าทางของหลิ่วหรูเยียน ภายในใจแอบรู้สึกไม่ดี“แม่คะ ฮือ ๆ ๆ เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องแล้ว ยาอายุวัฒนะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อดีตผู้บัญชาการเว่ยอาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้วก็หมดสติไปแล้ว...” ขาทั้งสองข้างของหลิ่วหรูเยียนอ่อนยวบ ล้มลงไปนั่งบนพื้นอีกครั้ง พิงหลิ่วชิงเหอร้องไห้โฮออกมาเสียงดังหลิ่วชิงเหอย่อตัวลงไป ประคองหลิ่วหรูเยียนเอาไว้ ภายในใจแอบคิดว่าเป็นไปตามคาดจริง ๆโดนไอ้ระยำอย่างฉู่เฉินพูดถูกจนได้“อย่าร้อนใจไป แม่เข้าไปดูหน่อย” หลิ่วชิงเหอกล่าว ลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องโถงตอนที่เห็นฉากดังกล่าว รวมทั้งอดีตผู้บัญชาการเว่ย ที่นอนหมดสติอยู่บนเก้าอี้วีลแชร์ เธอในฐานะหญิง
“เธอลองไตร่ตรองดูเอาเองแล้วกัน ฉันยังไงก็ได้”สะอึก!หัวใจของหลิ่วหรูเยียนสั่นเทา สีหน้าซับซ้อนมากถ้าจะต้องคุกเข่าให้คนไร้น้ำยาอย่างฉู่เฉินจริง ๆ เธอคงนอนหลับไม่สนิทไปเป็นครึ่งปีแน่ ๆไอ้ขยะนี่ก็คือคนระยำ!ทำให้เธอรู้สึกคลื่นเหียนเมื่อเห็นว่าเวลาที่เวียนผ่านไป ฉู่เฉินยังคงนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอกสบายใจเช่นเดิมและในเวลานี้ ที่ทางเดินด้านนอก มีเสียงฝีเท้าร้อนรนดังลอยมาไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นเว่ยฉิงที่พาคนเดินมาที่นี่“หรูเยียน! อย่าทำตัวเอาแต่ใจเหมือนเด็ก ตอนนี้ยังไม่มีคนเห็น ลูกอยากจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่าลูกคุกเข่าให้มันใช่ไหม?” หลิ่วชิงเหอกระซิบที่ข้างหูของหลิ่วหรูเยียน“ถ้าอดีตผู้บัญชาการเว่ยตายไป แม่กับลูก คงมีชีวิตรอดไม่พ้นคืนนี้”หลิ่วหรูเยียนตกใจขวัญเสียไปแล้ว สีหน้าซีดขาว โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าวุ่นวายที่ทางเดินด้านนอก เป็นเหมือนกับคาถาเร่งชีวิต‘ตุบ!’ภายใต้แรงกดดันทางจิตใจ หลิ่วหรูเยียนงอเข่าอันสูงส่งของเธอลงไป คุกเข่าลงต่อหน้าฉู่เฉิน เบือนหน้าบุ้ยปาก “ฉู่เฉิน แกรีบช่วยชีวิตอดีตผู้บัญชาการเว่ยสิ!”เมื่อเห็นท่าทางที่เย่อหยิ่งไม่เต็มใจของหลิ่วหรูเยียน ฉู่เ
ทางด้านนี้ ฉู่เฉินออกมาจากห้องก็ได้พบกับเว่ยฉิงและคนอื่น ๆ ที่มาตามหา“คุณฉู่...” เว่ยฉิงเอ่ยปากพูด สีหน้าร้อนใจฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “เวลามีจำกัด ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ไปที่ห้องโถงกันเถอะ”เมื่อเว่ยฉิงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้า หลีกทางให้จากนั้นฉู่เฉินก็มาถึงที่ห้องโถงเป็นคนแรกหลังจากที่เห็นอาการของเว่ยหนานเฟิงแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกันอาการของเว่ยหนานเฟิง สาหัสกว่าที่เขาคิดเอาไว้หน่อย“คุณฉู่ ยังสามารถช่วยชีวิตของคุณปู่ของฉันได้ไหมคะ?” เว่ยฉิงสีหน้าร้อนใจ กล่าวถามด้วยเบ้าตาที่แดงก่ำถ้าหากคุณปู่เป็นอะไร เธอจะทำอย่างไรดีฉู่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ “มีผมอยู่ วางใจได้ สามารถช่วยได้”เมื่อได้ยินประโยคนี้ เว่ยฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อยแต่ว่า หลิ่วหรูเยียนที่รีบเดินเข้ามา กลับเอ่ยปากกล่าวด้วยคำพูดดูถูก “ฉู่เฉิน แกเลิกเสแสร้งได้แล้ว ถ้าช่วยไม่ได้ แกต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด!”ช่วยไม่ได้ สถานะของเว่ยหนานเฟิงสูงส่งเกินไป เธอจำเป็นต้องคิดหาหนทางผลักความรับผิดชอบออกไปถ้าหากฉู่เฉินไม่ช่วย ถ้าคืนนี้เว่ยหนานเฟิงเป็นอะไรขึ้นมา ก็คือความรับผิดชอบของเธอหลิ่วหรูเย
ท่าทางเข้าทีแต่เธอยังคงดูถูกฉู่เฉิน คิดว่าฉู่เฉินแสดงละครเพื่อเรียกร้องความสนใจหลายนาทีผ่านไป ฉู่เฉินถอนหายใจ ยกมือวาดกลางอากาศ เข็มหลายสิบเล่มถูกดึงกลับมา“เสร็จแล้ว อดีตผู้บัญชาการเว่ยไม่เป็นอะไรแล้ว พักรักษาตัวไม่กี่วันก็หาย” ฉู่เฉินบอก เขาเช็ดเหงื่อที่มุมหน้าผากศาสตร์แห่งการฝังเข็มที่เขาใช้เมื่อกี้ เผาผลาญพลังวิญญาณที่จุดตันเถียนของเขาไปไม่น้อย“จริงเหรอคะ?” เว่ยฉิงถามอย่างดีใจฉู่เฉินพยักหน้าตอนนี้เอง หลิ่วหรูเยียนถลาเข้ามา ตะโกนลั่น “เป็นไปไม่ได้! ฉันไม่เชื่อ! ฉู่เฉิน แกกล้าดียังไงแค่ฝังเข็มสองสามเล่มก็บอกว่าตัวเองเป็นผู้ช่วยชีวิตอดีตผู้บัญชาการเว่ย?”“ถ้าอดีตผู้บัญชาการเว่ยเป็นอะไรไป แกต้องรับผิดชอบทั้งหมด!”สีหน้าของเว่ยฉิงดำทะมึนฉู่เฉินหัวเราะชืด ๆ “หลิ่วหรูเยียน เธอไม่ต้องร้อนรน ถ้าภายในห้านาทีอดีตผู้บัญชาการเว่ยไม่ฟื้นขึ้นมา ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมด ต่อให้คุณหนูเว่ยต้องการหัวของฉันก็ยังได้!”“ดี! แกพูดเองนะ คุณหนูเว่ยได้ยินแล้วใช่ไหมคะ ฉู่เฉินบอกว่าเขาจะรับผิดชอบเองทั้งหมด” หลิ่วหรูเยียนหันไปพูดกับเว่ยฉิง ผลักความรับผิดชอบอย่างถึงที่สุดเว่ยฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปเป
เว่ยหนานเฟิงลืมตาฟื้นขึ้นมา เขาหอบหายใจหลายครั้ง รู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดทั่วตัวได้หายไปแล้ว อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในร่างกายด้วย“คุณปู่ไม่เป็นไรอะไรแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” เว่ยฉิงถามอย่างตื่นตระหนกเว่ยหนานเฟิงยิ้มตอบ “ปู่ไม่เป็นไร ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว”เว่ยฉิงเช็ดน้ำตา ลุกขึ้นหันไปโค้งตัวให้ฉู่เฉิน “ขอบคุณคุณมากนะคะ หมอเทวดาฉู่”ฉู่เฉินยิ้ม โบกมือและบอกว่า “เรื่องเล็กน้อยครับ”เวลานี้ แขกทุกคนในงานยังคงอ้าปากค้างเพราะความตะลึงไม่นึกว่าคุณชายไร้ประโยชน์ที่ถูกไล่ตะเพิดออกจากตระกูลฉู่ จะมีความสามารถด้านการแพทย์อยู่จริงๆ…ท่ามกลางฝูงชน สีหน้าของหลิ่วหรูเยียนนั้นเรียกได้ว่าย่ำแย่สุดขีดคำท้าที่เธอเพิ่งพูดกับฉู่เฉินเมื่อกี้ยังดังก้องอยู่ในหูจะทำยังไงดีล่ะทีนี้?เธอร้อนรนจนแทบอยู่ไม่สุข กระทั่งไม่กล้ามองหน้าฉู่เฉิน“หมอเทวดาฉู่ ขอบคุณมาก พระคุณที่ช่วยชีวิตในวันนี้ผมจะไม่มีวันลืม วันหน้ามีอะไรให้ช่วย คุณติดต่อผมหรือฉิงฉิงได้เลย”“ตั้งแต่นี้ คุณคือผู้มีพระคุณของผมเว่ยหนานเฟิง เป็นแขกวีไอพีของตระกูลเว่ย!” เว่ยหนานเฟิงประสานหมัดขณะเอ่ยพร้อมรอยยิ้
เห็นสีหน้าท่าทางเขาแล้วจะฆ่าเสียให้ตาย!“หลิ่วชิงเหอ ลูกสาวเธอก็เรียกฉันว่าพ่อแล้ว เธอควรเรียกฉันว่าอะไรดีล่ะ?” ฉู่เฉินจงใจถากถางหลิ่วชิงเหอหยอกแม่บุญธรรมอย่างหลิ่วชิงเหอสักหน่อยก็ไม่เลวเหมือนกันหลิ่วชิงเหอแค่นเสียง ขี้คร้านจะสนใจไอ้สารเลวอย่างฉู่เฉิน จึงหันตัวเดินออกไปครั้นออกมาก็เห็นหลิ่วหรูเยียนที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“แม่! หนูจะฆ่าฉู่เฉิน! ยังไงก็จะฆ่ามันให้ได้!” หลิ่วหรูเยียนกระฟัดกระเฟียด สายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นเกลียดชังน่าอัปยศที่สุด!เธอหลิ่วหรูเยียนเคยต้องเจอกับความอัปยศอดสูขนาดนี้เสียที่ไหนกัน?ฉู่เฉิน ชื่อนี้ได้เข้าสู่บัญชีดำของเธอเรียบร้อยแล้ว“วางใจได้ วันนี้ก็คือวันตายของไอ้เดรัจฉานนั่น!” หลิ่วชิงเหอเอ่ยเสียงเย็นขณะเดียวกันทางด้านฉู่เฉิน เขาถูกเว่ยฉิงเชิญไปที่ห้องรับรองเพียงลำพัง“คุณหนูเว่ย ยังมีธุระอะไรอีกเหรอครับ?” ฉู่เฉินถามเว่ยฉิงต้องยอมรับว่าคุณหนูของตระกูลเว่ย หลานสาวของเว่ยหนานเฟิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งจริงๆ กิริยาท่าทางและเรือนร่างไม่ได้ด้อยไปกว่าหลิ่วชิงเหอกับหลิ่วหรูเยียนเลยยิ่งพออยู่กับเว่ยหนานเฟิงมานานหลายปี อาจเป็นเพราะ
กึก!เว่ยฉิงนิ่งอึ้ง ดวงหน้าแดงแปร๊ด แดงจนถึงขั้นที่ว่าถ้าเลือดไหลออกมาได้คงไหลออกมาแล้ว เธอถามอย่างกระอักกระอ่วน “ถอดหมดเลยเหรอ?”เธอไม่คิดว่าการนวดรักษาที่ฉู่เฉินพูดถึง จะเป็นวิธีการแบบนี้ ต้องถอดเสื้อผ้าออกหมดด้วยรึ…แม้แต่ชุดชั้นในก็ต้องถอดด้วยบรรยากาศในห้องพลันเปลี่ยนเป็นร้อนรุ่มและน่าอึดอัดใจขึ้นมาทันทีเว่ยฉิงอาจจะเป็นหลานสาวของอดีตผู้บัญชาการเว่ย เป็นหญิงแกร่งคนหนึ่งในวงการธุรกิจ มีชื่อเสียงเกียรติยศมากมาย และมีทรัพย์สินมากกว่าพันล้านแต่เธอเป็นสาวโสดตั้งแต่เกิด ไม่เคยมีความรักเลยแม้แต่ครั้งเดียวหลายปีมานี้ เธอไม่เคยแม้แต่จับมือผู้ชาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะให้เปลื้องผ้าต่อหน้าชายแปลกหน้า…หลังจากลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายเว่ยฉิงก็กัดฟันหันหลังให้ฉู่เฉิน ก่อนจะเริ่มถอดชุดราตรีของเธอออกแผ่นหลังอันเนียนขาว ไร้จุดด่างพร้อยโดยเฉพาะหัวไหลกลมมนและลำคอยาวระหงนั่น เรียกได้ว่าเป็นศิลปะชิ้นงาม ที่แทบจะหาจุดด้อยไม่เจอเลยชุดราตรีค่อยๆ ไถลลู่ลงจากหัวไหล่ของเธอ แผ่นหลังอันสมบูรณ์แบบเปิดเผยสู่สายตา ตามมาด้วยเอวบางคอด ที่ทำให้ฉู่เฉินเห็นแล้วอดกลืนน้ำลายไม่ได้ ถึงขั้นสติหลุด
เมื่อสิ้นเสียงคำพูด สีหน้าของปี้คุนเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง ก่อนจะสะบัดฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้ง ทันทีที่ลมบนฝ่ามือของเขาถูกผลักออกไป พื้นที่รอบๆ ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง“โครม!”วินาทีถัดมา สองฝ่ามือปะทะกัน เกิดคลื่นพลังสีขาวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แผ่กระจายออกไปในอากาศอย่างรุนแรงทว่า สิ่งที่ปี้คุนจินตนาการไว้ว่าร่างของชายร่างซูบผอมถูกกระแทกจนกระเด็นไปไกลกลับไม่เกิดขึ้น ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกว่าฝ่ามือของตัวเองเหมือนตบลงบนภูเขาหิน แข็งจนถูกแรงสะท้อนทำให้เซถอยไปหลายก้าว ซี้ดๆ !ปี้คุนถึงกับหน้าถอดสีด้วยความตกตะลึง! “ฟู่!”แต่ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งตัวได้ ฝ่ามือผอมแห้งที่ดำคล้ำก็ตบลงมาอีกครั้งเมื่อเห็นดังนั้น ฉู่เฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับมาพร้อมไขว้มือไว้ด้านหลัง เดินก้าวเข้าหาหลี่ว์เจิ้งหยางทีละก้าว“หืม?”ในตอนนี้หลี่เจิ้งหยางเองก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ ดูเหมือนว่าปี้คุนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายผอมแห้งคนนั้นเลยสักนิด กลับเป็นฝ่ายที่ถูกกดดันเสียเอง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?เพียะ!ยังไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรออก ฝ่ามือของฉู่เฉินก็ฟาดเข้ามาเสียแล้
“ไม่ต้องกลัวนะ มีผมอยู่นี่ทั้งคน เดี๋ยวคุณคอยอยู่ในรถไว้ อย่าหนีไปไหนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”พูดจบฉู่เฉินก็หยิบกางเกงตัวใหญ่ขึ้นมาใส่ ก่อนจะเปิดประตูรถและกระโดดลงไปเขามองปี้คุนที่ใบหน้าอึมครึม และมองไปยังหลี่ว์เจิ้งหยางที่ดูเหมือนจะหน้าแดงผิดปกติ เจ้าหมอนี่น่าจะไปกินอะไรที่ไม่ควรกินมา ดูจากสีหน้าแล้วอีกไม่นานคงมีต้นไม้สักต้นต้องโชคร้ายอีกแล้ว“อะไรกัน ยังไม่พอใจกับเข็มฝนลูกแพร์ที่เจอครั้งที่แล้วเหรอ?”ขณะพูดฉู่เฉินมองไปรอบๆ และชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ในระยะไกล ก่อนจะหันไปพูดกับหลี่ว์เจิ้งหยาง “ความสุขของคุณอยู่ตรงนั้น”“ความสุขบ้าอะไร!”หลี่ว์เจิ้งหยางกัดฟันกรอด ก่อนจะดึงกระบี่ยาวออกจากหลังเสียงดังเคร้งแต่ปี้คุนเคยบอกเขาว่าฉู่เฉินตอนนี้เป็นยอดฝีมือในระยะสร้างรากฐานขั้นหนึ่งแล้ว หลี่ว์เจิ้งหยางก็ไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะทุ่มพลังทั้งหมดออกไปดังนั้นเขาจึงแค่ถือกระบี่ยาวไว้ในมือและเดินวนรอบๆ ฉู่เฉินไม่กล้าเข้าไปโจมตีฉู่เฉินมองเขาด้วยสายตาดูถูก ก่อนจะหันไปมองปี้คุน และขมวดคิ้วถามว่า “ตระกูลหลี่จากเมืองหมอตูส่งคุณมาใช่ไหม?”ปี้คุนส่งเสียงหึอย่างเย็นชา ก่อนจะยืนไขว้มือไว้ด
โดยเฉพาะชุดซีทรูแขนสั้นนั้นที่พลิ้วตามการเคลื่อนไหวของเธอ ให้ความรู้สึกวับ ๆ แวม ๆ ยั่วยวนมากจริงๆ“นี่มันเรื่องเข้าใจผิดนะครับ คุณหนูเกาก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเธออยากจะขอความช่วยเหลือจากผม”ฉู่เฉินพูดไปด้วย ใช้หลังมือสัมผัสที่ขาที่เนียนนุ่มและสวยของกู้รั่วเสวี่ยไปด้วย พอไม่มีถุงน่องซีทรูสีดำแล้ว ความรู้สึกไม่เหมือนกันจริงๆช่วงนี้ผิวของกู้รั่วเสวี่ยดีขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเป็นเพราะร่างของเขามีประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงผิว“หึ ใครจะไปรู้ว่าช่วยไปช่วยมาอาจจะไปช่วยบนเตียงก็ได้!”ระหว่างที่พูด กู้รั่วเสวี่ยก็ปัดมือใหญ่ของฉู่เฉินออกไป หลังจากนั้นเธอก็สตาร์ตรถมุ่งหน้าไปยังเจียงจง“มีเหตุผล ฮวงจุ้ยบนเตียงดีถึงจะต่อได้เรื่อย ๆ ยังไงละครับ”ฉู่เฉินยิ้มอย่างร้ายกาจแล้วพูดขึ้นมา“อะไรนะคะ?”กู้รั่วเสวี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ นี่มันเป็นการเตรียมตัวขึ้นเตียงดีๆ นี่เอง“หึ! ช่วยนักใช่ไหม!”ระหว่างที่พูด กู้รั่วเสวี่ยก็จอดรถที่ข้างทางทางด่วน หลังจากนั้นก็พลิกตัวขึ้นคร่อมบนร่างฉู่เฉินจากนั้นกู้รั่วเสวี่ยก็ร้อนแรงไม่หยุดหย่อน ทำเอาฉู่เฉินนั่งตัวตรงโดยอัตโนมัติ เขาหัวเราะอย่างเขินอาย “ลูกสาวตระกูลมหาเศ
“อ่ะแฮ่ม!”เกาหมิงทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว กู้รั่วเสวี่ยยังนั่งดูอยู่ข้างๆ อยู่เลย ลูกสาวของเขาตัวจะติดฉู่เฉินอยู่แล้ว นี่มันใช้ได้ที่ไหน!“เอ่อ... ผู้ว่าการพูดก่อนเลยครับ ผม... ไม่สะดวก...”ฉู่เฉินกลืนน้ำลาย เขาที่อยู่ห่างจากเกาอวี้หลิงตั้งไกลก็สามารถมองเห็นร่องขาวลึกของเกาอวี้หลิงได้โดยเฉพาะก้อนกลมที่อวบอิ่มนั่น แค่มองก็รู้แล้วว่านุ่มมากๆ ยั่วเขาต่อหน้าเกาหมิงหลายแบบนี้มันจะดีเหรอ?ที่สำคัญคือสีหน้าของกู้รั่วเสวี่ยเห็นได้ชัดว่าไม่ปกติแล้วด้านหนึ่งมีกลิ่นหอมพัดมากระทบหน้า อีกด้านหนึ่งคือความเย็นยะเยือกที่แผ่เข้ามา ฉู่เฉินรับมือไหวจริงๆ“มีอะไรที่ไม่สะดวกกัน พวกคุณ... ระหว่างพวกคุณ...”“อ่ะแฮ่ม!”เกาหมิงหลายยอมใจลูกสาวของตัวเองจริงๆเขากระแอมออกมาดังๆ อีกครั้ง หลังจากนั้นก็เล่าเรื่องที่ฉู่เฉินกำราบผีดิบเลือดคลั่งได้ให้ฟังอีกครั้ง“ว้าว!”เกาอวี้หลิงเมื่อฟังจบ แววตาที่เคารพก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อมือเล็กๆ ทั้งสองของเธอประสานกันที่หน้าอก ความอิ่มเอิบทั้งสองข้างยิ่งดูโดดเด่น กลมกลึง และใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกู้รั่วเสวี่ยเหลือบมองฉู่เฉิน เมื่อเห็นว่าสายตาของเขาแทบจะหลุดไปตร
เธอไม่ด่าออกไปนั่นก็ถือว่ามีมารยาทมากพอแล้วกู้รั่วเสวี่ยตอนนี้ก็ใบหน้าขาวซีดเธอมองไปที่ลูกน้องของฉู่เฉินคนนั้น เขาก็ทำอะไรไม่คิดนี่บ้านของผู้ว่าการเชียวนะ คิดจะทุบก็ทุบเลยได้ยังไง เขาเอาความกล้ามาจากไหน?พูดจริงๆ นะ เมื่อเห็นภาพเล่านี้ฉู่เฉินก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันทีถ้าเขาลงมือเองแม้ว่าจะยุ่งยากไปหน่อย แต่ก็คงไม่ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้มุมปากของเกาหมิงหลายก็กระตุกเล็กน้อย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอึดอัดเขาไม่ได้เสียดายกระถางต้นไม้นั้นหรอก แต่เขาเสียดายอาหาร และซุปต่างๆ ที่หกเต็มพื้น“วันนี้คุณจะต้องให้คำตอบกับฉัน!”เกาอวี้หลิงเห็นว่าชายหนุ่มร้างซูบผอมยังคงยืนอยู่ที่นั่นอย่างงงงวย ราวกับว่าไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เธอยิ่งโมโหมากยิ่งขึ้น ยื่นมือเข้าไปคว้าคอเสื้อของผีดิบเลือดคลั่งไว้ ไม่ว่าเธอจะขยับเขาแรงแค่ไหนก็ตาม ฝ่ายตรงเขาก็เหมือนไม่ได้สติ ยืนแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แม้แต่มองเธอก็ยังไม่มองเลยท่าทางแบบนี้ของเขามันยิ่งทำให้เธอโมโหทำให้เกาอวี้หลิงโกรธจนจะบ้าคลั่งอยู่แล้วถึงว่าจะไม่ขอโทษ เกาอวี้หลิงก็จะไม่โกรธขนาดนี้ฉู่เฉินสีหน้าเคร่งขรึม พูดขึ้นมาอ
ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น หันหน้ามองที่เกาอวี้หลิงหัวเราะอย่างนิ่งๆ “คุณหนูเกา ถ้าผมเดาไม่ผิดคนที่วางค่ายกลหินร้อยนี่ไว้มาจากฮ่องกงใช่ไหมครับ?”เกาอวี้หลิงหัวเราะอย่าดูถูก เธอไม่สนใจฉู่เฉิน แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องครัวทันทีเกาหมิงหลายเห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “เสียวฉู่ คุณอย่าถือสาเธอเลยนะ ตั้งแต่ที่แม่ของเธอเสียไป ยัยเด็กนี่ก็เอาแต่งมงายอยู่กับฮวงจุ้ย” “ทั้งวันเอาแต่ไม่ปรมาจารย์คนนู้น ก็ปรมาจารย์คนนี้ เธอทำในบ้านรกไปหมด”“มาครับ ไม่ต้องสนใจเธอ พวกเรามากินข้าวกันดีกว่า”ระหว่างที่พูด เกาหมิงหลายก็ดึงฉู่เฉินมา พร้อมทั้งเรียกมานั่งล้อมรอบโต๊ะอาหารด้วยกันเกาอวี้หลิงยกสลัดจีนมาแล้ววางลงบนโต๊ะอาหาร กล่าวด้วยท่าทางดื้อรั้นว่า “พ่อพูดจาเหลวไหลอะไรกันคะ การจัดวางฮวงจุ้ยแบบนี้เป็นผลงานของผู้สืบทอดลู่หวนเฟิงจากทงเทียนลู่เลยนะคะ”“คุณรู้ที่มาที่ไปของหินพวกนี้ไหมครับ?”พูดจบ เกาอวี้หลิงชี้ไปที่ก้อนหินพวกนั้นด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่คือหินก่านตังจากภูเขาหวงซาน นี่คือหินแคล้วคลาดจากภูเขาซงซาน ยังมีก้อนนี้...”เกาอวี้หลิงกล่าวถึงทุกๆ ก้อนหินอย่างละเอียด ราวกับเป็นการพูดถึงสิ่งที่คุ้นเ
“อืม เขาถือว่าเป็นเพื่อนเก่าคนหนึ่งของฉัน เดี๋ยวถ้าเจอหลิงเอ๋อร์แล้ว พวกคุณก็ลองคุยกันนะครับ พวกคุณอายุไล่เลี่ยกันเลย ควรมีการติดต่อกันบ้างเพื่อไม่ให้ห่างเหินเกินไป”เกาหมิงหลายพูดจบก็เบนหน้ามองไปนอกกระจกรถกู้รั่วเสวี่ยแอบมองเกาหมิงหลายด้วยความระมัดระวัง นี่มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคำพูดของเขาแฝงอะไรไว้อยู่ฉู่เฉินกลับหลับตาสงบสติอารมณ์ ในใจของเขายังคงคิดถึงเสี่ยวหนานหมอกโลหิตที่ขวานผ่าใจปล่อยออกมานั้นเหมือนกับผีดิบเลือดคลั่ง หรือว่าผีดิบเลือดคลั่งนี่จะเกี่ยวข้องกับเธองั้นเหรอ?ในขณะที่ฉู่เฉินกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น รถก็ค่อยๆ จอดฉู่เฉินเปิดประตูรถ หลังจากนั้นเขาก็วิ่งไปตรงหน้าผีดิบเลือดคลั่ง “รออยู่ข้างหน้าประตูนะ ห้ามไปไหนเด็ดขาดถ้าไม่มีคำสั่งจากฉัน”พูดจบ เขาถึงเดินตามเกาหมิงหลายเข้าไปข้างในบ้านพักผู้ว่าการ์ดที่อยู่หน้าประตูมองไปที่ผีดิบเลือดคลั่งที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ด้านข้าง หลังจากนั้นเขาถึงโค้งคำนับให้กับเกาหมิงหลายและคนอื่นๆในตอนนั้นเอว ประตูคฤหาสน์ก็เปิดออกอย่างกะทันหัน ภาพลักษณ์ที่โดดเด่นปรากฏที่ประตูเห็นหญิงสาวคนหนึ่งรูปร่างเพรียวบาง หน้าตาสวยงาม ผิวขาวดั่งหิม
อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉิน หลูติ้งไห่และคนอื่นๆ กลับมายังที่ว่าการมณฑลด้วยกันแม้ว่าในตอนนี้จะเป็นเวลาที่ดึกแล้วก็ตาม แต่ห้องทำงานในที่ว่าการมณฑลยังคงมีแสงไฟสว่างจ้าหลูติ้งไห่และโจวอวี้หมิงเข้าไปรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมดให้เกาหมิงหลายฟังตามความเป็นจริง“ผู้ว่าการมณฑลเกาคะ ที่จริงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่ใช่ความผิดของผู้บัญชาการเซียว อีกทั้งเขาสู้จนสุดชีวิตไม่กลัวตายเลยค่ะ ฉันคิดว่าลงโทษสถานเบาก็ได้แล้วค่ะ”โจวอวี้หมิงมองไปที่เกาหมิงหลายด้วยสีหน้าเรียบนิ่งคนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายสิบราย ทำให้มือของเกาหมิงหลายที่เซ็นลายเซ็นสั่นเทาไม่หยุด“ฉันเข้าใจแล้ว พวกคุณออกไปเถอะ”เกาหมิงหลายออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำหลูติ้งไห่และโจวอวี้หมิงมองไปที่ฉู่เฉินแวบหนึ่ง แล้วรีบเดินออกไปจากห้องทำงานเกาหมิงหลายที่เงียบมาสักพักหนึ่ง ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา เขาฝืนยิ้มออกมาแล้วมองไปที่ฉู่เฉิน “เสียวฉู่ ปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นผลงานของคุณทั้งนั้น”“เมื่อกี้ผมได้ยินพวกเขาบอกว่า คุณจัดการผีดิบเลือดคลั่งนั่นแล้วเหรอครับ?”ฉู่เฉินพยักหน้าแล้วพูดขึ้นมาว่า “
เมื่อถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าต้องมีคนประสบเคราะห์กรรมเท่าไร“ผีดิบเลือดคลั่งไม่เพียงแต่พละกำลังเท่ากับระดับสร้างรากฐานขั้นเจ็ด พวกอาคมง่ายๆ ก็เป็น แน่นอนว่ามันสามารถแปลงร่างได้ แค่ว่าเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์เดิมไม่ได้เท่านั้นเอง”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเรียบนิ่ง“อ้อๆๆ”หลูติ้งไห่และโจวอวี้หมิงพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผีดิบเลือดคลั่งจะเปลี่ยนร่างไปแล้ว แต่ว่ารอบๆ ตัวของมันยังคงส่งกลิ่นที่เหม็นคละคลุ้งของไอดาราโลหิต“คุณฉู่ พวกเราไปพบผู้ว่าการมณฑลกันดีกว่าครับ ถือโอกาสรายงานเรื่องวันนี้กับผู้ว่าการมณฑลไปด้วย”ระหว่างที่หลูติ้งไห่พูด เขาก็มองโจวอวี้หมิงไปแวบหนึ่งโจวอวี้หมิงก็พยักหน้าเล็กน้อย นำคนมาช่วยมากมายขนาดนี้จำเป็นต้องมีอะไรไปรายงานเกาหมิงหลายบ้าง ดังนั้นเธอจึงเข้าไปนั่งในรถของหลูติ้งไห่พร้อมกับฉู่เฉิน และคนอื่นๆ……อีกด้านหนึ่ง นักพรตชิงซงที่พึ่งหนีออกมาจากทะเลสาบหย่งติ้ง รีบวิ่งไปทางสำนักเทียนเสวียนอย่างไม่หยุดพักเย็นวันนี้เขาไม่เพียงแต่ถูกฉู่เฉินหักหน้า อีกทั้งเขายังจะถูกผีดิบเลือดคลั่งฆ่าอย่างตายทั้งเป็นแค้นนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องชำระ!แต่เขารู้ดี ด้วยความสามารถแบบเขา อย่า