ฉู่เฉินหัวเราะอย่างนึกสนุกและพูดว่า “ผู้จัดการจ้าวไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?"คิ้วของจ้าวหู่ขมวดมุ่น ฉู่เฉินยังคงพูดต่อว่า “ตอนนี้ผู้จัดการจ้าวอายุสี่สิบแล้วใช่ไหมครับ หลายปีมานี้ที่มีลูกไม่สำเร็จ ไม่เคยสงสัยตัวเองเหรอ?”“หากคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดูได้”“เมื่อถึงเวลานั้น เด็กในท้องใช่หรือไม่ใช่ลูกของคุณ ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจเองนะครับ”จ้าวหู่ได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกัดฟันพูดว่า “ได้! หวังว่าที่คุณฉู่พูดจะถูกต้องนะครับ หากผมไม่ได้มีปัญหาจริงๆ ล่ะก็ คุณฉู่ต้องคิดผลลัพธ์ให้ดีนะครับ!”พูดเสร็จ จ้าวหู่ก็หมุนตัวออกไปจากร้านอาหารเฉาถิงถิงเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ร้อนรนขึ้นมารั้งจ้าวหู่ “ที่รัก ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ ให้พวกเขาไปเถอะค่ะ”จ้าวหู่คิ้วขมวดอีกครั้ง เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฉาถิงถิง ในใจเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา“ไม่ได้ พวกเขาลบหลู่ผมได้ แต่จะมาลบหลู่ลูกของผมจ้าวหู่ไม่ได้!” จ้าวหู่พูดอย่างเย็นชา เดินหันหลังออกไป มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำการตรวจ หลังผลตรวจออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนขั้นสุด!ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต!หลังจากนั้นเขาก
ฉู่เฉินนั่งขัดสมาธิ จนถึงช่วงเวลาเย็นของอีกวันหนึ่งฉู่เฉินลืมตาขึ้นมา พรูลมหายใจหยาบแล้วก็กำหมัด รู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง!จากนั้นฉู่เฉินก็ยืนขึ้น เพียงก้าวออกไปก็เคลื่อนตัวไปด้านข้างสองเมตร!เป็นความเร็วที่รวดเร็วมาก!จากนั้นเขาก็ต่อยออกไป และเสียงที่ทะลุผ่านอากาศก็ทำให้ได้ยินเสียงอึกทึกกำแพงที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ภายใต้การโจมตีของหมัด ก็พังทลายเป็นราบกองแข็งแกร่ง!ฉู่เฉินดีอกดีใจ!ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องกังวลว่าจะไม่สามารถโล่นแล่นในเจียงจงได้!หลิ่วชิงเหอ หลิ่วหรูเยียน พวกเธอรอก่อนเถอะ ฉันจะแก้แค้นพวกเธอให้สาสมฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะกลับมาอยู่ในมือของฉู่เฉินอีกครั้งถอนหายใจออกมา ฉู่เฉินรับโทรศัพท์จากกู้รั่วเสวี่ย“หมอเทวดาฉู่ คุณอยู่ที่ไหนคะ?” กู้รั่วเสวี่ยถามด้วยรอยยิ้มฉู่เฉินบอกที่อยู่ของตัวเองไปไม่นานเฟอร์รารี่สีแดงสุดเท่ เสียงมอเตอร์ดังมาจากระยะไกลและหยุดอยู่หน้าบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ประตูรถถูกเปิดออก กู้รั่วเสวี่ยสวมกระโปรงยาวถึงเข่าสีแดงเพลิงและแว่นกันแดด ก้าวลงจากรถด้วยขาเรียวสีขาวแล้วจึงออกมา งดงาม!ท่าทางสง่างามนี่มันระดับเทพธิ
โครม!เสียงดังสนั่นหวั่นไหว!สายตาของทุกคน หันไปมองฉู่เฉินที่อยู่ในมุมเป็นตาเดียวกันเต็มไปด้วยความสงสัย ตกตะลึง โกรธแค้น เหยียดหยามแล้วก็สะใจเกิดเรื่องอะไรขึ้น?เจ้าหมอนี่เป็นใครกันกล้าพูดจาแบบนี้ออกมาในงานเลี้ยงการแพทย์ของตระกูลกู้ อยากตายใช่ไหม!กู้รั่วเสวี่ยรีบกล่าวเตือนเสียงเบา “หมอเทวดาฉู่ คำบางคำอย่าพูดมั่ว ๆ จะดีกว่า นั่นคืออดีตผู้บัญชาการเว่ยของเขตทหารระดับมณฑลเลยนะ เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในมณฑล เป็นคนที่มีอำนาจล้นฟ้า ต่อให้เป็นตระกูลกู้ของฉัน ก็ยังให้ความเคารพเขา...”หญิงสาวที่มีรูปร่างอรชร บุคลิกเย็นชาโดดเด่นข้างเว่ยหนานเฟิงคนนั้น ท่าทางอายุราว ๆ นี่สิบสี่ถึงยี่สิบห้าปี ในเวลานี้ก็ขมวดคิ้วสวยเช่นเดียวกัน จ้องมองฉู่เฉินด้วยความไม่พอใจมากนี่ใคร?กล้าพูดจาแบบนี้ ต่อหน้าคุณปู่ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริง ๆสินะ!ส่วนหลิ่วหรูเยียนที่อยู่บนเวที ในเวลานี้ที่ได้ยินคำพูดของฉู่เฉิน สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที แทบอยากจะฉีกฉู่เฉินเป็นชิ้น ๆ!“ฉู่เฉิน! แกหมายความว่ายังไง? แกกำลังสงสัยในยาอายุวัฒนะที่ฉันคิดค้นอย่างนั้นเหรอ?”หลิ่วหรูเยียนตำหนิด้วยความไม่พอใจ คิ้วงามขมวดย่น
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หลิ่วชิงเหอโกรธจนหน้าอกสั่น พยายามดิ้นรนให้หลุดรอดจากเงื้อมมือของฉู่เฉิน!“ไอ้เดรัจฉาน! แกไปตายซะ!”หลิ่วชิงเหอยกเท้าขึ้นแล้วเตะเข้าไปที่ฉู่เฉินฉู่เฉินยกมือขึ้น คว้าต้นขาขาวนุ่มนิ่มของเธอเอาไว้ กล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทำไม รีบร้อนขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่า พวกเราจะทำกันตรงนี้เลย?”“แกปล่อยนะ!”หลิ่วชิงเหอโมโห พยายามจะชักขาของตนเองกลับ ยกมือขึ้น กำลังจะสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่แก้มของฉู่เฉินผลปรากฏว่า ทันทีที่ยกมือขึ้น ก็ถูกฉู่เฉินคว้าเอาไว้ทันทีตอนนี้ หลิ่วชิงเหอถูกฉู่เฉินควบคุมเอาไว้ ขยับเขยื้อนไม่ได้สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกว่าได้รับความเหยียดหยามมากที่สุดก็คือ ไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินกลับชิดเข้ามา ชั่วขณะ หลิ่วชิงเหอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันเร่าร้อนของความเป็นชายปะทะเข้าใส่ตัวเธอน่ารังเกียจ!มันคิดจะทำอะไร?มันคงจะไม่คิดจะลงมือกับเธอตรงนี้หรอกใช่ไหม?กรี๊ด ๆ ๆ!ระยำ!ไอ้เดรัจฉานนี่“ฉู่เฉิน แกคิดจะทำอะไร? ที่นี่คือเฉียนหลงวิลล่า! แกปล่อยฉัน!” หลิ่วชิงเหอร้อนใจ พยายามดิ้นรน แต่ยิ่งดิ้นเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ฉู่เฉินก็ถูกหลิ่วชิงเหอทำให้เลือดร้อนพลุ่งพล่าน“หลิ
“ฉัน...”หลิ่วหรูเยียนล้มลงไปนั่งบนพื้น ตัวสั่นเทาไปทั่วทั้งตัว สีหน้าซีดขาว ตื่นตระหนกเป็นอย่างมากถ้าจะให้เธอไปร้องขอคนไร้น้ำยาอย่างฉู่เฉิน?แบบนั้นสู้ฆ่าเธอทิ้งซะดีกว่าหลิ่วหรูเยียนจะเป็นบ้าแล้ว“มัวอึ้งอยู่ทำไม? ยังไม่ไปอีก!” เว่ยฉิงตะคอกเสียงเอาแต่ใจหลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างโซซัดโซเซ ภายในหัวสมองว่างเปล่า เดินออกจากห้องโถง วิ่งเหยาะ ๆ จนชนเข้ากับหลิ่วชิงเหอ“หรูเยียน เกิดอะไรขึ้น?” หลิ่วชิงเหอเห็นท่าทางของหลิ่วหรูเยียน ภายในใจแอบรู้สึกไม่ดี“แม่คะ ฮือ ๆ ๆ เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องแล้ว ยาอายุวัฒนะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อดีตผู้บัญชาการเว่ยอาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้วก็หมดสติไปแล้ว...” ขาทั้งสองข้างของหลิ่วหรูเยียนอ่อนยวบ ล้มลงไปนั่งบนพื้นอีกครั้ง พิงหลิ่วชิงเหอร้องไห้โฮออกมาเสียงดังหลิ่วชิงเหอย่อตัวลงไป ประคองหลิ่วหรูเยียนเอาไว้ ภายในใจแอบคิดว่าเป็นไปตามคาดจริง ๆโดนไอ้ระยำอย่างฉู่เฉินพูดถูกจนได้“อย่าร้อนใจไป แม่เข้าไปดูหน่อย” หลิ่วชิงเหอกล่าว ลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องโถงตอนที่เห็นฉากดังกล่าว รวมทั้งอดีตผู้บัญชาการเว่ย ที่นอนหมดสติอยู่บนเก้าอี้วีลแชร์ เธอในฐานะหญิง
“เธอลองไตร่ตรองดูเอาเองแล้วกัน ฉันยังไงก็ได้”สะอึก!หัวใจของหลิ่วหรูเยียนสั่นเทา สีหน้าซับซ้อนมากถ้าจะต้องคุกเข่าให้คนไร้น้ำยาอย่างฉู่เฉินจริง ๆ เธอคงนอนหลับไม่สนิทไปเป็นครึ่งปีแน่ ๆไอ้ขยะนี่ก็คือคนระยำ!ทำให้เธอรู้สึกคลื่นเหียนเมื่อเห็นว่าเวลาที่เวียนผ่านไป ฉู่เฉินยังคงนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอกสบายใจเช่นเดิมและในเวลานี้ ที่ทางเดินด้านนอก มีเสียงฝีเท้าร้อนรนดังลอยมาไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นเว่ยฉิงที่พาคนเดินมาที่นี่“หรูเยียน! อย่าทำตัวเอาแต่ใจเหมือนเด็ก ตอนนี้ยังไม่มีคนเห็น ลูกอยากจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่าลูกคุกเข่าให้มันใช่ไหม?” หลิ่วชิงเหอกระซิบที่ข้างหูของหลิ่วหรูเยียน“ถ้าอดีตผู้บัญชาการเว่ยตายไป แม่กับลูก คงมีชีวิตรอดไม่พ้นคืนนี้”หลิ่วหรูเยียนตกใจขวัญเสียไปแล้ว สีหน้าซีดขาว โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าวุ่นวายที่ทางเดินด้านนอก เป็นเหมือนกับคาถาเร่งชีวิต‘ตุบ!’ภายใต้แรงกดดันทางจิตใจ หลิ่วหรูเยียนงอเข่าอันสูงส่งของเธอลงไป คุกเข่าลงต่อหน้าฉู่เฉิน เบือนหน้าบุ้ยปาก “ฉู่เฉิน แกรีบช่วยชีวิตอดีตผู้บัญชาการเว่ยสิ!”เมื่อเห็นท่าทางที่เย่อหยิ่งไม่เต็มใจของหลิ่วหรูเยียน ฉู่เ
ทางด้านนี้ ฉู่เฉินออกมาจากห้องก็ได้พบกับเว่ยฉิงและคนอื่น ๆ ที่มาตามหา“คุณฉู่...” เว่ยฉิงเอ่ยปากพูด สีหน้าร้อนใจฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “เวลามีจำกัด ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ไปที่ห้องโถงกันเถอะ”เมื่อเว่ยฉิงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้า หลีกทางให้จากนั้นฉู่เฉินก็มาถึงที่ห้องโถงเป็นคนแรกหลังจากที่เห็นอาการของเว่ยหนานเฟิงแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกันอาการของเว่ยหนานเฟิง สาหัสกว่าที่เขาคิดเอาไว้หน่อย“คุณฉู่ ยังสามารถช่วยชีวิตของคุณปู่ของฉันได้ไหมคะ?” เว่ยฉิงสีหน้าร้อนใจ กล่าวถามด้วยเบ้าตาที่แดงก่ำถ้าหากคุณปู่เป็นอะไร เธอจะทำอย่างไรดีฉู่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ “มีผมอยู่ วางใจได้ สามารถช่วยได้”เมื่อได้ยินประโยคนี้ เว่ยฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อยแต่ว่า หลิ่วหรูเยียนที่รีบเดินเข้ามา กลับเอ่ยปากกล่าวด้วยคำพูดดูถูก “ฉู่เฉิน แกเลิกเสแสร้งได้แล้ว ถ้าช่วยไม่ได้ แกต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด!”ช่วยไม่ได้ สถานะของเว่ยหนานเฟิงสูงส่งเกินไป เธอจำเป็นต้องคิดหาหนทางผลักความรับผิดชอบออกไปถ้าหากฉู่เฉินไม่ช่วย ถ้าคืนนี้เว่ยหนานเฟิงเป็นอะไรขึ้นมา ก็คือความรับผิดชอบของเธอหลิ่วหรูเย
ท่าทางเข้าทีแต่เธอยังคงดูถูกฉู่เฉิน คิดว่าฉู่เฉินแสดงละครเพื่อเรียกร้องความสนใจหลายนาทีผ่านไป ฉู่เฉินถอนหายใจ ยกมือวาดกลางอากาศ เข็มหลายสิบเล่มถูกดึงกลับมา“เสร็จแล้ว อดีตผู้บัญชาการเว่ยไม่เป็นอะไรแล้ว พักรักษาตัวไม่กี่วันก็หาย” ฉู่เฉินบอก เขาเช็ดเหงื่อที่มุมหน้าผากศาสตร์แห่งการฝังเข็มที่เขาใช้เมื่อกี้ เผาผลาญพลังวิญญาณที่จุดตันเถียนของเขาไปไม่น้อย“จริงเหรอคะ?” เว่ยฉิงถามอย่างดีใจฉู่เฉินพยักหน้าตอนนี้เอง หลิ่วหรูเยียนถลาเข้ามา ตะโกนลั่น “เป็นไปไม่ได้! ฉันไม่เชื่อ! ฉู่เฉิน แกกล้าดียังไงแค่ฝังเข็มสองสามเล่มก็บอกว่าตัวเองเป็นผู้ช่วยชีวิตอดีตผู้บัญชาการเว่ย?”“ถ้าอดีตผู้บัญชาการเว่ยเป็นอะไรไป แกต้องรับผิดชอบทั้งหมด!”สีหน้าของเว่ยฉิงดำทะมึนฉู่เฉินหัวเราะชืด ๆ “หลิ่วหรูเยียน เธอไม่ต้องร้อนรน ถ้าภายในห้านาทีอดีตผู้บัญชาการเว่ยไม่ฟื้นขึ้นมา ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมด ต่อให้คุณหนูเว่ยต้องการหัวของฉันก็ยังได้!”“ดี! แกพูดเองนะ คุณหนูเว่ยได้ยินแล้วใช่ไหมคะ ฉู่เฉินบอกว่าเขาจะรับผิดชอบเองทั้งหมด” หลิ่วหรูเยียนหันไปพูดกับเว่ยฉิง ผลักความรับผิดชอบอย่างถึงที่สุดเว่ยฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปเป