แชร์

บทที่ 12

เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย

“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมา

ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”

ฉู่เฉิน?

เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”

ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”

“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”

ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”

หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”

ฉู่เฉินกวาดสายตาไปมองหลิวเฉียงที่ใบหน้าอ่อนล้าพูดว่า “จะปล่อยไปยังไง? เธอทำร้ายนายขนาดนี้ นายเป็นเพื่อนของฉู่เฉิน อย่างไรฉันก็จะตามหาความยุคิธรรมให้นาย”

“แต่ว่ายังไงเธอก็เป็นแฟนของผม...” หลิวเฉียงพูดขึ้นมาอย่างลังเล

ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาถอนหายใจในใจ

ยังเป็นคนรักมั่นอีกแน่ะ

ในเมื่อหลิวเฉียงพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างงั้นเขาจะปล่อยไปก็ได้

แต่เฉาถิงถิงกลับส่งเสียงแปลกๆ พร้อมตะโกนออกมาว่า “หลิวเฉียง! นายอย่ามาพูดพล่อยๆ นะ ใครเป็นแฟนของนายกัน? ฉันเพิ่งเลิกกับนายไปเมื่อกี้! ”

“ฉันจะบอกความจริงให้นะ ฉันมีแฟนใหม่แล้ว!”

“เขามีเงินมีอำนาจมากกว่านาย สิ้นปีพวกเราก็จะแต่งงานกันแล้ว”

เมื่อคำพูดนี้สิ้นสุดลง หลิวเฉียงสีหน้าเปลี่ยนไป เขาสับสนไปหมด ร่างกายหยุดชะงักอยู่กับที่ จ้องมองไปที่เฉาถิงถิงด้วยความไม่อยากเชื่อ “เธอ เธอพูดว่าอะไรนะ?”

“หึ!”

เฉาถิงถิงลุกขึ้นมา นวดแก้มของตัวเอง แล้วมองด้วยท่าทางดูถูกเหยียดหยาม เธอกล่าว “นายได้ยินไม่ผิด ฉันมีแฟนใหม่แล้ว”

ตูม!

หลิวเฉียงร่างกายสั่นเทา ราวกับโลกของเขาได้พังทลายลง

“ไม่มีทาง ไม่มีทาง... ” หลิวเฉียงส่ายหัวพร้อมกับตะโกนออกมา

ฉูเฉินถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พูดว่า “เจ้าเฉียง นายก็ได้ยินเองกับหูแล้ว ว่าเธอนอกใจ”

หลิวเฉียงสีหน้าซีดเผือด ร่างกายที่ราวกับไร้วิญญาณ แม้ว่าจะโกรธถึงขีดสุด มือกำหมัด แต่เขากลับหายใจเข้า กลั้นน้ำตาแล้วพูดว่า "พี่เฉิน ไปกันเถอะ..."

เขารู้ดีว่าตัวเองไม่มีเงินไม่มีอำนาจ เฉาถิงถิงถึงแอบนอกใจเขาแบบนี้ เขาน่าจะรู้ตัวได้ตั้งนานแล้ว

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เฉาถิงถิงกลับดึกมาก อีกทั้งมักจะกลับมาพร้อมกับกระเป๋าแบรนด์เนมและเสื้อผ้า

สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่เงินเดือนหนึ่งเดือนของหลิวเฉียงก็ซื้อให้เธอไม่ได้

“ได้ ฉันอยู่เป็นเพื่อนดื่มนายก่อนแล้วกัน” ฉู่เฉินพูดขึ้นมา

พูดจบทั้งสองก็จะจากไป

แต่เฉาถิงถิงถูกฉู่เฉินตบไปหนึ่งที ในใจยังเคียดแค้นไม่หาย รีบเข้าไปขว้างทั้งสองคนไว้ พร้อมกับตะโกนด้วยความโกรธว่า “คนแซ่ฉู่เหรอ ตบฉันแล้วยังจะกล้าเดินออกไปอีกเหรอ?”

“วันนี้ หากแกไม่คุกเข่าลงต่อหน้าฉันล่ะก็ ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจว่า “งั้นเหรอ? คุณดูมั่นใจนะ ”

“หึๆ แน่นอนสิ แกก็ลองไปถามดูสิว่าแฟนใหม่ฉันเป็นใคร! กลัวว่าถ้าพูดออกมาจะทำให้แกตกใจกลัวน่ะสิ!” เฉาถิงถิงพูดอย่างยโสโอหัง

“ลองพูดมาก่อนสิ ลองดูว่าจะทำให้ผมตกใจกลัวได้ไหม” ฉู่เฉินพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ

เฉาถิงถิงถลึงตาใส่ฉู่เฉิน พูดอย่าเย่อหยิ่งว่า “ฟังให้ดีล่ะ แฟนใหม่ของฉันก็คือผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้!”

“เขาเป็นคนของตระกูลกู้เชียวนะ!”

ผู้จัดการร้านอาหารเหรอ?

คนตระกูลกู้?

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว

หลิวเฉียงจิตใจสั่นไหว และรู้สึกหนาวไปทั้งตัว

เขาก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง อย่าไปพูดถึงคนตระกูลกู้เลย แม้แต่แค่เป็นผู้จัดการร้านอาหาร เขาก็ยังไม่กล้าไปยุ่งเลย

“เป็นอะไรไป กลัวแล้วละสิ? ถ้าอย่างนั้นก็รีบคุกเข่าลงซะ โขกหัวให้ฉันซะ! ” เฉาถิงถิงตะโกน

“ได้ แต่ว่าคนที่ต้องก้มลงกราบต้องไม่ใช่ผม แต่เป็นคุณ!” ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา ยกมือขึ้นกระชากผมเฉาถิงถิง พร้อมกดลงไปที่พื้นอย่างแรง!

ครั้งเดียวนี้ เฉาถิงถิงไม่ทันตั้งตัว เข่าของเธองอ และเธอก็คุกเข่าลงบนพื้น พร้อมกับเสียงดังแกรก

เหตุเพราะท่าทางเคลื่อนไหวที่เป็นวงกว้าง สิ่งที่อวบอ้วนแกว่งไปมาสองสามครั้งแล้วแทบจะทะลักออกมา

“กรี๊กๆๆ ไอ้สารเลว แกมันสารเลว แน่จริงก็ปล่อยฉันไปสิ แล้วฉันจะให้แฟนฉันมาจัดการแก! ” เฉาถิงถิงโมโหร้อน ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

ฉู่เฉินสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ ปล่อยมือเขาพูดอย่างใจเย็นและสงบ “ได้ ไปเรียกมาสิ ไปเรียกแฟนของคุณมา”

เฉาถิงถิงโมโห พาร่างกายลุกขึ้นมา พร้อมควักโทรศัพท์ออกมาอย่างรวดเร็ว ใช้สายตาที่ชั่วร้ายนั่นจ้องไปที่ฉู่เฉินพร้อมกล่าวว่า “แกตายแน่! แกตายแน่ๆ!”

พูดเสร็จเธอก็กดโทรศัพท์ พูดพลางร้องไห้หนักมาก “ที่รัก ฉันถูกซ้อม คุณรีบมาช่วยฉันหน่อย ตรงที่ร้านของคุณเลยค่ะ”

“อืมได้ พาคนมาเยอะหน่อยล่ะ วันนี้ฉันจะฆ่าไอ้โง่สองคนนี้ให้ตาย!”

หลังจากวางสาย เฉาถิงถิงจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสีหน้าดุร้าย ตะโกนว่า “คนแซ่ฉู่ สามปีก่อนแกไม่ตาย วันนี้ แกได้ตายแน่”

“อีกเดี๋ยวแฟนฉันก็จะมาถึงแล้ว!”

ฉู่เฉินไร้ซึ่งความหวาดกลัว พร้อมกับลากเก้าอี้มานั่ง “งั้นเหรอ? งั้นผมรอนะ”

หลิวเฉียงที่อยู่ข้างกายตกใจจนเอ๋อไป พูดอย่างร้อนรนว่า “พี่เฉิน เราพอเถอะ พวกเราขอโทษเถอะ ผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ไม่ใช่ใครก็จะไปยุ่งกับเขาได้”

“ทำไมจะยุ่งไม่ได้?” ฉู่เฉินถาม

หลิวเฉียงสายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กลืนน้ำลายลงไปพร้อมพูดว่า “ผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ชื่อจ้าวหู่ โหดร้ายทารุณ เป็นคนโหดเหี้ยมที่มีชื่อเสียงในย่านนี้ เมื่อก่อนเขาเป็นนักเลงใต้ดิน ในมือมีลูกน้องมากมาย แต่ละคนเป็นพวกที่เคยติดคุกติดตะรางมาก่อนทั้งนั้น”

“ตอนหลังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลกู้”

“คนคนนี้พวกเราเข้าไปยุ่งด้วยไม่ได้ รีบขอโทษแล้วรีบออกไปกันเถอะ”

ฉู่เฉินร้องอ้อออกมาแล้วพยักหน้า

เฉาถิงถิงตะโกน “คิดจะไปเหรอ? ช้าไปแล้วล่ะ! หลิวเฉียง วันนี้ฉันไม่ได้จะแค่ฆ่าเขาให้ตาย ฉันยังจะฆ่านายให้ตายด้วย!”

คำพูดนั้นเพิ่งสิ้นสุดไป

ตรงหน้าประตูก็มีรถมากมายมาจอดด้วยความรีบร้อน เสียงเบรกของรถแสบหูเป็นอย่างยิ่ง

ปัง ปัง ปัง!

ประตูรถถูกเปิดออก กลุ่มนักเลงที่ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสักถือกระบองกระโดดลงมาจากรถ

รถเบนซ์คันข้างหน้าสุดนั้น ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีขาวก็เดินลงมาเช่นกัน รูปร่างอ้วนเล็กน้อย หน้าตาอัปลักษณ์ คิ้วขมวดที่เกิดจากความโกรธ

เขาก็คือจ้าวหู่!

ผู้จัดการของร้านอาหารร้านนี้

และเป็นสมาชิกที่เพิ่งเข้าร่วมทำธุรกิจร้านอาหารร่วมกับตระกูลกู้

ตลอดเวลาที่ออกจากบ้านมา ใช้ฐานะคู่ค้าตระกูลกู้ทำธุรกิจ

เพราะสุดท้ายแล้วสถานะก็คือสิ่งที่เขามอบให้ตนเอง

ก่อนหน้านี้ จ้าวหู่ถูกเรียกไปยังกรุ๊ปสาขาของตระกูลกู้ที่เจียงจง ว่ากันว่ามีวีไอพีคนหนึ่งที่ได้รับบัตรทองตระกูลกู้ และขอให้พวกเขามา ก็แค่ให้พวกเขาส่งรูปถ่ายไป ทำความรู้จักหน้าตา เพื่อไม่ให้แขกวีไอพีรายนี้ขุ่นเคืองเจียงจงโดยไม่ได้ตั้งใจ

หลังจากนั้นจ้าวหู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากแฟนสาวของเขาพอดี โดยบอกว่าเธอถูกทุบตีในร้านอาหารของเขา จ้าวหู่เริ่มโกรธและรีบไปพร้อมกับลูกน้องของเขา

วินาทีต่อมา ฝูงคนที่ถูกนำโดยจ้าวหู่ก็วิ่งพรวดเข้ามาอย่างจัง

จ้าวหู่คำรามอย่างสงบและมั่นใจ “ไอ้คนเหลือขอตัวไหนมันมาก่อเรื่องที่ร้านของฉัน กล้าตบตีแฟนของจ้าวหู่!”

เฉาถิงถิงมองเห็นจ้าวหู่ รีบวิ่งเข้าไปหา ร้องไห้ด้วยความเสียใจ “ที่รัก ทำไมคุณมาช้าแบบนี้ล่ะ คุณดูนี่สิฉันโดนทุบตี ฮือ ฮือ ฮือ...”

จ้าวหู่เห็นว่าบนหน้าของสุดที่รักตัวเองมีรอยมืออยู่ อีกทั้งยังมีตรงเข่าที่ที่บวมแดงมีเลือดออกอีก ตอนนั้นเขาโมโหมาก

เขาพูดปลอบใจว่า “เป็นเพราะมีเรื่องด่วนมาเข้าน่ะสิ ได้ยินมาว่าเจียงจงมีคนใหญ่คนโตมา ได้รับบัตรทองของผู้นำตระกูลกู้

เมื่อกี้พวกเราไปประชุมที่กรุ๊ปสาขาของตระกูลกู้หมดเลย”

“คนใหญ่คนโตเหรอ? คนใหญ่คนโตอะไร?” เฉาถิงถิงเกิดความสงสัยขึ้นมา ถามด้วยความตื่นเต้น

จ้าวหู่ตอบว่า “เดี๋ยวผมค่อยเล่าให้คุณฟังทีหลังนะครับ พวกเราก็เห็นแค่รูปภาพ รู้จักแค่หน้าตาเท่านั้นแหละ”

เฉาถิงถิงร้องเสียงอ้อ ตอบกลับอย่างกล้ำกลืน “งั้นฉันจะทำยังไงล่ะ”

“ที่รัก คุณวางใจเถอะ วันนี้ผมจะเรียกความเป็นธรรมคืนให้คุณเอง!” จ้าวหู่ตอบกลับ ทันใดนั้นดวงตาก็ดุร้าย

“ไอ้สารเลวที่ตีคุณมันอยู่ไหน?” จ้าวหู่ถาม

เฉาถิงถิงรีบยกนิ้วชี้ ชี้ไปยังฉู่เฉินที่นั่งอยู่อย่างเงียบงัน พร้อมตะโกนขึ้นมาว่า “มันนี่แหละที่ตีฉัน! ไอ้คนที่มันดูไร้วิญญาณ ต่ำช้าซะยิ่งกว่าหมาเสียอีก! ที่รัก คุณช่วยตบปากมันสักร้อยทีนะ!”

“ได้สิ!”

จ้าวหู่ตอบรับ พร้อมหันศีรษะ สายตาดุร้ายนั้นมองไปยังฉู่เฉิน พร้อมตะโกนขึ้นมาว่า “ไอ้ชาติหมา แกเหรอที่ตีแฟนฉัน?”

ฉู่เฉินยิ้มขึ้นมาอย่างเยือกเย็น เงยหน้าขึ้นมา มองไปยังจ้าวหู่ พร้อมพยักหน้า “ฉันนี่แหละ”

จ้าวหู่โมโหจัด มองอย่างรอบคอบ เมื่อมองเห็นหน้าตาของฉู่เฉินชัดเจนขึ้นแล้ว ใบหน้าของเขาซีดลงด้วยความหวาดกลัว และริมฝีปากของเขาสั่น “คุณ คุณฉู่เหรอ?”

นี่มันคือคนในรูปคนใหญ่คนโตคนนั้นที่ได้รับบัตรทองของตระกูลกู้ ที่ส่งรูปภาพของเขาให้ดูในประชุมตระกูลกู้วันนี้ไม่ใช่เหรอ...

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status