Share

บทที่ 12

Author: กระจอก
เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย

“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมา

ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”

ฉู่เฉิน?

เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”

ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”

“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”

ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”

หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”

ฉู่เฉินกวาดสายตาไปมองหลิวเฉียงที่ใบหน้าอ่อนล้าพูดว่า “จะปล่อยไปยังไง? เธอทำร้ายนายขนาดนี้ นายเป็นเพื่อนของฉู่เฉิน อย่างไรฉันก็จะตามหาความยุคิธรรมให้นาย”

“แต่ว่ายังไงเธอก็เป็นแฟนของผม...” หลิวเฉียงพูดขึ้นมาอย่างลังเล

ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาถอนหายใจในใจ

ยังเป็นคนรักมั่นอีกแน่ะ

ในเมื่อหลิวเฉียงพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างงั้นเขาจะปล่อยไปก็ได้

แต่เฉาถิงถิงกลับส่งเสียงแปลกๆ พร้อมตะโกนออกมาว่า “หลิวเฉียง! นายอย่ามาพูดพล่อยๆ นะ ใครเป็นแฟนของนายกัน? ฉันเพิ่งเลิกกับนายไปเมื่อกี้! ”

“ฉันจะบอกความจริงให้นะ ฉันมีแฟนใหม่แล้ว!”

“เขามีเงินมีอำนาจมากกว่านาย สิ้นปีพวกเราก็จะแต่งงานกันแล้ว”

เมื่อคำพูดนี้สิ้นสุดลง หลิวเฉียงสีหน้าเปลี่ยนไป เขาสับสนไปหมด ร่างกายหยุดชะงักอยู่กับที่ จ้องมองไปที่เฉาถิงถิงด้วยความไม่อยากเชื่อ “เธอ เธอพูดว่าอะไรนะ?”

“หึ!”

เฉาถิงถิงลุกขึ้นมา นวดแก้มของตัวเอง แล้วมองด้วยท่าทางดูถูกเหยียดหยาม เธอกล่าว “นายได้ยินไม่ผิด ฉันมีแฟนใหม่แล้ว”

ตูม!

หลิวเฉียงร่างกายสั่นเทา ราวกับโลกของเขาได้พังทลายลง

“ไม่มีทาง ไม่มีทาง... ” หลิวเฉียงส่ายหัวพร้อมกับตะโกนออกมา

ฉูเฉินถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พูดว่า “เจ้าเฉียง นายก็ได้ยินเองกับหูแล้ว ว่าเธอนอกใจ”

หลิวเฉียงสีหน้าซีดเผือด ร่างกายที่ราวกับไร้วิญญาณ แม้ว่าจะโกรธถึงขีดสุด มือกำหมัด แต่เขากลับหายใจเข้า กลั้นน้ำตาแล้วพูดว่า "พี่เฉิน ไปกันเถอะ..."

เขารู้ดีว่าตัวเองไม่มีเงินไม่มีอำนาจ เฉาถิงถิงถึงแอบนอกใจเขาแบบนี้ เขาน่าจะรู้ตัวได้ตั้งนานแล้ว

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เฉาถิงถิงกลับดึกมาก อีกทั้งมักจะกลับมาพร้อมกับกระเป๋าแบรนด์เนมและเสื้อผ้า

สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่เงินเดือนหนึ่งเดือนของหลิวเฉียงก็ซื้อให้เธอไม่ได้

“ได้ ฉันอยู่เป็นเพื่อนดื่มนายก่อนแล้วกัน” ฉู่เฉินพูดขึ้นมา

พูดจบทั้งสองก็จะจากไป

แต่เฉาถิงถิงถูกฉู่เฉินตบไปหนึ่งที ในใจยังเคียดแค้นไม่หาย รีบเข้าไปขว้างทั้งสองคนไว้ พร้อมกับตะโกนด้วยความโกรธว่า “คนแซ่ฉู่เหรอ ตบฉันแล้วยังจะกล้าเดินออกไปอีกเหรอ?”

“วันนี้ หากแกไม่คุกเข่าลงต่อหน้าฉันล่ะก็ ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจว่า “งั้นเหรอ? คุณดูมั่นใจนะ ”

“หึๆ แน่นอนสิ แกก็ลองไปถามดูสิว่าแฟนใหม่ฉันเป็นใคร! กลัวว่าถ้าพูดออกมาจะทำให้แกตกใจกลัวน่ะสิ!” เฉาถิงถิงพูดอย่างยโสโอหัง

“ลองพูดมาก่อนสิ ลองดูว่าจะทำให้ผมตกใจกลัวได้ไหม” ฉู่เฉินพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ

เฉาถิงถิงถลึงตาใส่ฉู่เฉิน พูดอย่าเย่อหยิ่งว่า “ฟังให้ดีล่ะ แฟนใหม่ของฉันก็คือผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้!”

“เขาเป็นคนของตระกูลกู้เชียวนะ!”

ผู้จัดการร้านอาหารเหรอ?

คนตระกูลกู้?

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว

หลิวเฉียงจิตใจสั่นไหว และรู้สึกหนาวไปทั้งตัว

เขาก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง อย่าไปพูดถึงคนตระกูลกู้เลย แม้แต่แค่เป็นผู้จัดการร้านอาหาร เขาก็ยังไม่กล้าไปยุ่งเลย

“เป็นอะไรไป กลัวแล้วละสิ? ถ้าอย่างนั้นก็รีบคุกเข่าลงซะ โขกหัวให้ฉันซะ! ” เฉาถิงถิงตะโกน

“ได้ แต่ว่าคนที่ต้องก้มลงกราบต้องไม่ใช่ผม แต่เป็นคุณ!” ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา ยกมือขึ้นกระชากผมเฉาถิงถิง พร้อมกดลงไปที่พื้นอย่างแรง!

ครั้งเดียวนี้ เฉาถิงถิงไม่ทันตั้งตัว เข่าของเธองอ และเธอก็คุกเข่าลงบนพื้น พร้อมกับเสียงดังแกรก

เหตุเพราะท่าทางเคลื่อนไหวที่เป็นวงกว้าง สิ่งที่อวบอ้วนแกว่งไปมาสองสามครั้งแล้วแทบจะทะลักออกมา

“กรี๊กๆๆ ไอ้สารเลว แกมันสารเลว แน่จริงก็ปล่อยฉันไปสิ แล้วฉันจะให้แฟนฉันมาจัดการแก! ” เฉาถิงถิงโมโหร้อน ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

ฉู่เฉินสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ ปล่อยมือเขาพูดอย่างใจเย็นและสงบ “ได้ ไปเรียกมาสิ ไปเรียกแฟนของคุณมา”

เฉาถิงถิงโมโห พาร่างกายลุกขึ้นมา พร้อมควักโทรศัพท์ออกมาอย่างรวดเร็ว ใช้สายตาที่ชั่วร้ายนั่นจ้องไปที่ฉู่เฉินพร้อมกล่าวว่า “แกตายแน่! แกตายแน่ๆ!”

พูดเสร็จเธอก็กดโทรศัพท์ พูดพลางร้องไห้หนักมาก “ที่รัก ฉันถูกซ้อม คุณรีบมาช่วยฉันหน่อย ตรงที่ร้านของคุณเลยค่ะ”

“อืมได้ พาคนมาเยอะหน่อยล่ะ วันนี้ฉันจะฆ่าไอ้โง่สองคนนี้ให้ตาย!”

หลังจากวางสาย เฉาถิงถิงจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสีหน้าดุร้าย ตะโกนว่า “คนแซ่ฉู่ สามปีก่อนแกไม่ตาย วันนี้ แกได้ตายแน่”

“อีกเดี๋ยวแฟนฉันก็จะมาถึงแล้ว!”

ฉู่เฉินไร้ซึ่งความหวาดกลัว พร้อมกับลากเก้าอี้มานั่ง “งั้นเหรอ? งั้นผมรอนะ”

หลิวเฉียงที่อยู่ข้างกายตกใจจนเอ๋อไป พูดอย่างร้อนรนว่า “พี่เฉิน เราพอเถอะ พวกเราขอโทษเถอะ ผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ไม่ใช่ใครก็จะไปยุ่งกับเขาได้”

“ทำไมจะยุ่งไม่ได้?” ฉู่เฉินถาม

หลิวเฉียงสายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กลืนน้ำลายลงไปพร้อมพูดว่า “ผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ชื่อจ้าวหู่ โหดร้ายทารุณ เป็นคนโหดเหี้ยมที่มีชื่อเสียงในย่านนี้ เมื่อก่อนเขาเป็นนักเลงใต้ดิน ในมือมีลูกน้องมากมาย แต่ละคนเป็นพวกที่เคยติดคุกติดตะรางมาก่อนทั้งนั้น”

“ตอนหลังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลกู้”

“คนคนนี้พวกเราเข้าไปยุ่งด้วยไม่ได้ รีบขอโทษแล้วรีบออกไปกันเถอะ”

ฉู่เฉินร้องอ้อออกมาแล้วพยักหน้า

เฉาถิงถิงตะโกน “คิดจะไปเหรอ? ช้าไปแล้วล่ะ! หลิวเฉียง วันนี้ฉันไม่ได้จะแค่ฆ่าเขาให้ตาย ฉันยังจะฆ่านายให้ตายด้วย!”

คำพูดนั้นเพิ่งสิ้นสุดไป

ตรงหน้าประตูก็มีรถมากมายมาจอดด้วยความรีบร้อน เสียงเบรกของรถแสบหูเป็นอย่างยิ่ง

ปัง ปัง ปัง!

ประตูรถถูกเปิดออก กลุ่มนักเลงที่ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสักถือกระบองกระโดดลงมาจากรถ

รถเบนซ์คันข้างหน้าสุดนั้น ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีขาวก็เดินลงมาเช่นกัน รูปร่างอ้วนเล็กน้อย หน้าตาอัปลักษณ์ คิ้วขมวดที่เกิดจากความโกรธ

เขาก็คือจ้าวหู่!

ผู้จัดการของร้านอาหารร้านนี้

และเป็นสมาชิกที่เพิ่งเข้าร่วมทำธุรกิจร้านอาหารร่วมกับตระกูลกู้

ตลอดเวลาที่ออกจากบ้านมา ใช้ฐานะคู่ค้าตระกูลกู้ทำธุรกิจ

เพราะสุดท้ายแล้วสถานะก็คือสิ่งที่เขามอบให้ตนเอง

ก่อนหน้านี้ จ้าวหู่ถูกเรียกไปยังกรุ๊ปสาขาของตระกูลกู้ที่เจียงจง ว่ากันว่ามีวีไอพีคนหนึ่งที่ได้รับบัตรทองตระกูลกู้ และขอให้พวกเขามา ก็แค่ให้พวกเขาส่งรูปถ่ายไป ทำความรู้จักหน้าตา เพื่อไม่ให้แขกวีไอพีรายนี้ขุ่นเคืองเจียงจงโดยไม่ได้ตั้งใจ

หลังจากนั้นจ้าวหู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากแฟนสาวของเขาพอดี โดยบอกว่าเธอถูกทุบตีในร้านอาหารของเขา จ้าวหู่เริ่มโกรธและรีบไปพร้อมกับลูกน้องของเขา

วินาทีต่อมา ฝูงคนที่ถูกนำโดยจ้าวหู่ก็วิ่งพรวดเข้ามาอย่างจัง

จ้าวหู่คำรามอย่างสงบและมั่นใจ “ไอ้คนเหลือขอตัวไหนมันมาก่อเรื่องที่ร้านของฉัน กล้าตบตีแฟนของจ้าวหู่!”

เฉาถิงถิงมองเห็นจ้าวหู่ รีบวิ่งเข้าไปหา ร้องไห้ด้วยความเสียใจ “ที่รัก ทำไมคุณมาช้าแบบนี้ล่ะ คุณดูนี่สิฉันโดนทุบตี ฮือ ฮือ ฮือ...”

จ้าวหู่เห็นว่าบนหน้าของสุดที่รักตัวเองมีรอยมืออยู่ อีกทั้งยังมีตรงเข่าที่ที่บวมแดงมีเลือดออกอีก ตอนนั้นเขาโมโหมาก

เขาพูดปลอบใจว่า “เป็นเพราะมีเรื่องด่วนมาเข้าน่ะสิ ได้ยินมาว่าเจียงจงมีคนใหญ่คนโตมา ได้รับบัตรทองของผู้นำตระกูลกู้

เมื่อกี้พวกเราไปประชุมที่กรุ๊ปสาขาของตระกูลกู้หมดเลย”

“คนใหญ่คนโตเหรอ? คนใหญ่คนโตอะไร?” เฉาถิงถิงเกิดความสงสัยขึ้นมา ถามด้วยความตื่นเต้น

จ้าวหู่ตอบว่า “เดี๋ยวผมค่อยเล่าให้คุณฟังทีหลังนะครับ พวกเราก็เห็นแค่รูปภาพ รู้จักแค่หน้าตาเท่านั้นแหละ”

เฉาถิงถิงร้องเสียงอ้อ ตอบกลับอย่างกล้ำกลืน “งั้นฉันจะทำยังไงล่ะ”

“ที่รัก คุณวางใจเถอะ วันนี้ผมจะเรียกความเป็นธรรมคืนให้คุณเอง!” จ้าวหู่ตอบกลับ ทันใดนั้นดวงตาก็ดุร้าย

“ไอ้สารเลวที่ตีคุณมันอยู่ไหน?” จ้าวหู่ถาม

เฉาถิงถิงรีบยกนิ้วชี้ ชี้ไปยังฉู่เฉินที่นั่งอยู่อย่างเงียบงัน พร้อมตะโกนขึ้นมาว่า “มันนี่แหละที่ตีฉัน! ไอ้คนที่มันดูไร้วิญญาณ ต่ำช้าซะยิ่งกว่าหมาเสียอีก! ที่รัก คุณช่วยตบปากมันสักร้อยทีนะ!”

“ได้สิ!”

จ้าวหู่ตอบรับ พร้อมหันศีรษะ สายตาดุร้ายนั้นมองไปยังฉู่เฉิน พร้อมตะโกนขึ้นมาว่า “ไอ้ชาติหมา แกเหรอที่ตีแฟนฉัน?”

ฉู่เฉินยิ้มขึ้นมาอย่างเยือกเย็น เงยหน้าขึ้นมา มองไปยังจ้าวหู่ พร้อมพยักหน้า “ฉันนี่แหละ”

จ้าวหู่โมโหจัด มองอย่างรอบคอบ เมื่อมองเห็นหน้าตาของฉู่เฉินชัดเจนขึ้นแล้ว ใบหน้าของเขาซีดลงด้วยความหวาดกลัว และริมฝีปากของเขาสั่น “คุณ คุณฉู่เหรอ?”

นี่มันคือคนในรูปคนใหญ่คนโตคนนั้นที่ได้รับบัตรทองของตระกูลกู้ ที่ส่งรูปภาพของเขาให้ดูในประชุมตระกูลกู้วันนี้ไม่ใช่เหรอ...
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ออนกนก โพธิรักษ์
อยากอ่านต่อเรื่องที่ติดตามเมื่อวาน 22 ธันวาคม 67 แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ ต้องทำไงคะ เปิดดูในแอป เป็นเรื่องใหม่แล้วอะคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 13

    “ที่รัก! จัดการมัน รีบจัดการมันสิคะ!”เฉาถิงถิงพูดคะยั้นคะยออยู่ข้างๆ เธอหวังแต่เพียงว่าจ้าวหู่จะบดขยี้ฉู่เฉินและหลิวเฉียงลงไปที่พื้นทันที!จ้าวหู่ทำราวกับไม่ได้ยิน รีบวิ่งไปข้างหน้า โค้งตัวลงไป “คุณคือคุณฉู่ ฉู่เฉินใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้ว พยักหน้าตอบ “ใช่”“แหมๆ คุณฉู่จริงด้วย สวัสดีครับๆ ผมชื่อจ้าวหู่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ ขอโทษที่ไม่ได้มาต้อนรับนะครับๆ”จ้าวหู่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่นับถือและประจบประแจงภาพนี้ทำให้ฉู่เฉินงุนงงเล็กน้อยหลิวเฉียงก็เช่นกันคนที่ตกตะลึงและสับสนที่สุดคือเฉาถิงถิง“ที่รัก คุณทำอะไรเนี่ย? คุณฉู่อะไรกัน? คุณบ้าไปแล้วเหรอ? เขาคือไอ้คนเหลือขอที่ตบตีฉันเมื่อกี้นะคะ! คุณรีบจัดการมันสิ!”เฉาถิงถิงพูดอย่างร้อนรน กระทืบเท้า หน้าอกใหญ่และอวบอิ่ม ก็สั่นขึ้นลงทันที“เพียะ!”เป็นผลให้จ้าวหู่หันหลังกลับมาไปและตบเข้าไปที่หน้าเฉาถิงถิง และดุว่า “อวดดี! ไอ้คนเหลือขอเหรอ? เขาคือคนที่ผมบอกคุณว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่ผู้นำตระกูลกู้ยังต้องเคารพ!”“ฉู่เฉิน คุณฉู่!”“คุณยังไม่รีบมาขอโทษคุณฉู่อีก!”จ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 14

    ฉู่เฉินหัวเราะอย่างนึกสนุกและพูดว่า “ผู้จัดการจ้าวไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?"คิ้วของจ้าวหู่ขมวดมุ่น ฉู่เฉินยังคงพูดต่อว่า “ตอนนี้ผู้จัดการจ้าวอายุสี่สิบแล้วใช่ไหมครับ หลายปีมานี้ที่มีลูกไม่สำเร็จ ไม่เคยสงสัยตัวเองเหรอ?”“หากคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดูได้”“เมื่อถึงเวลานั้น เด็กในท้องใช่หรือไม่ใช่ลูกของคุณ ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจเองนะครับ”จ้าวหู่ได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกัดฟันพูดว่า “ได้! หวังว่าที่คุณฉู่พูดจะถูกต้องนะครับ หากผมไม่ได้มีปัญหาจริงๆ ล่ะก็ คุณฉู่ต้องคิดผลลัพธ์ให้ดีนะครับ!”พูดเสร็จ จ้าวหู่ก็หมุนตัวออกไปจากร้านอาหารเฉาถิงถิงเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ร้อนรนขึ้นมารั้งจ้าวหู่ “ที่รัก ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ ให้พวกเขาไปเถอะค่ะ”จ้าวหู่คิ้วขมวดอีกครั้ง เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฉาถิงถิง ในใจเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา“ไม่ได้ พวกเขาลบหลู่ผมได้ แต่จะมาลบหลู่ลูกของผมจ้าวหู่ไม่ได้!” จ้าวหู่พูดอย่างเย็นชา เดินหันหลังออกไป มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำการตรวจ หลังผลตรวจออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนขั้นสุด!ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต!หลังจากนั้นเขาก

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 15

    ฉู่เฉินนั่งขัดสมาธิ จนถึงช่วงเวลาเย็นของอีกวันหนึ่งฉู่เฉินลืมตาขึ้นมา พรูลมหายใจหยาบแล้วก็กำหมัด รู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง!จากนั้นฉู่เฉินก็ยืนขึ้น เพียงก้าวออกไปก็เคลื่อนตัวไปด้านข้างสองเมตร!เป็นความเร็วที่รวดเร็วมาก!จากนั้นเขาก็ต่อยออกไป และเสียงที่ทะลุผ่านอากาศก็ทำให้ได้ยินเสียงอึกทึกกำแพงที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ภายใต้การโจมตีของหมัด ก็พังทลายเป็นราบกองแข็งแกร่ง!ฉู่เฉินดีอกดีใจ!ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องกังวลว่าจะไม่สามารถโล่นแล่นในเจียงจงได้!หลิ่วชิงเหอ หลิ่วหรูเยียน พวกเธอรอก่อนเถอะ ฉันจะแก้แค้นพวกเธอให้สาสมฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะกลับมาอยู่ในมือของฉู่เฉินอีกครั้งถอนหายใจออกมา ฉู่เฉินรับโทรศัพท์จากกู้รั่วเสวี่ย“หมอเทวดาฉู่ คุณอยู่ที่ไหนคะ?” กู้รั่วเสวี่ยถามด้วยรอยยิ้มฉู่เฉินบอกที่อยู่ของตัวเองไปไม่นานเฟอร์รารี่สีแดงสุดเท่ เสียงมอเตอร์ดังมาจากระยะไกลและหยุดอยู่หน้าบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ประตูรถถูกเปิดออก กู้รั่วเสวี่ยสวมกระโปรงยาวถึงเข่าสีแดงเพลิงและแว่นกันแดด ก้าวลงจากรถด้วยขาเรียวสีขาวแล้วจึงออกมา งดงาม!ท่าทางสง่างามนี่มันระดับเทพธิ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 16

    โครม!เสียงดังสนั่นหวั่นไหว!สายตาของทุกคน หันไปมองฉู่เฉินที่อยู่ในมุมเป็นตาเดียวกันเต็มไปด้วยความสงสัย ตกตะลึง โกรธแค้น เหยียดหยามแล้วก็สะใจเกิดเรื่องอะไรขึ้น?เจ้าหมอนี่เป็นใครกันกล้าพูดจาแบบนี้ออกมาในงานเลี้ยงการแพทย์ของตระกูลกู้ อยากตายใช่ไหม!กู้รั่วเสวี่ยรีบกล่าวเตือนเสียงเบา “หมอเทวดาฉู่ คำบางคำอย่าพูดมั่ว ๆ จะดีกว่า นั่นคืออดีตผู้บัญชาการเว่ยของเขตทหารระดับมณฑลเลยนะ เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในมณฑล เป็นคนที่มีอำนาจล้นฟ้า ต่อให้เป็นตระกูลกู้ของฉัน ก็ยังให้ความเคารพเขา...”หญิงสาวที่มีรูปร่างอรชร บุคลิกเย็นชาโดดเด่นข้างเว่ยหนานเฟิงคนนั้น ท่าทางอายุราว ๆ นี่สิบสี่ถึงยี่สิบห้าปี ในเวลานี้ก็ขมวดคิ้วสวยเช่นเดียวกัน จ้องมองฉู่เฉินด้วยความไม่พอใจมากนี่ใคร?กล้าพูดจาแบบนี้ ต่อหน้าคุณปู่ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริง ๆสินะ!ส่วนหลิ่วหรูเยียนที่อยู่บนเวที ในเวลานี้ที่ได้ยินคำพูดของฉู่เฉิน สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที แทบอยากจะฉีกฉู่เฉินเป็นชิ้น ๆ!“ฉู่เฉิน! แกหมายความว่ายังไง? แกกำลังสงสัยในยาอายุวัฒนะที่ฉันคิดค้นอย่างนั้นเหรอ?”หลิ่วหรูเยียนตำหนิด้วยความไม่พอใจ คิ้วงามขมวดย่น

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 17

    ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หลิ่วชิงเหอโกรธจนหน้าอกสั่น พยายามดิ้นรนให้หลุดรอดจากเงื้อมมือของฉู่เฉิน!“ไอ้เดรัจฉาน! แกไปตายซะ!”หลิ่วชิงเหอยกเท้าขึ้นแล้วเตะเข้าไปที่ฉู่เฉินฉู่เฉินยกมือขึ้น คว้าต้นขาขาวนุ่มนิ่มของเธอเอาไว้ กล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทำไม รีบร้อนขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่า พวกเราจะทำกันตรงนี้เลย?”“แกปล่อยนะ!”หลิ่วชิงเหอโมโห พยายามจะชักขาของตนเองกลับ ยกมือขึ้น กำลังจะสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่แก้มของฉู่เฉินผลปรากฏว่า ทันทีที่ยกมือขึ้น ก็ถูกฉู่เฉินคว้าเอาไว้ทันทีตอนนี้ หลิ่วชิงเหอถูกฉู่เฉินควบคุมเอาไว้ ขยับเขยื้อนไม่ได้สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกว่าได้รับความเหยียดหยามมากที่สุดก็คือ ไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินกลับชิดเข้ามา ชั่วขณะ หลิ่วชิงเหอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันเร่าร้อนของความเป็นชายปะทะเข้าใส่ตัวเธอน่ารังเกียจ!มันคิดจะทำอะไร?มันคงจะไม่คิดจะลงมือกับเธอตรงนี้หรอกใช่ไหม?กรี๊ด ๆ ๆ!ระยำ!ไอ้เดรัจฉานนี่“ฉู่เฉิน แกคิดจะทำอะไร? ที่นี่คือเฉียนหลงวิลล่า! แกปล่อยฉัน!” หลิ่วชิงเหอร้อนใจ พยายามดิ้นรน แต่ยิ่งดิ้นเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ฉู่เฉินก็ถูกหลิ่วชิงเหอทำให้เลือดร้อนพลุ่งพล่าน“หลิ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 18

    “ฉัน...”หลิ่วหรูเยียนล้มลงไปนั่งบนพื้น ตัวสั่นเทาไปทั่วทั้งตัว สีหน้าซีดขาว ตื่นตระหนกเป็นอย่างมากถ้าจะให้เธอไปร้องขอคนไร้น้ำยาอย่างฉู่เฉิน?แบบนั้นสู้ฆ่าเธอทิ้งซะดีกว่าหลิ่วหรูเยียนจะเป็นบ้าแล้ว“มัวอึ้งอยู่ทำไม? ยังไม่ไปอีก!” เว่ยฉิงตะคอกเสียงเอาแต่ใจหลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างโซซัดโซเซ ภายในหัวสมองว่างเปล่า เดินออกจากห้องโถง วิ่งเหยาะ ๆ จนชนเข้ากับหลิ่วชิงเหอ“หรูเยียน เกิดอะไรขึ้น?” หลิ่วชิงเหอเห็นท่าทางของหลิ่วหรูเยียน ภายในใจแอบรู้สึกไม่ดี“แม่คะ ฮือ ๆ ๆ เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องแล้ว ยาอายุวัฒนะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อดีตผู้บัญชาการเว่ยอาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้วก็หมดสติไปแล้ว...” ขาทั้งสองข้างของหลิ่วหรูเยียนอ่อนยวบ ล้มลงไปนั่งบนพื้นอีกครั้ง พิงหลิ่วชิงเหอร้องไห้โฮออกมาเสียงดังหลิ่วชิงเหอย่อตัวลงไป ประคองหลิ่วหรูเยียนเอาไว้ ภายในใจแอบคิดว่าเป็นไปตามคาดจริง ๆโดนไอ้ระยำอย่างฉู่เฉินพูดถูกจนได้“อย่าร้อนใจไป แม่เข้าไปดูหน่อย” หลิ่วชิงเหอกล่าว ลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องโถงตอนที่เห็นฉากดังกล่าว รวมทั้งอดีตผู้บัญชาการเว่ย ที่นอนหมดสติอยู่บนเก้าอี้วีลแชร์ เธอในฐานะหญิง

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 19

    “เธอลองไตร่ตรองดูเอาเองแล้วกัน ฉันยังไงก็ได้”สะอึก!หัวใจของหลิ่วหรูเยียนสั่นเทา สีหน้าซับซ้อนมากถ้าจะต้องคุกเข่าให้คนไร้น้ำยาอย่างฉู่เฉินจริง ๆ เธอคงนอนหลับไม่สนิทไปเป็นครึ่งปีแน่ ๆไอ้ขยะนี่ก็คือคนระยำ!ทำให้เธอรู้สึกคลื่นเหียนเมื่อเห็นว่าเวลาที่เวียนผ่านไป ฉู่เฉินยังคงนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอกสบายใจเช่นเดิมและในเวลานี้ ที่ทางเดินด้านนอก มีเสียงฝีเท้าร้อนรนดังลอยมาไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นเว่ยฉิงที่พาคนเดินมาที่นี่“หรูเยียน! อย่าทำตัวเอาแต่ใจเหมือนเด็ก ตอนนี้ยังไม่มีคนเห็น ลูกอยากจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่าลูกคุกเข่าให้มันใช่ไหม?” หลิ่วชิงเหอกระซิบที่ข้างหูของหลิ่วหรูเยียน“ถ้าอดีตผู้บัญชาการเว่ยตายไป แม่กับลูก คงมีชีวิตรอดไม่พ้นคืนนี้”หลิ่วหรูเยียนตกใจขวัญเสียไปแล้ว สีหน้าซีดขาว โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าวุ่นวายที่ทางเดินด้านนอก เป็นเหมือนกับคาถาเร่งชีวิต‘ตุบ!’ภายใต้แรงกดดันทางจิตใจ หลิ่วหรูเยียนงอเข่าอันสูงส่งของเธอลงไป คุกเข่าลงต่อหน้าฉู่เฉิน เบือนหน้าบุ้ยปาก “ฉู่เฉิน แกรีบช่วยชีวิตอดีตผู้บัญชาการเว่ยสิ!”เมื่อเห็นท่าทางที่เย่อหยิ่งไม่เต็มใจของหลิ่วหรูเยียน ฉู่เ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 20

    ทางด้านนี้ ฉู่เฉินออกมาจากห้องก็ได้พบกับเว่ยฉิงและคนอื่น ๆ ที่มาตามหา“คุณฉู่...” เว่ยฉิงเอ่ยปากพูด สีหน้าร้อนใจฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “เวลามีจำกัด ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ไปที่ห้องโถงกันเถอะ”เมื่อเว่ยฉิงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้า หลีกทางให้จากนั้นฉู่เฉินก็มาถึงที่ห้องโถงเป็นคนแรกหลังจากที่เห็นอาการของเว่ยหนานเฟิงแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกันอาการของเว่ยหนานเฟิง สาหัสกว่าที่เขาคิดเอาไว้หน่อย“คุณฉู่ ยังสามารถช่วยชีวิตของคุณปู่ของฉันได้ไหมคะ?” เว่ยฉิงสีหน้าร้อนใจ กล่าวถามด้วยเบ้าตาที่แดงก่ำถ้าหากคุณปู่เป็นอะไร เธอจะทำอย่างไรดีฉู่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ “มีผมอยู่ วางใจได้ สามารถช่วยได้”เมื่อได้ยินประโยคนี้ เว่ยฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อยแต่ว่า หลิ่วหรูเยียนที่รีบเดินเข้ามา กลับเอ่ยปากกล่าวด้วยคำพูดดูถูก “ฉู่เฉิน แกเลิกเสแสร้งได้แล้ว ถ้าช่วยไม่ได้ แกต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด!”ช่วยไม่ได้ สถานะของเว่ยหนานเฟิงสูงส่งเกินไป เธอจำเป็นต้องคิดหาหนทางผลักความรับผิดชอบออกไปถ้าหากฉู่เฉินไม่ช่วย ถ้าคืนนี้เว่ยหนานเฟิงเป็นอะไรขึ้นมา ก็คือความรับผิดชอบของเธอหลิ่วหรูเย

Latest chapter

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 932

    ราวกับลีน่าได้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน เก็บมือที่อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างกลับมาแล้วยืนตัวตรงทันที จากนั้นสางผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยเมื่อประตูห้องเปิดออก ต้าหลิงจื่อที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่ก็โผล่หน้าออกมาชนเข้ากับลีน่าที่อยู่หน้าประตูเข้าอย่างจัง“ว้าย!”ต้าหลิงจื่อตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย ใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าและกล่าว “คุณ…คุณนายลีน่า คุณ…คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”ลีน่ายิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ฉันรอพวกคุณเกือบจะสองชั่วโมงแล้วล่ะ”กล่าวเสร็จไม่รอต้าหลิงจื่อตอบสนองใด ๆ ลีน่าก็ผลักประตูเข้าไปข้างในฉู่เฉินได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังก็เก็บกางเกงบ็อกเซอร์ขึ้นมาโดยไม่ลนลาน แล้วหันหลังใส่มันช้า ๆ จากนั้นหยิบบุหรี่หนึ่งในขึ้นมาจุดและกล่าวพร้อมชำเลืองมองลีน่า “มีธุระเหรอ?”ลีน่ามองสำรวจกล้ามเนื้อทั้งร่างกายของฉู่เฉินด้วยใบหน้าแดงก่ำและยิ้มน้อยกล่าว “คุณฉู่ สามีฉันคิดว่าการร่วมธุรกิจระหว่างพวกเรายังสามารถเจรจากันอีกได้ค่ะ”“เงื่อนไขสามารถปรับเปลี่ยนได้ อีกทั้งสภาพแวดล้อมในห้องทำงานก็เคร่งเครียดเกินไป เขาจึงจองห้องอาหารส่วนตัวที่ภัตตาคารไห่เฟิงไว้แล้ว หวังว่าคุณฉู่จะให้เกียรติมาร่

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 931

    เมื่อเห็นว่ารอบนี้ลีน่าเอาจริง แรนด์จึงเริ่มร้อนใจและคว้าข้อมือของลีน่าไว้พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ลีน่า ความรู้สึกที่ยาวนานขนาดนั้นของพวกเรา…”ความรู้สึก?ลีน่าอยากจะขำให้ท้องแข็งตายเมื่อได้ยินคำนี้ ตอบพร้อมกลอกตาใส่แรนด์ด้วยสีหน้ารังเกียจ “คุณป่วยหนักอยู่นะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันสนใจในทรัพย์สมบัติของคุณ คุณคิดว่าฉันจะมาคบคุณเหรอ?”“คุณทั้งแก่และขี้เหร่ หลงใหลระยะสั้นๆ ทำมาพูดเรื่องความรู้สึกรักชอบ ช่างน่าเสียความรู้สึกจริง ๆ โอเคไหม?”ไม่เสแสร้งแล้ว เปิดใจทั้งหมดใบหน้าชราของแรนด์อมทุกข์จนราวกับจะมีน้ำตาหยดลงมา แต่ก็ไม่มีปัญญา ใครให้ผู้หญิงคนนี้ชำนาญในด้านนั้นกันล่ะหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ แล้วแรนด์ก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหาจึงกัดฟันพูดขึ้นว่า “คุณ…คุณโทรไปเรียกเขามาสิ ผมเป็นเจ้าภาพเอง ให้ไปกินข้าวและพูดคุยกันที่ภัตตาคารไห่เฟิง”แรนด์ไม่อาจยอมได้ แต่ก็พ่ายแพ้ในการพูดคุยแล้ว สิ่งที่เขาสูญเสียนั้นมากเกินไปแล้วจริง ๆไม่เพียงถูกคนจากฝ่ายทหารตามไล่ฆ่า แถมผู้หญิงข้างกายเขาก็จะจากเขาไปไกลอีกถ้าเป็นแค่ผู้หญิงทั่วไปก็ช่างเถอะปัญหาคือขาทั้งสองข้างของลีน่าแรงดีมาก แล้วยังหนีบเก่งอีกสิ่งที

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 930

    วินาทีต่อมา เธอเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบแหวกชุดทำงานออก แล้วแกะกระดุมตรงหน้าอกออกสองเม็ด ก่อนจะก้มหน้ามองหน้าอกทั้งสองข้างจากนั้นก็เห็นว่ารอยแผลตกสะเก็ดหลุดออกหมดแล้ว ผิวที่เกิดใหม่เรียบเนียนราวกับของใหม่ทำให้ต้าหลิงจื่อตะลึงงัน ฉู่เฉินมองลูกแพร์ขนาดใหญ่สองลูกที่ส่องประกายแวววาวก็ตกตะลึงไปเช่นกัน“ว้าย” ผ่านไปพักใหญ่ ต้าหลิงจื่อถึงค่อยสังเกตเห็นว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักของฉู่เฉิน แถมยังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างกึ่งโป๊กึ่งมิดชิด เธอรู้สึกเขินอายมากทันที ก่อนจะรีบยืนตัวตรง เอามือดึงกางเกงที่แทบจะถกมาถึงต้นขา“คะ...คุณชายฉู่ ขะ...ขอโทษด้วยค่ะ เมื่อกี้ฉัน...”ยังไม่ทันที่ต้าหลิงจื่อจะพูดจบ ปากขนาดใหญ่ก็ปิดริมฝีปากแดงของเธอกลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของชายชาตรีถาโถมใส่หน้า ต้าหลิงจื่อสิ้นฤทธิ์ในพริบตา เธอไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว โดยเฉพาะเมื่อโดนแขนที่ทรงพลังโอวเอวไว้ ราวกับเขื่อนที่พังทลาย ไม่อาจควบคุมได้เลย“แควก!” ฉู่เฉินฉีกถุงน่องของต้าหลิงจื่อออกทันที ก่อนจะพลิกมือกดต้าหลิงจื่อลงบนโต๊ะทำงาน“คุณชายฉู่ บะ...เบาหน่อยค่ะ ฉันไม่ได้ทำแบบนี้

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 929

    แม้แต่ต้าหลิงจื่อที่ยืนอยู่ทางด้านข้างก็ยังตกตะลึงกับสิ่งที่ฉู่เฉินทำตอนที่หลิ่วหรูเยียนกับหลิ่วชิงเหอแม่ลูกเจรจาความร่วมมือกับคนอื่น เธอก็อยู่ด้วย แต่ว่าสามปีมานี้ เธอยังไม่เคยเห็นการเจรจาความร่วมมือแบบนี้มาก่อนเลยมิน่าล่ะหลิ่วหรูเยียนถึงบอกให้ฉู่เฉินมาเจรจา บารมีบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน ชั่วขณะหนึ่ง ภาพลักษณ์ของฉู่เฉินในใจของต้าหลิงจื่อคล้ายกับยิ่งใหญ่ขึ้นไม่น้อย“ฮึ คุณฉู่ นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณก็ได้ ในเมื่อคุณไม่เห็นค่า งั้นพวกเราก็ขอตัวแล้ว” แรนด์กระแทกถ้วยกาแฟในมือลงบนโต๊ะอย่างหนักหน่วงดังปัง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาด้วยความฉุนเฉียว ก่อนจะดึงลีน่าขึ้นมาแล้วหันกายเดินจากไป “เอ๊ะ...”เมื่อเห็นสามีภรรยาแรนด์เดินจากไปแล้วจริงๆ ต้าหลิงจื่อกำลังคิดจะเรียกพวกเขาให้หยุด แต่โดนฉู่เฉินยื่นมือมาขวางไว้“คุณฉู่...”“ให้พวกเขาไสหัวไป”เสียงของฉู่เฉินไม่ดังไม่เบา แต่สามีภรรยาแรนด์กลับได้ยินชัดเจน “คุณ...”แรนด์หันหน้ามาถลึงตาใส่ฉู่เฉินด้วยความแค้นใจ คำว่าไสหัวไปครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ให้แม้กระทั่งทางลงกับเขาเลยจริง ๆในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่อยากไปก็ไม่ได้แล้วดูท่าข้อมู

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 928

    หน้าอกใหญ่สองลูกนั้นราวกับอาวุธสังหารที่สั่นไหวเล็กน้อยไปตามลมหายใจ เหมือนจะดันเสื้อเชิ้ตสีเบจบนตัวเธอให้ปริได้ทุกเมื่อ ส่วนเรียวขาใหญ่ยาวงดงามที่แข็งแรงและไม่เสียทรงสองข้างเปล่งประกายสีทองแดงแวววาวจากการอาบแดดบนชายหาดแม้ว่าผิวจะไม่ขาวเนียน ทว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าให้ความรู้สึกงดงามสุขภาพดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งริมฝีปากที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนนั้น แค่มองก็ทำให้คนเกิดความคิดหุนหันอยากจะถูกเธออมไว้ในปากนัยน์ตาโตสีฟ้า ประกอบกับขนตาเรียวยาว แค่กะพริบตาเหลือบมองกลับมาก็เปี่ยมไปด้วยความเสน่หานี่แค่เห็นก็รู้ว่าเป็นผลผลิตจากอำนาจของเงินตราเมื่อเห็นฉู่เฉิน สามีภรรยาคู่นี้ก็อึ้งไปก่อน จากนั้นเป็นสาวสวยชาวตะวันตกคนนั้นที่ยิ้มให้ฉู่เฉินก่อนแล้วพูดว่า “คุณน่าจะเป็นคุณฉู่เฉินสินะ?” สาวสวยชาวตะวันตกพูดพลางส่ายเรียวขางามแข็งแรงอยู่บนรองเท้าสายรัดส้นเข็ม เดินเข้ามาหาฉู่เฉิน ก่อนจะยื่นมือไปจับมือกับฉู่เฉิน “ผมคือฉู่เฉิน ไม่ทราบว่าพวกคุณคือ?”ฉู่เฉินจับมือเรียวงามนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูกของสาวสวยชาวตะวันตกอย่างเป็นมิตรมาก สายตากวาดมองหน้าอกของเธอแวบหนึ่ง ร่องอกนั้นสามารถซุกคนทั้งเป็นเข้าไปได้เลย

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 927

    บ้าเอ๊ย!แม้แต่ลมหายใจของฉู่เฉินก็ถี่กระชั้นขึ้นเล็กน้อย นี่ถ้าเกิดเป็นการต่อสู้จริงละก็ ตอนนี้เขาคงสิ้นชีพไปแล้วจนกระทั่งตอนนี้เอง ในที่สุดฉู่เฉินก็รู้แน่ชัดถึงช่องว่างของระดับพลังสร้างรากฐานแล้วยกตัวอย่างเช่น เมื่อคืนนี้เผชิญหน้ากับเย่หัวที่เหนือกว่าเขาหนึ่งขั้น แม้ว่าฉู่เฉินจะตกเป็นฝ่ายรับ แต่ก็มีพลังต่อสู้อยู่แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่เหนือกว่าเขาหลายขั้นอย่างเจ้าทึ่ม เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะลงมือ“ตอนนี้นายเทียบเท่าระดับสร้างรากฐานประมาณขั้นไหนแล้ว?”ฉู่เฉินปัดฝุ่นบนตัวพลางขมวดคิ้วเอ่ยถาม“ขั้นเก้า”เจ้าทึ่มเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าอะไรนะ?ฉู่เฉินกลืนน้ำลายหนัก ๆ ความเร็วในการพัฒนานี้ทำให้ฉู่เฉินตกตะลึงนิดหน่อยจริง ๆ “งั้นผู้ชายผู้หญิงที่ลงมาจากรถเมื่อคืน นายเองก็เห็นแล้ว คิดว่าเอาชนะได้หรือเปล่า?” ฉู่เฉินเลิกคิ้วเอ่ยกับเจ้าทึ่ม“ได้ ผมรู้สึกได้ว่าพวกเขาอ่อนแอมาก” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ รัศมีแสงสีฟ้าภายในดวงตาของเจ้าทึ่มพลันส่องประกายหลายครั้ง ยังจงใจเอาลิ้นสีแดงคาวเลียริมฝีปากแห้งผาก“นายแค่กินคนก็สามารถเลื่อนระดับพลังได้แล้วเหรอ?”ฉู่เฉินเอามือไพล่หลังเดิ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 926

    แม้ว่าตอนนี้จะถูกแบนจากฝ่ายต่าง ๆ แต่คิดว่าคงไม่ได้แบนนานมากนัก“โอเคค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว งั้นฉันจะโทรหาคุณฉู่เดี๋ยวนี้เลย นัดเวลาเจอกัน?”ต้าหลิงจื่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนสอบถาม “อืม จัดการตามที่ฉันบอกละกัน...อ่า...”หลิ่วหรูเยียนอ้าปากหาวอีกครั้ง ก่อนจะลากร่างกายที่เหนื่อยล้าให้ลุกขึ้นมาพูดว่า “ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉัน...หาว...ฉันกลับไปนอนก่อนนะ มีเรื่องอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดเวลา” หลิ่วหรูเยียนกล่าวจบก็คว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมา ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปพร้อมกับต้าหลิงจื่อ เมื่อมาถึงถนน หลิ่วหรูเยียนยื่นมือออกไปเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเฉียนหลงวิลล่าหลังจากส่งหลิ่วหรูเยียนแล้ว ต้าหลิงจื่อถึงค่อยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฉู่เฉินเวลานี้ ฉู่เฉินเพิ่งกินข้าวเช้าเสร็จ แตกต่างจากพวกสาว ๆ อย่างหลิ่วหรูเยียนที่ผ่านศึกใหญ่มาทั้งคืน แต่ตอนนี้ฉู่เฉินกลับสดใสร่าเริง กระปรี้กระเปร่าเป็นร้อยเท่าจำเป็นต้องพูดว่ามรดกของมังกรเฒ่ามหัศจรรย์มากจริง ๆ การบำเพ็ญคู่ไม่เพียงสามารถเพิ่มพละกำลังให้แข็งแกร่งขึ้น ยิ่งทำให้กำลังวังชาของเขาเหนือกว่าคนทั่วไปมากนัก ต่อให้ทำศึกใหญ่ติดต่อกัน

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 925

    คืนนั้น ฉู่เฉินปลดปล่อยเพลิงมังกรหยางที่ยากจะควบคุมลงบนตัวหลิ่วหรูเยียนและสองพี่ต้องตระกูลต้วนเมื่อฉู่เฉินทะลวงสู่ระดับสร้างรากฐานชั้นห้า พลังรบก็เพิ่มขึ้นหนึ่งขั้นอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ต้วนหลิงเวยที่มีความอดทนมากที่สุดก็อ้อนวอนติดต่อกัน ยอมแพ้หลายต่อหลายครั้งเช้าวันถัดมา หลิ่วหรูเยียนลากร่างกายที่เหนื่อยล้ารีบไปทำงานที่บริษัท ถึงขนาดที่ไม่สนใจจะกินอาหารเช้าเลยด้วยซ้ำเธอกลัวจริง ๆ ทำไมตอนนี้ฉู่เฉินดูเหมือนป้อนอย่างไรก็ไม่เต็มอิ่มเลยละเธอกลัวจริง ๆ ว่าตัวเองจะเหนื่อยตายคาเตียงของฉู่เฉิน รุ่งเช้า ต้าหลิงจื่อเพิ่งมาถึงบริษัท เดินเข้ามาในห้องทำงานของหลิ่วหรูเยียนด้วยใบหน้าดีอกดีใจ เมื่อเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของหลิ่วหรูเยียน แถมยังมีรอยใต้ตาคล้ำวงใหญ่สองข้างบนใบหน้าเลยเอ่ยด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ เมื่อคืนนอนหลับไม่สนิทเหรอคะ? “ฮึ!” หลิ่วหรูเยียนได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกฉุนเฉียว เธอนอนหลับไม่สนิทที่ไหนกันล่ะ ไม่ได้นอนหลับสนิททั้งคืนชัด ๆ “ช่างเถอะ มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา ฉันเหนื่อยแล้ว อยากนอนสักหน่อย” หลิ่วหรูเยียนพูดพลางหาวยาว ๆ ทั้ง

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 924

    ถึงอย่างไรเธอก็อยู่ในเก้าสวรรค์สิบพิภพมาหลายร้อยปีแล้ว หากไม่มีพลังบำเพ็ญเพียร เธอจะกลายเป็นหญิงชราโดยสิ้นเชิงในคราวเดียว แค่คิดว่าตัวเองอาจจะมีริ้วรอยเหี่ยวย่น ชราภาพ อวี้ลู่ก็เกิดความรู้สึกหวาดกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจฉู่เฉินเห็นอวี้ลู่มีท่าทางเด็ดเดี่ยวแน่วแน่อย่างยิ่งก็ได้แต่สูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ก็ได้ นี่ยังมียาโลหิตวิญญาณอยู่นิดหน่อย ถ้าเกิดควบคุมตัวเองไม่ได้ พี่ก็กินเข้าไปสองเม็ด” ฉู่เฉินพูดพลางล้วงยาโลหิตวิญญาณขวดหนึ่งออกมาจากในอกแล้ววางไว้ในฝ่ามือของอวี้ลู่ แต่ทันทีที่สัมผัสโดนมือเล็ก ๆ ของอวี้ลู่ อุณหภูมิร่างกายที่ร้อนผ่าวส่งผ่านเข้ามา แม้แต่ฉู่เฉินก็ต้องชื่นชมความอดทนของอวี้ลู่อดกลั้นไว้จนเป็นแบบนี้เลยเหรอ?ผู้หญิงเนี่ยนะ ทำไมต้องทรมานตัวเองด้วยก่อนจะออกมา ฉู่เฉินชะงักฝีเท้าแล้วหันหน้ามาพูดว่า “ถ้าเกิดมีอะไรอยากให้ช่วยก็เรียกผมได้ตลอดเวลานะ” “ไม่จำเป็น!”อวี้ลู่ตะโกนเสียงดังพลางหอบหายใจแรง ฉู่เฉินส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แล้วเดินออกไปนอกถ้ำอินซู่ซู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรีบไล่ตามออกมา พูดกับฉู่เฉินว่า “นายท่าน นี่ผู้อาวุโสเป็นอะไรไปเหรอคะ?”ไม่แ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status