ฉู่เฉินนั่งขัดสมาธิ จนถึงช่วงเวลาเย็นของอีกวันหนึ่งฉู่เฉินลืมตาขึ้นมา พรูลมหายใจหยาบแล้วก็กำหมัด รู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง!จากนั้นฉู่เฉินก็ยืนขึ้น เพียงก้าวออกไปก็เคลื่อนตัวไปด้านข้างสองเมตร!เป็นความเร็วที่รวดเร็วมาก!จากนั้นเขาก็ต่อยออกไป และเสียงที่ทะลุผ่านอากาศก็ทำให้ได้ยินเสียงอึกทึกกำแพงที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ภายใต้การโจมตีของหมัด ก็พังทลายเป็นราบกองแข็งแกร่ง!ฉู่เฉินดีอกดีใจ!ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องกังวลว่าจะไม่สามารถโล่นแล่นในเจียงจงได้!หลิ่วชิงเหอ หลิ่วหรูเยียน พวกเธอรอก่อนเถอะ ฉันจะแก้แค้นพวกเธอให้สาสมฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะกลับมาอยู่ในมือของฉู่เฉินอีกครั้งถอนหายใจออกมา ฉู่เฉินรับโทรศัพท์จากกู้รั่วเสวี่ย“หมอเทวดาฉู่ คุณอยู่ที่ไหนคะ?” กู้รั่วเสวี่ยถามด้วยรอยยิ้มฉู่เฉินบอกที่อยู่ของตัวเองไปไม่นานเฟอร์รารี่สีแดงสุดเท่ เสียงมอเตอร์ดังมาจากระยะไกลและหยุดอยู่หน้าบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ประตูรถถูกเปิดออก กู้รั่วเสวี่ยสวมกระโปรงยาวถึงเข่าสีแดงเพลิงและแว่นกันแดด ก้าวลงจากรถด้วยขาเรียวสีขาวแล้วจึงออกมา งดงาม!ท่าทางสง่างามนี่มันระดับเทพธิ
โครม!เสียงดังสนั่นหวั่นไหว!สายตาของทุกคน หันไปมองฉู่เฉินที่อยู่ในมุมเป็นตาเดียวกันเต็มไปด้วยความสงสัย ตกตะลึง โกรธแค้น เหยียดหยามแล้วก็สะใจเกิดเรื่องอะไรขึ้น?เจ้าหมอนี่เป็นใครกันกล้าพูดจาแบบนี้ออกมาในงานเลี้ยงการแพทย์ของตระกูลกู้ อยากตายใช่ไหม!กู้รั่วเสวี่ยรีบกล่าวเตือนเสียงเบา “หมอเทวดาฉู่ คำบางคำอย่าพูดมั่ว ๆ จะดีกว่า นั่นคืออดีตผู้บัญชาการเว่ยของเขตทหารระดับมณฑลเลยนะ เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในมณฑล เป็นคนที่มีอำนาจล้นฟ้า ต่อให้เป็นตระกูลกู้ของฉัน ก็ยังให้ความเคารพเขา...”หญิงสาวที่มีรูปร่างอรชร บุคลิกเย็นชาโดดเด่นข้างเว่ยหนานเฟิงคนนั้น ท่าทางอายุราว ๆ นี่สิบสี่ถึงยี่สิบห้าปี ในเวลานี้ก็ขมวดคิ้วสวยเช่นเดียวกัน จ้องมองฉู่เฉินด้วยความไม่พอใจมากนี่ใคร?กล้าพูดจาแบบนี้ ต่อหน้าคุณปู่ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริง ๆสินะ!ส่วนหลิ่วหรูเยียนที่อยู่บนเวที ในเวลานี้ที่ได้ยินคำพูดของฉู่เฉิน สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที แทบอยากจะฉีกฉู่เฉินเป็นชิ้น ๆ!“ฉู่เฉิน! แกหมายความว่ายังไง? แกกำลังสงสัยในยาอายุวัฒนะที่ฉันคิดค้นอย่างนั้นเหรอ?”หลิ่วหรูเยียนตำหนิด้วยความไม่พอใจ คิ้วงามขมวดย่น
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หลิ่วชิงเหอโกรธจนหน้าอกสั่น พยายามดิ้นรนให้หลุดรอดจากเงื้อมมือของฉู่เฉิน!“ไอ้เดรัจฉาน! แกไปตายซะ!”หลิ่วชิงเหอยกเท้าขึ้นแล้วเตะเข้าไปที่ฉู่เฉินฉู่เฉินยกมือขึ้น คว้าต้นขาขาวนุ่มนิ่มของเธอเอาไว้ กล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทำไม รีบร้อนขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่า พวกเราจะทำกันตรงนี้เลย?”“แกปล่อยนะ!”หลิ่วชิงเหอโมโห พยายามจะชักขาของตนเองกลับ ยกมือขึ้น กำลังจะสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่แก้มของฉู่เฉินผลปรากฏว่า ทันทีที่ยกมือขึ้น ก็ถูกฉู่เฉินคว้าเอาไว้ทันทีตอนนี้ หลิ่วชิงเหอถูกฉู่เฉินควบคุมเอาไว้ ขยับเขยื้อนไม่ได้สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกว่าได้รับความเหยียดหยามมากที่สุดก็คือ ไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินกลับชิดเข้ามา ชั่วขณะ หลิ่วชิงเหอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันเร่าร้อนของความเป็นชายปะทะเข้าใส่ตัวเธอน่ารังเกียจ!มันคิดจะทำอะไร?มันคงจะไม่คิดจะลงมือกับเธอตรงนี้หรอกใช่ไหม?กรี๊ด ๆ ๆ!ระยำ!ไอ้เดรัจฉานนี่“ฉู่เฉิน แกคิดจะทำอะไร? ที่นี่คือเฉียนหลงวิลล่า! แกปล่อยฉัน!” หลิ่วชิงเหอร้อนใจ พยายามดิ้นรน แต่ยิ่งดิ้นเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ฉู่เฉินก็ถูกหลิ่วชิงเหอทำให้เลือดร้อนพลุ่งพล่าน“หลิ
“ฉัน...”หลิ่วหรูเยียนล้มลงไปนั่งบนพื้น ตัวสั่นเทาไปทั่วทั้งตัว สีหน้าซีดขาว ตื่นตระหนกเป็นอย่างมากถ้าจะให้เธอไปร้องขอคนไร้น้ำยาอย่างฉู่เฉิน?แบบนั้นสู้ฆ่าเธอทิ้งซะดีกว่าหลิ่วหรูเยียนจะเป็นบ้าแล้ว“มัวอึ้งอยู่ทำไม? ยังไม่ไปอีก!” เว่ยฉิงตะคอกเสียงเอาแต่ใจหลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างโซซัดโซเซ ภายในหัวสมองว่างเปล่า เดินออกจากห้องโถง วิ่งเหยาะ ๆ จนชนเข้ากับหลิ่วชิงเหอ“หรูเยียน เกิดอะไรขึ้น?” หลิ่วชิงเหอเห็นท่าทางของหลิ่วหรูเยียน ภายในใจแอบรู้สึกไม่ดี“แม่คะ ฮือ ๆ ๆ เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องแล้ว ยาอายุวัฒนะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อดีตผู้บัญชาการเว่ยอาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้วก็หมดสติไปแล้ว...” ขาทั้งสองข้างของหลิ่วหรูเยียนอ่อนยวบ ล้มลงไปนั่งบนพื้นอีกครั้ง พิงหลิ่วชิงเหอร้องไห้โฮออกมาเสียงดังหลิ่วชิงเหอย่อตัวลงไป ประคองหลิ่วหรูเยียนเอาไว้ ภายในใจแอบคิดว่าเป็นไปตามคาดจริง ๆโดนไอ้ระยำอย่างฉู่เฉินพูดถูกจนได้“อย่าร้อนใจไป แม่เข้าไปดูหน่อย” หลิ่วชิงเหอกล่าว ลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องโถงตอนที่เห็นฉากดังกล่าว รวมทั้งอดีตผู้บัญชาการเว่ย ที่นอนหมดสติอยู่บนเก้าอี้วีลแชร์ เธอในฐานะหญิง
“เธอลองไตร่ตรองดูเอาเองแล้วกัน ฉันยังไงก็ได้”สะอึก!หัวใจของหลิ่วหรูเยียนสั่นเทา สีหน้าซับซ้อนมากถ้าจะต้องคุกเข่าให้คนไร้น้ำยาอย่างฉู่เฉินจริง ๆ เธอคงนอนหลับไม่สนิทไปเป็นครึ่งปีแน่ ๆไอ้ขยะนี่ก็คือคนระยำ!ทำให้เธอรู้สึกคลื่นเหียนเมื่อเห็นว่าเวลาที่เวียนผ่านไป ฉู่เฉินยังคงนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอกสบายใจเช่นเดิมและในเวลานี้ ที่ทางเดินด้านนอก มีเสียงฝีเท้าร้อนรนดังลอยมาไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นเว่ยฉิงที่พาคนเดินมาที่นี่“หรูเยียน! อย่าทำตัวเอาแต่ใจเหมือนเด็ก ตอนนี้ยังไม่มีคนเห็น ลูกอยากจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่าลูกคุกเข่าให้มันใช่ไหม?” หลิ่วชิงเหอกระซิบที่ข้างหูของหลิ่วหรูเยียน“ถ้าอดีตผู้บัญชาการเว่ยตายไป แม่กับลูก คงมีชีวิตรอดไม่พ้นคืนนี้”หลิ่วหรูเยียนตกใจขวัญเสียไปแล้ว สีหน้าซีดขาว โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าวุ่นวายที่ทางเดินด้านนอก เป็นเหมือนกับคาถาเร่งชีวิต‘ตุบ!’ภายใต้แรงกดดันทางจิตใจ หลิ่วหรูเยียนงอเข่าอันสูงส่งของเธอลงไป คุกเข่าลงต่อหน้าฉู่เฉิน เบือนหน้าบุ้ยปาก “ฉู่เฉิน แกรีบช่วยชีวิตอดีตผู้บัญชาการเว่ยสิ!”เมื่อเห็นท่าทางที่เย่อหยิ่งไม่เต็มใจของหลิ่วหรูเยียน ฉู่เ
ทางด้านนี้ ฉู่เฉินออกมาจากห้องก็ได้พบกับเว่ยฉิงและคนอื่น ๆ ที่มาตามหา“คุณฉู่...” เว่ยฉิงเอ่ยปากพูด สีหน้าร้อนใจฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “เวลามีจำกัด ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ไปที่ห้องโถงกันเถอะ”เมื่อเว่ยฉิงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้า หลีกทางให้จากนั้นฉู่เฉินก็มาถึงที่ห้องโถงเป็นคนแรกหลังจากที่เห็นอาการของเว่ยหนานเฟิงแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกันอาการของเว่ยหนานเฟิง สาหัสกว่าที่เขาคิดเอาไว้หน่อย“คุณฉู่ ยังสามารถช่วยชีวิตของคุณปู่ของฉันได้ไหมคะ?” เว่ยฉิงสีหน้าร้อนใจ กล่าวถามด้วยเบ้าตาที่แดงก่ำถ้าหากคุณปู่เป็นอะไร เธอจะทำอย่างไรดีฉู่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ “มีผมอยู่ วางใจได้ สามารถช่วยได้”เมื่อได้ยินประโยคนี้ เว่ยฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อยแต่ว่า หลิ่วหรูเยียนที่รีบเดินเข้ามา กลับเอ่ยปากกล่าวด้วยคำพูดดูถูก “ฉู่เฉิน แกเลิกเสแสร้งได้แล้ว ถ้าช่วยไม่ได้ แกต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด!”ช่วยไม่ได้ สถานะของเว่ยหนานเฟิงสูงส่งเกินไป เธอจำเป็นต้องคิดหาหนทางผลักความรับผิดชอบออกไปถ้าหากฉู่เฉินไม่ช่วย ถ้าคืนนี้เว่ยหนานเฟิงเป็นอะไรขึ้นมา ก็คือความรับผิดชอบของเธอหลิ่วหรูเย
ท่าทางเข้าทีแต่เธอยังคงดูถูกฉู่เฉิน คิดว่าฉู่เฉินแสดงละครเพื่อเรียกร้องความสนใจหลายนาทีผ่านไป ฉู่เฉินถอนหายใจ ยกมือวาดกลางอากาศ เข็มหลายสิบเล่มถูกดึงกลับมา“เสร็จแล้ว อดีตผู้บัญชาการเว่ยไม่เป็นอะไรแล้ว พักรักษาตัวไม่กี่วันก็หาย” ฉู่เฉินบอก เขาเช็ดเหงื่อที่มุมหน้าผากศาสตร์แห่งการฝังเข็มที่เขาใช้เมื่อกี้ เผาผลาญพลังวิญญาณที่จุดตันเถียนของเขาไปไม่น้อย“จริงเหรอคะ?” เว่ยฉิงถามอย่างดีใจฉู่เฉินพยักหน้าตอนนี้เอง หลิ่วหรูเยียนถลาเข้ามา ตะโกนลั่น “เป็นไปไม่ได้! ฉันไม่เชื่อ! ฉู่เฉิน แกกล้าดียังไงแค่ฝังเข็มสองสามเล่มก็บอกว่าตัวเองเป็นผู้ช่วยชีวิตอดีตผู้บัญชาการเว่ย?”“ถ้าอดีตผู้บัญชาการเว่ยเป็นอะไรไป แกต้องรับผิดชอบทั้งหมด!”สีหน้าของเว่ยฉิงดำทะมึนฉู่เฉินหัวเราะชืด ๆ “หลิ่วหรูเยียน เธอไม่ต้องร้อนรน ถ้าภายในห้านาทีอดีตผู้บัญชาการเว่ยไม่ฟื้นขึ้นมา ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมด ต่อให้คุณหนูเว่ยต้องการหัวของฉันก็ยังได้!”“ดี! แกพูดเองนะ คุณหนูเว่ยได้ยินแล้วใช่ไหมคะ ฉู่เฉินบอกว่าเขาจะรับผิดชอบเองทั้งหมด” หลิ่วหรูเยียนหันไปพูดกับเว่ยฉิง ผลักความรับผิดชอบอย่างถึงที่สุดเว่ยฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปเป
เว่ยหนานเฟิงลืมตาฟื้นขึ้นมา เขาหอบหายใจหลายครั้ง รู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดทั่วตัวได้หายไปแล้ว อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในร่างกายด้วย“คุณปู่ไม่เป็นไรอะไรแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” เว่ยฉิงถามอย่างตื่นตระหนกเว่ยหนานเฟิงยิ้มตอบ “ปู่ไม่เป็นไร ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว”เว่ยฉิงเช็ดน้ำตา ลุกขึ้นหันไปโค้งตัวให้ฉู่เฉิน “ขอบคุณคุณมากนะคะ หมอเทวดาฉู่”ฉู่เฉินยิ้ม โบกมือและบอกว่า “เรื่องเล็กน้อยครับ”เวลานี้ แขกทุกคนในงานยังคงอ้าปากค้างเพราะความตะลึงไม่นึกว่าคุณชายไร้ประโยชน์ที่ถูกไล่ตะเพิดออกจากตระกูลฉู่ จะมีความสามารถด้านการแพทย์อยู่จริงๆ…ท่ามกลางฝูงชน สีหน้าของหลิ่วหรูเยียนนั้นเรียกได้ว่าย่ำแย่สุดขีดคำท้าที่เธอเพิ่งพูดกับฉู่เฉินเมื่อกี้ยังดังก้องอยู่ในหูจะทำยังไงดีล่ะทีนี้?เธอร้อนรนจนแทบอยู่ไม่สุข กระทั่งไม่กล้ามองหน้าฉู่เฉิน“หมอเทวดาฉู่ ขอบคุณมาก พระคุณที่ช่วยชีวิตในวันนี้ผมจะไม่มีวันลืม วันหน้ามีอะไรให้ช่วย คุณติดต่อผมหรือฉิงฉิงได้เลย”“ตั้งแต่นี้ คุณคือผู้มีพระคุณของผมเว่ยหนานเฟิง เป็นแขกวีไอพีของตระกูลเว่ย!” เว่ยหนานเฟิงประสานหมัดขณะเอ่ยพร้อมรอยยิ้
“ฉู่เฉิน คุณคิดจะเป็นศัตรูกับสำนักชิงอวิ๋นของผมถึงตายเลยหรือไง!”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นกัดฟันกรอด ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดง!ทุกอย่างล้วนเป็นปัญหาที่ฉู่เฉินก่อขึ้นมา หากไม่ใช่เพราะฉู่เฉินฆ่าลูกศิษย์ของเขา เขาจะเล่นงานฉู่เฉินหนักขนาดนี้ได้อย่างไร?และตอนนี้ฉู่เฉินชักนำหายนะร้ายแรงมา แต่อยากให้เขาคุกเข่าอ้อนวอนเหรอ?ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็เป็นเจ้าสำนัก อย่าว่าแต่ใต้เข่าของลูกผู้ชายมีทองคำเลย แค่เขาคุกเข่าต่อหน้าลูกศิษย์หลายร้อยคนของสำนักชิงอวิ๋น อนาคตเขายังมีหน้าไปปกครองสำนักชิงอวิ๋นได้อย่างไร? “คุณก็เป็นเจ้าสำนักผู้ยิ่งใหญ่ ทำไมพูดจาเหมือนเด็กที่ยังฟันไม่ขึ้นล่ะ? เห็นชัด ๆ ว่าคุณเป็นคนเชิญผมมา คุณอยากจะฆ่าผมให้ตาย คุณคิดว่าผมยังใส่ใจเรื่องเป็นศัตรูกับสำนักชิงอวิ๋นของพวกคุณอีกเหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ เอ่ยด้วยใบหน้าดูแคลนถึงอย่างไรข้าวของที่ถูกทำลายตอนนี้ก็ไม่ใช่ทรัพย์สินของฉู่เฉิน ต่อให้สำนักชิงอวิ๋นถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?ครั้งนี้ ฉู่เฉินอยากให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเข้าใจหลักการที่ว่าเชิญเทพง่าย แต่ส
วินาทีต่อมา เทพสังหารตวัดขวานศึกในมือผ่านอากาศ พุ่งตรงลงมาบนศีรษะของท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นขวานนี้คล้ายกับมีพลังที่สามารถผ่าภูผาได้เมื่อเห็นว่ากระบวนท่าสังหารมาถึงแล้ว ปราณแท้รอบกายท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพลันพุ่งพล่าน กระบี่ยาวในมือปล่อยรัศมีแสงงดงามหมื่นสาย ตวัดกระบี่ออกไปเต็มแรงรับขวานศึกของเทพสังหารขวานศึกฟาดฟัน กระบี่ยาวผ่าอากาศ! เคร้ง!แม้ว่าท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นออกแรงอย่างสุดกำลัง แต่เขายังคงโดนขวานของเทพสังหารกระแทกจนกระเด็นออกไปแล้วพรวด!ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นกระอักเลือดออกมา เขากระเด็นออกไปสิบเมตร ก่อนจะร่วงกระแทกลงมาบนบันไดหินอย่างหนักหน่วง บันไดหินเหล็กโดนกระแทกจนเป็นหลุมลึก พลังแตกต่างกันมากเกินไป เทพสังหารไม่ใช่คนที่ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นสามารถต่อกรได้เลยหากไม่ใช่เพราะยังมีลมปราณน่าสะพรึงกลัวหลายสายในฝูงชนพุ่งเป้ามาที่ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ขวานนี้เพียงพอที่จะส่งเขาไปสู่ปรโลกแล้ว“หยกโลหิตกิเลนไม่มีความเกี่ยวข้องกับสำนักว่านเซียนของพวกคุณเลย พวกคุณปล้นกันชัด ๆ! ตะ...ต่อให้ผมตายก็ไม่ยอม!”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพยายา
เวลานี้ฉู่เฉินที่ยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ในหอหลิงซวีคล้ายกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ยังคงดูเหมือนเข้าสู่สมาธิอย่างแท้จริง ฉากนี้ทำให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเดือดดาลมากยิ่งขึ้น!“คนแซ่ฉู่ คะ...คุณกล้ารังแกสำนักชิงอวิ๋นของผมแบบนี้ ไม่กลัวว่า...”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นใช้วิชาส่งเสียงต่อว่าฉู่เฉินอย่างเกรี้ยวกราด แต่เพิ่งจะพูดได้ครึ่งเดียว ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ทำตัวเหมือนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “โกรธมากเลยเหรอครับ? อยากอ้อนวอนให้ผมออกไปใช่หรือเปล่า?” ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเอ่ยพลางกัดฟันกรอดว่า “คนแซ่ฉู่ วันนี้ถือว่าคุณโชคดี ผมจะไม่เอาสืบหาเอาความชั่วคราว ตอนนี้คุณไปได้แล้ว”ตอนนี้เขากลัวแล้วจริง ๆคำว่าเปิดศึกของเทพสังหารเมื่อครู่นี้ไม่ใช่การหลอกลวงสำนักชิงอวิ๋นไม่อาจต้านทานการบุกโจมตีของเทพสังหารกับลูกศิษย์สำนักว่านเซียนได้อย่างแน่นอนเพื่อสำนักชิงอวิ๋น และเพื่อตัวเขาเอง ทำได้เพียงพักการล้างแค้นให้คุณชายเซียวเหยาเอาไว้ก่อน “ผมจำได้ว่าเมื่อกี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา ใครบอกผมว่าเข้าง่ายออกยากกันนะ? ใครอยากให้ผมอยู่ที่นี่ตลอดกาล?”
ตามกฎของโลกแห่งการหยั่งรู้ สำนักรอบนอกสี่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจทำการเข่นฆ่าที่โลกมนุษย์ธรรมดาได้ตามอำเภอใจ ส่วนยอดฝีมือระดับทารกวิญญาณในเขตศูนย์กลางก็ไม่อาจก้าวเข้ามาในสำนักรอบนอกได้ตามอำเภอใจเช่นเดียวกันแต่เทพสังหารเหมือนกัน แม้ว่าเขาอยู่สำนักว่านเซียน แต่ว่าระดับพลังกลับถูกกดให้อยู่ขั้นสูงสุดของระดับควบแก่นแท้มาโดยตลอดหากเทพสังหารลงมือ ต่อให้เป็นพวกระดับสูงของโลกแห่งการหยั่งรู้ก็ไม่อาจพูดอะไรได้เช่นกันตลอดเวลาที่ผ่านมา สำนักว่านเซียนเองก็เฝ้าติดตามที่อยู่ของหยกโลหิตกิเลน เพียงแต่ว่าที่ผ่านมา ตระกูลฉู่ซ่อนหยกโลหิตกิเลนไว้อย่างลึกลับสุดขีด สำนักว่านเซียนส่งคนไปที่โลกมนุษย์ธรรมดาหลายครั้ง แต่ก็หาหยกโลหิตกิเลนไม่เจอเลยทว่าครั้งนี้ เมื่อข่าวแพร่ออกไปว่าฉู่เฉินผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลฉู่ถูก “เชิญ” ไปที่สำนักชิงอวิ๋นพร้อมกับหยกโลหิตกิเลน สำนักว่านเซียนยังจะทนไหวได้ที่ไหนกัน?ในสายตาของสำนักว่านเซียน สำนักชิงอวิ๋นอะไร วังเทียนเจี้ยนอะไร ก็เป็นเพียงตัวตนที่เหมือนกับมดปลวกเท่านั้นหากหยกโลหิตกิเลนตกอยู่ในมือมดปลวกพวกนี้ก็เท่ากับปล่อยให้ของดี ๆ ถูกทำลายไม่ใช่หรือไง? ด้วยเ
ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงศิษย์สำนักชิงอวิ๋นที่กำลังคืบคลานเข้ามาจากด้านหลัง ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นพลางเอ่ยว่า “ทำไมครับ พวกคุณสำนักชิงอวิ๋นทำได้แค่เรื่องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้งั้นเหรอ?”ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นได้ยินดังนั้นก็หัวเราะลั่นแล้วกล่าวว่า “ด้วยสภาพของคุณตอนนี้ คิดว่าพวกเราสำนักชิงอวิ๋นยังต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่อีกเหรอ?”“ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าคุณเอาความกล้ามาจากไหน ถึงกล้ามาเพียงลำพัง มาตามนัดงั้นเหรอ คุณคิดว่าสำนักชิงอวิ๋นของผมเป็นที่แบบไหนกัน? คุณอยากมาก็มา อยากไปก็ไป?”“อย่าว่าแต่คุณเลย ไม่ว่าเจ้าสำนักที่อยู่รอบนอกของภูเขาสือว่านคนไหน ก็ไม่กล้าทำตัวดูหมิ่นสำนักชิงอวิ๋นของผมอย่างคุณหรอก!”สิ้นเสียง สีหน้าของธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็ยิ่งเย็นเยือกลง เห็นชัดว่ารู้สึกมั่นใจว่าชัยชนะอยู่ในกำมือแล้ว“คุณแน่ใจเหรอ? ต่อให้สำนักชิงอวิ๋นจะทรงพลัง จะสามารถรับมือได้กับทั้งโลกแห่งการหยั่งรู้ได้จริงเหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเบา แล้วเอ่ยออกมาอย่างเฉยเมย “อย่าว่าแต่สำนักชิงอวิ๋นเล็กๆ ของคุณเลย แม้แต่คนของวังว่านเจี้ยนจะร่วมมือกับคุณด้วย ผมก็ไม่เคยสนใจพวกคุณเลย”“อีกเดี๋ยว คุณก็จะรู้ถึงความทรงพลัง
ฉู่เฉินยิ้มบาง กล่าวว่า “เชิญเจ้าสำนักก่อนเลยครับ”ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นยิ้มอย่างสงบ ก้าวเข้าไปในห้องด้านข้างทันที แต่ในขณะที่เขาก้าวข้ามธรณีประตูนั้นเอง ฉู่เฉินก็เห็นชัดเจนว่าอากาศรอบข้างพลันเกิดระลอกคลื่นเหมือนคลื่นน้ำฉู่เฉินเอาสองมือไพล่หลัง เดินตามหลังธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นด้วยฝีเท้าที่มั่นคง และก้าวข้ามธรณีประตูไปเหมือนกันตูม!ฉู่เฉินรู้สึกเพียงมีเสียงดังขึ้นในหัว จากนั้นพลังวิญญาณทั่วร่างก็ราวกับถูกผนึกไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อยเมื่อเห็นฉู่เฉินติดกับแล้ว เหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋นจำนวนไม่น้อยก็รีบกดด้ามกระบี่ไว้ มองไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยเจตนาฆ่าพวกเขาอดทนมาตลอดทางแล้ว ในที่สุดก็หลอกฉู่เฉินเข้ามาในหอหลิงซวีได้สำเร็จ หลายคนอดใจไม่ไหวอยากจะชักกระบี่ออกมาแล่ฉู่เฉินให้เป็นชิ้นๆ เสียเดี๋ยวนี้หอหลิงซวีเป็นสถานที่ลึกลับที่ปรมาจารย์หลายรุ่นก่อนของสำนักชิงอวิ๋นทิ้งไว้ สถานที่แห่งนี้ถูกปิดผนึกพลังด้วยยันต์อันทรงพลัง แม้แต่ผู้มีพลังระดับควบแก่นแท้ ถ้าเข้ามาในหอหลิงซวีก็ไม่ต่างจากคนธรรมดานับประสาอะไรกับฉู่เฉิน?สามารถกล่าวได้ว่าเกือบหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ห
ฉู่เฉินมองไปยังธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มจางว่า “หากได้นอนหลับยาวอยู่ที่นี่ ชีวิตนี้จะต้องการสิ่งใดอีก”ขณะกล่าว ฉู่เฉินก็มองไปยังภูเขาเขียวขจีและน้ำใสสะอาดโดยรอบ ต้องยอมรับว่าสภาพแวดล้อมของสำนักชิงอวิ๋นนั้นดีจริงๆ แม้กระทั่งในอากาศยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่บริสุทธิ์แบบนี้ ในโลกมนุษย์แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วโดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่หน้าประตูสำนักที่สูงเสียดฟ้า แค่ดูต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ที่หลายคนก็โอบไม่รอบ อายุต้นไม้อย่างน้อยก็หนึ่งร้อยปีขึ้นแล้ว“คุณฉู่ช่างมองโลกในแง่ดีเสียจริง”ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋เดินไปตามทางเดินหินสู่ยอดเขากับฉู่เฉิน พลางกล่าวเยาะเย้ยไปด้วย“ที่นี่มีทั้งภูเขาเขียวขจีและน้ำใสสะอาด แล้วมีอะไรที่ต้องคิดมากอีกล่ะครับ?”ฉู่เฉินเดินทอดน่องไปพลาง มองไปรอบๆ ไปพลาง ราวกับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นไร้ตัวตนภาพนี้ทำให้เหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋นที่เห็นต่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟฉู่เฉินคนนี้มันไม่ได้เสียสติธรรมดาแล้ว ทำตัวราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นยังไงอย่างนั้นแม้แต่ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเอง เมื่อเห็นท่าทีโอหังของฉ
ในบ่ายวันนั้น ฉู่เฉินก็ถูกพาไปถึงหน้าประตูของสำนักชิงอวิ๋นสำนักชิงอวิ๋นได้ก่อตั้งมานานกว่าร้อยปีแล้ว และในสายตาของผู้บำเพ็ญพรตธรรมดา เรียกได้ว่าเป็นการดำรงอยู่ราวกับทวยเทพในช่วงเกือบหนึ่งร้อยปีนี้ สำนักชิงอวิ๋นมีผู้มีความสามารถมากมายปรากฏตัวขึ้น และยังเคยมีผู้มีพลังระดับทารกวิญญาณอีกด้วยเหตุนี้ยิ่งทำให้สำนักชิงอวิ๋น ดูมีความลึกลับมากขึ้นไปอีกและในช่วงที่ฉู่เฉินเดินมาถึงตีนเขา ทั้งสำนักชิงอวิ๋น ก็ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ศิษย์สำนักชิงอวิ๋นจำนวนไม่น้อยต่างถือกระบี่จ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธ“คนแซ่ฉู่กล้าจริงๆ ““ครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะต้องล้างแค้นให้ศิษย์พี่ใหญ่ให้ได้”เมื่อเผชิญหน้ากับจิตสังหารของเหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋น ฉู่เฉินกลับไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย เงยหน้ามองไปยังยอดเขาหลักด้านหลังสำนักชิงอวิ๋น“เจ้าหนุ่มนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ “บรรดาผู้เฒ่าในสำนักชิงอวิ๋น ยืนอยู่กลางเชิงเขา ใช้สายตาพิจารณามองไปที่ฉู่เฉินอย่าพูดว่าฉู่เฉินเป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระจากโลกมนุษย์ แม้แต่เจ้าแห่งขุนเขาหรือเจ้าสำนักของภูเขาสือว่าน เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่น ก็ยากที่จะรักษาความสงบได้เช่นเดียวกับฉู่เฉิ
“เดี๋ยวก่อน!”หลิงเสวี่ยเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังขึ้นจากด้านหลัง“ทำไม คุณกลัวแล้วเหรอ?”หลิงเสวี่ยค่อยๆ หันกลับมา มองสำรวจฉู่เฉินด้วยสีหน้าดูถูกฉู่เฉินกลอกตาใส่หลิงเสวี่ย พร้อมกล่าวเสียงเย็นว่า “คุณเอาแต่บอกให้ผมไปที่สำนักชิงอวิ๋น แล้วไม่คิดจะนำทางไปหน่อยเหรอ? ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าประตูภูเขาของสำนักชิงอวิ๋นเปิดไปทางไหน?”ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา หลิงเสวี่ยก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยท่าทางของฉู่เฉินดูมั่นใจมาก หรือว่าฉู่เฉินจะมีแผนสำรองอยู่?แต่สำนักชิงอวิ๋นก็ถือเป็นสำนักใหญ่ อีกทั้งท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นยังเป็นยอดฝีมือระดับควบแก่นแท้ขั้นที่สอง ต่อให้ฉู่เฉินเก่งกล้าขนาดไหน ก็คงยากที่จะมีชีวิตรอดออกมาจากสำนักชิงอวิ๋น?ใครให้ความกล้ากับเขา ถึงได้ทำตัวมั่นอกมั่นใจขนาดนี้?ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลิงเสวี่ยจึงยิ้มบางๆ กล่าวว่า “พรุ่งนี้เช้า ฉันจะส่งคนไปรับคุณ”กล่าวจบ หลิงเสวี่ยก็หันหลังเดินจากไป ฉู่เฉินมองแผ่นหลังอันเย้ายวนของหลิงเสวี่ย ก่อนเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเมื่อได้ยินว่าฉู่เฉินกำลังจะไปที่สำนักชิงอวิ๋น ในขณะนั้น พี่น้องตระกูลต้วนและอินซู่ซู่น