ทางด้านนี้ ฉู่เฉินออกมาจากห้องก็ได้พบกับเว่ยฉิงและคนอื่น ๆ ที่มาตามหา“คุณฉู่...” เว่ยฉิงเอ่ยปากพูด สีหน้าร้อนใจฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “เวลามีจำกัด ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ไปที่ห้องโถงกันเถอะ”เมื่อเว่ยฉิงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้า หลีกทางให้จากนั้นฉู่เฉินก็มาถึงที่ห้องโถงเป็นคนแรกหลังจากที่เห็นอาการของเว่ยหนานเฟิงแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกันอาการของเว่ยหนานเฟิง สาหัสกว่าที่เขาคิดเอาไว้หน่อย“คุณฉู่ ยังสามารถช่วยชีวิตของคุณปู่ของฉันได้ไหมคะ?” เว่ยฉิงสีหน้าร้อนใจ กล่าวถามด้วยเบ้าตาที่แดงก่ำถ้าหากคุณปู่เป็นอะไร เธอจะทำอย่างไรดีฉู่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ “มีผมอยู่ วางใจได้ สามารถช่วยได้”เมื่อได้ยินประโยคนี้ เว่ยฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อยแต่ว่า หลิ่วหรูเยียนที่รีบเดินเข้ามา กลับเอ่ยปากกล่าวด้วยคำพูดดูถูก “ฉู่เฉิน แกเลิกเสแสร้งได้แล้ว ถ้าช่วยไม่ได้ แกต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด!”ช่วยไม่ได้ สถานะของเว่ยหนานเฟิงสูงส่งเกินไป เธอจำเป็นต้องคิดหาหนทางผลักความรับผิดชอบออกไปถ้าหากฉู่เฉินไม่ช่วย ถ้าคืนนี้เว่ยหนานเฟิงเป็นอะไรขึ้นมา ก็คือความรับผิดชอบของเธอหลิ่วหรูเย
ท่าทางเข้าทีแต่เธอยังคงดูถูกฉู่เฉิน คิดว่าฉู่เฉินแสดงละครเพื่อเรียกร้องความสนใจหลายนาทีผ่านไป ฉู่เฉินถอนหายใจ ยกมือวาดกลางอากาศ เข็มหลายสิบเล่มถูกดึงกลับมา“เสร็จแล้ว อดีตผู้บัญชาการเว่ยไม่เป็นอะไรแล้ว พักรักษาตัวไม่กี่วันก็หาย” ฉู่เฉินบอก เขาเช็ดเหงื่อที่มุมหน้าผากศาสตร์แห่งการฝังเข็มที่เขาใช้เมื่อกี้ เผาผลาญพลังวิญญาณที่จุดตันเถียนของเขาไปไม่น้อย“จริงเหรอคะ?” เว่ยฉิงถามอย่างดีใจฉู่เฉินพยักหน้าตอนนี้เอง หลิ่วหรูเยียนถลาเข้ามา ตะโกนลั่น “เป็นไปไม่ได้! ฉันไม่เชื่อ! ฉู่เฉิน แกกล้าดียังไงแค่ฝังเข็มสองสามเล่มก็บอกว่าตัวเองเป็นผู้ช่วยชีวิตอดีตผู้บัญชาการเว่ย?”“ถ้าอดีตผู้บัญชาการเว่ยเป็นอะไรไป แกต้องรับผิดชอบทั้งหมด!”สีหน้าของเว่ยฉิงดำทะมึนฉู่เฉินหัวเราะชืด ๆ “หลิ่วหรูเยียน เธอไม่ต้องร้อนรน ถ้าภายในห้านาทีอดีตผู้บัญชาการเว่ยไม่ฟื้นขึ้นมา ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมด ต่อให้คุณหนูเว่ยต้องการหัวของฉันก็ยังได้!”“ดี! แกพูดเองนะ คุณหนูเว่ยได้ยินแล้วใช่ไหมคะ ฉู่เฉินบอกว่าเขาจะรับผิดชอบเองทั้งหมด” หลิ่วหรูเยียนหันไปพูดกับเว่ยฉิง ผลักความรับผิดชอบอย่างถึงที่สุดเว่ยฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปเป
เว่ยหนานเฟิงลืมตาฟื้นขึ้นมา เขาหอบหายใจหลายครั้ง รู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดทั่วตัวได้หายไปแล้ว อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในร่างกายด้วย“คุณปู่ไม่เป็นไรอะไรแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” เว่ยฉิงถามอย่างตื่นตระหนกเว่ยหนานเฟิงยิ้มตอบ “ปู่ไม่เป็นไร ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว”เว่ยฉิงเช็ดน้ำตา ลุกขึ้นหันไปโค้งตัวให้ฉู่เฉิน “ขอบคุณคุณมากนะคะ หมอเทวดาฉู่”ฉู่เฉินยิ้ม โบกมือและบอกว่า “เรื่องเล็กน้อยครับ”เวลานี้ แขกทุกคนในงานยังคงอ้าปากค้างเพราะความตะลึงไม่นึกว่าคุณชายไร้ประโยชน์ที่ถูกไล่ตะเพิดออกจากตระกูลฉู่ จะมีความสามารถด้านการแพทย์อยู่จริงๆ…ท่ามกลางฝูงชน สีหน้าของหลิ่วหรูเยียนนั้นเรียกได้ว่าย่ำแย่สุดขีดคำท้าที่เธอเพิ่งพูดกับฉู่เฉินเมื่อกี้ยังดังก้องอยู่ในหูจะทำยังไงดีล่ะทีนี้?เธอร้อนรนจนแทบอยู่ไม่สุข กระทั่งไม่กล้ามองหน้าฉู่เฉิน“หมอเทวดาฉู่ ขอบคุณมาก พระคุณที่ช่วยชีวิตในวันนี้ผมจะไม่มีวันลืม วันหน้ามีอะไรให้ช่วย คุณติดต่อผมหรือฉิงฉิงได้เลย”“ตั้งแต่นี้ คุณคือผู้มีพระคุณของผมเว่ยหนานเฟิง เป็นแขกวีไอพีของตระกูลเว่ย!” เว่ยหนานเฟิงประสานหมัดขณะเอ่ยพร้อมรอยยิ้
เห็นสีหน้าท่าทางเขาแล้วจะฆ่าเสียให้ตาย!“หลิ่วชิงเหอ ลูกสาวเธอก็เรียกฉันว่าพ่อแล้ว เธอควรเรียกฉันว่าอะไรดีล่ะ?” ฉู่เฉินจงใจถากถางหลิ่วชิงเหอหยอกแม่บุญธรรมอย่างหลิ่วชิงเหอสักหน่อยก็ไม่เลวเหมือนกันหลิ่วชิงเหอแค่นเสียง ขี้คร้านจะสนใจไอ้สารเลวอย่างฉู่เฉิน จึงหันตัวเดินออกไปครั้นออกมาก็เห็นหลิ่วหรูเยียนที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“แม่! หนูจะฆ่าฉู่เฉิน! ยังไงก็จะฆ่ามันให้ได้!” หลิ่วหรูเยียนกระฟัดกระเฟียด สายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นเกลียดชังน่าอัปยศที่สุด!เธอหลิ่วหรูเยียนเคยต้องเจอกับความอัปยศอดสูขนาดนี้เสียที่ไหนกัน?ฉู่เฉิน ชื่อนี้ได้เข้าสู่บัญชีดำของเธอเรียบร้อยแล้ว“วางใจได้ วันนี้ก็คือวันตายของไอ้เดรัจฉานนั่น!” หลิ่วชิงเหอเอ่ยเสียงเย็นขณะเดียวกันทางด้านฉู่เฉิน เขาถูกเว่ยฉิงเชิญไปที่ห้องรับรองเพียงลำพัง“คุณหนูเว่ย ยังมีธุระอะไรอีกเหรอครับ?” ฉู่เฉินถามเว่ยฉิงต้องยอมรับว่าคุณหนูของตระกูลเว่ย หลานสาวของเว่ยหนานเฟิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งจริงๆ กิริยาท่าทางและเรือนร่างไม่ได้ด้อยไปกว่าหลิ่วชิงเหอกับหลิ่วหรูเยียนเลยยิ่งพออยู่กับเว่ยหนานเฟิงมานานหลายปี อาจเป็นเพราะ
กึก!เว่ยฉิงนิ่งอึ้ง ดวงหน้าแดงแปร๊ด แดงจนถึงขั้นที่ว่าถ้าเลือดไหลออกมาได้คงไหลออกมาแล้ว เธอถามอย่างกระอักกระอ่วน “ถอดหมดเลยเหรอ?”เธอไม่คิดว่าการนวดรักษาที่ฉู่เฉินพูดถึง จะเป็นวิธีการแบบนี้ ต้องถอดเสื้อผ้าออกหมดด้วยรึ…แม้แต่ชุดชั้นในก็ต้องถอดด้วยบรรยากาศในห้องพลันเปลี่ยนเป็นร้อนรุ่มและน่าอึดอัดใจขึ้นมาทันทีเว่ยฉิงอาจจะเป็นหลานสาวของอดีตผู้บัญชาการเว่ย เป็นหญิงแกร่งคนหนึ่งในวงการธุรกิจ มีชื่อเสียงเกียรติยศมากมาย และมีทรัพย์สินมากกว่าพันล้านแต่เธอเป็นสาวโสดตั้งแต่เกิด ไม่เคยมีความรักเลยแม้แต่ครั้งเดียวหลายปีมานี้ เธอไม่เคยแม้แต่จับมือผู้ชาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะให้เปลื้องผ้าต่อหน้าชายแปลกหน้า…หลังจากลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายเว่ยฉิงก็กัดฟันหันหลังให้ฉู่เฉิน ก่อนจะเริ่มถอดชุดราตรีของเธอออกแผ่นหลังอันเนียนขาว ไร้จุดด่างพร้อยโดยเฉพาะหัวไหลกลมมนและลำคอยาวระหงนั่น เรียกได้ว่าเป็นศิลปะชิ้นงาม ที่แทบจะหาจุดด้อยไม่เจอเลยชุดราตรีค่อยๆ ไถลลู่ลงจากหัวไหล่ของเธอ แผ่นหลังอันสมบูรณ์แบบเปิดเผยสู่สายตา ตามมาด้วยเอวบางคอด ที่ทำให้ฉู่เฉินเห็นแล้วอดกลืนน้ำลายไม่ได้ ถึงขั้นสติหลุด
“ฟู่…” ฉู่เฉินถอนหายใจ รู้สึกว่าเขาเริ่มเสียสมาธิแล้วเว่ยฉิงหน้าแดง เหลือบมองฉู่เฉิน ก่อนถามเสียงเบาๆ ว่า “หมอเทวดาฉู่ เป็นอะไรไป?”“เปล่าครับ เราเริ่มกันเถอะ” ฉู่เฉินยิ้มตอบ แววตาแปรเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นในพริบตาเริ่มจากท้องน้อยก่อน จากนั้นก็หน้าอก และหัวไหล่ทั้งคู่ทุกครั้งที่สัมผัส เว่ยฉิงรู้สึกราวกับหน้าของตัวเองจะมีเลือดไหลออกมาให้ได้ หนำซ้ำ ร่างกายก็ยังมีการตอบสนองแปลกๆ เกิดขึ้นอีกแน่นอนว่าฉู่เฉินเองก็ทรมานยิ่งกว่าต้องมานวดให้ศิลปะชิ้นเอกอย่างนี้ แรงกดดันมากเกินไปแล้วหลังจากนวดติดต่อมาประมาณสิบนาทีกว่า ฉู่เฉินลุกขึ้น เช็ดเหงื่อที่ขมับ บอกว่า “คุณหนูเว่ย เสร็จแล้วครับ”นึกไม่ถึงว่านวดให้เว่ยฉิงต้องใช้พลังวิญญาณมากขนาดนี้ดูท่าคงต้องพัฒนาพลังอย่างต่อเนื่องเสียแล้วเว่ยฉิงได้ยินว่าเสร็จแล้วก็รีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าส่วนฉู่เฉินนั่งหมดแรงอยู่บนโซฟาด้านหนึ่ง เขาหอบหายใจไม่หยุด ขณะที่ปรับสมดุลพลังวิญญาณในร่างกายอยู่ฝั่งเว่ยฉิงพอใส่เสื้อผ้าเสร็จ ดวงหน้ายังคงแดงแปร๊ด เธอถามเขาว่า “หมอเทวดาฉู่ โรคของฉันหายแล้วเหรอคะ?”“ครับ คุณลองหาใครมาทดลองดูก็ได้” ฉู่เฉินตอบเว่ยฉิงได้ยิน
“หลิ่วชิงเหอ ใช้ได้นี่ แต่งตัวยั่วสวาทดี”ฉู่เฉินเดินอาดๆ เข้าไปในห้องนอนจากระเบียง จากนั้นนั่งลงบนโซฟา จ้องมองไปที่หลิ่วชิงเหอที่อยู่บนเตียงโดยไม่ปิดบังสายตาสายตารุกรานมากเมื่อมองก็ไม่สามารถละสายตาออกได้หลิ่วชิงเหอคือระดับสุดยอดของโลกนี้ ด้วยรูปร่างที่สมบูรณ์แบบและกลิ่นเซ็กซี่ของผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่ทั่วร่างกายของเธอโดยเฉพาะในขณะนี้เธอยังอยู่ในสภาพที่ซีทรู ผิวหนังขาวสะอาด ซ่อนเร้นอยู่ใต้ชุดนอนลูกไม้สีม่วง ทำให้คนที่เห็นอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ทั่วทั้งร่างกายร้อนรุ่มไปหมดหลิ่วชิงเหอเห็นฉู่เฉินจ้องมองตรงมาที่เธอ แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจและความดูถูก เธอแสยะยิ้มขึ้นมา “ฉู่เฉิน แกยังกล้ามีหน้ามาอีกเหรอ ไม่กลัวฉันจะเตรียมคนมาฆ่าแกหรือไง?”“ฆ่าฉัน?” ฉู่เฉินหัวเราะออกมา พร้อมพูดว่า “ป้าอู๋เหรอ? เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน แต่ว่าป้าอู๋ก็มีฝีมือนะ หุ่นก็ดี ด้านหลังนูนด้านหน้าแอ่น เวลากระแทกจากข้างหลัง โคตรได้อารมณเลย!”เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของหลิ่วชิงเหอก็เปลี่ยนไป คิ้วของเธอขมวดเข้ม พูดอย่างเยือกเย็นว่า “แกหมายความว่ายังไง? ฉู่เฉิน! แกไอ้เลว แกทำอะไรกับป้าอู๋? ”ฉู่เฉินพูด
เป็นผู้หญิง!ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เป็นจอมยุทธ์หญิงอายุราวๆ ยี่สิบห้ายี่สิบหกปี เธอยังดูเป็นวัยรุ่น หน้าตาก็ไม่แย่ แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับหลิ่วชิงเหอบนเตียงที่สวยสุดๆ ก็ตาม แต่ถ้าหากพูดถึงในเจียงจง ก็ยังถือว่าเป็นคนสวยอันดับต้นๆ คนหนึ่งสาเหตุที่เขาเรียกเธอว่าจอมยุทธ์ เป็นเพราะว่าฉู่เฉินสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายออกมาจากร่างของฝ่ายตรงข้ามที่เหมือนกับของป้าอู๋นั่นคือลักษณะเฉพาะของการฝึกวรยุทธ์มานานหลายปียิ่งกว่านั้น ดวงตาของอีกฝ่ายยังเฉียบคม และการโจมตีเมื่อกี้นี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงมากหากเป็นคนธรรมดา เกรงว่าน่าจะตายเพราะคมดาบนั่นไปแล้วแต่ฉู่เฉินไม่เป็นเช่นนั้น เขาในตอนนี้อยู่ระดับฝึกปราณชั้นสาม ไม่ได้พูดถึงครอบครองทั้งเจียงจง แต่ถ้าครึ่งหนึ่งย่อมเป็นไปได้เช่นเดียวกัน จอมยุทธ์หญิงตรงหน้าผู้นี้ ก็แปลกใจเป็นอย่างมากเช่นกันเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินสามารถหลบการโจมตีที่เธอเตรียมไว้มาเป็นเวลานานได้!การโจมตีนี้ แม้แต่จอมยุทธ์ที่ฝึกฝนกำลังภายในพื้นฐาน ก็ไม่อาจะหลบหลีกได้“รีบฆ่ามันซะ!” ในเวลานี้หลิ่วชิงเหอได้ลงจากเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอชี้นิ้วสีขาวและเรียว ชี้ไปที่ฉู่เฉินอย่างเดือ