Share

บทที่ 6

Author: กระจอก
“นี่แก!”

หลิ่วชิงเหอไม่ใช่เด็กสาวไม่รู้ความ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉู่เฉินต้องการสื่อในทันที!

เขายังคิดจะอาทิตย์ครั้งเหรอ!

“ไม่มีทาง! แกรีบไปให้พ้น! ฉันคิดหาวิธีเองได้!” หลิ่วชิงเหอกล่าวอย่างโกรธๆ

ไอ้สัตว์เดรัจฉานสมควรตาย คิดจะข่มขู่เธองั้นเหรอ

“ให้ฉันไปให้พ้น? เธอคิดดีแล้วเหรอ หลิ่วชิงเหอ บนโลกนี้คนที่สามารถช่วยลูกสาวของเธอได้ มีแค่ฉันฉู่เฉินคนนี้คนเดียว”

ฉู่เฉินยิ้มอย่างไม่ยี่หระ “ก่อนจะถึงวันศุกร์หน้า ทบทวนให้ดี ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็ติดต่อมา ฉันจะฝังเข็มให้ลูกสาวของเธอ ถือโอกาสฝังให้เธอด้วยสักสองสามเข็ม”

ฮ่าๆๆ!

พูดจบ ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง เขาเห็นสีหน้าดำทะมึนของหลิ่วชิงเหอแล้วรู้สึกสะใจสุด ๆ

หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสวยแน่น นิ้วเรียวชี้ไปทางประตู ก่อนตวาดเสียงเกรี้ยว “ไสหัวไป! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! อย่าบังคับให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”

ฉู่เฉินหัวเราะในลำคอ เขากวาดมองกล่องยากล่องหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะพูดว่า “ถ้าเดาไม่ผิด นั่นคือยาน้ำที่พวกเธอได้จากการจับฉันแช่มาเป็นเวลาสามปี จากนั้นก็เอาไปตุ๋นเป็นยาลูกกลอนสินะ?”

หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้ว ไม่ตอบคำถาม

ชั้นบน หลิ่วหรูเยียนเพิ่งเปลี่ยนใส่ชุดกระโปรงสั้นสดใสงดงาม และเดินลากรองเท้าแตะลงมา

บนเรียวขาอันขาวเนียนดุจหยก ถูกหุ้มด้วยถุงน่องสีดำบางๆ ดูเย้ายวนใจมาก

“ไอ้คนแซ่ฉู่ แกยังไม่ไปอีกเหรอ? ทำไม หรือคิดจะหมายตายาอายุวัฒนะที่พวกฉันแม่ลูกคิดค้นขึ้นมา?”

หลิ่วหรูเยียนแสยะยิ้ม

“จะบอกอะไรให้นะ แค่มียาอายุวัฒนะนี้ อีกไม่นานฉู่ซื่อกรุ๊ป ก็ต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็นหลิ่วซื่อกรุ๊ปแล้ว!”

“และฉันหลิ่วหรูเยียน ก็จะกลายเป็นราชินีแห่งวงการยาจีน!”

“ส่วนแก ฉู่เฉิน แกจะกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต เหมือนกับข้างในเป้ากางเกงของแกที่ไม่มีวันโงหัวขึ้นได้อีก ถูกพวกเราสองแม่ลูกเหยียบไว้ใต้เท้ายังไงล่ะ!”

“ฮ่าๆๆ!”

ฉู่เฉินยิ้มอย่างเย็นชาเหี้ยมเกรียม มองหลิ่วหรูเยียนที่หยิ่งยโส กล่าวว่า “หลิ่วหรูเยียน เห็นแก่ที่เมื่อกี้แม่ของเธอปรนนิบัติฉันเป็นอย่างดี ฉันขอเตือนอะไรเธออย่างหนึ่ง ยาอายุวัฒนะที่เธอพูดถึงน่ะ ถ้าไม่มีวิธีการฝังเข็มของฉันร่วมด้วย มันก็คือยาพิษ! อย่าว่าแต่เป็นอมตะเลย แค่กินเข้าไปก็จะตายทันที!”

“พูดเหลวไหลอะไรของแก!”

หลิ่วหรูเยียนตวาด “ฉันทุ่มเทกายใจเพื่อคิดค้นยานี้มาตั้งสามปี มันสามารถทำให้เป็นอมตะได้ แม้แต่คนที่ป่วยหนักใกล้ตายก็ยังยืดชีวิตไปได้อีกตั้งห้าปี! คืนพรุ่งนี้ ฉันจะเผยแพร่และโปรโมตยาตัวนี้ให้คนทั้งเมืองรู้ผ่านงานชุมนุมวงการแพทย์ของตระกูลกู้แห่งจิงตู!”

“อีกอย่าง ฉันเชิญอดีตผู้บัญชาการเว่ยของเขตทหารระดับมณฑลมาเพื่อทดลองยาแล้วด้วย ถึงตอนนั้นพวกเราสองแม่ลูกก็จะกลายเป็นเศรษฐีใหม่ที่มาแรงที่สุดในเจียงจง! แกไม่ต้องมาเล่นลูกไม้ตื้นๆ ข่มขู่! ฉันไม่กลัวสักนิด!”

หลิ่วหรูเยียนด่าเป็นชุด วางมาดหยิ่งผยองหนักกว่าเดิม

“เชื่อหรือไม่ก็ตามใจ”

ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา

“ใต้ฟ้านี้ มีแค่ฉันคนเดียวที่รู้วิธีแก้พิษของยานี่”

“ฉันอยากรู้นัก ถึงตอนนั้นเธอจะมาขอร้องฉันยังไง!”

พูดจบ ฉู่เฉินสาวเท้าจากไป ทิ้งหลิ่วหรูเยียนที่กำลังโกรธจัดและหลิ่วชิงเหอที่สีหน้าหนักอึ้งไว้ข้างหลัง

“ถุย! ไอ้ขยะ คิดว่าตัวเองเป็นใคร ขอร้องแกงั้นเหรอะ! ฝันไปเถอะ!” หลิ่วหรูเยียนด่าไล่หลัง

หลิ่วชิงเหอที่อยู่ข้างๆ สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก

ยาพิษเหรอ?

เมื่อครู่ เหมือนฉู่เฉินจะพูดว่ายาที่ได้จากการจับเขาแช่น้ำไม่สามารถดื่มโดยตรงได้ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นพิษ

ตอนนี้หลิ่วหรูเยียนใช้ยาน้ำนี้ในการทำยาอายุวัฒนะขึ้นมา อย่างนั้นยาอายุวัฒนะก็มีพิษด้วยเหรอ?

“หรูเยียน แม่ว่าเลื่อนโปรเจกต์ยาอายุวัฒนะออกไปก่อนเถอะ เราหาทีมวิจัยศึกษาดูให้ละเอียดก่อนดีกว่า” หลิ่วชิงเหอเอ่ย

“แม่ แม่เป็นอะไรไป? แม่ก็เชื่อที่ไอ้ขยะนั่นพูดด้วยเหรอ? มันแค่จะขู่ให้เรากลัวเท่านั้นแหละ!” หลิ่วหรูเยียนตะโกน เธอหยิบยกรายงานผลการทดลองที่ยาวเป็นหางว่าวขึ้นมา แล้วพูดว่า “แม่ดูสิ นี่คือรายงานผลการทดลองที่ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ในนี้บอกว่าไม่มีพิษ”

“แม่ แม่คอยดูนะ คืนพรุ่งนี้ พวกเราสองแม่ลูกจะต้องกลายเป็นที่โจษจันแน่ๆ!”

“แค่มียาอายุวัฒนะอยู่ พวกเราก็สามารถสร้างหลิ่วซื่อกรุ๊ปที่เหนือกว่าฉู่ซื่อกรุ๊ปได้แล้ว!”

หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสวย มองรายงานผลการทดลองในมือ บอกว่า “แม่อาจจะคิดมากไปเอง ลูกทำให้เต็มที่เถอะ”

“ค่ะ” หลิ่วหรูเยียนยิ้มรับ

จากนั้นหลิ่วหรูเยียนก็ออกจากคฤหาสน์ไป หลิ่วชิงเหอย้อนกลับไปที่ห้องน้ำ บ้วนปากอยู่สิบกว่าครั้ง ถึงค่อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ฉันจะฆ่าแก!”

หลิ่วชิงเหอสบถ ก่อนจะยกโทรศัพท์โทรหาป้าอู๋ “ป้าอู๋ ฆ่าฉู่เฉินซะ!”

“ค่ะ คุณผู้หญิง” ป้าอู๋รับคำสั่ง

……

ขณะเดียวกัน

ณ เจียงจง คฤหาสน์หรูหลังหนึ่ง

ในห้องน้ำชั้นสอง

กู้รั่วเสวี่ยเอนหลังอยู่ในอ่างอาบน้ำ เผยให้เห็นลำคอยาวระหงและกระดูกไหปลาร้าอันขาวเนียน ยอดเขาอวบอิ่มสองลูกที่ลอยไหวไปตามกระแสน้ำ ยิ่งชวนให้ลุ่มหลง

โดยเฉพาะผิวขาวเนียนดุจน้ำนมนั่น เมื่ออยู่ใต้แสงไฟแล้วเปล่งประกายแวววาวราวกับเล่นแสงได้

เธอเหม่อมองเพดานด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น

จู่ๆ ก็เสียครั้งแรกไปทั้งอย่างนี้แล้ว

หลังออกจากโรงแรมตอนเช้า มาจนถึงตอนนี้ สมองของกู้รั่วเสวี่ยก็เอาแต่คิดถึงเรื่องของผู้ชายที่ชื่อฉู่เฉิน

และบนตัวเธอก็ยังมีรอยฟันที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้เห็นอีก

ความบริสุทธิ์ยี่สิบสามปีที่ผ่านมาของเธอ หายวับไปกับตากับอารมณ์พลุ่งพล่านในคืนเดียว

“เขาเป็นใครกันนะ?” สีหน้าของกู้รั่วเสวี่ยเต็มไปด้วยความสงสัย

เพราะหลังจากความบ้าคลั่งเมื่อคืน กู้รั่วเสวี่ยค้นพบอย่างประหลาดใจ โรคกายเย็นที่อยู่กับเธอมาสิบกว่าปีกลับดีขึ้นเจ็ดถึงแปดส่วนเลยทีเดียว!

เพราะเหตุนี้ กู้รั่วเสวี่ยจึงหาหมอมีชื่อเสียงหลายคนมาตรวจชีพจรให้เธอ แต่ละคนล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าโรคกายเย็นที่รังควานเธอมาสิบกว่าปีมีสัญญาณในทางที่ดีขึ้น

ต้องบอกก่อนว่าโรคกายเย็นทรมานกู้รั่วเสวี่ยมาเป็นเวลาสิบสองปีแล้ว!

แม้แต่สุดยอดแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศล้วนพูดเหมือนกันหมด ว่านี่เป็นโรคที่รักษาไม่หาย

บอกถึงขั้นว่ากู้รั่วเสวี่ยจะมีเวลาอยู่อีกไม่ถึงสองปี!

แต่ตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าโรคกายเย็นจะมีสัญญาณเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี นี่เป็นสิ่งที่กู้รั่วเสวี่ยไม่เคยคาดฝันมาก่อน

“หรือเป็นเพราะเมื่อคืนเราทำเรื่องบ้าคลั่งกับผู้ชายคนนั้นทั้งคืน?” กู้รั่วเสวี่ยคิดอย่างสงสัย

ถ้าจำไม่ผิด เขาบอกว่าเขาเคยเรียกวิชาแพทย์มาบ้าง

เขาช่วยรักษาเธองั้นเหรอ?

ถ้าใช่จริง งั้นเขาก็ช่วยรักษาโรคของแม่เธอได้เหมือนกันน่ะสิ?

เวลานี้ เลขาสาวเดินเข้ามารายงานอย่างนอบน้อมว่า “คุณหนูใหญ่ เราเจอตัวฉู่เฉินที่คุณหนูใหญ่ต้องการตามหาแล้วค่ะ”

“จริงเหรอ อยู่ที่ไหน?” กู้รั่วเสวี่ยลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้น เปิดเผยเรือนร่างอันเปลือยเปล่าต่อหน้าเลขาโดยไม่คิดจะปิดบังเลยสักนิด

นาทีนี้ แม้แต่เลขาสาวที่อยู่ด้วยกันทุกวันก็ยังอดทอดถอนใจไม่ได้ เรือนร่างคุณหนูใหญ่ของเธอช่างงดงามมากจริงๆ!

ผู้หญิงแบบนี้ มีผู้ชายที่ไหนบ้างที่ไม่อยากครอบครองจนแทบบ้า

แม้แต่เธอที่เป็นผู้หญิง ก็ยังอยากครอบครอง

“เพิ่งออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วค่ะ ตอนนี้น่าจะกำลังมุ่งหน้าไปที่จินจือหลิน”

ไม่รู้คุณหนูใหญ่เป็นอะไรไป ถึงได้สนใจผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งขนาดนี้

“จินจือหลิน? ที่นั่นคือร้านขายยาของตระกูลกู้เราไม่ใช่เหรอ?” กู้รั่วเสวี่ยขมวดคิ้วอย่างน่ามอง

“ใช่ค่ะ” เลขาสาวตอบ

กู้รั่วเสวี่ยพยักหน้า กางแขนทั้งสองข้าง เป็นสัญญาณให้สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สวมเสื้อผ้าให้เธอ ก่อนยิ้มบอกว่า “ไป ไปจินจือหลินกัน! วันนี้ ไม่ว่ายังไงฉันต้องเจอเขาให้ได้”

……

ด้านฉู่เฉิน หลังออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก็มุ่งหน้าไปยังร้านขายยาขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งก็คือจินจือหลิน

ฉู่เฉินอยากพัฒนาความสามารถของตนเองให้เร็วที่สุด นอกจากจะฝึกตนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธี นั่นก็คือการหลอมยา!

และการหลอมยา ก็จำเป็นต้องมีสมุนไพรก่อน

ตอนนี้ฉู่เฉินหลอมได้แค่ยาบำรุงปราณเท่านั้น!

ประจวบเหมาะกับที่จินจือหลินเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเจียงจง ที่นี่มีสมุนไพรหลากหลาย แถมราคาก็แตกต่างกันไปด้วย

“มีเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปีไหมครับ?”

ฉู่เฉินเดินเข้าไปในร้านขายยา ก่อนจะเอ่ยปากถามพนักงานหญิงที่ยืนหันหลังอยู่

พนักงานหญิงคนนี้ใส่ชุดเครื่องแบบของห้องโถงยา นับว่าหุ่นดีมาก มีส่วนเว้าส่วนโค้ง โดยเฉพาะท่อนล่างที่ใส่ถุงน่องสีดำบางๆ ซ้ำยังมีสายคล้องตั้งแต่ด้านหลังต้นขาลงมาถึงน่อง ทำให้คนอดจินตนาการไปไกลไม่ได้

พนักงานสาวสวยเห็นว่ามีลูกค้าเข้า รีบวางสายโทรศัพท์ในมือ ก่อนหันกลับมายิ้มหวานต้อนรับ และถามอย่างสุภาพว่า “คุณลูกค้า มีค่ะ รอสักครู่นะคะ ฉันจะไปหยิบให้ค่ะ”

เพียงแต่ พอเธอเงยหน้าและมองฉู่เฉินที่อยู่ตรงหน้าชัดๆ พนักงานสาวสวยร้องเสียงหลงออกมาทันที “ฉู่เฉิน? ทำไมเป็นนาย?”

ฉู่เฉินอึ้ง มองพนักงานสาวสวยอย่างแปลกใจ ก่อนถามว่า “เรารู้จักกันเหรอครับ?”

“แหม คุณชายใหญ่ฉู่ ลืมฉันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? ฉัน หวังฮุ่ย เพื่อนสมัยมัธยมปลายของนายไงเล่า ทำไม จำไม่ได้แล้วเหรอะ?” หวังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสี จากท่าทีเกรงใจที่มีก่อนหน้า ตอนนี้กลายเป็นดูแคลนและไม่พอใจ

ถ้าจำไม่ผิด บ้านของฉู่เฉินเหมือนจะเกิดเหตุพลิกผันครั้งใหญ่ พ่อแม่ของเขาหายตัวไปอย่างลึกลับ ทรัพย์สมบัติของตระกูลก็ถูกแม่บุญธรรมของเขาแย่งไปจนหมด

แม้แต่ตัวเขาเองก็หายตัวไปด้วยพักหนึ่งเลยทีเดียว

นึกไม่ถึงว่าจะเจอเขาวันนี้

“อ้อ” ฉู่เฉินรับคำอย่างเฉยชา

หวังฮุ่ยเห็นท่าทีเฉยชาของอีกฝ่ายก็ไม่พอใจ เธอตำหนิเขาทันที “ฉู่เฉิน ฉันพูดกับนายอยู่นะ ทำไมถึงเมินฉันเขาอย่างนี้ล่ะ? ทำไม ยังคิดว่าตัวเองเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลฉู่เหมือนเมื่อก่อนรึไง?”

“ตระกูลฉู่ของนายพังพินาศไปแล้ว ยังจะมาวางมาดใหญ่โตอะไรใส่ฉันอีก?”

“ตอนนี้นายมันก็แค่กาฝากที่อาศัยคนอื่นเขาอยู่!”

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว ตอบกลับอย่างไม่พอใจว่า “พูดจบหรือยัง? ฉันมาซื้อสมุนไพร”

หวังฮุ่ยขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนสิ่งที่ตัวเองพูดไปนั้นเปล่าประโยชน์

เธออยากรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าฉู่เฉิน จึงตั้งใจจะเหยียบอดีตคุณชายใหญ่ตระกูลฉู่ผู้เย่อหยิ่งให้จมดิน นึกไม่ถึง อีกฝ่ายไม่แยแสสักนิด

“จะซื้ออะไร?” หวังฮุ่ยถามด้วยท่าทีเย็นชา

“เห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี” ฉู่เฉินตอบเสียงเรียบ

หวังฮุ่ยได้ยินคำตอบก็หัวเราะตัวโยน สัดส่วนนูนโค้งสั่นไหวไปตามแรงหัวเราะ ยิ่งทรวงอกของเธอยิ่งสะเทือนไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเสียดสีอีกว่า “นายว่าไงนะ? เห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี?”

“ฉู่เฉิน นายรู้รึเปล่าว่าเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปีต้นหนึ่งราคาเท่าไร?”

“ห้าล้าน!”

“นายเป็นแค่คุณชายใหญ่ตกอับ ที่ถูกขับไล่ออกจากฉู่ซื่อกรุ๊ป ในกระเป๋ายังมีเงินอยู่อีกเหรอ?”

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว ห้าล้าน? ก็แพงจริงๆ นั่นแหละ

อีกอย่าง ตอนนี้เขาก็ไม่มีเงินจริงๆ

“ไม่มีเงินใช่ไหมล่ะ? ไม่มีเงินแล้วนายจะมาจินจือหลินทำไม? รีบไสหัวไปเลยไป!” หวังฮุ่ยตวาดลั่น ต้องการจะไล่ฉู่เฉินออกไป

“สามหาว! ใครกล้าไล่เขาออกไป!”

ทันใดนั้น เสียงดุหวานๆ ดังมาจากทางประตู

จากนั้นกู้รั่วเสวี่ยก็เดินเชิดเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา

Related chapters

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 7

    หวังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ เห็นกู้รั่วเสวี่ยที่เดินเข้าก็รีบโค้งตัวอย่างสุภาพนอบน้อม “คะ คุณหนูกู้ มาได้ยังไงคะ?”“เพียะ!”กู้รั่วเสวี่ยก้าวเข้ามาสะบัดฝ่ามือใส่แก้มของหวังฮุ่ย พูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมพูดจาอย่างงั้นกับคุณฉู่! ขอโทษเขาซะ!”“ขอโทษ?” หวังฮุ่ยมึนงง เธอยกมือกุมแก้มที่รู้สึกแสบร้อน ก่อนจะอธิบายว่า “คุณหนูกู้ ไอ้นี่เป็นแค่คุณชายตกอับไร้ที่ไป เขามาซื้อสมุนไพรทั้งที่ไม่มีเงิน แถมยังบอกว่าจะซื้อเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี ฉันก็แค่…”“เพียะ!”กู้รั่วเสวี่ยยกฝ่ามือขาวๆ สะบัดออกไปอีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงเย็นอีกครั้ง “ฉันบอกว่าให้ขอโทษซะ!”คราวนี้หวังฮุ่ยตกใจแล้วกู้รั่วเสวี่ย คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลกู้ เพิ่งมาเติบโตในเจียงจงสองปีที่ผ่านมานี้เองจินจือหลินเป็นของกู้รั่วเสวี่ยทั้งหมดหากพูดถึงตระกูลกู้ในจิงตู ก็นับว่าเป็นตระกูลที่ใหญ่สุดๆ!พวกเขามีอุตสาหกรรมที่หลากหลาย มีทั้งด้านสมุนไพร ด้านศึกษาวิจัยทางการแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมด้านความบันเทิงก็ด้วย…อุตสาหกรรมแต่ละด้านล้วนนับว่าอยู่แนวหน้าของประเทศทั้งนั้นได้ยินมาว่า รวยเทียบเท่าประเทศหนึ่งเลยทีเดียว!“ขะ ข

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 8

    สิ้นเสียง สองคนที่อยู่ในห้องนอนหันขวับไปทางฉู่เฉินและกู้รั่วเสวี่ยที่กำลังเดินเข้ามาซุนเซี่ยวเหรินหน้าคล้ำทันที เขาตำหนิอย่างไม่พอใจสุดๆ “เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! พูดจาเหลวไหลอะไรของเธอ! นี่เธอกำลังตั้งคำถามกับทักษะทางการแพทย์ของฉันงั้นรึ หรือว่าสงสัยในตัวยาเม็ดนี้? เธอรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร!”ซุนเซี่ยวเหรินไม่สบอารมณ์อย่างมากเด็กเปรตนี่โผล่มาจากไหน ถึงได้กล้าเข้ามาตะคอกเขาอย่างนี้กินยาอายุวัฒนะในมือเขา แล้วผู้ป่วยจะตายงั้นรึ?เหลวไหลทั้งเพ!ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้เขาศึกษามาหลายวันแล้ว มันคือยาบำรุงชั้นดี!ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสี่เหลี่ยมเย็นชาแข็งกร้าว สายตาเคร่งขรึม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องฉู่เฉินแล้วตวาดเสียงต่ำ “เธอเป็นใคร? ใครให้เธอบุกเข้ามาที่นี่? ไสหัวออกไป! อย่ามาขัดขวางการรักษาของภรรยาฉัน!”“คุณพ่อ เขาชื่อฉู่เฉินค่ะ เป็นหมอที่หนูพากลับมาเอง วิชาแพทย์ของเขาร้ายกาจมาก แม้แต่โรคกายเย็นของหนูเขาก็รักษาได้” กู้รั่วเสวี่ยรีบเข้ามาอธิบายชายวัยกลางคนได้ยินก็ตะลึง “ลูกว่าไงนะ? เขารักษาโรคกายเย็นของลูกได้เหรอ? รั่วเสวี่ย ลูกอย่าโกหกพ่อนะ”กู้เหวินไห่ พ่อของกู้รั่วเสว

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 9

    สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ทั่วทั้งห้องรับรองเงียบสงัดทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก!พวงแก้มของกู้รั่วเสวี่ยแดงเรื่อฉู่เฉินคิดจะให้พ่อของเธอยกเธอให้เขาจริงๆเธอยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยนะกู้เหวินไห่เองก็หน้าดำคร่ำเครียด เขาลังเลอยู่นานมากฉู่เฉินพูดขึ้น “ผู้นำตระกูลกู้ อย่าลังเลเลย คุณเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”“ผมขอบอกคุณชัดๆ ตรงนี้เลยว่า บนโลกนี้ คนที่ช่วยภรรยาคุณได้ มีแค่ผมฉู่เฉินคนเดียวเท่านั้น!”กู้เหวินไห่กัดฟัน เขาไม่ลังเลอีกต่อไป คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุบ ก่อนจะอ้อนวอนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมเลอะเลือน ได้โปรดช่วยชีวิตภรรยาของผมด้วย”“ขอแค่ช่วยภรรยาของผมได้ ผมยอมยกลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนให้คุณ”“คุณพ่อ…” กู้รั่วเสวี่ยพึมพำเรียกพ่อของเธออย่างกระมิดกระเมี้ยนฉู่เฉินวางแก้วชา และยิ้มตอบเล็กน้อย “ได้ เห็นแก่หน้ารั่วเสวี่ย ผมจะช่วยเอง ลุกขึ้นเถอะครับ”กล่าวจบ ฉู่เฉินลุกเดินไปทางห้องนอนกู้เหวินไห่เดินตามไปติดๆกู้รั่วเสวี่ยก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน เธอถามว่า “คุณพ่อ เมื่อกี้คุณพ่อพูดเล่นใช่ไหมคะ?”กู้เหวินไห่ตัดบททันที “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าเขาช่วยแม่ของลูกได้จริง ก็แสดงว่าเจ้าห

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 10

    ด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉู่เฉินออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้ ก็มุ่งไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ครั้นเห็นบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ในสภาพซอมซ่อ บวกกับกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากไม้เน่าลอยมาแตะจมูก ฉู่เฉินอดทอดถอนใจไม่ได้บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็กของฉู่เฉินตั้งแต่ที่พ่อแม่หายตัวไป ฉู่เฉินก็แอบสืบอย่างลับๆ มาตลอด หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่แม่บุญธรรมของเขา หลิ่วชิงเหอ!ในตอนที่ฉู่เฉินตั้งใจจะโจมตีหลิ่วชิงเหอ เขาก็ถูกลอยแพเสียก่อน! จากนั้น เรื่องราวก็เป็นอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาถูกสองแม่ลูกขังไว้ในห้องอาบน้ำของคฤหาสน์ เพียงแวบเดียว เขาก็ถูกทรมานมานานถึงสามปีเต็ม!“หลิ่วชิงเหอ หวังว่าเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันหายตัวไปจะไม่เกี่ยวกับเธอนะ! ถ้าฉันสืบเจอว่าเป็นลูกไม้สกปรกของเธอ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา ในดวงตาตาสุกใสสะท้อนแววเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกฉู่เฉินเก็บกวาดบ้านอย่างง่ายๆ จากนั้นก็ตั้งป้ายวิญญาณสองป้ายไว้ในบ้านให้พ่อแม่ของเขาผ่านมาหลายปีแล้ว พ่อกับแม่อาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ ในฐานะลูกชาย เขาควรกราบไหว้หลังจากคำนับสามครั้ง ฉู่เฉินจัดการทำความสะอา

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 11

    “โอ๊ย! สารเลว! แกปล่อยฉันนะ! แกกล้าทำเรื่องน่าขยะแขยงเช่นนี้กับฉัน ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!” ป้าอู๋ร้องออกมาด้วยความตกใจเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะกล้าลงมือกับเธอเช่นนี้เจ้าคนสารเลว!โครม...หลังจากนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้นมาจากห้อง พร้อมทั้งเสียงร้องขอชีวิตของป้าอู๋“ฉู่เฉิน อย่า ฉันขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”อย่างไรก็ตาม หลังจากขอความเมตตาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นมาเป็นระยะ และในช่วงท้ายของการขอความเมตตาของป้าอู๋ ก็กลายเป็นเสียงครวญครางที่ส่งเสียงดังราวกับอารมณ์เร่าร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ 20 กว่าปี แค่ครู่เดียวก็ปลดปล่อยออกมา!หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเดินออกมาด้วยหน้าระรื่นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “หากไม่ใช่เพราะป้า ผมคงไม่มีโอกาสอย่างนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะปล่อยป้าไปแล้วกัน รีบไสหัวไปซะ!”ภายในห้องป้าอู๋นอนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าถูกฉีกไม่เป็นชิ้นดี ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยว โดยเฉพาะบั้นท้ายที่เธอภาคภูมิใจนั้นเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ!เธอกัดฟันโกรธ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น“ไอ้เดรัจฉาน! แกรังแกฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ป้าอู๋สบถออกมารุนแรง ฝืนร่างกายล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 12

    เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมาฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”ฉู่เฉิน?เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”ฉู่เฉินกวาดสายต

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 13

    “ที่รัก! จัดการมัน รีบจัดการมันสิคะ!”เฉาถิงถิงพูดคะยั้นคะยออยู่ข้างๆ เธอหวังแต่เพียงว่าจ้าวหู่จะบดขยี้ฉู่เฉินและหลิวเฉียงลงไปที่พื้นทันที!จ้าวหู่ทำราวกับไม่ได้ยิน รีบวิ่งไปข้างหน้า โค้งตัวลงไป “คุณคือคุณฉู่ ฉู่เฉินใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้ว พยักหน้าตอบ “ใช่”“แหมๆ คุณฉู่จริงด้วย สวัสดีครับๆ ผมชื่อจ้าวหู่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ ขอโทษที่ไม่ได้มาต้อนรับนะครับๆ”จ้าวหู่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่นับถือและประจบประแจงภาพนี้ทำให้ฉู่เฉินงุนงงเล็กน้อยหลิวเฉียงก็เช่นกันคนที่ตกตะลึงและสับสนที่สุดคือเฉาถิงถิง“ที่รัก คุณทำอะไรเนี่ย? คุณฉู่อะไรกัน? คุณบ้าไปแล้วเหรอ? เขาคือไอ้คนเหลือขอที่ตบตีฉันเมื่อกี้นะคะ! คุณรีบจัดการมันสิ!”เฉาถิงถิงพูดอย่างร้อนรน กระทืบเท้า หน้าอกใหญ่และอวบอิ่ม ก็สั่นขึ้นลงทันที“เพียะ!”เป็นผลให้จ้าวหู่หันหลังกลับมาไปและตบเข้าไปที่หน้าเฉาถิงถิง และดุว่า “อวดดี! ไอ้คนเหลือขอเหรอ? เขาคือคนที่ผมบอกคุณว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่ผู้นำตระกูลกู้ยังต้องเคารพ!”“ฉู่เฉิน คุณฉู่!”“คุณยังไม่รีบมาขอโทษคุณฉู่อีก!”จ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 14

    ฉู่เฉินหัวเราะอย่างนึกสนุกและพูดว่า “ผู้จัดการจ้าวไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?"คิ้วของจ้าวหู่ขมวดมุ่น ฉู่เฉินยังคงพูดต่อว่า “ตอนนี้ผู้จัดการจ้าวอายุสี่สิบแล้วใช่ไหมครับ หลายปีมานี้ที่มีลูกไม่สำเร็จ ไม่เคยสงสัยตัวเองเหรอ?”“หากคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดูได้”“เมื่อถึงเวลานั้น เด็กในท้องใช่หรือไม่ใช่ลูกของคุณ ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจเองนะครับ”จ้าวหู่ได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกัดฟันพูดว่า “ได้! หวังว่าที่คุณฉู่พูดจะถูกต้องนะครับ หากผมไม่ได้มีปัญหาจริงๆ ล่ะก็ คุณฉู่ต้องคิดผลลัพธ์ให้ดีนะครับ!”พูดเสร็จ จ้าวหู่ก็หมุนตัวออกไปจากร้านอาหารเฉาถิงถิงเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ร้อนรนขึ้นมารั้งจ้าวหู่ “ที่รัก ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ ให้พวกเขาไปเถอะค่ะ”จ้าวหู่คิ้วขมวดอีกครั้ง เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฉาถิงถิง ในใจเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา“ไม่ได้ พวกเขาลบหลู่ผมได้ แต่จะมาลบหลู่ลูกของผมจ้าวหู่ไม่ได้!” จ้าวหู่พูดอย่างเย็นชา เดินหันหลังออกไป มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำการตรวจ หลังผลตรวจออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนขั้นสุด!ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต!หลังจากนั้นเขาก

Latest chapter

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 920

    ปัง!ในขณะนี้ ภายในร่างของฉู่เฉินได้เกิดเสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อกระดูกและเส้นลมปราณมีปราณจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกเย่หัวที่ฟื้นคืนพลังบางส่วน เบิกตากว้างมองด้วยความไม่เชื่อไอ้หนูคนนี้… กำลังทะลวงระดับ?!ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่กล้าเชื่อว่าหลังจากฉู่เฉินได้รับบาดเจ็บหนักจะสามารถทะลวงระดับได้นี่…นี่ยังเป็นคนอยู่ใช่ไหมเนี่ย?!แม้ว่าเขาจะอยากขัดขวางฉู่เฉิน แต่ปัญหาคืออาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ ทำให้ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้เลยในขณะนี้ จิตสำนึกของฉู่เฉินได้รวมรวมอยู่ที่จุดหนึ่งอย่างสมบูรณ์แล้ว บุกทะลวงขีดจำกัดของระดับพลังอย่างบ้าคลั่งหลิ่วหรูเยียนเองก็มีสีหน้าตกใจและจ้องไปที่ฉู่เฉิน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ทำได้แค่ถือกระบี่โดยสัญชาตญาณและยืนอยู่ข้างหน้าฉู่เฉิน“แก... แกอย่ามานะ ฉัน... ฉันก็กล้าฆ่าคนเหมือนกันนะ”ใบหน้าเล็กของหลิ่วหรูเยียนขาวซีด ตัวสั่นไปทั้งร่าง ถือกระบี่ยาวด้วยมือที่สั่นเทาชี้ไปที่เย่หัวและกล่าวออกมาเย่หัวยิ้มเย็น แม้กระทั่งคร้านที่จะมองหลิ่วหรูเยียนอีกผู้หญิงโง่คนนี้ ถ้าตอนนี้เธอใช้ดาบแทงเขา เกรงว่าเขาคงตายอย่างน่าอนาถอยู่ที่นี่แน่แต่โชคดีที่เธอไม่กล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 919

    “เย่หัวเอามือกุมหน้าอกอย่างไม่อยากเชื่อ แม้แต่ถอยหลังไปหลายก้าวและใช้กระบี่ชิงหลงค้ำพื้นเอาไว้ จึงฝืนไม่ล้มลงไปได้แค่ก! ในวินาทีต่อมา เย่หัวและฉู่เฉินก็กระอักเลือดออกแทบจะพร้อมกัน “นี่เป็นไปได้ยังไง?”เย่หัวเพียงรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เจ็บปวดจนกระทั่งเขาไม่มีแรงพอที่จะยกกระบี่ขึ้นได้ ผู้บำเพ็ญอิสระระดับสร้างรากฐานชั้นที่สี่ เหตุใดถึงสามารถทำร้ายเขาได้?!แค่ก!เย่หัวรู้สึกถึงเลือดลมแปรปรวน ก่อนจะกระอักเลือดออกมาอีกคำใหญ่แต่ฉู่เฉินในขณะนี้ก็ไม่ได้ต่างกันนัก เมื่อกี้นี้เขารับกระบี่ของเย่ฮัวอย่างเต็มแรง แม้ภายนอกดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่แท้จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น แค่แรงสะท้อนก็ทำให้แขนทั้งสองข้างของฉู่เฉินชาไปหมดแล้ว และภายในจุดตันเถียนก็ยิ่งรู้สึกถึงเลือดลมพลุ่งพล่านถ้าไม่ใช่เพราะเงามังกรในร่างกายที่ช่วยต้านการโจมตีไว้มากกว่าครึ่ง เกรงว่าตอนนี้ฉู่เฉินคงจะศีรษะขาดจากร่างกายไปแล้ว “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก วังเทียนเจี้ยนของพวกคุณก็แค่นี้แหละ มาอีกสิ!”ฉู่เฉินพยายามอดทนกับเลือดลมที่พลุ่งพล่านในร่างกายและยิ้มกว้างออกมา ความจริงแล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 918

    ดูเหมือนว่าฉู่เฉินที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ปัดป้องเจตจำนงกระบี่ที่พุ่งเข้ามาไปพลาง ขณะเดียวกันก็พูดเหน็บแนมว่า “ลูกเล่นนี่ใช้ได้เลยนี่ แต่เสียดายที่วิชาแมวสามขานี้ยังไม่เข้าตาผม”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เย่หัวยิ้มอย่างภูมิใจและเงยหน้าขึ้นกล่าวว่า “ไม่เข้าตาแก? มากสุดสามลมหายใจ ฉันจะทำให้เลือดของแกเลือดกระเซ็นไปห้าก้าว!”ทันทีที่พูดจบ เย่หัวก็เร่งความเร็วในการโจมตีมากขึ้นในเสี้ยววินาที แม้แต่อากาศโดยรอบล้วนปกคลุมไปด้วยลมกระบี่ที่หนาวเหน็บฉู่เฉินรับมืออย่างเยือกเย็นไปพลาง ขณะเดียวกันก็กำลังมองหาจุดอ่อนในท่าทางของเย่หัวความจริงแล้ว ตาข่ายกระบี่ที่ดูเหมือนจะยุ่งยากนี้ไม่ได้ไร้ช่องโหว่ แต่คนทั่วไปยังไม่ทันจะสังเกตเห็นจุดอ่อนก็ถูกพลังอำนาจของเย่หัวทำให้ตกใจกลัวโชคดีที่ในมรดกของมังกรเฒ่ามีทักษะกายาที่เรียกว่าเจ็ดก้าวดารา แม้จะเป็นทักษะกายาที่ใช้หนีเอาชีวิตรอด แต่ก็ยังเป็นวิชาระดับสวรรค์และถึงแม้ว่าฉู่เฉินจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบในขณะนี้ แต่ก็สามารถมองเห็นช่องโหว่ในกระบวนกระบี่ของเย่หัวและลอบคำนวณหาจังหวะทำลายการโจมตีในวินาทีต่อมา ฉู่เฉินเปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหัน แทงกร

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 917

    ในมุมมองของเย่หัว ฉู่เฉินที่เป็นแค่คนธรรมดาระดับสร้างรากฐานชั้นสี่ ไม่มีค่าพอที่เขาจะลงมือด้วยซ้ำเพราะเย่หัวเองมีพื้นเพมาจากหนึ่งในสิบสำนักใหญ่อย่างวังเทียนเจี้ยน!วิชาที่สืบทอด ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่าฉู่เฉินที่เป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระตัวเล็กๆ สักกี่เท่าแค่เรื่องระดับ ก็เหนือกว่าฉู่เฉินหนึ่งชั้นแล้วแม้จะเป็นการต่อสู้ในระดับเดียวกัน ผู้บำเพ็ญอิสระทั่วไปก็ไม่ใช่คู่มือของศิษย์จากสำนักใหญ่เลยและในมุมมองของเขา หลิงเสวี่ยให้ฉู่เฉินทำลายพลังของตัวเอง ถือเป็นความกรุณาแล้วถ้ายึดตามตามความต้องการของเขา คนโง่เง่าหัวแข็งที่กล้าท้าทายศิษย์พี่หลิงเสวี่ยแบบนี้ก็ควรถูกดาบฟันจนตายถึงจะถูก“ถ้าคุณตัดแขนขาทั้งสองข้างต่อหน้าผม ผมก็อาจจะพิจารณาไว้ชีวิตคุณก็ได้”ฉู่เฉินวางหลิ่วหรูเยียนในอ้อมแขนลง แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น“แกพูดว่าอะไรนะ?”เย่หัวเบิกตาขึ้นทันที ดวงตาปล่อยแสงเย็นเยียบมองไปที่ฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกเป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระ ใครให้ความกล้าหาญแกมาพูดจาไร้สาระกับฉันที่เป็นศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนอย่างนี้!”เมื่อคำว่าวังเทียนเจี้ยนสามคำถูกพูดออกมา สีหน้าของเย่หัวยิ่งแสดงความภูมิใจมากข

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 916

    หยางเทียนหลงและคนอื่นๆ ก็เดินตามหลังฉู่เฉินไป พร้อมเดินไปทางลิฟต์ด้วยกันหลิงเสวี่ยมองแผ่นหลังของฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนด้วยสายตาที่เย็นชา ดวงตาส่องประกายแสงเยือกเย็นสองเส้น! “คุณหลิงเสวี่ยครับ ไอ้หนูคนนี้อวดดีเกินไปแล้ว ต้องสั่งสอนให้เขารู้สำนึกบ้างแล้ว” เหล่าคนที่นำโดยเฉียนฮ่าวตงมองตามแผ่นหลังของฉู่เฉินที่เดินห่างออกไป เกลียดจนกัดฟันกรอด“ศิษย์พี่ ต้องทำ...”หลิงเฟิงก็ก้าวเดินไปข้างหน้า จ้องไปที่แผ่นหลังของฉู่เฉินและคนอื่นๆ พลางทำท่าตัดคอแล้วกล่าวเสียงเย็นหลิงเสวี่ยสูดหายใจเข้าลึก ทันใดนั้นใบหน้าสวยมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น กล่าวว่า “ช่างเถอะ งานเลี้ยงยังต้องดำเนินต่อ อย่าให้คนที่ไม่รู้คุณค่ามาทำลายบรรยากาศสนุกของทุกคนเลย”พูดจบ หลิงเสวี่ยก็เดินกลับไปนั่งบนโซฟา โบกมือให้หลิงเฟิงและกล่าวว่า “อีกเดี๋ยว ให้คนไปสั่งสอนฉู่เฉินสักหน่อย”“และจำกัดเวลาให้ส่งมอบหยกโลหิตกิเลนภายในหนึ่งเดือน ไม่งั้นจะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”หลิงเฟิงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าหนักๆ แล้วกล่าวว่า “ศิษย์พี่ ศิษย์พี่ความหมายว่า…”“ทำลายพลังของเขาก่อนเถอะ”หลิงเสวี่ยพูดด้วยความมั่นใจอย่างมากแค่ระดับสร้างรา

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 915

    เมื่อรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนถาโถมเข้าใส่อย่างฉับพลัน หลิ่วหรูเยียนก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน ร่างกายแนบชิดกับฉู่เฉินแน่นตามสัญชาตญาณอย่าหลงกลรอยยิ้มบนใบหน้าของหลิงเสวี่ย แต่รอบตัวกลับแผ่เจตนาฆ่าอย่างรุนแรงจนยากจะปกปิดฉู่เฉินยิ้มบางแล้วกล่าวว่า “ฆาตกร ย่อมถูกคนฆ่าตอบ”“ไม่ว่าเกาเซิ่งอี้จะเป็นสุนัขของใคร กล้ามาจ้องสมบัติล้ำค่าของตระกูลฉู่ของผม ก็สมควรได้รับโทษ ผมฆ่าเขาแล้วจะทำไมครับ”ซี้ดๆ!เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนรอบข้างต่างสูดลมหายใจเข้าลึกแม้ฉู่เฉินจะมีฝีมือ แต่หลิงเสวี่ยเป็นตัวแทนของหอการค้ากิเลนในมณฑลเจียงเขากล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้กับหลิงเสวี่ยได้ยังไง?“ฉู่เฉิน ไม่ว่าจะพูดยังไงก็เป็นความผิดของคุณก่อน คุณหลิงเสวี่ยก็ไม่ได้ถือโทษ กลับยังเชื้อเชิญอย่างอบอุ่น การขอโทษคุณหลิงเสวี่ย ก็เป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่เหรอครับ?”ในขณะนี้ ในฝูงชน มีชายวัยกลางคนผิวขาวสะอาดอายุราวสามสิบกว่าก้าวออกมา มองฉู่เฉินด้วยสีหน้ายิ้มเยาะแล้วกล่าวออกมาเมื่อคำพูดของเขาหยุดลง ผู้มีอิทธิพลจำนวนไม่น้อยที่อยู่ข้างหอการค้ากิเลนต่างพากันเปิดปากล่าวประณามฉู่เฉิน“พูดจาไร้สาระ!”ในขณะที่ท

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 914

    อย่างไรเสียงานเลี้ยงนี้จัดโดยหอการค้ากิเลน ใครจะกล้าหักหน้า?“ทั้งสองท่าน กรุณาแสดงบัตรเชิญของพวกคุณด้วยครับ”เมื่อมาถึงประตู ชายหนุ่มสองคนสวมเสื้อแขนสั้นสีดำและตัดผมสั้นก็มาขวางทางของฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียน“นี่คือบัตรเชิญของเรา เชิญตรวจสอบได้เลยค่ะ”หลิ่วหรูเยียนกล่าว พลางหยิบบัตรเชิญสองใบออกจากกระเป๋าสะพายแล้วยื่นให้ไปหนึ่งในชายผมสั้นรับบัตรเชิญไปเปิดดู กวาดตามองชื่อบนนั้น ความเย็นเยือกในแววตาวาบผ่าน จากนั้นจึงกล่าวกับฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนว่า “ทั้งสองท่านเชิญด้านนี้ครับ”ขณะพูด ชายผมสั้นก็พาฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนเข้าไปในลิฟต์ส่วนตัวที่อยู่ข้างๆ จากนั้นกดปุ่มชั้นสิบเอ็ด ก่อนจะส่งยิ้มให้และเดินจากไปแต่ในเสี้ยววินาทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาและกล่าวกับอีกฝ่ายว่า “ศิษย์พี่หลิงเฟิง ฉู่เฉินมาถึงแล้วครับ”“อืม ฉันรู้แล้ว”หลิงเฟิงตอบรับเสียงเรียบก่อนจะวางวิทยุสื่อสารลง รีบก้าวไปหน้าโซฟากลางห้องโถงจัดเลี้ยง ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบข้างหูหลิงเสวี่ยอยู่ครู่หนึ่งหลิงเสวี่ยพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ หันไปยังประตูทา

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 913

    ไม่นานนัก ข่าวหอการค้ากิเลนที่เข้ามามีบทบาทในมณฑลเจียงได้แพร่กระจายไปทั่ววงการของมณฑลเจียงคนจำนวนไม่น้อยที่เคยเข้าร่วมกับหอการค้าราชันมังกรก็ล้วนอยู่ในความหวาดระแวงเนื่องจากอิทธิพลของหอการค้ากิเลนไม่ใช่สิ่งที่นักธุรกิจมั่งคั่งเหล่านี้จะสามารถต้านทานได้แม้แต่หอการค้าราชันมังกรเอง เมื่อเผชิญหน้ากับหอการค้ากิเลนก็ไม่อาจต้านทานได้เช่นกันดังนั้น หลังจากคนจำนวนไม่น้อยชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียแล้ว จึงเลือกที่จะถอนตัวออกจากหอการค้าราชันมังกรเพื่อปกป้องตัวเองในเวลาไม่นาน โลกธุรกิจของมณฑลเจียงล้วนมีท่าทีเหมือนพายุฝนกำลังจะมาเยือนภายในคฤหาสน์ตระกูลเซียว เซียวจี้เซียนถือบัตรเชิญของหลิงเสวี่ยไว้ พลางมองไปที่เซียวถิงฮั่นด้วยสีหน้าลำบากใจ“พ่อครับ ความหมายของหอการค้ากิเลนชัดเจนมากแล้ว กำลังบีบให้พวกเราเลือกข้าง”“พ่อว่าคุณฉู่จะสู้กับหอการค้ากิเลนได้ไหมครับ?”ตระกูลเซียวเพิ่งเข้าร่วมฉู่เฉินไปหมาดๆ หากในเวลานี้หักหลังฉู่เฉินและกันไปเข้าข้างหอการค้ากิเลนอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คงไม่ต้องสงสัยถ้าฉู่เฉินพ่ายแพ้ก็แล้วไป แต่ถ้ากำจัดหอการค้ากิเลนเหมือนที่เคยกำจัดเกาเซิ่งอี้ งั้นผู้โชคร้ายค

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 912

    ความจริงแล้ว สิ่งที่สวีปินพูดก็เป็นเรื่องจริง ในสถานการณ์ตอนนั้น ใครจะกล้าพูดคำว่า “ไม่” กันล่ะ? เขาเชื่อว่าฉู่เฉินจะลงมือโดยไม่ลังเลแน่นอนส่วนเรื่องการชำระบัญชีกับหอการค้ากิเลน นั่นเป็นเรื่องของอนาคตอีกอย่าง กฎหมายไม่อาจลงโทษฝูงชนได้!หอการค้าตะวันออกใหญ่ทั้งหมด แค่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมก็มีมากกว่าร้อยคนแล้ว หอการค้ากิเลนคงไม่สามารถฆ่าทุกคนได้หรอกใช่ไหม?“โอ้? หมายความว่าตอนที่เกาเซิ่งอี้ถูกฆ่า คุณก็อยู่ที่นั่นและเห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเองงั้นเหรอ?”หลิงเสวี่ยขมวดคิ้ว ดวงตาค่อยๆ เย็นชาลง พร้อมตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเย็น“ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่เห็น วันนั้นทุกคนที่ไปร่วมงานฉลองครบรอบต่างก็เห็นกันหมด แต่จะทำอะไรได้ล่ะครับ? พวกเราเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา จะไปช่วยคุณเกาได้ยังไง...”สวีปินกล่าวแก้ตัวด้วยสีหน้าเศร้าโศก“งั้นฉันจะถามคุณ ใครเป็นคนฆ่าเกาเซิ่งอี้?”หลิงเสวี่ยลุกขึ้นช้าๆ มือหยกเรียวกดลงบนไหล่ของสวีปินเบาๆทันใดนั้น ความเย็นเยือกถึงกระดูกก็กลืนร่างของสวีปินไปจนหมด“คะ...คือชายคนหนึ่งชื่อฉู่เฉิน และดูเหมือนว่าบนตัวของฉู่เฉินจะมีหยกโลหิตกิเลนที่คุณเกาตามหาอยู่ด้วยครับ”สวีปิ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status