แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: กระจอก
“นี่แก!”

หลิ่วชิงเหอไม่ใช่เด็กสาวไม่รู้ความ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉู่เฉินต้องการสื่อในทันที!

เขายังคิดจะอาทิตย์ครั้งเหรอ!

“ไม่มีทาง! แกรีบไปให้พ้น! ฉันคิดหาวิธีเองได้!” หลิ่วชิงเหอกล่าวอย่างโกรธๆ

ไอ้สัตว์เดรัจฉานสมควรตาย คิดจะข่มขู่เธองั้นเหรอ

“ให้ฉันไปให้พ้น? เธอคิดดีแล้วเหรอ หลิ่วชิงเหอ บนโลกนี้คนที่สามารถช่วยลูกสาวของเธอได้ มีแค่ฉันฉู่เฉินคนนี้คนเดียว”

ฉู่เฉินยิ้มอย่างไม่ยี่หระ “ก่อนจะถึงวันศุกร์หน้า ทบทวนให้ดี ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็ติดต่อมา ฉันจะฝังเข็มให้ลูกสาวของเธอ ถือโอกาสฝังให้เธอด้วยสักสองสามเข็ม”

ฮ่าๆๆ!

พูดจบ ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง เขาเห็นสีหน้าดำทะมึนของหลิ่วชิงเหอแล้วรู้สึกสะใจสุด ๆ

หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสวยแน่น นิ้วเรียวชี้ไปทางประตู ก่อนตวาดเสียงเกรี้ยว “ไสหัวไป! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! อย่าบังคับให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”

ฉู่เฉินหัวเราะในลำคอ เขากวาดมองกล่องยากล่องหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะพูดว่า “ถ้าเดาไม่ผิด นั่นคือยาน้ำที่พวกเธอได้จากการจับฉันแช่มาเป็นเวลาสามปี จากนั้นก็เอาไปตุ๋นเป็นยาลูกกลอนสินะ?”

หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้ว ไม่ตอบคำถาม

ชั้นบน หลิ่วหรูเยียนเพิ่งเปลี่ยนใส่ชุดกระโปรงสั้นสดใสงดงาม และเดินลากรองเท้าแตะลงมา

บนเรียวขาอันขาวเนียนดุจหยก ถูกหุ้มด้วยถุงน่องสีดำบางๆ ดูเย้ายวนใจมาก

“ไอ้คนแซ่ฉู่ แกยังไม่ไปอีกเหรอ? ทำไม หรือคิดจะหมายตายาอายุวัฒนะที่พวกฉันแม่ลูกคิดค้นขึ้นมา?”

หลิ่วหรูเยียนแสยะยิ้ม

“จะบอกอะไรให้นะ แค่มียาอายุวัฒนะนี้ อีกไม่นานฉู่ซื่อกรุ๊ป ก็ต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็นหลิ่วซื่อกรุ๊ปแล้ว!”

“และฉันหลิ่วหรูเยียน ก็จะกลายเป็นราชินีแห่งวงการยาจีน!”

“ส่วนแก ฉู่เฉิน แกจะกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต เหมือนกับข้างในเป้ากางเกงของแกที่ไม่มีวันโงหัวขึ้นได้อีก ถูกพวกเราสองแม่ลูกเหยียบไว้ใต้เท้ายังไงล่ะ!”

“ฮ่าๆๆ!”

ฉู่เฉินยิ้มอย่างเย็นชาเหี้ยมเกรียม มองหลิ่วหรูเยียนที่หยิ่งยโส กล่าวว่า “หลิ่วหรูเยียน เห็นแก่ที่เมื่อกี้แม่ของเธอปรนนิบัติฉันเป็นอย่างดี ฉันขอเตือนอะไรเธออย่างหนึ่ง ยาอายุวัฒนะที่เธอพูดถึงน่ะ ถ้าไม่มีวิธีการฝังเข็มของฉันร่วมด้วย มันก็คือยาพิษ! อย่าว่าแต่เป็นอมตะเลย แค่กินเข้าไปก็จะตายทันที!”

“พูดเหลวไหลอะไรของแก!”

หลิ่วหรูเยียนตวาด “ฉันทุ่มเทกายใจเพื่อคิดค้นยานี้มาตั้งสามปี มันสามารถทำให้เป็นอมตะได้ แม้แต่คนที่ป่วยหนักใกล้ตายก็ยังยืดชีวิตไปได้อีกตั้งห้าปี! คืนพรุ่งนี้ ฉันจะเผยแพร่และโปรโมตยาตัวนี้ให้คนทั้งเมืองรู้ผ่านงานชุมนุมวงการแพทย์ของตระกูลกู้แห่งจิงตู!”

“อีกอย่าง ฉันเชิญอดีตผู้บัญชาการเว่ยของเขตทหารระดับมณฑลมาเพื่อทดลองยาแล้วด้วย ถึงตอนนั้นพวกเราสองแม่ลูกก็จะกลายเป็นเศรษฐีใหม่ที่มาแรงที่สุดในเจียงจง! แกไม่ต้องมาเล่นลูกไม้ตื้นๆ ข่มขู่! ฉันไม่กลัวสักนิด!”

หลิ่วหรูเยียนด่าเป็นชุด วางมาดหยิ่งผยองหนักกว่าเดิม

“เชื่อหรือไม่ก็ตามใจ”

ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา

“ใต้ฟ้านี้ มีแค่ฉันคนเดียวที่รู้วิธีแก้พิษของยานี่”

“ฉันอยากรู้นัก ถึงตอนนั้นเธอจะมาขอร้องฉันยังไง!”

พูดจบ ฉู่เฉินสาวเท้าจากไป ทิ้งหลิ่วหรูเยียนที่กำลังโกรธจัดและหลิ่วชิงเหอที่สีหน้าหนักอึ้งไว้ข้างหลัง

“ถุย! ไอ้ขยะ คิดว่าตัวเองเป็นใคร ขอร้องแกงั้นเหรอะ! ฝันไปเถอะ!” หลิ่วหรูเยียนด่าไล่หลัง

หลิ่วชิงเหอที่อยู่ข้างๆ สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก

ยาพิษเหรอ?

เมื่อครู่ เหมือนฉู่เฉินจะพูดว่ายาที่ได้จากการจับเขาแช่น้ำไม่สามารถดื่มโดยตรงได้ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นพิษ

ตอนนี้หลิ่วหรูเยียนใช้ยาน้ำนี้ในการทำยาอายุวัฒนะขึ้นมา อย่างนั้นยาอายุวัฒนะก็มีพิษด้วยเหรอ?

“หรูเยียน แม่ว่าเลื่อนโปรเจกต์ยาอายุวัฒนะออกไปก่อนเถอะ เราหาทีมวิจัยศึกษาดูให้ละเอียดก่อนดีกว่า” หลิ่วชิงเหอเอ่ย

“แม่ แม่เป็นอะไรไป? แม่ก็เชื่อที่ไอ้ขยะนั่นพูดด้วยเหรอ? มันแค่จะขู่ให้เรากลัวเท่านั้นแหละ!” หลิ่วหรูเยียนตะโกน เธอหยิบยกรายงานผลการทดลองที่ยาวเป็นหางว่าวขึ้นมา แล้วพูดว่า “แม่ดูสิ นี่คือรายงานผลการทดลองที่ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ในนี้บอกว่าไม่มีพิษ”

“แม่ แม่คอยดูนะ คืนพรุ่งนี้ พวกเราสองแม่ลูกจะต้องกลายเป็นที่โจษจันแน่ๆ!”

“แค่มียาอายุวัฒนะอยู่ พวกเราก็สามารถสร้างหลิ่วซื่อกรุ๊ปที่เหนือกว่าฉู่ซื่อกรุ๊ปได้แล้ว!”

หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสวย มองรายงานผลการทดลองในมือ บอกว่า “แม่อาจจะคิดมากไปเอง ลูกทำให้เต็มที่เถอะ”

“ค่ะ” หลิ่วหรูเยียนยิ้มรับ

จากนั้นหลิ่วหรูเยียนก็ออกจากคฤหาสน์ไป หลิ่วชิงเหอย้อนกลับไปที่ห้องน้ำ บ้วนปากอยู่สิบกว่าครั้ง ถึงค่อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ฉันจะฆ่าแก!”

หลิ่วชิงเหอสบถ ก่อนจะยกโทรศัพท์โทรหาป้าอู๋ “ป้าอู๋ ฆ่าฉู่เฉินซะ!”

“ค่ะ คุณผู้หญิง” ป้าอู๋รับคำสั่ง

……

ขณะเดียวกัน

ณ เจียงจง คฤหาสน์หรูหลังหนึ่ง

ในห้องน้ำชั้นสอง

กู้รั่วเสวี่ยเอนหลังอยู่ในอ่างอาบน้ำ เผยให้เห็นลำคอยาวระหงและกระดูกไหปลาร้าอันขาวเนียน ยอดเขาอวบอิ่มสองลูกที่ลอยไหวไปตามกระแสน้ำ ยิ่งชวนให้ลุ่มหลง

โดยเฉพาะผิวขาวเนียนดุจน้ำนมนั่น เมื่ออยู่ใต้แสงไฟแล้วเปล่งประกายแวววาวราวกับเล่นแสงได้

เธอเหม่อมองเพดานด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น

จู่ๆ ก็เสียครั้งแรกไปทั้งอย่างนี้แล้ว

หลังออกจากโรงแรมตอนเช้า มาจนถึงตอนนี้ สมองของกู้รั่วเสวี่ยก็เอาแต่คิดถึงเรื่องของผู้ชายที่ชื่อฉู่เฉิน

และบนตัวเธอก็ยังมีรอยฟันที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้เห็นอีก

ความบริสุทธิ์ยี่สิบสามปีที่ผ่านมาของเธอ หายวับไปกับตากับอารมณ์พลุ่งพล่านในคืนเดียว

“เขาเป็นใครกันนะ?” สีหน้าของกู้รั่วเสวี่ยเต็มไปด้วยความสงสัย

เพราะหลังจากความบ้าคลั่งเมื่อคืน กู้รั่วเสวี่ยค้นพบอย่างประหลาดใจ โรคกายเย็นที่อยู่กับเธอมาสิบกว่าปีกลับดีขึ้นเจ็ดถึงแปดส่วนเลยทีเดียว!

เพราะเหตุนี้ กู้รั่วเสวี่ยจึงหาหมอมีชื่อเสียงหลายคนมาตรวจชีพจรให้เธอ แต่ละคนล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าโรคกายเย็นที่รังควานเธอมาสิบกว่าปีมีสัญญาณในทางที่ดีขึ้น

ต้องบอกก่อนว่าโรคกายเย็นทรมานกู้รั่วเสวี่ยมาเป็นเวลาสิบสองปีแล้ว!

แม้แต่สุดยอดแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศล้วนพูดเหมือนกันหมด ว่านี่เป็นโรคที่รักษาไม่หาย

บอกถึงขั้นว่ากู้รั่วเสวี่ยจะมีเวลาอยู่อีกไม่ถึงสองปี!

แต่ตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าโรคกายเย็นจะมีสัญญาณเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี นี่เป็นสิ่งที่กู้รั่วเสวี่ยไม่เคยคาดฝันมาก่อน

“หรือเป็นเพราะเมื่อคืนเราทำเรื่องบ้าคลั่งกับผู้ชายคนนั้นทั้งคืน?” กู้รั่วเสวี่ยคิดอย่างสงสัย

ถ้าจำไม่ผิด เขาบอกว่าเขาเคยเรียกวิชาแพทย์มาบ้าง

เขาช่วยรักษาเธองั้นเหรอ?

ถ้าใช่จริง งั้นเขาก็ช่วยรักษาโรคของแม่เธอได้เหมือนกันน่ะสิ?

เวลานี้ เลขาสาวเดินเข้ามารายงานอย่างนอบน้อมว่า “คุณหนูใหญ่ เราเจอตัวฉู่เฉินที่คุณหนูใหญ่ต้องการตามหาแล้วค่ะ”

“จริงเหรอ อยู่ที่ไหน?” กู้รั่วเสวี่ยลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้น เปิดเผยเรือนร่างอันเปลือยเปล่าต่อหน้าเลขาโดยไม่คิดจะปิดบังเลยสักนิด

นาทีนี้ แม้แต่เลขาสาวที่อยู่ด้วยกันทุกวันก็ยังอดทอดถอนใจไม่ได้ เรือนร่างคุณหนูใหญ่ของเธอช่างงดงามมากจริงๆ!

ผู้หญิงแบบนี้ มีผู้ชายที่ไหนบ้างที่ไม่อยากครอบครองจนแทบบ้า

แม้แต่เธอที่เป็นผู้หญิง ก็ยังอยากครอบครอง

“เพิ่งออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วค่ะ ตอนนี้น่าจะกำลังมุ่งหน้าไปที่จินจือหลิน”

ไม่รู้คุณหนูใหญ่เป็นอะไรไป ถึงได้สนใจผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งขนาดนี้

“จินจือหลิน? ที่นั่นคือร้านขายยาของตระกูลกู้เราไม่ใช่เหรอ?” กู้รั่วเสวี่ยขมวดคิ้วอย่างน่ามอง

“ใช่ค่ะ” เลขาสาวตอบ

กู้รั่วเสวี่ยพยักหน้า กางแขนทั้งสองข้าง เป็นสัญญาณให้สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สวมเสื้อผ้าให้เธอ ก่อนยิ้มบอกว่า “ไป ไปจินจือหลินกัน! วันนี้ ไม่ว่ายังไงฉันต้องเจอเขาให้ได้”

……

ด้านฉู่เฉิน หลังออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก็มุ่งหน้าไปยังร้านขายยาขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งก็คือจินจือหลิน

ฉู่เฉินอยากพัฒนาความสามารถของตนเองให้เร็วที่สุด นอกจากจะฝึกตนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธี นั่นก็คือการหลอมยา!

และการหลอมยา ก็จำเป็นต้องมีสมุนไพรก่อน

ตอนนี้ฉู่เฉินหลอมได้แค่ยาบำรุงปราณเท่านั้น!

ประจวบเหมาะกับที่จินจือหลินเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเจียงจง ที่นี่มีสมุนไพรหลากหลาย แถมราคาก็แตกต่างกันไปด้วย

“มีเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปีไหมครับ?”

ฉู่เฉินเดินเข้าไปในร้านขายยา ก่อนจะเอ่ยปากถามพนักงานหญิงที่ยืนหันหลังอยู่

พนักงานหญิงคนนี้ใส่ชุดเครื่องแบบของห้องโถงยา นับว่าหุ่นดีมาก มีส่วนเว้าส่วนโค้ง โดยเฉพาะท่อนล่างที่ใส่ถุงน่องสีดำบางๆ ซ้ำยังมีสายคล้องตั้งแต่ด้านหลังต้นขาลงมาถึงน่อง ทำให้คนอดจินตนาการไปไกลไม่ได้

พนักงานสาวสวยเห็นว่ามีลูกค้าเข้า รีบวางสายโทรศัพท์ในมือ ก่อนหันกลับมายิ้มหวานต้อนรับ และถามอย่างสุภาพว่า “คุณลูกค้า มีค่ะ รอสักครู่นะคะ ฉันจะไปหยิบให้ค่ะ”

เพียงแต่ พอเธอเงยหน้าและมองฉู่เฉินที่อยู่ตรงหน้าชัดๆ พนักงานสาวสวยร้องเสียงหลงออกมาทันที “ฉู่เฉิน? ทำไมเป็นนาย?”

ฉู่เฉินอึ้ง มองพนักงานสาวสวยอย่างแปลกใจ ก่อนถามว่า “เรารู้จักกันเหรอครับ?”

“แหม คุณชายใหญ่ฉู่ ลืมฉันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? ฉัน หวังฮุ่ย เพื่อนสมัยมัธยมปลายของนายไงเล่า ทำไม จำไม่ได้แล้วเหรอะ?” หวังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสี จากท่าทีเกรงใจที่มีก่อนหน้า ตอนนี้กลายเป็นดูแคลนและไม่พอใจ

ถ้าจำไม่ผิด บ้านของฉู่เฉินเหมือนจะเกิดเหตุพลิกผันครั้งใหญ่ พ่อแม่ของเขาหายตัวไปอย่างลึกลับ ทรัพย์สมบัติของตระกูลก็ถูกแม่บุญธรรมของเขาแย่งไปจนหมด

แม้แต่ตัวเขาเองก็หายตัวไปด้วยพักหนึ่งเลยทีเดียว

นึกไม่ถึงว่าจะเจอเขาวันนี้

“อ้อ” ฉู่เฉินรับคำอย่างเฉยชา

หวังฮุ่ยเห็นท่าทีเฉยชาของอีกฝ่ายก็ไม่พอใจ เธอตำหนิเขาทันที “ฉู่เฉิน ฉันพูดกับนายอยู่นะ ทำไมถึงเมินฉันเขาอย่างนี้ล่ะ? ทำไม ยังคิดว่าตัวเองเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลฉู่เหมือนเมื่อก่อนรึไง?”

“ตระกูลฉู่ของนายพังพินาศไปแล้ว ยังจะมาวางมาดใหญ่โตอะไรใส่ฉันอีก?”

“ตอนนี้นายมันก็แค่กาฝากที่อาศัยคนอื่นเขาอยู่!”

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว ตอบกลับอย่างไม่พอใจว่า “พูดจบหรือยัง? ฉันมาซื้อสมุนไพร”

หวังฮุ่ยขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนสิ่งที่ตัวเองพูดไปนั้นเปล่าประโยชน์

เธออยากรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าฉู่เฉิน จึงตั้งใจจะเหยียบอดีตคุณชายใหญ่ตระกูลฉู่ผู้เย่อหยิ่งให้จมดิน นึกไม่ถึง อีกฝ่ายไม่แยแสสักนิด

“จะซื้ออะไร?” หวังฮุ่ยถามด้วยท่าทีเย็นชา

“เห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี” ฉู่เฉินตอบเสียงเรียบ

หวังฮุ่ยได้ยินคำตอบก็หัวเราะตัวโยน สัดส่วนนูนโค้งสั่นไหวไปตามแรงหัวเราะ ยิ่งทรวงอกของเธอยิ่งสะเทือนไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเสียดสีอีกว่า “นายว่าไงนะ? เห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี?”

“ฉู่เฉิน นายรู้รึเปล่าว่าเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปีต้นหนึ่งราคาเท่าไร?”

“ห้าล้าน!”

“นายเป็นแค่คุณชายใหญ่ตกอับ ที่ถูกขับไล่ออกจากฉู่ซื่อกรุ๊ป ในกระเป๋ายังมีเงินอยู่อีกเหรอ?”

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว ห้าล้าน? ก็แพงจริงๆ นั่นแหละ

อีกอย่าง ตอนนี้เขาก็ไม่มีเงินจริงๆ

“ไม่มีเงินใช่ไหมล่ะ? ไม่มีเงินแล้วนายจะมาจินจือหลินทำไม? รีบไสหัวไปเลยไป!” หวังฮุ่ยตวาดลั่น ต้องการจะไล่ฉู่เฉินออกไป

“สามหาว! ใครกล้าไล่เขาออกไป!”

ทันใดนั้น เสียงดุหวานๆ ดังมาจากทางประตู

จากนั้นกู้รั่วเสวี่ยก็เดินเชิดเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 7

    หวังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ เห็นกู้รั่วเสวี่ยที่เดินเข้าก็รีบโค้งตัวอย่างสุภาพนอบน้อม “คะ คุณหนูกู้ มาได้ยังไงคะ?”“เพียะ!”กู้รั่วเสวี่ยก้าวเข้ามาสะบัดฝ่ามือใส่แก้มของหวังฮุ่ย พูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมพูดจาอย่างงั้นกับคุณฉู่! ขอโทษเขาซะ!”“ขอโทษ?” หวังฮุ่ยมึนงง เธอยกมือกุมแก้มที่รู้สึกแสบร้อน ก่อนจะอธิบายว่า “คุณหนูกู้ ไอ้นี่เป็นแค่คุณชายตกอับไร้ที่ไป เขามาซื้อสมุนไพรทั้งที่ไม่มีเงิน แถมยังบอกว่าจะซื้อเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี ฉันก็แค่…”“เพียะ!”กู้รั่วเสวี่ยยกฝ่ามือขาวๆ สะบัดออกไปอีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงเย็นอีกครั้ง “ฉันบอกว่าให้ขอโทษซะ!”คราวนี้หวังฮุ่ยตกใจแล้วกู้รั่วเสวี่ย คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลกู้ เพิ่งมาเติบโตในเจียงจงสองปีที่ผ่านมานี้เองจินจือหลินเป็นของกู้รั่วเสวี่ยทั้งหมดหากพูดถึงตระกูลกู้ในจิงตู ก็นับว่าเป็นตระกูลที่ใหญ่สุดๆ!พวกเขามีอุตสาหกรรมที่หลากหลาย มีทั้งด้านสมุนไพร ด้านศึกษาวิจัยทางการแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมด้านความบันเทิงก็ด้วย…อุตสาหกรรมแต่ละด้านล้วนนับว่าอยู่แนวหน้าของประเทศทั้งนั้นได้ยินมาว่า รวยเทียบเท่าประเทศหนึ่งเลยทีเดียว!“ขะ ข

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 8

    สิ้นเสียง สองคนที่อยู่ในห้องนอนหันขวับไปทางฉู่เฉินและกู้รั่วเสวี่ยที่กำลังเดินเข้ามาซุนเซี่ยวเหรินหน้าคล้ำทันที เขาตำหนิอย่างไม่พอใจสุดๆ “เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! พูดจาเหลวไหลอะไรของเธอ! นี่เธอกำลังตั้งคำถามกับทักษะทางการแพทย์ของฉันงั้นรึ หรือว่าสงสัยในตัวยาเม็ดนี้? เธอรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร!”ซุนเซี่ยวเหรินไม่สบอารมณ์อย่างมากเด็กเปรตนี่โผล่มาจากไหน ถึงได้กล้าเข้ามาตะคอกเขาอย่างนี้กินยาอายุวัฒนะในมือเขา แล้วผู้ป่วยจะตายงั้นรึ?เหลวไหลทั้งเพ!ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้เขาศึกษามาหลายวันแล้ว มันคือยาบำรุงชั้นดี!ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสี่เหลี่ยมเย็นชาแข็งกร้าว สายตาเคร่งขรึม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องฉู่เฉินแล้วตวาดเสียงต่ำ “เธอเป็นใคร? ใครให้เธอบุกเข้ามาที่นี่? ไสหัวออกไป! อย่ามาขัดขวางการรักษาของภรรยาฉัน!”“คุณพ่อ เขาชื่อฉู่เฉินค่ะ เป็นหมอที่หนูพากลับมาเอง วิชาแพทย์ของเขาร้ายกาจมาก แม้แต่โรคกายเย็นของหนูเขาก็รักษาได้” กู้รั่วเสวี่ยรีบเข้ามาอธิบายชายวัยกลางคนได้ยินก็ตะลึง “ลูกว่าไงนะ? เขารักษาโรคกายเย็นของลูกได้เหรอ? รั่วเสวี่ย ลูกอย่าโกหกพ่อนะ”กู้เหวินไห่ พ่อของกู้รั่วเสว

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 9

    สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ทั่วทั้งห้องรับรองเงียบสงัดทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก!พวงแก้มของกู้รั่วเสวี่ยแดงเรื่อฉู่เฉินคิดจะให้พ่อของเธอยกเธอให้เขาจริงๆเธอยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยนะกู้เหวินไห่เองก็หน้าดำคร่ำเครียด เขาลังเลอยู่นานมากฉู่เฉินพูดขึ้น “ผู้นำตระกูลกู้ อย่าลังเลเลย คุณเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”“ผมขอบอกคุณชัดๆ ตรงนี้เลยว่า บนโลกนี้ คนที่ช่วยภรรยาคุณได้ มีแค่ผมฉู่เฉินคนเดียวเท่านั้น!”กู้เหวินไห่กัดฟัน เขาไม่ลังเลอีกต่อไป คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุบ ก่อนจะอ้อนวอนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมเลอะเลือน ได้โปรดช่วยชีวิตภรรยาของผมด้วย”“ขอแค่ช่วยภรรยาของผมได้ ผมยอมยกลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนให้คุณ”“คุณพ่อ…” กู้รั่วเสวี่ยพึมพำเรียกพ่อของเธออย่างกระมิดกระเมี้ยนฉู่เฉินวางแก้วชา และยิ้มตอบเล็กน้อย “ได้ เห็นแก่หน้ารั่วเสวี่ย ผมจะช่วยเอง ลุกขึ้นเถอะครับ”กล่าวจบ ฉู่เฉินลุกเดินไปทางห้องนอนกู้เหวินไห่เดินตามไปติดๆกู้รั่วเสวี่ยก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน เธอถามว่า “คุณพ่อ เมื่อกี้คุณพ่อพูดเล่นใช่ไหมคะ?”กู้เหวินไห่ตัดบททันที “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าเขาช่วยแม่ของลูกได้จริง ก็แสดงว่าเจ้าห

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 10

    ด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉู่เฉินออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้ ก็มุ่งไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ครั้นเห็นบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ในสภาพซอมซ่อ บวกกับกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากไม้เน่าลอยมาแตะจมูก ฉู่เฉินอดทอดถอนใจไม่ได้บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็กของฉู่เฉินตั้งแต่ที่พ่อแม่หายตัวไป ฉู่เฉินก็แอบสืบอย่างลับๆ มาตลอด หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่แม่บุญธรรมของเขา หลิ่วชิงเหอ!ในตอนที่ฉู่เฉินตั้งใจจะโจมตีหลิ่วชิงเหอ เขาก็ถูกลอยแพเสียก่อน! จากนั้น เรื่องราวก็เป็นอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาถูกสองแม่ลูกขังไว้ในห้องอาบน้ำของคฤหาสน์ เพียงแวบเดียว เขาก็ถูกทรมานมานานถึงสามปีเต็ม!“หลิ่วชิงเหอ หวังว่าเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันหายตัวไปจะไม่เกี่ยวกับเธอนะ! ถ้าฉันสืบเจอว่าเป็นลูกไม้สกปรกของเธอ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา ในดวงตาตาสุกใสสะท้อนแววเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกฉู่เฉินเก็บกวาดบ้านอย่างง่ายๆ จากนั้นก็ตั้งป้ายวิญญาณสองป้ายไว้ในบ้านให้พ่อแม่ของเขาผ่านมาหลายปีแล้ว พ่อกับแม่อาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ ในฐานะลูกชาย เขาควรกราบไหว้หลังจากคำนับสามครั้ง ฉู่เฉินจัดการทำความสะอา

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 11

    “โอ๊ย! สารเลว! แกปล่อยฉันนะ! แกกล้าทำเรื่องน่าขยะแขยงเช่นนี้กับฉัน ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!” ป้าอู๋ร้องออกมาด้วยความตกใจเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะกล้าลงมือกับเธอเช่นนี้เจ้าคนสารเลว!โครม...หลังจากนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้นมาจากห้อง พร้อมทั้งเสียงร้องขอชีวิตของป้าอู๋“ฉู่เฉิน อย่า ฉันขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”อย่างไรก็ตาม หลังจากขอความเมตตาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นมาเป็นระยะ และในช่วงท้ายของการขอความเมตตาของป้าอู๋ ก็กลายเป็นเสียงครวญครางที่ส่งเสียงดังราวกับอารมณ์เร่าร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ 20 กว่าปี แค่ครู่เดียวก็ปลดปล่อยออกมา!หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเดินออกมาด้วยหน้าระรื่นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “หากไม่ใช่เพราะป้า ผมคงไม่มีโอกาสอย่างนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะปล่อยป้าไปแล้วกัน รีบไสหัวไปซะ!”ภายในห้องป้าอู๋นอนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าถูกฉีกไม่เป็นชิ้นดี ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยว โดยเฉพาะบั้นท้ายที่เธอภาคภูมิใจนั้นเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ!เธอกัดฟันโกรธ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น“ไอ้เดรัจฉาน! แกรังแกฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ป้าอู๋สบถออกมารุนแรง ฝืนร่างกายล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 12

    เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมาฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”ฉู่เฉิน?เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”ฉู่เฉินกวาดสายต

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 13

    “ที่รัก! จัดการมัน รีบจัดการมันสิคะ!”เฉาถิงถิงพูดคะยั้นคะยออยู่ข้างๆ เธอหวังแต่เพียงว่าจ้าวหู่จะบดขยี้ฉู่เฉินและหลิวเฉียงลงไปที่พื้นทันที!จ้าวหู่ทำราวกับไม่ได้ยิน รีบวิ่งไปข้างหน้า โค้งตัวลงไป “คุณคือคุณฉู่ ฉู่เฉินใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้ว พยักหน้าตอบ “ใช่”“แหมๆ คุณฉู่จริงด้วย สวัสดีครับๆ ผมชื่อจ้าวหู่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ ขอโทษที่ไม่ได้มาต้อนรับนะครับๆ”จ้าวหู่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่นับถือและประจบประแจงภาพนี้ทำให้ฉู่เฉินงุนงงเล็กน้อยหลิวเฉียงก็เช่นกันคนที่ตกตะลึงและสับสนที่สุดคือเฉาถิงถิง“ที่รัก คุณทำอะไรเนี่ย? คุณฉู่อะไรกัน? คุณบ้าไปแล้วเหรอ? เขาคือไอ้คนเหลือขอที่ตบตีฉันเมื่อกี้นะคะ! คุณรีบจัดการมันสิ!”เฉาถิงถิงพูดอย่างร้อนรน กระทืบเท้า หน้าอกใหญ่และอวบอิ่ม ก็สั่นขึ้นลงทันที“เพียะ!”เป็นผลให้จ้าวหู่หันหลังกลับมาไปและตบเข้าไปที่หน้าเฉาถิงถิง และดุว่า “อวดดี! ไอ้คนเหลือขอเหรอ? เขาคือคนที่ผมบอกคุณว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่ผู้นำตระกูลกู้ยังต้องเคารพ!”“ฉู่เฉิน คุณฉู่!”“คุณยังไม่รีบมาขอโทษคุณฉู่อีก!”จ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 14

    ฉู่เฉินหัวเราะอย่างนึกสนุกและพูดว่า “ผู้จัดการจ้าวไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?"คิ้วของจ้าวหู่ขมวดมุ่น ฉู่เฉินยังคงพูดต่อว่า “ตอนนี้ผู้จัดการจ้าวอายุสี่สิบแล้วใช่ไหมครับ หลายปีมานี้ที่มีลูกไม่สำเร็จ ไม่เคยสงสัยตัวเองเหรอ?”“หากคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดูได้”“เมื่อถึงเวลานั้น เด็กในท้องใช่หรือไม่ใช่ลูกของคุณ ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจเองนะครับ”จ้าวหู่ได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกัดฟันพูดว่า “ได้! หวังว่าที่คุณฉู่พูดจะถูกต้องนะครับ หากผมไม่ได้มีปัญหาจริงๆ ล่ะก็ คุณฉู่ต้องคิดผลลัพธ์ให้ดีนะครับ!”พูดเสร็จ จ้าวหู่ก็หมุนตัวออกไปจากร้านอาหารเฉาถิงถิงเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ร้อนรนขึ้นมารั้งจ้าวหู่ “ที่รัก ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ ให้พวกเขาไปเถอะค่ะ”จ้าวหู่คิ้วขมวดอีกครั้ง เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฉาถิงถิง ในใจเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา“ไม่ได้ พวกเขาลบหลู่ผมได้ แต่จะมาลบหลู่ลูกของผมจ้าวหู่ไม่ได้!” จ้าวหู่พูดอย่างเย็นชา เดินหันหลังออกไป มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำการตรวจ หลังผลตรวจออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนขั้นสุด!ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต!หลังจากนั้นเขาก

บทล่าสุด

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 792

    ฉู่เฉินรับหุ่นกระดาษมาจากมือของป้าอู๋ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้นี่มันไม่ใช่หุ่นกระดาษธรรมดา หุ่นกระดาษนี่พึ่งอยู่ในมือฉู่เฉินได้ไม่นาน ก็มีควันสีดำโพยพุ่งขึ้นมาจากหุ่นกระดาษนี่!กลิ่นอายนี้ฉู่เฉินคุ้นเคยเป็นอย่างดีเลยล่ะ มันคือกลิ่นศพเน่า!หลังจากนั้นฉู่เฉินก็ตรวจจ้ำศพบนร่างของหลิ่วชิงเหออย่างละเอียด แสยะยิ้มออกมาแล้วเอ่ยว่า “เธอน่าจะโดนพิษศพ ถ้าฉันเดาไม่ผิด เมื่อวานตอนเย็นเธอกินเนื้อวัวใช่ไหม?”ระหว่างที่พูด ฉู่เฉินก็เหลือบมองไปที่ต้นขาด้านในของหลิ่วชิงเหอที่เริ่มรอยฟกซ้ำเมื่อโดนพิษศพแล้วสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดก็คือเนื้อวัว โดยเฉพาะในร่างกายของหลิ่วชิงเหอมียาที่สกัดจากของเหลวจากร่างกายของฉู่เฉิน สองสิ่งนี้ยิ่งจะทำให้อาการป่วยของหลิ่วชิงเหอยิ่งรุนแรงมากขึ้น“ใช่ ช่วงนี้แม่ของฉันกำลังลดน้ำหนักอยู่ ดังนั้นจึงกินได้แค่เนื้อวัว หรือว่าเกี่ยวกับเนื้อวัวนี่เหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะออกมาเบาๆ “แน่นอนสิ ที่จริงไม่เพียงแค่แม่เธอที่โดนพิษศพนะ แต่พวกเธอโดนพิษศพทั้งสองคนเลย”“เพียงแต่ว่าพิษศพบนร่างของพวกเธอยังไม่ทันออกฤทธิ์เท่านั้นเอง ถ้าไม่ใช่เพราะกินเนื้อวัวเข้าไป บวกกับสารพิษในต

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 791

    อีกด้านหนึ่ง ในขณะที่กำลังเดินทางกลับ กู้รั่วเสวี่ยก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “คนที่จางม่านเรียกว่าคนนั้นเหมือนจะเป็นคนใหญ่คนโตในวงการบันเทิงใช่ไหมคะ?”“ทำไมท่าทางเขาดูหวาดกลัวพี่ขนาดนั้นล่ะคะ?”เมื่อกี้เธอมองผ่านกระจกรถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ฉู่เฉินยืนกอดอกตลอดเวลา ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังปะทะคารมกันนั้น เขาก็สามารถทำให้จางม่านคุกเข่าอ้อนวอนได้“ก่อนหน้านี้เคยเจอมาก่อนครับ ประธานหลัวเป็นคนที่มีจิตใจดีครับ”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์หลัวจื้อหย่งจิตใจดี?กู้รั่วเสวี่ยมองฉู่เฉินด้วยสายตาไม่พอใจ เพราะคำพูดของฉู่เฉินทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่สักคำเดียวส่วนเรื่องรายละเอียดที่มากกว่านี้ เธอก็ไม่อยากจะถามให้มากความ ขอเพียงแค่การถ่ายโฆษณาพรุ่งนี้ถ่ายได้ตามปกติก็โอเคแล้วฉู่เฉินที่พึ่งถึงหน้าประตูห้องทำงานของซินฉู่ฟาร์มาติคอล หลิ่วหรูเยียนก็ต่อสายเข้ามาหาเขาฉู่เฉินขมวดคิ้ว แล้วรับสาย “มีเรื่องอะไรรับพูดมา”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ปลายสาย ก็พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น “ฉู่เฉิน นายอยู่ที่ไหน ขอร้องละนายช่วยมาดูแม่ของฉันหน่อย เธอ... เธอเหมือนจะไม่ไหวแล้ว”อะไรนะ?ฉู่เฉินขมวดคิ้ว

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 790

    เมื่อเห็นว่าไฟรถของฉู่เฉินไปไกลแล้ว จางม่านที่มีสีหน้าหม่นหมองหันมามองหลัวจื้อหย่งด้วยท่าทางน่าสงสาร“ฮึ! คุณรอความตายเถอะ!”หลัวจื้อหย่งแค่นเสียงด้วยความโกรธกระฟัดกระเฟียด และกล่าวกับบอดีการ์ดทั้งกลุ่มว่า “พวกเรากลับ! แม่เอ๊ย ซวยจริงๆ!”หลัวจื้อหย่งเดินกลับและคบคิดคำนวณในใจว่าอยู่ต่อในเมืองเจียงจงไม่ได้อีกแล้วจริงๆ ไม่แน่อาจไปล่วงเกินฉู่เฉินเพราะใครคนไหนเข้าสักวันก็ได้เงินมากมายในบัญชีธนาคารของเขายังไม่ได้ใช้เงินเลย ไม่อยากตายก่อนวัยอันควรหรอกนะหลัวจื้อหย่งเพิ่งจะนั่งในรถ จางม่านและผู้จัดการก็ตามมาอย่างรวดเร็ว“ประธานหลัว คุณรอก่อนค่ะ!”จางม่านดึงประตูรถเปิดกว้างแล้วเข้าไปนั่งในรถทันทีโดยไม่ให้โต้แย้งใดๆหลัวจื้อหย่งกล่าวพร้อมกลอกตาใส่จางม่านด้วยสีหน้าอมทุกข์ “เธอมาหาฉันก็ไร้ประโยชน์ ฉันล่วงเกินคุณฉู่ไม่ได้!”หลัวจื้อหย่งชี้ไปที่แขนเสื้ออันว่างเปล่าของตัวเองขณะพูดขึ้นว่า “รู้ไหมว่าทำไมแขนฉันข้างนี้ถึงหายไป?”ซี้ดๆ!จางม่านเพิ่งจะสังเกตว่าแขนเสื้อข้างขวาของหลัวจื้อหย่งว่างเปล่า ทำเอาเธอตกใจจนโง่งมไปทันที!หรือเมื่อกี้ฉู่เฉินหักแขนข้างหนึ่งของหลัวจื้อหย่ง?เป็นไปไม่ได้หรอ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 789

    เมื่อหลัวจื้อหย่งเห็นรอยยิ้มที่เป็นมิตรของฉู่เฉินแล้วมุมปากก็กระตุกขึ้นมาทันที!“โอ้ ประธานหลัวไม่ใช่เหรอ? เจียงจงแคบเกินไปแล้วจริงๆ”ฉู่เฉินทิ้งม้วนบุหรี่ในมือ แล้วชำเลืองมองหลัวจื้อหย่งโดยเอามือวางบนไหล่“ประธานหลัว ไอ้หนุ่มนี่แหละที่ตบผมเมื่อกี้ยังไม่พอ ยัง… ยังข่มขู่คุณม่านม่านด้วยครับ ต้องจัดการไอ้หนุ่มนี่นะ…”เพียะ!ผู้จัดการส่วนตัวยังไม่ทันพูดจบ หลัวจื้อหย่งก็สะบัดมือตบเข้าที่ใบหน้าของเขาเข้าอย่างจัง จากนั้นก็ถีบเขาไปหนึ่งทีจนเขาหัวคะมำพื้น!“ประธานหลัว… คุณ…. คุณตบผมได้ยังไง? ไอ้หมอนั่น…”พลั่กๆ!หลัวจื้อหย่งยกขาถีบไปบนร่างของผู้จัดการอีกหลายครั้ง พร้อมกัดฟันกล่าว “ไอ้สารเลว แกนับเป็นตัวอะไรได้ ยังกล้ามาชี้นิ้วสั่งคุณฉู่ฮะ!”หลัวจื้อหย่งกล่าวเสร็จก็วิ่งเหยาะไปหาฉู่เฉินและยังโค้งตัวกล่าวขึ้นท่ามกลางสายตาจดจ้องอย่างเหลือเชื่อของจางม่านและผู้จัดการ “อุ้ย บังเอิญจังนะครับ คุณฉู่ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ?”ฉู่เฉินยื่นมือออกมายกแขนเสื้อข้างขวาที่ว่างเปล่าของหลัวจื้อหย่งแล้วกล่าวเย้ยว่า “บังเอิญมารับดารากระจอกๆ แต่เขาดันบอกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังแข็งแกร่งมาก ทั้งยังจะสั่งส

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 788

    ถึงยังไงเสื้อผ้าที่ฉู่เฉินสวมก็ไม่หวือหวาเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่คนที่ผ่านประสบการณ์จนมองโลกออกก็แทบไม่รู้จักเนื้อผ้าราคาห้าสิบล้านชิ้นนั้นแน่นอน!ฉู่เฉินได้ยินแล้วก็หัวเราะทันที กู้รั่วเสวี่ยก็หัวเราะขึ้นอย่างอดไม่อยู่เช่นกัน กล่าวขึ้นพร้อมชี้นิ้วไปยังฉู่เฉิน “เขาก็คือประธานใหญ่ที่สุดของบริษัทเรา”อะไรนะ?จางม่านฟังแล้วก็มองสำรวจฉู่เฉินด้วยความแปลกใจ แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นสีหน้าหยิ่งผยองเหมือนก่อนหน้านี้เช่นเดิม เธอกล่าวถากถาง “ทำไม พวกคุณคงไม่คิดหรอกนะว่าในเมืองเจียงจงแห่งนี้ฉันจะกลัวพวกคุณน่ะ?”จางม่านควักโทรศัพท์ออกมาและกดเบอร์โทรต่อหน้าต่อตากู้รั่วเสวี่ยและฉู่เฉินจากนั้นกล่าวขึ้นว่า “ถือโอกาสตอนที่ฉันยังไม่ทันกดโทรออก แกมาคุกเข่าขอโทษก็ยังทันนะ!”“ไม่งั้นอีกเดี๋ยวพวกแกสองคนคงจะร้องไห้ขี้มูกโป่งเมื่อคนของฉันมาถึงแล้ว!”ฉู่เฉินมองเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วก็เงยหน้าหัวเราะลั่นอย่างห้ามไม่อยู่อย่าว่าแต่เจียงจงเลย ต่อให้ทั้งมณฑลเจียง ฉู่เฉินก็ไม่เคยกลัวใคร“โทรสิ คุณโทรเลยตอนนี้ และฉันขอบอกเลยว่า ถ้าคนของคุณไม่มา วันนี้คุณอย่าได้คิดออกไปจากสนามบินเลย!”กล่าวเสร็จ ฉู่เฉินก็ยืนพิงประตูรถจุด

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 787

    ฉู่เฉินขมวดคิ้วทันทีเมื่อมองดูเหตุการณ์นี้แค่ดาราตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น พูดให้ดีหน่อยก็ศิลปิน พูดตรงๆหน่อยก็แค่คนที่หลับนอนกับคนมากมายราวกับรถเมล์ที่รับผู้โดยสารไม่เลือกหน้าใครให้เธอกล้าบ้าดีเดือดขนาดนี้ฮะ?เมื่อเห็นสีหน้าฉู่เฉินเริ่มไม่สบอารมณ์ กู้รั่วเสวี่ยก็รีบดึงปลายเสื้อของฉู่เฉินแล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้มจางๆ“คุณจางม่าน นี่ก็เป็นโรงแรมห้าดาวโรงแรมหนึ่ง ทำไมถึงพักไม่ได้ล่ะ?”“และในสัญญาของพวกเราก็เขียนชัดเจนแล้วว่าการต้อนรับแบบเรียบง่าย พวกเราจองโรงแรมห้าดาวให้คุณแล้วนี่ถือเป็นการต้อนรับเกินมาตรฐานระดับสูงแล้วด้วยซ้ำ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว ผู้จัดการส่วนตัวของจางม่านก็ดันแว่นขึ้นแล้วขมวดคิ้วกล่าว“คุณผู้หญิงท่านนี้ คำพูดของคุณหมายความว่าอะไรครับ? คุณจางม่านของพวกเราไม่ว่าจะไปที่ไหนล้วนเข้าพักห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทของโรงแรมระดับมาตรฐานสากล!”“ในเจียงจงของพวกคุณมีโรงแรมระดับหรูแบบนั้นไหม? นี่พวกคุณกำลังทำให้คุณจางม่านขายหน้าอยู่นะครับ!”“และก็จากท่าทีของพวกคุณ คุณจางม่านของพวกเรามีสิทธิ์ยกเลิกตารางการถ่ายทำในวันถัดไป อีกทั้งพวกคุณจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายทั้งห

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 786

    “นี่คือเอฟเฟกต์ของคนดัง แม้ว่าจางม่านจะมีเรื่องอื้อฉาวอยู่ตลอดเวลา แต่มีเพียงศิลปินที่มีการข่าวซุบซิบถึงจะปรากฏต่อสายตาสาธารณชนได้ตลอด”“ดังจากข่าวฉาวก็ถือว่าดัง และศิลปินแบบเธอก็ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวพรรณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับแท้หรือแอนตี้แฟนคลับ เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวเธอก็จะต้องเกิดความสงสัยไหมล่ะ?”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าว “อือ พูดมีเหตุผล พรุ่งนี้เอาแผนฉบับนี้ให้โจวเทียนเฟิ่งอ่าน ให้เธอเริ่มดำเนินการทันที”กู้รั่วเสวี่ยได้ยินก็หรี่ตาจ้องเขม็งฉู่เฉินพร้อมกล่าว “พี่นี่ก็สั่งการอย่างเดียว ไม่ลงมือทำสักนิดเลยนะคะ”“ฮ่า ๆ ๆ…”ฉู่เฉินหัวเราะฮาลั่นในขณะที่สวมกอดและลูบสัมผัสผิวอันเกลี้ยงเกลาของกู้รั่วเสวี่ยและพูดว่า “คุณไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่ามีอะไรก็ให้เลขาจัดการ ถ้าไม่มีอะไรก็จัดการเลขาเหรอ?”“อ๊ะ… ฉันไม่ใช่เลขาพี่สักหน่อย…”กู้รั่วเสวี่ยแค่ขัดขืนตามสัญชาตญาณเพียงครู่เดียว ในจังหวะที่ปากหนาของฉู่เฉินประทับริมฝีปากบางสีเชอร์รี่ของเธอสนิท จากที่เคยขัดขืนก็เปลี่ยนเป็นสอดรับประสานในเวลาอันรวดเร็ว……ไม่นาน ข่าวการเป็นพรีเซนเตอร์ยาบำรุงปราณของดาราดังจางม่

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 785

    เห็นได้ชัดว่าใบสั่งยาอันนี้ของอวี้ลู่มีประสิทธิผลช่วยเสริมความฉลาดได้อย่างไม่ธรรมดาจริงๆถ้าพัฒนาปรับปรุงสูตรยานี้ต่อไปแล้วมอบให้กับเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาโดยกำเนิดฟรีๆ คงจะได้บุญเพิ่มอีกแน่นอนไม่ใช่หรือ?พูดตามตรง ฉู่เฉินได้สัมผัสมากับตัวเองถึงพลังบุญและพลังความศรัทธาแต่เมื่อเทียบกันแล้ว หลังจากแปลงพลังบุญเป็นพลังวิญญาณก็มีผลช่วยในการบำรุงเส้นลมปราณของฉู่เฉินอีกทั้งหลังจากได้รับพลังบุญตั้งแต่การแข่งขันแพทย์แผนจีนครั้งก่อนเป็นต้นมา จุดตันเถียนและทะเลปราณของฉู่เฉินก็ขยายเป็นเท่าตัวด้วยเหตุนี้ช่วงนี้ฉู่เฉินจึงอยากทำสาธารณะกุศลเพื่อรับพลังแห่งบุญโดยเร็วสักหน่อยฉู่เฉินคิดคำนวณระหว่างขับรถ ควรจะเปลี่ยนชื่อโอสถสุคนธ์ของอวี้ลู่เป็นอะไรดี“ใช่แล้ว! ให้เรียกว่ายาเสริมสติปัญญา!”ฉู่เฉินคิดได้แล้วก็เร่งเครื่องพุ่งทะยานราวลูกศรคันธนูมุ่งสู่ทิศทางคฤหาสน์ตระกูลกู้กู้รั่วเสวี่ยคิดไม่ถึงว่าฉู่เฉินมาถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง เธอยังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำนะฉู่เฉินนั่งกินองุ่นพลางชื่นชมร่างอรชรอันน่าหลงใหลของกู้รั่วเสวี่ยผ่านกระจกใสของห้องน้ำต้องกล่าวว่าตั้งแต่ที่กู้รั่วเสวี่ยกลายเป็น

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 784

    น้ำเสียงของฉู่เฉินมีความเย็นชา ไม่มีอารมณ์อื่นใดแม้แต่น้อยหลูไคซานฟังแล้วก็รู้สึกหวาดกลัวเขารู้ดีถึงความหมายในคำพูดนี้ เบื้องหลังฉู่เฉินยากหยั่งถึงยิ่งเสียกว่าเขาจะจินตนาการได้มากนัก!และถ้าวินาทีที่เขาได้กลับสู่จุดสูงจุดในชีวิตของเขาอีกครั้งก็ต้องเป็นสุนัขเชื่องติดตามข้างกายฉู่เฉินอย่างเชื่อฟัง สุนัขไม่มีสิทธิ์เป็นอิสระได้อีกแล้ว“ผมเข้าใจ ผมยินยอมเป็นสุนัขของคุณ”หลูไคซานกัดฟันพูดเสียงทุ้มฉู่เฉินได้ยินแล้วเผยยิ้มบางเดินเข้ามาตบไหล่พร้อมกล่าวต่อหลูไคซาน “คุณรู้ความดีมาก เก่งกว่าพี่ชายของคุณเป็นไหน ๆ รีบพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่าน”ฉู่เฉินพูดแล้วก็เดินออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลหลูทันทีหลูไคซานรอจนกระทั่งแผ่นหลังของฉู่เฉินเดินจากไปไกลแล้วจึงทิ้งก้นบุหรี่ในมือ จากนั้นก้าวกลับเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว สายตาจดจ้องเจียงอิ่งที่อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงภายในห้องนอนอย่างไม่ละสายตา ภายในใจเขาก็รู้สึกซับซ้อนยากที่จะกล่าวได้……วันถัดมาทันทีที่ฉู่เฉินเพิ่งจะรับประทานอาหารเช้าเสร็จในตอนเช้าตรู่ กู้รั่วเสวี่ยก็โทรเข้ามาฉู่เฉินกลืนซาลาเปาคำสุดท้ายลงคอแล้วก็รับสายทันที “ทำไมวันนี้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status