Share

บทที่ 6

“นี่แก!”

หลิ่วชิงเหอไม่ใช่เด็กสาวไม่รู้ความ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉู่เฉินต้องการสื่อในทันที!

เขายังคิดจะอาทิตย์ครั้งเหรอ!

“ไม่มีทาง! แกรีบไปให้พ้น! ฉันคิดหาวิธีเองได้!” หลิ่วชิงเหอกล่าวอย่างโกรธๆ

ไอ้สัตว์เดรัจฉานสมควรตาย คิดจะข่มขู่เธองั้นเหรอ

“ให้ฉันไปให้พ้น? เธอคิดดีแล้วเหรอ หลิ่วชิงเหอ บนโลกนี้คนที่สามารถช่วยลูกสาวของเธอได้ มีแค่ฉันฉู่เฉินคนนี้คนเดียว”

ฉู่เฉินยิ้มอย่างไม่ยี่หระ “ก่อนจะถึงวันศุกร์หน้า ทบทวนให้ดี ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็ติดต่อมา ฉันจะฝังเข็มให้ลูกสาวของเธอ ถือโอกาสฝังให้เธอด้วยสักสองสามเข็ม”

ฮ่าๆๆ!

พูดจบ ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง เขาเห็นสีหน้าดำทะมึนของหลิ่วชิงเหอแล้วรู้สึกสะใจสุด ๆ

หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสวยแน่น นิ้วเรียวชี้ไปทางประตู ก่อนตวาดเสียงเกรี้ยว “ไสหัวไป! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! อย่าบังคับให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”

ฉู่เฉินหัวเราะในลำคอ เขากวาดมองกล่องยากล่องหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะพูดว่า “ถ้าเดาไม่ผิด นั่นคือยาน้ำที่พวกเธอได้จากการจับฉันแช่มาเป็นเวลาสามปี จากนั้นก็เอาไปตุ๋นเป็นยาลูกกลอนสินะ?”

หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้ว ไม่ตอบคำถาม

ชั้นบน หลิ่วหรูเยียนเพิ่งเปลี่ยนใส่ชุดกระโปรงสั้นสดใสงดงาม และเดินลากรองเท้าแตะลงมา

บนเรียวขาอันขาวเนียนดุจหยก ถูกหุ้มด้วยถุงน่องสีดำบางๆ ดูเย้ายวนใจมาก

“ไอ้คนแซ่ฉู่ แกยังไม่ไปอีกเหรอ? ทำไม หรือคิดจะหมายตายาอายุวัฒนะที่พวกฉันแม่ลูกคิดค้นขึ้นมา?”

หลิ่วหรูเยียนแสยะยิ้ม

“จะบอกอะไรให้นะ แค่มียาอายุวัฒนะนี้ อีกไม่นานฉู่ซื่อกรุ๊ป ก็ต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็นหลิ่วซื่อกรุ๊ปแล้ว!”

“และฉันหลิ่วหรูเยียน ก็จะกลายเป็นราชินีแห่งวงการยาจีน!”

“ส่วนแก ฉู่เฉิน แกจะกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต เหมือนกับข้างในเป้ากางเกงของแกที่ไม่มีวันโงหัวขึ้นได้อีก ถูกพวกเราสองแม่ลูกเหยียบไว้ใต้เท้ายังไงล่ะ!”

“ฮ่าๆๆ!”

ฉู่เฉินยิ้มอย่างเย็นชาเหี้ยมเกรียม มองหลิ่วหรูเยียนที่หยิ่งยโส กล่าวว่า “หลิ่วหรูเยียน เห็นแก่ที่เมื่อกี้แม่ของเธอปรนนิบัติฉันเป็นอย่างดี ฉันขอเตือนอะไรเธออย่างหนึ่ง ยาอายุวัฒนะที่เธอพูดถึงน่ะ ถ้าไม่มีวิธีการฝังเข็มของฉันร่วมด้วย มันก็คือยาพิษ! อย่าว่าแต่เป็นอมตะเลย แค่กินเข้าไปก็จะตายทันที!”

“พูดเหลวไหลอะไรของแก!”

หลิ่วหรูเยียนตวาด “ฉันทุ่มเทกายใจเพื่อคิดค้นยานี้มาตั้งสามปี มันสามารถทำให้เป็นอมตะได้ แม้แต่คนที่ป่วยหนักใกล้ตายก็ยังยืดชีวิตไปได้อีกตั้งห้าปี! คืนพรุ่งนี้ ฉันจะเผยแพร่และโปรโมตยาตัวนี้ให้คนทั้งเมืองรู้ผ่านงานชุมนุมวงการแพทย์ของตระกูลกู้แห่งจิงตู!”

“อีกอย่าง ฉันเชิญอดีตผู้บัญชาการเว่ยของเขตทหารระดับมณฑลมาเพื่อทดลองยาแล้วด้วย ถึงตอนนั้นพวกเราสองแม่ลูกก็จะกลายเป็นเศรษฐีใหม่ที่มาแรงที่สุดในเจียงจง! แกไม่ต้องมาเล่นลูกไม้ตื้นๆ ข่มขู่! ฉันไม่กลัวสักนิด!”

หลิ่วหรูเยียนด่าเป็นชุด วางมาดหยิ่งผยองหนักกว่าเดิม

“เชื่อหรือไม่ก็ตามใจ”

ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา

“ใต้ฟ้านี้ มีแค่ฉันคนเดียวที่รู้วิธีแก้พิษของยานี่”

“ฉันอยากรู้นัก ถึงตอนนั้นเธอจะมาขอร้องฉันยังไง!”

พูดจบ ฉู่เฉินสาวเท้าจากไป ทิ้งหลิ่วหรูเยียนที่กำลังโกรธจัดและหลิ่วชิงเหอที่สีหน้าหนักอึ้งไว้ข้างหลัง

“ถุย! ไอ้ขยะ คิดว่าตัวเองเป็นใคร ขอร้องแกงั้นเหรอะ! ฝันไปเถอะ!” หลิ่วหรูเยียนด่าไล่หลัง

หลิ่วชิงเหอที่อยู่ข้างๆ สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก

ยาพิษเหรอ?

เมื่อครู่ เหมือนฉู่เฉินจะพูดว่ายาที่ได้จากการจับเขาแช่น้ำไม่สามารถดื่มโดยตรงได้ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นพิษ

ตอนนี้หลิ่วหรูเยียนใช้ยาน้ำนี้ในการทำยาอายุวัฒนะขึ้นมา อย่างนั้นยาอายุวัฒนะก็มีพิษด้วยเหรอ?

“หรูเยียน แม่ว่าเลื่อนโปรเจกต์ยาอายุวัฒนะออกไปก่อนเถอะ เราหาทีมวิจัยศึกษาดูให้ละเอียดก่อนดีกว่า” หลิ่วชิงเหอเอ่ย

“แม่ แม่เป็นอะไรไป? แม่ก็เชื่อที่ไอ้ขยะนั่นพูดด้วยเหรอ? มันแค่จะขู่ให้เรากลัวเท่านั้นแหละ!” หลิ่วหรูเยียนตะโกน เธอหยิบยกรายงานผลการทดลองที่ยาวเป็นหางว่าวขึ้นมา แล้วพูดว่า “แม่ดูสิ นี่คือรายงานผลการทดลองที่ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ในนี้บอกว่าไม่มีพิษ”

“แม่ แม่คอยดูนะ คืนพรุ่งนี้ พวกเราสองแม่ลูกจะต้องกลายเป็นที่โจษจันแน่ๆ!”

“แค่มียาอายุวัฒนะอยู่ พวกเราก็สามารถสร้างหลิ่วซื่อกรุ๊ปที่เหนือกว่าฉู่ซื่อกรุ๊ปได้แล้ว!”

หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสวย มองรายงานผลการทดลองในมือ บอกว่า “แม่อาจจะคิดมากไปเอง ลูกทำให้เต็มที่เถอะ”

“ค่ะ” หลิ่วหรูเยียนยิ้มรับ

จากนั้นหลิ่วหรูเยียนก็ออกจากคฤหาสน์ไป หลิ่วชิงเหอย้อนกลับไปที่ห้องน้ำ บ้วนปากอยู่สิบกว่าครั้ง ถึงค่อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ฉันจะฆ่าแก!”

หลิ่วชิงเหอสบถ ก่อนจะยกโทรศัพท์โทรหาป้าอู๋ “ป้าอู๋ ฆ่าฉู่เฉินซะ!”

“ค่ะ คุณผู้หญิง” ป้าอู๋รับคำสั่ง

……

ขณะเดียวกัน

ณ เจียงจง คฤหาสน์หรูหลังหนึ่ง

ในห้องน้ำชั้นสอง

กู้รั่วเสวี่ยเอนหลังอยู่ในอ่างอาบน้ำ เผยให้เห็นลำคอยาวระหงและกระดูกไหปลาร้าอันขาวเนียน ยอดเขาอวบอิ่มสองลูกที่ลอยไหวไปตามกระแสน้ำ ยิ่งชวนให้ลุ่มหลง

โดยเฉพาะผิวขาวเนียนดุจน้ำนมนั่น เมื่ออยู่ใต้แสงไฟแล้วเปล่งประกายแวววาวราวกับเล่นแสงได้

เธอเหม่อมองเพดานด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น

จู่ๆ ก็เสียครั้งแรกไปทั้งอย่างนี้แล้ว

หลังออกจากโรงแรมตอนเช้า มาจนถึงตอนนี้ สมองของกู้รั่วเสวี่ยก็เอาแต่คิดถึงเรื่องของผู้ชายที่ชื่อฉู่เฉิน

และบนตัวเธอก็ยังมีรอยฟันที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้เห็นอีก

ความบริสุทธิ์ยี่สิบสามปีที่ผ่านมาของเธอ หายวับไปกับตากับอารมณ์พลุ่งพล่านในคืนเดียว

“เขาเป็นใครกันนะ?” สีหน้าของกู้รั่วเสวี่ยเต็มไปด้วยความสงสัย

เพราะหลังจากความบ้าคลั่งเมื่อคืน กู้รั่วเสวี่ยค้นพบอย่างประหลาดใจ โรคกายเย็นที่อยู่กับเธอมาสิบกว่าปีกลับดีขึ้นเจ็ดถึงแปดส่วนเลยทีเดียว!

เพราะเหตุนี้ กู้รั่วเสวี่ยจึงหาหมอมีชื่อเสียงหลายคนมาตรวจชีพจรให้เธอ แต่ละคนล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าโรคกายเย็นที่รังควานเธอมาสิบกว่าปีมีสัญญาณในทางที่ดีขึ้น

ต้องบอกก่อนว่าโรคกายเย็นทรมานกู้รั่วเสวี่ยมาเป็นเวลาสิบสองปีแล้ว!

แม้แต่สุดยอดแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศล้วนพูดเหมือนกันหมด ว่านี่เป็นโรคที่รักษาไม่หาย

บอกถึงขั้นว่ากู้รั่วเสวี่ยจะมีเวลาอยู่อีกไม่ถึงสองปี!

แต่ตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าโรคกายเย็นจะมีสัญญาณเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี นี่เป็นสิ่งที่กู้รั่วเสวี่ยไม่เคยคาดฝันมาก่อน

“หรือเป็นเพราะเมื่อคืนเราทำเรื่องบ้าคลั่งกับผู้ชายคนนั้นทั้งคืน?” กู้รั่วเสวี่ยคิดอย่างสงสัย

ถ้าจำไม่ผิด เขาบอกว่าเขาเคยเรียกวิชาแพทย์มาบ้าง

เขาช่วยรักษาเธองั้นเหรอ?

ถ้าใช่จริง งั้นเขาก็ช่วยรักษาโรคของแม่เธอได้เหมือนกันน่ะสิ?

เวลานี้ เลขาสาวเดินเข้ามารายงานอย่างนอบน้อมว่า “คุณหนูใหญ่ เราเจอตัวฉู่เฉินที่คุณหนูใหญ่ต้องการตามหาแล้วค่ะ”

“จริงเหรอ อยู่ที่ไหน?” กู้รั่วเสวี่ยลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้น เปิดเผยเรือนร่างอันเปลือยเปล่าต่อหน้าเลขาโดยไม่คิดจะปิดบังเลยสักนิด

นาทีนี้ แม้แต่เลขาสาวที่อยู่ด้วยกันทุกวันก็ยังอดทอดถอนใจไม่ได้ เรือนร่างคุณหนูใหญ่ของเธอช่างงดงามมากจริงๆ!

ผู้หญิงแบบนี้ มีผู้ชายที่ไหนบ้างที่ไม่อยากครอบครองจนแทบบ้า

แม้แต่เธอที่เป็นผู้หญิง ก็ยังอยากครอบครอง

“เพิ่งออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วค่ะ ตอนนี้น่าจะกำลังมุ่งหน้าไปที่จินจือหลิน”

ไม่รู้คุณหนูใหญ่เป็นอะไรไป ถึงได้สนใจผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งขนาดนี้

“จินจือหลิน? ที่นั่นคือร้านขายยาของตระกูลกู้เราไม่ใช่เหรอ?” กู้รั่วเสวี่ยขมวดคิ้วอย่างน่ามอง

“ใช่ค่ะ” เลขาสาวตอบ

กู้รั่วเสวี่ยพยักหน้า กางแขนทั้งสองข้าง เป็นสัญญาณให้สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สวมเสื้อผ้าให้เธอ ก่อนยิ้มบอกว่า “ไป ไปจินจือหลินกัน! วันนี้ ไม่ว่ายังไงฉันต้องเจอเขาให้ได้”

……

ด้านฉู่เฉิน หลังออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก็มุ่งหน้าไปยังร้านขายยาขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งก็คือจินจือหลิน

ฉู่เฉินอยากพัฒนาความสามารถของตนเองให้เร็วที่สุด นอกจากจะฝึกตนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธี นั่นก็คือการหลอมยา!

และการหลอมยา ก็จำเป็นต้องมีสมุนไพรก่อน

ตอนนี้ฉู่เฉินหลอมได้แค่ยาบำรุงปราณเท่านั้น!

ประจวบเหมาะกับที่จินจือหลินเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเจียงจง ที่นี่มีสมุนไพรหลากหลาย แถมราคาก็แตกต่างกันไปด้วย

“มีเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปีไหมครับ?”

ฉู่เฉินเดินเข้าไปในร้านขายยา ก่อนจะเอ่ยปากถามพนักงานหญิงที่ยืนหันหลังอยู่

พนักงานหญิงคนนี้ใส่ชุดเครื่องแบบของห้องโถงยา นับว่าหุ่นดีมาก มีส่วนเว้าส่วนโค้ง โดยเฉพาะท่อนล่างที่ใส่ถุงน่องสีดำบางๆ ซ้ำยังมีสายคล้องตั้งแต่ด้านหลังต้นขาลงมาถึงน่อง ทำให้คนอดจินตนาการไปไกลไม่ได้

พนักงานสาวสวยเห็นว่ามีลูกค้าเข้า รีบวางสายโทรศัพท์ในมือ ก่อนหันกลับมายิ้มหวานต้อนรับ และถามอย่างสุภาพว่า “คุณลูกค้า มีค่ะ รอสักครู่นะคะ ฉันจะไปหยิบให้ค่ะ”

เพียงแต่ พอเธอเงยหน้าและมองฉู่เฉินที่อยู่ตรงหน้าชัดๆ พนักงานสาวสวยร้องเสียงหลงออกมาทันที “ฉู่เฉิน? ทำไมเป็นนาย?”

ฉู่เฉินอึ้ง มองพนักงานสาวสวยอย่างแปลกใจ ก่อนถามว่า “เรารู้จักกันเหรอครับ?”

“แหม คุณชายใหญ่ฉู่ ลืมฉันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? ฉัน หวังฮุ่ย เพื่อนสมัยมัธยมปลายของนายไงเล่า ทำไม จำไม่ได้แล้วเหรอะ?” หวังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสี จากท่าทีเกรงใจที่มีก่อนหน้า ตอนนี้กลายเป็นดูแคลนและไม่พอใจ

ถ้าจำไม่ผิด บ้านของฉู่เฉินเหมือนจะเกิดเหตุพลิกผันครั้งใหญ่ พ่อแม่ของเขาหายตัวไปอย่างลึกลับ ทรัพย์สมบัติของตระกูลก็ถูกแม่บุญธรรมของเขาแย่งไปจนหมด

แม้แต่ตัวเขาเองก็หายตัวไปด้วยพักหนึ่งเลยทีเดียว

นึกไม่ถึงว่าจะเจอเขาวันนี้

“อ้อ” ฉู่เฉินรับคำอย่างเฉยชา

หวังฮุ่ยเห็นท่าทีเฉยชาของอีกฝ่ายก็ไม่พอใจ เธอตำหนิเขาทันที “ฉู่เฉิน ฉันพูดกับนายอยู่นะ ทำไมถึงเมินฉันเขาอย่างนี้ล่ะ? ทำไม ยังคิดว่าตัวเองเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลฉู่เหมือนเมื่อก่อนรึไง?”

“ตระกูลฉู่ของนายพังพินาศไปแล้ว ยังจะมาวางมาดใหญ่โตอะไรใส่ฉันอีก?”

“ตอนนี้นายมันก็แค่กาฝากที่อาศัยคนอื่นเขาอยู่!”

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว ตอบกลับอย่างไม่พอใจว่า “พูดจบหรือยัง? ฉันมาซื้อสมุนไพร”

หวังฮุ่ยขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนสิ่งที่ตัวเองพูดไปนั้นเปล่าประโยชน์

เธออยากรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าฉู่เฉิน จึงตั้งใจจะเหยียบอดีตคุณชายใหญ่ตระกูลฉู่ผู้เย่อหยิ่งให้จมดิน นึกไม่ถึง อีกฝ่ายไม่แยแสสักนิด

“จะซื้ออะไร?” หวังฮุ่ยถามด้วยท่าทีเย็นชา

“เห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี” ฉู่เฉินตอบเสียงเรียบ

หวังฮุ่ยได้ยินคำตอบก็หัวเราะตัวโยน สัดส่วนนูนโค้งสั่นไหวไปตามแรงหัวเราะ ยิ่งทรวงอกของเธอยิ่งสะเทือนไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเสียดสีอีกว่า “นายว่าไงนะ? เห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี?”

“ฉู่เฉิน นายรู้รึเปล่าว่าเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปีต้นหนึ่งราคาเท่าไร?”

“ห้าล้าน!”

“นายเป็นแค่คุณชายใหญ่ตกอับ ที่ถูกขับไล่ออกจากฉู่ซื่อกรุ๊ป ในกระเป๋ายังมีเงินอยู่อีกเหรอ?”

ฉู่เฉินขมวดคิ้ว ห้าล้าน? ก็แพงจริงๆ นั่นแหละ

อีกอย่าง ตอนนี้เขาก็ไม่มีเงินจริงๆ

“ไม่มีเงินใช่ไหมล่ะ? ไม่มีเงินแล้วนายจะมาจินจือหลินทำไม? รีบไสหัวไปเลยไป!” หวังฮุ่ยตวาดลั่น ต้องการจะไล่ฉู่เฉินออกไป

“สามหาว! ใครกล้าไล่เขาออกไป!”

ทันใดนั้น เสียงดุหวานๆ ดังมาจากทางประตู

จากนั้นกู้รั่วเสวี่ยก็เดินเชิดเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status