“นี่แก!”หลิ่วชิงเหอไม่ใช่เด็กสาวไม่รู้ความ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉู่เฉินต้องการสื่อในทันที!เขายังคิดจะอาทิตย์ครั้งเหรอ!“ไม่มีทาง! แกรีบไปให้พ้น! ฉันคิดหาวิธีเองได้!” หลิ่วชิงเหอกล่าวอย่างโกรธๆไอ้สัตว์เดรัจฉานสมควรตาย คิดจะข่มขู่เธองั้นเหรอ“ให้ฉันไปให้พ้น? เธอคิดดีแล้วเหรอ หลิ่วชิงเหอ บนโลกนี้คนที่สามารถช่วยลูกสาวของเธอได้ มีแค่ฉันฉู่เฉินคนนี้คนเดียว”ฉู่เฉินยิ้มอย่างไม่ยี่หระ “ก่อนจะถึงวันศุกร์หน้า ทบทวนให้ดี ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็ติดต่อมา ฉันจะฝังเข็มให้ลูกสาวของเธอ ถือโอกาสฝังให้เธอด้วยสักสองสามเข็ม”ฮ่าๆๆ!พูดจบ ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง เขาเห็นสีหน้าดำทะมึนของหลิ่วชิงเหอแล้วรู้สึกสะใจสุด ๆหลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสวยแน่น นิ้วเรียวชี้ไปทางประตู ก่อนตวาดเสียงเกรี้ยว “ไสหัวไป! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! อย่าบังคับให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”ฉู่เฉินหัวเราะในลำคอ เขากวาดมองกล่องยากล่องหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะพูดว่า “ถ้าเดาไม่ผิด นั่นคือยาน้ำที่พวกเธอได้จากการจับฉันแช่มาเป็นเวลาสามปี จากนั้นก็เอาไปตุ๋นเป็นยาลูกกลอนสินะ?”หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้ว ไม่ตอบคำถามชั้นบน หลิ่วหรูเยียนเพิ่ง
หวังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ เห็นกู้รั่วเสวี่ยที่เดินเข้าก็รีบโค้งตัวอย่างสุภาพนอบน้อม “คะ คุณหนูกู้ มาได้ยังไงคะ?”“เพียะ!”กู้รั่วเสวี่ยก้าวเข้ามาสะบัดฝ่ามือใส่แก้มของหวังฮุ่ย พูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมพูดจาอย่างงั้นกับคุณฉู่! ขอโทษเขาซะ!”“ขอโทษ?” หวังฮุ่ยมึนงง เธอยกมือกุมแก้มที่รู้สึกแสบร้อน ก่อนจะอธิบายว่า “คุณหนูกู้ ไอ้นี่เป็นแค่คุณชายตกอับไร้ที่ไป เขามาซื้อสมุนไพรทั้งที่ไม่มีเงิน แถมยังบอกว่าจะซื้อเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี ฉันก็แค่…”“เพียะ!”กู้รั่วเสวี่ยยกฝ่ามือขาวๆ สะบัดออกไปอีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงเย็นอีกครั้ง “ฉันบอกว่าให้ขอโทษซะ!”คราวนี้หวังฮุ่ยตกใจแล้วกู้รั่วเสวี่ย คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลกู้ เพิ่งมาเติบโตในเจียงจงสองปีที่ผ่านมานี้เองจินจือหลินเป็นของกู้รั่วเสวี่ยทั้งหมดหากพูดถึงตระกูลกู้ในจิงตู ก็นับว่าเป็นตระกูลที่ใหญ่สุดๆ!พวกเขามีอุตสาหกรรมที่หลากหลาย มีทั้งด้านสมุนไพร ด้านศึกษาวิจัยทางการแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมด้านความบันเทิงก็ด้วย…อุตสาหกรรมแต่ละด้านล้วนนับว่าอยู่แนวหน้าของประเทศทั้งนั้นได้ยินมาว่า รวยเทียบเท่าประเทศหนึ่งเลยทีเดียว!“ขะ ข
สิ้นเสียง สองคนที่อยู่ในห้องนอนหันขวับไปทางฉู่เฉินและกู้รั่วเสวี่ยที่กำลังเดินเข้ามาซุนเซี่ยวเหรินหน้าคล้ำทันที เขาตำหนิอย่างไม่พอใจสุดๆ “เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! พูดจาเหลวไหลอะไรของเธอ! นี่เธอกำลังตั้งคำถามกับทักษะทางการแพทย์ของฉันงั้นรึ หรือว่าสงสัยในตัวยาเม็ดนี้? เธอรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร!”ซุนเซี่ยวเหรินไม่สบอารมณ์อย่างมากเด็กเปรตนี่โผล่มาจากไหน ถึงได้กล้าเข้ามาตะคอกเขาอย่างนี้กินยาอายุวัฒนะในมือเขา แล้วผู้ป่วยจะตายงั้นรึ?เหลวไหลทั้งเพ!ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้เขาศึกษามาหลายวันแล้ว มันคือยาบำรุงชั้นดี!ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสี่เหลี่ยมเย็นชาแข็งกร้าว สายตาเคร่งขรึม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องฉู่เฉินแล้วตวาดเสียงต่ำ “เธอเป็นใคร? ใครให้เธอบุกเข้ามาที่นี่? ไสหัวออกไป! อย่ามาขัดขวางการรักษาของภรรยาฉัน!”“คุณพ่อ เขาชื่อฉู่เฉินค่ะ เป็นหมอที่หนูพากลับมาเอง วิชาแพทย์ของเขาร้ายกาจมาก แม้แต่โรคกายเย็นของหนูเขาก็รักษาได้” กู้รั่วเสวี่ยรีบเข้ามาอธิบายชายวัยกลางคนได้ยินก็ตะลึง “ลูกว่าไงนะ? เขารักษาโรคกายเย็นของลูกได้เหรอ? รั่วเสวี่ย ลูกอย่าโกหกพ่อนะ”กู้เหวินไห่ พ่อของกู้รั่วเสว
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ทั่วทั้งห้องรับรองเงียบสงัดทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก!พวงแก้มของกู้รั่วเสวี่ยแดงเรื่อฉู่เฉินคิดจะให้พ่อของเธอยกเธอให้เขาจริงๆเธอยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยนะกู้เหวินไห่เองก็หน้าดำคร่ำเครียด เขาลังเลอยู่นานมากฉู่เฉินพูดขึ้น “ผู้นำตระกูลกู้ อย่าลังเลเลย คุณเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”“ผมขอบอกคุณชัดๆ ตรงนี้เลยว่า บนโลกนี้ คนที่ช่วยภรรยาคุณได้ มีแค่ผมฉู่เฉินคนเดียวเท่านั้น!”กู้เหวินไห่กัดฟัน เขาไม่ลังเลอีกต่อไป คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุบ ก่อนจะอ้อนวอนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมเลอะเลือน ได้โปรดช่วยชีวิตภรรยาของผมด้วย”“ขอแค่ช่วยภรรยาของผมได้ ผมยอมยกลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนให้คุณ”“คุณพ่อ…” กู้รั่วเสวี่ยพึมพำเรียกพ่อของเธออย่างกระมิดกระเมี้ยนฉู่เฉินวางแก้วชา และยิ้มตอบเล็กน้อย “ได้ เห็นแก่หน้ารั่วเสวี่ย ผมจะช่วยเอง ลุกขึ้นเถอะครับ”กล่าวจบ ฉู่เฉินลุกเดินไปทางห้องนอนกู้เหวินไห่เดินตามไปติดๆกู้รั่วเสวี่ยก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน เธอถามว่า “คุณพ่อ เมื่อกี้คุณพ่อพูดเล่นใช่ไหมคะ?”กู้เหวินไห่ตัดบททันที “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าเขาช่วยแม่ของลูกได้จริง ก็แสดงว่าเจ้าห
ด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉู่เฉินออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้ ก็มุ่งไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ครั้นเห็นบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ในสภาพซอมซ่อ บวกกับกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากไม้เน่าลอยมาแตะจมูก ฉู่เฉินอดทอดถอนใจไม่ได้บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็กของฉู่เฉินตั้งแต่ที่พ่อแม่หายตัวไป ฉู่เฉินก็แอบสืบอย่างลับๆ มาตลอด หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่แม่บุญธรรมของเขา หลิ่วชิงเหอ!ในตอนที่ฉู่เฉินตั้งใจจะโจมตีหลิ่วชิงเหอ เขาก็ถูกลอยแพเสียก่อน! จากนั้น เรื่องราวก็เป็นอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาถูกสองแม่ลูกขังไว้ในห้องอาบน้ำของคฤหาสน์ เพียงแวบเดียว เขาก็ถูกทรมานมานานถึงสามปีเต็ม!“หลิ่วชิงเหอ หวังว่าเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันหายตัวไปจะไม่เกี่ยวกับเธอนะ! ถ้าฉันสืบเจอว่าเป็นลูกไม้สกปรกของเธอ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา ในดวงตาตาสุกใสสะท้อนแววเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกฉู่เฉินเก็บกวาดบ้านอย่างง่ายๆ จากนั้นก็ตั้งป้ายวิญญาณสองป้ายไว้ในบ้านให้พ่อแม่ของเขาผ่านมาหลายปีแล้ว พ่อกับแม่อาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ ในฐานะลูกชาย เขาควรกราบไหว้หลังจากคำนับสามครั้ง ฉู่เฉินจัดการทำความสะอา
“โอ๊ย! สารเลว! แกปล่อยฉันนะ! แกกล้าทำเรื่องน่าขยะแขยงเช่นนี้กับฉัน ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!” ป้าอู๋ร้องออกมาด้วยความตกใจเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะกล้าลงมือกับเธอเช่นนี้เจ้าคนสารเลว!โครม...หลังจากนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้นมาจากห้อง พร้อมทั้งเสียงร้องขอชีวิตของป้าอู๋“ฉู่เฉิน อย่า ฉันขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”อย่างไรก็ตาม หลังจากขอความเมตตาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นมาเป็นระยะ และในช่วงท้ายของการขอความเมตตาของป้าอู๋ ก็กลายเป็นเสียงครวญครางที่ส่งเสียงดังราวกับอารมณ์เร่าร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ 20 กว่าปี แค่ครู่เดียวก็ปลดปล่อยออกมา!หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเดินออกมาด้วยหน้าระรื่นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “หากไม่ใช่เพราะป้า ผมคงไม่มีโอกาสอย่างนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะปล่อยป้าไปแล้วกัน รีบไสหัวไปซะ!”ภายในห้องป้าอู๋นอนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าถูกฉีกไม่เป็นชิ้นดี ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยว โดยเฉพาะบั้นท้ายที่เธอภาคภูมิใจนั้นเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ!เธอกัดฟันโกรธ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น“ไอ้เดรัจฉาน! แกรังแกฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ป้าอู๋สบถออกมารุนแรง ฝืนร่างกายล
เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมาฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”ฉู่เฉิน?เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”ฉู่เฉินกวาดสายต
“ที่รัก! จัดการมัน รีบจัดการมันสิคะ!”เฉาถิงถิงพูดคะยั้นคะยออยู่ข้างๆ เธอหวังแต่เพียงว่าจ้าวหู่จะบดขยี้ฉู่เฉินและหลิวเฉียงลงไปที่พื้นทันที!จ้าวหู่ทำราวกับไม่ได้ยิน รีบวิ่งไปข้างหน้า โค้งตัวลงไป “คุณคือคุณฉู่ ฉู่เฉินใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้ว พยักหน้าตอบ “ใช่”“แหมๆ คุณฉู่จริงด้วย สวัสดีครับๆ ผมชื่อจ้าวหู่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ ขอโทษที่ไม่ได้มาต้อนรับนะครับๆ”จ้าวหู่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่นับถือและประจบประแจงภาพนี้ทำให้ฉู่เฉินงุนงงเล็กน้อยหลิวเฉียงก็เช่นกันคนที่ตกตะลึงและสับสนที่สุดคือเฉาถิงถิง“ที่รัก คุณทำอะไรเนี่ย? คุณฉู่อะไรกัน? คุณบ้าไปแล้วเหรอ? เขาคือไอ้คนเหลือขอที่ตบตีฉันเมื่อกี้นะคะ! คุณรีบจัดการมันสิ!”เฉาถิงถิงพูดอย่างร้อนรน กระทืบเท้า หน้าอกใหญ่และอวบอิ่ม ก็สั่นขึ้นลงทันที“เพียะ!”เป็นผลให้จ้าวหู่หันหลังกลับมาไปและตบเข้าไปที่หน้าเฉาถิงถิง และดุว่า “อวดดี! ไอ้คนเหลือขอเหรอ? เขาคือคนที่ผมบอกคุณว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่ผู้นำตระกูลกู้ยังต้องเคารพ!”“ฉู่เฉิน คุณฉู่!”“คุณยังไม่รีบมาขอโทษคุณฉู่อีก!”จ
ปัง!ในขณะนี้ ภายในร่างของฉู่เฉินได้เกิดเสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อกระดูกและเส้นลมปราณมีปราณจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกเย่หัวที่ฟื้นคืนพลังบางส่วน เบิกตากว้างมองด้วยความไม่เชื่อไอ้หนูคนนี้… กำลังทะลวงระดับ?!ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่กล้าเชื่อว่าหลังจากฉู่เฉินได้รับบาดเจ็บหนักจะสามารถทะลวงระดับได้นี่…นี่ยังเป็นคนอยู่ใช่ไหมเนี่ย?!แม้ว่าเขาจะอยากขัดขวางฉู่เฉิน แต่ปัญหาคืออาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ ทำให้ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้เลยในขณะนี้ จิตสำนึกของฉู่เฉินได้รวมรวมอยู่ที่จุดหนึ่งอย่างสมบูรณ์แล้ว บุกทะลวงขีดจำกัดของระดับพลังอย่างบ้าคลั่งหลิ่วหรูเยียนเองก็มีสีหน้าตกใจและจ้องไปที่ฉู่เฉิน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ทำได้แค่ถือกระบี่โดยสัญชาตญาณและยืนอยู่ข้างหน้าฉู่เฉิน“แก... แกอย่ามานะ ฉัน... ฉันก็กล้าฆ่าคนเหมือนกันนะ”ใบหน้าเล็กของหลิ่วหรูเยียนขาวซีด ตัวสั่นไปทั้งร่าง ถือกระบี่ยาวด้วยมือที่สั่นเทาชี้ไปที่เย่หัวและกล่าวออกมาเย่หัวยิ้มเย็น แม้กระทั่งคร้านที่จะมองหลิ่วหรูเยียนอีกผู้หญิงโง่คนนี้ ถ้าตอนนี้เธอใช้ดาบแทงเขา เกรงว่าเขาคงตายอย่างน่าอนาถอยู่ที่นี่แน่แต่โชคดีที่เธอไม่กล
“เย่หัวเอามือกุมหน้าอกอย่างไม่อยากเชื่อ แม้แต่ถอยหลังไปหลายก้าวและใช้กระบี่ชิงหลงค้ำพื้นเอาไว้ จึงฝืนไม่ล้มลงไปได้แค่ก! ในวินาทีต่อมา เย่หัวและฉู่เฉินก็กระอักเลือดออกแทบจะพร้อมกัน “นี่เป็นไปได้ยังไง?”เย่หัวเพียงรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เจ็บปวดจนกระทั่งเขาไม่มีแรงพอที่จะยกกระบี่ขึ้นได้ ผู้บำเพ็ญอิสระระดับสร้างรากฐานชั้นที่สี่ เหตุใดถึงสามารถทำร้ายเขาได้?!แค่ก!เย่หัวรู้สึกถึงเลือดลมแปรปรวน ก่อนจะกระอักเลือดออกมาอีกคำใหญ่แต่ฉู่เฉินในขณะนี้ก็ไม่ได้ต่างกันนัก เมื่อกี้นี้เขารับกระบี่ของเย่ฮัวอย่างเต็มแรง แม้ภายนอกดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่แท้จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น แค่แรงสะท้อนก็ทำให้แขนทั้งสองข้างของฉู่เฉินชาไปหมดแล้ว และภายในจุดตันเถียนก็ยิ่งรู้สึกถึงเลือดลมพลุ่งพล่านถ้าไม่ใช่เพราะเงามังกรในร่างกายที่ช่วยต้านการโจมตีไว้มากกว่าครึ่ง เกรงว่าตอนนี้ฉู่เฉินคงจะศีรษะขาดจากร่างกายไปแล้ว “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก วังเทียนเจี้ยนของพวกคุณก็แค่นี้แหละ มาอีกสิ!”ฉู่เฉินพยายามอดทนกับเลือดลมที่พลุ่งพล่านในร่างกายและยิ้มกว้างออกมา ความจริงแล
ดูเหมือนว่าฉู่เฉินที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ปัดป้องเจตจำนงกระบี่ที่พุ่งเข้ามาไปพลาง ขณะเดียวกันก็พูดเหน็บแนมว่า “ลูกเล่นนี่ใช้ได้เลยนี่ แต่เสียดายที่วิชาแมวสามขานี้ยังไม่เข้าตาผม”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เย่หัวยิ้มอย่างภูมิใจและเงยหน้าขึ้นกล่าวว่า “ไม่เข้าตาแก? มากสุดสามลมหายใจ ฉันจะทำให้เลือดของแกเลือดกระเซ็นไปห้าก้าว!”ทันทีที่พูดจบ เย่หัวก็เร่งความเร็วในการโจมตีมากขึ้นในเสี้ยววินาที แม้แต่อากาศโดยรอบล้วนปกคลุมไปด้วยลมกระบี่ที่หนาวเหน็บฉู่เฉินรับมืออย่างเยือกเย็นไปพลาง ขณะเดียวกันก็กำลังมองหาจุดอ่อนในท่าทางของเย่หัวความจริงแล้ว ตาข่ายกระบี่ที่ดูเหมือนจะยุ่งยากนี้ไม่ได้ไร้ช่องโหว่ แต่คนทั่วไปยังไม่ทันจะสังเกตเห็นจุดอ่อนก็ถูกพลังอำนาจของเย่หัวทำให้ตกใจกลัวโชคดีที่ในมรดกของมังกรเฒ่ามีทักษะกายาที่เรียกว่าเจ็ดก้าวดารา แม้จะเป็นทักษะกายาที่ใช้หนีเอาชีวิตรอด แต่ก็ยังเป็นวิชาระดับสวรรค์และถึงแม้ว่าฉู่เฉินจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบในขณะนี้ แต่ก็สามารถมองเห็นช่องโหว่ในกระบวนกระบี่ของเย่หัวและลอบคำนวณหาจังหวะทำลายการโจมตีในวินาทีต่อมา ฉู่เฉินเปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหัน แทงกร
ในมุมมองของเย่หัว ฉู่เฉินที่เป็นแค่คนธรรมดาระดับสร้างรากฐานชั้นสี่ ไม่มีค่าพอที่เขาจะลงมือด้วยซ้ำเพราะเย่หัวเองมีพื้นเพมาจากหนึ่งในสิบสำนักใหญ่อย่างวังเทียนเจี้ยน!วิชาที่สืบทอด ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่าฉู่เฉินที่เป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระตัวเล็กๆ สักกี่เท่าแค่เรื่องระดับ ก็เหนือกว่าฉู่เฉินหนึ่งชั้นแล้วแม้จะเป็นการต่อสู้ในระดับเดียวกัน ผู้บำเพ็ญอิสระทั่วไปก็ไม่ใช่คู่มือของศิษย์จากสำนักใหญ่เลยและในมุมมองของเขา หลิงเสวี่ยให้ฉู่เฉินทำลายพลังของตัวเอง ถือเป็นความกรุณาแล้วถ้ายึดตามตามความต้องการของเขา คนโง่เง่าหัวแข็งที่กล้าท้าทายศิษย์พี่หลิงเสวี่ยแบบนี้ก็ควรถูกดาบฟันจนตายถึงจะถูก“ถ้าคุณตัดแขนขาทั้งสองข้างต่อหน้าผม ผมก็อาจจะพิจารณาไว้ชีวิตคุณก็ได้”ฉู่เฉินวางหลิ่วหรูเยียนในอ้อมแขนลง แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น“แกพูดว่าอะไรนะ?”เย่หัวเบิกตาขึ้นทันที ดวงตาปล่อยแสงเย็นเยียบมองไปที่ฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกเป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระ ใครให้ความกล้าหาญแกมาพูดจาไร้สาระกับฉันที่เป็นศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนอย่างนี้!”เมื่อคำว่าวังเทียนเจี้ยนสามคำถูกพูดออกมา สีหน้าของเย่หัวยิ่งแสดงความภูมิใจมากข
หยางเทียนหลงและคนอื่นๆ ก็เดินตามหลังฉู่เฉินไป พร้อมเดินไปทางลิฟต์ด้วยกันหลิงเสวี่ยมองแผ่นหลังของฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนด้วยสายตาที่เย็นชา ดวงตาส่องประกายแสงเยือกเย็นสองเส้น! “คุณหลิงเสวี่ยครับ ไอ้หนูคนนี้อวดดีเกินไปแล้ว ต้องสั่งสอนให้เขารู้สำนึกบ้างแล้ว” เหล่าคนที่นำโดยเฉียนฮ่าวตงมองตามแผ่นหลังของฉู่เฉินที่เดินห่างออกไป เกลียดจนกัดฟันกรอด“ศิษย์พี่ ต้องทำ...”หลิงเฟิงก็ก้าวเดินไปข้างหน้า จ้องไปที่แผ่นหลังของฉู่เฉินและคนอื่นๆ พลางทำท่าตัดคอแล้วกล่าวเสียงเย็นหลิงเสวี่ยสูดหายใจเข้าลึก ทันใดนั้นใบหน้าสวยมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น กล่าวว่า “ช่างเถอะ งานเลี้ยงยังต้องดำเนินต่อ อย่าให้คนที่ไม่รู้คุณค่ามาทำลายบรรยากาศสนุกของทุกคนเลย”พูดจบ หลิงเสวี่ยก็เดินกลับไปนั่งบนโซฟา โบกมือให้หลิงเฟิงและกล่าวว่า “อีกเดี๋ยว ให้คนไปสั่งสอนฉู่เฉินสักหน่อย”“และจำกัดเวลาให้ส่งมอบหยกโลหิตกิเลนภายในหนึ่งเดือน ไม่งั้นจะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”หลิงเฟิงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าหนักๆ แล้วกล่าวว่า “ศิษย์พี่ ศิษย์พี่ความหมายว่า…”“ทำลายพลังของเขาก่อนเถอะ”หลิงเสวี่ยพูดด้วยความมั่นใจอย่างมากแค่ระดับสร้างรา
เมื่อรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนถาโถมเข้าใส่อย่างฉับพลัน หลิ่วหรูเยียนก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน ร่างกายแนบชิดกับฉู่เฉินแน่นตามสัญชาตญาณอย่าหลงกลรอยยิ้มบนใบหน้าของหลิงเสวี่ย แต่รอบตัวกลับแผ่เจตนาฆ่าอย่างรุนแรงจนยากจะปกปิดฉู่เฉินยิ้มบางแล้วกล่าวว่า “ฆาตกร ย่อมถูกคนฆ่าตอบ”“ไม่ว่าเกาเซิ่งอี้จะเป็นสุนัขของใคร กล้ามาจ้องสมบัติล้ำค่าของตระกูลฉู่ของผม ก็สมควรได้รับโทษ ผมฆ่าเขาแล้วจะทำไมครับ”ซี้ดๆ!เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนรอบข้างต่างสูดลมหายใจเข้าลึกแม้ฉู่เฉินจะมีฝีมือ แต่หลิงเสวี่ยเป็นตัวแทนของหอการค้ากิเลนในมณฑลเจียงเขากล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้กับหลิงเสวี่ยได้ยังไง?“ฉู่เฉิน ไม่ว่าจะพูดยังไงก็เป็นความผิดของคุณก่อน คุณหลิงเสวี่ยก็ไม่ได้ถือโทษ กลับยังเชื้อเชิญอย่างอบอุ่น การขอโทษคุณหลิงเสวี่ย ก็เป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่เหรอครับ?”ในขณะนี้ ในฝูงชน มีชายวัยกลางคนผิวขาวสะอาดอายุราวสามสิบกว่าก้าวออกมา มองฉู่เฉินด้วยสีหน้ายิ้มเยาะแล้วกล่าวออกมาเมื่อคำพูดของเขาหยุดลง ผู้มีอิทธิพลจำนวนไม่น้อยที่อยู่ข้างหอการค้ากิเลนต่างพากันเปิดปากล่าวประณามฉู่เฉิน“พูดจาไร้สาระ!”ในขณะที่ท
อย่างไรเสียงานเลี้ยงนี้จัดโดยหอการค้ากิเลน ใครจะกล้าหักหน้า?“ทั้งสองท่าน กรุณาแสดงบัตรเชิญของพวกคุณด้วยครับ”เมื่อมาถึงประตู ชายหนุ่มสองคนสวมเสื้อแขนสั้นสีดำและตัดผมสั้นก็มาขวางทางของฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียน“นี่คือบัตรเชิญของเรา เชิญตรวจสอบได้เลยค่ะ”หลิ่วหรูเยียนกล่าว พลางหยิบบัตรเชิญสองใบออกจากกระเป๋าสะพายแล้วยื่นให้ไปหนึ่งในชายผมสั้นรับบัตรเชิญไปเปิดดู กวาดตามองชื่อบนนั้น ความเย็นเยือกในแววตาวาบผ่าน จากนั้นจึงกล่าวกับฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนว่า “ทั้งสองท่านเชิญด้านนี้ครับ”ขณะพูด ชายผมสั้นก็พาฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนเข้าไปในลิฟต์ส่วนตัวที่อยู่ข้างๆ จากนั้นกดปุ่มชั้นสิบเอ็ด ก่อนจะส่งยิ้มให้และเดินจากไปแต่ในเสี้ยววินาทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาและกล่าวกับอีกฝ่ายว่า “ศิษย์พี่หลิงเฟิง ฉู่เฉินมาถึงแล้วครับ”“อืม ฉันรู้แล้ว”หลิงเฟิงตอบรับเสียงเรียบก่อนจะวางวิทยุสื่อสารลง รีบก้าวไปหน้าโซฟากลางห้องโถงจัดเลี้ยง ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบข้างหูหลิงเสวี่ยอยู่ครู่หนึ่งหลิงเสวี่ยพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ หันไปยังประตูทา
ไม่นานนัก ข่าวหอการค้ากิเลนที่เข้ามามีบทบาทในมณฑลเจียงได้แพร่กระจายไปทั่ววงการของมณฑลเจียงคนจำนวนไม่น้อยที่เคยเข้าร่วมกับหอการค้าราชันมังกรก็ล้วนอยู่ในความหวาดระแวงเนื่องจากอิทธิพลของหอการค้ากิเลนไม่ใช่สิ่งที่นักธุรกิจมั่งคั่งเหล่านี้จะสามารถต้านทานได้แม้แต่หอการค้าราชันมังกรเอง เมื่อเผชิญหน้ากับหอการค้ากิเลนก็ไม่อาจต้านทานได้เช่นกันดังนั้น หลังจากคนจำนวนไม่น้อยชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียแล้ว จึงเลือกที่จะถอนตัวออกจากหอการค้าราชันมังกรเพื่อปกป้องตัวเองในเวลาไม่นาน โลกธุรกิจของมณฑลเจียงล้วนมีท่าทีเหมือนพายุฝนกำลังจะมาเยือนภายในคฤหาสน์ตระกูลเซียว เซียวจี้เซียนถือบัตรเชิญของหลิงเสวี่ยไว้ พลางมองไปที่เซียวถิงฮั่นด้วยสีหน้าลำบากใจ“พ่อครับ ความหมายของหอการค้ากิเลนชัดเจนมากแล้ว กำลังบีบให้พวกเราเลือกข้าง”“พ่อว่าคุณฉู่จะสู้กับหอการค้ากิเลนได้ไหมครับ?”ตระกูลเซียวเพิ่งเข้าร่วมฉู่เฉินไปหมาดๆ หากในเวลานี้หักหลังฉู่เฉินและกันไปเข้าข้างหอการค้ากิเลนอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คงไม่ต้องสงสัยถ้าฉู่เฉินพ่ายแพ้ก็แล้วไป แต่ถ้ากำจัดหอการค้ากิเลนเหมือนที่เคยกำจัดเกาเซิ่งอี้ งั้นผู้โชคร้ายค
ความจริงแล้ว สิ่งที่สวีปินพูดก็เป็นเรื่องจริง ในสถานการณ์ตอนนั้น ใครจะกล้าพูดคำว่า “ไม่” กันล่ะ? เขาเชื่อว่าฉู่เฉินจะลงมือโดยไม่ลังเลแน่นอนส่วนเรื่องการชำระบัญชีกับหอการค้ากิเลน นั่นเป็นเรื่องของอนาคตอีกอย่าง กฎหมายไม่อาจลงโทษฝูงชนได้!หอการค้าตะวันออกใหญ่ทั้งหมด แค่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมก็มีมากกว่าร้อยคนแล้ว หอการค้ากิเลนคงไม่สามารถฆ่าทุกคนได้หรอกใช่ไหม?“โอ้? หมายความว่าตอนที่เกาเซิ่งอี้ถูกฆ่า คุณก็อยู่ที่นั่นและเห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเองงั้นเหรอ?”หลิงเสวี่ยขมวดคิ้ว ดวงตาค่อยๆ เย็นชาลง พร้อมตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเย็น“ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่เห็น วันนั้นทุกคนที่ไปร่วมงานฉลองครบรอบต่างก็เห็นกันหมด แต่จะทำอะไรได้ล่ะครับ? พวกเราเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา จะไปช่วยคุณเกาได้ยังไง...”สวีปินกล่าวแก้ตัวด้วยสีหน้าเศร้าโศก“งั้นฉันจะถามคุณ ใครเป็นคนฆ่าเกาเซิ่งอี้?”หลิงเสวี่ยลุกขึ้นช้าๆ มือหยกเรียวกดลงบนไหล่ของสวีปินเบาๆทันใดนั้น ความเย็นเยือกถึงกระดูกก็กลืนร่างของสวีปินไปจนหมด“คะ...คือชายคนหนึ่งชื่อฉู่เฉิน และดูเหมือนว่าบนตัวของฉู่เฉินจะมีหยกโลหิตกิเลนที่คุณเกาตามหาอยู่ด้วยครับ”สวีปิ