Share

บทที่ 4 

Author: กระจอก
แสงแดดส่องร่างกายที่ขาวนวลของหลิ่วชิงเหอ ผิวพรรณของเธอภายใต้แสงอาทิตย์ขาวใสราวกับหิมะ

“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ปล่อยฉันนะ! เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแก อื้อ ๆ ๆ...”

หลิ่วชิงเหอตะโกนขัดขืน ใช้ทั้งมือทั้งเท้าต่อยแตะฉู่เฉินไม่หยุด

แต่วินาทีต่อมาปากสีชมพูของเธอก็ถูกอุดเอาไว้ ทำได้แค่ร้องเสียงอู้อี้

หลิ่วชิงเหอสัมผัสได้ถึงความเผด็จการและความรุนแรงของอีกฝ่าย พยายามอ้าปากตัวเอง ใบหน้าของเธอมีแต่ลมหายใจร้อนรุ่มของฉู่เฉิน

ยิ่งขัดขืนฉู่เฉินก็ยิ่งรุนแรง

หลิ่วชิงเหอที่ไม่เคยถูกผู้ชายจูบอย่างรุนแรง ร่างกายของเธอจึงอ่อนแรงทันที

เหมือนกับพื้นดินที่แห้งแล้งมานานถูกคนรดน้ำให้

“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ฉันจะฆ่าแกแน่ อื้อ ๆ ๆ...”

หลิ่วชิงเหอทำได้เพียงร้องอู้อี้

“แม่หนูกลับมาแล้ว” ทันใดนั้นด้านล่างก็มีเสียงของหลิ่วหรูเยียน

จากนั้นก็มีเสียงหลิ่วหรูเยียนขึ้นบันไดมา เสียงเดินเท้าสวบสาบเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

หลิ่วชิงเหอลนลานแล้ว เธอออกแรงแตะฉู่เฉินออกไป จ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธแค้นก่นด่าออกมา “ไอ้สารเลว! ฉันเป็นแม่บุญธรรมของแก แกทำแบบนี้ฟ้าผ่าแกตายแน่!”

ฉู่เฉินเลียริมฝีปาก หัวเราะอย่างชั่วร้าย “แม่บุญธรรมเหรอ? หลิ่วชิงเหอตอนพวกเธอแม่ลูกขังฉันไว้ที่นี่ เธอก็ไม่ใช่แม่บุญธรรมของฉันอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นศัตรูของฉัน!”

“ไม่ต้องพูดมาก ปากของเธอรสชาติดีเลยทีเดียว”

“แก!” หลิ่วชิงเหอโมโหมาก

ตอนนี้เองเสียงเท้าก็มาถึงหน้าประตู เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ด้านนอกมีเสียงของหลิ่วหรูเยียนดังขึ้น “แม่ทำอะไรอยู่? ไม่ยอมพูดอะไรเลย หนูเข้าไปแล้วนะ”

“อย่าเข้ามา! แม่อาบน้ำอยู่!” หลิ่วชิงเหอกล่าวอย่างร้อนรน

ถ้าปล่อยให้หลิ่วหรูเยียนเห็นเธอกับฉู่เฉินในสภาพนี้ เธอคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

เธอจ้องฉู่เฉินเขม็ง กดเสียงต่ำลงข่มขู่ว่า “อย่าส่งเสียง! ไสหัวไปซะ แล้วฉันจะทำเป็นว่าไม่เคยเกิดเรื่องนี้มาก่อน!”

ตอนนี้หลิ่วชิงเหออยากให้เจ้าสัตว์เดรัจฉานฉู่เฉินออกไปเดี๋ยวนี้

“เหอะๆ” ฉู่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชา นั่งลงบนโซฟา ใช้สายตามองหลิ่วชิงเหอที่โป๊เปลือยอย่างไร้ความกังวล

รูปร่างสุดยอดมากจริงๆ!

ผู้หญิงคนนี้ทำให้ผู้ชายเลือดซูบฉีดเป็นบ้า

“หลิ่วชิงเหอ อยากจะไล่ฉันไปตอนนี้สายไปแล้วล่ะ” ฉู่เฉินยิ้มอย่างชั่วร้าย

“แม่ อาบน้ำเสร็จหรือยัง? ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวหนูเข้าไปอาบด้วย” หลิ่วหรูเยียนตะโกนจากด้านนอก

“อย่านะ! ลูกลงไปก่อน!” หลิ่วชิงเหอตะโกนออกมา ใช้สายตาเคียดแค้นมองไปทางฉู่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกจะทำอะไรกันแน่?”

“หลิ่วชิงเหอ อย่ามาแกล้งตอแหลกับฉัน เธอเป็นผู้หญิงที่ผ่านเรื่องชายหญิงมาแล้ว เธอคิดว่าวันนี้ฉันจะปล่อยเธอไปเหรอ?” ฉู่เฉินยิ้มอย่างเรียบเฉย

“อยากจะนอนกับฉันเหรอ! ฝันไปเถอะ! ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัน ฉันจะให้คนมาฆ่าแก!” หลิ่วชิงเหอโมโหมาก

“แม่กำลังคุยกับใครอยู่เหรอ?” ที่ด้านนอกหลิ่วหรูเยียนเผยสีหน้าสงสัย ใช้หูพิงประตู ยื่นก้นกลมๆ ของเธอออกมา

“เรื่องที่บริษัท ลูกทำไมยังไม่ลงไปอีก!” หลิ่วชิงเหอดุว่า

“อ้อ งั้นหนูลงไปก่อนนะคะ” หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วที่เรียวงาม เดินลงจากชั้นสองแต่ยังหันกลับไปมองเป็นระยะๆ

เมื่อได้ยินเสียงเดินค่อยๆ ห่างออกไป หลิ่วชิงเหอก็ผ่อนคลายลง

แต่คำพูดต่อไปของฉู่เฉินทำให้เธอตัวเกร็งตัวอีกครั้ง

“หลิ่วชิงเหอ หลายปีมานี้ พวกเธอแม่ลูกแช่ยาจากฉัน ไม่รู้สึกว่าร่างกายเปลี่ยนไปเหรอ?” ฉู่เฉินถามด้วยหน้าตาอมยิ้ม ขณะนั่งบนโซฟา สายตาจับจ้องไปทางหลิ่วชิงเหอที่คิดจะสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ

หลิ่วชิงเหออึ้งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “มีอยู่แล้ว ฉันรู้สึกว่าตัวเองสาวขึ้น ฉู่เฉินถ้าแกยังไม่อยากตาย ก็มาเป็นสมุนไพรมนุษย์ให้พวกเราแม่ลูกต่อไป ไม่อย่างนั้น ฉันมีหลายวิธีที่จะฆ่าแกได้”

“เหอะๆ อย่าพูดอวดเก่งนัก อีกห้านาทีเธอก็ต้องคุกเข่าขอร้องฉันเหมือนสุนัขแล้ว!” ฉู่เฉินหัวเราะ

เมื่อหลิ่วชิงเหอได้ยินจึงหันหน้ากลับไป เธอเอามือกอดอกยังไม่ได้ผูกชุดคลุมอาบน้ำ เมื่อมองจากลำคอที่ขาวสวยลงมาถึงไหล่ที่คมชัด หน้าท้องที่เรียบเนียน และ...

สมบูรณ์แบบ น่าเย้ายวนมากจริงๆ!

“ทำไมฉันต้องคุกเข่าขอร้องแกด้วย? ฉู่เฉินแกกำลังพูดจาไร้สาระอะไรอีก!” หลิ่วชิงเหอหัวเราะอย่างดูแคลน

เธอเพิ่งพูดจบก็มีเพียง “ปึง” ดังมาจากชั้นหนึ่ง จากนั้นก็มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือของหลิ่วหรูเยียน

“หรูเยียน!”

หลิ่วชิงเหอร้อนรนแล้ว เธอวิ่งออกจากห้องมองผ่านบันไดลงไปทางหลิ่วหรูเยียนที่ล้มอยู่ชั้นหนึ่ง

“หรูเยียน!”

หลิ่วชิงเหอรีบวิ่งลงไป คุกเข่าต่อหน้าหลิ่วหรูเยียน ตะโกนอย่างตื่นตระหนก “หรูเยียน ลูกเป็นอะไรไป? รีบตื่นเร็ว อย่าทำให้แม่ตกใจสิ...”

“แก่นแท้โอสถที่แช่จากร่างกายของฉันเอาไปดื่มกินตรงๆ ได้ด้วยเหรอ?”

ในเวลานี้ฉู่เฉินสองมือล้วงกระเป๋าก้มมองลงมา เขาค่อยๆ เดินลงจากบันไดชั้นสองทีละขั้น เดินมาด้านหน้าของแม่ลูกหลิ่วชิงเหอ

จากนั้นเขาเหลือบตามองหลิ่วหรูเยียนที่สลบไปแล้วด้วยสีหน้าซีดเผือด

“เป็นแม่ลูกกันจริงๆ นิสัยบ้าบิ่นเหมือนกัน” ฉู่เฉินเค้นเสียงหัวเราะ

หลิ่วหรูเยียนที่นอนอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าถอดชุดของตัวเองเมื่อไร ทั้งร่างเหลือเพียงชุดชั้นลายลูกไม้สีดำชุดหนึ่ง

ถึงแม้จะดูมาแล้วสามปี แต่ฉู่เฉินต้องยอมรับเลยว่ารูปร่างของหลิ่วหรูเยียน ยอดเยี่ยมเหมือนกันอีกทั้งยังเช้งกระเด้ะด้วย!

“ฉู่เฉิน แกคิดจะพูดอะไรกันแน่?” หลิ่วชิงเหอรีบพูดขึ้นมา

ฉู่เฉินก้มมองลงมา “หลิ่วชิงเหอ ขอบอกความจริงกับเธอแล้วกัน ยาที่แช่ออกมาจากกายาโอสถสวรรค์ คือพลังหยิน สำหรับคนที่ยังไม่เคยเสียตัวแล้ว มันไม่ต่างจากยาพิษ”

“สามปีมานี้ ลูกของเธอดื่มยาจากร่างกายของฉันทุกวัน สะสมพิษเต็มร่างกายนานแล้ว วันนี้เพิ่งออกฤทธิ์ก็เท่านั้น”

“ถ้าลองคำนวณดู อีกสิบนาทีหลิ่วหรูเยียนต้องตายแน่! ที่นี่ห่างจากโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดยี่สิบนาที”

ตูม!

เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เฉิน หลิ่วชิงเหอตะลึง สมองขาวโพลน มองหลิ่วหรูเยียนที่ยังหลับตา สีหน้าซีดขาว กำลังตัวสั่น เธอน้ำตาไหลตะโกนออกมาว่า “หรูเยียน ลูกแม่...”

“ฉู่เฉิน! แกต้องรู้ว่าจะช่วยลูกฉันยังไง! ฉันขอสั่งแก ช่วยเธอเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!” หลิ่วชิงเหอเงยหน้าออกคำสั่งด้วยสายตาเย็นชา

ฉู่เฉินสีหน้าเรียบเฉย เขาโค้งตัวลงมา มองหลิ่วชิงเหอตาเขม็ง “หลิ่วชิงเหอ เธอยังไม่รู้สถานการณ์อีกเหรอ? ตอนนี้ชีวิตลูกของเธออยู่ในกำมือของฉัน ถ้าฉันอยากช่วยก็จะช่วย ถ้าไม่อยากช่วยต่อให้เทพเซียนปีศาจมาเองก็ไม่มีประโยชน์”

สถานการณ์เงียบกริบ!

หลิ่วชิงเหอขบฟันแน่น สายตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

แต่เพื่อหลิ่วหรูเยียนแล้ว เธอต้องมองฉู่เฉินอย่างอดทนอดกลั้น ถามว่า “แกต้องการอะไร? บอกเงื่อนไขมา!”

“ฮ่าๆๆ!” ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง กล่าวว่า

“หลิ่วชิงเหอ!”

“ในตอนนั้นที่เธอยึดกิจการของตระกูลฉู่ จับฉันขังไว้ เคยคิดว่าจะมีวันนี้ไหม?”

“เธอสูงส่งนักไม่ใช่เหรอ?”

“เธอเก่งมากไม่ใช่เหรอ?”

“เธอเป็นราชินีแห่งวงการการค้าไม่ใช่เหรอ?”

“ตอนนี้คุกเข่าซะ แล้วคลานมาที่หน้าฉัน”

หลิ่วชิงเหอตกใจ เมื่อเห็นภาพนี้ในใจรู้สึกบีบรัด

เจ้าเดรัจฉานนี่ฟื้นกลับมาแล้วจริงๆ

“เร็วสิ!” ฉู่เฉินพูดด้วยความโกรธ เพลิงแค้นทั่วร่างโหมกระหน่ำ “เธอเหลือเวลาแค่สิบนาที!”

หลิ่วชิงเหอมองหลิ่วหรูเยียน เธอกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยสายตาเคียดแค้น ช่วยไม่ได้ เธอคงทำได้แค่คลานไปหาฉู่เฉินช้าๆ...
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 5

    หลิ่วชิงเหอร้องคร่ำครวญ จากนั้นคุกเข่าลงที่พื้น ถอนหายใจเสียงดังเธอมองฉู่เฉินด้วยสายตาเคียดแค้นพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกมันสัตว์เดรัจฉาน! ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!”“เพียะ!”ฉู่เฉินสะบัดมือออกไป ตบใบหน้าของหลิ่วชิงเหออย่างแรง เขาเสยคางเธอขึ้น พูดว่า “ฆ่าฉันงั้นเหรอ? เธอไม่อยากได้ชีวิตลูกสาวแล้วเหรอ?”“แก!”หลิ่วชิงเหอโมโหมาก เมื่อถูกคนจับจุดอ่อนได้แบบนี้ รู้สึกคับข้องใจนักเธอเป็นถึงราชินีแห่งวงการการค้า ผู้บริหารฉู่ซื่อกรุ๊ป เป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าใครเห็นล้วนต้องยำเกรงแต่คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่สูงส่งอย่างเธอ วันนี้กลับต้องมาคุกเข่าต่อหน้าไอ้บ้าคนนี้!น่าอับอาย!น่าอับอายที่สุด!ความเกลียดชังและจิตสังหารในใจของหลิ่วชิงเหอพุ่งถึงขีดสุด“หลิ่วชิงเหอ ความแค้นระหว่างเธอกับฉัน ฉันจะค่อยๆ คิดบัญชีกับเธอช้าๆ ฉู่ซื่อกรุ๊ป ฉันก็จะชิงมันกลับมา!” ฉู่เฉินสวมกางเกง พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลิ่วชิงเหอจ้องเขาด้วยสายตาคมกริบ ถ้าสายตาฆ่าคนได้ ป่านนี้เธอคงจ้องทะลุหัวใจฉู่เฉินไปแล้ว“พอใจหรือยัง? ตอนนี้รีบช่วยลูกฉันซะ! ถ้าแกกล้าโกหกฉัน ต่อให้ต้องไล่ฆ่าแกไปสุดขอบโลก ฉันก็จะฆ่าแกให้ได้!”

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 6

    “นี่แก!”หลิ่วชิงเหอไม่ใช่เด็กสาวไม่รู้ความ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉู่เฉินต้องการสื่อในทันที!เขายังคิดจะอาทิตย์ครั้งเหรอ!“ไม่มีทาง! แกรีบไปให้พ้น! ฉันคิดหาวิธีเองได้!” หลิ่วชิงเหอกล่าวอย่างโกรธๆไอ้สัตว์เดรัจฉานสมควรตาย คิดจะข่มขู่เธองั้นเหรอ“ให้ฉันไปให้พ้น? เธอคิดดีแล้วเหรอ หลิ่วชิงเหอ บนโลกนี้คนที่สามารถช่วยลูกสาวของเธอได้ มีแค่ฉันฉู่เฉินคนนี้คนเดียว”ฉู่เฉินยิ้มอย่างไม่ยี่หระ “ก่อนจะถึงวันศุกร์หน้า ทบทวนให้ดี ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็ติดต่อมา ฉันจะฝังเข็มให้ลูกสาวของเธอ ถือโอกาสฝังให้เธอด้วยสักสองสามเข็ม”ฮ่าๆๆ!พูดจบ ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง เขาเห็นสีหน้าดำทะมึนของหลิ่วชิงเหอแล้วรู้สึกสะใจสุด ๆหลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสวยแน่น นิ้วเรียวชี้ไปทางประตู ก่อนตวาดเสียงเกรี้ยว “ไสหัวไป! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! อย่าบังคับให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”ฉู่เฉินหัวเราะในลำคอ เขากวาดมองกล่องยากล่องหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะพูดว่า “ถ้าเดาไม่ผิด นั่นคือยาน้ำที่พวกเธอได้จากการจับฉันแช่มาเป็นเวลาสามปี จากนั้นก็เอาไปตุ๋นเป็นยาลูกกลอนสินะ?”หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้ว ไม่ตอบคำถามชั้นบน หลิ่วหรูเยียนเพิ่ง

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 7

    หวังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ เห็นกู้รั่วเสวี่ยที่เดินเข้าก็รีบโค้งตัวอย่างสุภาพนอบน้อม “คะ คุณหนูกู้ มาได้ยังไงคะ?”“เพียะ!”กู้รั่วเสวี่ยก้าวเข้ามาสะบัดฝ่ามือใส่แก้มของหวังฮุ่ย พูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมพูดจาอย่างงั้นกับคุณฉู่! ขอโทษเขาซะ!”“ขอโทษ?” หวังฮุ่ยมึนงง เธอยกมือกุมแก้มที่รู้สึกแสบร้อน ก่อนจะอธิบายว่า “คุณหนูกู้ ไอ้นี่เป็นแค่คุณชายตกอับไร้ที่ไป เขามาซื้อสมุนไพรทั้งที่ไม่มีเงิน แถมยังบอกว่าจะซื้อเห็ดหลินจือเพลิงร้อยปี ฉันก็แค่…”“เพียะ!”กู้รั่วเสวี่ยยกฝ่ามือขาวๆ สะบัดออกไปอีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงเย็นอีกครั้ง “ฉันบอกว่าให้ขอโทษซะ!”คราวนี้หวังฮุ่ยตกใจแล้วกู้รั่วเสวี่ย คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลกู้ เพิ่งมาเติบโตในเจียงจงสองปีที่ผ่านมานี้เองจินจือหลินเป็นของกู้รั่วเสวี่ยทั้งหมดหากพูดถึงตระกูลกู้ในจิงตู ก็นับว่าเป็นตระกูลที่ใหญ่สุดๆ!พวกเขามีอุตสาหกรรมที่หลากหลาย มีทั้งด้านสมุนไพร ด้านศึกษาวิจัยทางการแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมด้านความบันเทิงก็ด้วย…อุตสาหกรรมแต่ละด้านล้วนนับว่าอยู่แนวหน้าของประเทศทั้งนั้นได้ยินมาว่า รวยเทียบเท่าประเทศหนึ่งเลยทีเดียว!“ขะ ข

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 8

    สิ้นเสียง สองคนที่อยู่ในห้องนอนหันขวับไปทางฉู่เฉินและกู้รั่วเสวี่ยที่กำลังเดินเข้ามาซุนเซี่ยวเหรินหน้าคล้ำทันที เขาตำหนิอย่างไม่พอใจสุดๆ “เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! พูดจาเหลวไหลอะไรของเธอ! นี่เธอกำลังตั้งคำถามกับทักษะทางการแพทย์ของฉันงั้นรึ หรือว่าสงสัยในตัวยาเม็ดนี้? เธอรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร!”ซุนเซี่ยวเหรินไม่สบอารมณ์อย่างมากเด็กเปรตนี่โผล่มาจากไหน ถึงได้กล้าเข้ามาตะคอกเขาอย่างนี้กินยาอายุวัฒนะในมือเขา แล้วผู้ป่วยจะตายงั้นรึ?เหลวไหลทั้งเพ!ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้เขาศึกษามาหลายวันแล้ว มันคือยาบำรุงชั้นดี!ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสี่เหลี่ยมเย็นชาแข็งกร้าว สายตาเคร่งขรึม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องฉู่เฉินแล้วตวาดเสียงต่ำ “เธอเป็นใคร? ใครให้เธอบุกเข้ามาที่นี่? ไสหัวออกไป! อย่ามาขัดขวางการรักษาของภรรยาฉัน!”“คุณพ่อ เขาชื่อฉู่เฉินค่ะ เป็นหมอที่หนูพากลับมาเอง วิชาแพทย์ของเขาร้ายกาจมาก แม้แต่โรคกายเย็นของหนูเขาก็รักษาได้” กู้รั่วเสวี่ยรีบเข้ามาอธิบายชายวัยกลางคนได้ยินก็ตะลึง “ลูกว่าไงนะ? เขารักษาโรคกายเย็นของลูกได้เหรอ? รั่วเสวี่ย ลูกอย่าโกหกพ่อนะ”กู้เหวินไห่ พ่อของกู้รั่วเสว

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 9

    สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ทั่วทั้งห้องรับรองเงียบสงัดทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก!พวงแก้มของกู้รั่วเสวี่ยแดงเรื่อฉู่เฉินคิดจะให้พ่อของเธอยกเธอให้เขาจริงๆเธอยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยนะกู้เหวินไห่เองก็หน้าดำคร่ำเครียด เขาลังเลอยู่นานมากฉู่เฉินพูดขึ้น “ผู้นำตระกูลกู้ อย่าลังเลเลย คุณเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”“ผมขอบอกคุณชัดๆ ตรงนี้เลยว่า บนโลกนี้ คนที่ช่วยภรรยาคุณได้ มีแค่ผมฉู่เฉินคนเดียวเท่านั้น!”กู้เหวินไห่กัดฟัน เขาไม่ลังเลอีกต่อไป คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุบ ก่อนจะอ้อนวอนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมเลอะเลือน ได้โปรดช่วยชีวิตภรรยาของผมด้วย”“ขอแค่ช่วยภรรยาของผมได้ ผมยอมยกลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนให้คุณ”“คุณพ่อ…” กู้รั่วเสวี่ยพึมพำเรียกพ่อของเธออย่างกระมิดกระเมี้ยนฉู่เฉินวางแก้วชา และยิ้มตอบเล็กน้อย “ได้ เห็นแก่หน้ารั่วเสวี่ย ผมจะช่วยเอง ลุกขึ้นเถอะครับ”กล่าวจบ ฉู่เฉินลุกเดินไปทางห้องนอนกู้เหวินไห่เดินตามไปติดๆกู้รั่วเสวี่ยก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน เธอถามว่า “คุณพ่อ เมื่อกี้คุณพ่อพูดเล่นใช่ไหมคะ?”กู้เหวินไห่ตัดบททันที “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าเขาช่วยแม่ของลูกได้จริง ก็แสดงว่าเจ้าห

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 10

    ด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉู่เฉินออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้ ก็มุ่งไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ครั้นเห็นบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ในสภาพซอมซ่อ บวกกับกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากไม้เน่าลอยมาแตะจมูก ฉู่เฉินอดทอดถอนใจไม่ได้บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็กของฉู่เฉินตั้งแต่ที่พ่อแม่หายตัวไป ฉู่เฉินก็แอบสืบอย่างลับๆ มาตลอด หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่แม่บุญธรรมของเขา หลิ่วชิงเหอ!ในตอนที่ฉู่เฉินตั้งใจจะโจมตีหลิ่วชิงเหอ เขาก็ถูกลอยแพเสียก่อน! จากนั้น เรื่องราวก็เป็นอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาถูกสองแม่ลูกขังไว้ในห้องอาบน้ำของคฤหาสน์ เพียงแวบเดียว เขาก็ถูกทรมานมานานถึงสามปีเต็ม!“หลิ่วชิงเหอ หวังว่าเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันหายตัวไปจะไม่เกี่ยวกับเธอนะ! ถ้าฉันสืบเจอว่าเป็นลูกไม้สกปรกของเธอ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา ในดวงตาตาสุกใสสะท้อนแววเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกฉู่เฉินเก็บกวาดบ้านอย่างง่ายๆ จากนั้นก็ตั้งป้ายวิญญาณสองป้ายไว้ในบ้านให้พ่อแม่ของเขาผ่านมาหลายปีแล้ว พ่อกับแม่อาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ ในฐานะลูกชาย เขาควรกราบไหว้หลังจากคำนับสามครั้ง ฉู่เฉินจัดการทำความสะอา

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 11

    “โอ๊ย! สารเลว! แกปล่อยฉันนะ! แกกล้าทำเรื่องน่าขยะแขยงเช่นนี้กับฉัน ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!” ป้าอู๋ร้องออกมาด้วยความตกใจเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะกล้าลงมือกับเธอเช่นนี้เจ้าคนสารเลว!โครม...หลังจากนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้นมาจากห้อง พร้อมทั้งเสียงร้องขอชีวิตของป้าอู๋“ฉู่เฉิน อย่า ฉันขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”อย่างไรก็ตาม หลังจากขอความเมตตาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นมาเป็นระยะ และในช่วงท้ายของการขอความเมตตาของป้าอู๋ ก็กลายเป็นเสียงครวญครางที่ส่งเสียงดังราวกับอารมณ์เร่าร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ 20 กว่าปี แค่ครู่เดียวก็ปลดปล่อยออกมา!หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเดินออกมาด้วยหน้าระรื่นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “หากไม่ใช่เพราะป้า ผมคงไม่มีโอกาสอย่างนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะปล่อยป้าไปแล้วกัน รีบไสหัวไปซะ!”ภายในห้องป้าอู๋นอนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าถูกฉีกไม่เป็นชิ้นดี ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยว โดยเฉพาะบั้นท้ายที่เธอภาคภูมิใจนั้นเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ!เธอกัดฟันโกรธ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น“ไอ้เดรัจฉาน! แกรังแกฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ป้าอู๋สบถออกมารุนแรง ฝืนร่างกายล

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 12

    เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมาฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”ฉู่เฉิน?เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”ฉู่เฉินกวาดสายต

Latest chapter

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1027

    เวลานี้ฉู่เฉินที่ยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ในหอหลิงซวีคล้ายกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ยังคงดูเหมือนเข้าสู่สมาธิอย่างแท้จริง ฉากนี้ทำให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเดือดดาลมากยิ่งขึ้น!“คนแซ่ฉู่ คะ...คุณกล้ารังแกสำนักชิงอวิ๋นของผมแบบนี้ ไม่กลัวว่า...”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นใช้วิชาส่งเสียงต่อว่าฉู่เฉินอย่างเกรี้ยวกราด แต่เพิ่งจะพูดได้ครึ่งเดียว ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ทำตัวเหมือนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “โกรธมากเลยเหรอครับ? อยากอ้อนวอนให้ผมออกไปใช่หรือเปล่า?” ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเอ่ยพลางกัดฟันกรอดว่า “คนแซ่ฉู่ วันนี้ถือว่าคุณโชคดี ผมจะไม่เอาสืบหาเอาความชั่วคราว ตอนนี้คุณไปได้แล้ว”ตอนนี้เขากลัวแล้วจริง ๆคำว่าเปิดศึกของเทพสังหารเมื่อครู่นี้ไม่ใช่การหลอกลวงสำนักชิงอวิ๋นไม่อาจต้านทานการบุกโจมตีของเทพสังหารกับลูกศิษย์สำนักว่านเซียนได้อย่างแน่นอนเพื่อสำนักชิงอวิ๋น และเพื่อตัวเขาเอง ทำได้เพียงพักการล้างแค้นให้คุณชายเซียวเหยาเอาไว้ก่อน “ผมจำได้ว่าเมื่อกี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา ใครบอกผมว่าเข้าง่ายออกยากกันนะ? ใครอยากให้ผมอยู่ที่นี่ตลอดกาล?”

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1026

    ตามกฎของโลกแห่งการหยั่งรู้ สำนักรอบนอกสี่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจทำการเข่นฆ่าที่โลกมนุษย์ธรรมดาได้ตามอำเภอใจ ส่วนยอดฝีมือระดับทารกวิญญาณในเขตศูนย์กลางก็ไม่อาจก้าวเข้ามาในสำนักรอบนอกได้ตามอำเภอใจเช่นเดียวกันแต่เทพสังหารเหมือนกัน แม้ว่าเขาอยู่สำนักว่านเซียน แต่ว่าระดับพลังกลับถูกกดให้อยู่ขั้นสูงสุดของระดับควบแก่นแท้มาโดยตลอดหากเทพสังหารลงมือ ต่อให้เป็นพวกระดับสูงของโลกแห่งการหยั่งรู้ก็ไม่อาจพูดอะไรได้เช่นกันตลอดเวลาที่ผ่านมา สำนักว่านเซียนเองก็เฝ้าติดตามที่อยู่ของหยกโลหิตกิเลน เพียงแต่ว่าที่ผ่านมา ตระกูลฉู่ซ่อนหยกโลหิตกิเลนไว้อย่างลึกลับสุดขีด สำนักว่านเซียนส่งคนไปที่โลกมนุษย์ธรรมดาหลายครั้ง แต่ก็หาหยกโลหิตกิเลนไม่เจอเลยทว่าครั้งนี้ เมื่อข่าวแพร่ออกไปว่าฉู่เฉินผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลฉู่ถูก “เชิญ” ไปที่สำนักชิงอวิ๋นพร้อมกับหยกโลหิตกิเลน สำนักว่านเซียนยังจะทนไหวได้ที่ไหนกัน?ในสายตาของสำนักว่านเซียน สำนักชิงอวิ๋นอะไร วังเทียนเจี้ยนอะไร ก็เป็นเพียงตัวตนที่เหมือนกับมดปลวกเท่านั้นหากหยกโลหิตกิเลนตกอยู่ในมือมดปลวกพวกนี้ก็เท่ากับปล่อยให้ของดี ๆ ถูกทำลายไม่ใช่หรือไง? ด้วยเ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1025

    ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงศิษย์สำนักชิงอวิ๋นที่กำลังคืบคลานเข้ามาจากด้านหลัง ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นพลางเอ่ยว่า “ทำไมครับ พวกคุณสำนักชิงอวิ๋นทำได้แค่เรื่องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้งั้นเหรอ?”ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นได้ยินดังนั้นก็หัวเราะลั่นแล้วกล่าวว่า “ด้วยสภาพของคุณตอนนี้ คิดว่าพวกเราสำนักชิงอวิ๋นยังต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่อีกเหรอ?”“ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าคุณเอาความกล้ามาจากไหน ถึงกล้ามาเพียงลำพัง มาตามนัดงั้นเหรอ คุณคิดว่าสำนักชิงอวิ๋นของผมเป็นที่แบบไหนกัน? คุณอยากมาก็มา อยากไปก็ไป?”“อย่าว่าแต่คุณเลย ไม่ว่าเจ้าสำนักที่อยู่รอบนอกของภูเขาสือว่านคนไหน ก็ไม่กล้าทำตัวดูหมิ่นสำนักชิงอวิ๋นของผมอย่างคุณหรอก!”สิ้นเสียง สีหน้าของธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็ยิ่งเย็นเยือกลง เห็นชัดว่ารู้สึกมั่นใจว่าชัยชนะอยู่ในกำมือแล้ว“คุณแน่ใจเหรอ? ต่อให้สำนักชิงอวิ๋นจะทรงพลัง จะสามารถรับมือได้กับทั้งโลกแห่งการหยั่งรู้ได้จริงเหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเบา แล้วเอ่ยออกมาอย่างเฉยเมย “อย่าว่าแต่สำนักชิงอวิ๋นเล็กๆ ของคุณเลย แม้แต่คนของวังว่านเจี้ยนจะร่วมมือกับคุณด้วย ผมก็ไม่เคยสนใจพวกคุณเลย”“อีกเดี๋ยว คุณก็จะรู้ถึงความทรงพลัง

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1024

    ฉู่เฉินยิ้มบาง กล่าวว่า “เชิญเจ้าสำนักก่อนเลยครับ”ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นยิ้มอย่างสงบ ก้าวเข้าไปในห้องด้านข้างทันที แต่ในขณะที่เขาก้าวข้ามธรณีประตูนั้นเอง ฉู่เฉินก็เห็นชัดเจนว่าอากาศรอบข้างพลันเกิดระลอกคลื่นเหมือนคลื่นน้ำฉู่เฉินเอาสองมือไพล่หลัง เดินตามหลังธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นด้วยฝีเท้าที่มั่นคง และก้าวข้ามธรณีประตูไปเหมือนกันตูม!ฉู่เฉินรู้สึกเพียงมีเสียงดังขึ้นในหัว จากนั้นพลังวิญญาณทั่วร่างก็ราวกับถูกผนึกไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อยเมื่อเห็นฉู่เฉินติดกับแล้ว เหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋นจำนวนไม่น้อยก็รีบกดด้ามกระบี่ไว้ มองไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยเจตนาฆ่าพวกเขาอดทนมาตลอดทางแล้ว ในที่สุดก็หลอกฉู่เฉินเข้ามาในหอหลิงซวีได้สำเร็จ หลายคนอดใจไม่ไหวอยากจะชักกระบี่ออกมาแล่ฉู่เฉินให้เป็นชิ้นๆ เสียเดี๋ยวนี้หอหลิงซวีเป็นสถานที่ลึกลับที่ปรมาจารย์หลายรุ่นก่อนของสำนักชิงอวิ๋นทิ้งไว้ สถานที่แห่งนี้ถูกปิดผนึกพลังด้วยยันต์อันทรงพลัง แม้แต่ผู้มีพลังระดับควบแก่นแท้ ถ้าเข้ามาในหอหลิงซวีก็ไม่ต่างจากคนธรรมดานับประสาอะไรกับฉู่เฉิน?สามารถกล่าวได้ว่าเกือบหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ห

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1023

    ฉู่เฉินมองไปยังธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มจางว่า “หากได้นอนหลับยาวอยู่ที่นี่ ชีวิตนี้จะต้องการสิ่งใดอีก”ขณะกล่าว ฉู่เฉินก็มองไปยังภูเขาเขียวขจีและน้ำใสสะอาดโดยรอบ ต้องยอมรับว่าสภาพแวดล้อมของสำนักชิงอวิ๋นนั้นดีจริงๆ แม้กระทั่งในอากาศยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่บริสุทธิ์แบบนี้ ในโลกมนุษย์แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วโดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่หน้าประตูสำนักที่สูงเสียดฟ้า แค่ดูต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ที่หลายคนก็โอบไม่รอบ อายุต้นไม้อย่างน้อยก็หนึ่งร้อยปีขึ้นแล้ว“คุณฉู่ช่างมองโลกในแง่ดีเสียจริง”ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋เดินไปตามทางเดินหินสู่ยอดเขากับฉู่เฉิน พลางกล่าวเยาะเย้ยไปด้วย“ที่นี่มีทั้งภูเขาเขียวขจีและน้ำใสสะอาด แล้วมีอะไรที่ต้องคิดมากอีกล่ะครับ?”ฉู่เฉินเดินทอดน่องไปพลาง มองไปรอบๆ ไปพลาง ราวกับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นไร้ตัวตนภาพนี้ทำให้เหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋นที่เห็นต่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟฉู่เฉินคนนี้มันไม่ได้เสียสติธรรมดาแล้ว ทำตัวราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นยังไงอย่างนั้นแม้แต่ธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเอง เมื่อเห็นท่าทีโอหังของฉ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1022

    ในบ่ายวันนั้น ฉู่เฉินก็ถูกพาไปถึงหน้าประตูของสำนักชิงอวิ๋นสำนักชิงอวิ๋นได้ก่อตั้งมานานกว่าร้อยปีแล้ว และในสายตาของผู้บำเพ็ญพรตธรรมดา เรียกได้ว่าเป็นการดำรงอยู่ราวกับทวยเทพในช่วงเกือบหนึ่งร้อยปีนี้ สำนักชิงอวิ๋นมีผู้มีความสามารถมากมายปรากฏตัวขึ้น และยังเคยมีผู้มีพลังระดับทารกวิญญาณอีกด้วยเหตุนี้ยิ่งทำให้สำนักชิงอวิ๋น ดูมีความลึกลับมากขึ้นไปอีกและในช่วงที่ฉู่เฉินเดินมาถึงตีนเขา ทั้งสำนักชิงอวิ๋น ก็ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ศิษย์สำนักชิงอวิ๋นจำนวนไม่น้อยต่างถือกระบี่จ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธ“คนแซ่ฉู่กล้าจริงๆ ““ครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะต้องล้างแค้นให้ศิษย์พี่ใหญ่ให้ได้”เมื่อเผชิญหน้ากับจิตสังหารของเหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋น ฉู่เฉินกลับไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย เงยหน้ามองไปยังยอดเขาหลักด้านหลังสำนักชิงอวิ๋น“เจ้าหนุ่มนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ “บรรดาผู้เฒ่าในสำนักชิงอวิ๋น ยืนอยู่กลางเชิงเขา ใช้สายตาพิจารณามองไปที่ฉู่เฉินอย่าพูดว่าฉู่เฉินเป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระจากโลกมนุษย์ แม้แต่เจ้าแห่งขุนเขาหรือเจ้าสำนักของภูเขาสือว่าน เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่น ก็ยากที่จะรักษาความสงบได้เช่นเดียวกับฉู่เฉิ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1021

    “เดี๋ยวก่อน!”หลิงเสวี่ยเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังขึ้นจากด้านหลัง“ทำไม คุณกลัวแล้วเหรอ?”หลิงเสวี่ยค่อยๆ หันกลับมา มองสำรวจฉู่เฉินด้วยสีหน้าดูถูกฉู่เฉินกลอกตาใส่หลิงเสวี่ย พร้อมกล่าวเสียงเย็นว่า “คุณเอาแต่บอกให้ผมไปที่สำนักชิงอวิ๋น แล้วไม่คิดจะนำทางไปหน่อยเหรอ? ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าประตูภูเขาของสำนักชิงอวิ๋นเปิดไปทางไหน?”ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา หลิงเสวี่ยก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยท่าทางของฉู่เฉินดูมั่นใจมาก หรือว่าฉู่เฉินจะมีแผนสำรองอยู่?แต่สำนักชิงอวิ๋นก็ถือเป็นสำนักใหญ่ อีกทั้งท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นยังเป็นยอดฝีมือระดับควบแก่นแท้ขั้นที่สอง ต่อให้ฉู่เฉินเก่งกล้าขนาดไหน ก็คงยากที่จะมีชีวิตรอดออกมาจากสำนักชิงอวิ๋น?ใครให้ความกล้ากับเขา ถึงได้ทำตัวมั่นอกมั่นใจขนาดนี้?ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลิงเสวี่ยจึงยิ้มบางๆ กล่าวว่า “พรุ่งนี้เช้า ฉันจะส่งคนไปรับคุณ”กล่าวจบ หลิงเสวี่ยก็หันหลังเดินจากไป ฉู่เฉินมองแผ่นหลังอันเย้ายวนของหลิงเสวี่ย ก่อนเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเมื่อได้ยินว่าฉู่เฉินกำลังจะไปที่สำนักชิงอวิ๋น ในขณะนั้น พี่น้องตระกูลต้วนและอินซู่ซู่น

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1020

    ซี้ดๆ!ผีดิบเลือดคลั่งระดับสูงสุด?!แม้แต่ซ่งหนิงซวงยังลอบตกตะลึงในใจเมื่อเห็นเจ้าทึ่มเดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร ซ่งหนิงซวงก็หันมองไปทางห้องรับแขกของฉู่เฉินด้วยสายตาขุ่นเคือง จากนั้นเดินออกจากวิลล่าเฟิ่งหมิงไปด้วยความโมโหจนกระทั่งซ่งหนิงซวงเดินไปไกล อวี้ลู่ค่อยๆ เดินออกมาจากหลังฉากกั้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะกล่าวกับฉู่เฉินว่า “ฉู่เฉิน เจ้าไม่ควรปฏิเสธข้อเสนอของนางอย่างเด็ดขาดเช่นนั้น”“ยามนี้ข้าเองพลังไม่มั่นคง ไม่อาจช่วยอะไรเจ้าได้เลย ถ้าสองสำนักใหญ่คิดเล่นงานเจ้าจริงๆ เกรงว่าเจ้าคงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้”ได้ยินดังนั้น ฉู่เฉินกลับหัวเราะเสียงเบา กล่าวว่า “เป็นผู้ชายสูงเจ็ดฟุตแท้ๆ ยังต้องให้ผู้หญิงมาปกป้องอีกเหรอ? ดูถูกกันอยู่หรือไง?”อะไรนะ?พอได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาคู่สวยของอวี้ลู่ก็หรี่ลงเล็กน้อย ใบหน้าเล็กซีดขาวและกล่าวว่า “เจ้าอย่ามาไม่รู้จักดีชั่วนะ ข้า... ข้าก็หวังดีต่อเจ้า!”ฉู่เฉินกลอกตามองอวี้ลู่ ก่อนจะถ่มน้ำลายกล่าวว่า “เพื่อผมงั้นเหรอ?”“ถ้าหวังดีกับผมจริง ก็ไม่ควรยุให้ผมไปล้างเท้าให้พวกยายแก่จากสำนักจื่อเซียวนั่นสิ!”แม่ง!อวี้ลู่เกลียดจนกัดฟ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 1019

    อีกด้านหนึ่งในสำนักเทียนเยว่ ตอนนี้บรรยากาศตึงเครียดอย่างถึงที่สุดแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าข่าวนี้แพร่กระจายมาจากไหน แต่ชัดเจนว่าเป็นการยุยงให้แตกแยกกัน“นี่มันชัดเจนว่าเป็นการใส่ร้ายสำนักเทียนเยว่ของเรา!”ไป๋เหมยพูดโกรธจนแก้มแดงก่ำ ลูกตาแทบจะถลนออกมาขณะนี้ชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปีคนหนึ่งนั่งอยู่กลางห้องโถงใหญ่ สวมชุดคลุมสีขาว ใบหน้าเคร่งขรึมราวกับน้ำนิ่งและสง่างามอย่างหาที่เปรียบมิได้ สีหน้าก็ดูไม่สู้ดีเช่นกันคนคนนี้คือเจ้าสำนักเทียนเยว่ หลินเทียนชิงเมื่อได้ยินข่าวนี้ หลินเทียนชิงจึงได้รวบรวมเหล่าผู้อาวุโสหลายท่านของสำนักเทียนเยว่และเหล่าศิษย์ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดนับสิบคนมาหารือที่ห้องโถงใหญ่เมื่อเห็นหลินเทียนชิงมีสีหน้าไม่น่าดูนัก ไป๋เหมยจึงลุกขึ้นก่อน เดินไปยังผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในห้องโถงใหญ่และกำหมัดคารวะ “เจ้าสำนัก ฉันจะไปชี้แจงกับสำนักว่านเจี้ยนและสำนักชิงอวิ๋นให้ชัดเจนค่ะ”หลินเทียนชิงส่ายศีรษะและกล่าวว่า “พูดมากเกินไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เพียงจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง ไม่มีความจำเป็นต้องเสียแรงเปล่า”กล่าวถึงตรงนี้ หลินเทียนชิงหันไปมองทุกคนรอบตัวแล้วกล่าวว่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status