สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ทั่วทั้งห้องรับรองเงียบสงัดทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก!พวงแก้มของกู้รั่วเสวี่ยแดงเรื่อฉู่เฉินคิดจะให้พ่อของเธอยกเธอให้เขาจริงๆเธอยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยนะกู้เหวินไห่เองก็หน้าดำคร่ำเครียด เขาลังเลอยู่นานมากฉู่เฉินพูดขึ้น “ผู้นำตระกูลกู้ อย่าลังเลเลย คุณเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”“ผมขอบอกคุณชัดๆ ตรงนี้เลยว่า บนโลกนี้ คนที่ช่วยภรรยาคุณได้ มีแค่ผมฉู่เฉินคนเดียวเท่านั้น!”กู้เหวินไห่กัดฟัน เขาไม่ลังเลอีกต่อไป คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุบ ก่อนจะอ้อนวอนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมเลอะเลือน ได้โปรดช่วยชีวิตภรรยาของผมด้วย”“ขอแค่ช่วยภรรยาของผมได้ ผมยอมยกลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนให้คุณ”“คุณพ่อ…” กู้รั่วเสวี่ยพึมพำเรียกพ่อของเธออย่างกระมิดกระเมี้ยนฉู่เฉินวางแก้วชา และยิ้มตอบเล็กน้อย “ได้ เห็นแก่หน้ารั่วเสวี่ย ผมจะช่วยเอง ลุกขึ้นเถอะครับ”กล่าวจบ ฉู่เฉินลุกเดินไปทางห้องนอนกู้เหวินไห่เดินตามไปติดๆกู้รั่วเสวี่ยก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน เธอถามว่า “คุณพ่อ เมื่อกี้คุณพ่อพูดเล่นใช่ไหมคะ?”กู้เหวินไห่ตัดบททันที “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าเขาช่วยแม่ของลูกได้จริง ก็แสดงว่าเจ้าห
ด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉู่เฉินออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้ ก็มุ่งไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ครั้นเห็นบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ในสภาพซอมซ่อ บวกกับกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากไม้เน่าลอยมาแตะจมูก ฉู่เฉินอดทอดถอนใจไม่ได้บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็กของฉู่เฉินตั้งแต่ที่พ่อแม่หายตัวไป ฉู่เฉินก็แอบสืบอย่างลับๆ มาตลอด หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่แม่บุญธรรมของเขา หลิ่วชิงเหอ!ในตอนที่ฉู่เฉินตั้งใจจะโจมตีหลิ่วชิงเหอ เขาก็ถูกลอยแพเสียก่อน! จากนั้น เรื่องราวก็เป็นอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาถูกสองแม่ลูกขังไว้ในห้องอาบน้ำของคฤหาสน์ เพียงแวบเดียว เขาก็ถูกทรมานมานานถึงสามปีเต็ม!“หลิ่วชิงเหอ หวังว่าเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันหายตัวไปจะไม่เกี่ยวกับเธอนะ! ถ้าฉันสืบเจอว่าเป็นลูกไม้สกปรกของเธอ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา ในดวงตาตาสุกใสสะท้อนแววเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกฉู่เฉินเก็บกวาดบ้านอย่างง่ายๆ จากนั้นก็ตั้งป้ายวิญญาณสองป้ายไว้ในบ้านให้พ่อแม่ของเขาผ่านมาหลายปีแล้ว พ่อกับแม่อาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ ในฐานะลูกชาย เขาควรกราบไหว้หลังจากคำนับสามครั้ง ฉู่เฉินจัดการทำความสะอา
“โอ๊ย! สารเลว! แกปล่อยฉันนะ! แกกล้าทำเรื่องน่าขยะแขยงเช่นนี้กับฉัน ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!” ป้าอู๋ร้องออกมาด้วยความตกใจเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะกล้าลงมือกับเธอเช่นนี้เจ้าคนสารเลว!โครม...หลังจากนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้นมาจากห้อง พร้อมทั้งเสียงร้องขอชีวิตของป้าอู๋“ฉู่เฉิน อย่า ฉันขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”อย่างไรก็ตาม หลังจากขอความเมตตาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นมาเป็นระยะ และในช่วงท้ายของการขอความเมตตาของป้าอู๋ ก็กลายเป็นเสียงครวญครางที่ส่งเสียงดังราวกับอารมณ์เร่าร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ 20 กว่าปี แค่ครู่เดียวก็ปลดปล่อยออกมา!หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเดินออกมาด้วยหน้าระรื่นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “หากไม่ใช่เพราะป้า ผมคงไม่มีโอกาสอย่างนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะปล่อยป้าไปแล้วกัน รีบไสหัวไปซะ!”ภายในห้องป้าอู๋นอนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าถูกฉีกไม่เป็นชิ้นดี ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยว โดยเฉพาะบั้นท้ายที่เธอภาคภูมิใจนั้นเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ!เธอกัดฟันโกรธ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น“ไอ้เดรัจฉาน! แกรังแกฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ป้าอู๋สบถออกมารุนแรง ฝืนร่างกายล
เฉาถิงถิงล้มลงไปที่พื้น เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ เจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย“แกเป็นใคร? กล้าลงมือตีฉัน!” เฉาถิงถิงงุนงง หลังจากนั้นถึงจะก่นด่าด้วยคำหยาบคายขึ้นมาฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ผมก็คือคนที่คุณพร่ำปากว่าเป็นฉู่เฉินไอ้ผีไง”ฉู่เฉิน?เฉาถิงถิงตกใจ หลิวเฉียงที่ล้มอยู่กับพื้นก็ตะลึง รีบลุกขึ้นมา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือพี่เฉินเหรอ? คุณเป็นพี่เฉินจริงๆ ใช่ไหม! พี่ยังไม่ตาย ดีจริงๆ ...”ฉู่เฉินยิ้ม และตบไหล่ของหลิวเฉียงที่กำลังเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเอง”“ฉู่เฉินเหรอ? แกไม่ตายจริงๆ ด้วย!” เฉาถิงถิงร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นใช้สายตาชั่วร้ายจ้องมองไปที่เขา พูดอย่างเย็นชาว่า “กล้าตีฉันเหรอ? แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะทำให้พวกแกสองตัวรู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำ!”ฉู่เฉินได้ยินเช่นนั้น พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “งั้นเหรอ? งั้นผมก็ขอลองดูสักตั้ง ลองดูซิว่าคุณจะทำให้ผมสำนึกได้ไหม!”หลิวเฉียงได้ยินเช่นนี้ ในใจอึ้งไปหมด รีบรุดเข้าไปห้าม พูดพร้อมกับรั้งฉู่เฉินว่า “พี่เฉิน ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”ฉู่เฉินกวาดสายต
“ที่รัก! จัดการมัน รีบจัดการมันสิคะ!”เฉาถิงถิงพูดคะยั้นคะยออยู่ข้างๆ เธอหวังแต่เพียงว่าจ้าวหู่จะบดขยี้ฉู่เฉินและหลิวเฉียงลงไปที่พื้นทันที!จ้าวหู่ทำราวกับไม่ได้ยิน รีบวิ่งไปข้างหน้า โค้งตัวลงไป “คุณคือคุณฉู่ ฉู่เฉินใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้ว พยักหน้าตอบ “ใช่”“แหมๆ คุณฉู่จริงด้วย สวัสดีครับๆ ผมชื่อจ้าวหู่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารร้านนี้ ขอโทษที่ไม่ได้มาต้อนรับนะครับๆ”จ้าวหู่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่นับถือและประจบประแจงภาพนี้ทำให้ฉู่เฉินงุนงงเล็กน้อยหลิวเฉียงก็เช่นกันคนที่ตกตะลึงและสับสนที่สุดคือเฉาถิงถิง“ที่รัก คุณทำอะไรเนี่ย? คุณฉู่อะไรกัน? คุณบ้าไปแล้วเหรอ? เขาคือไอ้คนเหลือขอที่ตบตีฉันเมื่อกี้นะคะ! คุณรีบจัดการมันสิ!”เฉาถิงถิงพูดอย่างร้อนรน กระทืบเท้า หน้าอกใหญ่และอวบอิ่ม ก็สั่นขึ้นลงทันที“เพียะ!”เป็นผลให้จ้าวหู่หันหลังกลับมาไปและตบเข้าไปที่หน้าเฉาถิงถิง และดุว่า “อวดดี! ไอ้คนเหลือขอเหรอ? เขาคือคนที่ผมบอกคุณว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่ผู้นำตระกูลกู้ยังต้องเคารพ!”“ฉู่เฉิน คุณฉู่!”“คุณยังไม่รีบมาขอโทษคุณฉู่อีก!”จ
ฉู่เฉินหัวเราะอย่างนึกสนุกและพูดว่า “ผู้จัดการจ้าวไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?"คิ้วของจ้าวหู่ขมวดมุ่น ฉู่เฉินยังคงพูดต่อว่า “ตอนนี้ผู้จัดการจ้าวอายุสี่สิบแล้วใช่ไหมครับ หลายปีมานี้ที่มีลูกไม่สำเร็จ ไม่เคยสงสัยตัวเองเหรอ?”“หากคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดูได้”“เมื่อถึงเวลานั้น เด็กในท้องใช่หรือไม่ใช่ลูกของคุณ ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจเองนะครับ”จ้าวหู่ได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกัดฟันพูดว่า “ได้! หวังว่าที่คุณฉู่พูดจะถูกต้องนะครับ หากผมไม่ได้มีปัญหาจริงๆ ล่ะก็ คุณฉู่ต้องคิดผลลัพธ์ให้ดีนะครับ!”พูดเสร็จ จ้าวหู่ก็หมุนตัวออกไปจากร้านอาหารเฉาถิงถิงเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ร้อนรนขึ้นมารั้งจ้าวหู่ “ที่รัก ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ ให้พวกเขาไปเถอะค่ะ”จ้าวหู่คิ้วขมวดอีกครั้ง เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฉาถิงถิง ในใจเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา“ไม่ได้ พวกเขาลบหลู่ผมได้ แต่จะมาลบหลู่ลูกของผมจ้าวหู่ไม่ได้!” จ้าวหู่พูดอย่างเย็นชา เดินหันหลังออกไป มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำการตรวจ หลังผลตรวจออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนขั้นสุด!ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต!หลังจากนั้นเขาก
ฉู่เฉินนั่งขัดสมาธิ จนถึงช่วงเวลาเย็นของอีกวันหนึ่งฉู่เฉินลืมตาขึ้นมา พรูลมหายใจหยาบแล้วก็กำหมัด รู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง!จากนั้นฉู่เฉินก็ยืนขึ้น เพียงก้าวออกไปก็เคลื่อนตัวไปด้านข้างสองเมตร!เป็นความเร็วที่รวดเร็วมาก!จากนั้นเขาก็ต่อยออกไป และเสียงที่ทะลุผ่านอากาศก็ทำให้ได้ยินเสียงอึกทึกกำแพงที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ภายใต้การโจมตีของหมัด ก็พังทลายเป็นราบกองแข็งแกร่ง!ฉู่เฉินดีอกดีใจ!ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องกังวลว่าจะไม่สามารถโล่นแล่นในเจียงจงได้!หลิ่วชิงเหอ หลิ่วหรูเยียน พวกเธอรอก่อนเถอะ ฉันจะแก้แค้นพวกเธอให้สาสมฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะกลับมาอยู่ในมือของฉู่เฉินอีกครั้งถอนหายใจออกมา ฉู่เฉินรับโทรศัพท์จากกู้รั่วเสวี่ย“หมอเทวดาฉู่ คุณอยู่ที่ไหนคะ?” กู้รั่วเสวี่ยถามด้วยรอยยิ้มฉู่เฉินบอกที่อยู่ของตัวเองไปไม่นานเฟอร์รารี่สีแดงสุดเท่ เสียงมอเตอร์ดังมาจากระยะไกลและหยุดอยู่หน้าบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ประตูรถถูกเปิดออก กู้รั่วเสวี่ยสวมกระโปรงยาวถึงเข่าสีแดงเพลิงและแว่นกันแดด ก้าวลงจากรถด้วยขาเรียวสีขาวแล้วจึงออกมา งดงาม!ท่าทางสง่างามนี่มันระดับเทพธิ
โครม!เสียงดังสนั่นหวั่นไหว!สายตาของทุกคน หันไปมองฉู่เฉินที่อยู่ในมุมเป็นตาเดียวกันเต็มไปด้วยความสงสัย ตกตะลึง โกรธแค้น เหยียดหยามแล้วก็สะใจเกิดเรื่องอะไรขึ้น?เจ้าหมอนี่เป็นใครกันกล้าพูดจาแบบนี้ออกมาในงานเลี้ยงการแพทย์ของตระกูลกู้ อยากตายใช่ไหม!กู้รั่วเสวี่ยรีบกล่าวเตือนเสียงเบา “หมอเทวดาฉู่ คำบางคำอย่าพูดมั่ว ๆ จะดีกว่า นั่นคืออดีตผู้บัญชาการเว่ยของเขตทหารระดับมณฑลเลยนะ เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในมณฑล เป็นคนที่มีอำนาจล้นฟ้า ต่อให้เป็นตระกูลกู้ของฉัน ก็ยังให้ความเคารพเขา...”หญิงสาวที่มีรูปร่างอรชร บุคลิกเย็นชาโดดเด่นข้างเว่ยหนานเฟิงคนนั้น ท่าทางอายุราว ๆ นี่สิบสี่ถึงยี่สิบห้าปี ในเวลานี้ก็ขมวดคิ้วสวยเช่นเดียวกัน จ้องมองฉู่เฉินด้วยความไม่พอใจมากนี่ใคร?กล้าพูดจาแบบนี้ ต่อหน้าคุณปู่ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริง ๆสินะ!ส่วนหลิ่วหรูเยียนที่อยู่บนเวที ในเวลานี้ที่ได้ยินคำพูดของฉู่เฉิน สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที แทบอยากจะฉีกฉู่เฉินเป็นชิ้น ๆ!“ฉู่เฉิน! แกหมายความว่ายังไง? แกกำลังสงสัยในยาอายุวัฒนะที่ฉันคิดค้นอย่างนั้นเหรอ?”หลิ่วหรูเยียนตำหนิด้วยความไม่พอใจ คิ้วงามขมวดย่น
กล่าวเสร็จหานอวี้ก็หันกายเดินไปทางหลังจวน เพิ่งจะถึงประตูก็หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน แล้วหันกลับมากล่าวกับซ่งหนิงซวงว่า “ใช่แล้ว ศิษย์น้องเจ็ด ใบรับรองอะไรนั้นรีบส่งมาให้ฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นการเข้า ๆ ออก ๆ จะสะดุดตาเกินไป”ซ่งหนิงซวงได้ยินแล้วก็ยิ้มยิงฟัน และเอาเล่มเล็ก ๆ สีฟ้าออกมายื่นให้หานอวี้พร้อมกล่าว “นี่เป็นใบรับรองแพทย์ส่วนตัวของฉัน รับไปสิ ศิษย์พี่ไม่เพียงเข้าออกจวนขุนพลได้อย่างสะดวก สถาบันทางการแพทย์ใหญ่ ๆ แต่ละแห่งก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเช่นกัน”“ไม่เลวเลยทีเดียว”หานอวี้รับเอกสารมา และกล่าวพร้อมโบกมือให้ซ่งหนิงซวง “เดินทางระวังด้วยล่ะ ฉันได้ยินว่าตอนนี้คนจากวังเทียนเจี้ยนก็อยู่ที่มณฑลเจียงเช่นกัน ไม่มีเรื่องได้ก็อย่ามีเรื่องจะดีที่สุด”กล่าวเสร็จหานอวี้ก็รีบเดินไปยังด้านในที่พักซ่งหนิงซวงมองแผ่นหลังของหานอวี้อย่างเนิ่นนานแล้วจึงกวักมือเรียกทหารหญิงคนหนึ่งมาและกล่าว “ให้หลิ่วชิงเหอรีบมาถึงและรอที่ห้องโถงรับรองจวนขุนพล บ่ายวันนี้ร่วมเดินทางกลับไปยังเจียงจงพร้อมกับฉัน”“รับทราบค่ะ!”ทหารหญิงขานรับแล้วรีบวิ่งออกไปจากจวนขุนพลซ่งหนิงซวงก็กลับเข้าห้องของตัวเอง เปลี
หยกโลหิตกิเลน?ซ่งหนิงซวงหน้าซีดไปเล็กน้อยและส่ายหน้ากล่าว “ศิษย์พี่ ก่อนที่ท่านอาจารย์จะจากไปก็ได้กำชับพวกเราแล้วว่าห้ามโลภในหยกโลหิตกิเลนเด็ดขาด”“พวกเราแค่ต้องการน้ำยาจากตระกูลฉู่มาหลอมเป็นยาโลหิตวิญญาณก็เพียงพอแล้ว หากหยกโลหิตกิเลนนำพาหายนะมาให้กับสำนักขึ้นมา เกรงว่าพวกเราจะไม่สามารถอธิบายแก่ท่านอาจารย์ได้”คนที่โลภในหยกโลหิตกิเลนนั้นมีมากมาย แม้แต่วังเทียนเจี้ยนก็อาจจะเป็นเพียงกลุ่มหนึ่งในนั้นที่ไม่โดดเด่นที่สุด“แม้ว่าอาจารย์จะเคยกล่าวไว้ แต่ไม่ได้บอกว่าห้ามให้คนตระกูลฉู่เข้าร่วมสำนักวังจื่อเซียวของพวกเรานี่”คิ้วสวยโก่งราวกับพระจันทร์เสี้ยวของหานอวี้ บวกกับริมฝีปากสีแดงตวัดขึ้นเล็กน้อยทำให้เผยรอยยิ้มที่สดใสเธอคือเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับการแพทย์การรักษามากที่สุดในหมู่ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งเจ็ดคนอีกทั้งได้ยินว่าฤทธิ์ของหยกโลหิตกิเลนก็มีสรรพคุณมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือสามารถปรับเปลี่ยนร่างคนธรรมดาได้เธอไม่เชื่อหรอกนะว่าฉู่เฉินจะมีกายาโอสถสวรรค์ ไม่แน่ว่าหยกโลหิตกิเลนอาจเป็นตัวทำให้คุณสมบัติทางร่างกายของฉู่เฉินเกิดการพลิกผันขึ้นมาถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาศึกษาวิจัยแล้วละก็ อาจจ
“ครับ คุณฉู่ต้องการอะไรในอนาคตก็สั่งมาได้เลยนะครับ ต่อให้ผมจะทำไม่ได้ ทุกคนในสำนักก็จะพยายามสุดความสามารถอย่างแน่นอนเช่นกันครับ”หลี่ว์เจิ้งตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อจนกระทั่งแผ่นหลังของเขาได้ออกไปจากหยางวิลล่าเฟิ่งหมิงแล้วถึงแม้ว่ารากพลังของเขาจะถูกทำลาย แต่ก็ยังมองออกว่ากลิ่นอายรอบกายของฉู่เฉินนั้นแข็งแกร่งถึงขั้นที่ว่าน่าสะพรึงเลยทีเดียวอย่างน้อยแม้แต่เจ้าสำนักนางในยังไม่เคยทำให้เขารู้สึกถึงแรงกดดันอันน่ากลัวเช่นนี้มาก่อนแต่สองเดือนก่อนหน้านี้ ฉู่เฉินยังเป็นแค่ตัวประกอบเล็ก ๆ ระดับฝึกปราณชั้นหกเท่านั้นเองนะความรวดเร็วในการพัฒนาแบบนี้สามารถอธิบายด้วยคำว่าสัตว์ประหลาดได้เลยจริง ๆ……อีกด้านหนึ่ง จวนขุนพลเทียนเฟิ่งเมืองอวิ๋นเฉิงที่ห่างจากมณฑลเจียงไม่ถึงร้อยลี้ขณะนั้นเองบนตำแหน่งบนสุดของห้องโถงนั้นมีสาวงามนั่งตัวตรงสง่าท่าทางห้าวหาญซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคนเป็นขุนพล และรูปร่างก็เรียกได้ว่าสวยงามมากเช่นกันสวมชุดขุนพลเทียนเฟิ่งกับรองเท้าบู๊ตต่อสู้เทียนเฟิ่ง ก็มีออร่าน่าเกรงขามโดยที่ไม่จำเป็นรอตอนเวลาโกรธถึงจะมีเธอก็คือหนึ่งในขุนพลหลักทั้งแปดของแดนมังกร ซึ่งเป็นขุนพลเทียนเฟิ่งที
“เอ่อ…ส่งยาควบคุมสตรีของแกมาให้ฉันอีก ยิ่งมากยิ่งดี”กล่าวจบฉู่เฉินก็ส่งที่อยู่วิลล่าเฟิ่งหมิงไปให้หลี่ว์เจิ้งหยางหลี่ว์เจิ้งหยางที่อยู่ปลายสายอีกด้านได้ยินแล้วก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกและกล่าว “คุณฉู่โปรดวางใจ มากสุดแค่หนึ่งชั่วโมง ผมจะเอาไปส่งให้ด้วยตัวเองเลยครับ”ขอแค่ฉู่เฉินไม่มาหาเรื่องเขา ต่อให้เอาชิ้นส่วนในร่างกายเขาไปดองเหล้า หลี่ว์เจิ้งหยางก็มอบให้ได้โดยไม่ลังเลสักนิดหลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเพิ่งจะถึงวิลล่าเฟิ่งหมิง หลี่ว์เจิ้งหยางก็วิ่งอย่างบ้าคลั่งเข้ามาทันทีที่เห็นฉู่เฉิน หลี่ว์เจิ้งหยางก็ก้มศีรษะและพูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจงว่า “สวัสดีครับคุณฉู่ นี่คือยาที่คุณต้องการ ถ้ายังไม่พอละก็ผมยังสามารถขอให้ท่านอาจารย์หลอมขึ้นมาเพิ่มได้อีกนะครับ”คำพูดนี้เปล่งออกมาแล้วทำให้ฉู่เฉินถามด้วยความค่อนข้างงงงวยอย่างห้ามไม่อยู่ “ให้อาจารย์ของแกหลอมเพิ่มได้?”“ใช่ ใช่ ใช่ คุณฉู่อย่าได้คิดมาก วีรกรรมของคุณแพร่กระจายไปเกือบครึ่งในเมืองเจียงจงแล้วครับ สำนักนางในของพวกเราเคารพและนับถือคุณมาก ช่างราวกับน้ำไหลเชี่ยว…”ฉู่เฉินโบกมืออย่างรำคาญ แล้วชำเลืองมองโถใบใหญ่ที่หลี่ว์เจิ้งห
“แดนมังกรของพวกเรามีคำพูดที่ว่า สิ่งที่หูได้ยินอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง สิ่งที่ตาเห็นต่างหากจึงจะเป็นเรื่องจริง”กล่าวแล้วฉู่เฉินก็ยกตะเกียบอันหนึ่งจากโต๊ะแล้วสะบัดมือจนตะเกียบพุ่งทะลุกำแพงห้องข้าง ๆ ทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นจูงมือลีน่ามายังข้างผนังกำแพง แล้วชี้ไปยังรูบนกำแพงพร้อมยิ้มบางกล่าว “ได้เห็นก็จะรู้เอง”ลีน่าประหลาดใจกับทักษะของฉู่เฉินในขณะเดียวกันกับมองผ่านรูเล็ก ๆ นั้นโดยไม่อาจต้านทานความอยากรู้อยากเห็นได้ เมื่อมองแวบแรกแม้แต่ลีน่าก็สับสนอย่างสิ้นเชิงในที่สุดตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรถึงได้เสนอความต้องการแบบนั้นกับบริกรเมื่อสักครู่นี้ไปต่อให้ลีน่าอยู่กับแรนด์มาสองปีแล้วก็ยังไม่เคยเห็นแรนด์ที่บ้าคลั่งปลดปล่อยถี่อย่างลืมตัวลืมตนขนาดนั้นมาก่อน มองเป็นเวลาสิบวินาทีแล้วลีน่าก็หันหน้ามามองฉู่เฉิน จากนั้นยิ้มร้ายกล่าว “คุณฉู่ คุณทำแบบนี้กับเขา ไม่กลัวว่าหลังจากนี้เขาจะ…”ฉู่เฉินได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ถึงกับเงยหน้าหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่ “วางใจได้เลย รอฤทธิ์ยาหมดลง เขาก็จะจำอะไรไม่ได้…”ในขณะที่กล่าวฉู่เฉินก็จดจ้องริมฝีปากเซ็กซี่นั้นของลีน่า แล้วกดบ่าของลีน่าอย่างเบามือ
สีหน้าของแรนด์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อหลังยาควบคุมสตรีสองเม็ดนั้นลงท้อง ไม่ถึงสองนาที แม้แต่ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด“เฮือก…เฮือก…”เมื่อเห็นต่อหน้าต่อตาว่าแรนด์หอบหายใจหนักยกใหญ่ ลีน่าก็เริ่มกลัวขึ้นมาเช่นกัน จึงโน้มตัวไปกล่าวข้างหูฉู่เฉินอย่างระมัดระวังว่า “คุณฉู่ สามีของฉันเขา…เขาคงจะไม่ถูกยาพิษหรอกใช่ไหม?”ดูยังไงแรนด์ในตอนนี้ก็ดูไม่ปกติสุด ๆดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งตรง ๆ ราวกับปลาตาย มองแล้วก็น่ากลัวจริง ๆฉู่เฉินชำเลืองมองแรนด์แล้วยิ้มอ่อนกล่าว “ไม่เป็นไร เขากำลังอุ่นติด”อะไรนะ?“อุ่นติด?”ลีน่ารู้สึกว่าสมองเธอเหมือนใช้การไม่ได้ขึ้นมาบ้างเล็กน้อยในทันใด คนเป็น ๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่เครื่องจักร อุ่นเครื่องบ้าบออะไรกันน่ะ“เพียะ!”ฉู่เฉินปรมมือเบา ๆ ในไม่นานบริกรสาวสวยในชุดกระต่ายสาวก็ผลักประตูเข้ามา“คุณผู้ชายท่านนั้นไม่ทราบว่าต้องการอะไรหรือเปล่าคะ?”ฉู่เฉินชำเลืองมองบริกรสาวสวยในชุดกระต่ายสาวนั้นแล้วยิ้มร้าย “เปิดห้องข้าง ๆ อีกหนึ่งห้อง แล้วช่วยคุณผู้ชายท่านนี้หาผู้หญิงมีอายุมาเป็นเพื่อนกินอาหารด้วยนะครับ”ฉู่เฉินใช้นิ้วชี้ไปยังแรนด์ในขณะพูดบริกรได้
ในขณะกล่าวลีน่าก็โยนสเต๊กในมือของเธอลงบนจานโดยตรง ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันจะไปห้องน้ำด้วย คุณก็คิดหาวิธีเรื่องสัญญาเอาเองแล้วกัน”กล่าวจบเธอก็ออกจากห้องส่วนตัวไปอย่างไม่สบอารมณ์แรนด์อึ้งอยู่ที่เดิมสักพักหรือว่าเขาจะเข้าใจผิดไปจริง ๆ?เมื่อนึกได้ว่าเมื่อกี้ลีน่าช่วยเขาพูดตลอดเวลา แรนด์ก็เกิดความรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูกถึงแม้ลีน่าเป็นผู้หญิงหน้าเงิน แต่ในช่วงระยะเวลาสองปีมานี้ก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไรมาก่อน……อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับลีน่า“ทำไมคุณฉู่เร็วขนาดนี้คะ?”ลีน่าชำเลืองมองฉู่เฉิน และกล่าวแบบสื่อความหมายอื่นฉู่เฉินล้างมือพร้อมยิ้มบาง ๆ กล่าว “คุณนายแรนด์ คุณคงจะไม่ได้คิดกินต่อหน้าต่อตาคุณแรนด์ใช่ไหมครับ?”ได้ยินดังนั้นลีน่าก็อึ้งไปก่อนตอนแรก จากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมายื่นแขนหยกเรียวยาวโอบรอบคอฉู่เฉิน จากนั้นกัดริมฝีปากเบา ๆ กล่าว “คุณฉู่ ที่จริงฉันมาเพื่อขอร้องให้คุณช่วยค่ะ”ฉู่เฉินเลิกคิ้วแล้วพยักหน้าเอ่ย “ช่วยอะไรเหรอ?”“คุณฉู่ ฉันได้ยินมาว่าคุณไม่เพียงเก่งในการศึกษาพัฒนาตัวยาใหม่ ๆ แต่ยังมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีอีกด้วย สาม
แรนด์เป็นคนเลือกห้องส่วนตัวนี้ด้วยความตั้งใจคัดสรรมาอย่างดีทันทีที่เข้าประตูมาก็จะเห็นเป็นห้องรับรองขนาดหลายร้อยตารางเมตร และที่ด้านหลังของห้องยังมีฉากกระจกบานหนึ่งซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลรินจากทางด้านหลังแน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ด้านหลังฉากกระจกน่าจะเป็นสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำ และยังมีห้องพักผ่อนหย่อนใจที่มีไฟสีชมพูอยู่ทางด้านข้างบริกรสาวสวยสวมบิกินี่ถุงน่องสีดำขาเรียวยาวต่างสไตล์หลายคนยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารตั้งแต่แรกเริ่มแล้วเมื่อเห็นฉู่เฉิน แรนด์ก็ฝืนฉีกยิ้มพร้อมลุกขึ้นและกล่าว “คุณฉู่ เชิญนั่งครับ”ฉู่เฉินกวาดสายตามองขาเรียวยาวที่สวมถุงน่องสีดำด้านข้างแล้วก็โบกมือกล่าว “ให้พวกเขาออกไปกันก่อนเถอะ เรื่องคุยธุระสำคัญกว่า”แรนด์ตะลึงไปเล็กน้อย ตามประสบการณ์ของเขา การรับรองแบบนี้ฉู่เฉินไม่น่าจะไม่ชอบนี่นาแต่เห็นท่าทีแน่วแน่ของฉู่เฉินแล้ว เขาก็โบกมือให้บริกรสาวสวยเหล่านั้น หลังจากนั้นทั้งสามก็นั่งล้อมโต๊ะ แรนด์จึงส่งสายตาให้ลีน่า ลีน่ารับรู้อย่างรู้ใจกันได้ในทันที จึงรินแอลกอฮอล์ให้ฉู่เฉินพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มบางเบาขึ้นว่า “คุณฉู่ เพื่อเป็นการคลี่คลายความเข้าใจผิดเมื่อสักครู่ของพว
ราวกับลีน่าได้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน เก็บมือที่อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างกลับมาแล้วยืนตัวตรงทันที จากนั้นสางผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยเมื่อประตูห้องเปิดออก ต้าหลิงจื่อที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่ก็โผล่หน้าออกมาชนเข้ากับลีน่าที่อยู่หน้าประตูเข้าอย่างจัง“ว้าย!”ต้าหลิงจื่อตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย ใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าและกล่าว “คุณ…คุณนายลีน่า คุณ…คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”ลีน่ายิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ฉันรอพวกคุณเกือบจะสองชั่วโมงแล้วล่ะ”กล่าวเสร็จไม่รอต้าหลิงจื่อตอบสนองใด ๆ ลีน่าก็ผลักประตูเข้าไปข้างในฉู่เฉินได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังก็เก็บกางเกงบ็อกเซอร์ขึ้นมาโดยไม่ลนลาน แล้วหันหลังใส่มันช้า ๆ จากนั้นหยิบบุหรี่หนึ่งในขึ้นมาจุดและกล่าวพร้อมชำเลืองมองลีน่า “มีธุระเหรอ?”ลีน่ามองสำรวจกล้ามเนื้อทั้งร่างกายของฉู่เฉินด้วยใบหน้าแดงก่ำและยิ้มน้อยกล่าว “คุณฉู่ สามีฉันคิดว่าการร่วมธุรกิจระหว่างพวกเรายังสามารถเจรจากันอีกได้ค่ะ”“เงื่อนไขสามารถปรับเปลี่ยนได้ อีกทั้งสภาพแวดล้อมในห้องทำงานก็เคร่งเครียดเกินไป เขาจึงจองห้องอาหารส่วนตัวที่ภัตตาคารไห่เฟิงไว้แล้ว หวังว่าคุณฉู่จะให้เกียรติมาร่