Share

บทที่ 8

สิ้นเสียง สองคนที่อยู่ในห้องนอนหันขวับไปทางฉู่เฉินและกู้รั่วเสวี่ยที่กำลังเดินเข้ามา

ซุนเซี่ยวเหรินหน้าคล้ำทันที เขาตำหนิอย่างไม่พอใจสุดๆ “เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! พูดจาเหลวไหลอะไรของเธอ! นี่เธอกำลังตั้งคำถามกับทักษะทางการแพทย์ของฉันงั้นรึ หรือว่าสงสัยในตัวยาเม็ดนี้? เธอรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร!”

ซุนเซี่ยวเหรินไม่สบอารมณ์อย่างมาก

เด็กเปรตนี่โผล่มาจากไหน ถึงได้กล้าเข้ามาตะคอกเขาอย่างนี้

กินยาอายุวัฒนะในมือเขา แล้วผู้ป่วยจะตายงั้นรึ?

เหลวไหลทั้งเพ!

ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้เขาศึกษามาหลายวันแล้ว มันคือยาบำรุงชั้นดี!

ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสี่เหลี่ยมเย็นชาแข็งกร้าว สายตาเคร่งขรึม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องฉู่เฉินแล้วตวาดเสียงต่ำ “เธอเป็นใคร? ใครให้เธอบุกเข้ามาที่นี่? ไสหัวออกไป! อย่ามาขัดขวางการรักษาของภรรยาฉัน!”

“คุณพ่อ เขาชื่อฉู่เฉินค่ะ เป็นหมอที่หนูพากลับมาเอง วิชาแพทย์ของเขาร้ายกาจมาก แม้แต่โรคกายเย็นของหนูเขาก็รักษาได้” กู้รั่วเสวี่ยรีบเข้ามาอธิบาย

ชายวัยกลางคนได้ยินก็ตะลึง “ลูกว่าไงนะ? เขารักษาโรคกายเย็นของลูกได้เหรอ? รั่วเสวี่ย ลูกอย่าโกหกพ่อนะ”

กู้เหวินไห่ พ่อของกู้รั่วเสวี่ย ผู้นำตระกูลกู้คนปัจจุบัน

“ค่ะ” กู้รั่วเสวี่ยพยักหน้า

กู้เหวินไห่ถึงกับต้องมองฉู่เฉินใหม่ เขาถามว่า “เธอรักษาโรคกายเย็นของลูกสาวฉันได้จริงเหรอ?”

“เรื่องนี้…”

ฉู่เฉินกระอักกระอ่วนและลังเลเล็กน้อย เขาครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนตอบว่า “ที่จริง ก็ไม่เชิงว่ารักษาหายแล้ว ยังต้องรักษาต่ออีกหลายครั้งครับ”

พูดจบ กู้รั่วเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ พลันหน้าแดง ในสมองมีภาพค่ำคืนสุดบ้าคลั่งผุดขึ้นมาอีกครั้ง

ยังต้องรักษาอีกหลายครั้ง?

ก็หมายความว่า เธอต้องมีค่ำคืนสุดบ้าคลั่งกับเขาอีกหลายคืน…

‘ว้ายๆๆ กู้รั่วเสวี่ย เธอกำลังคิดบ้าๆ อะไรของเธออยู่เนี่ย?’ กู้รั่วเสวี่ยแอบด่าตัวเองในใจ

เธอเป็นบ้าไปแล้ว

วันนี้ทั้งวัน สมองเอาแต่คิดเรื่องน่าอายพวกนั้นไม่หยุด

“ฮ่าๆๆ! ผู้นำตระกูลกู้ คุณอย่าไปฟังเด็กคนนี้พูดจาส่งเดช โรคกายเย็นไม่ได้รักษาง่ายขนาดนั้น ผมกล้ารับประกันได้เลยว่าคุณหนูกู้ต้องโดนหลอกแน่ๆ” ซุนเซี่ยวเหรินที่อยู่ข้างๆ หัวเราะถากถาง

กู้รั่วเสวี่ยไม่พอใจ รีบโต้กลับด้วยเหตุผล “หมอเทวดาซุน ฉันจะไม่รู้เชียวเหรอว่าเขาหลอกฉันอยู่หรือเปล่า?”

“โรคกายเย็นของฉันดีขึ้นเจ็ดแปดส่วนแล้วจริงๆ!”

“งั้นเหรอ? อย่างนั้นคุณหนูกู้บอกได้หรือไม่ว่าเจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้รักษาโรคกายเย็นของคุณหนูยังไง พอดีเลย ผมจะได้เรียนรู้ไปด้วย” ซุนเซี่ยวเหรินลูบหนวด พลางเอ่ยอย่างดูแคลนเต็มที่

“ฉัน…” กู้รั่วเสวี่ยสีหน้าประดักประเดิด

จะให้พูดออกไปได้ยังไงล่ะ หรือจะให้เธอพูดออกไปต่อหน้าพ่อ ว่าลูกสาวของเขานอนกับคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้า

หนำซ้ำยังต้องบอกว่านอนด้วยกันครั้งเดียว โรคกายเย็นก็ดีขึ้นถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว?

พูดออกไป ใครจะเชื่อ

“ทำไม คุณหนูกู้พูดไม่ออกเหรอ?” ซุนเซี่ยวเหรินหัวเราะในลำคอ แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

“ยังไงซะ ฉันก็ทดสอบวิชาแพทย์ของฉู่เฉินมาแล้ว ร้ายกาจมากจริงๆ! คุณพ่อ…” กู้รั่วเสวี่ยรีบร้อนกล่าว

“พอได้แล้ว! เหลวไหลสิ้นดี! รีบพาเด็กนี่ไสหัวออกไป! ที่นี่มีแค่หมอเทวดาซุนกับยาอายุวัฒนะที่ตระกูลหลิ่วมอบให้มาก็เพียงพอแล้ว!” กู้เหวินไห่เอ่ยเสียงเย็น กลัวว่าจะรบกวนเวลาซุนเซี่ยวเหรินในการรักษาโรคให้ภรรยาของเขา

ซุนเซี่ยวเหริน เขาเป็นถึงหมอเทวดาในเจียงจงชียวนะ!

หลิ่นหรูเยียนจากตระกูลหลิ่วก็ช่างมีน้ำใจ ไม่นึกว่าจะเชิญเขามาได้

กู้รั่วเสวี่ยยังอยากจะค้าน แต่เพียงสายตาเดียวของกู้เหวินไห่ก็ทำให้เธอเงียบ เขายื่นคำขาด “ออกไปเดี๋ยวนี้!”

ฉู่เฉินหัวเราะหยัน พูดอย่างไม่พอใจว่า “ในเมื่อผู้นำตระกูลกู้ไม่เชื่อ งั้นก็ช่างเถอะ แต่ขอเตือนด้วยความหวังดี ยาอายุวัฒนะในมือเขา ถ้าเอาให้ผู้ป่วยกิน ไม่เกินห้านาที ภรรยาของคุณต้องกระอักเลือดหมดสติ มีอันตรายถึงชีวิตแน่นอน!”

“แล้วก็มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าจะแก้พิษยังไง”

“ถึงตอนนั้นพวกคุณอย่ามาขอร้องผมก็แล้วกัน!”

พูดจบ ฉู่เฉินหมุนตัวเดินจากไปอย่างไม่พอใจ

ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่หน้ากู้รั่วเสวี่ย เขาก็ขี้คร้านจะมา มาแล้วต้องโดนด่าไม่เหลือชิ้นดีอย่างนี้อีก

กู้เหวินไห่ได้ยินก็ยิ้มเย็น พูดอย่างดูแคลนว่า “ขอร้องเธอ? เจ้าหนู เธอประเมินตัวเองสูงเกินไปหรือเปล่า!”

“มีหมอเทวดาซุนอยู่ทั้งคน ฉันยังต้องขอร้องเธออีก?”

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เธอกล้าพนันกับฉันไหม?”

“พนันอะไร?” ฉู่เฉินกำลังจะออกไป พอได้ยินก็หันกลับมาถามยิ้มๆ

กู้เหวินไห่จ้องฉู่เฉินด้วยแววตาคมกริบ ก่อนเอ่ยเสียงเย็นว่า “พนันในสิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้ไงล่ะ ถ้าภรรยาฉันกินยานี้แล้วกระอักเลือดหมดสติจริง ฉันกู้เหวินเสวี่ยไม่เพียงจะคุกเข่าขอร้องเธอให้ช่วย แต่จะยอมยกลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ของฉันให้เธอทันที!”

“แต่ ถ้าภรรยาของฉันกินยานี้แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหนู วันนี้ถ้าเธอคิดจะออกไปจากที่นี่ ต้องตัดแขนตัดขาเสียก่อน!”

“เป็นยังไง กล้าพนันไหมล่ะ?”

ฉู่เฉินฟังจบก็ยิ้มอย่างไม่ยี่หระ หันไปมองกู้รั่วเสวี่ยที่ตอนนี้กำลังหน้าแดงเหมือนลูกแอปเปิล ก่อนรับคำท้าว่า “ได้! วันนี้ ลูกสาวสุดที่รักของคุณ ผมฉู่เฉินจะขอรับไว้และนะ!”

พูดจบ ฉู่เฉินหมุนตัวเดินออกไป

กู้รั่วเสวี่ยเห็นอย่างนั้นก็รีบเดินตามไป ก่อนจะขอโทษอย่างรู้สึกผิด “คุณฉู่ ฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะ คุณพ่อก็เป็นอย่างนี้…”

“คุณกู้ คุณไม่ต้องขอโทษ ยังไงซะสภาพของผม เป็นใครก็คงไม่เชื่อหรอกว่าผมมีวิชาแพทย์” ฉู่เฉินยิ้มเรียบๆ “จริงสิ คุณอย่าเรียกผมว่าคุณฉู่เลย เรียกผมว่าฉู่เฉินก็พอ”

“ได้” กู้รั่วเสวี่ยยิ้มหวาน “งั้น คุณเรียกฉันว่ารั่วเสวี่ยก็พอ”

“นี่มัน…” ฉู่เฉินกระอักกระอ่วน

เรียกรั่วเสวี่ย จะฟังดูใกล้ชิดเกินไปหรือไม่

แต่พอนึกถึงเรื่องที่เมื่อคืนทั้งสองยังกอดกันกลม และพลิกไปพลิกมาด้วยร่างกายอันเปลือยเปล่า ถ้าจะเรียกว่ารั่วเสวี่ย ก็ดูเหมือนไม่เกินไป

ถ้าจำไม่ผิด เมื่อคืนกู้รั่วเสวี่ยเรียกเขาว่า ‘ที่รัก’ ตั้งหลายครั้ง มานึกดูตอนนี้ ฉู่เฉินอดรู้สึกอ่อนเรี่ยวอ่อนแรงไม่ได้ เลือดร้อนๆ เริ่มกระฉูดอีกครั้ง

“ฉันพาคุณไปพักผ่อนที่ห้องรับรองข้างๆ ครู่หนึ่งก่อน” กู้รั่วเสวี่ยพาฉู่เฉินไปพักที่ห้องรับรองด้านข้าง

เพิ่งจะนั่งลง เธอก็ถามอย่างไม่รีรอ “ฉู่เฉิน เมื่อกี้คุณบอกว่าถ้าแม่ของฉันกินยานั่นแล้วจะกระอักเลือดหมดสติ มีอันตรายถึงชีวิต เป็นเรื่องจริงเหรอ?”

“ใช่” ฉู่เฉินพยักหน้า

ยาอายุวัฒนะนั่น ก็คือยาที่ได้จากการแช่ตัวของเขา แล้วเอามาทำเป็นยาไม่ใช่หรือไง

หากไม่ได้ได้ผ่านการปรับหรือผสมผสานฤทธิ์ยาของมันให้ดี สำหรับคนธรรมดาก็ไม่ต่างอะไรจากยาพิษ!

“งั้นจะทำยังไงดีล่ะ?” กู้รั่วเสวี่ยร้อนใจ ขอบตาแดงผ่าว

ฉู่เฉินพูดเสียงเรียบ “ไม่ต้องห่วง ยังมีผมอยู่ เชื่อผมนะ อีกเดี๋ยวพวกพ่อคุณจะออกมาขอร้องผม”

ขณะเดียวกัน ที่ห้องรับรองอีกด้าน หลิ่วหรูเยียนกำลังรออย่างกระวนกระวาย จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสนทนาที่ดังมาจากห้องข้างๆ

“คนข้างๆ นี่ใครน่ะ?” หลิ่วหรูเยียนหันไปถามพ่อบ้าน

พ่อบ้านยิ้มตอบ “คุณหนูของเราครับ”

“คุณหนูกู้?” หลิ่วหรูเยียนตะลึง ดูหน้าตาตื่นเต้นมาก!

เธอเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลกู้ คนที่ใครๆ ในวงการทั้งมีเงินและอำนาจต่างก็ต้องการผูกมิตรด้วย

“ฉันขอไปพบหน่อยได้ไหม?” หลิ่วหรูเยียนรีบเอ่ย

พ่อบ้านส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไม่ได้ครับ คุณหนูอยู่กับเพื่อนของเธอ”

“เพื่อน? ใครเหรอ?” หลิ่วหรูเยียนถาม

เพื่อนของกู้รั่วเสวี่ย ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!

ถ้าเธอผูกมิตรไว้ได้ อนาคตของเธอต้องพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแน่ๆ

“ไม่สะดวกให้ข้อมูลครับ” พ่อบ้านยิ้มและตอบเรียบๆ

หลิ่วหรูเยียนได้ยินก็ผิดหวัง แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

ก็ไม่แปลก ฐานะของเธอยังไม่ถึงระดับที่กู้รั่วเสวี่ยจะมาคลุกคลีด้วย

แต่หลิ่วหรูเยียนเชื่อว่า ตั้งแต่คืนพรุ่งนี้เป็นต้นไป ขอแค่ยาอายุวัฒนะเป็นที่รู้จัก ฐานะของเธอในเจียงจงจะต้องไร้ที่เปรียบอย่างแน่นอน!

ถึงตอนนั้นค่อยทำความรู้จักกับคุณหนูกู้ก็ยังไม่สายไป

ในห้องนอน

กู้เหวินไห่รีบขอโทษขอโพย “หมอเทวดาซุน ขายหน้าแล้ว ลูกสาวผมไม่รู้ความ เห็นแม่ป่วยหนักก็ร้อนใจหาหมอมาส่งเดช คงถูกหลอกเข้าให้แล้ว คุณช่วยรีบป้อนยาให้ภรรยาของผมเถอะครับ”

“ได้ครับ” ซุนเซี่ยนเหรินรับคำ ก่อนจะหยิบยาอายุวัฒนะออกจากกล่องผ้าไหม ยัดใส่ปากของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง จากนั้นก็ใช้น้ำอุ่นเพื่อให้เธอกลืนยาลงไป

ผ่านไปไม่นาน หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

“ฟื้นแล้ว! ฟื้นแล้ว! ดีเหลือเกิน! ยาอายุวัฒนะนี่ร้ายกาจจริงๆ!” กู้เหวินไห่เห็นดังนั้นก็ลิงโลด

เพื่อรักษาโรคนี้ของภรรยาเขา กู้เหวินไห่เชิญหมอที่มีชื่อเสียงมาแล้วทั่วทิศ ค้นหาสมุนไพรและเทียบยามากมาย แต่ก็ยังไร้ผล คิดไม่ถึงว่าวันนี้หลิ่วหรูเยียนแห่งตระกูลหลิ่วจะมอบยานี้มาให้ เยี่ยมยอดมาก!

“หมอเทวดาซุนสมแล้วที่เป็นหมอเทวดาแห่งเจียงจง ยานี่ร้ายกาจอย่างที่คิดจริงๆ นับตั้งแต่นี้ คุณคือแขกคนสำคัญของตระกูลกู้เรา!”

กู้เหวินไห่กล่าวอย่างซาบซึ้ง

ซุนเซี่ยวเหรินโบกมือ “ผู้นำตระกูลกู้กล่าวหนักเกินไปแล้ว ที่จริง เป็นเพราะยาอายุวัฒนะของคุณหลิ่วหรูเยียนจากตระกูลหลิ่วร้ายกาจมากกว่าครับ!”

กู้เหวินไห่พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ใช่ครับ ตระกูลหลิ่ว ผมจะจำไว้”

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆ ภรรยาของกู้เหวินไห่ที่เพิ่งฟื้นก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว ก่อนจะกระอักเลือดสีดำคำใหญ่ออกมา จากนั้นก็หมดสติไป!

“ที่รัก ที่รัก…”

กู้เหวินไห่ร้อนใจ เขาพูดอย่างกระวนกระวาย “หมอเทวดาซุน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? คุณรีบมาดูเร็วเข้า!”

ซุนเซี่ยวเหรินเองก็ตะลึงค้างเช่นกัน เหงื่อไหลท่วมหัว รีบรุดเข้าไปตรวจชีพจร ก่อนที่เขาจะหน้าซีดเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง “นะ นะ นี่ ชีพจรนี่มัน ทำไมถึงวุ่นวายขนาดนี้?”

นี่มันสัญญาณของคนใกล้ตายแล้วนี่!

ซุนเซี่ยวเหรินหน้าซีดเผือดทันใด

“หมอเทวดาซุน เป็นยังไงบ้าง? ภรรยาผมเป็นอะไรรึเปล่า?” กู้เหวินไห่ถามอย่างร้อนรน

ซุนเซี่ยวเหรินตอบอย่างแตกตื่นว่า “ผู้นำตระกูลกู้ โปรดอภัยที่ผมไร้ความสามารถ คุณเตรียมจัดงานศพเถอะครับ”

“เพียะ!” กู้เหวินไห่ได้ยินก็สะบัดฝ่ามือใหญ่ใส่ซุนเซี่ยวเหรินจนล้มลงไป ก่อนจะคำราม “ไอ้แก่! ถ้าเมียฉันเป็นอะไรไป ฉันจะฆ่าแก!”

“รักษา! รีบหาทางรักษาเดี๋ยวนี้!”

ซุนเซี่ยวเหรินตกใจสติหลุด ร่างกายสั่นเทิ้ม พูดด้วยความหวาดกลัวว่า “ผู้นำตระกูลกู้ ผมรักษาไม่ได้จริงๆ ดูสภาพคุณผู้หญิงแล้ว น่าจะถูกพิษ…”

ทันใดนั้น ซุนเซี่ยวเหรินนึกขึ้นมาได้ รีบตะโกนบอก “ใช่แล้ว! เจ้าหนูเมื่อกี้ เขาอาจจะมีวิธีก็ได้!”

กู้เหวินไห่สั่นไปทั้งตัว เขาพลันนึกถึงคำพูดของฉู่เฉิน

อาการป่วย เป็นอย่างที่เขาพูดไว้จริงๆ!

ครั้นหันไปมองภรรยาที่หมดสติอยู่บนเตียง กู้เหวินไห่ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบพุ่งตัวออกจากห้องนอน

ในห้องรับรอง ฉู่เฉินกำลังดื่มชา กู้เหวินไห่รีบพรวดพราดเข้ามา ประสานมือแล้วกล่าวว่า “พ่อหนุ่มน้อยผู้นี้ ได้โปรดยื่นมือช่วยชีวิตภรรยาของฉันด้วยเถอะ”

ฉู่เฉินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ได้ ข้อแรก คุกเข่าขอร้องผม ข้อสอง ยกลูกสาวของคุณให้ผม นี่เป็นสิ่งที่ผู้นำตระกูลกู้เพิ่งพูดกับปากตัวเองเมื่อกี้”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status