"หยุดนะ หยุดนะ..."ครั้งนี้กู้อวิ๋นซีรู้สึกสิ้นหวังแล้วจริงๆจวินเย่เสวียนแค้นนางมากขนาดนี้ เขาไม่สนใจความเป็นความตายของนางเลยความรู้สึกหนึ่งปีกว่าที่สร้างกันมา มันมลายหายไปจนหมดแล้วตอนนี้ต่อให้เขาจะเห็นนางตายลงต่อหน้าตัวเอง เกรงว่าก็คงจะไม่ยอมยื่นมือออกมาช่วยเลยด้วยซ้ำกู้อวิ๋นซียกมือขึ้นมา คิดที่จะผลักทหารองครักษ์ออกแต่ทหารองครักษ์คนนั้นกลับกดมือของนางลงเขาเอื้อมมือไปดึงสายเชือกผูกผ้าปิดอกของนาง เมื่อเห็นว่าเชือกใกล้จะถูกแก้ออกแล้วท่ามกลางสายตาคนมากมายที่กำลังมองมา...ที่หางตาของกู้อวิ๋นซีก็มีหยาดน้ำตารินไหลมือข้างที่ไม่ได้ถูกจับไว้ เอื้อมไปจับเครื่องประดับผมของตัวเองที่บนหัวมีปิ้นปักผมอยู่เล่มหนึ่ง"ท่านอ๋อง นางคิดจะฆ่าตัวตายเพคะ!" จูจี้รีบพุ่งตัวเข้าไปอย่างตกใจแต่นางก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งถึงแม้ปิ่นปักผมในมือตัวเองจะถูกนางชนตกไปได้ แต่ก็ยังบาดไปบนลำคอจนเกิดเป็นรอยแผลเลือดสดๆ ไหลรินลงมาทหารองครักษ์ตกใจจนรีบหยุดการกระทำ ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวจูจี้คิดจะเข้าไป แต่กู้อวิ๋นซีก็หยิบเอาปิ่นปักผมมาจ่อที่หน้าลำคอของตัวเองตรงตำแหน่งที่ตรงกับจุดชีพจร"พระชายาหลีอ๋อง มี
ฉับพลันกลิ่นเลือดฉุดกึกก็โชยมา!"มีคนร้าย! คุ้มกันท่านอ๋อง! คุ้มกันท่านอ๋อง!"ภายในลานมีทหารองครักษ์จำนวนมากกรู่กันเข้ามาแต่จวินฉีเจิ้งกลับเห็น ด้านหลังของทหารองครักษ์ มีคนบุกเข้ามาเพิ่มอีกสิบกว่าคนแต่ละคนแต่งกายด้วยชุดออกปฏิบัติการสีดำ ว่องไวกระฉับกระเฉง ฝีเท้าพร้อมเพียงเป็นสิบแปดทหารม้าของจวนเสวียนอ๋อง!แต่ว่ามีเพียงสิบเจ็ดคน..."อ๊า!" เมื่อจูจี้หันหน้าไปมอง ก็ถูกฉากเลือดสาดตรงหน้า ทำให้ตกใจจนต้องกรีดร้องเห็นเพียงตรงประตูหน้าห้องโถงมีมือสี่ข้างตกอยู่บนพื้น เลือดอาบโชก และยังกระตุกอยู่!เห็นได้ชัดว่าเพิ่งจะถูกฟันขาด!ทหารองครักษ์สองคนล้มลงจมกองเลือด กำลังร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่"เยี่ยน...เยี่ยนอี?" ที่แท้เงาสีดำที่ผ่านหน้าของพวกเขาไปเมื่อครู่ก็คือเยี่ยนอีนี่เอง!ขนาดจวินฉีเจิ้งยังคิดไม่ถึงว่า วรยุทธ์ของเยี่ยนอีจะเก่งกาจยิ่งกว่าที่ตัวเองเคยคิดเอาไว้อีก!"เจ้า...เจ้ากล้ามาก!"เยี่ยนอีเป็นคนของจวินเย่เสวียน บังอาจมาฆ่าคนถึงในจวนอ๋องของเขา! เขาเสียสติไปแล้วเหรอ? ใครให้ความกล้านี้กับเขากัน!เยี่ยนอียืนอยู่ตรงหน้าของทหารองครักษ์ทั้งสองนาย กำลังมองมาที่จวินฉีเจิ้งด้
ฆ่าได้ไม่ละเว้น!คนผู้นี้ บ้าระห่ำเกินไปแล้ว!เจิ้งอ๋องโมโหจนตัวสั่นเทาไปทั้งตัวสมาชิกของสิบแปดทหารม้าแต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือเพียงแค่กระโดดครั้งเดียวก็ไปยืนร่วมกับเยี่ยนอีได้ทั้งหมดแล้วทหารองครักษ์ในจวนมีมากมายขนาดนี้ แต่ไม่มีใครสามารถขัดขวางพวกเขาเอาไว้ได้เลย!เยี่ยนอีทำมือเคารพเจิ้งอ๋องที่อยู่ด้านล่างทีหนึ่งก่อนจะพูดอย่างยิ้มๆ ว่า "ท่านอ๋อง แล้วเจอกันใหม่!"จากนั้นก็หมุนตัว ใช้เท้าเหยียบกระเบื้องหลังคาและยอมไม้ จากนั้นก็หายวับไปท่ามกลางความมืดส่วนอีกสิบเจ็ดคนที่เหลือ แต่ละคนวิชาตัวเบายอดเยี่ยม ไล่ตามเขาออกไปอย่างรวดเร็ว"ทะ ท่านอ๋อง ต้องตามหรือไม่?" ทหารองครักษ์คนหนึ่งถามขึ้นมาอย่างกล้าๆ กลัวๆถึงแม้คนของสิบแปดทหารม้าจะเก่งกาจมาก แต่ถ้าหากทั้งจวนอ๋องร่วมมือกันก็ใช่ว่าจะขวางพวกเขาเอาไว้ไม่ได้จูจี้กลับดึงชายเสื้อของจวินฉีเจิ้งเบาๆ แล้วพูดว่า "ท่านอ๋อง ต่อให้จะขวางไว้ได้ แต่ก็เกรงว่าจะทำให้จวนอ๋องเลืดนองเป็นสายน้ำนะเพคะ""เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตเช่นนี้ เกรงว่าเรื่องจะต้องไปถึงหูฝ่าบาทแน่นอน ถึงตอนนั้น หากว่าเสวียนอ๋องไปพูดเรื่องท่านอ๋องต่อหน้าฝ่าบาทอีก...เรื่องที่ท่านอ๋
ท่ามกลางสายลม มีเสียงถอนหายใจเบาๆ ดังขึ้นมากู้อวิ๋นซีตกใจจนต้องรีบหันกลับไปมองหลังจากที่เห็นว่ามีเงาหนึ่งยืนอยู่ที่ตรงมุมถนน นางก็รีบกำปิ่นปักผมในมือแน่น แล้วกดลงไปบนลำคอของตัวเองทันทีท่าทางราวกับลูกนกที่หวาดกลัวนั้น ทำให้เยี่ยนอีที่ได้เห็นรู้สึกปวดใจอย่างประหลาดมดแมลงยังรู้จักรักชีวิต ใครบ้างจะอยากตาย?แต่ปฎิกริยาหลังจากที่นางได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว กลับหยิบอาวุธขึ้นมาใช้ชีวิตของตัวเองในการข่มขู่เขาเดินเข้าไปหานางอย่างช้าๆกู้อวิ๋นซีรู้สึกหวาดกลัวในใจคนผู้นั้นเดินย้อนแสงจันทร์มา แถมยังสวมใส่ชุดสีดำทั้งตัว นางมองเห็นหน้าตาของเขาไม่ชัด สัมผัสได้เพียงพลังไอเย็นจากร่างกายของเขาเท่านั้นเขายังคงเดินเข้ามาหานางเรื่อยๆกู้อวิ๋นซียืนไม่ไหวแล้วจริงๆ ในตอนที่ชายชุดดำกำลังเดินใกล้เข้ามา ปลายด้ามของปิ่นปักผมของนางก็กดจิ้มลงไปบนลำคอจนเกิดเป็นแผลเลือดออกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแผลอย่างไม่ทันระวัง"พระชายา ข้าเอง!" เยี่ยนอีตกใจที่ได้เห็นเลือดสดๆ สองหยดนั้นคิดไม่ถึงเลยว่านางจะเอาจริงเขาไม่ได้อยากทำให้นางตกใจ"อย่าขยับ วางมันลงซะ!" เขารีบพูดขึ้นเป็นเยี่ยนอีในที่สุดกู้อวิ๋นซีก็เอาปิ
"ยอมแพ้และหมดกำลังใจเช่นนี้ ช่างดูไม่เหมือนกับนิสัยการทำงานของพระชายาเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"เยี่ยนอีมองเห็นความสิ้นหวังที่ไร้ซึ่งความอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อจากแววตาของนางเดิมทีดวงตาที่กลมสุดใสมีชีวิตชีวาในตอนนี้กลับมืดหม่นไร้ประกายเยี่ยนอีรู้สึกแย่อย่างประหลาด แต่ก็ยังคงสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกเช่นเดิม"พระชายารู้อยู่แล้วว่าข้าไม่อาจทำร้ายพระชายา แต่ว่า เด็กสาวที่ชื่ออันเซี่ยคนนั้น...""เจ้า!" กู้อวิ๋นซีรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วแต่เนื่องจากลุกเร็วเกินไป จึงรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าขึ้นมาอีกครั้งครั้งนี้นางยืนไม่ไหวแล้ว ร่างกายล้มคว่ำลงไปบนพื้นอย่างแรงเยี่ยนอีลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็ก้าวเท้าไป เพียงแค่ยกมือตัวเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าของกู้อวิ๋นซีแล้ว กำลังช่วยประคองแขนของนางเอาไว้อยู่"พระชายา ข้าไม่ใช่หลีอ๋อง และก็ไม่ใช่ท่านอ๋องในอดีตด้วย อย่าได้แสร้างทำตัวอ่อนแอต่อหน้าข้าเช่นนี้เลย ข้าไม่เกิดความรู้สึกสงสารท่านขึ้นมาหรอก"เมื่อครู่ตลอดทางที่วิ่งมา เขาตามดูอยู่ด้านหลังตั้งนานวิ่งได้คล่อง ว่องไวขนาดนั้น!ตอนนี้กลับมาทำท่าราวกับแค่ยืนก็ยืนไม่ไหว?ผู้หญิงคนนี้ เสียดายที่เมื่
เยี่ยนอีช่วยประคองกู้อวิ๋นซีให้ไปนั่งลงแต่กู้อวิ๋นซีก็นั่งไม่ได้ หลังจากที่นั่งลงไปร่างกายนางก็โงนเงนจะล้มคว่ำลงไปท่าเดียวเยี่ยนอีจะประคองก็ไม่ได้ ไม่ประคองก็ไม่ได้สุดท้าย ก็ไม่รู้ไปไงมาไง ในที่สุดกู้อวิ๋นซีก็ล้มลงอยู่ในอ้อมแขนของเขาเยี่ยนอีกลัวว่าตัวเองจะกระทำการใดที่ไม่เคารพต่อนาง ต่อให้จะรังเกียจสักแค่ไหน แต่นางก็เป็นถึงพระชายาหลีอ๋องตอนที่กำลังจะประคองนางขึ้นมานั่ง หางตาก็เหลือบไปเห็นคราบเลือดสีแดงตรงบริเวณขาของนางบาดเจ็บมาเหรอ?เขาเลิกกระโปรงของนางขึ้นมาดูโดยสัญชาติญาณตรงบริเวณน่องของกู้อวิ๋นซีได้รับบาดเจ็บมาจริงๆ ไม่รู้ว่าโดนอะไรบาดมา จนถึงตอนนี้ที่แผลยังมีเลือดไหลออกมาอยู่เลยถึงแม้รอยแผลจะไม่ลึก แต่เมื่อเห็นขาขาวนวลละเอียดสมบูรณ์แบบของนางเป็นแผลแบบนี้ ก็อดทำให้คนรู้สึกสงสารขึ้นมาไม่ได้ที่ยิ่งทำให้เขาประหลาดใจมากไปกว่านั้นคือที่ข้อเท้าของนางบวมเป่งเมื่อกี้นางเดินไม่ไหวจริงๆ ไม่ได้แกล้งทำแต่หลังจากที่ถูกตัวเขาทำท่าทางรังเกียจไป นางก็พยายามกัดฟันอดทนเดินต่อมานานขนาดนี้บวมขนาดนี้ มิน่าถึงได้เป็นลมไป คงจะเจ็บมากทีเดียวเยี่ยนอีปล่อยกระโปรงของนางลงดังเดิม เมื
"เย่เสวียน..."กู้อวิ๋นซีเด้งตัวขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็วหลังจากนั่งเรียบร้อย ใบหน้าเล็กๆ ก็ขมวดมุ่นเข้าหากันเจ็บ!เจ็บไปหมดทั้งร่างกาย!เจ็บจนใบหน้าเล็กๆ อ่อนแอของนางมีเหงื่อบางๆ ไหลซึมออกมาเสื้อผ้าบนร่างกายถูกเปลี่ยนให้แล้ว บาดแผลบนน่องก็ดูจะทำแผลเรียบร้อยที่ข้อเท้าก็ดูมีคนช่วยใส่ยาให้นางแล้ว ทำแผลเรียบร้อยแต่ในใจของกู้อวิ๋นซีรู้ดีว่า ทุกอย่างนี้ ไม่มีทางเป็นผู้ชายที่อยู่ข้างเตียงนี้เป็นคนทำให้แน่นอน"เรียกข้าว่าอะไรนะ?" สายตาเย็นชาของจวินเย่เสวียนจ้องมองใบหน้าของนางตรงๆในห้องไม่ด้จุดโคมไฟสักดวง มืดสนิทเมื่อครู่นางก็แค่รับรู้ได้ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนนี้เป็นใครตามความรู้สึกก็เท่านั้นเองแต่มองเห็นหน้าของเขาไม่ชัดหรอกตอนนี้ น้ำเสียงเย็นยะเยือกของจวินเย่เสวียนก็ทำให้กู้อวิ๋นซีตั้งสติกลับมาได้อย่างชัดเจน"องค์ชายสี่" กู้อวิ๋นซีเรียกออกไปอย่างสงบหลังจากที่ผ่านเรื่องราวทุกอย่างในคืนนี้ เขา ไม่ใช่เย่เสวียนของนางอีกต่อไปหากว่านางยังคิดว่าผู้ชายคนนี้ยังหลงเหลือความรู้สึกดีๆ ให้กับนางอีกล่ะก็ เช่นนั้นนางก็คงจะไร้เดียงสาเกินไป คงจะโง่มากเต็มทีพยายามอดกลั้นความเจ็บ
ผู้ชายด้านหลังที่เพิ่งจะถกกระโปรงนางขึ้นมาเมื่อได้ฟังคำพูดนี้ นิ้วมือของเขาก็ชะงักไปชั่วขณะ"ได้ เช่นนั้นก็รอให้มดลูกเจ้าเข้าอู่เรียบร้อยข้าค่อยมาหาเจ้าอีกที"เขาปล่อยมือแล้วก็หมุดตัวเดินออกไปเลยช่างไร้เยื่อใยเหลือเกินกู้อวิ๋นซียังได้ยินคำพูดก่อนที่เขาจะเดินออกไปได้อย่างชัดเจน "จากนี้ต่อไป เจ้าไม่มีสิทธิ์ได้เป็นพระชายาหลีอ๋องอีก เจ้าก็เป็นเพียงแค่ของเล่นของข้าเท่านั้น!"เขาจากไปแล้วกู้อวิ๋นซียังคงถูกมัดอยู่กับม่านเตียงตอนที่ประตูห้องถูกปิดลง จู่ๆ นางก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรงร่างกายไร้เรี่ยวแรง ลงลงไปพิงอยู่กับเสาเตียงมือทั้งสองข้างยังคงถูกมัดอยู่ ไม่อาจแม้กระทั่งนอนพักเขาช่างโหดร้ายเหลือเกิน!ไม่ใช่เขาคนนั้นในอดีตอีกต่อไปใครบอกว่านางไม่กลัว? เมื่อกี้นางก็แค่แกล้งทำเป็นนิ่งเท่านั้นใครบ้างจะรู้ว่านางยังจะสามารถสร้างภาพต่อไปได้อีกนานแค่ไหน?นางเหนื่อยมากจริงๆกู้อวิ๋นซีพยายามดิ้นรน คิดไม่ถึงว่าม่านที่จวินเย่เสวียนจับมามัดมือนางอย่างไม่ใส่ใจจะแก้ยังไงก็แก้ไม่ออกสุดท้ายด้วยความอ่อนล้าและหมดแรง นางก็ทำได้เพียงนั่งพิงเสาแล้วปิดตาพักผ่อนรู้สึกเจ็บที่ข้อมือมากถูกจับมั