"ยอมแพ้และหมดกำลังใจเช่นนี้ ช่างดูไม่เหมือนกับนิสัยการทำงานของพระชายาเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"เยี่ยนอีมองเห็นความสิ้นหวังที่ไร้ซึ่งความอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อจากแววตาของนางเดิมทีดวงตาที่กลมสุดใสมีชีวิตชีวาในตอนนี้กลับมืดหม่นไร้ประกายเยี่ยนอีรู้สึกแย่อย่างประหลาด แต่ก็ยังคงสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกเช่นเดิม"พระชายารู้อยู่แล้วว่าข้าไม่อาจทำร้ายพระชายา แต่ว่า เด็กสาวที่ชื่ออันเซี่ยคนนั้น...""เจ้า!" กู้อวิ๋นซีรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วแต่เนื่องจากลุกเร็วเกินไป จึงรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าขึ้นมาอีกครั้งครั้งนี้นางยืนไม่ไหวแล้ว ร่างกายล้มคว่ำลงไปบนพื้นอย่างแรงเยี่ยนอีลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็ก้าวเท้าไป เพียงแค่ยกมือตัวเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าของกู้อวิ๋นซีแล้ว กำลังช่วยประคองแขนของนางเอาไว้อยู่"พระชายา ข้าไม่ใช่หลีอ๋อง และก็ไม่ใช่ท่านอ๋องในอดีตด้วย อย่าได้แสร้างทำตัวอ่อนแอต่อหน้าข้าเช่นนี้เลย ข้าไม่เกิดความรู้สึกสงสารท่านขึ้นมาหรอก"เมื่อครู่ตลอดทางที่วิ่งมา เขาตามดูอยู่ด้านหลังตั้งนานวิ่งได้คล่อง ว่องไวขนาดนั้น!ตอนนี้กลับมาทำท่าราวกับแค่ยืนก็ยืนไม่ไหว?ผู้หญิงคนนี้ เสียดายที่เมื่
เยี่ยนอีช่วยประคองกู้อวิ๋นซีให้ไปนั่งลงแต่กู้อวิ๋นซีก็นั่งไม่ได้ หลังจากที่นั่งลงไปร่างกายนางก็โงนเงนจะล้มคว่ำลงไปท่าเดียวเยี่ยนอีจะประคองก็ไม่ได้ ไม่ประคองก็ไม่ได้สุดท้าย ก็ไม่รู้ไปไงมาไง ในที่สุดกู้อวิ๋นซีก็ล้มลงอยู่ในอ้อมแขนของเขาเยี่ยนอีกลัวว่าตัวเองจะกระทำการใดที่ไม่เคารพต่อนาง ต่อให้จะรังเกียจสักแค่ไหน แต่นางก็เป็นถึงพระชายาหลีอ๋องตอนที่กำลังจะประคองนางขึ้นมานั่ง หางตาก็เหลือบไปเห็นคราบเลือดสีแดงตรงบริเวณขาของนางบาดเจ็บมาเหรอ?เขาเลิกกระโปรงของนางขึ้นมาดูโดยสัญชาติญาณตรงบริเวณน่องของกู้อวิ๋นซีได้รับบาดเจ็บมาจริงๆ ไม่รู้ว่าโดนอะไรบาดมา จนถึงตอนนี้ที่แผลยังมีเลือดไหลออกมาอยู่เลยถึงแม้รอยแผลจะไม่ลึก แต่เมื่อเห็นขาขาวนวลละเอียดสมบูรณ์แบบของนางเป็นแผลแบบนี้ ก็อดทำให้คนรู้สึกสงสารขึ้นมาไม่ได้ที่ยิ่งทำให้เขาประหลาดใจมากไปกว่านั้นคือที่ข้อเท้าของนางบวมเป่งเมื่อกี้นางเดินไม่ไหวจริงๆ ไม่ได้แกล้งทำแต่หลังจากที่ถูกตัวเขาทำท่าทางรังเกียจไป นางก็พยายามกัดฟันอดทนเดินต่อมานานขนาดนี้บวมขนาดนี้ มิน่าถึงได้เป็นลมไป คงจะเจ็บมากทีเดียวเยี่ยนอีปล่อยกระโปรงของนางลงดังเดิม เมื
"เย่เสวียน..."กู้อวิ๋นซีเด้งตัวขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็วหลังจากนั่งเรียบร้อย ใบหน้าเล็กๆ ก็ขมวดมุ่นเข้าหากันเจ็บ!เจ็บไปหมดทั้งร่างกาย!เจ็บจนใบหน้าเล็กๆ อ่อนแอของนางมีเหงื่อบางๆ ไหลซึมออกมาเสื้อผ้าบนร่างกายถูกเปลี่ยนให้แล้ว บาดแผลบนน่องก็ดูจะทำแผลเรียบร้อยที่ข้อเท้าก็ดูมีคนช่วยใส่ยาให้นางแล้ว ทำแผลเรียบร้อยแต่ในใจของกู้อวิ๋นซีรู้ดีว่า ทุกอย่างนี้ ไม่มีทางเป็นผู้ชายที่อยู่ข้างเตียงนี้เป็นคนทำให้แน่นอน"เรียกข้าว่าอะไรนะ?" สายตาเย็นชาของจวินเย่เสวียนจ้องมองใบหน้าของนางตรงๆในห้องไม่ด้จุดโคมไฟสักดวง มืดสนิทเมื่อครู่นางก็แค่รับรู้ได้ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนนี้เป็นใครตามความรู้สึกก็เท่านั้นเองแต่มองเห็นหน้าของเขาไม่ชัดหรอกตอนนี้ น้ำเสียงเย็นยะเยือกของจวินเย่เสวียนก็ทำให้กู้อวิ๋นซีตั้งสติกลับมาได้อย่างชัดเจน"องค์ชายสี่" กู้อวิ๋นซีเรียกออกไปอย่างสงบหลังจากที่ผ่านเรื่องราวทุกอย่างในคืนนี้ เขา ไม่ใช่เย่เสวียนของนางอีกต่อไปหากว่านางยังคิดว่าผู้ชายคนนี้ยังหลงเหลือความรู้สึกดีๆ ให้กับนางอีกล่ะก็ เช่นนั้นนางก็คงจะไร้เดียงสาเกินไป คงจะโง่มากเต็มทีพยายามอดกลั้นความเจ็บ
ผู้ชายด้านหลังที่เพิ่งจะถกกระโปรงนางขึ้นมาเมื่อได้ฟังคำพูดนี้ นิ้วมือของเขาก็ชะงักไปชั่วขณะ"ได้ เช่นนั้นก็รอให้มดลูกเจ้าเข้าอู่เรียบร้อยข้าค่อยมาหาเจ้าอีกที"เขาปล่อยมือแล้วก็หมุดตัวเดินออกไปเลยช่างไร้เยื่อใยเหลือเกินกู้อวิ๋นซียังได้ยินคำพูดก่อนที่เขาจะเดินออกไปได้อย่างชัดเจน "จากนี้ต่อไป เจ้าไม่มีสิทธิ์ได้เป็นพระชายาหลีอ๋องอีก เจ้าก็เป็นเพียงแค่ของเล่นของข้าเท่านั้น!"เขาจากไปแล้วกู้อวิ๋นซียังคงถูกมัดอยู่กับม่านเตียงตอนที่ประตูห้องถูกปิดลง จู่ๆ นางก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรงร่างกายไร้เรี่ยวแรง ลงลงไปพิงอยู่กับเสาเตียงมือทั้งสองข้างยังคงถูกมัดอยู่ ไม่อาจแม้กระทั่งนอนพักเขาช่างโหดร้ายเหลือเกิน!ไม่ใช่เขาคนนั้นในอดีตอีกต่อไปใครบอกว่านางไม่กลัว? เมื่อกี้นางก็แค่แกล้งทำเป็นนิ่งเท่านั้นใครบ้างจะรู้ว่านางยังจะสามารถสร้างภาพต่อไปได้อีกนานแค่ไหน?นางเหนื่อยมากจริงๆกู้อวิ๋นซีพยายามดิ้นรน คิดไม่ถึงว่าม่านที่จวินเย่เสวียนจับมามัดมือนางอย่างไม่ใส่ใจจะแก้ยังไงก็แก้ไม่ออกสุดท้ายด้วยความอ่อนล้าและหมดแรง นางก็ทำได้เพียงนั่งพิงเสาแล้วปิดตาพักผ่อนรู้สึกเจ็บที่ข้อมือมากถูกจับมั
เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา กู้อวิ๋นซีก็ต้องตกใจจนตัวแข็งนิ้วมือสั่นไหวน้อยๆ ตำราหนังสือที่อยู่ในมือเกือบจะร่วงหล่นลงไปบนโต๊ะแต่ว่าหลังจากที่ตกใจไปชั่วขณะ กู้อวิ๋นซีก็จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้อย่างรวดเร็วนางยืนขึ้น เดินอ้อมโต๊ะออกไปต้อนรับ ย่อตัวทำความเคารพ "คารวะเสวียนอ๋อง"จวินเย่เสวียนสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง ประตูก็ปิดลงดังเสียงดังปังหัวใจของกู้อวิ๋นซีก็สะดุ้งโหยงตามเสียงปิดประตูที่ดังขึ้นในมือของเขาถือยาเอาไว้ชามหนึ่งกู้อวิ๋นซีก้มหน้าลง ไม่กล้าพูดอะไร ได้เพียงแค่มองเขาอยู่อย่างนั้นจวินเย่เสวียนเดินผ่านข้างตัวนางไป วางชามยาเอาไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหันหน้ากลับมามองนางเขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตาปกติไม่แสดงอารมณ์ใดๆ "ไม่ใช่ว่าจะกินยาหรือยังไง? เหตุใดจึงไม่เดินเข้ามา?"กู้อวิ๋นซีมองไปที่ยาชามนั้นนางดมดูก็รู้ว่า เป็นยาที่นางให้อันเซี่ยไปต้มมาให้"เสวียนอ๋อง อันเซี่ย...ตอนนี้อยู่ที่ไหนเพคะ?" นางถาม"ข้าสั่งให้นางไปไหน นางก็ไปที่นั่น เหตุใดเจ้าต้องเป็นห่วงด้วย?"จวินเย่เสวียนนั่งลงบนเก้าอี้ยาว นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะเบาๆ "ความอดทนของข้ามีจำกัด ยานี่หากว่าเจ้าไม่ดื่ม ข้าจะจ
น่าเสียดายที่ไม่ว่ากู้อวิ๋นซีจะขอร้องอย่างไร จวินเย่เสวียนก็คงยังไม่ใจอ่อนนางไม่อาจขัดขืนได้ ทุกครั้งที่อยากจะลุกออกจากขาของเขา ก็จะถูกเขาจับให้กลับลงมานั่นได้ง่ายๆ เสมอในระหว่างที่ทั้งสองกำลังยื้อยุดกันนั้น ทั้งยี่สิบไม้ก็ตีลงมาบนร่างของอันเซี่ยอย่างหนักหน่องและรุนแรงจนครบอันเซี่ยเจ็บปวดเกินกว่าที่จะส่งเสียงร้องออกมาได้อีกเจ็บปวดจนหมดสติไป แถมยังถูกน้ำเย็นสาดเรียกสติให้กลับคืนมาการถูกโบยยี่สิบไม้ สำหรับนางแล้วเรียกได้ว่าแทบจะเอาชีวิตกันเลยทีเดียวตอนที่โบยเสร็จ อันเซี่ยก็นอนหมอบคว่ำหายใจรวยรินอยู่บนเก้าอี้ไม้แล้วทหารองครักษ์เดินกลับไปประจำอยู่ที่ข้างประตู พูดอย่างนอบน้อมว่า "ท่านอ๋อง โบยครบแล้วพ่ะย่ะค่ะ!""พากลับไปโยนคืนไว้ในห้อง อีกเดี๋ยวไม่แน่ว่าจะไม่ถูกโบยอีก" จวินเย่เสวียนพูดอย่างเย็นชา"พ่ะย่ะค่ะ!" ทหารองครักษ์สองนายลากตัวอันเซี่ยออกไปตอนที่พาออกไป อันเซี่ยยังร้องโอดครวญเสียงแหบแห้งอยู่ เพียงแค่ไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้วเท่านั้น เสียงอู้อี้อู่ในลำคอเปล่งออกมาไม่ได้คนในห้อง ยังพอได้ยินอยู่เบาๆเพราะความอ่อนแอของนาง ทำให้หัวใจของกู้อวิ๋นซี ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดขึ้นไปอีก
กู้อวิ๋นซีว่าง่ายมากไม่ว่าเขาจะให้นางทำอะไร นางก็ทำอย่างนั้นนางไม่ต่อต้านอีกแล้วเสื้อผ้าบางๆ ถูกนางถอดจนตกลงไปกองอยู่ช่วงเอวส่วนเสื้อผ้าชั้นสุดท้าย ถึงแม้จะลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายนางก็หลับตาแล้วดึงมันออกไปผิวสีขาวผ่องราวหิมะปรากฎออกมาดูนุ่มนิ่มซะจนทำให้คนที่พบเห็นต้องหายใจติดขัดจวินเย่เสวียนจ้องไปยังเรือนร่างที่สะอาดสะอ้านของนาง รู้สึกเลือดลมเกร็งเครียดไปทั้งร่างแต่เขาไม่ดีใจ ไม่ดีใจเลยสักนิด!อีกทั้ง เขายังอารมณ์เสียมากด้วย!เขาพูดอย่างเย็นชาว่า "คิดว่าทำท่าทางเช่นนี้แล้วข้าจะยอมปล่อยเจ้าไปอย่างนั้นเหรอ? กู้อวิ๋นซี เจ้าคิดว่าข้ายังเป็นคนโง่ที่หลอกง่ายคนเดือมอยู่หรือไง?"กู้อวิ๋นซีแค่เพียงมองเขาใบหน้าที่ร้อนผ่าวในตอนแรก ในตอนนี้กลับใจเย็นลงได้แล้วหลังจากที่ใจเย็นลงแล้ว ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นขาวซีด"เสวียนอ๋องยังอยากให้ข้าทำอะไรอีกงั้นเหรอเพคะ?" นางถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่จวินเย่เสวียนกลับจับคางของนางเอาไว้แน่น เชิดหน้าของนางให้เงยขึ้นมา"คิดจะแสดงละครอะไรต่อหน้าข้าอีก?"กู้อวิ๋นซีไม่ได้พูดอะไร จวินเย่เสวียนก็พูดเย้ยหยันออกมาก่อน "แต่น่าเสียดาย ไม่ว่าเจ้
ภัยพิบัตินี้ กินเวลาไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าครั้งสุดท้าย กู้อวิ๋นซีราวกับเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้จนพัง ถูกทิ้งไว้จนเตียงอย่างไม่แยแสนางหมดแรงไปทั้งร่าง ขนาดแค่แรงที่จะหยิบเอาผ้าห่มมาคลุมปกปิดร่างกายของตัวเองยังไม่มีเลยด้านหลัง ชายหนุ่มกำลังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่นางคิดว่าเขาคงจะพูดแดกดันอีกสักหลายประโยค คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่เขาใส่เสื้อผ้าเสร็จก็จะหมุนตัวเดินออกไปเลยประตูถูกเขาผลักเปิดออกกู้อวิ๋นซีร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วตัวนางยังอยู่นอกผ้าห่มนอกประตูมีทหารองครักษ์เฝ้าอยู่ ถ้าเกิดว่าพวกเขาเงยหน้าขึ้นมามอง...กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง ใช้แรงที่เหลืออยู่น้อยนิด หยิบผ้าห่มมาพยายามคลุมปกปิดร่างกายของตัวเองจากนั้นถึงได้ล้มลงไปอย่างหมดแรงเจ็บริมฝีปากจังเดิมทีก็ถูกกัดจนเป็นแผลอยู่แล้ว เมื่อกี้ยังกัดไปอีกหนึ่งที เลือดที่แห้งกรังไปแล้ว กลับไหลซึมออกมาใหม่เมื่อคิดอยากที่จะยกมือขึ้นมาเช็ดคราบเลืดที่ริมฝีปากถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่มีแรงเหลืออยู่แล้วแม้แต่นิดเดียวขนาดมือยังยกไม่ขึ้นเลยเหนื่อยเกินไป ลุกไม่ไหว ใจสลาย สิ้นหวังสุดท้ายนางก็หลับตาลง หลับไปทั้งที่ยังมึนๆ งงๆ อย่างนั้