แม่ทัพวิศรุฒยังมองท่อนเอ็นของตัวเอง กำลังเลื่อนเข้าไปในร่องนั้นอย่างต่อเนื่องช้าๆ และสุดท้ายเข้าไปมิดด้ามสุดโคน
“เอ็งไม่เจ็บเหรอ”
“เจ็บสิ แต่เดียวก็หาย หรือว่าเอ็งอยากลองบ้าง”
“ไม่” แม่ทัพวิศรุฒพูดเสียงห้วนอย่างดัง
“ถ้างั้นก็ดีแล้ว เอ็งอยู่เฉยๆ เดี๋ยวข้าจะมอบความสุขนี้ให้เอ็ง รับรองจะจำข้าไปจนวันตายอย่างแน่นอน”
สายตาของแม่ทัพวิศรุฒมองสะโพกอันกลมตึงอวบอิ่ม กำลังโยกขึ้นลงอย่างช้าๆ จึงเห็นท่อนเอ็นผลุบๆ โผล่ๆ ทีแรกเขายังรู้สึกเฉยๆ พอนานๆ เข้ารู้สึกอุ่นๆ ยิ่งร่องนั้นคับแคบเล็กจึงทำให้เสียดสีกับรอยหยัก ยิ่งนานเข้าแม่ทัพวิศรุฒลืมความไม่เหมาะไปในทันที เพราะเสียวปานจะกลืนกิน ยิ่งยิวโยกขึ้นลงเร็วจนเสียงดัง
“ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ”
“ท่านแม่ทัพเป็นอะไรหรือเปล่า ให้ข้าเข้าไปหาไหม” ทหารยามส่งเสียงออกมา
“อ่า อือ ไม่ต้อง” แม่ทัพวิศรุฒตะโกนออกไป
“เอ็งเบาๆ หน่อยเสียงดังเกินไป และอีกอย่างข้ากลัวหัก”
“ถ้าเอ็งกลัวหักก็ทำเองสิ เสยขึ้นมาเลยข้าจะอยู่เฉยๆ”
เพียงยิวหยุดนิ่งแม่ทัพวิศรุฒกระดกก้นขึ้นอย่างช้าๆ และด้วยความเสียว จึงทำเร็วขึ้นเสียงดังไม่แพ้กัน
“เอ็งก็ทำแรงเสียงดังเหมือนกันนั่นแหละ” ยิวเอ่ยขึ้นมาทันที
แม่ทัพวิศรุฒกำลังสนุกรสชาติแห่งรักรูปแบบใหม่ เขาจึงไม่ใคร่สนใจเสียงจะดังหรือไม่ดังอีกต่อไป มีเพียงแต่ความใคร่กระหายในรสสวาท จึงกระดกก้นไม่หยุดไม่หย่อนซอยขึ้นบนเรื่อยๆ ด้วยความมันส์และเสียวส่วนปลายท่อนเอ็น
“พอก่อน”
“ฮึ” แม่ทัพวิศรุฒหยุดกระดกกันทันที
ยิวถอนร่างออกแล้วนอนลงข้างๆ พร้อมยกขาทั้งสองข้างขึ้น แล้วหันหน้ามามองแม่ทัพวิศรุฒอย่างขอร้อง
“หมายความว่าอย่างไร”
“ต้องให้บอกอีกเหรอท่านแม่ทัพ”
แม่ทัพวิศรุฒก็พอรู้บ้างว่าต้องทำท่าไหน เขาจึงลุกขึ้นขยับร่างเข้าไปหว่างขาของยิว และจับสองขาของยิวโน้มต่ำลง ส่วนเขานั่งคุกเข่าจับท่อนเอ็นจ่อช่องทางรัก แล้วดันเข้าไปจนสุดพร้อมกระแทกสุดแรง จนยิวสะดุ้งเพียงครั้งเดียวแต่แม่ทัพวิศรุฒไม่ได้สนใจ ในช่วงเวลานี้มีแต่เพียงความใคร่กระหายอยากทำให้จบสิ้น
“ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ” แม่ทัพวิศรุฒยังกระแทกท่อนเอ็นเข้าช่องทางรักอย่างต่อเนื่องและยาวนาน อย่างไม่ย่อท้อด้วยมีพละกำลังเหลือเฟือ จึงโหมกระแทกกระทั้งอย่างไม่ปราณี มีแรงเท่าไรใส่ไปจนหมด
“อ่า อ่า อ่า อูว์” ยิวพยายามกลั้นอารมณ์ความเสียวไว้ แต่ไม่สามารถทำได้เพราะท่อนเอ็นของแม่ทัพวิศรุฒนั้นใหญ่ยาวกระแทกแทงถึงต่อมสวาท ทุกครั้งเมื่อมีการโยกสะโพกกระแทกแทงท่อนเอ็นเข้าไปในช่องทางรัก
แม่ทัพวิศรุฒหยุดกระแทกท่อนเอ็น แล้วจับขาทั้งสองข้างโน้มต่ำ และใช้มือคู่เดิมยันพื้นไว้ข้างลำตัวของคู่นอนอย่างยิว ส่วนบั้นท้ายยังไม่ยอมหยุดทำงานกระดกขึ้นลงอย่างรัวๆ ซอยยิกๆ ไม่ยั้งใส่สุดๆ ลึกอย่างเต็มกำลัง
สีหน้าของแม่ทัพวิศรุฒบ่งบอกว่าเสียวสุดยอด ปากเผยอเล็กน้อยตาหรี่ลงมีเสียงซี๊ดปนหายใจเป็นระยๆ แต่บั้นท้ายยังสุดยอดเหมือนเดิมกระดกติดๆ รัวๆ จนเสียงดังสนั่นเพราะเนื้อกระทบเนื้อโดนกันถี่เกิน
“เป็นอะไรเหรือเปล่าท่านแม่ทัพ” ทหารคนเดินถามไถ่
“เอ๊ะ บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วนะ”
แม่ทัพวิศรุฒตะโกนออกไปด้วยความโมโห แต่ท่อนเอ็นไม่ได้โมโหตามเลยไม่อ่อนตัวลง ยังแข็งแกร่งดุจเหล็กพร้อมกับกระแทกท่อนเอ็นอย่างไม่ยั้งอยู่แหมือนเดิม
ความเสียวซ่านท่อนเอ็นนั้นเริ่มคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ จนแม่ทัพวิศรุฒใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง เขาจึงโยกบั้นท้ายซอยถี่ๆ กระดกก้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จนเกือบน้ำในกายจะพุ่งกระฉูดออกมา
“อ่า อ่า อ่า ซี๊ด” ยิวเสียวซ่านสุดหัวใจจนท่อนเอ็นเกิดความแข็งขึ้นมา
“ท่านแม่ทัพทำอะไรเสียงดังไปหมดแล้ว อย่าทำร้ายองค์ชายเมธีนะ ดูเสียงร้องโหยหวนทรมานอย่างนั้น ท่านแม่ทัพ สงสารองค์ชายด้วยอย่างไงก็เคยรู้จักกันมาก่อน” จอมซึ่งกำลังจะมาหาแม่ทัพวิศรุฒตะโกนขึ้น เมื่อได้ยินเสียงของยิวนั้นครางด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย ให้พวกนี้ขัดจังหวะจริงๆ เลย อ่า อืม โอ๊ย” แม่ทัพวิศรุฒพยายามครางเบาๆ เพื่อไม่ให้ใครได้ยิน
“เอ็งหุบปากด้วยอย่างครางออกมา” แม่ทัพวิศรุฒพูดขึ้น
“อืม” ยิวพยักหน้า
“ไม่เป็นอะไรหออก องค์ชายเจ็บบ้องหูอยู่ เอ็งกลับไปได้แล้วข้าจะนอน”
“ยังไม่กลับข้ากลัวท่านแม่ทัพทำร้ายองค์ชายเมธี หรือพี่โสภณเขาดีกับข้ามาก ข้าไม่อยากให้ท่านแม่ทัพทำร้ายองค์ชายเมธี” จอมยังไม่หยุดเพราะเขาไม่รู้ว่าเสียงที่ดังขึ้นนั้นเป็นเสียงแห่งความสุขสุดยอด
“เอ่อ ข้าไม่ทำอะไรมันหรอก” แม่ทัพวิศรุฒตะโกนออกไป
แม่ทัพวิศรุฒคิดในใจว่าขืนชักช้ากว่านี้จอมคงพังประตูเข้ามาแน่ เพราะเขารู้ดีว่าเด็กคนนี้รักโสภณหรือองค์ชายเมธีตัวปลอมมาก
“เอ็งก็ทำเร็วๆ สิ” ยิวพูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา
“อืม”
เมื่อเจอคำพูดของยิวที่เร่ง แม่ทัพวิศรุฒจึงไม่รอช้า โหมกระหน่ำกระแทกท่อนเอ็นแทงช่องทางรักอย่างต่อเนื่อง กระดกบั้นท้ายรัวๆ ซอยยิกๆ และทำอย่างรวดเร็วไม่หยุดไม่ยั้งจนเหงื่อไหลท่วมตัวหยดลงโดนเรือนร่างของยิวเป็นระยะ
เสียงแรกกระแทกยังดังต่อเนื่อง ความเสียวซ่านของของแม่ทัพวิศรุฒใกล้เข้ามาในอีกไม่ช้า เขาจึงรวบรวมกำลังกระแทกท่อนเอ็นแทงช่องทางรักรัวๆ จนกระทั่งน้ำในกายพุ่งกระฉูดใส่เข้าไปในช่องทางรัก กว่าจะหมดน้ำในท่อนเอ็นบั้นท้ายอันแข็งแน่น ก็ยังโยกไม่มีท่าทีจะหยุดในเวลานี้
“โอ๊ย ซี๊ด อ่า” แม่ทัพวิศรุฒส่งเสียงครางออกมาอย่างดังและยาวนาน ด้วยความเสียวสุดๆ จนเกินห้ามได้
“ท่านแม่ทัพเป็นอะไรอีก”
“ไม่เป็นไร ขืนพูดมากจะสั่งตัดหัวให้ขาดเลย”
“ขอรับไม่พูดแล้ว”
เมื่อทุกอย่างเงียบสงบ แม่ทัพวิศรุฒจึงถอนท่อนเอ็นออกจากช่องทางรัก แล้วล้มตัวนอนลงข้างๆ ยิวที่นอนนิ่งและท่อนเอ็นของเขาก็ได้อ่อนตัวลง
“เป็นไงบ้างดีไหม” ยิวหันมาถามและมองใบหน้าของแม่ทัพวิศรุฒที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
“ก็ดี แต่ที่บ้านเมืองเอ็งเขาช่างหาเรื่องทำกันไปได้ แต่ข้าก็ว่าใช้ได้ดีทีเดียวไอ้ตรงนั้นของเอ็ง ข้าไม่นึกไม่ฝันว่าจะทำแบบนี้ได้ รู้แบบนี้ข้าไม่ปล่อยให้ตัวเองอดอยากปากแห้งอย่างนี้หรอก” แม่ทัพวิศรุฒใช้มือปาดเหงื่อที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
“แล้วไม่คิดจะแต่งงานเหรอ เห็นอยากเมียใจจะขาดนิ”
“มีแล้วเมียก็นอนอยู่ตรงนี้ไง ส่วนเมียผู้หญิงข้าก็ต้องมีอีกด้วยสินะ แต่ตอนนี้ข้าไม่อยากมีแล้ว กลับไปข้าจะทำอย่างไงดี” แม่ทัพวิศรุฒรู้สีกสับสนกับตัวเอง เพราะตอนนี้ถึงจะรู้ว่ารัก แต่ก็เป็นรักที่คนอื่นไม่อาจยอมรับได้
“อืม ข้าจะรอดู” ยิวยิ้มนิดๆ และนิ่งคิดบางเรื่องอีกครั้ง
“เอ็งคิดอะไร” แม่ทัพวิศรุฒสังเกตเห็นสีหน้าของยิวที่เปลื่ยนไป
“คิดว่า ถ้ากลับไปยังเมืองศิลา ข้ากับเอ็งคงไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกัน”
“มีสิ ข้าเป็นใคร ขืนไม่ให้ข้าเจอเอ็ง ข้าจะยกทัพก่อกบฏให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย”
“เฮ้ย” ยิวพูดออกมา
“ทำไมแปลกใจอะไร ก็ดันมาขัดขวางเรื่องความรักของข้า” แม่ทัพวิศรุฒเผลอพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะพูดออกมาจากความรู้สึกข้างใน ที่มีมานานแต่ยังไม่เคยได้เปล่งวาจาออกมาให้ยิวได้ยิน
“เอ็งรักข้าเหรอ” ยิวอ้าปากค้างด้วยความสับสนมึนงงในสิ่งที่เกิดขึ้นและได้ยินเมื่อครู่
“เอ่อ คงงั้นมั้ง ถ้าไม่รักเองข้าจะให้อภัยเอ็งทำไม สิ่งที่เอ็งทำกับข้าไม่น่าให้อภัยเลยนะ แล้วเอ็งรักข้าด้วยไหม ข้าอยากได้ยินคำตอบจากปากเอ็งเดี๋ยวนี้”
“อืม ก็รักสิ ถ้าไม่รักจะยอมเหรอ ไอ้นั่นของนายอย่างใหญ่ ส่วนตรงนั้นของข้าหรือของใครๆ ไม่ได้หลวมซะหน่อย ถ้าไม่รักไม่ยอมหรอกนะ”
ยิวไม่รู้เหมือนกันว่าได้เผลอใจไปรักแม่ทัพวิศรุฒไปตั้งแต่เมื่อไร เหตุการ์เมื่อครู่เขาแค่อยากสนุกแต่เมื่อได้ทำจริงๆ จึงได้รู้ใจตัวเองอย่างกะทันหันไม่ได้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว
กัสนั่งอ่านนิยายของเขาที่เดินเรื่องด้วยตัวมันเอง เขาพยายามจะลบทิ้งแต่ไม่สามารถทำได้ แค่นั้นยังไม่พอโพสต์ลงเองอีกต่างหาก กัสจึงพยายามหาทางแก้ไขและจะเปลื่ยนเนื้อเรื่องไปตามทางที่วางไว้ เพราะตอนนี้เขารู้สึกนิยายเรื่องนี้ออกทะเลไปไกลมาก
แต่ก็มีสิ่งที่แปลกดันมีคนมาอ่านกันเยอะถล่มทลาย นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กัสลังเลจนไม่กล้าจะแตะนิยายเรื่องนี้
แม่ทัพวิศรุฒต้องออกเดินไปยังเมืองศิลานคร ตามคำราชโองการของราชาศิลา เพื่อนำยิวในร่างขององค์ชายเมธีไปเป็นตัวประกัน ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้มีเพียง แม่ทัพวิศรุฒและยิวกับจอมพร้อมด้วยทหารไม่กี่สิบนาย ทั้งหมดเดินทางด้วยม้าในครั้งนี้ยิวได้ขี่มาเอง เพราะเสือเข้มได้สอนมาบ้าง จึงไม่เป็นปัญหาในการเดินทางสักเท่าไรพระอาทิตย์เริ่มใกล้ตกดินในยามเย็น แม่ทัพวิศรุฒจึงให้พักค้างคืนริมลำธารที่มีน้ำขาวใสไหลผ่าน บรรดาเหล่าทหารต่างช่วยกันสร้างกระโจมพักผ่อน หลังจากนั้นไม่ว่าทหารหรือแม่ทัพวิศรุฒรวมทั้งจอม ต่างปลดอาภรณ์จนเหลือเพียงกายเปลือยเปล่า เพื่อลงอาบน้ำในลำธารซึ่งเหลือเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือยิวที่มิได้ลงไป“พี่โสภณ ทำไมไม่ลงมาอาบน้ำกับพวกเรา” จอมโผล่เหนือน้ำแล้วเดินขึ้นมายังริมลำธารที่ยิวนั่งอยู่สายตาของยิวจ้อมมองจอมแวบนึงแล้วหันกลับมองไปยังทางอื่น เพราะเขาไม่อยากมองสภาพเปลือยเปล่าของจอม กลัวจอมและคนอื่นมองในแง่ไม่ดีและสงสัยได้“จอมลงมานี่ ปล่อยให้โสภณไปอาบตรงโน้น” แม่ทัพวิศรุฒชี้มือไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งไกลจากที่พวกเขาเล่นน้ำอยู่“ครับ” จอมหันหลังกลับและลงไปเล่นน้ำตามเดิมยิวมองทหารนับสิบเล่นน้ำแล้วใจคอไม่ด
เย็นนี้กัสต้องมาซ้อมละครเวทีฉากสุดท้าย ซึ่งเป็นการรวมของตัวละครสำคัญ จึงมากันหมดไม่ว่าจะเป็นกัส เขื่อน พีค และน้องคนใหม่“วันนี้ขอให้ทุกคนตั้งใจซ้อมนะ เพราะเป็นฉากสำคัญและฉากสุดท้าย หลังจากนั้นเราจะซ้อมยาวเลย เพราะใกล้ถึงวันแสดงจริงแล้วขอให้ทุกคนตั้งใจนะ” เจนนี่ผู้กำกับสาวยิ้มพร้อมพยักหน้าให้ทุกคนค่ำคืนอันโหดร้ายของนิวยังไม่ผ่านไปง่ายๆ เพราะค่ำคืนถัดมานิวได้ไปหาเด็กหนุ่มนั่นที่คอนโด เพราะอยากจะจัดการเด็กหนุ่มให้หลบทางให้ตัวเอง พอไปถึงหน้าห้องในคอนโดนิวกดกริ่งทันที สักพักหนุ่มรุ่นน้องก็เปิดประตูออกมา“พี่มีอะไรจะคุยด้วย” นิวตีหน้าเศร้าทำเสียงเบาๆ“ผมไม่มีอะไรจะคุยกันพี่นะครับ”“แต่พี่มีอะไรจะคุยกับน้องจริงๆ พี่ขอร้อง”เด็กหนุ่มนั่นเห็นแววตาและน้ำเสียงของนิว เขาไม่ได้สงสารเพียงแต่อยากรู้ว่านิวจะพูดสิ่งใด มีเรื่องราวอะไรที่จะคุยกับเขา“ก็ได้”“ขอบใจน้องมากนะ”นิวเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะตัดสินใจพูดอะไรออกไป“พี่ว่ามา จะพูดอะไร”“ก่อนอื่น พี่ต้องแสดงความยินดีกับน้องด้วย ที่พบรักแท้กับมีน ถึงจะเจ้าชู้ไปบ้างแต่นิสัยดีทีเดียว”“ถ้าพี่จะมาค
ค่ำคืนอันเงียบสงัดยิวไม่สามารถนอนหลับเพียงคนเดียวในกระโจมได้ เพราะหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันที่ผ่านมา ตอนแรกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีความรู้สึกแบบนี้กับแม่ทัพวิศรุฒ พอแม่ทัพโกรธงอนไม่พูดไม่จาด้วย เขาดันรู้สึกหวั่นไหวอยากจะเข้าไปหาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ยิวก็เข้าใจดีว่าอธิบายไปก็คงไม่เข้าใจ เพราเรื่องสลับร่างสลับตัวมันเป็นเรื่องเชื่อยาก อย่าว่าแต่ในยุคอดีตเลย แม้แต่ในยุคปัจจุบันคงไม่ต่างกันหาคนเชื่อยากอยู่อย่างแน่นอนยิวได้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วคืนนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาต้องไปอธิบายให้แม่ทัพวิศรุฒได้ฟัง ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่โกหกก็ตามที ยิวจึงออกจาdกระโจมของตัวเองไปยังกระโจมของแม่ทัพวิศรุฒ ซึ่งทหารที่เฝ้ายามก็ให้เข้าไปแต่โดยดีเมื่อยิวเข้าไปถึงก็เห็นแม่ทัพวิศรุฒนอนก่ายหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้ม พอยิวเข้าไปปุ๊บแม่ทัพวิศรุฒหันหน้ามาทางยิวทันที“เข้ามาทำไม” เสียงห้วนๆ ดังขึ้นพร้อมกับสายตาที่ดุดัน“ข้ามีเรื่องจะพูดกับเอ็ง”“ถ้าเรื่องเสือเข้มข้าไม่อยากฟังไม่อยากได้ยิน”“ไม่อยากฟังไม่อยากได้ยิน แต่ก็ต้องฟังและได้ยินนะ”“เอ็งจะมาตอกย้ำข้าทำไม อย่ามาบอกนะว่าไม่ได้มีอะไรกัน ถ้าไม่มีอะไรกันทำไมเสื
ความสัมพันธ์รักของเป็กกับกัสนั้นคืบหน้าไปฝ่ายเดียว ยิ่งเป็กเห็นกัสนั้นไม่ได้รักเขา กลับเป็นสิ่งที่โหยหามานาน ด้วยความหล่อรวยส่วนใหญ่จะมีคนเข้ามาหาเป็นประจำแต่ไม่ใช่กัส นั่นเป็นเหตุทำให้เป็กคลั่งรักเป็นอย่างมากส่วนกัสอยากจะตะโกนดังๆ ว่าไม่ได้รักและหาอยากอยู่ใกล้ชิดกับเป็กไม่ แต่ก็ทำไม่ได้เนื่องด้วยตอนเช้าเป็กจะมารับไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ตอนเย็นหลังซ้อมละครเวทีเฉกเช่นเดียวกันมารอรับไปส่งยังห้องพัก บางวันพาไปทานอาหารหรูซื้อของกินของใช้ในราคาแพง ซึ่งตรงนี้เองที่กัสไม่สามารถปฏิเสธได้เลย จึงต้องจำยอมแต่โดยดุษฎี เหมือนโดนบังคับให้รับสิ่งของที่ตัวเองขาดวันนี้เช่นเดียวกันไม่เปลื่ยนแปลงเป็กมารอรับกัสยังหน้าห้องซ้อมละครเหมือนเดิมเช่นปกติ แต่ที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมคือห้องซ้อมละครเวที ที่มีความตึงเครียดของเหล่ารุ่นพี่ในชมรมละคร เพราะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากะทันหัน โดยที่ เจนนี่ เกรซ และ พีค ต้องยืนนิ่งไม่กล้าบอกเพื่อนน้องๆ นักศึกษาในชมรมละครเวที ว่ามีเรื่องเหตุการณ์อันน่าเศร้าสำหรับทุกคน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องบอกอยู่ดี พีคจึงตัดสินใจเป็นคนพูดเองเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น“น้องๆ คง
ตอนที่51 รักกับไม่รัก ความเงียบสงบในห้องบรรทมไร้ผู้คน ยิวผู้อาภัพนอนนิ่งด้วยความสิ้นหวัง เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดีต่อจากนี้ ในระหว่างที่กำลังครุ่นคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงเวลาผ่านมา เขาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อหน้าต่างได้เปิดออกมาอย่างง่ายดาย ช่วงเวลานั้นยิวรีบลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนก แต่เมื่อชายชุดดำที่เข้ามาทางหน้าต่างได้เปิดผ้าคลุมออก ยิวตกใจเป็นสองสามเท่าอย่างทันท่วงที “เสือเข้ม”ยิวผลอหลุดคำพูดนี้ออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ “จำผัวเก่าได้แม่นเหมือนกันนะ”เสือเข้มเดินเข้ามาใกล้ๆร่างของยิวที่กำลังยืนตกตะลึงงงงันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวในค่ำคืนอันโดยเดี่ยวเดียวดาย “เอ็งมาทำไม”ยิวลุกขึ้นจากเตียงนอนและรีบวิ่งไปยังประตู ความไวของยิวไม่สามารถต้านพละกำลังของเสือเข้มได้ เพราะในช่วงเวลานั้นเสือเข้มได้วิ่งตัดหน้ามาขวางประตูไว้อย่างรวดเร็ว “จะไปไหนเห็นผัวแล้ววิ่งหนีหมายความว่าอย่างไรกัน หรือว่าจะไปหาผัวใหม่ไอ้แม่ทัพวิศรุฒน่ะเหรอ ฝันไปเถอะว่ามันจะมาช่วยเองได้ ปานนี้กำลังเตรียมงานแต่งงานอยู่ ในอีกไม่กี่วันนี
เมื่อไม่ได้มีการซ้อมละครเวทีเขื่อนจนมีเวลาให้กับงานที่ทำมากขึ้น ไม่ว่าจะหลังเลิกงานหรือแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์เขื่อนทุ่มเวลานั้นอย่างเต็มที่ จนทำให้ไม่มีเวลาไปมาหาสู่กับพีคอย่างเช่นแต่ก่อน และมีอยู่อีกเหตุหนึ่งนั้นเขื่อนได้มีความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่มากขึ้น ตอนกลับห้องหรือไปไหนหลังจากเลิกงาน ก็ไปด้วยกันตลอดเวลา จึงทำให้ความสัมพันธ์ของพีคกับเขื่อนได้จืดจางลงไปอย่างไม่ค่อยรู้ตัวหลังจากเลิกงานวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขื่อนได้กลับพร้อมกับหนุ่มรุ่นน้อง ที่ได้พึ่งได้มาทำงานได้ไม่นานแต่ความสนิทสนมกันนั้นแสนมาก“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นพี่พีคมารับพี่เขื่อนเลยครับ” เจษเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าใคร่สงสัย และมีความดีใจอยู่พอสมควร“พี่พีคไม่ค่อยว่าง เพราะตั้งแต่ไม่ได้แสดงละครด้วยกัน พี่พีคเขาต้องหาบทละครมาสร้างอีก ช่วงนี้เลยห่างๆ กันไป”“อ่อ ถึงว่าสิทำไมไม่ค่อยเห็นพี่พีค แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะถึงอย่างไงพี่เขื่อนยังมีผมอยู่เป็นเพื่อน” เจษอมยิ้มนิดๆ“อืม” เขื่อนไม่ได้พูดอะไรต่อจากนี้ ได้แต่ยืนรอรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะกลับห้อง“โชคดีนะ ที่เราสองคนอยู่ใกล้ๆ ขึ้นรถสายเดียวกัน” เจษยังยืนยิ้มอยู่ไม่วาย“พ
เสือเข้มผู้โหดเหี้ยมได้มีความรักโดยอย่างไม่ตั้งใจ จากเมื่อก่อนอยากอยู่ไปเรื่อยๆแต่ในปัจจุบันความคิดนั้นได้เปลื่ยนไปอย่างมาก เพราะยิวได้สร้างห้องแห่งรักไว้ในหัวใจ จึงทำให้เสือเข้มเกิดความทะเยอะทะยานอยากได้ยิวมาครอบครองเขาจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อจะทวงราชบัลลังก์คืนแกตัวเขาและยิว การรวบรวมกำลังพลในค่ายเสือ ถึงจะไม่ได้มากมายเท่ากับกองทัพแห่งเมืองเมฆาบุรี ที่ตอนนี้เปลื่ยนชื่อเป็นเมืองวิหค กว่าที่เสือเข้มจะระดมบรรดาโจรทั่วเมืองเมฆาบุรีได้ใช้เวลานานพอสมควร และได้ติดต่อจากเมืองอื่นๆอีกมากมายเพื่อมาช่วยในครั้งนี้ โดยมีผลตอบแทนพื้นที่บางส่วนให้ไว้อาศัยอยู่ และทรัพย์สินในวังอันมีค่าบางส่วน ในที่สุดวันที่เสือเข้มรอคอยก็มาถึง เขาได้บุกเข้าเมืองเมฆาบุรีแบบกองโจร ไม่ได้ปะชิดสู้ตรงๆ เพราะขืนทำอย่างนั้นไม่มีทางที่จะชนะแม่ทัพวิหคและอำมาตย์มงคลได้อย่างแน่นอน โดยการครั้งนี้เสือเข้มเป็นผู้วางแผนและสั่งการเองทุกอย่าง โดยเริ่มต้นยามค่ำคืนอันเงียบสงัดและเผลอไผลไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์อันร้ายแรงเกิดขึ้น “พี่น้องทุกคนพร้อมกันหรือยัง”เสือเข้มประกาศก้องใกล้ๆเมืองชั
ค่ำคืนที่หาบทละครเวที พีคกำลังขะมักเขม้นทำอย่างจริงใจ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันพีคได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เมื่อดูชื่อที่ปรากฏเป็นกัส พีคจึงรีบรับทันทีเพราะปกติไม่เคยโทรมาแต่อย่างใด “ฮัลโหล น้องกัสมีอะไรหรือเปล่า” “มี แต่ กัสไม่อยากบอกพี่เลยครับ” “เรื่องอะไร บอกมาเลยถ้าไม่บอกพี่โกรธจริงๆนะ” “ก็เรื่องของเขื่อนไงครับ คือ ว่า เอ่อ อ่า อืม” “พูดมาเลยว่าเรื่องอะไร” “คือ เรื่องเด็กคนนั้นน่ะของเขื่อน เท่าที่กัสสังเกตหน้าจะมีอะไรมากกว่าเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน” “พี่ก็สงสัยแต่พี่ไม่มีหลักฐานอะไร” “คือ คืนนี้พี่ลองไปหาเขื่อนที่ห้องพักแบบไม่ให้รู้ตัวสิครับ” “น้องกัสรู้อะไรมาเหรอ” “อืม กัสไม่พูดดีกว่าพี่พีคไปดูเองเถอะ” “อืม ก็ได้ ขอบใจกัสมากนะ” “ไม่เป็นไรครับ” เมื่อพีคกดวางโทรศัพท์มือถือ ก็ขับรถไปหาเขื่อนในทันที โดยไม่บอกกล่าวอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ค่อนข้างให้ความเชื่อใจกัสมากกว่าเขื่อนเสียอีก พีคขับรถไปอย่างกระวนกระวายยิ่งนัก ด
ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี
ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่
กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา
เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ
กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง
ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว
ค่ำคืนที่หาบทละครเวที พีคกำลังขะมักเขม้นทำอย่างจริงใจ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันพีคได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เมื่อดูชื่อที่ปรากฏเป็นกัส พีคจึงรีบรับทันทีเพราะปกติไม่เคยโทรมาแต่อย่างใด “ฮัลโหล น้องกัสมีอะไรหรือเปล่า” “มี แต่ กัสไม่อยากบอกพี่เลยครับ” “เรื่องอะไร บอกมาเลยถ้าไม่บอกพี่โกรธจริงๆนะ” “ก็เรื่องของเขื่อนไงครับ คือ ว่า เอ่อ อ่า อืม” “พูดมาเลยว่าเรื่องอะไร” “คือ เรื่องเด็กคนนั้นน่ะของเขื่อน เท่าที่กัสสังเกตหน้าจะมีอะไรมากกว่าเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน” “พี่ก็สงสัยแต่พี่ไม่มีหลักฐานอะไร” “คือ คืนนี้พี่ลองไปหาเขื่อนที่ห้องพักแบบไม่ให้รู้ตัวสิครับ” “น้องกัสรู้อะไรมาเหรอ” “อืม กัสไม่พูดดีกว่าพี่พีคไปดูเองเถอะ” “อืม ก็ได้ ขอบใจกัสมากนะ” “ไม่เป็นไรครับ” เมื่อพีคกดวางโทรศัพท์มือถือ ก็ขับรถไปหาเขื่อนในทันที โดยไม่บอกกล่าวอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ค่อนข้างให้ความเชื่อใจกัสมากกว่าเขื่อนเสียอีก พีคขับรถไปอย่างกระวนกระวายยิ่งนัก ด
เสือเข้มผู้โหดเหี้ยมได้มีความรักโดยอย่างไม่ตั้งใจ จากเมื่อก่อนอยากอยู่ไปเรื่อยๆแต่ในปัจจุบันความคิดนั้นได้เปลื่ยนไปอย่างมาก เพราะยิวได้สร้างห้องแห่งรักไว้ในหัวใจ จึงทำให้เสือเข้มเกิดความทะเยอะทะยานอยากได้ยิวมาครอบครองเขาจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อจะทวงราชบัลลังก์คืนแกตัวเขาและยิว การรวบรวมกำลังพลในค่ายเสือ ถึงจะไม่ได้มากมายเท่ากับกองทัพแห่งเมืองเมฆาบุรี ที่ตอนนี้เปลื่ยนชื่อเป็นเมืองวิหค กว่าที่เสือเข้มจะระดมบรรดาโจรทั่วเมืองเมฆาบุรีได้ใช้เวลานานพอสมควร และได้ติดต่อจากเมืองอื่นๆอีกมากมายเพื่อมาช่วยในครั้งนี้ โดยมีผลตอบแทนพื้นที่บางส่วนให้ไว้อาศัยอยู่ และทรัพย์สินในวังอันมีค่าบางส่วน ในที่สุดวันที่เสือเข้มรอคอยก็มาถึง เขาได้บุกเข้าเมืองเมฆาบุรีแบบกองโจร ไม่ได้ปะชิดสู้ตรงๆ เพราะขืนทำอย่างนั้นไม่มีทางที่จะชนะแม่ทัพวิหคและอำมาตย์มงคลได้อย่างแน่นอน โดยการครั้งนี้เสือเข้มเป็นผู้วางแผนและสั่งการเองทุกอย่าง โดยเริ่มต้นยามค่ำคืนอันเงียบสงัดและเผลอไผลไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์อันร้ายแรงเกิดขึ้น “พี่น้องทุกคนพร้อมกันหรือยัง”เสือเข้มประกาศก้องใกล้ๆเมืองชั
เมื่อไม่ได้มีการซ้อมละครเวทีเขื่อนจนมีเวลาให้กับงานที่ทำมากขึ้น ไม่ว่าจะหลังเลิกงานหรือแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์เขื่อนทุ่มเวลานั้นอย่างเต็มที่ จนทำให้ไม่มีเวลาไปมาหาสู่กับพีคอย่างเช่นแต่ก่อน และมีอยู่อีกเหตุหนึ่งนั้นเขื่อนได้มีความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่มากขึ้น ตอนกลับห้องหรือไปไหนหลังจากเลิกงาน ก็ไปด้วยกันตลอดเวลา จึงทำให้ความสัมพันธ์ของพีคกับเขื่อนได้จืดจางลงไปอย่างไม่ค่อยรู้ตัวหลังจากเลิกงานวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขื่อนได้กลับพร้อมกับหนุ่มรุ่นน้อง ที่ได้พึ่งได้มาทำงานได้ไม่นานแต่ความสนิทสนมกันนั้นแสนมาก“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นพี่พีคมารับพี่เขื่อนเลยครับ” เจษเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าใคร่สงสัย และมีความดีใจอยู่พอสมควร“พี่พีคไม่ค่อยว่าง เพราะตั้งแต่ไม่ได้แสดงละครด้วยกัน พี่พีคเขาต้องหาบทละครมาสร้างอีก ช่วงนี้เลยห่างๆ กันไป”“อ่อ ถึงว่าสิทำไมไม่ค่อยเห็นพี่พีค แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะถึงอย่างไงพี่เขื่อนยังมีผมอยู่เป็นเพื่อน” เจษอมยิ้มนิดๆ“อืม” เขื่อนไม่ได้พูดอะไรต่อจากนี้ ได้แต่ยืนรอรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะกลับห้อง“โชคดีนะ ที่เราสองคนอยู่ใกล้ๆ ขึ้นรถสายเดียวกัน” เจษยังยืนยิ้มอยู่ไม่วาย“พ