เย็นนี้กัสต้องมาซ้อมละครเวทีฉากสุดท้าย ซึ่งเป็นการรวมของตัวละครสำคัญ จึงมากันหมดไม่ว่าจะเป็นกัส เขื่อน พีค และน้องคนใหม่
“วันนี้ขอให้ทุกคนตั้งใจซ้อมนะ เพราะเป็นฉากสำคัญและฉากสุดท้าย หลังจากนั้นเราจะซ้อมยาวเลย เพราะใกล้ถึงวันแสดงจริงแล้วขอให้ทุกคนตั้งใจนะ” เจนนี่ผู้กำกับสาวยิ้มพร้อมพยักหน้าให้ทุกคน
ค่ำคืนอันโหดร้ายของนิวยังไม่ผ่านไปง่ายๆ เพราะค่ำคืนถัดมานิวได้ไปหาเด็กหนุ่มนั่นที่คอนโด เพราะอยากจะจัดการเด็กหนุ่มให้หลบทางให้ตัวเอง พอไปถึงหน้าห้องในคอนโดนิวกดกริ่งทันที สักพักหนุ่มรุ่นน้องก็เปิดประตูออกมา
“พี่มีอะไรจะคุยด้วย” นิวตีหน้าเศร้าทำเสียงเบาๆ
“ผมไม่มีอะไรจะคุยกันพี่นะครับ”
“แต่พี่มีอะไรจะคุยกับน้องจริงๆ พี่ขอร้อง”
เด็กหนุ่มนั่นเห็นแววตาและน้ำเสียงของนิว เขาไม่ได้สงสารเพียงแต่อยากรู้ว่านิวจะพูดสิ่งใด มีเรื่องราวอะไรที่จะคุยกับเขา
“ก็ได้”
“ขอบใจน้องมากนะ”
นิวเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะตัดสินใจพูดอะไรออกไป
“พี่ว่ามา จะพูดอะไร”
“ก่อนอื่น พี่ต้องแสดงความยินดีกับน้องด้วย ที่พบรักแท้กับมีน ถึงจะเจ้าชู้ไปบ้างแต่นิสัยดีทีเดียว”
“ถ้าพี่จะมาคุยเรื่องนี้ ผมว่าพี่ออกไปจากที่นี่ได้เลย ผมไม่อยากได้ยินได้ฟัง” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มนั้นพูดขึ้นห้วนๆ
“ทนฟังพี่พูดอีกหน่อย พี่ขอแค่นิดเดียว”
“ก็ได้ว่ามา”
“น้องมีเพื่อนไหม” นิวพยายามกลั้นความรู้สึกและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานอย่างที่สุด
“มี ถามทำไม”
“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากบอกว่าพี่มีนนั้นมักจีบเพื่อน และชอบมีอะไรกันสามคน”
“ผมรู้แล้วผมก็เคยมีอะไรกันสามคน พี่ไม่เคยเหรอ ถึงว่าสิโดนพี่มีนทิ้ง ผมรับพี่มีนตรงนี้ได้ พี่ก็รับได้ผมรู้ แต่เพื่อนพี่รับไม่ได้ พูดจบแล้วเชิญพี่ออกไปได้แล้ว”
“เอ่อ” นิวอึ้งกับคำพูดของเด็กหนุ่มจึงไม่สามารถเปล่งวาจาอะไรออกมาได้
“อึ้งสิ ออกไปซะ ก่อนพี่มีนจะกลับมา”
ในระหว่างที่นิวกำลังตกใจกับคำพูดของเด็กหนุ่มนั้น มีนก็เข้ามาในทันทีและพรวดมายังตรงหน้าของนิว พร้อมกับใบหน้าและท่าทางที่ไม่พึงพอใจอย่างมาก
“มาทำไม” เสียงห้วนดังขึ้น
“เอ่อ” นิวอ้ำอี้งอยู่
“พี่เขามาบอกว่า พี่มีนเจ้าชู้และถามว่าผมมีเพื่อนไหม ถ้ามีให้ระวังพี่จะจีบและมีความสัมพันธ์แบบสามคน ผมเลยบอกไปว่ารู้แล้วและเคยทำด้วย” เด็กหนุ่มยิ้มที่มุมปาก
“ดีมากน้องรัก ว่าไงนิวรู้แล้วก็กลับไปซะ หน้าตาอย่างนายน่าจะหาใหม่ได้ไม่อยากหรอก” มีนโอบกอดเด็กหนุ่มนั่นต่อหน้าต่อตาของนิว
นิวสุดจะพูดอะไรออกมา และอึ่งจนคิดไม่ออกว่าจะทำการใดดี เขาจึงได้แต่เดินออกมาอย่างเงียบๆ และเจ็บใจ ก่อนมากะว่าจะทำให้สองคนนั้นผิดใจกัน แต่เหตุการณ์กลับตรงข้ามกันสิ้นเชิง
“โอเค เก่งมากทุกคนเลย ต่อไปขึ้นฉากใหม่เลยนะ” เจนนี่เอ่ยขึ้น
ความเงียบและความเหงาอยู่เต็มห้องอันคับแคบ ความคิดความเศร้าความผิดหวังอยู่เต็มสมอง ในห้วงความรู้สึกนี้ได้เกาะกินจิตใจของนิวอย่างแสนสาหัส เขาวนคิดไปมาจนเผลอไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำเช่นนั้นได้จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตู
“มีน” นิวเอ่ยขึ้น
นิวรีบเดินไปเปิดประตูทันที เพราะคิดว่ามีนน่าจะกลับมาหาเขา แต่เมื่อประตูเปิดออกก็ต้องพบกับความผิดหวัง ด้วยคนตรงหน้านั้นเป็นวินอดีตเพื่อนรักของเขาเอง
“วิน นายมีอะไรเหรอมาหาเรา”
“ให้เราเข้าไปก่อนได้ไหม”
“ได้”
เมื่อทั้งสองได้เข้ามาในห้องและจ้องมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างเงียบไร้เสียงสนธนา จนวินนั้นเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“เรื่องราวของพวกเรากับมีนมันก็ผ่านมาแล้ว ในเมื่อมีนเขาก็มีคนใหม่ ทำไมเราถึงไม่กลับมาคบกันเหมือนเดิม” วินเอ่ยขึ้นด้วยรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
“มันจะได้เหรอ ในเมื่อความเป็นเพื่อนของเรามันได้จบไปตั้งนาน” นิวถอนหายใจจนเสียงดังออกมา
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เราไม่ได้คบกันแบบเพื่อนนิ” วินกลั้นใจพูด
“หมายความว่าอย่างไงนะ” นิวมีสีหน้าท่าทีตกใจอย่างมาก
“จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เรายอมรับนะว่ารักมีนแต่เมื่อได้ห่างกัน ความรู้สึกเราได้เปลี่ยนไป”
“เรางงไม่เข้าใจในสิ่งที่นายพูด” นิวหลบตาต่ำลงและกลอกตาไปมาด้วยความสงสัยในคำพูดของวิน
“เราลองมาคบกันดูไหม” วินเหลือบสายตามองนิวพร้อมเม้มปากด้วยใจที่ระทึก
“นายเป็นบ้าแล้วเหรอ” นิวลุกขึ้นนั่งและรีบเดินหนีไปทางอื่น
“เราพูดจริๆๆ นะ ทำไมเราไม่รักกันล่ะ”
“ไม่” นิวรับไม่ได้ในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง ที่ต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
สายตาของนิวมองวินด้วยความแปลกประหลาดใจ ถึงแม้วินจะเป็นชายแท้เขาก็ไม่มีวันรักเพื่อน และมีความสัมพันธ์แบบนี้ได้หรอก
“เราล้อเล่นนิว” วินเห็นสีหน้าท่าทางของนิวแล้วเขาจึงต้องรีบพูดความจริงออกไป
“มาพูดเล่นแบบนี้เราไม่ชอบนะ” นิวถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เราไปแล้วนะ ฝากให้นายคิดไว้ด้วย นายยังรับเราไม่ได้เลยเมื่อเราขอนายเป็นแฟน เราก็รับไม่ได้หรอกถ้าจะใช้ผู้ชายคนเดียวกัน” เมื่อนิวพูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่หันหลังกลับมาแต่อยางใด
นิวนั่งลงครุ่นคิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขายังไม่เข้าใจเท่าไรในสิ่งที่วินทำ แต่อย่างน้อยทำให้เขารู้สึกว่าวินดูอ่อนลงไปเยอะ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์แบบเพื่อน กัสยังไม่สามารถทำใจได้
“เก่งมากปรบมือให้กัสหน่อย” เสียงปรบมือดังอย่างเกรียวกราว เมื่อเจนนี่พูดจบ
ความรู้สึกตอนนี้ของกัสดีใจอย่างมาก เมื่อได้รับคำชมจากทุกคนในที่นี้ ถึงแม้ตอนจบจะงงๆ แปลกๆ ในความคิดของตัวเขาเอง แต่ในเมื่อกัสคิดอีกทีจบแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“วันนี้กลับกันแล้วเลยนะ” เจนนี่ผู้กำกับสาวเอ่ยขึ้น
ทุกคนต่างแยกย้ายกันเพื่อกลับบ้านใครบ้านมัน กัสจึงยืนนิ่งๆ มองหน้าพีคเมื่อเห็นแล้วจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหา ซึ่งในขณะนั้นเขี่อนยืนอยู่ด้วย
“กัส” เสียงของเป็กตะโกนออกมาอย่างดัง
กัสต้องหยุดนิ่งและค่อยๆ ถอนหายใจ ส่วนสายตายังมองไปที่พีคอยู่เหมือนเดิม แต่ปลายสายตาดันมองเห็นเขื่อนที่อมยิ้มนิดๆ
“พี่คงไม่ได้ไปส่งน้องกัสแล้วนะ” พีคมามองด้วยสีหน้าราบเรียบถึงแม้จะเคยเผลอใจช่วงเวลาหนึ่งที่มีความรู้สึกดีๆ ให้
“ไป๊ กลับกัน” เป็กเดินมายืนเคียงข้าง
สายตาของกัสมองสองร่างเดินเคียงคู่จากไปอย่างใจหาย เพราะในความรู้สึกตอนนี้เขาไม่ได้ชอบเป็กเลย แต่คนที่ชอบยังเป็นพีคเหมือนเดิมไม่เปลื่ยนแปลง
“เขาไปไกลแล้วไม่ต้องมองหรอก”
กัสจำใจจำยอมต้องกลับพร้อมเป็กอย่างไม่ค่อยยินดีเท่าไรนัก แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นใด ก็เลยต้องขึ้นรถไปพร้อมกับเป็ก
“กลับห้องนายหรือหคอนโดเรา เอาอย่างนี้ไหมไปดูหนัง ไปเดินห้างถ้านายอยากได้อะไรเราจะซื้อให้เลยนะ” เป็กหันมามองหน้าที่นิ่งเฉยเย็นชาอย่างมาก เพราะปกติถ้าเขาพูดแบบนี้กับใคร ทุกคนจะดูตื่นเต้นยินดี แต่กับกัสนั้นไม่ใช่อย่างนั้นเลย ตรงนี้จึงทำให้เป็นที่สนใจของเป็กอย่างมาก
“กลับห้อง” กัสพูดด้วยน้ำเสียงค่อยๆ
“ห้องนายหรือห้องเรา”
“ห้องเราสิ จะไปห้องนายทำไม”
“ห้องเราเสียงดังได้เต็มที่ ห้องนายเสียงดังไม่ค่อยได้” เป็กยิ้มพร้อมกับเหล่ตามามองกัส
“วันๆ คิดแต่เรื่องนี้ ถ้าวันนั้นเราไม่เมาอย่าหวังจะได้เราเลย”
“ทำไมจะได้นายไม่ได้ เราจะทำให้ดูว่าถึงนายไม่เมา นายก็เป็นของเราได้เหมือนกัน”
“พูดไปเรื่อย”
เป็กยิ้มอยู่ในใจ เขาจะยังไม่ไปส่งกัสที่ห้องหรอก เพราะจะพาไปกินอาหารมื้อเย็นก่อน หลังจากนั้นค่อยพาไปส่งที่ห้อง และหวาดหวังว่าคงจะเผด็จศึกกัสให้ได แต่นั่นไม่เท่ากับอยากให้กัสนั้นรับรักเขาสักที
ค่ำคืนอันเงียบสงัดยิวไม่สามารถนอนหลับเพียงคนเดียวในกระโจมได้ เพราะหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันที่ผ่านมา ตอนแรกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีความรู้สึกแบบนี้กับแม่ทัพวิศรุฒ พอแม่ทัพโกรธงอนไม่พูดไม่จาด้วย เขาดันรู้สึกหวั่นไหวอยากจะเข้าไปหาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ยิวก็เข้าใจดีว่าอธิบายไปก็คงไม่เข้าใจ เพราเรื่องสลับร่างสลับตัวมันเป็นเรื่องเชื่อยาก อย่าว่าแต่ในยุคอดีตเลย แม้แต่ในยุคปัจจุบันคงไม่ต่างกันหาคนเชื่อยากอยู่อย่างแน่นอนยิวได้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วคืนนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาต้องไปอธิบายให้แม่ทัพวิศรุฒได้ฟัง ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่โกหกก็ตามที ยิวจึงออกจาdกระโจมของตัวเองไปยังกระโจมของแม่ทัพวิศรุฒ ซึ่งทหารที่เฝ้ายามก็ให้เข้าไปแต่โดยดีเมื่อยิวเข้าไปถึงก็เห็นแม่ทัพวิศรุฒนอนก่ายหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้ม พอยิวเข้าไปปุ๊บแม่ทัพวิศรุฒหันหน้ามาทางยิวทันที“เข้ามาทำไม” เสียงห้วนๆ ดังขึ้นพร้อมกับสายตาที่ดุดัน“ข้ามีเรื่องจะพูดกับเอ็ง”“ถ้าเรื่องเสือเข้มข้าไม่อยากฟังไม่อยากได้ยิน”“ไม่อยากฟังไม่อยากได้ยิน แต่ก็ต้องฟังและได้ยินนะ”“เอ็งจะมาตอกย้ำข้าทำไม อย่ามาบอกนะว่าไม่ได้มีอะไรกัน ถ้าไม่มีอะไรกันทำไมเสื
ความสัมพันธ์รักของเป็กกับกัสนั้นคืบหน้าไปฝ่ายเดียว ยิ่งเป็กเห็นกัสนั้นไม่ได้รักเขา กลับเป็นสิ่งที่โหยหามานาน ด้วยความหล่อรวยส่วนใหญ่จะมีคนเข้ามาหาเป็นประจำแต่ไม่ใช่กัส นั่นเป็นเหตุทำให้เป็กคลั่งรักเป็นอย่างมากส่วนกัสอยากจะตะโกนดังๆ ว่าไม่ได้รักและหาอยากอยู่ใกล้ชิดกับเป็กไม่ แต่ก็ทำไม่ได้เนื่องด้วยตอนเช้าเป็กจะมารับไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ตอนเย็นหลังซ้อมละครเวทีเฉกเช่นเดียวกันมารอรับไปส่งยังห้องพัก บางวันพาไปทานอาหารหรูซื้อของกินของใช้ในราคาแพง ซึ่งตรงนี้เองที่กัสไม่สามารถปฏิเสธได้เลย จึงต้องจำยอมแต่โดยดุษฎี เหมือนโดนบังคับให้รับสิ่งของที่ตัวเองขาดวันนี้เช่นเดียวกันไม่เปลื่ยนแปลงเป็กมารอรับกัสยังหน้าห้องซ้อมละครเหมือนเดิมเช่นปกติ แต่ที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมคือห้องซ้อมละครเวที ที่มีความตึงเครียดของเหล่ารุ่นพี่ในชมรมละคร เพราะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากะทันหัน โดยที่ เจนนี่ เกรซ และ พีค ต้องยืนนิ่งไม่กล้าบอกเพื่อนน้องๆ นักศึกษาในชมรมละครเวที ว่ามีเรื่องเหตุการณ์อันน่าเศร้าสำหรับทุกคน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องบอกอยู่ดี พีคจึงตัดสินใจเป็นคนพูดเองเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น“น้องๆ คง
ตอนที่51 รักกับไม่รัก ความเงียบสงบในห้องบรรทมไร้ผู้คน ยิวผู้อาภัพนอนนิ่งด้วยความสิ้นหวัง เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดีต่อจากนี้ ในระหว่างที่กำลังครุ่นคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงเวลาผ่านมา เขาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อหน้าต่างได้เปิดออกมาอย่างง่ายดาย ช่วงเวลานั้นยิวรีบลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนก แต่เมื่อชายชุดดำที่เข้ามาทางหน้าต่างได้เปิดผ้าคลุมออก ยิวตกใจเป็นสองสามเท่าอย่างทันท่วงที “เสือเข้ม”ยิวผลอหลุดคำพูดนี้ออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ “จำผัวเก่าได้แม่นเหมือนกันนะ”เสือเข้มเดินเข้ามาใกล้ๆร่างของยิวที่กำลังยืนตกตะลึงงงงันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวในค่ำคืนอันโดยเดี่ยวเดียวดาย “เอ็งมาทำไม”ยิวลุกขึ้นจากเตียงนอนและรีบวิ่งไปยังประตู ความไวของยิวไม่สามารถต้านพละกำลังของเสือเข้มได้ เพราะในช่วงเวลานั้นเสือเข้มได้วิ่งตัดหน้ามาขวางประตูไว้อย่างรวดเร็ว “จะไปไหนเห็นผัวแล้ววิ่งหนีหมายความว่าอย่างไรกัน หรือว่าจะไปหาผัวใหม่ไอ้แม่ทัพวิศรุฒน่ะเหรอ ฝันไปเถอะว่ามันจะมาช่วยเองได้ ปานนี้กำลังเตรียมงานแต่งงานอยู่ ในอีกไม่กี่วันนี
เมื่อไม่ได้มีการซ้อมละครเวทีเขื่อนจนมีเวลาให้กับงานที่ทำมากขึ้น ไม่ว่าจะหลังเลิกงานหรือแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์เขื่อนทุ่มเวลานั้นอย่างเต็มที่ จนทำให้ไม่มีเวลาไปมาหาสู่กับพีคอย่างเช่นแต่ก่อน และมีอยู่อีกเหตุหนึ่งนั้นเขื่อนได้มีความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่มากขึ้น ตอนกลับห้องหรือไปไหนหลังจากเลิกงาน ก็ไปด้วยกันตลอดเวลา จึงทำให้ความสัมพันธ์ของพีคกับเขื่อนได้จืดจางลงไปอย่างไม่ค่อยรู้ตัวหลังจากเลิกงานวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขื่อนได้กลับพร้อมกับหนุ่มรุ่นน้อง ที่ได้พึ่งได้มาทำงานได้ไม่นานแต่ความสนิทสนมกันนั้นแสนมาก“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นพี่พีคมารับพี่เขื่อนเลยครับ” เจษเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าใคร่สงสัย และมีความดีใจอยู่พอสมควร“พี่พีคไม่ค่อยว่าง เพราะตั้งแต่ไม่ได้แสดงละครด้วยกัน พี่พีคเขาต้องหาบทละครมาสร้างอีก ช่วงนี้เลยห่างๆ กันไป”“อ่อ ถึงว่าสิทำไมไม่ค่อยเห็นพี่พีค แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะถึงอย่างไงพี่เขื่อนยังมีผมอยู่เป็นเพื่อน” เจษอมยิ้มนิดๆ“อืม” เขื่อนไม่ได้พูดอะไรต่อจากนี้ ได้แต่ยืนรอรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะกลับห้อง“โชคดีนะ ที่เราสองคนอยู่ใกล้ๆ ขึ้นรถสายเดียวกัน” เจษยังยืนยิ้มอยู่ไม่วาย“พ
เสือเข้มผู้โหดเหี้ยมได้มีความรักโดยอย่างไม่ตั้งใจ จากเมื่อก่อนอยากอยู่ไปเรื่อยๆแต่ในปัจจุบันความคิดนั้นได้เปลื่ยนไปอย่างมาก เพราะยิวได้สร้างห้องแห่งรักไว้ในหัวใจ จึงทำให้เสือเข้มเกิดความทะเยอะทะยานอยากได้ยิวมาครอบครองเขาจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อจะทวงราชบัลลังก์คืนแกตัวเขาและยิว การรวบรวมกำลังพลในค่ายเสือ ถึงจะไม่ได้มากมายเท่ากับกองทัพแห่งเมืองเมฆาบุรี ที่ตอนนี้เปลื่ยนชื่อเป็นเมืองวิหค กว่าที่เสือเข้มจะระดมบรรดาโจรทั่วเมืองเมฆาบุรีได้ใช้เวลานานพอสมควร และได้ติดต่อจากเมืองอื่นๆอีกมากมายเพื่อมาช่วยในครั้งนี้ โดยมีผลตอบแทนพื้นที่บางส่วนให้ไว้อาศัยอยู่ และทรัพย์สินในวังอันมีค่าบางส่วน ในที่สุดวันที่เสือเข้มรอคอยก็มาถึง เขาได้บุกเข้าเมืองเมฆาบุรีแบบกองโจร ไม่ได้ปะชิดสู้ตรงๆ เพราะขืนทำอย่างนั้นไม่มีทางที่จะชนะแม่ทัพวิหคและอำมาตย์มงคลได้อย่างแน่นอน โดยการครั้งนี้เสือเข้มเป็นผู้วางแผนและสั่งการเองทุกอย่าง โดยเริ่มต้นยามค่ำคืนอันเงียบสงัดและเผลอไผลไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์อันร้ายแรงเกิดขึ้น “พี่น้องทุกคนพร้อมกันหรือยัง”เสือเข้มประกาศก้องใกล้ๆเมืองชั
ค่ำคืนที่หาบทละครเวที พีคกำลังขะมักเขม้นทำอย่างจริงใจ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันพีคได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เมื่อดูชื่อที่ปรากฏเป็นกัส พีคจึงรีบรับทันทีเพราะปกติไม่เคยโทรมาแต่อย่างใด “ฮัลโหล น้องกัสมีอะไรหรือเปล่า” “มี แต่ กัสไม่อยากบอกพี่เลยครับ” “เรื่องอะไร บอกมาเลยถ้าไม่บอกพี่โกรธจริงๆนะ” “ก็เรื่องของเขื่อนไงครับ คือ ว่า เอ่อ อ่า อืม” “พูดมาเลยว่าเรื่องอะไร” “คือ เรื่องเด็กคนนั้นน่ะของเขื่อน เท่าที่กัสสังเกตหน้าจะมีอะไรมากกว่าเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน” “พี่ก็สงสัยแต่พี่ไม่มีหลักฐานอะไร” “คือ คืนนี้พี่ลองไปหาเขื่อนที่ห้องพักแบบไม่ให้รู้ตัวสิครับ” “น้องกัสรู้อะไรมาเหรอ” “อืม กัสไม่พูดดีกว่าพี่พีคไปดูเองเถอะ” “อืม ก็ได้ ขอบใจกัสมากนะ” “ไม่เป็นไรครับ” เมื่อพีคกดวางโทรศัพท์มือถือ ก็ขับรถไปหาเขื่อนในทันที โดยไม่บอกกล่าวอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ค่อนข้างให้ความเชื่อใจกัสมากกว่าเขื่อนเสียอีก พีคขับรถไปอย่างกระวนกระวายยิ่งนัก ด
ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว
กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง
ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี
ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่
กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา
เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ
กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง
ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว
ค่ำคืนที่หาบทละครเวที พีคกำลังขะมักเขม้นทำอย่างจริงใจ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันพีคได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เมื่อดูชื่อที่ปรากฏเป็นกัส พีคจึงรีบรับทันทีเพราะปกติไม่เคยโทรมาแต่อย่างใด “ฮัลโหล น้องกัสมีอะไรหรือเปล่า” “มี แต่ กัสไม่อยากบอกพี่เลยครับ” “เรื่องอะไร บอกมาเลยถ้าไม่บอกพี่โกรธจริงๆนะ” “ก็เรื่องของเขื่อนไงครับ คือ ว่า เอ่อ อ่า อืม” “พูดมาเลยว่าเรื่องอะไร” “คือ เรื่องเด็กคนนั้นน่ะของเขื่อน เท่าที่กัสสังเกตหน้าจะมีอะไรมากกว่าเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน” “พี่ก็สงสัยแต่พี่ไม่มีหลักฐานอะไร” “คือ คืนนี้พี่ลองไปหาเขื่อนที่ห้องพักแบบไม่ให้รู้ตัวสิครับ” “น้องกัสรู้อะไรมาเหรอ” “อืม กัสไม่พูดดีกว่าพี่พีคไปดูเองเถอะ” “อืม ก็ได้ ขอบใจกัสมากนะ” “ไม่เป็นไรครับ” เมื่อพีคกดวางโทรศัพท์มือถือ ก็ขับรถไปหาเขื่อนในทันที โดยไม่บอกกล่าวอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ค่อนข้างให้ความเชื่อใจกัสมากกว่าเขื่อนเสียอีก พีคขับรถไปอย่างกระวนกระวายยิ่งนัก ด
เสือเข้มผู้โหดเหี้ยมได้มีความรักโดยอย่างไม่ตั้งใจ จากเมื่อก่อนอยากอยู่ไปเรื่อยๆแต่ในปัจจุบันความคิดนั้นได้เปลื่ยนไปอย่างมาก เพราะยิวได้สร้างห้องแห่งรักไว้ในหัวใจ จึงทำให้เสือเข้มเกิดความทะเยอะทะยานอยากได้ยิวมาครอบครองเขาจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อจะทวงราชบัลลังก์คืนแกตัวเขาและยิว การรวบรวมกำลังพลในค่ายเสือ ถึงจะไม่ได้มากมายเท่ากับกองทัพแห่งเมืองเมฆาบุรี ที่ตอนนี้เปลื่ยนชื่อเป็นเมืองวิหค กว่าที่เสือเข้มจะระดมบรรดาโจรทั่วเมืองเมฆาบุรีได้ใช้เวลานานพอสมควร และได้ติดต่อจากเมืองอื่นๆอีกมากมายเพื่อมาช่วยในครั้งนี้ โดยมีผลตอบแทนพื้นที่บางส่วนให้ไว้อาศัยอยู่ และทรัพย์สินในวังอันมีค่าบางส่วน ในที่สุดวันที่เสือเข้มรอคอยก็มาถึง เขาได้บุกเข้าเมืองเมฆาบุรีแบบกองโจร ไม่ได้ปะชิดสู้ตรงๆ เพราะขืนทำอย่างนั้นไม่มีทางที่จะชนะแม่ทัพวิหคและอำมาตย์มงคลได้อย่างแน่นอน โดยการครั้งนี้เสือเข้มเป็นผู้วางแผนและสั่งการเองทุกอย่าง โดยเริ่มต้นยามค่ำคืนอันเงียบสงัดและเผลอไผลไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์อันร้ายแรงเกิดขึ้น “พี่น้องทุกคนพร้อมกันหรือยัง”เสือเข้มประกาศก้องใกล้ๆเมืองชั
เมื่อไม่ได้มีการซ้อมละครเวทีเขื่อนจนมีเวลาให้กับงานที่ทำมากขึ้น ไม่ว่าจะหลังเลิกงานหรือแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์เขื่อนทุ่มเวลานั้นอย่างเต็มที่ จนทำให้ไม่มีเวลาไปมาหาสู่กับพีคอย่างเช่นแต่ก่อน และมีอยู่อีกเหตุหนึ่งนั้นเขื่อนได้มีความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่มากขึ้น ตอนกลับห้องหรือไปไหนหลังจากเลิกงาน ก็ไปด้วยกันตลอดเวลา จึงทำให้ความสัมพันธ์ของพีคกับเขื่อนได้จืดจางลงไปอย่างไม่ค่อยรู้ตัวหลังจากเลิกงานวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขื่อนได้กลับพร้อมกับหนุ่มรุ่นน้อง ที่ได้พึ่งได้มาทำงานได้ไม่นานแต่ความสนิทสนมกันนั้นแสนมาก“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นพี่พีคมารับพี่เขื่อนเลยครับ” เจษเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าใคร่สงสัย และมีความดีใจอยู่พอสมควร“พี่พีคไม่ค่อยว่าง เพราะตั้งแต่ไม่ได้แสดงละครด้วยกัน พี่พีคเขาต้องหาบทละครมาสร้างอีก ช่วงนี้เลยห่างๆ กันไป”“อ่อ ถึงว่าสิทำไมไม่ค่อยเห็นพี่พีค แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะถึงอย่างไงพี่เขื่อนยังมีผมอยู่เป็นเพื่อน” เจษอมยิ้มนิดๆ“อืม” เขื่อนไม่ได้พูดอะไรต่อจากนี้ ได้แต่ยืนรอรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะกลับห้อง“โชคดีนะ ที่เราสองคนอยู่ใกล้ๆ ขึ้นรถสายเดียวกัน” เจษยังยืนยิ้มอยู่ไม่วาย“พ