เพราะเคยเจ็บเจียนตาย เพราะเคยผิดหวังจนถึงที่สุด และเพราะเคยรักจนสุดหัวใจ เขาเลยคับแค้นใจจนอยากขยี้เธอให้แหลกคามือ "ยังคิดฝันอยากใส่ชุดเจ้าสาวอยู่อีกหรือไง? ผู้หญิงอย่างเธอคิดเหรอว่าจะมีผู้ชายคนไหนยกย่องให้เป็นเจ้าสาว? เธอเป็นได้แค่นางบำเรอ มีหน้าที่รอรับแรงกระแทกจากฉันเท่านั้น เธอมีค่าแค่นั้นแหละฟาติมา"
Voir plusไอ้คนเจ้าคิดเจ้าแค้นแสนเอาแต่ใจตัวเองกระหน่ำโกยกินฟาติมาจนหนำใจ ทำเอาเธออ่อนเปลี้ยเพลียแรง พอได้ระบายอารมณ์ ได้ปลดปล่อยเขาก็ไล่เธอออกจากห้องทำงานทันที ฟาติมาชินแล้วกับเรื่องแบบนี้ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พอกัมปนาทโกรธแล้วจะจับเธอกระแทกกระทั้นระบายอารมณ์ ในห้องทำงานบนตึกสูงแสนหรูหราแห่งนี้ เขาใช้มันเป็นสถานที่เริงรมย์มานับครั้งไม่ถ้วน ผู้ชายคนนี้ไม่สนว่าจะเป็นที่ไหนเวลาใด หากเขาต้องการจะกระทำความป่าเถื่อน เขาจะทำมันในทันทีโดยไม่แยแสอะไรทั้งนั้น บนรถข้างถนนเขาก็ทำมาแล้ว ในห้องน้ำร้านอาหารเขาก็เคยทำ หนักที่สุดคงจะเป็นในห้องน้ำบนเครื่องบิน ตอนที่บินไปดูงานต่างประเทศเมื่อปีก่อนความสะใจที่กัมปนาทชอบมากที่สุดคือตอนที่เขาทำให้ฟาติมาเสียวจนถึงที่สุด แต่ครางออกมาไม่ได้เขามันโรคจิต!ระหว่างที่กำลังประชุมแผนการการลงทุนในไตรมาสต่อไป กัมปนาทที่รู้ทุกอย่างดีอยู่แล้วปล่อยให้พวกผู้บริหารคนอื่นคุยกันไป ส่วนตัวเขาก็เอาแต่นั่งมองเลขาส่วนตัวที่กำลังม่วนอยู่กับการจดบันทึกที่ประชุม ก็เธอมีหน้าที่นำข้อมูลเหล่านี้ไปสรุปแล้วรายงานเจ้านาย หน้าที่ของเธอคือทำให้งานของกัมปนาทราบรื่นแล้วสะดวกรวดเร็วที่สุด เขาไม่เคยพู
หญิงสาวผู้เพียบพร้อมที่กัมปนาทหมายมั่นว่าอยากจะคบหาดูใจ มองไกลไปถึงการแต่งงานก็คือวริศรา เธอคนนี้อายุยี่สิบแปดปี มีรูปร่างหน้าตาสวยสะกด เกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ดี วริศรานั้นเพอร์เฟคทุกกระเบียดนิ้ว ฐานะทางการเงินก็ถือว่าอยู่ในระดับมหาเศรษฐี เพราะเธอเป็นหลานสาวคนเดียวของเจ้าสัวกษิดิศ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อต้น ๆ ของประเทศ เรื่องการศึกษาก็ไม่ต้องพูดถึง วริศราเป็นดีไซเนอร์ที่กำลังทำแบรนด์ของตัวเอง และ Varis Varis แบรนด์ของเธอก็กำลังไปได้สวย โดยมีกัมปนาทเข้าไปร่วมลงทุนเมื่อหกเดือนก่อน“คุณบอกว่ามีแผนการตลาดอยากคุยกับศรา แต่พอศรามาถึงคุณกลับเงียบแล้วก็เอาแต่ยิ้ม” วริศราเป็นหญิงสาวที่โดดเด่น เธอเก่งและมีความมั่นใจในตัวเอง เป็นผู้หญิงที่ไม่วิ่งตามผู้ชาย ที่ยอมให้กัมปนาทมาร่วมลงทุนทำแบรนด์ด้วยก็เพราะคุณปู่แนะนำมา และเพราะเธอเล็งเห็นว่ากัมปนาทจะพาแบรนด์ของเธอให้ไปได้ไกล อย่างที่บอกว่าผู้ชายคนนี้เก่งเรื่องมองกราฟและอนาคตมาก“ยอมรับก็ได้ครับว่าผมโกหก ที่จริงมีเรื่องอื่นที่อยากพูดกับคุณ แต่กลัวว่าถ้าไม่อ้างเรื่องงานแล้วคุณจะไม่ยอมมาเจอผมน่ะสิ” กัมปนาทเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มของเขา
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในตอนแปดโมงเช้าเรียกร้องให้ฟาติมาที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหลุดออกจากภวังค์ ข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือระบุไว้ว่าวันนี้คือวันครบรอบ ม่านน้ำตาเคลือบคลออยู่บนดวงตาคู่สวย ไม่ต้องมีการแจ้งเตือนเธอก็จำได้ดีว่าวันนี้เป็นวันอะไร หากนับจากวันแรกจนถึงวันนี้ หากไม่นับเหตุการณ์เลวร้ายใด ๆ ก็นับว่าวันนี้คือวันครบรอบแปดปีที่เธอคบกับกัมปนาทใช่…ก่อนจะกลายมาเป็นนางบำเรอของเขา ก่อนจะมีการหักหลังกัน เธอกับเขาเคยรักกันมาก่อนก่อนจะเกลียดเธอจนเข้ากระดูกดำ ผู้ชายคนนั้นเคยรักฟาติมามากเหลือเกินก่อนจะหักหลังและทำให้ชีวิตเขาเกือบพัง ฟาติมาก็เคยรักกัมปนาทมากเช่นกัน เมื่อก่อนเคยรักยังไงตอนนี้ก็ยังรักอยู่อย่างนั้น เพิ่มเติมคือความรู้สึกผิดที่มีต่อเขาน้ำตาร่วงหล่นหยดแล้วหยดเล่าในตอนที่หญิงสาวหยิบเอารูปถ่ายใส่กรอบลายดอกไม้สีขาวขึ้นมาดู มันคือรูปคู่รูปแรกที่เธอถ่ายคู่กับเขาคนนั้น ถ่ายไว้เมื่อแปดปีก่อน สมัยที่เธอยังพอจะมีรอยยิ้มได้ ยิ้มได้แค่เฉพาะตอนที่อยู่กับเขาคนเดียว“ฟ้าคิดถึงพี่กั้ง ฮึก! คิดถึงพี่กั้งคนเก่า…ฟ้าขอโทษนะที่ทำให้เรากลายเป็นแบบนี้ ขอโทษจริง ๆ” ฟาติมากล้าพูดได้เต็มปากว่า
แม้แต่ผู้หญิงขายตัวที่ใช้เรือนร่างตัวเองก็ยังมีมูลค่า มีราคา ใช้เซ็กส์แลกกับเงิน แต่กับฟาติมา…เธออยู่ในจุดที่ตกต่ำเหมือนตกนรกชั้นอเวจี เปลืองตัวนอนกับกัมปนาท เธอไม่ได้เงินแม้แต่แดงเดียว เจ็บตัวเพราะถูกเขากระทำรุนแรงก็ไม่ได้ค่าเยียวยาอะไรทั้งนั้น แต่โทษใครไม่ได้เพราะเธอเลือกเอง ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เธอเป็นคนเลือกเองทั้งนั้นตอนกลางวันหน้าที่ของฟาติมาคือเป็นเลขาคอยดูแลเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวบางเรื่องให้กับกัมปนาท ตกกลางคืนหน้าที่เธอคือการแก้ผ้านอนถ่างขาให้เขาได้ระบายอารมณ์ เธอเป็นนางบำเรออย่างที่เขาว่าจริง ๆ ยอมเป็นผู้หญิงไร้ค่าให้เขากระหน่ำซ้ำเติม ยอมนอนนิ่งให้เขาใช้ความป่าเถื่อนทำลายเธอทั้งกายและใจ แต่ก็อย่างที่บอก…เธอเลือกเอง ไอ้คุณกั้งไม่ได้บังคับให้เธอมาทำเรื่องแบบนี้ วันนั้นเป็นเธอเองที่บอกว่ายกทั้งชีวิตให้เขา เป็นเธอเองที่ร้องขอว่าอยากจะชดใช้ทุกอย่างตลอดสามปีที่อยู่ในสถานะนางบำเรอของกัมปนาท ทั่วทุกส่วนบนเรือนร่างงามหยดย้อยนั้นถูกเขาสัมผัสมาหมดแล้ว ตรงไหนที่สวย ตรงไหนที่ขาวผุดผ่อง เขาได้ลิ้มลองมาหมด บางครั้งก็ทำเสพสมด้วยความละมุนเบา บางครั้งก็ตะโบมโกยกินด้วยความหื่นกระหาย และหล
ฟาติมาเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาที่มีความฝัน และความฝันของเธอก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนัก เธอเพียงอยากใส่ชุดเจ้าสาวสักครั้งในชีวิต อยากมีครอบครัวเล็ก ๆ ที่อบอุ่น มีสามีที่รักเธอ ให้ความอบอุ่นในแบบที่เธอไม่เคยได้รับมาตลอดทั้งชีวิตยี่สิบแปดปี เธอไม่ได้หวังให้ผู้ชายที่จะเข้ามาเป็นสามีต้องรวยล้นฟ้า หล่อเหลาปานเทพบุตร ไม่ต้องดีเลิศเลอ ขอเพียงเขาคนนั้นใจดีกับเธอก็พอ แต่ขึ้นชื่อว่าความฝัน…หากไม่ใช่สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ก็คงจะเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นเลยตลอดชั่วชีวิตของคนคนหนึ่งทุกวันหลังเลิกงานฟาติมาจะเดินมาหยุดที่หน้าเวดดิ้งสตูดิโอ มองดูชุดเจ้าสาวสีขาวแสนสวยชุดเดิม ความสิ้นหวังเกิดขึ้นในทุกครั้งที่เธอจินตนาการถึงภาพตัวเองสวมชุดสีขาวฟูฟ่องนั้น คนอย่างเธอ ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีวันได้แต่งงานมีครอบครัวหรอก ความฝันของเธอไม่มีวันเป็นจริง เพราะเธอไม่ได้รับอนุญาตให้มีความสุข ชีวิตนับจากนี้และตลอดไป…จะต้องอยู่เพื่อชดใช้เวรกรรมที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น“เจอคุณอีกแล้ว” ชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มแสนอบอุ่นก้าวเท้าออกมาจากเวดดิ้งสตูดิโอ เขามองฟาติมาอยู่พักใหญ่ เห็นแล้วว่าเธอมีแววตาสิ้นหวังจนน่าเห็นใจ ที่จริงเขาเห็นเธ
ฟาติมาเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาที่มีความฝัน และความฝันของเธอก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนัก เธอเพียงอยากใส่ชุดเจ้าสาวสักครั้งในชีวิต อยากมีครอบครัวเล็ก ๆ ที่อบอุ่น มีสามีที่รักเธอ ให้ความอบอุ่นในแบบที่เธอไม่เคยได้รับมาตลอดทั้งชีวิตยี่สิบแปดปี เธอไม่ได้หวังให้ผู้ชายที่จะเข้ามาเป็นสามีต้องรวยล้นฟ้า หล่อเหลาปานเทพบุตร ไม่ต้องดีเลิศเลอ ขอเพียงเขาคนนั้นใจดีกับเธอก็พอ แต่ขึ้นชื่อว่าความฝัน…หากไม่ใช่สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ก็คงจะเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นเลยตลอดชั่วชีวิตของคนคนหนึ่งทุกวันหลังเลิกงานฟาติมาจะเดินมาหยุดที่หน้าเวดดิ้งสตูดิโอ มองดูชุดเจ้าสาวสีขาวแสนสวยชุดเดิม ความสิ้นหวังเกิดขึ้นในทุกครั้งที่เธอจินตนาการถึงภาพตัวเองสวมชุดสีขาวฟูฟ่องนั้น คนอย่างเธอ ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีวันได้แต่งงานมีครอบครัวหรอก ความฝันของเธอไม่มีวันเป็นจริง เพราะเธอไม่ได้รับอนุญาตให้มีความสุข ชีวิตนับจากนี้และตลอดไป…จะต้องอยู่เพื่อชดใช้เวรกรรมที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น“เจอคุณอีกแล้ว” ชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มแสนอบอุ่นก้าวเท้าออกมาจากเวดดิ้งสตูดิโอ เขามองฟาติมาอยู่พักใหญ่ เห็นแล้วว่าเธอมีแววตาสิ้นหวังจนน่าเห็นใจ ที่จริงเขาเห็นเธ...
Commentaires