แม้แต่ผู้หญิงขายตัวที่ใช้เรือนร่างตัวเองก็ยังมีมูลค่า มีราคา ใช้เซ็กส์แลกกับเงิน แต่กับฟาติมา…เธออยู่ในจุดที่ตกต่ำเหมือนตกนรกชั้นอเวจี เปลืองตัวนอนกับกัมปนาท เธอไม่ได้เงินแม้แต่แดงเดียว เจ็บตัวเพราะถูกเขากระทำรุนแรงก็ไม่ได้ค่าเยียวยาอะไรทั้งนั้น แต่โทษใครไม่ได้เพราะเธอเลือกเอง ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เธอเป็นคนเลือกเองทั้งนั้น
ตอนกลางวันหน้าที่ของฟาติมาคือเป็นเลขาคอยดูแลเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวบางเรื่องให้กับกัมปนาท ตกกลางคืนหน้าที่เธอคือการแก้ผ้านอนถ่างขาให้เขาได้ระบายอารมณ์ เธอเป็นนางบำเรออย่างที่เขาว่าจริง ๆ ยอมเป็นผู้หญิงไร้ค่าให้เขากระหน่ำซ้ำเติม ยอมนอนนิ่งให้เขาใช้ความป่าเถื่อนทำลายเธอทั้งกายและใจ แต่ก็อย่างที่บอก…เธอเลือกเอง ไอ้คุณกั้งไม่ได้บังคับให้เธอมาทำเรื่องแบบนี้ วันนั้นเป็นเธอเองที่บอกว่ายกทั้งชีวิตให้เขา เป็นเธอเองที่ร้องขอว่าอยากจะชดใช้ทุกอย่าง
ตลอดสามปีที่อยู่ในสถานะนางบำเรอของกัมปนาท ทั่วทุกส่วนบนเรือนร่างงามหยดย้อยนั้นถูกเขาสัมผัสมาหมดแล้ว ตรงไหนที่สวย ตรงไหนที่ขาวผุดผ่อง เขาได้ลิ้มลองมาหมด บางครั้งก็ทำเสพสมด้วยความละมุนเบา บางครั้งก็ตะโบมโกยกินด้วยความหื่นกระหาย และหลายครั้งที่เขาฟาดฟัดเธอด้วยความป่าเถื่อนรุนแรงอย่างคนไร้อารยะ
หากมีเพียงส่วนเดียวเท่านั้นที่กัมปนาทไม่เคยแตะต้อง ยามที่กระชากหญิงสาวตัวเล็กแสนบอบบางมากระหน่ำยัดเยียดความหื่นกาม เขาจะข้ามขั้นตอนนี้ไปเสมอ…สามปีมานี้เขาไม่เคยจูบเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว หากต้องการจะใช้งานเรียวปากอวบอิ่มของเธอ มันก็แค่ตอนที่ต้องการให้เธอดูดอมอาวุธลับใหญ่ยาวของเขาเท่านั้น
เพียะ!
เขาชอบตบสองเต้าที่มันกวัดแกว่งไปตามแรงกระแทกยามที่ฟาติมาทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ด้านบน ทั้งตบทั้งขยำจนมันแดงเป็นรอยนิ้ว พอมันแดงมาก ๆ จนเหมือนจะห้อเลือดขึ้นมาก็หยุดตบ คว้ามันมาคว้าปากแล้วดูดรัว ๆ แทน เหมือนว่ากัมปนาทคนนี้จะสะใจเป็นพิเศษเวลาที่ได้ยินเสียงร้องปนเสียงครางจากนางบำเรอ ยิ่งเธอร้องเขาก็ยิ่งดูดแรงขึ้น แรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเผลอกัดเข้าให้
“คุณกั้ง!” ฟาติมานิ่วหน้าเจ็บ อีกแล้ว…เขากัดนมเธออีกแล้ว ทำตัวอย่างกับเป็นหมา!
“ทำไม?”
“ฟ้าเจ็บค่ะ” เมื่อกี้เธอเกือบจะขย่มด้วยความเร็วจนทำให้เขาสำเร็จความใคร่ได้แล้วเชียว แต่พอเขากัดจนทำเธอเจ็บ เธอก็จำใจต้องหยุดเคลื่อนไหว
“เจ็บสิดี มันแปลว่าเธอจะมีความรู้สึกอยู่…ไม่งั้นฉันก็คิดว่าเธอมันไร้ความรู้สึกไปแล้ว”
“คุณกั้งไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าฟ้าจะรู้สึกยังไง แล้วจะมาสนใจทำไมว่าฟ้ายังเหลือความรู้สึกอยู่หรือเปล่า”
“ร่อนต่อ! เคยบอกไปแล้วนี่ว่าฉันเกลียดเวลาที่เธอพูดมาก!” คว้าหมับเข้าที่ก้นงอน ๆ บีบเคล้นจนเนื้อนวลไร้ที่ติปลิ้นออกตามง่ามนิ้ว ออกแรงบังคับให้หญิงสาวกดทับควบความเป็นตัวตนที่คาอยู่ในตัวเธอ สิ้นคำสั่งก็ครางออกมาเพราะความกระสันเสียว ของนางบำเรอที่ชื่อฟาติมามันแน่นเสมอ ทำเขาเสียวสุดยอดได้ทุกครั้ง
“อื้อ!” เขากระแทกสวนขึ้นมาจนลึก ทำเอาเธอที่อยู่ด้านบนสั่นสะท้าน กระทุ้งกระแทกเข้ามาอย่างรุนแรงโดยไม่สนว่าเธอจะเจ็บจุกยังไง ขอเพียงได้ยินเสียงเธอร้องคราง ขอเพียงได้เห็นสีหน้าเร้าอารมณ์ปนเจ็บปวดของเธอ เท่านั้นเขาก็พอใจแล้ว
“ครางเหรอ? รู้สึกดีเหรอฟาติมา?”
“…” ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ยอมรับไม่ได้เด็ดขาดว่ารู้สึกดี ถ้าบอกว่าฟินแค่ไหนมีหวังไอ้คนเจ้าคิดเจ้าแค้นชอบเอาชนะนี่จะทำสิ่งที่ตรงกันข้ามอีกแน่
“ส่ายหน้าปฏิเสธ? คิดว่าฉันโง่หรือไง? เห็นอยู่ว่าเธอเสียว…กล้าแสดงออกว่ามีความสุขต่อหน้าฉันเหรอ?”
“ไม่ค่ะ ฟ้าไม่มีความสุข…อึก! ฟ้ามีความสุขไม่ได้จนกว่าคุณกั้งจะอนุญาต”
“เธอพูดเองนะ” ไอ้คนใจร้ายไม่เคยคิดว่าตัวเองบีบบังคับฟาติมา ทุกครั้งที่ทำเธอเจ็บไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ เขาคิดเสมอว่าทั้งหมดเป็นเพราะเธอร้องขอให้ทำ เธอนั่นแหละที่วิงวอนขอกลับเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง เพื่อให้เขาได้กระทำเลว ๆ กับเธอเป็นการลงโทษ แบบนี้จะมากล่าวโทษอะไรเขาได้? ในอดีต…เขาคือผู้ถูกกระทำ เขาเองก็เคยเจ็บและเคยเสียใจมาก่อน!
“อึก! อ๊ะ! คุณกั้ง…” พอคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านพ้นไปแล้ว พอคิดถึงช่วงเวลาที่แสนเลวร้าย กัมปนาทก็ยิ่งกระทุ้งกระแทกรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
“อื้อ! ฉันเกลียดเธอ! โคตรเกลียดเธอเลยฟาติมา!” พ่นคำแสนเกลียดชังพร้อมกับเสียงคราง เม้มปากออกแรงยกหญิงสาวจนตัวลอย กระแทกตัวตนเข้าไปแบบเน้น ๆ จนเกิดเป็นเสียงดังลั่นไปทั่วทั้งห้อง
“ฟ้ารู้ค่ะว่าคุณกั้งเกลียด…อ๊ะ! อ๊าห์!”
“เกลียดจนอยากเห็นชีวิตเธอพัง!”
“ชีวิตฟ้าพังไปแล้วค่ะ”
“ไม่! มันยังพังไม่พอใจฉัน! เธอต้องพังกว่านี้…ฉันอยากเห็นเธอเสียใจและเจ็บปวดมากกว่านี้อีก!”
“…” ไม่มีมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะนี่มันมากที่สุดแล้วจริง ๆ ฟาติมาไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่สิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจคือ…เจ็บกว่านี้คงตาย คงต้องตายแล้วจริง ๆ
“อึก!”
ตุบ!
จนแล้วจนรอดกัมปนาทก็ถึงจุดสุดยอด ปลดปล่อยของเหลวสีขุ่นใส่ตัวฟาติมาก่อนจะเหวี่ยงร่างบางเปลือยเปล่าทิ้งลงบนเตียงนอน เป็นแบบนี้ทุกครั้ง…พอถึงฝั่งฝันก็จะแสดงท่าทีรังเกียจเธอ ทำเหมือนไม่อยากแตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้ว ชายตามองเธอที่สั่นไปทั้งร่าง หลายครั้งที่เสพสมเรือนร่างของเธอมันจะมีแค่เขาคนเดียวที่สุขสม ครั้งนี้ก็เป็นแบบนั้น…มีแค่เขาที่ได้ขึ้นสวรรค์ ส่วนฟาติมาก็ค้างเติ่งกลางอากาศก่อนจะร่วงหล่นลงพื้นดินดังตุบ!
“อย่าลืมกินยาคุม เคยบอกไปแล้วว่าถ้าปล่อยให้ท้อง…ฉันจะล้วงเข้าไปควักเอาก้อนเลือดนั่นมาขยี้ให้แหลกคามือ” เขาเกลียดเธอแต่เรียกเธอมานอนด้วยไม่เว้นวัน รังเกียจเธอมากแต่ไม่เคยแยแสถุงยางอนามัย เขาแค้นเธอสุดหัวใจ…แต่ก็ยังเลือกที่จะเก็บเธอไว้ในชีวิต นี่และเขา…ผู้ชายที่ชื่อว่ากัมปนาท
“ค่ะ” ฟาติมามีหน้าที่เพียงทำตามคำสั่ง คลานลงจากเตียงไปคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่ แต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาจากห้องนอน ผ่านห้องหับมากมายในเพนท์เฮาส์แสนหรูหรา มูลค่าไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน เข้ามาในห้องเก็บเหล้า…คว้าเอาขวดโปรดของคุณคนเป็นเจ้าชีวิตมารินใส่แก้วแล้วเอากลับมายื่นส่งให้เขาที่ห้องนอน
“พรุ่งนี้หาซื้อดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่มาด้วย” ชายหนุ่มนอนเอนกายพิงพนักเตียงคิงไซซ์ รับแก้วเหล้ามาจิบ ทุกครั้งที่ใช้งานเรือนร่างของฟาติมาจนหนำใจแล้วเขาจะสั่งให้เธอชงเครื่องดื่มมาให้ หลัง ๆ เธอรู้งานทำเองโดยไม่ต้องรอเขาสั่ง ที่เหลือก็แค่รอฟังคำด่าอีกสักชุดสองชุดก่อนที่เขาจะไล่เธอให้ไปพ้นหูพ้นตา
“ค่ะ”
“ไม่อยากรู้เหรอว่าฉันสั่งให้ซื้อดอกกุหลาบมาทำไม”
“ไม่อยากรู้ค่ะ” ถ้าบอกว่าอยากรู้ เขาก็คงด่าว่าเธอจุ้นจ้านแล้วปล่อยให้สงสัยไปตลอด กัมปนาทมักจะทำทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับความต้องการของเธออยู่เสมอ ฟาติมาคิดเอาเองว่าการทำแบบนั้นมันทำให้เขารู้สึกสะใจ ถึงจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยก็เถอะ
“ฉันจะขอศราคบวันพรุ่งนี้” ศราหรือก็คือวริศรา หลานสาวของเจ้าสัวใหญ่ที่กัมปนาทพยายามตามจีบอยู่หลายเดือน แล้วหากจะถามว่าทำไมเขาต้องขอเธอคนนั้นคบวันพรุ่งนี้ คำตอบก็คือเพราะมันเคยเป็นวันสำคัญน่ะสิ
“ขอให้สมหวังนะคะ” ฟาติมาไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ความรู้สึกของเธอ…ไม่เคยเปิดเผยออกมาต่อหน้ากัมปนาทมาเกือบสามปีแล้ว เธอไม่เคยยิ้มให้เขาเห็นนับตั้งแต่ที่บอกว่าจะยกทั้งชีวิตให้เขาปู้ยี่ปู้ยำ ไม่เคยหลั่งน้ำตาต่อหน้าเขาตั้งแต่วันที่เขาบอกว่าเธอมันไร้ค่า เป็นเหมือนเศษขยะที่ไม่สามารถเอามารีไซเคิลได้ เธอวางเฉยทำราวกับไร้หัวจิตหัวใจ จนหลายครั้งชายหนุ่มทนไม่ไหวต่อว่าว่าเธอมันด้านชา
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ฉันเหม็นขี้หน้าเธอแล้ว จะไปไหนก็ไป!”
“ค่ะ” พยักหน้ารับคำสั่งแล้วคนตัวเล็กก็เดินออกมา เพียงแผ่นหลังพ้นประตูห้องนอนน้ำตาก็ร่วงหล่น เธอมีความรู้สึก ยังรู้สึกอยู่มากมาย ยังเจ็บปวดกับทุกคำด่าทอ ยังทรมานเวลาที่เขาบอกว่าเกลียดเธอสุดชีวิต ที่เจ็บที่สุดก็ตรงที่เขาบอกว่าจะขอวริศราคบเป็นแฟนนั่นแหละ
เธอมีหัวใจ
ถึงจะเป็นแค่นางบำเรอไร้ค่าแต่เธอก็มีหัวใจ รักเป็น เจ็บเป็น และที่เจ็บมากมายแบบนี้ก็เพราะรักและรู้สึกผิดกับเขามากเหลือเกิน
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในตอนแปดโมงเช้าเรียกร้องให้ฟาติมาที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหลุดออกจากภวังค์ ข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือระบุไว้ว่าวันนี้คือวันครบรอบ ม่านน้ำตาเคลือบคลออยู่บนดวงตาคู่สวย ไม่ต้องมีการแจ้งเตือนเธอก็จำได้ดีว่าวันนี้เป็นวันอะไร หากนับจากวันแรกจนถึงวันนี้ หากไม่นับเหตุการณ์เลวร้ายใด ๆ ก็นับว่าวันนี้คือวันครบรอบแปดปีที่เธอคบกับกัมปนาทใช่…ก่อนจะกลายมาเป็นนางบำเรอของเขา ก่อนจะมีการหักหลังกัน เธอกับเขาเคยรักกันมาก่อนก่อนจะเกลียดเธอจนเข้ากระดูกดำ ผู้ชายคนนั้นเคยรักฟาติมามากเหลือเกินก่อนจะหักหลังและทำให้ชีวิตเขาเกือบพัง ฟาติมาก็เคยรักกัมปนาทมากเช่นกัน เมื่อก่อนเคยรักยังไงตอนนี้ก็ยังรักอยู่อย่างนั้น เพิ่มเติมคือความรู้สึกผิดที่มีต่อเขาน้ำตาร่วงหล่นหยดแล้วหยดเล่าในตอนที่หญิงสาวหยิบเอารูปถ่ายใส่กรอบลายดอกไม้สีขาวขึ้นมาดู มันคือรูปคู่รูปแรกที่เธอถ่ายคู่กับเขาคนนั้น ถ่ายไว้เมื่อแปดปีก่อน สมัยที่เธอยังพอจะมีรอยยิ้มได้ ยิ้มได้แค่เฉพาะตอนที่อยู่กับเขาคนเดียว“ฟ้าคิดถึงพี่กั้ง ฮึก! คิดถึงพี่กั้งคนเก่า…ฟ้าขอโทษนะที่ทำให้เรากลายเป็นแบบนี้ ขอโทษจริง ๆ” ฟาติมากล้าพูดได้เต็มปากว่า
หญิงสาวผู้เพียบพร้อมที่กัมปนาทหมายมั่นว่าอยากจะคบหาดูใจ มองไกลไปถึงการแต่งงานก็คือวริศรา เธอคนนี้อายุยี่สิบแปดปี มีรูปร่างหน้าตาสวยสะกด เกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ดี วริศรานั้นเพอร์เฟคทุกกระเบียดนิ้ว ฐานะทางการเงินก็ถือว่าอยู่ในระดับมหาเศรษฐี เพราะเธอเป็นหลานสาวคนเดียวของเจ้าสัวกษิดิศ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อต้น ๆ ของประเทศ เรื่องการศึกษาก็ไม่ต้องพูดถึง วริศราเป็นดีไซเนอร์ที่กำลังทำแบรนด์ของตัวเอง และ Varis Varis แบรนด์ของเธอก็กำลังไปได้สวย โดยมีกัมปนาทเข้าไปร่วมลงทุนเมื่อหกเดือนก่อน“คุณบอกว่ามีแผนการตลาดอยากคุยกับศรา แต่พอศรามาถึงคุณกลับเงียบแล้วก็เอาแต่ยิ้ม” วริศราเป็นหญิงสาวที่โดดเด่น เธอเก่งและมีความมั่นใจในตัวเอง เป็นผู้หญิงที่ไม่วิ่งตามผู้ชาย ที่ยอมให้กัมปนาทมาร่วมลงทุนทำแบรนด์ด้วยก็เพราะคุณปู่แนะนำมา และเพราะเธอเล็งเห็นว่ากัมปนาทจะพาแบรนด์ของเธอให้ไปได้ไกล อย่างที่บอกว่าผู้ชายคนนี้เก่งเรื่องมองกราฟและอนาคตมาก“ยอมรับก็ได้ครับว่าผมโกหก ที่จริงมีเรื่องอื่นที่อยากพูดกับคุณ แต่กลัวว่าถ้าไม่อ้างเรื่องงานแล้วคุณจะไม่ยอมมาเจอผมน่ะสิ” กัมปนาทเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มของเขา
ไอ้คนเจ้าคิดเจ้าแค้นแสนเอาแต่ใจตัวเองกระหน่ำโกยกินฟาติมาจนหนำใจ ทำเอาเธออ่อนเปลี้ยเพลียแรง พอได้ระบายอารมณ์ ได้ปลดปล่อยเขาก็ไล่เธอออกจากห้องทำงานทันที ฟาติมาชินแล้วกับเรื่องแบบนี้ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พอกัมปนาทโกรธแล้วจะจับเธอกระแทกกระทั้นระบายอารมณ์ ในห้องทำงานบนตึกสูงแสนหรูหราแห่งนี้ เขาใช้มันเป็นสถานที่เริงรมย์มานับครั้งไม่ถ้วน ผู้ชายคนนี้ไม่สนว่าจะเป็นที่ไหนเวลาใด หากเขาต้องการจะกระทำความป่าเถื่อน เขาจะทำมันในทันทีโดยไม่แยแสอะไรทั้งนั้น บนรถข้างถนนเขาก็ทำมาแล้ว ในห้องน้ำร้านอาหารเขาก็เคยทำ หนักที่สุดคงจะเป็นในห้องน้ำบนเครื่องบิน ตอนที่บินไปดูงานต่างประเทศเมื่อปีก่อนความสะใจที่กัมปนาทชอบมากที่สุดคือตอนที่เขาทำให้ฟาติมาเสียวจนถึงที่สุด แต่ครางออกมาไม่ได้เขามันโรคจิต!ระหว่างที่กำลังประชุมแผนการการลงทุนในไตรมาสต่อไป กัมปนาทที่รู้ทุกอย่างดีอยู่แล้วปล่อยให้พวกผู้บริหารคนอื่นคุยกันไป ส่วนตัวเขาก็เอาแต่นั่งมองเลขาส่วนตัวที่กำลังม่วนอยู่กับการจดบันทึกที่ประชุม ก็เธอมีหน้าที่นำข้อมูลเหล่านี้ไปสรุปแล้วรายงานเจ้านาย หน้าที่ของเธอคือทำให้งานของกัมปนาทราบรื่นแล้วสะดวกรวดเร็วที่สุด เขาไม่เคยพู
ฟาติมาเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาที่มีความฝัน และความฝันของเธอก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนัก เธอเพียงอยากใส่ชุดเจ้าสาวสักครั้งในชีวิต อยากมีครอบครัวเล็ก ๆ ที่อบอุ่น มีสามีที่รักเธอ ให้ความอบอุ่นในแบบที่เธอไม่เคยได้รับมาตลอดทั้งชีวิตยี่สิบแปดปี เธอไม่ได้หวังให้ผู้ชายที่จะเข้ามาเป็นสามีต้องรวยล้นฟ้า หล่อเหลาปานเทพบุตร ไม่ต้องดีเลิศเลอ ขอเพียงเขาคนนั้นใจดีกับเธอก็พอ แต่ขึ้นชื่อว่าความฝัน…หากไม่ใช่สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ก็คงจะเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นเลยตลอดชั่วชีวิตของคนคนหนึ่งทุกวันหลังเลิกงานฟาติมาจะเดินมาหยุดที่หน้าเวดดิ้งสตูดิโอ มองดูชุดเจ้าสาวสีขาวแสนสวยชุดเดิม ความสิ้นหวังเกิดขึ้นในทุกครั้งที่เธอจินตนาการถึงภาพตัวเองสวมชุดสีขาวฟูฟ่องนั้น คนอย่างเธอ ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีวันได้แต่งงานมีครอบครัวหรอก ความฝันของเธอไม่มีวันเป็นจริง เพราะเธอไม่ได้รับอนุญาตให้มีความสุข ชีวิตนับจากนี้และตลอดไป…จะต้องอยู่เพื่อชดใช้เวรกรรมที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น“เจอคุณอีกแล้ว” ชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มแสนอบอุ่นก้าวเท้าออกมาจากเวดดิ้งสตูดิโอ เขามองฟาติมาอยู่พักใหญ่ เห็นแล้วว่าเธอมีแววตาสิ้นหวังจนน่าเห็นใจ ที่จริงเขาเห็นเธ
ไอ้คนเจ้าคิดเจ้าแค้นแสนเอาแต่ใจตัวเองกระหน่ำโกยกินฟาติมาจนหนำใจ ทำเอาเธออ่อนเปลี้ยเพลียแรง พอได้ระบายอารมณ์ ได้ปลดปล่อยเขาก็ไล่เธอออกจากห้องทำงานทันที ฟาติมาชินแล้วกับเรื่องแบบนี้ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พอกัมปนาทโกรธแล้วจะจับเธอกระแทกกระทั้นระบายอารมณ์ ในห้องทำงานบนตึกสูงแสนหรูหราแห่งนี้ เขาใช้มันเป็นสถานที่เริงรมย์มานับครั้งไม่ถ้วน ผู้ชายคนนี้ไม่สนว่าจะเป็นที่ไหนเวลาใด หากเขาต้องการจะกระทำความป่าเถื่อน เขาจะทำมันในทันทีโดยไม่แยแสอะไรทั้งนั้น บนรถข้างถนนเขาก็ทำมาแล้ว ในห้องน้ำร้านอาหารเขาก็เคยทำ หนักที่สุดคงจะเป็นในห้องน้ำบนเครื่องบิน ตอนที่บินไปดูงานต่างประเทศเมื่อปีก่อนความสะใจที่กัมปนาทชอบมากที่สุดคือตอนที่เขาทำให้ฟาติมาเสียวจนถึงที่สุด แต่ครางออกมาไม่ได้เขามันโรคจิต!ระหว่างที่กำลังประชุมแผนการการลงทุนในไตรมาสต่อไป กัมปนาทที่รู้ทุกอย่างดีอยู่แล้วปล่อยให้พวกผู้บริหารคนอื่นคุยกันไป ส่วนตัวเขาก็เอาแต่นั่งมองเลขาส่วนตัวที่กำลังม่วนอยู่กับการจดบันทึกที่ประชุม ก็เธอมีหน้าที่นำข้อมูลเหล่านี้ไปสรุปแล้วรายงานเจ้านาย หน้าที่ของเธอคือทำให้งานของกัมปนาทราบรื่นแล้วสะดวกรวดเร็วที่สุด เขาไม่เคยพู
หญิงสาวผู้เพียบพร้อมที่กัมปนาทหมายมั่นว่าอยากจะคบหาดูใจ มองไกลไปถึงการแต่งงานก็คือวริศรา เธอคนนี้อายุยี่สิบแปดปี มีรูปร่างหน้าตาสวยสะกด เกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ดี วริศรานั้นเพอร์เฟคทุกกระเบียดนิ้ว ฐานะทางการเงินก็ถือว่าอยู่ในระดับมหาเศรษฐี เพราะเธอเป็นหลานสาวคนเดียวของเจ้าสัวกษิดิศ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อต้น ๆ ของประเทศ เรื่องการศึกษาก็ไม่ต้องพูดถึง วริศราเป็นดีไซเนอร์ที่กำลังทำแบรนด์ของตัวเอง และ Varis Varis แบรนด์ของเธอก็กำลังไปได้สวย โดยมีกัมปนาทเข้าไปร่วมลงทุนเมื่อหกเดือนก่อน“คุณบอกว่ามีแผนการตลาดอยากคุยกับศรา แต่พอศรามาถึงคุณกลับเงียบแล้วก็เอาแต่ยิ้ม” วริศราเป็นหญิงสาวที่โดดเด่น เธอเก่งและมีความมั่นใจในตัวเอง เป็นผู้หญิงที่ไม่วิ่งตามผู้ชาย ที่ยอมให้กัมปนาทมาร่วมลงทุนทำแบรนด์ด้วยก็เพราะคุณปู่แนะนำมา และเพราะเธอเล็งเห็นว่ากัมปนาทจะพาแบรนด์ของเธอให้ไปได้ไกล อย่างที่บอกว่าผู้ชายคนนี้เก่งเรื่องมองกราฟและอนาคตมาก“ยอมรับก็ได้ครับว่าผมโกหก ที่จริงมีเรื่องอื่นที่อยากพูดกับคุณ แต่กลัวว่าถ้าไม่อ้างเรื่องงานแล้วคุณจะไม่ยอมมาเจอผมน่ะสิ” กัมปนาทเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มของเขา
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในตอนแปดโมงเช้าเรียกร้องให้ฟาติมาที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหลุดออกจากภวังค์ ข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือระบุไว้ว่าวันนี้คือวันครบรอบ ม่านน้ำตาเคลือบคลออยู่บนดวงตาคู่สวย ไม่ต้องมีการแจ้งเตือนเธอก็จำได้ดีว่าวันนี้เป็นวันอะไร หากนับจากวันแรกจนถึงวันนี้ หากไม่นับเหตุการณ์เลวร้ายใด ๆ ก็นับว่าวันนี้คือวันครบรอบแปดปีที่เธอคบกับกัมปนาทใช่…ก่อนจะกลายมาเป็นนางบำเรอของเขา ก่อนจะมีการหักหลังกัน เธอกับเขาเคยรักกันมาก่อนก่อนจะเกลียดเธอจนเข้ากระดูกดำ ผู้ชายคนนั้นเคยรักฟาติมามากเหลือเกินก่อนจะหักหลังและทำให้ชีวิตเขาเกือบพัง ฟาติมาก็เคยรักกัมปนาทมากเช่นกัน เมื่อก่อนเคยรักยังไงตอนนี้ก็ยังรักอยู่อย่างนั้น เพิ่มเติมคือความรู้สึกผิดที่มีต่อเขาน้ำตาร่วงหล่นหยดแล้วหยดเล่าในตอนที่หญิงสาวหยิบเอารูปถ่ายใส่กรอบลายดอกไม้สีขาวขึ้นมาดู มันคือรูปคู่รูปแรกที่เธอถ่ายคู่กับเขาคนนั้น ถ่ายไว้เมื่อแปดปีก่อน สมัยที่เธอยังพอจะมีรอยยิ้มได้ ยิ้มได้แค่เฉพาะตอนที่อยู่กับเขาคนเดียว“ฟ้าคิดถึงพี่กั้ง ฮึก! คิดถึงพี่กั้งคนเก่า…ฟ้าขอโทษนะที่ทำให้เรากลายเป็นแบบนี้ ขอโทษจริง ๆ” ฟาติมากล้าพูดได้เต็มปากว่า
แม้แต่ผู้หญิงขายตัวที่ใช้เรือนร่างตัวเองก็ยังมีมูลค่า มีราคา ใช้เซ็กส์แลกกับเงิน แต่กับฟาติมา…เธออยู่ในจุดที่ตกต่ำเหมือนตกนรกชั้นอเวจี เปลืองตัวนอนกับกัมปนาท เธอไม่ได้เงินแม้แต่แดงเดียว เจ็บตัวเพราะถูกเขากระทำรุนแรงก็ไม่ได้ค่าเยียวยาอะไรทั้งนั้น แต่โทษใครไม่ได้เพราะเธอเลือกเอง ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เธอเป็นคนเลือกเองทั้งนั้นตอนกลางวันหน้าที่ของฟาติมาคือเป็นเลขาคอยดูแลเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวบางเรื่องให้กับกัมปนาท ตกกลางคืนหน้าที่เธอคือการแก้ผ้านอนถ่างขาให้เขาได้ระบายอารมณ์ เธอเป็นนางบำเรออย่างที่เขาว่าจริง ๆ ยอมเป็นผู้หญิงไร้ค่าให้เขากระหน่ำซ้ำเติม ยอมนอนนิ่งให้เขาใช้ความป่าเถื่อนทำลายเธอทั้งกายและใจ แต่ก็อย่างที่บอก…เธอเลือกเอง ไอ้คุณกั้งไม่ได้บังคับให้เธอมาทำเรื่องแบบนี้ วันนั้นเป็นเธอเองที่บอกว่ายกทั้งชีวิตให้เขา เป็นเธอเองที่ร้องขอว่าอยากจะชดใช้ทุกอย่างตลอดสามปีที่อยู่ในสถานะนางบำเรอของกัมปนาท ทั่วทุกส่วนบนเรือนร่างงามหยดย้อยนั้นถูกเขาสัมผัสมาหมดแล้ว ตรงไหนที่สวย ตรงไหนที่ขาวผุดผ่อง เขาได้ลิ้มลองมาหมด บางครั้งก็ทำเสพสมด้วยความละมุนเบา บางครั้งก็ตะโบมโกยกินด้วยความหื่นกระหาย และหล
ฟาติมาเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาที่มีความฝัน และความฝันของเธอก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนัก เธอเพียงอยากใส่ชุดเจ้าสาวสักครั้งในชีวิต อยากมีครอบครัวเล็ก ๆ ที่อบอุ่น มีสามีที่รักเธอ ให้ความอบอุ่นในแบบที่เธอไม่เคยได้รับมาตลอดทั้งชีวิตยี่สิบแปดปี เธอไม่ได้หวังให้ผู้ชายที่จะเข้ามาเป็นสามีต้องรวยล้นฟ้า หล่อเหลาปานเทพบุตร ไม่ต้องดีเลิศเลอ ขอเพียงเขาคนนั้นใจดีกับเธอก็พอ แต่ขึ้นชื่อว่าความฝัน…หากไม่ใช่สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ก็คงจะเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นเลยตลอดชั่วชีวิตของคนคนหนึ่งทุกวันหลังเลิกงานฟาติมาจะเดินมาหยุดที่หน้าเวดดิ้งสตูดิโอ มองดูชุดเจ้าสาวสีขาวแสนสวยชุดเดิม ความสิ้นหวังเกิดขึ้นในทุกครั้งที่เธอจินตนาการถึงภาพตัวเองสวมชุดสีขาวฟูฟ่องนั้น คนอย่างเธอ ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีวันได้แต่งงานมีครอบครัวหรอก ความฝันของเธอไม่มีวันเป็นจริง เพราะเธอไม่ได้รับอนุญาตให้มีความสุข ชีวิตนับจากนี้และตลอดไป…จะต้องอยู่เพื่อชดใช้เวรกรรมที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น“เจอคุณอีกแล้ว” ชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มแสนอบอุ่นก้าวเท้าออกมาจากเวดดิ้งสตูดิโอ เขามองฟาติมาอยู่พักใหญ่ เห็นแล้วว่าเธอมีแววตาสิ้นหวังจนน่าเห็นใจ ที่จริงเขาเห็นเธ