แชร์

บทที่ 3

เผยหลูเยียนยืนขึ้น วางขวดสุราลง แล้วเดินไปที่โต๊ะ ก่อนนั่งลงอย่างเคร่งขรึม "ข้ามีงานต้องจัดการ คืนนี้จะพักอยู่ที่ห้องหนังสือ"

ก็ได้

เขาบอกว่าเขาอยากอยู่กับงาน

เสิ่นซางหนิงอยากถามว่ามันมีงานอะไรเยอะแยะเช่นนั้น จริงๆ แล้วก็ไม่อยากร่วมรักกับนางก็เท่านั้น

แม้ว่าจะถูกปฏิเสธ แต่เสิ่นซางหนิงก็ไม่อยากยอมแพ้ "ถ้าอย่างนั้น ข้าจะอยู่เพื่อนท่านที่ห้องหนังสือ"

หญิงสาวผู้กล้าหาญกลัวที่จะถูกผู้ชายตามตื้อ ผู้ชายก็เช่นกัน

ฮึ่ม นางไม่เชื่อหรอกว่าการมีลูกจยากขนาดนั้น

หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็นอนลงบนที่นอนพลางหลับตาและทำท่าเหมือนกับจะนอนที่นี่

แต่ไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวของเผยหลูเยียนแต่อยาสงใดเป็นเวลานาน เขาไม่ได้ขับไล่นางออกไป ซึ่งทำให้นางประหลาดใจ

นางแอบลืมตาขึ้นอย่างสงสัย และบังเอิญว่าเผยหลูเยียนก็เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะด้วย

ท้องสองคนสบตากัน

หลังจากถูกจับได้ เสิ่นซางหนิงก็คว้าผ้าห่มจากด้านข้างและปกปิดตัวเองด้วยความเขินอาย "มันหนาวนิดหน่อย"

ดวงตาของเผยหลูเยียนสงบนิ่งและเฉียบคม แต่ดูเหมือนว่าเขาสามารถมองความคิดของนางออก ซึ่งทำให้เสิ่นซางหนิงตัวร้อนขึ้นมา

นางดึงผ้าห่มคลุมศีรษะ เพื่อให้ตัวนางอยู่ในความมืด

ทั้งๆ ที่ในชีวิตก่อนนางเป็นถึงนายหญิงที่มีอำนาจ แต่ไม่รู้ทำไมเมื่ออยู่ต่อหน้าเผยหลูเยียน นางถึงหมดความแข็งแกร่งไปเลย

ในห้องหนังสือมีเสียงการพลิกหนังสือบ้าง เสียงนั้นเหมือนช่วยนอนหลับได้ เบาๆ ทำให้นางรู้สึกสงบใจมาก

ตกดึก

แสงเทียนในห้องหนังสือยังคงสว่างอยู่ เผยหลูเยียนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าสิ่งของบนที่นอนแข็งนั้นไม่ได้ขยับเป็นเวลานาน

เขาวางหนังสือในมือลง ยืนขึ้นแล้วเดินไปที่นอนแข็งพร้อมกับก้าวอย่างเงียบๆ

“เสิ่นซางหนิง”

เผยหลูเยียนเรียกชื่อนางอย่างใจเย็น เมื่อเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อยู่ใต้ผ้าห่ม เขาจึงเอื้อมมือออกและค่อยๆ เปิดผ้าห่มออกเพื่อเผยให้เห็นหัวของนาง

หญิงสาวมีผิวที่ขามเนียม ใบหน้างดงาม อ่อนหวาน เม้มริมฝีปากเมื่อนอนหลับสนิทโดยไม่รู้ว่ากำลังฝันถึงอะไรน่ายินดี

เผยหลูเยียนลดสายตาลงเล็กน้อย กลั้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัว และมองดูภรรยาอย่างเงียบ ๆ

เห็นต่างหูผีเสื้อสีเงินหล่นอยู่ข้างๆ นาง

ช่วงเวลาต่อมา ต่างหูก็หล่นลงมาอยู่ที่มือของเขา

*

เสิ่นซางหนิงที่อยู่ในความฝันนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้สึกว่าการหายใจของตนเองได้ง่ายขึ้น

นางกำลังมองดูลูกสะใภ้สองคนทะเลาะกัน โดยคิดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างยุติธรรมหรือจะเข้าข้างคนใดคนหนึ่งดี

ทันใดนั้นนางก็ตื่นจากความฝันและชะงักไปสักพักก่อนที่จะรู้ตัวว่าตนเองได้เกิดใหม่ในเมื่อวานนี้

“ตื่นแล้วเหรอ?” เผยหลูเยียนได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเรยบร้อย แล้วเดินเข้ามาจากประตู “ถึงเวลาไปคารวะยามเช้าให้ท่านพ่อท่านแม่แล้ว”

เสิ่นซางหนิงไม่ได้ถามว่าเขากลับมาจากที่ไหน เพราะเมื่อได้ยินว่าจะต้องไปคารวะแม่สามี ความหวาดกลัวที่มีต่อผู้ใหญ่ผู้หลักในบ้านก็กลับคืนมา

นางเป็นแม่สามีมานานแล้ว แต่บัดนี้กลับกลายเป็นลูกสะใภ้อีกครั้งฃ

แม่ของเผยหลูเยียนคือนางอวี๋ ฮูหยินหนิงกั๋วกง ซึ่งดูแลบ้านของจวนกั๋วกงทั้งหมด เกิดมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงและเป็นคนแข็งแกร่ง

นางอวี๋ไม่ชอบเสิ่นซางหนิงที่มาจากจวนป๋อที่ตกอับไปแล้ว ชาติก่อน ก่อนที่เสิ่นซางหนิงจะแต่งงาน นางก็รู้ดีว่าแม่สามีคนนี้รับมือได้ยาก แต่แล้วเสิ่นเมี่ยวอี๋ทำเรื่องสลับเจ้าบ่าว นางอวี๋เกลียดเสิ่นเมี่ยวอี๋ถึงที่สุด และเล่นงานเสิ่นเมี่ยวอี๋ไม่หยุด

เหตุผลใดก็สามารถใช้เป็นข้อแก้ตัวในการลงโทษได้ และเสิ่นซางหนิงก็มักจะได้รับผลกระทบเช่นกัน

เมื่อได้เห็นฝีมือของนางอวี๋ ครั้งนี้ไม่ได้สลับเจ้าบ่าว งั้นความไม่พอใจทั้งหมดก็จะตกที่เสิ่นซางหนิงแน่ๆ

และเมื่อพิจารณาจากทัศนคติของเผยหลูเยียน ในชาติก่อน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดหวังให้เขาบรรเทาความขัดแย้งระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ได้ เขาไม่เคยสนใจเสิ่นเมี่ยวอี๋เลยสักครั้ง

เสิ่นซางหนิงไม่กล้าไปสาย นางลุกขึ้นจากที่นอนอย่างรีบร้อน "ไปกันเถอะๆ"

นางอวี๋อาศัยอยู่ที่เรือนหรงเหอ ซึ่งอยู่ใกล้กับลานหน้าบ้านมากที่สุด

ก่อนเข้าไปในลานบ้านก็มีเสียงซุบซิบของสาวใช้ตัวน้อยหลายคนที่ทางเดิน

“ณได้ยินหรือไม่ว่าเมื่อคืนซื่อจื่อไปพักอยู่ในห้องหนังสือ และฮูหยินน้อยถูกทิ้งในคืนวันแต่งงาน นางยังแบกหน้าไปค้างคืนที่ห้องหนังสือ”

“ต่างเป็นคุณหนูจากจวนเฉิงอันป๋อ แต่การปฏิบัติต่อฮูหยินน้อยรองกลับต่างออกไป เมื่อคืนที่เรือนฝูฮวาสั่งให้ส่งน้ำทำความสะอาดมาตั้งสามครั้ง!”

“ทางด้านซื่อจื่อกลับไม่มีสักครั้งเดียว”

สาวใช้สองสามคนพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ได้สังเกตเห็นว่าข้างหลังมีคน

เสิ่นซางหนิงแอบว่าในใจว่าสาวใช้ในเรือนนายหญิงรู้มากจริงๆ เมื่อหันไปมองใบหน้าที่กำลังไม่น่ามองของเผยหลูเยียน นางก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบโยนเขาอย่างไร

เป็นเขาที่ไม่ยอมริเริ่มในเมื่อคืนนี้เอง

ยิ่งไปกว่านั้น เผยเชิ่อจะเป็นแม่ทัพในอนาคต และความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาต้องดีอยู่แล้ว

ขณะที่เสิ่นซางหนิงกำลังครุ่นคิด เสียงเย็นชาของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นข้างๆ ——

“ข้ากลับไม่รู้ว่าฮูหยินของข้าจะพักที่ใดก็ต้องโดนพวกเจ้ามานินทาหรือ”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้พูดออกไป สาวใช้ก็หน้าซีดด้วยความกลัวและคุกเข่าลงทันที "ซื่อจื่อโปรดยกโทษให้ข้าน้อยด้วย ข้าน้อยไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ!"

แม้แต่เสิ่นซางหนิงก็ตกใจ ไม่ได้คาดคิดว่าประเด็นที่ทำให้เผยหลูเยียน โกรธนั้นไม่มช่เรื่องจำนวนการขอน้ำทำความสะอาด

แต่เป็นเพราะนาง

เผยหลูเยียนขมวดคิ้วและไม่ได้หายโกรธเพราะคำวิงวอนของสาวใช้ "หักรายได้ครึ่งปี แล้วไปรับโทษเลย"

สาวใช้รีบตอบตกลงแล้ววิ่งหนีออกไป

หลังจากก้าวเข้าไปในลานของเรือนหรงเหอ เสิ่นซางหนิงก็สังเกตเห็นร่างสีขาวที่อยู่ด้านนอกเรือนหลัก

มันคือเสิ่นเมี่ยวอี๋ นางมวยผมแบบทรงผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและสวมกระโปรงยาวสีขาวพร้อมใบหน้าที่สดใส ทำท่าอย่างกับอยู่เหนือกว่า

ดูเหมือนว่าคราวนี้นางไม่ได้โดนนางอวี๋หาเรื่อง

ที่นั่น เสิ่นเมี่ยวอี๋ก็เห็นเสิ่นซางหนิง และใบหน้าบูดบึ้งของเผยหลูเยียน ทั้งสองคนไม่มีความใกล้ชิดเหมือนคู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานเลย ในที่สุดนางก็โล่งใจหลังจากเป็นห่วงมาทั้งคืน

เมื่อคิดถึงความเฉยเมยที่นางต้องเจอในชีวิตก่อนจะตกมาอยู่กับเสิ่นซางหนิงทั้งหมด เสิ่นเมี่ยวอี๋ก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นเพื่อแสดงทัศนคติของผู้ชนะ

"ท่านพี่หญิง"

เสิ่นเมี่ยวอี๋ตะโกนเบาๆ และเดินไปหาเสิ่นซางหนิงก่อน

ชาติก่อน เสิ่นซางหนิงและเสิ่นเมี่ยวอี๋ได้แตกคอกันเพราะเรื่องสลับเจ้าบ่าว บัดนี้ไม่มีเรื่องสลับเจ้าบ่าว แน่นอนว่ายังคงเป็น"พี่น้องที่แสนดีกัน"

เสิ่นเมี่ยวอี๋จับแขนของเสิ่นซางหนิงตามธรรมชาติแล้วถามอย่างรู้เท่าทันว่า "ท่านพี่หญิงดูมีสีหน้าไม่ค่อยดี เพราะเมื่อคืนพักผ่อนไม่ดีหรือเปล่า"

เสิ่นซางหนิงรู้สึกรำคาญมาก และปัดมือของนางออกด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงควงแขนเผยหลูเยียน "เมี่ยวอี๋ดูสดใสดีนะ เพียงแต่ไม่รู้ว่าน้องรองไปไหนแล้วหรือ"

เสิ่นซางหนิงคิดว่าไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยาจะเป็นอย่างไร เผยหลูเยียนจะไม่สะบัดนางออกไปเมื่อต่อหน้าคนอื่นเช่นนี้

เผยหลูเยียนไม่ได้ละมือของเขาจริงๆ และปล่อยให้เสิ่นซางหนิงจับมันไว้

“เมื่อกี้คารวะและถวายน้ำชาเสร็จ ท่านสามีก็ออกจากบ้านไปแล้ว” ที่เสิ่นเมี่ยวอี๋อยู่ที่นี่เพียงเพื่อดูว่าเสิ่นซางหนิงจะโดนนางอวี๋เล่นงานอย่างไร

ในขณะนี้ นางได้เห็นการกระทำของทั้งสองคน เดิมทีก็คิดว่าเผยหลูเยียนจะดึงมือของเขาออกเหมือนกับที่เขาผลักไสนางไปในชีวิตที่แล้ว แต่นางไม่คิดเลยว่าเผยหลูเยียนไม่ได้ทำเช่นนั้นกลับปล่อยให้เสิ่นซางหนิง จับมือไว้อย่างตามใจ

เมื่อสังเกตเห็นเรื่องนี้ รอยยิ้มปลอมบนใบหน้าของเสิ่นเมี่ยวอี๋ก็แข็งค้าง

แต่พอนึกถึงเรื่องซุบซิบในจวน เมื่อคืนทางเรือนซื่อจื่อไม่ได้ขอน้ำทำความสะอาด แสดงว่าทั้งสองคนนี้ไม่ได้ร่วมรักกันเลย

และตอนนี้ต้องแกล้งทำเป็นอย่างนั้นก็เท่านั้น

ไม่เหมือนกับตัวเอง ทันทีที่เกิดใหม่ ก็สามารถเอาชนะใจเผยเชิ่อ พอคิดเช่นนี้ เสิ่นเมี่ยวอี๋ก็รู้สึกสะใจมาก

อย่างไรก็ตาม ตระกูลระดับสูงจะต้องตรวจสอบผ้าขนหนูพรหมจรรย์ของพวกเขา หากผ้าขนหนูพรหมจรรย์ของเสิ่นซางหนิงไม่มีรอยแดง นางจะถูกเยาะเย้ยอย่างแน่นอน

เช่นเดียวกับตัวเองในชาติที่แล้ว คราวนี้ถึงคราวของเสิ่นซางหนิงแล้ว

บุตรีของฮูหยินเอกจากจวนป๋องั้นหรือ สุดท้ายก็เป็นแค่ผู้หญิงถูกทอดทิ้ง ที่ถูกเยาะเย้ยเท่านั้น

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status