Share

บทที่ 5

เสิ่นซางหนิงขี้เกียจที่จะฝืนยิ้ม "ทำไมน้องถึงมั่นใจขนาดนั้น"

เสิ่นเมี่ยวอี๋สำลักด้วยสีหน้าไม่อาจหยั่งรู้ได้ "ข้ามีวิธีรู้ ข้ายังรู้ด้วยซ้ำว่าสามีของข้าจะเป็นคนใหญ่คนโตในอนาคต"

เป็นคนใหญ่คนโตงั้นเหรอ

เผยเชิ่อเปลี่ยนจากผู้ชายเสเพลกลายเป็นแม่ทัพที่สร้างผลงานทางทหารมากมาย ต่อมาก็สืบทอดยศหนิงกั๋วกง ถือว่าเป็นคนใหญ่คนโตจริงๆ

เสิ่นซางหนิงยอมรับว่าเผยเชิ่อเก่งศิลปะการต่อสู้และมีไหวพริบในการนำกองทหารไปออกรบ แต่ถ้าไม่มีนางที่ทุ่มเงินใช่เส้นสาย เขาไม่มีทางที่จะเป็นแม่ทัพใหญ่ในเวลาสิบปี

ต้องรู้ว่านับตั้งแต่ปู่ของเผยหลูเยียนเสียชีวิต จวนหนิงกั๋วกงก็ตกต่ำลง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาต้องพึ่งพาเผยหลูเยียนสอบขุนนางติดอันดับหนึ่งถึงได้รักษาฐานะในแวดวงเมืองหลวง

เผยหลูเยียนเป็นความหวังของทั้งจวน พอเผยหลูเยียนเสียชีวิต สามีภรรยาหนิงกั๋วกงก็สุขภาพแย่ลง ในตระกูลก็เกิดเรื่องไม่หยุด บ่อเงินของจวนก็ใช้เงินหมดในเวลาไม่ถึงสองปี

การตกอับอย่างเร็วนั้นน่าเหลือเชื่อจริงๆ

ในอีกด้านหนึ่ง เผยเชิ่อต้องการเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ แต่จวนหนิงกั๋วกงอยู่ในฝ่ายผู้รู้หนังสือและแทบไม่ได้ไปมาหาสู่กับพวกทหาร หากอยากให้เผยเชิ่อก้าวไปข้างหน้า ก็ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อจัดการเส้นสาย

มันพอดีเลย ธุรกิจส่วนตัวของเสิ่นซางหนิงมีรายได้ดีและสามารถเติมเต็มช่องว่างได้

มิฉะนั้น เผยเชิ่อที่เป็นคุณชายที่มีชีวิตหรูหรานั้น โดนทิ้งอยู่ในกองทหารบกตอนแรกๆ เขาจะรอดชีวิตมาได้อย่างไร

เขาไม่รู้วิธีคบหาเพื่อนร่วมงาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเอาใจหัวหน้าเลย

ทุกครั้งที่เขาหุนหันพลันแล่น นางก็ต้องช่วยแก้ปัญหาอยู่ลับหลัง

เสิ่นซางหนิงต้องคอยจัดการทุกเรื่อง ถึงได้แลกกับการเติบโตของเผยเชิ่อ และความไว้วางใจจากนางอวี๋ แต่สุดท้ายแล้ว ในสายตาของเสิ่นเมี่ยวอี๋กลับมองเห็นความสำเร็จเท่านั้น

"กลายเป็นคนใหญ่คนโตเหรอ" เสิ่นซางหนิงพูดซ้ำอย่างมีมีเลศนัย ราวกับกำลังสงสัยอยู่

มีท่าทีที่ "ไม่รู้เรื่องอะไร" นี้ทำให้เสิ่นเมี่ยวอี๋ยิ่งได้ใจมากขึ้น

"ใช่" เสิ่นเมี่ยวอี๋มีการคาดหวังกับอนาคตมาก "หากให้บอกละเอียดกว่านี้ข้าก็บอกไม่ได้หรอก ความลับไม่อาจเปิดเผยได้"

เสิ่นซางหนิงหัวเราะ "ในเมื่อไม่สามารถบอกได้ แล้วทำไมน้องถึงบอกข้าล่ะ"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเสิ่นเมี่ยวอี๋ก็ยิ่งเปล่งประกาย และก็พูดอย่างเคร่งขรึม "พี่มีสมองเป็นนักธุรกิจ หากพี่สามารถช่วยข้าดำเนินธุรกิจได้ ข้าก็จะไม่ทำให้พี่ต้องเสียเปรียบแน่นอน แม้ว่าพี่จะถูกซื่อจื่อทอดทิ้งก็ตาม ข้าจะไม่ทอดทิ้งพี่"

อะไรเนี่ย

กล้ามาวางแผนเสิ่นซางหนิงเช่นนี้

เสิ่นเมี่ยวอี๋จะอิจฉาและเลียนแบบธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาลทุกวันในชาติที่แล้วก็เป็นเรื่องปกติ

แต่นางกลับขอให้เสิ่นซางหนิงช่วยดำเนินธุรกิจและหาเงินให้นางอย่างไร้ยางอายเนี่ยน่ะ

โลกนี้มีคนไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง

เสิ่นซางหนิงอยากฟังเหตุผลที่นางให้ "ทำไมเจ้าไม่ทำเองล่ะ"

เสิ่นเมี่ยวอี๋จับมือของเสิ่นซางหนิง และพูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจและดูถูกอย่างไม่ปกปิด

"ตั้งแต่ไหนแต่ไรสถานะของนักธุรกิจก็ต้ำต้อยอยู่ คุณหนูหรือฮูหยินจากตระกูลใหญ่ที่ไหนจะมาทำธุรกิจด้วยตนเองเล่า"

"แต่พี่แตกต่างออกไปนะ" เสิ่นเมี่ยวอี๋หยุดชั่วคราวและพูดเสริม "แม่ของพี่เดิมเป็นแม่ค้า ในตัวพี่ก็มีสายเลือดของนักธุรกิจ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะทำเช่นนี้"

คำพูดที่เหยียดหยามเหล่านี้ทำให้เสิ่นซางหนิงทนไม่ไหวอีกต่อไป

ท่านแม่เป็นนักธุรกิจแล้วไง เสิ่นซางหนิงไม่เคยดูถูกนักธุรกิจ และก็ไม่ดูถูกตัวเอง นับประสาอะไรให้เสิ่นเมี่ยวอี๋มาดูถูก

"เมี่ยวอี๋" เสิ่นซางหนิงขมวดเล็กน้อย มิใช่คนอ่อนโยนตามปกติ แต่เผยให้เห็นความแข็งแกร่งอันเยือกเย็นจากคุณหนูแห่งตระกูล

"ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจหรือขุนนาง ต่างต้องพึ่งพาตนเอง ถ้าเทียบกันคนที่เกาะคนอื่นกินนั้นยิ่งน่าโดนดูถูกกว่านะ"

ทันใดนั้น สีหน้าของเสิ่นเมี่ยวอี๋ก็เปลี่ยนไปและส่งเสียงดังขึ้น "เจ้าหาว่าข้าเกาะคนอื่นกินงั้นหรือ"

เสิ่นซางหนิงเงียบไป เหลือบมองร่างของเผยเชิ่อที่อยู่ไม่ไกลและพูดด้วยน้ำเสียงสงบ "ก่อนที่ออกเรือน ข้าเรียกเจ้าว่าน้อง เพราะเห็นแก่ท่านพ่อของข้า ท่านพ่อดีกับเจ้ามาก แต่เจ้าดูเหมือนว่าเจ้าลืมตัวตนของตนเองไป ลืมไปแล้วว่าพ่อแท้ๆ ของเจ้าคือผู้ใด"

"ไม่ว่าท่านแม่ของข้าจะเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยหรือหาบเร่ ท่านยังคงเป็นภรรยาเอกของท่านพ่อข้า ที่เจ้ามาอวดฐานะของตนเองต่อหน้าข้าดูน่าขำเอาซะ"

หลังจากพูดแบบนี้ เสิ่นเมี่ยวอี๋ก็หน้าซีดลง นางเม้มริมฝีปากแน่นและไหล่ก็สั่นไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าถูกแทงใจดำเข้าแล้ว

บิดาผู้ให้กำเนิดของเสิ่นเมี่ยวอี๋เป็นเจ้าหน้าที่เล็กๆ แซ่โจว

ดังนั้นแซ่ที่แท้จริงของเสิ่นเมี่ยวอี๋ คือโจว ต่อมาแม่ของนางได้แต่งเข้าจวนเฉิงอันป๋อ นางกลายเป็นลูกติดแม่และแทบรอไม่ไหวที่จะเปลี่ยนแซ่ โดยคิดจะเป็นลูกแท้ๆ ของจวนป๋อ

ในเวลานี้ เสิ่นเมี่ยวอี๋รู้สึกไม่พอใจที่จะถูกทำให้อับอาย

ชีวิตนี้ได้เปลี่ยนเจ้าบ่าว งั้นนางก็จะเป็นฮูหยินกั๋วกงในอนาคต วันนี้นางต้องการให้โอกาสกับเสิ่นซางหนิงเพื่อให้นางรับใช้ตัวเอง แต่ไม่คิดว่าเสิ่นซางหนิงยังวางออำนาจอยู่

"ท่านพี่หญิง ในอนาคตพี่จะเข้าใจว่าพี่พลาดอะไรไปในวันนี้!"

ในความทรงจำในชาติก่อนของเสิ่นเมี่ยวอี๋ เผยหลูเยียนไม่เคยแตะต้องนางจนกระทั่งนางเสียชีวิต แน่นอนว่าเป็นเพราะเขาไร้น้ำยา ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเหตุผลอื่นแล้ว

เสิ่นซางหนิง ในชาตินี้ ให้เจ้าเหงาไปตลอดชีวิตไปเลย

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เสิ่นเมี่ยวอี๋ก็รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย "ช่างเถอะ ที่ข้าพูดเช่นนี้ พี่ก็ไม่เข้าใจ แต่ข้าขอบอกพี่ให้นะ ซื่อจื่อจะไม่มีทายาทเลย"

เวลาต่อมา จู่ๆ ก็มีเสียงไม่พอใจดังมาจากด้านหลัง

"เจ้าพูดไร้สาระอะไร!"

เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ เผยเชิ่อได้ยินประโยคสุดท้ายเข้า

เสิ่นซางหนิงมองเสิ่นเมี่ยวอี๋หันกลับไปด้วยความตื่นตระหนกและรีบร้อนที่จะอธิบายให้เผยเชิ่อเข้าใจ แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง

แม้ว่าเผยเชิ่อจะเป็นผู้ชายเสเพล แต่เขายังคงเคารพท่านแม่ใหญ่และพี่ชายคนโตของเขา ไม่เพียงแต่ไม่เคยต้องการแทนที่พวกเขาเท่านั้น เขายังสุภาพต่อพวกเขาอีกด้วย

แม้ว่าชาติก่อนได้เปลี่ยนเจ้าบ่าวไป แต่เมื่อเผยเชิ่อเผชิญกับพี่สะใภ้สุดที่รัก เขาก็ไม่กล้าล่วงเกิน

เสิ่นเมี่ยวอี๋เห็นสามีที่ยังอ่อนโยนต่อตนเองมากในตอนเช้า จู่ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน และนางตกใจมากจนพูดว่า "ท่านรอง... อย่ามองข้าแบบนี้สิ ข้ากลัวนะ"

เสิ่นเมี่ยวอี๋ไม่เก่งเรื่องอื่น แต่วิธีเอาใจผู้ชายนางก็ถนัดมาก

เห็นได้ชัดว่า เผยเชิ่อเห็นเช่นนั้นก็ไม่อาจพูดมากไป และหันหลังเพื่อปกป้องภรรยาสุดที่รักให้อยู่ข้างหลังเขา

จากนั้นก็พยักหน้าขอโทษเสิ่นซางหนิง "พี่สะใภ้โปรดยกโทษให้ด้วย เมี่ยวเมี่ยวพูดอะไรไปมั่วๆ ข้าจะสั่งสอนนางให้ดีๆ แน่ โปรดอย่าบอกเรื่องนี้กับพี่ชายด้วย"

แม้ว่าเสิ่นซางหนิงจะเตี้ยกว่า แต่ออร่าของพี่สะใภ้คนโตก็ต้องยอมให้โดยดี

นางมองสามีชาติก่อนที่กำลังก้มศีรษะด้วยความเคารพของตนเองด้วยใบหน้าที่เย็นชา และรู้สึกมีความสุขอย่างมาก "น้องรอง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะรู้วิธีวิสั่งสอนผู้อื่นสินะ"

"การสาปแช่งทายาท และดูหมิ่นพี่สะใภ้ มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย แต่ใครใช้ให้เมี่ยวอี๋เป็นน้องสาวต่างแม่ของข้าเล่า เอาอย่างนี้ กลับไปคัดลอกหนังสือคุณธรรมเป็นร้อยครั้ง แบบนี้น่าสงบสติอารมณ์ได้!"

เผยเชิ่ออยากบอกว่าร้อยครั้งมันจะเกินไปหน่อย ต้องใช้เวลานานแสนนานแน่ๆ แต่ก็ได้ยินภรรยาที่อยู่ข้างหลังเขากำลังพูดอวดดีอีก เขาจึงรั้งภรรยาไว้แล้วรีบตอบตกลง

เมื่อเสิ่นเมี่ยวอี๋ถูกเผยเชิ่อดึงตัวออกไป นางกลับไม่ยอม

นางรู้ว่าเสิ่นซางหนิงจะกลายเป็นผู้หญิงที่ถูกทิ้งร้างในอนาคต และจะเป็นผู้พ่ายแพ้ แต่ในขณะนี้ ไม่มีใครสามารถเข้าใจนางหรือเชื่อนางได้อย่างแท้จริง

แต่สักวันหนึ่ง นางจะพิสูจน์ว่าทุกสิ่งที่นางพูดเป็นความจริง

ในอีกด้านหนึ่ง เสิ่นซางหนิงมองไปที่ร่างที่กำลังออกไปของคนสองคน และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

"เฮอะ"

คนหนึ่งประลาท

อีกคนหนึ่งก็ไม่ต่างกัน

แต่จะว่าไป ทำไมแต่ก่อนไม่รู้ว่าการเป็นพี่สะใภ้คนโตนั้นน่าสะใจเช่นนี้

"ฮูหยินกำลังคิดอะไรอยู่หรือ"

เสียงทุ้มลึกของเผยหลูเยียนค่อยๆ เข้ามาใกล้

เสิ่นซางหนิงไม่ได้หันกลับไปและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "ข้ากำลังคิดว่าได้แต่งงานกับท่านเป็นเรื่องน่ายินดี"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status