แชร์

ท่านอย่าเพิ่งตาย ฮูหยินท้องแล้ว
ท่านอย่าเพิ่งตาย ฮูหยินท้องแล้ว
ผู้แต่ง: ซาลาสู่เถียว

บทที่ 1

ในช่วงเวลาสะลึมสะลือ ชายกระโปรงก็ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ

เสิ่นซางหนิงคิดว่านี่เป็นเพียงภาพลวงตา

นางเป็นถึงนายหญิงใหญ่ที่ได้รับความเคารพจากทุกคนในจวนหนิงกั๋วกง(ตำแหน่งบรรดาศักดิ์สูงสุดที่ขุนนางจะได้รับพระราชทานจากจักรพรรดิ) ผู้ใดกล้าปีนขึ้นไปบนเตียงของนางในกลางดึกเล่า

จนกระทั่งได้รู้สึกถึงความเจ็บปวด เสิ่นซางหนิงก็ตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน นางลืมตาขึ้นและตรงหน้ามืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย

ทว่าบนตัวกลับมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่

คุณพระช่วย

เสิ่นซางหนิงรู้สึกตกใจมาก และยื่นมือออกเพื่อผลักเขาออกทันที "ช่างบังอาจ ไอ้..."

คำพูดถูกบรรยากาศที่ช่างเร้าอารมณ์นั้นขัดจังหวะ

กระแสนิยมของสังคมปัจจุบันกลับแย่กว่าแต่ก่อนเลย ผู้คนที่มีนิสัยไม่ดีได้มากขึ้นเรื่อยๆ

เสิ่นซางหนิงเป็นม่ายมาหลายปีแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่านี่ก็อายุสี่สิบปีแล้ว ยังต้องเจอกับความอัปยศอดสูเช่นนี้

ผลกระทบนั้นมันรุงแรงมาก จนนางไม่สามารถได้ยินเสียงตัวเองได้เปลี่ยนไปเป็นเสียงตอนสมัยสาวๆ ด้วยซ้ำ

"ไอ้สารเลว!"

นางผลักเขาไม่ออก แต่ก็สู้อีกฝ่ายไม่ได้ จึงต้องโหดร้ายขึ้นมาและกัดไหล่ของชายคนนั้นอย่างแรง เพื่อให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บเลย

"เฮ้อ" ชายคนนั้นสูดหายใจ

กลิ่นคาวเลือดกระจายไปที่ลิ้นและเตะจมูกของเสิ่นซางหนิง

ชายคนนั้นหยุดลง ออร่าอันทรงพลังของเขาทำให้อากาศโดยรอบเย็นเยือกลงทันที เขาระงับความโกรธและสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำ

"ใครก็ได้ เข้ามาที!"

ดวงตาของเสิ่นซางหนิงเบิกกว้าง ไม่คิดว่าเขายังกล้าเรียกคนเข้ามาอีกด้วย

เมื่อเห็นสาวใช้กำลังจะเข้ามาในห้อง นางไม่ทันได้ซ่อนตัว จึงทำได้แค่คลำหาอะไรบนเตียงอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้หยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่

นางรู้จักละอายใจนี่น่ะ

ไม่นาน สาวใช้ก็จุดตะเกียงน้ำมันขึ้น และแสงสลัวๆ ก็ส่องสว่างเรือนหอที่แปลกหน้า กับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าตนเองด้วย

แต่เมื่อเสิ่นซางหนิงเห็นรูปร่างหน้าตาของชายผู้นั้นให้ชัดเจน ความอัปยศอดสูและความโกรธก็กลายเป็นความตกใจแทน

เพราะอีกฝ่ายกลับมีหน้าคล้ายกับเผยหลูเยียนตอนหนุ่มๆ ไม่มีผิด ซึ่งเป็นพี่ชายของสามีที่อายุสั้นของนาง

ในขณะนี้ ริมฝีปากของเผยหลูเยียนเม้นแน่น มีจมูกโด่ง ตาเฉี่ยวนั้นกำลังจ้องมองนางอยู่ ซึ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา ที่หางตาดูแดงเล็กน้อย

เขาเปลือยเปล่า โดยเผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แบ่งเป็นแปดลูก มีไหล่กว้างและเอวแคบ บนตัวเขามีเหงื่อออก และบนไหล่นั้นมีรอยกัดด้วย

เสิ่นซางหนิงไม่มีอารมณ์จะรับชม นางกำลังสับสนอยู่ เมื่อมองลงไปที่ข้อมือมีผิวขาวราวของตน นางสงสัยว่าตนเองได้เกิดใหม่แล้ว

เพียงแต่ว่า แม้ว่าจะเกิดใหม่ก็ไม่ควรเกิดใหม่ในบนเตียงของพี่ชายสามีสิ มันไม่เหมาะเลยทีเดียว

เสียงอันหนักแน่นของเผยหลูเยียนดังขึ้นเหนือหัวของนาง...

"เพราะข้าทำให้เจ้าเจ็บหรือ หรือว่า... เจ้าไม่ยอมแต่งงานกับข้า"

แต่งงานงั้นหรือ?

เสิ่นซางหนิงยิ่งตกตะลึเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด นางจะแต่งงานกับเผยหลูเยียนได้เยี่ยงไร มิใช่น้องสาวของนางจะแต่งงานกับเขาหรือ

ไม่สิ ในตอนแรกที่หมั้นหมายกัน ก็จัดให้กับเสิ่นซางหนิงและซื่อจื่อเผยหลูเยียนอยู่แล้ว

ทว่าเสิ่นเมี่ยวอี๋ น้องสาวต่างมารดาของนางก็อยากแต่งเข้าจวนกั๋วกง ดังนั้นนางจึงสร้างโอกาสได้พบกับเผยเช่อ คุณชายรองแห่งตระกูลเผยเพื่อทำให้เผยเช่อมีใจให้นาง จากนั้นก็แต่งงานกัน

ก่อนที่จะแต่งงาน เสิ่นเมี่ยวอี๋ยังคงไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับเผยเช่อ ซึ่งไม่สามารถคสืบทอดยศถาบรรดาศักดิ์ในตระกูลได้ ดังนั้นนางฉวยโอกาสที่งานแต่งทั้งสองงานในวันเดียวกัน จึงแอบเปลี่ยนชุดแต่งงานและสลับเจ้าบ่าวกัน

ส่วนเสิ่นซางหนิงก็ได้ดำเนินพิธีแต่งงานกับเผยเช่ออย่างไม่รู้เรื่องอะไร สุดท้ายได้แต่ยอมรับความจริงที่ตนเองได้แต่งงานกับเผยเช่อเท่านั้น

เกิดใหม่อีกครั้ง เหตุใดมันเปลี่ยนไปแล้วเล่า

นางกำลังครุ่นคิดอย่างจริงจัง และไม่สังเกตเห็นสีหน้าที่ยิ่งไม่สู้ดีของเผยหลูเยียนด้วยซ้ำ

เมื่อเผยหลูเยียนเห็นว่าภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่ของตนเองไม่ให้คำตอบ เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "ในเมื่อเจ้าไม่อยากแต่ง เหตุใดไม่บอกตั้งแต่แรก หรือว่าข้าบังคับให้เจ้าแต่งงานกับข้าหรือ"

ในระหว่างพูดคุย เผยหลูเยียนไม่เคยเอ่ยถึงบาดแผลบนไหล่ของเขาเลย

เขารีบใส่เสื้อแล้วลุกขึ้นจากเตียง เมื่อเห็นว่าคนบนเตียงไม่มีท่าทีจะรั้งเขาให้อยู่ต่อ เขาจึงจากไปอย่างไม่ลังเล

เสิ่นซางหนิงกำลังรีบร้อนเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์อยู่ จึงไม่มีเวลาไปสนใขเขา

นางวิ่งไปที่ข้างหน้ากระจกด้วยเท้าเปล่าและเห็นใบหน้าในวัยสิบแปดปีของตนเอง และตกอยู่ในความสับสนเป็นเวลานาน

ในชีวิตก่อน เนื่องจากการสลับการแต่งงาน นางได้แต่งงานกับเผยเช่อ ผู้ซึ่งหลงรักเสิ่นเมี่ยวอี๋ นางไม่เพียงต้องรับมือกับความไม่พอใจจากเผยเช่อ ในขณะเดียวกันก็ต้องทนกับแม่สามีที่ชอบหาเรื่องอย่างไม่หยุดไม่หย่อน นางเหนื่อยทั้งกายและใจ ทำให้ผู้หญิงที่อ่อนโยนอย่างนางต้องเป็นคนอารมณ์ร้อนขึ้นมา

ในตอนแรกนางพยายามเอาใจแม่สามี จากนั้นอาศัยอำนาจของแม่สามีเพื่อสั่งสอนเผยเช่ออย่างเข้มงวด ทำเอาชายเสเพลได้กลับเนื้อกลับใจและไล่เมียน้อยต่างๆ ออกไป กลับมารักนางเพียงผู้เดียว

ต่อมา เผยหลูเยียนก็เสียชีวิตอย่างกะทันหัน และเผยเช่อก็สืบทอดยศถาบรรดาศักดิ์ ออกรบสร้างผลงาน และประสบความสำเร็จ ทำให้จวนหนิงกั๋วกงกลับมาสู่จุดสูงสุด กลายเป็นตระกูลขุนนางชั้นนำอีกครั้ง เสิ่นซางหนิงก็กลายเป็นสตรีที่พวกฮูหยินและแม่นางในเมืองหลวงอิจฉาตาร้อนเข้า

เสิ่นซางหนิงพยายามอย่างหนักมาครึ่งชีวิตกว่าจะมีชีวิตที่สบายๆ บัดนี้ กลับต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหรือ

และครั้งนี้ เสิ่นซางหนิงไม่ได้ถูกแทนที่โดยน้องสาวต่างแม่ของนาง สามีของนางคือเผยหลูเยียน ซึ่งมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงสองปีเท่านั้น...

"คุณหนู เหตุใดท่านซื่อจื่อจากไปอย่างไม่สบอารมณ์หรือเจ้าคะ"

จื่อหลิง สาวใช้ข้างกายก็วิ่งเข้าไปในห้องอย่างกังวลใจ จากนั้นก็พบว่าเสิ่นซางหนิงกำลังส่องกระจกด้วยสีหน้าเศร้าโศก โดยคิดว่านางเองก็กำลังเศร้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงหลั่งน้ำตาทันที...

"ท่านซื่อจื่อใจร้ายจริงๆ ในคืนวันแต่งงานเช่นนี้ กลับทิ้งท่านไว้ตามลำพัง แล้วจะให้ใช้ชีวิตเยี่ยงไรในอนาคตเล่า"

เสิ่นซางหนิงยืนขึ้น แล้ววิ่งกลับไปที่ขอบเตียง เมื่อมองดูชุดแต่งงานที่กระจัดกระจายไปหมด

คราวนี้ ชุดแต่งงานไม่ได้ถูกเสิ่นเมี่ยวอี๋เปลี่ยนไป

เสิ่นซางหนิงกลับมามีสติอีกครั้ง "จื่อหลิง ช่วงนี้เสิ่นเมี่ยวอี๋มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่?"

จื่อหลิงมิทราบต้นสายปลายเหตุ "ตอนแรกคุณหนูรองยังไม่ยอมแต่งงานกับคุณชายเผยเช่อ เพราะรังเกียจเขาที่ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์และไม่มีอนาคต แต่จู่ๆ เมื่อครึ่งเดือนก่อนก็เปลี่ยนใจไป และออกเรือนไปอย่างมีความสุขมาก"

เสิ่นเมี่ยวอี๋ก็เกิดใหม่แล้ว และเร็วกว่านางครึ่งเดือน เสิ่นซางหนิงคิดเช่นนั้น

การแต่งงานระหว่างเสิ่นซางหนิงและเผยหลูเยียน ได้รับการกำหนดจากท่านหนิงกั๋วกงคนเก่าก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

ในชีวิตก่อน เสิ่นเมี่ยวอี๋พยายามคิดวิธีเพื่อสลับเจ้าบ่าว แต่กลับไม่ได้มีชีวิตที่ดีอย่างที่นางปรารถนา

เพราะฮูหยินกั๋วกงไม่แม้แต่เห็นเสิ่นซางหนิง ซึ่งเป็นบุตรีคนโตจากฮูหยินเอกของเฉิงอันป๋ออยู่ในสายตาด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับลูกติดของแม่เลี้ยงเล่า

อีกอย่างเผยหลูเยียนเป็นผู้ที่ทุ่มเทเรื่องงานมาก จนกระทั่งเผยหลูเยียนเสียชีวิตไป ก็ไม่ได้ทำให้เสิ่นเมี่ยวอี๋มีลูกได้

เสิ่นเมี่ยวอี๋ที่เป็นชายาซื่อจื่อได้ชีวิตอย่างน้อยอกน้อยใจมาก แต่ก็ถือว่ากรรมตามสนอง

เกิดใหม่ครั้งนี้ บางทีนางอาจคิดว่าการแต่งงานกับเผยเช่อจะเปลี่ยนชีวิตของนางได้

น่าเสียดายที่นางคิดพลาดไปเรื่องหนึ่ง

ตราบใดที่เผยหลูเยียนยังไม่ตาย เผยเช่อก็ไม่สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้

แม้ว่าเผยหลูเยียนจะตาย ตราบใดที่เขามีบุตรชาย งั้นเผยเช่อก็ไม่มีโอกาสขึ้นครองบัลลังก์ได้

ดังนั้น ขอแค่ให้กำเนิดบุตรของเผยหลูเยียน...

เสิ่นซางหนิงกำลังครุ่นคิดอย่างเงียบๆ จู่ๆ ข้างหูก็ได้ยินเสียงร้องอย่างประหลาดใจของจื่อหลิง

"คุณหนู ท่านได้ร่วมรักกับท่านเขยแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ"

ผ้าขนหนูพรหมจรรย์มีลอยสีแดงติดอยู่ซึ่งถูกวางอยู่บนเตียงนั้นดูค่อนข้างสะดุดตา

จื่อหลิงเพิ่งรู้สึกประหลาดใจไม่นาน จากนั้นก็พบว่าบนหมอนก็มีเลือดด้วย และมองดูรินฝีปากสีแดงของเสิ่นซางหนิง รู้สึกตกใจขึ้นมา

"เวลาร่วมรัก ซื่อจื่อยังกัดคนด้วยหรือ คนที่อ่อนโยนอย่างท่าน ท่านซื่อจื่อลงมือได้ลงคอหรือเจ้าค"

เมื่อเสิ่นซางหนิงได้รับการเตือนจากนาง ก็คิดถึงการกระทำของตนเองตอนที่พวกเขากำลังมีอะไรกันในเมื่อกี้

บัดนี้นางเสียใจมาก "เป็นข้าที่กัดเขาจนเลือดออก"

หากรู้เป็นเช่นนี้ก็คงกัดเบาๆ แล้วแหละ

เผยหลูเยียนเป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว หากไม่ยอมร่วมรักกับนางอีกเลย จะทำเยี่ยงไรดีเล่า

เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นซางหนิงก็รู้สึกปวดหัว ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้ววิ่งออกไป

นางต้องไปตามหาเขา

ต้องไปแสดงความขอโทษ แล้วเอาชนะใจเขาด้วย

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status