Share

Chapter15. ดวงตาเป็นประกาย

last update Last Updated: 2024-12-11 01:29:31

            “เจ้ารับไปก่อน แล้วข้าจะใช้งานเจ้าทีหลัง”

            ดวงตาของหญิงสาวเบิกโตเป็นประกาย คราวนี้นางไม่ลังเลยื่นมือไปรับถุงเงินจากเขาแล้วมีท่าทีตื่นเต้น

            “จำไว้ว่าเจ้าต้องซื้อเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็น”

            “เจ้าค่ะ” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ “แล้ว...ข้าสามารถซื้อขนมได้หรือไม่”

            “ขนม? เจ้าหิวแล้วรึ” เขาตั้งใจจะไปให้ถึงที่หมายก่อนจึงไม่ได้คิดจะแวะพักกินอะไร

            “เปล่า” นางส่ายหน้าไปมาจนผมยาวส่ายไปมา “แค่...น่ากิน”

            “ซื้อขนมกินเล่นได้แต่อย่ามากนัก แต่ที่สำคัญ...”

            “ต้องซื้อของใช้ที่จำเป็นก่อน!” นางรีบพูดแล้วยืดแผ่นหลังขึ้นคล้ายโอ้อวดว่าตนเองจำคำสั่งของเขาได้ดี

            “รีบไปเถิด อย่าเถลไถล”

            “เจ้าค่ะ” นางยิ้มกว้างแล้วมุดลงมาจากรถม้า พลันเหมือนคิดออกจึงยื่นหน้ากลับเข้ามาอีกครั้ง “ท่านเซียวไม่ไปด้วยกันหรือเจ้าคะ ท่าทางสนุกออก”

            จูเต๋ออี้ได้ยินถึงกับสะอึก นายท่านของเขานะหรือจะออกมาเดินเล่น โดยเฉพาะต้องมาเดินตามหญิงสาวซื้อเสื้อผ้าเช่นนี้ด้วย

            “เจ้าไปเถอะ จูเต๋ออี้ดูแลนางให้ดีอย่าให้พลัดหลงกัน”

            “ขอรับนายท่าน”

            จูเต๋ออี้จำใจรับคำสั่ง เขาเป็นถึงองครักษ์เงาแต่ให้มาเดินตามหญิงสาวนิสัยประหลาดๆ คนหนึ่งนั้น ทำให้ตัวเองรู้สึกถูกลดความสำคัญไม่น้อย นางเอาแต่เหลียวซ้ายแลขวาทำตาโตเป็นไข่ห่าน เห็นท่าทางอยากรู้อยากเห็นของนางแล้ว เขาจำเป็นต้องแตะข้อศอกนางเป็นเชิงเตือนให้นางเดินตรงไปร้านขายผ้า แทบจะผลักนางเข้าไปในร้านค้า

            “คุณชายมีอะไรให้ช่วยเหลือขอรับ”

            “หาเสื้อผ้าสำเร็จให้แม่นาง...เอ่อ...ให้น้องสาวของข้าด้วย อย่าให้ขาดตกบกพร่อง สิ่งของใดจำเป็นที่สตรีต้องใช้รบกวนจัดหาให้นางด้วย”

            “น้องสาว!” หลันหลันหันขวับแล้วกระโดดมาเกาะแขนจูเต๋ออี้ทันที “ท่านบอกว่าข้าเป็นน้องสาวท่าน! ต่อไปนี้ข้าเรียกท่านว่าพี่จูเต๋ออี้ ไม่ซิ พี่เต๋ออี้!”

            จูเต๋ออี้พูดไม่ออกได้แต่ไหลไปตามน้ำ “รีบไปเลือกเสื้อผ้าเร็ว นายท่านรออยู่”

            “เข้าใจแล้วพี่เต๋ออี้” นางหมุนตัวกลับแล้วกระโดดไปดูเสื้อผ้างดงามมากมาย นางถูกสีสันสดใสและลายปักงดงามดึงดูดสายตา นางชอบสีแดง แต่ก็ชอบสีเขียวด้วย สีเขียวก็มีทั้งเขียวเข้มเขียวอ่อน นางชอบลายปักดอกไม้เล็กๆ พอๆ กับที่ชอบลายปักใหญ่ๆ นางเลือกไม่ถูกจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากจูเต๋ออี้

            “พี่เต๋ออี้ ข้าเลือกไม่ถูก” นางพูดเสียงอ่อน แต่แล้วก็อ้าปากกว้างเมื่อสายตาไปปะทะกับปิ่นดอกไม้ระยิบระยับ “สวย สวยเหลือเกิน”

            “พอแล้ว นายท่านไม่ชอบสีสันฉูดฉาด เจ้าเลือกแบบเรียบๆ จะได้ไม่รบกวนสายตานายท่าน”

            หลันหลันยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ ถูกแล้ว นางไม่ควรทำตัวรบกวนสายตาของเซียวเหริน แม้นางต้องตัดใจจากเสื้อผ้าสีสดใสเป็นแบบเรียบๆ นางยังได้เอี๊ยมบังทรงอีกด้วย

            จูเต๋ออี้แม้จะรู้สึกเขินอายกิริยาที่หลันหลันแสดงออกเมื่อครู่ แต่เขากลับเผลอยิ้มออกมา นางดูไร้เดียงสาออกเช่นนี้ เป็นใครเห็นย่อมเอ็นดูนาง หากนางได้แต่งกายงดงามสีสันสดใสยิ่งขับเน้นความงามออกมา และหากนางรักษากิริยาสักเล็กน้อย ย่อมกลายเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ได้แน่นอน

            ขณะที่คิดอะไรเพลินๆ หลันหลันก็ได้ของที่ต้องการครบ นางคลี่ถุงเงินที่ได้รับมาจากเซียวเหริน สีหน้าลังเลจนจูเต๋ออี้ต้องยื่นหน้ามาดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้นอีก

            “ข้าเสียดายเงินเหล่านี้” นางพูดเสียงเบา

            “แต่เจ้าจำเป็นต้องมีเสื้อผ้า ไม่เช่นนั้นเจ้าจะใส่ชุดของนายท่านหรือ?”

            “จริงด้วย พี่เต๋ออี้พูดถูก” นางพยักหน้าขึ้นลงแรงๆ แล้วหยิบเงินส่งให้ เสียงร้องเพลงจากหน้าประตูดึงดูดหลันหลัน นางไม่ทันรับเงินทอนและเสื้อผ้าของตัวเองก็รีบถลาไปที่หน้าประตูแล้ว จูเต๋ออี้ต้องเป็นฝ่ายยื่นมือไปรับห่อผ้าและเงินทอนแล้วรีบวิ่งตามนางออกไป

            “พี่เต๋ออี้” หลันหลันกวักมือเรียกชายหนุ่มที่กวาดสายตามองหานางอยู่ นางยืนอยู่หน้าชายชราคนหนึ่งและเด็กน้อยที่ขับร้องบทเพลง “พวกเขาร้องเพลงได้ไพเราะนัก”

            “วนิพก” จูเต๋ออี้บอกกล่าว “ถ้าเจ้าชอบเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีนี้ก็ให้เงินพวกเขาเป็นการตอบแทนได้”

            “ได้หรือ?” นางทำตาโต มองถุงเงินในมือแล้วยื่นให้อีกฝ่ายทั้งหมด แต่จูเต๋ออี้เร็วกว่ายื่นมือไปคว้าไว้ก่อน นางจึงหันไปมองอย่างประหลาดใจ 

“เจ้าจะให้พวกเขาหมดถุงนี้หรือ?” จูเต๋ออี้ถามและได้คำตอบเป็น

ารพยักหน้าแรงๆ ของนาง

            “ข้าชอบ พวกเขาร้องเพลงไพเราะยิ่ง” นางจำได้ว่ากงเสวี่ยหลิงลอบออกนอกวังมาเดินตลาดก็จะให้เงินเหล่านักร้องนักดนตรีเช่นนี้เสมอ

            “เงินในถุงนี้เป็นของนายท่าน เจ้าอย่าให้ผู้อื่นไปหมด” จูเต๋ออี้จำเป็นต้องเอา ‘นายท่าน’ออกมาอ้าง  ซึ่งก็ทำให้หลันหลันพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจ นางจึงหยิบเพียงก้อนเงินส่งให้ชายชรา

            ชายชรารับเงินแล้วเอ่ยขึ้น “ตะวันเคลื่อนคล้อยลาลับ”

            “สกุณาหวนคืนสู่รัง” หลันหลันเอ่ยต่อทันทีอย่างคุ้นเคย

            “แม่นางคือ....”

            “ข้าเป็นนกชื่อหลันหลัน” นางยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นประกาย 

            ชายชราลอบมองทางจูเต๋ออี้แล้วประสานมือคารวะ “พวกเราอยู่ที่วัดร้างทิศตะวันออก หากแม่นางต้องการเรียกใช้พวกเรา ไม่ว่าจะเป็นการขับร้องหรือการแสดงใด หากเห็นว่าข้าและหลานสาวมีความสามารถถูกใจท่าน โปรดเรียกใช้พวกเราได้ มิต้องเกรงใจ”

            “อืม” หลันหลันพยักหน้ารับขึ้นลง นางยื่นมือไปลูบศีรษะเด็กน้อยก่อนจะหมุนตัวมาทางจูเต๋ออี้ที่รู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา

            “พี่เต๋ออี้ เรากลับกันเถิด”

            “ดี นายท่านรอนานแล้ว”

            จูเต๋ออี้กลายเป็นคนถือข้าวของให้หลันหลัน เพราะเขาเอานายท่านออกมาข่มขู่ทำให้หญิงสาวไม่แวะที่ใดอีก นางปีนขึ้นรถม้าอย่างรวดเร็วแล้วรับห่อผ้าจากจูเต๋ออี้มากอดแนบอกราวกับได้ของล้ำค่า เซียวเหรินที่ก้มหน้าอ่านตำราแพทย์อยู่เห็นสีหน้าของนางแล้วเผลอยิ้มออกมา

นางช่าง...ช่างมีความสุขกับสิ่งง่ายๆ เสียจริง

หรือชีวิตคนเราก็เท่านี้ ขอเพียงเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับสิ่งที่มี แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเช่นนี้ ยิ่งมีอำนาจยิ่งแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่สนใจความชอบธรรมใดๆ

....

คุณหนูใหญ่เจ้าขา คุณชายเซียวเหรินมาถึงแล้วเจ้าค่ะ

            หญิงสาวที่ยืนหมุนตัวไปมาอยู่ในครัวถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินชื่อ ‘เซียวเหริน’  ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ  สาวใช้ที่ยืนอยู่รายล้อมลอบยิ้มให้กับท่าทางเขินอายของ อู๋หมิ่นลี่ คุณหนูใหญ่แห่งหมู่ตึกนกยูงทอง

            “คุณหนูออกไปต้อนรับคุณชายเซียวเหรินเถิดเจ้าค่ะ ของพวกนี้ให้บ่าวจัดการกันต่อได้”  ไป๋ชิวเป็นคนรับใช้ข้างกายอู๋หมิ่นลี่ นางส่งคนไปดูต้นทางที่หน้าประตูใหญ่ พอได้ยินว่าคุณชายเซียวเหรินมาถึงแล้วก็รีบมาแจ้งข่าวแก่คุณหนูใหญ่ซึ่งทุ่มเทกำลังและความตั้งใจทำอาหารเลี้ยงต้อนรับด้วยตนเอง

            “รีบออกไปเช่นนี้จะดีหรือ?” มีเพียงเรื่องเดียวที่ทำให้อู๋หมิ่นลี่ว้าวุ่นใจได้ ปกตินางเป็นคนเรียบร้อยอ่อนหวาน สุขุมใจเย็น อู๋หมิ่นลี่เหมือนสายน้ำที่ไหลเย็นทำให้คนอยู่ใกล้ใจสงบ นางมักมีท่าทีสุขุมเสมอยกเว้นยามมีใครสักคนเอ่ยชื่อ ‘เซียวเหริน’ นางจะกลายเป็นเพียงเด็กสาวเขินอายที่ทำสิ่งใดไม่ถูกเลยทีเดียว

            “คุณหนูใหญ่เสมือนเป็นเจ้าบ้าน หากไม่ออกไปสิจะเกรงว่าไม่เหมาะสม”

            “เช่นนั้น...” นางเผลอยิ้มออกมา “ข้าตอนนี้เป็นอย่างไร ดูดีหรือไม่ หรือข้าควรไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่”

            ไป๋ชิวช่วยปลดผ้ากันเปื้อนออก หยิบผ้าเช็ดหน้ามาปัดฝุ่นแป้งที่ติดตามเนื้อตัวอู๋หมิ่นลี่ออก “คุณหนูรีบออกไปเถิดเจ้าค่ะ อย่าให้แขกรอนาน ไม่เช่นนั้นคุณชายเซียวเหรินจะคิดว่าคุณหนูใหญ่ไม่เต็มใจให้มาเยือนหมู่ตึกนกยูงทอง”

            “จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร” ใบหน้าหวานเปลี่ยนสี “ไม่ได้แล้ว ข้าต้องรีบออกไปต้องรับคุณชายเซียว”

Related chapters

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter16. หมู่ตึกนกยูงทอง

    บ่าวไพร่พากันก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม มองผู้เป็นนายเดินออกไปแล้วจึงลงมือทำอาหารต่อจากที่คุณหนูทำเตรียมไว้รับแขกคนสำคัญ เพราะมัวแต่เสียเวลาลงมือตระเตรียมอาหารไว้ต้อนรับด้วยตนเอง กว่าอู๋หมิ่นลี่จะเดินออกมา แขกคนสำคัญก็มาถึงห้องรับรองแล้ว หญิงสาวก้าวเข้าไปพร้อมรอยยิ้ม นางย่อตัวคารวะบุรุษหนุ่มในชุดสีฟ้ากระจ่างแม้เรียบง่ายแต่กลับทำให้เขาดูงามสง่า “คุณชายเซียวเหริน ไม่ได้พบกันเสียนาน” “แม่นางอู๋สบายดีหรือ?” เซียวเหรินเอ่ยถาม น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงความอ่อนโยนอยู่บ้าง “ข้าสบายดี” นางยิ้มกว้างดีใจที่ได้เห็นบุรุษที่ตนชื่นชอบกลับมาเยือนอีกครั้ง ทว่าสายตาของนางมองเลยร่างสูงโปร่งไปยังร่างบอบบางที่ยืนหมุนตัวไปมา สายตากวาดมองไปรอบๆ ด้วยท่าทีตื่นเต้น สตรี! ไม่พบกันครึ่งปี เซียวเหรินมีสตรีข้างกายแล้วหรือ? จูเต๋ออี้กระแอมไอเบาๆ ทำให้หลันหลันเพิ่งรู้ตัวว่าถูกจ้องมอง นางจึงหยุดกวาดสายตา แต่เมื่อดวงตาคู่สวยมองเห็นหญิงงามในชุดสีชมพูกลีบบัว นางอดกวาดตามองขึ้นลงไม่ได้แล้วยิ้มกว้างออกมา “สวย! สวยยิ่งนัก!” อู๋หมิ่นลี่ถึงกับสะดุ้งที

    Last Updated : 2024-12-11
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter17.จำได้ทุกประโยค

    ตั้งแต่แขนขวาได้รับบาดเจ็บเพราะพิษร้ายของฝ่ายอธรรมเมื่อครึ่งปีก่อน โชคดีที่คราวนั้นเขาอยู่ใกล้ที่พักของเซียวเหริน คนสนิทพาเขาไปรักษา แม้จะรักษาชีวิตไว้ได้แต่เส้นประสาทแขนขวาถูกทำลายทำให้ไม่อาจขยับหรือใช้งานแขนข้างนี้ได้อีก หากว่าเขาเป็นคนพิการ แต่นางเป็นคนสติเลอะเลือน ไม่รู้ว่าคนเช่นไรน่าสงสารมากกว่ากัน “อาหารแต่ละจานอร่อยมาก” หลันหลันพูดออกมาจากใจ “เกิดมาข้าไม่เคยกินของอร่อยเช่นนี้มาก่อน” “แม่นางหลันกล่าวเกินไปแล้ว” อู๋หมิ่นลี่แม้ไม่ชอบที่เห็นนางใกล้ชิดเซียวเหริน แต่ท่าทางไร้เดียงสาของนางนั้นทำให้คนโกรธไม่ลงจริงๆ “ข้าพูดจริงๆนะ” นางพยักหน้าขึ้นลง “ชีวิตนี้โชคดีนัก ได้กินของอร่อยเช่นนี้” แค่ได้กินของอร่อยก็ทำหน้ามีความสุขเช่นนี้ ไม่รู้ชีวิตนางผ่านอะไรมาบ้าง อู๋ซิงว่านลอบมองนางเห็นใจพลางมองดูเนื้อปลาที่นางมีน้ำใจคีบมาวางไว้ให้เขา หลายเดือนมานี้แม้ปากจะพูดว่าทำใจยอมรับสภาพที่ไม่อาจใช้แขนขวาได้อีกแล้ว แต่ลึกๆ แล้วเขายังคาดหวังว่ามันจะกลับมาขยับได้อีก เขาไม่ชอบสายตาเห็นอกเห็นใจหรือมองเขาอย่างเวทนาสงสาร ตั้งแต่หัวไหล่

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 18 น่าแปลก

    “คนเลวชั่วช้าเช่นนั้นย่อมมีคนต้องการชีวิต” อู๋ซิงว่านขบฟันด้วยความโมโห เขารับรู้เรื่องราวโฉดชั่วของเสนาบดีหลี่ดี “ชาวบ้านที่ทนทุกข์จากการถูกคนของทางการกดขี่ข่มเหงต่างลุกฮือขึ้นต่อต้านทางการกันบ้างแล้ว” “แต่ชาวบ้านไร้ฝีมือไม่ต่างจากแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ มีแต่พบความตายเท่านั้น” อู๋ซั่วไต้ได้แต่ส่ายหน้าไปมา “ถึงขั้นที่ชาวบ้านต่างอดทนไม่ไหว ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านเหล่าขุนนางฉ้อฉลเช่นนี้ พวกเรา...” อู๋ซิงว่านได้แต่กัดฟันข่มโทสะในอก หากแขนขวายังใช้งานได้ เขาจะจับกระบี่ยืนเคียงข้างชาวบ้านที่เดือดร้อนเป็นแน่ “ใจเย็นก่อนว่านเอ๋อร์” ผู้เป็นบิดาได้แต่ปรามเบาๆ แล้วเหลือบตามองยังเซียวเหรินอย่างมีความหมาย “คนของท่านส่งข่าวมาบ้างหรือไม่” เซียวเหรินยกน้ำชาขึ้นจิบ “ในวังนั้นไร้ข่าวคราวขององค์หญิงกงเสวี่ยหลิง คุณชายเซียวแน่ใจหรือว่านาง...” “น่าแปลกนัก คนหายไปทั้งคน เหตุใดยังปิดข่าวได้เงียบเช่นนี้” อู๋ซิงว่านโคลงศีรษะไปมา “ถ้ากระโตกกระตากเกินไปก็จะเป็นชนวนให้เกิดความบาดหมางยิ่งขึ้น” เซียวเหรินวางถ้วยชาลง หางตารับรู้การเคลื่อน

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 19. รางวัล

    เพียงได้ยินคำว่า ‘รางวัล’ หลันหลันก็ยืดเอวแล้วอ้าปากน้อยๆ อย่างรอคอย นางสบตากับเซียวเหรินด้วยหัวใจเปี่ยมความหวัง กลอกตาดำมองไปทางขนมสีขาวราวหิมะก้อนนุ่มเบื้องหน้า เซียวเหรินมองตามสายตาของนางแล้วเอื้อมมือไปหยิบขนมขึ้นมา แต่เกรงว่าชิ้นจะใหญ่เกินไปจึงบิออกครึ่งหนึ่งแล้วยื่นไปจ่อปากของนาง ประหนึ่งป้อนอาหารให้นกตัวหนึ่ง ด้วยความดีใจและรีบร้อน หญิงสาวงับขนมเข้าปากโดนปลายนิ้วของอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ แต่นางก็ไม่รู้สึกว่าตนทำอะไรผิดไป รสหวานของขนมนั้นทำให้นางยิ้มแก้มแทบปริ สีหน้าปลื้มปริ่มกับรสหอมหวานในปากทั้งสองไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นทำให้ผู้อื่นมองอย่างกระอักกระอ่วนใจมากเพียงใด อู๋หมิ่นลี่เม้มริมฝีปากแน่นสะกดกลั้นความไม่พอใจ นางอุตส่าห์ทำขนมเพื่อให้เซียวเหรินได้ชิม เขายังไม่ได้กัดกินแม้แต่คำเดียวแต่กลับป้อนผู้หญิงคนนั้น อู๋ซิงว่านแม้เป็นบุรุษแต่ยังเขินอายแทนจนแก้มขึ้นสีแดง อู๋ซั่วไต้กระแอมไอเบาๆ “แม่นางหลัน...ไม่ทราบว่าเจ้าแซ่ใดรึ” อู๋ซั่วไต้รู้ว่าลูกสาวของตนไม่พอใจไม่น้อยที่ต้องเห็นภาพเมื่อครู่ แต่อย่างไรเซียวเหรินก็เป็นคนที่ล่วงเกินไม่ได้เช่นกัน“หลันหลัน” นางรีบตอบทั้งที่ขนมยังเ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 20. ข้าโกหกไม่เก่ง

    ปกติไม่ค่อยมี หรือจะว่าไปก็ไม่เคยมีใครกล้าพูดจาต่อปากต่อคำกับเขานัก พอได้ยินที่หญิงสาวถามกลับ กลายเป็นเขาที่พูดอะไรไม่ออกเสียเอง หญิงสาวเห็นเขายังไม่พูดอะไรต่อจึงรีบนั่งลง รินน้ำชาให้เขาอีกถ้วยแล้วชิงพูดขึ้นมาก่อน “ข้าโกหกไม่เก่งและจะไม่โกหกท่าน ที่ข้าตอบไม่ได้เพราะไม่ต้องการโกหกท่าน ท่านเข้าใจใช่ไหม” เซียวเหรินเลิกคิ้วเล็กน้อย นางกลับเป็นฝ่ายยิงคำถามใส่เขาเสียนี่ “หลันหลัน” เขาเอ่ยเสียงเรียบรับน้ำชาจากนางมาจิบเล็กน้อย“ข้าไม่เคยถามเจ้าเรื่องเสนาบดีหลี่ ถึงเวลานี้เจ้าจะบอกข้าได้หรือไม่ ว่าเกิดเรื่องใดขึ้นในวันนั้น” นางเผยอปากขึ้นแล้วหุบ อ้าปากใหม่แล้วก็กัดริมฝีปาก คิ้วงามขมวดกันยุ่งเหยิง แต่อีกฝ่ายก็ยังรอคอยนางอย่างใจเย็น สุดท้ายแล้วหลันหลันเอื้อมมือไปรินน้ำชาให้ตัวเอง ใช้สองมือประคองถ้วยชาขึ้นดื่มรวดเดียวราวกับตัดสินใจแน่วแน่แล้วเอ่ยออกมา “เพราะ ‘ซือจื่อสำคัญที่สุด’ ข้าจึงเล่าเรื่องวันนั้นไม่ได้” นางพูดน้ำเสียงหนักแน่น “คุณหนูพูดเสมอว่า ไม่ว่าอย่างไรนางอดทนเพื่อท่านได้เสมอ ข้าไม่รู้ว่าคุณหนูหมายถึงเรื่องใด แต่ข้

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 21.สิ่งที่ค้างตา

    หญิงสาวสวมหมวกปีกกว้างมีผ้าโปร่งปิดบังใบหน้า นางทำตามที่จูเต๋ออี้แนะนำทุกอย่าง แต่ผ้าโปร่งนี้ทำให้นางเกะกะรำคาญตาจนนางตลบมันขึ้น ไม่ใส่ใจว่าจะมีสายตาของใครจ้องมองใบหน้าของนาง ร่างเล็กวิ่งบ้างเดินบ้าง บางครั้งนางก็กระโดดราวกับตัวเองเป็นกระต่ายตัวน้อย ด้วยท่าทางร่าเริงราวกับค้นพบเรื่องสนุกแปลกใหม่ ไม่สนใจความเป็นกุลสตรี นางคุ้นเส้นทางอยู่บ้างเพราะติดตามกงเสวี่ยหลิง ไม่ว่าไปที่ใด นกน้อยอย่างนางย่อมเกาะบ่าไปด้วยเสมอ แต่ก่อนนั้นนางไม่เคยเข้าใจในสิ่งที่กงเสวี่ยหลิงทำ แต่เวลานี้นางมั่นใจแล้วว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไร ทำสิ่งที่ค้างคาของคุณหนูให้สำเร็จ เพื่อถึงวันที่หมดเวลาของนาง นางจะได้พบคุณหนูด้วยรอยยิ้ม ชายผู้นั้นเล่า? เขาจะเป็นอย่างไร? เขาจะเป็นอย่างไรได้ ก็ย่อมต้องสบายดีมีความสุขไม่ต้องถูกนางขโมยกินลมหายใจนี่นะ หญิงสาวยกมือแตะริมฝีปากตนเอง แต่นางต้องคิดถึงเขามากแน่นอน อารามร้างเบื้องหน้าเงียบสงัด แม้เป็นเวลากลางวันที่แดดจัดจ้า อาจเพราะเงาไม้รกครึ้มนั้น ทำให้ดูลึกลับและน่าหวาดหวั่น แต่ใบหน้างดงามกลับปรากฏรอยยิ้มออกมา

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 22.ยิ้มกลบเกลื่อน

    หลันหลันยังคงยิ้มกลบเกลื่อนความกังวล ไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใด แม้กระทั่งสายของนางยังไม่มีผู้รู้เรื่องเหตุการณ์ในวันนั้น อาจเป็นได้ว่าทางวังหลวงเองก็ต้องการปิดข่าวเพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางระหว่างสองแคว้น เดิมทีกงเสวี่ยหลิงอยู่ในวังก็ไร้ตัวตน หากจะทำเป็นว่านางยังมีชีวิตอยู่เพื่อประวิงเวลาจนกว่าจะถึงเวลาถวายเครื่องบรรณาการประจำปีก็คงไม่ผิดนัก แต่นางคงไม่สามารถกลับเข้าไปในวังได้อีก กลับไปครั้งนี้ไม่รู้ว่าต้องโทษทัณฑ์ใดอีก เรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว เห็นทีว่านางหลบอยู่หลังแผ่นหลังของเซียวเหรินไปสักระยะ แล้วลอบออกไปหอชมบุหลันจะดีที่สุด อ่า...นางคิดถึงเซียวเหรินอีกแล้ว นางได้กินลมหายใจของเขาแล้ว เหตุใดนางยังถวิลหาเขาอีกหนอ เป็นมนุษย์นี่ช่างลำบากแท้ ชายชราพยักหน้ารับคำสั่ง “เช่นนั้นข้าจะเป็นคนส่งข่าวให้แม่ทัพจางเองขอรับ” “ต้องรบกวนพวกท่านแล้ว” หญิงสาวกล่าวจากใจจริง “ข้าขอเป็นตัวแทนองค์หญิง ขอบคุณทุกท่านจากใจจริง โปรดแจ้งกับทุกคนให้เตรียมตัวให้พร้อม อีกไม่นาน ...อีกไม่นานแล้วจริงๆ” เสียงสูดลมหายใจลึกเคล้ากับความรู้สึกฮึกเหิม

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 23. ข้าไม่มีน้องสาว

    หลันหลันดีดนิ้วเสียงดังเป๊าะ หันขวับไปมองทางจูเต๋ออี้พร้อมฉีกยิ้มกว้าง เป็นจังหวะเดียวกับที่จูเต๋ออี้ที่ยืนรอรับใช้อยู่ด้านข้างหันมามองอย่างตกใจ เขามีหน้าที่อารักขาท่านเซียวเหริน จะให้ลดตัวไปเดินตามเจ้านกหงส์หยกนี่นะ เสียชื่อองครักษ์เงาอย่างเขาหมดนะซิ เอ่อ... แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่องครักษ์เงาแล้วนี่นะ “ขอบคุณท่านเซียว” หญิงสาวยิ้มระรื่นแล้วหันไปทางจูเต๋ออี้ที่หน้าบึ้งตึง “พี่เต๋ออี้!” “ข้าไม่มีน้องสาว...” ‘ปัญญาอ่อน’ เขาเกือบหลุดปากพูดไปตามที่ใจคิด จะว่านางปัญญาอ่อนก็ดูเหมือนเขาจะรังแกหญิงสาวมากไป นางแค่เจ็บป่วยและคิดว่าตนเองเป็นนกเท่านั้น หลันหลันกลับพยักหน้าขึ้นลง แววตาเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจอีกฝ่าย “ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ ข้าก็ไม่มีพี่ชาย ไม่มีญาติพี่น้องที่ใด เป็นเช่นนี้แล้วข้ายอมอุทิศตนเองเป็นน้องสาวให้ก็ได้ พี่เต๋ออี้” “อย่ามาเรียกข้าว่าพี่” จูเต๋ออี้ไม่คิดว่าตัวเองต้องมาต่อปากต่อคำกับหญิงสาวแบบนี้เลยสักนิด “วันที่ไปซื้อเสื้อผ้า ท่านเรียกข้าว่าน้องสาวเองนี่ ข้ามิได้ยกย่องตัวเองเป็นน้องสาวท่านเสียหน่อ

    Last Updated : 2024-12-12

Latest chapter

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status