Share

Chapter 19. รางวัล

last update Last Updated: 2024-12-12 02:14:28

เพียงได้ยินคำว่า ‘รางวัล’ หลันหลันก็ยืดเอวแล้วอ้าปากน้อยๆ อย่างรอคอย นางสบตากับเซียวเหรินด้วยหัวใจเปี่ยมความหวัง  กลอกตาดำมองไปทางขนมสีขาวราวหิมะก้อนนุ่มเบื้องหน้า เซียวเหรินมองตามสายตาของนางแล้วเอื้อมมือไปหยิบขนมขึ้นมา แต่เกรงว่าชิ้นจะใหญ่เกินไปจึงบิออกครึ่งหนึ่งแล้วยื่นไปจ่อปากของนาง ประหนึ่งป้อนอาหารให้นกตัวหนึ่ง ด้วยความดีใจและรีบร้อน หญิงสาวงับขนมเข้าปากโดนปลายนิ้วของอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ แต่นางก็ไม่รู้สึกว่าตนทำอะไรผิดไป รสหวานของขนมนั้นทำให้นางยิ้มแก้มแทบปริ สีหน้าปลื้มปริ่มกับรสหอมหวานในปาก

ทั้งสองไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นทำให้ผู้อื่นมองอย่างกระอักกระอ่วนใจมากเพียงใด อู๋หมิ่นลี่เม้มริมฝีปากแน่นสะกดกลั้นความไม่พอใจ นางอุตส่าห์ทำขนมเพื่อให้เซียวเหรินได้ชิม เขายังไม่ได้กัดกินแม้แต่คำเดียวแต่กลับป้อนผู้หญิงคนนั้น อู๋ซิงว่านแม้เป็นบุรุษแต่ยังเขินอายแทนจนแก้มขึ้นสีแดง อู๋ซั่วไต้กระแอมไอเบาๆ  

“แม่นางหลัน...ไม่ทราบว่าเจ้าแซ่ใดรึ” อู๋ซั่วไต้รู้ว่าลูกสาวของตนไม่พอใจไม่น้อยที่ต้องเห็นภาพเมื่อครู่ แต่อย่างไรเซียวเหรินก็เป็นคนที่ล่วงเกินไม่ได้เช่นกัน

“หลันหลัน” นางรีบตอบทั้งที่ขนมยังเต็มปาก

“หมายถึงแซ่ของแม่นาง...”

“คุณหนูเรียกข้าว่าหลันหลัน ทั้งชื่อทั้งแซ่ของข้าก็คือหลันหลัน” นางยืนยันคำเดิม   

“อ่อ...” อู๋ซั่วไต้กระตุกมุมปากยิ้ม “แม่นางไม่มีญาติพี่น้องที่ใดเลยหรือ?”

หลันหลันส่ายหน้าไปมา แต่สายตายังคงจ้องมองขนมในจาน “พี่น้องของข้าถูกขายไปตั้งแต่เด็กแล้ว ข้าอยู่กับคุณหนูตั้งแต่จำความได้ชีวิต

ข้ามีแค่คุณหนูเท่านั้นแล้วก็ท่านเซียวเหรินที่ช่วยชีวิตข้าไว้ตั้งสองครั้ง”

นางเอ่ยตอบพร้อมชูสองนิ้วประกอบคำพูดของตนเอง ท่าทางไร้เดียงสาทำให้นางดูน่าเวทนานัก ถูกขายตั้งแต่ยังเด็ก ไม่รู้ชื่อแซ่ที่แท้จริง ไม่รู้ว่าถูกเลี้ยงดูเช่นไรถึงได้มีนิสัย...ประหลาดเช่นนี้

“คุณหนูของแม่นางหลันคือ...” คราวนี้เป็นอู๋ซิงว่านที่เอ่ยถามด้วยความอยากรู้

“คุณหนูของข้า...” หลันหลันมองไปทางเซียวเหริน นางจำได้ว่าเขาไม่ต้องการให้นางเอ่ยถึงคุณหนูให้ผู้อื่นได้ยิน  

“หลันหลัน” 

“เจ้าค่ะ!” หญิงสาวขานรับทันทีที่เซียวเหรินเรียกชื่อนาง

“ตำรับโป๊ยเตียง ซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรแปดชนิดคือ...”

“ตำรับโป๊ยเตียง ซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรแปดชนิดคือ ตังเซียม แปะตุ๊ก แปะเจียก หกเหล็ง ตังกุย เส็กตี่ ชวงเกียง กำเช่า”

นางพูดเร็วปรื๋อแล้วจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน เมื่อเห็นเขาพยักหน้ารับ นางอ้าปากอีกครั้ง เซียวเหรินเอื้อมมือไปหยิบขนมอีกครึ่งที่บิไว้ในจานของตนส่งเข้าปากน้อยๆ ที่อ้าและงับทันทีที่ขนมเข้าปาก

“เจ้าท่องจำได้แม่นยำ”

“แน่นอน! ข้ายอดเยี่ยมที่สุด” นางพูดทั้งที่ขนมยังเต็มปาก ไป๋ชิว ลอบเบ้ปาก คนอะไรชมตัวเองต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้

“แล้วเจ้ารู้จักตังเซียม แปะตุ๊ก แปะเจียก หกเหล็ง ตังกุย เส็กตี่

ชวงเกียง กำเช่าหรือไม่ ต้องใช้ปริมาณเท่าใด”

หลันหลันใช้ปลายนิ้วเช็ดมุมปาก เมื่อรู้ว่ายังมีเศษขนมติดที่ปลายนิ้วอยู่ นางจึงเลียปลายนิ้วด้วยความเสียดายพลางส่ายหน้าไปมาพร้อมรอยยิ้ม

“ไม่รู้จักสักอย่างเจ้าค่ะ”

“ก็แค่ท่องจำได้อย่างกับพวกนกแก้วนกขุนทอง” ไป๋ชิวพูดเยาะเย้ย แต่พอเห็นสายตาตำหนิของอู๋ซั่วไต้ นางก็ก้มหน้าเก็บถ้อยคำของตนเองเสีย

“ผิดแล้วพี่ไป๋ชิว” นางยังคงแย้มยิ้ม ไม่มีท่าทีโกรธเคืองถ้อยคำของไป๋ชิว “ข้าเป็นนกหงส์หยกต่างหากล่ะ”

“หลันหลัน” เซียวเหรินเรียกนางอีกครั้ง หญิงสาวหันขวับกลับมาจ้องมองพร้อมรอยยิ้มกว้างและรอคอยคำของเขา

“เจ้ามาหาข้ามีธุระใช่หรือไม่”

หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงแรงๆ แล้วกลอกตามองคนรอบข้าง นางไม่กล้าเอ่ยเรื่องสำคัญต่อหน้าผู้อื่น คล้ายว่าเซียวเหรินเข้าใจท่าทางของนาง เขาจึงลุกขึ้นขอตัวแล้วเดินนำหญิงสาวออกไป หลันหลันรีบลุกขึ้นตาม แม้จะยังเสียดายขนมแสนอร่อยที่กินไปได้แค่สองคำ แต่นางก็รีบก้าวเท้าตามแผ่นหลังของเซียวเหริน นางเดินตามได้สามสี่ก้าวก็ชะงักแล้วหมุนตัวกลับมา ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังอู๋ซิงว่าน

“พยายามเข้านะ” นางโบกไม้โบกมือให้เขาแล้วรีบหมุนตัวเดิน

ตามแผ่นหลังกว้างที่ก้าวพ้นประตูไปแล้ว

อู๋ซิงว่านเผลอยกมือซ้ายขึ้นโบกไปมาตามหญิงสาวผู้นั้น เมื่อร่างเล็กหมุนตัววิ่งตามเซียวเหรินแล้ว เขาจึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองยกมือตามหญิงสาวคนนั้น  

“ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่ส่งเสียงเรียกบิดาสะกดกลั้นความน้อยใจ นางทุ่มเทถึงเพียงนี้แต่ชายที่นางปักใจรักกลับมองไม่เห็นนางเลยสักนิด

“ลี่เอ๋อร์” อู๋ซั่วไต้ตบหลังมือของบุตรสาวเบาๆ “เจ้าก็รู้ว่าพ่อตามใจเจ้าได้ทุกอย่าง แต่เรื่องนี้พ่อไม่มีสิทธิ์บังคับให้คุณชายเซียวเกี่ยวดองกับเราได้”

“ข้ารู้” นางก้มหน้าซ่อนความน้อยใจ มีบุรุษมากมายที่เพียรพยายามเกี้ยวนาง แต่นางไม่เคยรู้สึกสนใจใครเท่ากับเซียวเหรินเลย “แต่หญิงคนนั้น...เหตุใดนางได้ใกล้ชิดคุณชายเซียวเหรินนัก”

“ก็เห็นอยู่ว่านางสติไม่ค่อยดี คุณหนูใหญ่อย่าได้ถือสาเลยเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวร้อนใจแทนผู้เป็นนาย แต่ทำได้เพียงแค่ปลอบใจเท่านั้น

“เจ้าเองก็รักษากิริยาหน่อยไป๋ชิว” อู๋ซั่วไต้อดตำหนิไม่ได้

“ขออภัยเจ้าค่ะนายท่าน”

“เอาเถิด อย่างไรก็ดูแลคุณชายเซียวเหรินให้ดี และจำไว้อยู่เสมอว่าเขาไม่ใช่คนที่เราจะล่วงเกินได้”

อู๋ซิงว่านไม่ได้ฟังถ้อยคำของบิดาและพี่สาวนัก เขาก้มมองฝ่ามือซ้ายของตนที่เผลอยกขึ้นโบกตอบรับหญิงสาวนิสัยประหลาดผู้นั้น แขนขวายังขยับไม่ได้ แต่หลังจากที่เซียวเหรินทดสอบฝังเข็มแล้วเขากลับรู้สึกได้ว่าปลายนิ้วที่เคยไร้ความรู้สึกนั้น ยามนี้กลับมาเจ็บแปลบเมื่อถูกเข็มทองปักที่ปลายนิ้ว แม้จะยังขยับไม่ได้แต่เขาเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

ทว่าภาพริมฝีปากสีแดงสดที่เผยอขึ้นงับขนมหน่ายเกานั้นทำให้จิตใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคล้ายหัวใจจะคันยุบยิบ อยากเป็นคนป้อนขนมให้นางเสียเอง นิสัยประหลาดแต่ท่าทางไร้เดียงสานั้นทำให้ใครก็โกรธนางไม่ลง ดวงตาเป็นประกายสุกใสราวกับดวงดาวยามราตรี น้ำเสียงไพเราะดุจนกน้อยช่างเจรจา

นกน้อย

จริงสิ นางบอกว่าตัวเองเป็นนกหงส์หยกนี่นะ

แล้วเขาจะต้องทำเช่นไรจึงจะได้ครอบครองนกหงส์หยกตัวนั้น

เหตุใดเจ้าต้องการพบจูเต๋ออี้

            เซียวเหรินเอ่ยถามหลังจากที่นางพูดเสียงเบาด้วยท่าทีเกรงอกเกรงใจ ชายหนุ่มเดินนำหน้านางกลับมาที่เรือนของตน หยิบตำราแพทย์มาพลิกอ่านไม่สนใจท่าทีกระวนกระวายใจของหลันหลัน

            “ข้าอยากออกไปข้างนอก ถ้าพี่เต๋ออี้ออกไปได้ ข้าก็ออกไปได้ด้วย” นางตอบพลางยืนบิดมือไปมา

            “เจ้าจะออกไปที่ใด” เขาเอื้อมมือไปทำท่าจะรินน้ำชา แต่หญิงสาวกุลีกุจอรีบเข้ามารินน้ำชาให้เขาเสียเอง

            “ข้า...ข้ามีที่ที่ต้องไป” นางโกหกไม่เก่ง ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี จึงได้แต่ตอบไปอย่างคลุมเครือเช่นนี้

            “จูเต๋ออี้ไม่อยู่ ข้าให้เขาออกไปทำธุระ ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อใด หรือวันไหน” ถ้อยคำของเขายิ่งทำให้หญิงสาวกังวลใจ “ธุระของเจ้าสำคัญมากหรือ?”

            หลันหลันพยักหน้าขึ้นลงแทนคำตอบ

            “เช่นนั้นข้าจะออกไปกับเจ้าเอง”

            คราวแรกนางพยักหน้า พอทบทวนประโยคเดิมในใจรอบหนึ่งก็รีบส่ายหน้าไปมา

            “ท่านไปไม่ได้”

            “เหตุใดข้าไปไม่ได้” เขาเก็บซ่อนน้ำเสียงไม่พอใจไว้  “ข้าไปไม่ได้แต่จูเต๋ออี้ไปได้?”

            หลันหลันเม้มริมฝีปากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยไปตามจริง

            “คุณหนูพูดเสมอว่า ‘ซือจื่อสำคัญที่สุด’ ข้าเกรงว่าท่านจะได้รับอันตรายจึงไม่อยากให้ท่านไป”

            “เรื่องนี้เกี่ยวกับคุณหนูของเจ้ารึ?” เขาถามอีกครั้งและนางก็พยักหน้ารับแทนคำตอบ    

            “เหตุใดคุณหนูของเจ้าถึงกล่าวเช่นนั้น”

            หลันหลันย่นจมูกก่อนเอ่ยออกมา “เหตุใดท่านถามเยอะเช่นนี้”

Related chapters

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 20. ข้าโกหกไม่เก่ง

    ปกติไม่ค่อยมี หรือจะว่าไปก็ไม่เคยมีใครกล้าพูดจาต่อปากต่อคำกับเขานัก พอได้ยินที่หญิงสาวถามกลับ กลายเป็นเขาที่พูดอะไรไม่ออกเสียเอง หญิงสาวเห็นเขายังไม่พูดอะไรต่อจึงรีบนั่งลง รินน้ำชาให้เขาอีกถ้วยแล้วชิงพูดขึ้นมาก่อน “ข้าโกหกไม่เก่งและจะไม่โกหกท่าน ที่ข้าตอบไม่ได้เพราะไม่ต้องการโกหกท่าน ท่านเข้าใจใช่ไหม” เซียวเหรินเลิกคิ้วเล็กน้อย นางกลับเป็นฝ่ายยิงคำถามใส่เขาเสียนี่ “หลันหลัน” เขาเอ่ยเสียงเรียบรับน้ำชาจากนางมาจิบเล็กน้อย“ข้าไม่เคยถามเจ้าเรื่องเสนาบดีหลี่ ถึงเวลานี้เจ้าจะบอกข้าได้หรือไม่ ว่าเกิดเรื่องใดขึ้นในวันนั้น” นางเผยอปากขึ้นแล้วหุบ อ้าปากใหม่แล้วก็กัดริมฝีปาก คิ้วงามขมวดกันยุ่งเหยิง แต่อีกฝ่ายก็ยังรอคอยนางอย่างใจเย็น สุดท้ายแล้วหลันหลันเอื้อมมือไปรินน้ำชาให้ตัวเอง ใช้สองมือประคองถ้วยชาขึ้นดื่มรวดเดียวราวกับตัดสินใจแน่วแน่แล้วเอ่ยออกมา “เพราะ ‘ซือจื่อสำคัญที่สุด’ ข้าจึงเล่าเรื่องวันนั้นไม่ได้” นางพูดน้ำเสียงหนักแน่น “คุณหนูพูดเสมอว่า ไม่ว่าอย่างไรนางอดทนเพื่อท่านได้เสมอ ข้าไม่รู้ว่าคุณหนูหมายถึงเรื่องใด แต่ข้

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 21.สิ่งที่ค้างตา

    หญิงสาวสวมหมวกปีกกว้างมีผ้าโปร่งปิดบังใบหน้า นางทำตามที่จูเต๋ออี้แนะนำทุกอย่าง แต่ผ้าโปร่งนี้ทำให้นางเกะกะรำคาญตาจนนางตลบมันขึ้น ไม่ใส่ใจว่าจะมีสายตาของใครจ้องมองใบหน้าของนาง ร่างเล็กวิ่งบ้างเดินบ้าง บางครั้งนางก็กระโดดราวกับตัวเองเป็นกระต่ายตัวน้อย ด้วยท่าทางร่าเริงราวกับค้นพบเรื่องสนุกแปลกใหม่ ไม่สนใจความเป็นกุลสตรี นางคุ้นเส้นทางอยู่บ้างเพราะติดตามกงเสวี่ยหลิง ไม่ว่าไปที่ใด นกน้อยอย่างนางย่อมเกาะบ่าไปด้วยเสมอ แต่ก่อนนั้นนางไม่เคยเข้าใจในสิ่งที่กงเสวี่ยหลิงทำ แต่เวลานี้นางมั่นใจแล้วว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไร ทำสิ่งที่ค้างคาของคุณหนูให้สำเร็จ เพื่อถึงวันที่หมดเวลาของนาง นางจะได้พบคุณหนูด้วยรอยยิ้ม ชายผู้นั้นเล่า? เขาจะเป็นอย่างไร? เขาจะเป็นอย่างไรได้ ก็ย่อมต้องสบายดีมีความสุขไม่ต้องถูกนางขโมยกินลมหายใจนี่นะ หญิงสาวยกมือแตะริมฝีปากตนเอง แต่นางต้องคิดถึงเขามากแน่นอน อารามร้างเบื้องหน้าเงียบสงัด แม้เป็นเวลากลางวันที่แดดจัดจ้า อาจเพราะเงาไม้รกครึ้มนั้น ทำให้ดูลึกลับและน่าหวาดหวั่น แต่ใบหน้างดงามกลับปรากฏรอยยิ้มออกมา

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 22.ยิ้มกลบเกลื่อน

    หลันหลันยังคงยิ้มกลบเกลื่อนความกังวล ไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใด แม้กระทั่งสายของนางยังไม่มีผู้รู้เรื่องเหตุการณ์ในวันนั้น อาจเป็นได้ว่าทางวังหลวงเองก็ต้องการปิดข่าวเพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางระหว่างสองแคว้น เดิมทีกงเสวี่ยหลิงอยู่ในวังก็ไร้ตัวตน หากจะทำเป็นว่านางยังมีชีวิตอยู่เพื่อประวิงเวลาจนกว่าจะถึงเวลาถวายเครื่องบรรณาการประจำปีก็คงไม่ผิดนัก แต่นางคงไม่สามารถกลับเข้าไปในวังได้อีก กลับไปครั้งนี้ไม่รู้ว่าต้องโทษทัณฑ์ใดอีก เรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว เห็นทีว่านางหลบอยู่หลังแผ่นหลังของเซียวเหรินไปสักระยะ แล้วลอบออกไปหอชมบุหลันจะดีที่สุด อ่า...นางคิดถึงเซียวเหรินอีกแล้ว นางได้กินลมหายใจของเขาแล้ว เหตุใดนางยังถวิลหาเขาอีกหนอ เป็นมนุษย์นี่ช่างลำบากแท้ ชายชราพยักหน้ารับคำสั่ง “เช่นนั้นข้าจะเป็นคนส่งข่าวให้แม่ทัพจางเองขอรับ” “ต้องรบกวนพวกท่านแล้ว” หญิงสาวกล่าวจากใจจริง “ข้าขอเป็นตัวแทนองค์หญิง ขอบคุณทุกท่านจากใจจริง โปรดแจ้งกับทุกคนให้เตรียมตัวให้พร้อม อีกไม่นาน ...อีกไม่นานแล้วจริงๆ” เสียงสูดลมหายใจลึกเคล้ากับความรู้สึกฮึกเหิม

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 23. ข้าไม่มีน้องสาว

    หลันหลันดีดนิ้วเสียงดังเป๊าะ หันขวับไปมองทางจูเต๋ออี้พร้อมฉีกยิ้มกว้าง เป็นจังหวะเดียวกับที่จูเต๋ออี้ที่ยืนรอรับใช้อยู่ด้านข้างหันมามองอย่างตกใจ เขามีหน้าที่อารักขาท่านเซียวเหริน จะให้ลดตัวไปเดินตามเจ้านกหงส์หยกนี่นะ เสียชื่อองครักษ์เงาอย่างเขาหมดนะซิ เอ่อ... แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่องครักษ์เงาแล้วนี่นะ “ขอบคุณท่านเซียว” หญิงสาวยิ้มระรื่นแล้วหันไปทางจูเต๋ออี้ที่หน้าบึ้งตึง “พี่เต๋ออี้!” “ข้าไม่มีน้องสาว...” ‘ปัญญาอ่อน’ เขาเกือบหลุดปากพูดไปตามที่ใจคิด จะว่านางปัญญาอ่อนก็ดูเหมือนเขาจะรังแกหญิงสาวมากไป นางแค่เจ็บป่วยและคิดว่าตนเองเป็นนกเท่านั้น หลันหลันกลับพยักหน้าขึ้นลง แววตาเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจอีกฝ่าย “ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ ข้าก็ไม่มีพี่ชาย ไม่มีญาติพี่น้องที่ใด เป็นเช่นนี้แล้วข้ายอมอุทิศตนเองเป็นน้องสาวให้ก็ได้ พี่เต๋ออี้” “อย่ามาเรียกข้าว่าพี่” จูเต๋ออี้ไม่คิดว่าตัวเองต้องมาต่อปากต่อคำกับหญิงสาวแบบนี้เลยสักนิด “วันที่ไปซื้อเสื้อผ้า ท่านเรียกข้าว่าน้องสาวเองนี่ ข้ามิได้ยกย่องตัวเองเป็นน้องสาวท่านเสียหน่อ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 24. ของเล็กน้อยเท่านั้น

    “แม่นางหลันหากไม่รังเกียจลองชิมขนมฝีมือข้าดูสักคำเถิด” อู๋หมิ่นลี่ส่งขนมแป้งม้วนสอดไส้ให้นาง หลันหลันชำเลืองมองทางเซียวเหรินแต่เห็นว่าเขาไม่ห้ามปรามอะไรก็รีบยื่นมือไปรับ “ขอบคุณแม่นางอู๋ ท่านช่างดีจริงๆ ทำอาหารเก่งเช่นนี้ ท่านต้องเป็นศรีภรรยาที่ดีแน่ๆ”สายตาทุกคู่จับจ้องที่หญิงสาวร่างเล็กแต่อ้าปากกว้างกัดกินขนมโดยไม่ยกมือขึ้นปิดบัง ความหวานนุ่มละมุนลิ้นที่อบอวลในปากทำให้หญิงสาวกระโดดเต้นไปมาด้วยท่าทางชอบใจราวเด็กเล็กๆ“อร่อยมาก อร่อยจริงๆ ท่านเซียวลองชิมดูซิเจ้าคะ”“อืม” เซียวเหรินไม่กินขนมเพียงแค่ยกน้ำชาที่อู๋หมิ่นลี่รินให้ขึ้นจิบแล้วเอ่ยชม “ชาดี”“เป็นชาเข็มเงินจวินซานขอรับ” อู๋ซิงว่านพูดทั้งที่สายตายังเหลือบมองหลันหลันอยู่ แม้กิริยาไร้ความสำรวมแต่ทำให้เขายิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เขาชิมขนมฝีมือพี่สาวมาแต่เล็ก รสชาติคุ้นลิ้นมานานแล้ว แต่เห็นท่าทางนางตื่นเต้นมีความสุขเช่นนั้นทำให้เขารู้สึกอยากกินไปด้วย เขารินน้ำชาแล้วส่งให้หลันหลันที่ยังยืนอยู่ด้านข้างของเซียวเหริน “แม่นางหลัน ดื่มชาด้วย” “ขอบคุณคุณชายอู๋” นางรับน้ำชามาดื่มอึกใหญ่แล้วพูดเลียนแบบเซียวเหริน “ชาดี”ไป๋ชิวที่ยืนดูอยู่ถ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 25.ข้าจะไปหอชมบุหลัน

    “ข้าจะไปหอชมบุหลัน!” นางตอบอย่างรวดเร็ว และคำตอบของนางทำให้เขางุนงง อู๋ซิงว่านรู้จักหอชมบุหลันแต่คิดว่านางพูดผิดจึงถามซ้ำอีกครั้ง แต่หลันหลันยืนยันคำตอบเดิม “เจ้าไปทำอะไรในสถานที่เช่นนั้น” “ไปทำงาน” นางแย้มยิ้มไม่คิดว่าตนเองพูดสิ่งใดผิดหรือแปลกประหลาด “เจ้าจะไปทำงานอะไร” คราวนี้ไป๋ชิวอดพูดขึ้นไม่ได้“ทำงานที่ได้ค่าตอบแทน” นางหัวเราะคิกคัก “ข้าต้องใช้เงินและเงินจำนวนมากๆ” อู๋ซิงว่านอยากซักถามนางต่อด้วยเกรงว่านิสัยไร้เดียงสาของนางจะถูกผู้อื่นหลอกลวงเอาได้ แต่เซียวเหรินกลับพูดตัดบทขึ้นมาก่อน “คุณชายอู๋ ดูจากอาการของท่านแล้ว ข้าคิดว่าควรฝังเข็มรักษาอย่างต่อเนื่อง ระหว่างการรักษานี้เจ้าจะต้องมีสมาธิไม่ว่อกแว่กต่อสิ่งใด อย่าเพิ่งโคจรเดินลมปราณ รอจนร่างกายขับพิษออกอีกหน่อย ให้ข้ามั่นใจว่าพิษจะไม่ทำลายหัวใจ ท่านจึงค่อยฝึกเดินลมปราณใหม่อีกครั้ง” “ข้าทราบแล้วท่านเซียว” “คุณหนูใหญ่ รบกวนเจ้าช่วยตระเตรียมห้องสำหรับการรักษาด้วย ข้าต้องการความสงบและหาเวรยามคอยเฝ้าไม่ให้ใครรบกวนระหว่างการฝังเ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 26.แล้วข้าเล่า

    “แล้วข้าเล่า” จางซงหยวนหัวเราะแล้วเดินไปคารวะอู๋ซั่วไต้แล้วจึงนั่งลง เซียวเหรินซึ่งคุ้นเคยกับจางซงหยวนเป็นอย่างดีได้แต่ส่ายหน้าไปมา รินน้ำชาส่งให้สหายและของตนเองก่อนจะนั่งลงทำให้ชิงเหยียนนั่งลงเช่นกัน “เหตุใดเจ้ามาเพียงลำพัง” เซียวเหรินเอ่ยถามเมื่อเห็นจางซงหยวนมาเพียงลำพัง ตามจริงแล้วพบกันครั้งนี้เขาควรได้พบกงอี้เทาด้วย “คนผู้นั้นมีเรื่องต้องไปจัดการ อีกไม่กี่วันหลังจากนี้ท่านย่อมได้พบ” จางซงหยวนเพียงยักไหล่ “อย่างไรก็ต้องรบกวนประมุขอู๋เช่นเดิม” “อย่าเรียกว่ารบกวนเลย” อู๋ซั่วไต้โบกไม้โบกมือไปมา “มาคราวนี้อยากให้พวกท่านได้รู้จักกับชิงเหยียน แม้มีกำลังคนน้อยแต่โดดเด่นยิ่งนัก” “ประมุขอู๋กล่าวเกินไป” ชิงเหยียนยิ้มจางๆ เขาเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้ามีหนวดเครารกรุงรังและยังมีร่องรอยบาดแผลบนใบหน้า “มาครั้งนี้หวังเพียงได้พบแสดงความขอบคุณกุนซือผู้ให้คำแนะนำแก่ข้า” จางซงหยวนเลิกคิ้ว ใช้ถ้วยชาปิดมุมปากที่ยกยิ้ม แต่ดวงตาของเขาจ้องมองมาทางเซียวเหรินที่ยังคงสงบนิ่งไร้ถ้อยคำใด เห็นท่าทีของเซียวเหรินแล้ว จางซงหยวนที่เดินทางแรมร

    Last Updated : 2024-12-17
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 27. เจ้าว่านายป่วยไม่ใช่รึ

    “เจ้าจะรับนางกลับไปหรือไม่” เซียวเหรินรู้สึกหัวเสียเพราะเสียงหัวเราะของจางซงหยวน “ท่านว่านางป่วยไม่ใช่รึ ท่านผู้เป็นหมอสมควรดูแลนางอย่างยิ่ง นางเป็นคนสำคัญยิ่ง หวังว่าท่านจะดูแลนางอย่างดี อ้อ! ตอนนี้องค์ชายกงอี้เทาตระเตรียมกองทหารอยู่ อาจจะมาหาท่านช้าไปสักหน่อย” จางซงหยวนลุกขึ้นยืน “ข้ามีธุระต้องไปสะสาง วันนี้ขอตัวก่อน” จางซงหยวนเดินไปที่ประตูลับที่เขาเข้ามา บานประตูเลื่อนเปิดออก เขาชะงักแล้วหันกลับมามองบุรุษที่ยังนั่งนิ่งเพียงลำพัง “เซียวเหริน...ท่านจำองค์หญิงกงเสวี่ยหลิงไม่ได้จริงหรือ?” “ข้าไม่เคยพบหน้านาง” เซียวเหรินมั่นใจเช่นนั้น จางซงหยวนทำท่าเหมือนจะพูดอะไรก็เปลี่ยนใจ โคลงศีรษะไปมา “ลองทบทวนดูเถิด ความทรงจำของคนเรามันซับซ้อนยิ่งนัก” ร่างปราดเปรียวของจางซงหยวนหายไปลับตาพร้อมเสียงปิดประตูลับ ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด เซียวเหรินทบทวนเรื่องราวที่จางซงหยวนเอ่ยมา เขาหลับตาและครุ่นคิด พลันรู้สึกถึงกลิ่นหอมของดอกโบตั๋นในความทรงจำอันเลือนราง หรือเขาหลงลืมอะไรไปจริงๆ “ซือจื่อ” เด็กสาวพึมพำชื่อขอ

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status