หน้าหลัก / รักโบราณ / ดอกบัวในสงคราม / ตอนที่ 1 ดาวสีน้ำเงิน

แชร์

ดอกบัวในสงคราม
ดอกบัวในสงคราม
ผู้แต่ง: ดุจเพชร

ตอนที่ 1 ดาวสีน้ำเงิน

ผู้เขียน: ดุจเพชร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-23 18:36:49

            ดาวสีน้ำเงิน ในศตวรรษ 3050 หรือยุคที่เทคโนโลยีมาถึงขีดสูงสุดเกินกว่าจินตนาการไว้ รถสามารถเหาะได้ เพราะนวัตกรรมสุดล้ำ มนุษย์ไม่ต้องทำงานบ้านเองมีเอไอทำให้ทุกอย่าง ขนส่งสินค้าข้ามประเทศภายในไม่กี่นาที อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารอัดเม็ด มีแบบแคปซูลให้เลือก เพราะพื้นดินเต็มไปด้วยสารพิษทำให้เพาะปลูกได้ยาก ที่อยู่อาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่างล้วนเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ ทว่ามีเพียงประชากรที่เริ่มลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากมลพิษทางอากาศ อีกทั้งเมื่อก่อนยังมีการทำสงครามต่างดวงดาว กฎของการทำสงครามคือจะไม่โจมตีประชากรดวงดาว หากจะรบกันต้องส่งกองกำลังทหารของแต่ละฝ่ายไปอวกาศ หากไม่อยากสู้รบก็มักจะหาข้อยุติด้วยการทำสนธิสัญญาระหว่างดวงดาว

            ครืด ครืด

           “วันนี้เจ้านายจะรับอะไรดีครับ” เสียงหุ่นยนต์ทำหน้าที่เสมือนพ่อบ้านแต่ล้ำยิ่งกว่าเพราะถูกสร้างให้มีความคล้ายมนุษย์แม้กระทั่งความคิด มันเดินเข้ามาถามเจ้านายของตนที่กำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอกด้วยท่าทางเร่งรีบ

           “ฉันจะสายแล้ว เอาแค่แคปซูลอาหารมาให้ก็พอ” โมนิก้า ลูกสาวคนเดียวของผู้บัญชาการกองทัพสูงสุดหรือนายพลโรเบิร์ตโต้ หญิงสาวร่างบาง ส่วนสูงเพียง 165 แต่หน้าอกหน้าใจกลับใหญ่เกินตัว ผมสีทอง ดวงตากลมสดใส บุคคลที่คนทั้งดวงดาวเรียกว่าอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะ ด้วยวัยเพียง 13 ปี ก็สามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ออกมาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอไอรุ่นล่าสุดที่ทำอาหาร ขับรถยนต์ หรือทำสิ่งต่างๆได้ไม่ต่างจากมนุษย์

           แรงบัลดาลใจที่ทำให้เธอคิดค้นมันขึ้นมาเป็นเพราะในยุคปัจจุบันเด็กเกิดใหม่มีจำนวนน้อยลงทุกปี ใน 1 ปี มีเด็กเกิดใหม่ เพียง 1 % ของคนทั้งดวงดาว สาเหตุมาจากมลพิษทางอากาศ เชื้อโรค แบคทีเรียมีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากยุคนี้มีการใช้เชื้อเพลิงและเทคโนโลยีใหม่ๆ จนก่อเกิดมลพิษ หากเด็กที่เกิดมาไม่มีภูมิคุ้มกันตั้งแต่กำเนิดก็จะไม่สามารถมีชีวิตรอดในยุคนี้ได้

           นอกจากนี้ในดาวน้ำเงินยังมีกฎว่าผู้ชายที่อายุครบ 25 ปี ต้องเข้าเกณฑ์ทหาร และจะปลดประจำการได้ต้องมีอายุ 30 ปี หรือถ้าหากทำผลงานได้ดีจะขอยื่นเรื่องขอปลดก่อนก็ได้ มีทหารเก่งๆบางส่วนที่ประจำอยู่กองทหารของดวงดาว ต้องออกไปสู้รบกับดาวอื่น มีคนเสียชีวิตลงไปไม่น้อยแม้จะไม่มากเท่าเมื่อก่อนแต่ก็ทำให้ประชากรในดาวสีน้ำเงินนี้ค่อนข้างไม่สมดุล ผู้หญิงมีจำนวนเยอะกว่าผู้ชายถึงร้อยละ 80

           นี่จึงเป็นเหตุผลที่เธอคิดค้นเอไอหรือหุ่นยนต์รุ่นใหม่ขึ้นมา เพราะมนุษย์แก่ลงทุกปี ในขณะที่คนเกิดมาแทบไม่มี นั่นจึงทำให้เอไอพ่อบ้าน แม่บ้านขายดี ทำเงินให้ครอบครัวเธอมหาศาล ส่วนต่อมาที่โมนิก้าคิดค้นก็เป็นแคปซูลอาหาร

           “เจ้านายจะเอาแบบแห้งหรือแบบน้ำครับ”

           “เอ่อ เอามาทั้งสองนั่นแหล่ะ” และนี่คงเป็นความฉลาดของเอไอที่เธอคิดค้น เพราะมันสามารถโต้ตอบกับเธอได้ อีกทั้งยังมีความคิดเป็นของตัวเองคล้ายมนุษย์

 

           ติ้ด ติ้ด

           “ว่าไงคะปะป๊า” โมนิก้ารับสายผู้เป็นพ่อ เมื่อหน้าจอสี่เหลี่ยมคล้ายคอมพิวเตอร์โปร่งใสเป็นภาพโฮโลแกรมเด้งขึ้นมา ทำให้เห็นหน้าผู้เป็นพ่อได้อย่างชัดเจน ผมสีบรอนด์อันเป็นเอกลักษณ์ของชายวัยกลางคนปรากฏบนหน้าจอ

           “ถึงไหนแล้วลูก” โรเบิร์ตโต้ถามลูกสาวที่ตอนนี้แม้จะอายุ 23 ปี แต่ในสายตาของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยคนหนึ่ง แม้ความคิดและไอคิวของเธอจะโตเกินวัย แต่สำหรับคนเป็นพ่อแม่มักมองว่าลูกเป็นเด็กน้อยสำหรับพวกเขาเสมอ

 

           “หนูตื่นสายค่ะ แหะๆ ไม่เกิน 5 นาทีถึงแน่นอน” โมนิก้าพูดพลางยื่นมือไปรับกล่องแคปซูลจากบอทเต้ก่อนจะกดนาฬิกาสุดไฮเทคบนข้อมือที่สามารถเรียกรถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูง แม้ไม่มีคนขับก็สามารถมาร์คจุดหมายปลายทางได้ ทว่าราคามันก็แพงเอาเรื่อง

           “พร้อมมั้ยลูก” โรเบิร์ตโต้ถามบุตรสาวที่พึ่งมาถึงทันเวลาอย่างฉิวเฉียด วันนี้โมนิก้าต้องกล่าวเปิดงาน เจ้าเอไอรุ่นใหม่ที่เป็นแบบชิปซึ่งสามารถฝังไว้ในสมองมนุษย์ได้ เจ้าสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีความสามารถตามชิปที่ฝัง แม้จะไม่เคยมีความรู้ในเรื่องนั้นมาก่อน เช่น ชิปนักสู้ ชิปยอดนักปรุงอาหาร หรืออื่นๆตามข้อมูลที่ศูนย์ความรู้แห่งสหประชาชาติป้อนใส่ชิป ศูนย์ความรู้แห่งสหประชาชาติคือสถานที่เก็บข้อมูลต่างๆของแต่ละประเทศทั่วดวงดาว รวมถึงคนที่ควรค่าแก่การจารึกเอาไว้ ซึ่งการคิดค้นเจ้าเอไอนี้ก็นับว่าเป็นการสร้างสิ่งมหัสจรรย์ครั้งยิ่งใหญ่ของจักรวาลเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังช่วยลดประชากรดวงดาวที่จะต้องออกไปสู้รบ เป็นการป้องกันการสูญเสียอีกด้วย

           “พร้อมค่ะ” โมนิก้ายิ้มให้คนเป็นพ่อ นายพลโรเบิร์ตโต้มองรอยยิ้มนั้นของบุตรสาวอย่างเหม่อลอย ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่านี่จะเป็นรอยยิ้มสุดท้ายที่เขาได้เห็น คิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกใจหาย แต่พอคิดว่าตัวเองอาจคิดมากไปจึงสะบัดความคิดนั้นจ้องมองลูกสาวคนเดียวของเขาพูดบนเวทีด้วยสีหน้าภูมิใจ

           บุตรสาวของเขาเติบโตมาโดยมีเพียงเขาคนเดียว แม่เธอเสียไปตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จากโรคประจำตัวที่รักษาไม่หาย ลูกสาวที่เห็นแม่นอนป่วยมาหลายปีจึงเริ่มศึกษาด้านการแพทย์ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เพราะอยากให้แม่หายดี เขาสงสารบุตรสาวที่ใช้เวลาเป็นปีศึกษาตัวยาเพื่อรักษาก็ทำได้แค่ประคับประคองตามอาการ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากช่วยเธอ แม้แต่หมอที่เก่งที่สุดในดาวสีน้ำเงินยังส่ายหน้า เนื่องจากร่างกายภรรยาเขาอ่อนแอตั้งแต่เกิดจากการคัดสรรค์ประชากรของธรรมชาติทำให้เด็กเกิดใหม่มีน้อยมาก หมอบอกว่าที่เธอสามารถพยุงร่างกายอยู่ได้จนถึงตอนนั้นก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว พอคลอดลูกซึ่งก็คือโมนิก้า ร่างกายของเธอก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังฝืนแล้วยิ้มรับกับทุกปัญหาที่เผชิญ

           “วันนี้หนูสวยมาก รู้ไหม” ระหว่างคนเป็นพ่อกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด จู่ๆ ชายร่างสูง รูปร่างกำยำ ดวงตาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเชื้อพระวงศ์ก็เดินเข้ามา หน้าตาไม่ต้องพูดถึง ผู้หญิงรอบๆทุกคนพากันมองตาค้าง ด้วยใบหน้าเหล่อเหลาราวกับสวรรค์จงใจสร้างนั่นทำให้หญิงสาวทุกคนพากันอิจฉาเจ้าของช่อดอกไม้ที่ชายหนุ่มถือมา ไม่ใช่ใคร แต่คือโมนิก้าบุตรสาวเขา ส่วนคนเป็นพ่ออย่างโรเบิร์ตโต้ถึงกับคิ้วกระตุกให้กับความเปล่งประกายของชายหนุ่ม

           “ขอบคุณค่ะพี่เซนท์” โมนิก้ายิ้มหวานให้แฟนหนุ่ม เซนท์ หรือเฟลิกซ์ ซัลลิแวน เจ้าชายแห่งดวงดาวซีอัส ซึ่งเป็นดวงดาวที่เปรียบเสมือนจักรวรรดิของจักรวาล แม้จะไม่ใช่มหาจักรวรรดิ แต่ก็มีอิทธิพลไม่แพ้กัน และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมไม่ค่อยมีดาวดวงอื่นมาโจมตีดาวสีน้ำมันเงิน เพราะชายหนุ่มคอยจัดการให้คนรักอย่างเงียบๆนั่นเอง

           “ยินดีครับ สำหรับคนสวยของพี่” ชายหนุ่มมองหน้าสวยหวานของคนรักอย่างลึกซึ้ง ยื่นดอกไม้ในมือให้ มองชุดที่เธอสวมใส่แล้วแอบหงุดหงิด ชุดนี้เปิดเนื้อหนังมากเกินไป เขาหวง

           “อะแฮ่ม ๆ” โรเบิร์ตขัดจังหวะคนทั้งคู่ พลางมองเขม่นไปที่หน้าอันโดดเด่นนั่น หนอย เขาอยู่ทั้งคนยังมามองหน้าลูกสาวเขาปานจะกลืนกิน ชายวัยกลางคนมองอย่างหมั่นไส้

           “สวัสดีครับคุณพ่อแฟน จบงานแล้วผมขอยืมตัวลูกสาวหน่อยนะครับ” เฟลิกซ์หันไปขออนุญาตกับผู้เป็นพ่อของแฟนสาวอย่างนอบน้อม เขาไม่ถือยศว่าเป็นเจ้าชายแม้แต่น้อย

           เพราะอีกไม่นาน หากทุกอย่างจบลงเขาก็จะขอแฟนสาวแต่งงานแล้ว

           “เหอะ ฉันห้ามได้ไหมล่ะ” โรเบิร์ตเลิกคิ้วอย่างยียวน วันครบรอบบุตรสาว 20 ปี จู่ๆโมนิก้าก็เดินมาบอกว่ามีแฟนแล้ว พร้อมพาผู้ชายคนนั้นเข้าบ้าน เขาตกใจระคนโมโห เพราะกลัวว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นจะมาด้วยจุดประสงค์ไม่หวังดี บุตรสาวของเขาแนะนำแค่ว่าชายหนุ่มที่พามาด้วยชื่อเซนท์ ไม่ได้แนะนำครอบครัวหรือฐานะอื่นๆ หลังจากนั้นเขาให้ลูกน้องไปสืบกลับไม่ได้ข้อมูลอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย มันน่าหงุดหงิดที่ไม่สามารถหาข้อมูลของชายคนนั้นได้เลย แต่ก็ไม่ได้กีดกันความรักของลูก เขาเชื่อใจบุตรสาวเพียงแต่คอยมองอยู่ห่างๆ หากทำให้โมนิก้าเสียใจเขานี่แหละจะไปเด็ดหัวมันเอง

           จนกระทั่งไม่กี่เดือนต่อมาเซนท์เดินทางเข้ามาหาเขา วันนั้นชายหนุ่มแนะนำตัวด้วยชื่อเต็มๆในฐานะแฟนของโมนิก้า ไม่ใช่ฐานะทูตของดวงดาวซีนัส พอเขาได้ยินก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมบุตรสาวถึงไม่ยอมบอกชื่อจริงแฟนหนุ่ม เจ้าชายจากดวงดาวซีนัสที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาอำนาจกลับก้มลงคุกเข่าขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงแต่แรก เพราะไม่อยากถูกมองว่าคบกับโมนิก้าเพื่อผลประโยชน์ตั้งแต่วันแรก ชายหนุ่มอยากให้ดูที่การกระทำที่ปฏิบัติต่อบุตรสาวของเขา ชายวัยกลางคนได้ลองมองเข้าไปในดวงตาสีแดงทับทิมอันเป็นเอกลักษณ์ของอีกฝ่าย มันช่างแน่วแน่และไม่หวั่นไหว พลางคิดทบทวนที่ผ่านมาบุตรสาวของเขามีแต่รอยยิ้มในช่วงระหว่างคบกัน สุดท้ายจึงใจอ่อนเปิดใจให้แฟนบุตรสาวคนนี้ แต่ก็มีบ้างที่แอบหวง จนต้องแอบเขม่นอีกฝ่าย

           “พ่อคะ…” โมนิก้าถึงกับส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

           “ขอบคุณครับ” เฟลิกซ์ยิ้มแบบเดียวกันตอบกลับไป ไม่มีความไม่พอใจอยู่ในดวงตาแม้แต่น้อย โรเบิร์ตถึงกับหนวดกระตุกคล้ายโดนลูบคม แต่พอมองหน้าบุตรสาวก็แกล้งทำเป็นหายใจฟึดฟัดพอเป็นพิธี

           “พ่อกับพี่เซนท์รออยู่ตรงนี้นะคะ เพราะมันเป็นที่ที่หนูเห็นทั้งคู่ได้ที่ดีสุด” บอกเสร็จก็ส่งยิ้มอย่างมีความสุขไปให้ คนเป็นแฟนคันที่ใจยุบยิบเพราะไม่อยากให้ใครเห็นนอกจากพ่อของเธอและเขาคนเดียว ส่วนโรเบิร์ตโต้มองตามบุตรสาวอย่างภาคภูมิใจ

           ‘เธอจะรู้ไหม โมอาเรีย ตอนนี้ลูกสาวเราเติบโตมาอย่างดีเลยนะ อัจฉริยะผู้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆจนหลายคนตะลึง เธอต้องภูมิใจในตัวลูกเหมือนอย่างฉันแน่ๆ’ โรเบิร์ตคิดพลางมองขึ้นไปบนฟ้า

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 2 ลืมเลือน

    “พี่เซนท์จะพาหนูไปไหนเหรอคะ” โมนิก้ามองแฟนหนุ่มอย่างสงสัย เขาพาเธอออกมาหลังจากจบงาน “ไปดินเนอร์ครับ” ชายหนุ่มหันมาบอกพร้อมส่งยิ้มไปให้แฟนสาว เซนท์เป็นชื่อที่ท่านแม่ตั้งให้เขา ส่วนเฟลิกซ์เป็นชื่อทางการ เขาชอบให้เธอเรียกเขาด้วยชื่อเล่นที่แม่ตั้งให้มากกว่า วันนี้เขาเลือกที่จะขับรถเองเพราะอยากอยู่กับเธอให้นานที่สุด ก่อนที่เขาต้องออกไปทำสงคราม ใช่แล้ว สงครามระหว่างมหาอำนาจ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อดวงดาวสีน้ำเงินแห่งนี้ “พี่มีอะไรจะบอกหนูมั้ย สีหน้าพี่ไม่ค่อยดีเลย” โมนิก้าจับท่าทางแปลกๆของคนรัก ที่แสดงผ่านทางสีหน้าได้ จึงเอียงคอถาม เพราะปกติเขามีอะไรก็จะบอกเธอ “พี่แค่คิดว่าเมื่อไรเราจะได้แต่งงาน พี่อยากให้เราอยู่ใกล้กันตลอดเวลา” เฟลิกซ์ยังไม่บอกความจริง แต่สิ่งที่เขาพูดออกไปก็มาจากใจเขาจริงๆเช่นเดียวกัน “หูย พูดแบบนี้หนูก็เขินแย่สิคะ เดี๋ยวก็เก็บเสื้อผ้าไปอยู่ด้วยเลยนี่” โมนิก้าเขินหน้าเดง ก่อนจะพูดกลบเกลื่อนทีเล่นทีจริง แม้จะเอะใจว่านี่อาจไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง แต่ก็ไม่เป็นไร เธอเชื่อมั่นในตัวเขา เพราะตลอดที่คบกันซึ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 3 เตรียมตัว

    2 ปี ต่อมา ตู้ม ตู้ม! “เจ้าชาย ได้โปรดพักเถอะครับ ทางนี้พวกเราจัดการเอง” ทหารนายหนึ่งเอ่ยบอกเจ้าชายแห่งซีอัส ผู้นำทัพในครั้งนี้ ไม่รู้เวลาผ่านมานานเท่าไร แต่ทุกครั้งที่ศัตรูบุก เจ้าชายแทบไม่ได้พักเลย ในห้วงอวกาศมืดมิดเสียจนไม่รู้วันเวลา มีเพียงแสงจากระเบิดสงครามที่ส่องสว่างไปทั่วทุกสารทิศ สาดใส่กันไปมา “เราจะปล่อยให้สู้กันเอง โดยขาดผู้นำได้อย่างไร ส่งข่าวแจ้งทหารคนอื่น หากบาดเจ็บให้กลับไปรักษา ส่วนใครที่ยังไหวขอให้ตามเรามา” เซนท์ หรือเฟลิกซ์ ซัลลิแวน บัดนี้แทบไม่เหลือเคล้าเดิม หน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผล หนวกเคราขึ้นเต็มหน้าเพราะต้องสู้รบอยู่ตลอดเวลาจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทว่าสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือดวงตาสีแดงที่แน่วแน่และไม่สั่นไหว เขารู้ว่าเวลาล่วงเลยไป 2 ปีแล้ว เพราะนับเวลาและเฝ้ารอมันตลอด ให้สงครามที่ยืดเยื้อนี้จบสักที การเริ่มต้นสงครามในรอบหลายสิบปีของจักรวรรดิซีอัสครั้งนี้เกิดจากฝ่ายศัตรู นั่นคือจักรวรรดิไซเนียที่ต้องการสินค้าบางอย่างจากดวงดาวที่จักรวรรดิซีนัสปกครองอยู่ กฏของจักรวาลอย่างแรกจะเป็นการเจรจาก่อน ซึ่งจากการเจรจาทีแรกดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 4 ลางร้าย

    “หากต้องไปที่โลกนั้นจริงๆ งั้นเราต้องเตรียมพร้อม !” โมนิก้าเมื่อวางสายเสร็จจึงหันมาพูดกับตัวเอง ไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนั้นสามารถใส่พวกของสด และของใช้ได้หรือเปล่า คงต้องลองดู หญิงสาวเดินไปชั้นล่างเพื่อหยิบอาหารสดในห้องครัวใส่ลงไปในเจ้าสิ่งนั้น จริงๆเธอคิดว่าแคปซูลอาหารก็น่าจะเพียงพอให้เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นสบายไปทั้งชาติ แต่เธอไม่รู้ว่าโลกนั้นเป็นโลกแบบไหน หากหยิบเอาของในปัจจุบันออกมาสุ่มสี่สุ่มหา คนอื่นอาจจะคิดว่าเธอเป็นแม่มดหรือปีศาจ ตามความเชื่อโบราณก็ได้ “ลองหยิบไปทั้งหมดนี่แล้วกัน” ถึงแม้โมนิก้าจะคิดค้นแคปซูลอาหารที่มีสารอาหารครบ และสามารถเก็บไว้ได้นานไม่มีวันหมดอายุได้ แต่เธอก็ยังชอบกินอาหารทำสดใหม่อยู่ดี เพราะแบบนี้ได้รสสัมผัสมากกว่า ทั้งความร้อน หรือความสดใหม่ของผักและความนุ่มของเนื้อสัตว์ หญิงสาวทดลองหยิบของที่มีอยู่ในตู้เย็นทั้งหมดลงในเจ้าสิ่งนั้น วูบบบบ “ว้าววว ใส่เข้ามาได้จริงๆด้วย” โมนิก้ารออยู่ประมาณ 5 นาที ก่อนจะวาบเข้ามา เมื่อมาถึงเธอเหม่อมองสิ่งของที่ลองหยิบใส่เข้ามามั่วๆ พบว่าสิ่งนั้นได้เข้าไปกองอยู่ภายในห้องๆหนึ่งขนาดประมาณ 60 ตา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 5 สูญเสีย

    “อึก ทำไม !!!” โรเบิร์ตโต้ที่ร่างกายเต็มไปเลือด ขาขาดข้างหนึ่งจากแรงกระแทก กระอักเลือดออกมา แรงระเบิดเมื่อครู่ทำให้แอนดริวที่เอาตัวมาบังเสียชีวิตค่าที่ ส่วนเขาที่ได้รับแรงระเบิดน้อยกว่า แต่ก็ต้องเสียขาไป ได้แต่นอนนิ่ง คาดว่าไม่นานความช่วยเหลือน่าจะมา ทว่ารอแล้วรอเล่าก็ยังคงเงียบ จนมีเสียงเท้าเดินมาทางที่เขานอนอยู่ สายตาพร่ามัวหากพอมองเห็นเบิกกว้างมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ “หึ ๆ ทำไมงั้นหรอโรเบิร์ตโต้ ก็แค่แกขวางทางฉันอยู่” พลเอกอีธานแสยะยิ้มชั่วร้าย เขาอยากฆ่ามันตั้งแต่เมื่อ10 กว่าปีที่แล้ว แม้ตำแหน่งของเขาจะสูงกว่าแต่ใครๆก็รู้กันว่าคนที่ถูกเคารพนับถือและได้รับสายตาชื่นชมจากประชาชนทุกคนคือมัน พ่อของเขาก็มักเปรียบเทียบมาตลอด อีกทั้งยังโดนซ้อมอย่างหนักเมื่อผลงานของเขาสู้มันไม่ได้ แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือขนาดมีลูกสาว ลูกสาวของเขาก็ยังสู้ลูกสาวมันไม่ได้ เพราะลูกสาวของมันคนเดียวที่ทำให้แผนของเขาพังไม่เป็นท่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่เขาอยากจะผูกขาดอุตสาหกรรมของดวงดาวไว้เองแต่เพราะมีนังเด็กนั่นที่ขยันผลิตสิ่งต่างๆออกมาจนคนในดวงดาวไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเขาเหมือนแต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 6 เกิดใหม่

    “แม่นางเหมย เบ่งอีกนิดนะ” หมอตำแยบอกหญิงนางหนึ่งอายุไม่เกิน 18 ปี ที่ร้องอย่างเจ็บปวดเนื่องจากกำลังจะคลอดท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ครืนนน ซ่า “อะ โอ้ย ข้าเจ็บเหลือเกิน...” “อีกนิดเดียว เด็กกำลังกลับหัว” หมอหญิงวัยชราผู้ทำคลอดเอ่ยบอก มือพยายามบีบนวดหน้าท้องให้เด็กกลับหัว “อึก ขะ ข้าไม่ไหว” “เด็กกลับหัวแล้ว เบ่งอีก” “มะ ไม่ไหว แล้ว ฝะ ฝากลูกข้าด้วย กรี๊ดดดดด” “แม่นางเหมย แม่นาง !!” หมอชราส่งเสียงเรียกหญิงที่ได้เป็นแม่คนแล้วดังลั่น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปหลังเบ่งบุตรสาวออกมา จับชีพจรจึงพบว่าอีกฝ่ายได้เสียชีวิตลงแล้ว จ้องมองเด็กน้อยตัวขาวจ้ำม่ำไม่เหมือนเด็กที่คลอดก่อนกำหนดด้วยความเศร้าใจ เกิดมาก็กำพร้าแม่เลยหรือนี่ ผ่าง “เมียข้าเป็นอย่างไรบ้าง !” หลี่เจียหมิง เปิดประตูเข้ามาอย่างรีบร้อน ความตื่นเต้นทำให้เขาเผลอพรวดพราดเข้ามาอย่างอดใจไม่ไหว เมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดร้องของเมียรัก ทว่ากลับต้องตกตะลึงเมื่อพบร่างขาวซีดของเหมยลี่นอนนิ่ง หันไปหาหมอตำแยเพื่อฟังคำอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 7 หาของป่าครั้งแรก

    “เงินอันใด ไม่มีหรอกขอรับ” เจียหมิงตอบกลับอย่างเหนื่อยใจ ขนาดแยกบ้านมาแล้วยังมิวายตามมาไถเงินถึงหน้าบ้าน “แล้วแกเอาเงินที่ไหนไปซื้อน้ำนมจากสะใภ้เหลียง มีคนเห็นว่าแกจ่ายไปหลายเหมา” หลี่จ้านหญิงวัยกลางคนยืนชี้นิ้วด่าลูกเลี้ยงเสียงดัง หนอย แล้วบอกไม่มีเงิน ลูกจางหมิ่นของนางไปเห็นมันเอาเงินให้ฝั่งนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางมาขอเงินดีๆจากนังเหมยลี่ แต่นังนั่นกลับปฎิเสธต้องยื้อยุดอยู่นาน นางได้มาเพียงไม่กี่เหมา มาทราบเรื่องภายหลังว่าพอนางกลับไป นังเหมยลี่ก็คลอดทันที มีอย่างที่ไหน นางอุตส่าห์ช่วยเหลือให้ที่ซุกหัวนอนทั้งที่มันไม่มีญาติมิตร ใช้งานนิดๆหน่อยกลับเป็นลมเป็นแล้ง หึ สมน้ำหน้า หมาป่าตาขาว อกตัญญูแบบนี้ก็สมควรตายๆไปซะ “จำเป็นต้องบอกด้วยหรือขอรับ ส่วนเงินนั่นเป็นเงินที่ข้าซื้อน้ำนมให้เหลียนเอ๋อร์” เจียหมิงขมวดคิ้วเริ่มไม่พอใจ แค่เรื่องที่บ้านใหญ่เป็นสาเหตุให้เมียเขาคลอดก่อนกำหนดยังไม่ได้สะสาง เจีงหมิงคิดถึงตอนที่เขาบากหน้าไปขอซื้อนมจากคนในหมู่บ้าน ไม่มีหญิงพึ่งคลอดบุตรคนใด นอกจากสะใภ้เหลียงที่ช่วยเหลือ แต่ด้วยความรู้นิสัยบ้านนั้นดีเลยไม่ได้ขอเปล่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 8 มิติ

    “มะ หม่ำ” เหลียนฮวาใช้ความพยายามในการออกเสียง นางอยากบอกท่านพ่อเหลือเกินว่ามันกินได้ ดูตรงนู้นนั่นสิมีหัวมันหวานขนาดใหญ่ด้วย นึกพลางน้ำลายไหลย้อยอย่างห้ามไม่อยู่ จะให้ท่านพ่อขุดกลับไปให้หมดเลย “ถึงอย่างไรก็กินไม่ได้ มันมีพิษ” แม้จะดีใจที่บุตรสาวพูดคำอื่นได้บ้างแล้ว แต่พอเห็นดวงตาเป็นประกายของลูกก็ยิ้มระคนเอ็นดูในความช่างจ้อ เอื้อมหยิบผ้าสะอาดในอกมาเช็ดน้ำลาย เอ่ยอธิบายเสมือนเด็กน้อยเข้าใจสิ่งที่พูด หมับ “แอ้ !” เมื่อเห็นบิดากำลังจะเดินไปอีกทางแต่มีหรือที่นางจะยอม คว้าหมับที่คอเสื้อแล้วใช้สายตาออดอ้อนท่าไม้ตาย เบะปาก ส่งตาปริบๆไปให้คนเป็นพ่อใจอ่อน “พ่อไม่เคยชนะเจ้าเลย...” เจียหมิงพูดอย่างปลงๆกับตัวเอง ทำให้ตัวต้นเหตุดีดดิ้นกรี๊ดกร๊าดออกมาอย่างดีใจ “อ๊ายย คิกๆ” “ลองเก็บกลับมาเพียงนิดเดียว หากลูกเห็นว่ามันกินไม่ได้จริงๆ ต้องยอมให้พ่อเอาไปทิ้งนะ” เจียหมิงเอ่ยพลางใช้กิ่งไม้แข็งแรงแถวนั้นขุดเอาหัวมันขึ้นมาจากใต้ดิน ได้ 2-3 หัวใหญ่ก็พอ “อื้อ !” “อันนั้นด้วยหรือ…” เจียหมิงได้ยินเสียงร้องเรียกข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 9 ร่ำลา

    ‘พร้อมครับ’ ทั้งสองตอบพร้อมกัน ก่อนที่เหลียนฮวาจะคิดว่า พวกเขาอยู่ภายในตึก วูบบบบบ ‘ได้จริงๆเจ้านาย ตอนนี้พวกเราอยู่ในตึก !’ บอทเต้พูดอย่างดีใจ พลางมองสำรวจพื้นที่ที่เข้ามาใหม่ พบว่าในตึกว่าห้องแบ่งออกเป็นหลายห้อง แต่ละห้องมีหุ่นยนต์กำลังทำงานของมันอยู่ “ยังเหมือนเดิมสินะ” เหลียนฮวาดีใจไม่แตกต่างกัน อย่างน้อยตึกเอไอจะได้มีคนคอยคุมไม่ให้พวกเอไอสร้างสิ่งของออกมาเกินความจำเป็น ‘เจ้านายจะให้พวกเราช่วยอะไรไหมครับ’ “ฉันฝากพวกนายคุมพวกเจ้าหุ่นยนต์แรงงานพวกนั้นไม่ให้ผลิตของมากเกินไป ฉันกลัวจะล้นคลังเก็บของ” ‘ได้ครับ’ บอทเต้รับคำงานนี้มันถนัด “อ้อ อีกอย่าง ช่วยชงนมให้ฉันหน่อยได้ไหม” เหลียนฮวาพูดอย่างอายๆ ในโลกก่อนเธอโตจนสามารถดูแลตัวเองได้ มาตอนนี้เธอกลับทำอะไรเองไม่ได้เลย นอกจากกินและนอน ‘โรบอทชงเองครับ !’ บอทเต้ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด โรบอทรีบชิงพูดตัดหน้าอย่างตื่นเต้น มันชอบเจ้านายในร่างเด็ก เพราะถูกสร้างมาในขณะที่เจ้านายโตแล้ว ไม่เหมือนบอทเต้ที่พูดจาโอ้อวดมันตลอดตั้งแต่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมว่าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23

บทล่าสุด

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 54 ความทรงจำ

    ศตวรรษ 3053“สังหารมันซะ” เซนท์ หรือเฟลิกซ์ ซัลลิแวนสั่งเสียงเหี้ยม ดวงตาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์นิ่งเฉยแม้จะสั่งฆ่าคนเวลาผ่านไปอีก 1 ปี นับจากที่ลุงโรเบิร์ต บิดาของคนรักได้ส่งอาวุธมาให้ หลังจากนั้นเขาได้ทำสงครามกับจักรวรรดิไซเนียอย่างเต็มกำลัง ข่าวคราวจากโลกสีน้ำเงินขาดหายไปถ้านับระยะเวลาทั้งหมดก็เป็นเวลา 1 ปี แล้ว คล้ายขาดการติดต่อโดยสิ้นเชิง วันเวลาผันผ่านไปช่างยาวนานสำหรับเขา วันแล้ววันเล่าที่รอเวลากลับไปหาคนรักชายหนุ่มจับจี้เรืองแสงที่ใส่ไว้ติดตัวตลอดซึ่งเป็นของสำคัญที่เขาต้องนำไปคืนคนรัก รวมถึงแหวนตกทอดของเสด็จแม่ที่ท่านให้ไว้ก่อนสวรรคต เพื่อนำไปมอบให้เจ้าของของมัน และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง สงครามจบลงโดยที่จักรวรรดิซีอัสเป็นฝ่ายชนะสงครามโดยเขากำลังสั่งให้ทหารลงมือสังหารจักรพรรดิของไซเนียและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ แม้จะชดเชยให้กับทหารที่เสียไปไม่ได้ก็ตาม“ระ เรามาเจรจากันดีหรือไม่” เสียงสั่นกลัวพยายามเรียกร้องการเจรจา“ไม่จำเป็น”

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 53 เด็กน้อยผู้โชคร้าย

    “ฮึก ฮึก” เจียวลู่หลังจากกลับจากร่ำลาพี่ใหญ่และทุกคน แอบมานั่งร้องไห้หลังครัวคนเดียว จุดเดิมที่เขาเคยนั่งกินปลาที่พี่ใหญ่แอบย่างให้กิน เขาคิดถึงพี่ใหญ่ พี่ใหญ่เป็นคนเดียวที่ดีกับเจียวลู่จากใจจริงในบ้านหลังนี้เรื่องเกิดขึ้นหลังจากที่เจียวลู่แอบไปได้ยินว่าจางหมิ่นติดเงินพนันในตอนที่พวกผู้คุมบ่อนมาตามทวงหนี้ถึงหน้าบ้าน ช่วงนั้นไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเจียวลู่และจางหมิ่น เจียวลู่จึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมด และโดนจางหมิ่นขู่ว่าถ้านำเรื่องไปบอกใครจะจัดการเขา เด็กน้อยที่กลัวว่าจะโดนพี่สามตี จึงปิดปากเงียบ วันต่อมาจางหมิ่นตัดสินใจขอเงินนางจ้านโดยอ้างว่านำไปลงทุน นางจ้านที่เห็นดีเห็นงามกับบุตรชายให้เงินที่พึ่งได้รับมาหมาดๆไปทั้งหมด เรื่องราวเหมือนจะจบลงแค่ตรงนั้นทว่าผ่านไปเกือบเดือนจางหมิ่นกลับไปเล่นพนันอีก จนกระทั่งพวกคุมบ่อนตามมาทวงอีกรอบ คราวนี้เรื่องเลยแดงขึ้น เนื่องจากตอนนั้นทุกคนอยู่บ้านกันหมด ยกเว้นเหยาฉือที่โดนนางจ้านไล่ออกจากบ้านไปแล้ว ด้วยเงินที่ค้างไว้หลายเหรียญเงิน พวกเขาไม่สามารถหามาจ่ายได้ พวกคุมบ่อนเลยจะ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 52 ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

    “ขะ ข้าขอเวลาอีกนิด เงินจำนวนนี้ข้าต้องแบ่งจ่ายให้กับพนักงาน” เถ้าแก่ใช้จุดบอดตอนหันหลังให้พวกมัน รีบยื่นตั๋วเงิน พร้อมรับค่าธรรมเนียมมาอย่างรวดเร็ว พลางกล่าวออกไปนับตั้งแต่โดนเจ้าถิ่นเข้ามาหาเรื่อง ยอดลูกค้าก็ตกลงอย่างเห็นได้ชัด กำไรที่ได้ก็ต้องแบ่งจ่ายให้พวกมัน ทำให้บางครั้งต้องติดค่าแรงพนักงานไว้ ผัดผ่อนหลายครั้ง ควักเงินส่วนตัวออกมาจ่ายก็หลายหน จะแจ้งทางการก็กลัวอิทธิพลของพวกมันชายชราอย่างเขาทำการค้าแลกเปลี่ยนตั๋วเงินด้วยความสุจริตมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี เกรงว่าจะนำความเดือดร้อนไปสู่ลูกหลาน พวกเขาออกเรือน แยกย้ายไปสร้างครอบครัวกันหมดแล้ว ไม่มีคนหนุนหลัง มีแต่สองมือที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนต่อกรกับคนเลวพวกนี้ได้ นอกจากกล้ำกลืนฝืนทนจ่ายให้จบๆ“เห็นพวกข้าเป็นคนการกุศลงั้นรึ จ่ายมาเร็วๆ!!!” ชายร่างสูงใหญ่ตะคอกเสียงดัง มันไม่สนเหตุผล ข้ออ้างร้อยแปดอะไรทั้งนั้น วันนี้ต้องได้เงินกลับไปมอบให้กับนายท่าน“คนอย่างพวกเจ้ารู้จักคำว่ากุศลด้วยรึ” เจียหมิงตัดสินใจโพล่งออกไป แม้จะดูเสียมารยาท แต่อดไ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 51 แลกเปลี่ยนตั๋วเงิน

    “อาหย่อยยยย” เหลียนฮวาตะโกนด้วยความสุขใจ จับแก้มกลมหลับตาพริ้ม ลิ้มรสอาหารที่ท่านพ่อท่านลุงผลัดกันป้อน โรงเตี๊ยมแห่งนี้อาหารช่างเป็นเลิศ นางมองอาหารหลายจานที่ทยอยนำมาเสิร์ฟ อาหารปรุงสุกอย่างไรก็ดีกว่าอาหารสำเร็จรูปแบบในโลกก่อนนางอยู่แล้ว เสียดายบอทเต้กับโรบอทไม่จำเป็นต้องกินอาหาร ถ้าทั้งสองได้มาชิมคงจะคิดไม่ต่างกัน“โรบอทแค่เห็นเจ้านายกินก็มีความสุขแล้วขอรับ” เสียงแว่วของโรบอทดังผ่านความคิด ส่วนบอทเต้ไปปฏิบัติภารกิจที่นายท่านมอบหมายไว้อยู่ ท่านพ่อบอกว่าพวกเราไม่ต้องกลัวสายตาสงสัยของคนในหมู่บ้านอีกแล้ว สามารถใช้เงินที่หามาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้อย่างเต็มที่ ส่วนท่านลุงเองก็มีเงินเก็บเยอะขึ้น เพราะไม่ต้องมีปลิงคอยสูบเงินแถมยังออกล่าสัตว์เกือบทุกวันกับท่านพ่อ นอกจากนี้ยังมีอาชีพเสริมเป็นนายหน้านำของในมิตินางไปขาย นางแบ่งปันเงินแต่ล่ะส่วนที่ได้มาให้เท่ากันทุกคนทุกวันนี้ในกระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่ท่านพ่อซื้อให้ยังนอนอยู่ในมิติ ซึ่งเต็มไปด้วยเหรียญหนักอึ้งจนยกไม่ไหว ต้องให้พ่อกับลุงช่วยยก หลังกินข้าวเสร็จ พวกเราจะไปโรงเตี๊ยมสำหรับแลกเงินกันต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 50 โรงเตี๊ยมหมื่นลี้

    “ว้าว คนเยอะมักเจ้าก่ะ” เมื่อมาถึง ทั้งสามคนตื่นเต้น มองผู้คนในเมืองหลวงที่แต่งตัวดูดี พ่อค้าแม่ค้าข้างทาง ของขายมีเยอะจนเลือกไม่ถูก หลายคนดูเหมือนมาจากตระกูลชนชั้นสูงรถม้ามีตราสัญลักษณ์เฉพาะตระกูลวิ่งขวักไขว่ไปมา“เหลียนเอ๋อร์อยู่ใกล้ๆพ่อกับลุงเจ้าไว้นะ” เจียหมิงที่ลายตา เพราะไม่รู้จะเดินไปทางไหนดี คล้ายบ้านนอกเข้ากรุงอย่างไงอย่างงั้น“จะ เจียหมิงเราจะไปทางไหนดี” เหยาฉือสับสน ไม่เคยมาเมืองหลวงมาก่อน“อืม ข้าก็ไม่แน่ใจ คิดว่าเราไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า” เจียหมิงก็ใช่ว่าจะรู้ทาง เขาพาทุกคนสุ่มเดินไปตามทางเรื่อยๆ หากเจอร้านอาหารค่อยแวะปรึกษากันอีกครั้ง “เดี๋ยว พวกเจ้าจะเข้ามาในร้านไม่ได้” ในที่สุดพวกเขาก็เจอโรงเตี๊ยมอาหารขนาดกลางแห่งหนึ่ง ตัดสินใจพากันเดินเข้าไปหาอะไรกิน ทว่าหญิงที่คาดว่าเป็นเสี่ยวเอ้อร์เอ่ยดักทั้งสามไว้ สายตาดูถูกมองผู้มาใหม่หัวจรดเท้า แอบชะงักชั่วครู่เมื่อกี้นางรู้สึกได้ถึงสายตากดดันจากเด็กน้อย แต่สลัดความคิดลง สงสัยจะตาฝาดไปเอง“เอ่อ ที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารหรือขอรับ” เจียหมิงถามอย่างสงสัย ไม่

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 49 เดินทาง

    “เก็บของเสร็จหรือยัง” และแล้ววันเวลาก็ผ่านไป โรบอทกับบอทเต้ได้ฝึกและให้ความรู้แก่นายท่านพวกมันจนมั่นใจว่าวิชาที่มอบให้จะช่วยให้พวกเขาชนะศัตรูได้ ทั้งดาบ ธนู หอก ปืน หน้าไม้ โรบอทรับหน้าที่ฝึกให้จนชำนาญ ส่วนบอทเต้ได้มอบความรู้ด้านกลยุทธ์ แผนการและวิธีทำอาวุธใช้เอง ไม่เว้นแม้แต่ตัวอักษรของโลกใบนี้บอทเต้ก็สามารถสอนได้บัดนี้นับว่าท่านพ่อและท่านลุงของนางพร้อมสำหรับการรบแล้ว ทุกวันพวกเขาจะฝึกกันถึง 3 รอบ บริเวณหลังบ้าน เพื่อไม่ให้ใครเห็น เรียกว่าเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมานี้แทบไม่มีใครเห็นตัวท่านพ่อกับท่านลุง เนื่องจากเก็บตัวเงียบ ส่วนนางก็ไม่ออกไปเล่นที่ไหน แม้เสี่ยวหยวนจะมาชวนหลายครั้งเหลียนฮวาที่ถูกห่อตัวด้วยผ้าหนาๆคล้ายเสี่ยวเหมา แก้มแดงปลั่งเพราะอากาศหนาว นางสะพายกระเป๋าผ้าที่มีเสบียงของตัวเองไว้ด้านหลัง ส่วนท่านพ่อท่านลุงมีจำพวกของใช้ เสื้อผ้าในถุงผ้าขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน“เสดแย้ว” เหลียนฮวาชูมืออย่างดีใจ เหมือนได้ออกไปผจญภัยกับทุกคน โรบอทกับบอทเต้นางให้เข้าไปในมิติแล้ว เกรงว่าถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าจะพากันตกใจ แล้วแห่มาบ้านนางไม

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 48 เริ่มฝึก

    “แฮ่กๆ ละ ลุงต้องทำ อะ อีกกี่ครั้ง” หลี่เหยาฉือเหงื่อเปียกชุ่มเอ่ยถามหลานสาวเสียงหอบ เสื้อผ้าของเจียหมิงที่ใส่อยู่แนบลู่ติดไปกับตัว หลานสาวปลุกเขาตั้งแต่เช้าให้มาทำท่าแปลกๆที่เรียกว่าออกกำลังกาย“อีกยี่สิบครั้งเจ้าก่ะ ห้ามหยุดน้า” เหลียนฮวาให้ท่านลุงของนางทำท่าซิทอัพเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ลดไขมันบริเวณหน้าท้อง ท่าต่อไปต้องเพิ่มกล้ามแขน ส่วนท่านพ่อของนางทำครบแล้ว เพราะลดเหลือวันละเซ็ต ตอนนี้น่าจะไปส่งจดหมายให้ทางการอยู่“อ่า ฮึบ แฮ่กๆ”“18 19 20 เย้ ท่างยุงเก่งที่สุด แปะๆ” เด็กน้อยกะโดดโลดเต้นผิดกับเทรนเนอร์สุดโหดเมื่อสักครู่“แฮ่กๆ ท่าต่อไป จัดมาเลย ลุงไหว” เหยาฉือที่บ้ายอ พอโดนหลานชมเก่งที่สุดก็มีแรงฮึดสู้ ไม่หวั่นแม้จะเหนื่อยแค่ไหน เข้าทางเด็กน้อยที่รอคำนี้อยู่แล้ว เวลาหนึ่งเดือนท่านพ่อและท่านลุงของนางต้องมีซิกแพ็ค เฮ้ย มีกล้ามเนื้อ แข็งแรงพอที่จะจับปืน จับดาบต่อสู้กับพวกศัตรูได้อย่างไม่แพ้ใคร ครึ่งเดือนผ่านไปเคล้ง เคล้ง! “ย๊า เจียหมิง เจ้าอย่าได้ออมแรง” เสียงชายผิ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 47 ครอบครัว

    “ท่างป้อ ท่างยุง” เหลียนฮวาที่ตื่นนอนนานแล้ว ลุกมาพับที่นอน ใช้ฝักบัวน้อยๆรดน้ำผักรอท่านพ่อ พอได้ยินเสียงก็รีบวางทุกอย่างลงวิ่งดุกดิกเข้ามาหา พอเห็นว่าลุงมาด้วยก็ร้องเรียกอย่างดีใจ นางขมวดคิ้วมองสภาพของลุงที่เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่นเล็กน้อย ตรงหน้าท้องมีรอยเท้าชัดเจน ใครบังอาจทำท่านลุงของนาง หลงลืมเรื่องที่ตัวเองต้องไปอยู่กับท่านลุงยามพ่อไปรบชั่วขณะ “เหลียนเอ๋อร์หลานลุง” หลี่เหยาฉืมองหลานแสนรักด้วยความคิดถึง “เกิดเยื่องไรเจ้ากะ ครายทามยุง” “เข้าบ้านกันก่อนสองลุงหลาน เราค่อยมาปรึกษาเรื่องนี้กันอีกที” เจียหมิงเรียกทุกคนไปคุยในบ้าน ก่อนที่เขาจะเปรยเรื่องขึ้นมา “แล้วเจ้าจะเอาอย่างไรต่อเจียหมิง” เหยาฉือถามหลังจากพวกเขานั่งพูดคุย โดยมีเจ้าตัวน้อยตั้งใจฟังด้วย เด็กน้อยขมวดคิ้วไม่พอใจยามได้ยินเรื่องราวของท่านลุง หนอย ยายเฒ่ามหาภัย บังอาจทำร้ายท่านลุง แค้นนี้สักวันเหลียนเอ๋อร์จะชำระให้เอง “ข้าคิดมาสักแล้วว่าจะลองส่งเรื่องร้องขอทางการ หากพวกเขาไม่เห็นด้วย ข้าจะหาทางทำทุกอย่า

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 46 ตัดขาด

    “นี่ๆ เจ้าได้ยินประกาศหรือยัง” เสียงซุบซิบนินทาดังไปทั่ว หลังมีประกาศเป็นราชโองการออกมา นั่นหมายถึงไม่มีใครสามารถขัดได้ ชาวบ้านหลายคนพากันร้องห่มร้องไห้ ตีระฆังร้องทุกข์ ขอคัดค้าน เนื่องจากในบ้านมีเสาหลักเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว หากต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ชีวิตคนที่เหลือต้องพบเจอความยากลำบาก บางบ้านมีบุตรชายหลายคน เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ถึงขั้นต่อยตีกันเสียงดังว่าใครจะเป็นคนไป บางบ้านมีลูกรักลูกชัง การเลือกจึงไม่ใช่เรื่องยากเสียงคร่ำครวญยังดังต่อเนื่อง ชาวบ้านหลายคนสีหน้าอมทุกข์ นับตั้งแต่มีประกาศออกมา เหยาฉือและเจียมิงก็กำลังเผชิญปัญหานั้นเช่นเดียวกัน “ป้อจ๋า นุจะไปด้วย” เหลียนฮวาเบะปากน้ำตาซึม หลังท่านพ่อจะต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร นางได้ยินคนคุยกันว่าจะต้องส่งไปครอบครับละหนึ่งคน ซึ่งพวกเราแยกบ้านออกมาแล้ว ดังนั้นท่านพ่อต้องเข้าร่วมกองทัพอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทว่าสิ่งที่ทำให้นางร้อนใจยิ่งกว่าคือการที่ท่านพ่อตัดสินใจจะพานางไปฝากเลี้ยงไว้กับบ้านเดิม“พ่อขอโทษเหลียนเอ๋อร์ แต่กองทัพอันตรายเกินไป พ่อพาลูกไปด้วยไม่ได้” เจีย

DMCA.com Protection Status