Home / รักโบราณ / ดอกบัวในสงคราม / ตอนที่ 3 เตรียมตัว

Share

ตอนที่ 3 เตรียมตัว

last update Last Updated: 2024-12-23 18:37:06

          2 ปี ต่อมา

          ตู้ม ตู้ม!

          “เจ้าชาย ได้โปรดพักเถอะครับ ทางนี้พวกเราจัดการเอง”  ทหารนายหนึ่งเอ่ยบอกเจ้าชายแห่งซีอัส ผู้นำทัพในครั้งนี้ ไม่รู้เวลาผ่านมานานเท่าไร แต่ทุกครั้งที่ศัตรูบุก เจ้าชายแทบไม่ได้พักเลย  ในห้วงอวกาศมืดมิดเสียจนไม่รู้วันเวลา มีเพียงแสงจากระเบิดสงครามที่ส่องสว่างไปทั่วทุกสารทิศ สาดใส่กันไปมา 

          “เราจะปล่อยให้สู้กันเอง โดยขาดผู้นำได้อย่างไร ส่งข่าวแจ้งทหารคนอื่น หากบาดเจ็บให้กลับไปรักษา ส่วนใครที่ยังไหวขอให้ตามเรามา” เซนท์ หรือเฟลิกซ์ ซัลลิแวน บัดนี้แทบไม่เหลือเคล้าเดิม หน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผล หนวกเคราขึ้นเต็มหน้าเพราะต้องสู้รบอยู่ตลอดเวลาจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทว่าสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือดวงตาสีแดงที่แน่วแน่และไม่สั่นไหว เขารู้ว่าเวลาล่วงเลยไป 2 ปีแล้ว เพราะนับเวลาและเฝ้ารอมันตลอด ให้สงครามที่ยืดเยื้อนี้จบสักที

           การเริ่มต้นสงครามในรอบหลายสิบปีของจักรวรรดิซีอัสครั้งนี้เกิดจากฝ่ายศัตรู นั่นคือจักรวรรดิไซเนียที่ต้องการสินค้าบางอย่างจากดวงดาวที่จักรวรรดิซีนัสปกครองอยู่ กฏของจักรวาลอย่างแรกจะเป็นการเจรจาก่อน ซึ่งจากการเจรจาทีแรกดูเหมือนจะผ่านไปด้วยดี มีการตกลงทำสนธิสัญญาการค้าระหว่างดวงดาวขึ้น ทว่าไม่นานจักรวรรดิไซเนียเกิดรัฐประหารเปลี่ยนระบอบการปกครอง อีกทั้งยังได้ฉีกสนธิสัญญาทิ้ง หลังจากจักรพรรดิคนใหม่ขึ้นครองราชย์การตกลงผ่านไปอย่างคลุมเครือเพราะหาข้อยุติใหม่ไม่ได้  อีกฝ่ายเกิดความโลภคิดอยากครอบครองไม่ใช่การแลกเปลี่ยนอย่างทีแรก

           สุดท้ายจักรวรรดิไซเนียได้ยื่นคำขาดว่าการเจรจาจะสิ้นสุดลงทันทีหากจักรวรรดิซีอัสไม่มาก้าวก่ายการยึดครองดาวสีน้ำเงิน แลกกับจักรวรรดิไซเนียจะไม่ครอบครองดาวในการปกครองของจักรวรรดิซีอัสทั้งหมด ดูเหมือนนี่จะเป็นแผนของจักรวรรดิไซเนียตั้งแต่แรกที่เล็งดาวสีน้ำเงินไว้ ซึ่งดาวสีน้ำเงินไม่ใช่ดาวในการปกครองของดาวซีอัส แต่เป็นดาวที่ซีอัสให้การคุ้มครองในฐานะพันธมิตร จักรวรรดิไซเนียคงเล็งเห็นจุดนี้ตั้งแต่แรก โดยเฉพาะผลประโยชน์จากสิ่งประดิษฐ์ของดวงสีน้ำเงินที่มีมูลค่ามหาศาล จึงได้สร้างเงื่อนไขขึ้นมา

           เฟลิกซ์ไม่คิดหักหลังดาวสีน้ำเงินของคนรักของเขา และไม่มีวันให้มันได้ในสิ่งที่มันต้องการ ความต่างระหว่างดวงดาวกับจักรวรรดิมีมากเกินไป พูดง่ายๆคือดวงดาวเป็นเพียงดาวเคราะห์เล็กๆเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เรียกว่าจักรวรรดิ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของคนรักและดาวสีน้ำเงินที่เธออาศัยอยู่  อีกทั้งคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กับพ่อของเธอ

          สงครามระหว่างจักรวรรดิไซเนียและจักรวรรดิซีอัสจึงได้เริ่มขึ้น

           “เจ้าชายครับ อาวุธจากท่านโรเบิร์ตโต้มาถึงแล้วครับ” ทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน

           “หึ ดี ถึงเวลาโต้กลับเสียที !”  เมื่อ 2 ปีที่แล้วหลังจากเขานำบุตรสาวที่ยังสลบอยู่ของว่าที่พ่อตาไปส่ง ตอนนั้นเกิดศึกย่อมๆขึ้นเพราะท่านนึกว่าเขาทำให้เธอได้รับบาดเจ็บจนสลบ ท่านเกือบวางมวยใส่เขา

           เพื่อให้แผนการที่ตั้งใจไว้ง่ายขึ้นเขาจึงตัดสินใจเอ่ยเล่าความจริงทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง ตอนแรกลุงโรเบิร์ตค้านหัวชนฝา บอกว่าจะส่งทหารมาสนับสนุนและเข้าร่วมสงครามด้วย แต่เขาก็ยืนยันกลับไปว่านี่เป็นสงครามของจักรวรรดิซีอัสที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง หากท่านเข้าร่วมสงคราม โมนิก้าต้องเกิดความสงสัย เขาอยากให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไร้ความกังวลใดๆ

           และจริงอยู่สาเหตุมาจากที่อีกฝ่ายอยากครอบครองดาวสีน้ำเงิน แต่อีกนัยหนึ่งคือการท้าทายและเหยียดหยามจักรวรรดิซีอัส  ในเมื่อความโลภทำให้กล้าตั้งเงื่อนไขโดยคิดแต่ผลประโยชน์  เลือกที่จะเปิดศึกด้วยการฉีกสนธิสัญญาก็ต้องกล้าที่จะรับผลที่ตามมา นั่นคือการทำสงคราม

          “โมนิก้า ตื่นเถอะลูก”

          “…”

          “โมนิก้า...”

          “ใครน่ะ นั่นใคร!”  หญิงสาวเจ้าของชื่อละเมอถามออกมา เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเรียกชื่อของเธอ

         “ฟังแม่ให้ดีนะโมนิก้า ลูกเหลือเวลาในโลกใบนี้ไม่มากแล้ว กลับไปอีกโลกที่ลูกควรจะอยู่ จงดูแลพ่อของลูกและคนในโชคชะตาให้ดี ขอโทษด้วยที่แม่ไม่อาจอยู่ดูแลทั้งสองละ…”

          “แม่คะ !!” เมื่อได้ยินเสียงชัดเจน โมนิก้าจึงสะดุ้ง ลืมตาตื่นขึ้นมา ด้วยคิดว่าตัวเองอาจหูแว่วได้ยินเสียงมารดาของตน  แต่พอนึกถึงคำพูดสุดท้ายที่ท่านทิ้งไว้ ทำให้เธอถึงกับปาดเหงื่อที่ออกทั้งที่ห้องเปิดแอร์เย็นช่ำ ในความฝันนั้นเหมือนจริงมาก รู้สึกเหมือนแม่มาพูดคุยกับเธอจริงๆ

          ‘เหลือเวลาไม่มากงั้นเหรอ...’

          วูบบบบบ

          “เอ๊ะ เราไม่มีรอยสักนี่” โมนิก้ามองที่ข้อมือตัวเองอย่างสงสัย ตอนนี้มีรูปคล้ายดอกบัวตูมที่ปรากฎขึ้นหลังจากแสงสว่างหายไป

          วาบบบ

          “ที่นี่ที่ไหนกัน” โมนิก้ามองไปรอบๆอย่างตื่นเต้นระคนแปลกใจ หลังจากที่เธอใช้มืออีกข้างลูบไล้บริเวณรอยสัก จู่ๆก็เข้ามายังตึกเอไอของเธอ โมนิก้ามองไปรอบๆจนพบโกดังเก็บของไม่ว่าจะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์สุดไฮเทค แคปซูลอาหารและยาต่างๆ ก็ถูกนำมาเก็บไว้ที่นี่ ใช้แล้วที่ตึกเอไอที่เธอสร้างขึ้นมานอกจากจะใช้เป็นพื้นที่ทดลองงานใหม่ๆแล้วยังใช้เป็นที่เก็บสินค้ามากมายที่เธอคิดค้นผลิตขึ้นมา

         แต่ทำไมถึงไม่มีใคร ทั้งที่อย่างน้อยในห้องแลปน่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงทำงานอยู่ โมนิก้ามองไปรอบๆพบเพียงหุ่นยนต์เอไอรักษาความปลอดภัยที่เธอสร้างขึ้นเดินไปมา  นอกจากนี้เมื่อสำรวจไปเรื่อยๆก็พบเพียงเอไอหรือหุ่นยนต์แรงงานเท่านั้น มีทั้งหุ่นยนต์แพทย์ในห้องแลปยาที่กำลังผลิตแคปซูลยา  หุ่นยนต์เชฟในห้องแลปผลิตแคปซูลอาหารและหุ่นยนต์อื่นๆซึ่งกำลังทำหน้าที่ของมันอยู่ ไม่พบสิ่งมีชีวิตหรือมนุษย์อยู่เลย

         แปลก แปลกมาก หรือเป็นเพราะว่า... 

          วาบบบ

          “ใช่จริงๆด้วย” โมนิก้าคิดว่าน่าจะเป็นเพราะสัญลักษณ์รูปดอกบัวที่ข้อมือเธอจึงลูบมันอีกครั้ง ปรากฏว่าดอกบัวค่อยๆบานออก แล้วตอนนี้เธอก็มาโผล่ที่ห้องนอนของเธอแล้ว

          “งั้นที่แม่บอกว่าเธอจะเหลือเวลาไม่มากแล้วก็เป็นความจริง”  โมนิก้าทำหน้าครุ่นคิด พลันรู้สึกว่าถ้าเธอจากไปแล้วพ่อจะเป็นอย่างไร ชีวิตนี้นอกจากแม่ที่เสียไปตอนเธอยังเด็ก ก็มีเพียงพ่อเท่านั้นที่เลี้ยงเธอมาจนโต ส่วนญาติพี่น้องส่วนใหญ่ก็ไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว 

          โมนิก้าไม่รู้ว่าจะได้ลาพ่อของเธออีกทีเมื่อไหร่  มองออกไปข้างนอกฟ้าพึ่งสว่าง คิดว่าปะป๊าของเธอน่าจะตื่นแล้วจึงรีบโทรหาเพื่อบอกเล่าเรื่องนี้ทันที

          อีกด้าน

          “นายพลจะดูรูปคุณหนูไปถึงเมื่อไรครับ” ร้อยโทแอนดริวหรือคนสนิทของโรเบิร์ตโต้เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขา มองดูรูปของคุณหนูตอนเด็กแล้วยิ้มอยู่คนเดียว  ทั้งที่ตอนนี้ได้เวลาไปทำภารกิจแล้ว

          “ทำไม อิจฉาฉันละสิที่มีลูกสาวเก่งขนาดนี้” ชายวัยกลางคนพูดตอบด้วยสีหน้าอวดๆ โดยไม่มองคู่สนทนา

          “ครับๆ ผมส่งของให้เจ้าชายตามที่ท่านสั่งเรียบร้อย...” ชายคนสนิทมองคนหลงลูกพร้อมรับคำส่งๆ ก่อนจะเอ่ยรายงาน ในใจกลับปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคุณหนูเป็นคนที่เก่งจริงๆ หากเขามีลูกแบบเธอก็คงภูมิใจไม่ต่างกัน เสียแต่ว่าตอนนี้ยังหาแม่ของลูกไม่ได้นี่สิ เขาคิดอย่างปลงๆ

          “อืม ดี” โรเบิร์ตโต้พยักหน้า หวนนึกถึงคนรักของลูกสาวพร้อมกับเรื่องราวที่ผ่านมา แม้จะอยากร่วมรบกับอีกฝ่ายแค่ไหน ทว่ากลับโดนคัดค้านหัวชนฝา คาดว่าคงมีเหตุผลบางอย่าง แต่ก็คงไม่พ้นลูกสาวคนเก่งของเขา ในที่สุดจึงจำใจยอมรับการตัดสินใจของชายรุ่นลูก

          โดยที่เขามีข้อแม้ว่าจะต้องยอมรับของที่เขาจะส่งให้ ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็แอบส่งอุปกรณ์การรบไปให้ไม่น้อย แม้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าที่บังอาจมาแย่งความรักจากลูกสาว แต่ลึกๆในใจยังคงเชื่อมั่นในตัวอีกฝ่ายว่าอย่างไรก็ต้องปลอดภัยกลับมา ระหว่างนั้นเขาก็จะต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้จักหรือพูดถึงชายหนุ่มให้บุตรสาวได้ยิน ตามที่ตกลงกันไว้

          “ตอนนี้เรามีภารกิจที่ต้องทำครับ” 

          “ภารกิจที่พลเอกอีธานไหว้วานมาใช่ไหม” ถ้าเปรียบเขาเป็นแม่ทัพคอยคุมพลทหาร พลเอกอีธานก็คือกุนซือที่ปรึกษาของกองทัพ เพียงแต่ยศของพลเอกสูงกว่าเขาหนึ่งขั้นเนื่องจากอีกฝ่ายอยู่ในแวดวงทหารมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ เขาจึงมีความเคารพและให้เกียรติอีกฝ่ายไม่อยากข้ามหน้าข้ามตา อีกทั้งมีอะไรก็ช่วยเหลือกันมาตั้งแต่โมอาเรียยังมีชีวิตอยู่

          “ใช่ครับ แต่ทหารในหน่วยฝีมือดีมีตั้งมาก ทำไมต้องเจาะจงเป็น…”

          “อย่าพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินอีกร้อยโท ฉันรู้ว่านายหวังดี”  โรเบิร์ตโต้มองคนสนิทนิ่ง ไม่ใช่เขาไม่คิดอย่างที่แอนดริวพูด แต่ภารกิจครั้งนี้หากมองอีกมุมไม่ใช่ใครก็ทำได้จริงๆ ปราบปรามผู้ก่อการร้ายข้ามดวงดาว อาจเป็นภารกิจทั่วไปที่ไม่ต้องถึงระดับนายพลเป็นคนลงมือเองก็ได้ แต่นี่เกี่ยวพันระดับดวงดาวผู้ก่อการร้ายคราวนี้เป็นสายจากดวงดาวข้างๆ ซึ่งหากทำอะไรพลาดไปอาจโยงถึงสงครามระหว่างดวงดาวได้เลย เขาไม่อยากเอาชีวิตของคนในดาวสีน้ำเงินที่ตอนนี้แทบจะเหลือน้อยอยู่เต็มทีไปเสี่ยงอยู่แล้ว

          “ทราบแล้วครับ” 

          ติ๊ด ติ๊ด

          “ว่าไงลูกสาว” โรเบิร์ตโต้รับสายอย่างร่าเริง ต่างกับเมื่อกี้ลิบลับ หวนนึกถึงไอ้หนุ่มนั่นแล้วกำหมัดแน่น นับถือในความรักที่มีต่อบุตรสาวของเขา ไม่รู้ป่านนี้อาวุธที่บุตรสาวเขาพัฒนารุ่นล่าสุดจะไปถึงหรือยัง หวังว่าสงครามจะจบในเร็ววัน

          [ปะป๊าว่างไหมคะ หนูมีเรื่องอยากปรึกษา]

          “ได้สิ มะ…”

          ก๊อก ก๊อก

          “ท่านครับได้เวลาแล้ว”  เสียงลูกน้องอีกคนดังเข้ามาในห้อง และคิดว่าในสายก็น่าจะได้ยินจึงมองด้วยสายตาเขียวปั๊ดมองไปที่หน้าประตู แม้จะมองไม่เห็นแต่ผู้ที่อยู่หลังประตูกลับรู้สึกร้อนๆหนาวๆยังไงไม่รู้

          [งั้นปะป๊าไปทำงานก่อนนะคะ กลับแล้วหนูค่อยปรึกษาอีกที] โมนิก้าที่ได้ยินจึงตอบกลับผู้เป็นพ่อไป เธอรู้นิสัยปะป๊าดี ต่อให้ไม่ว่างแต่สำหรับเธอท่านมักจะบอกว่าว่างเสมอ

          “เอ่อ งั้นรอก่อนนะ เดี๋ยวปะป๊ารีบกลับมา” โรเบิร์ตโต้จำใจตอบกลับไป เขาหันไปหยิบอาวุธประจำตัวเป็นปืนพกขนาด 9 มม. เก็บเสียงได้ใส่กระสุนไม่จำกัดเนื่องจากเป็นปืนที่ผู้เป็นลูกสาวประดิษฐ์ขึ้นมามอบให้เป็นของขวัญ ก่อนจะเข้าสู่โหมดจริงจังผิดกับท่าทางตอนคุยกับโมนิก้าลิบลับ

Related chapters

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 4 ลางร้าย

    “หากต้องไปที่โลกนั้นจริงๆ งั้นเราต้องเตรียมพร้อม !” โมนิก้าเมื่อวางสายเสร็จจึงหันมาพูดกับตัวเอง ไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนั้นสามารถใส่พวกของสด และของใช้ได้หรือเปล่า คงต้องลองดู หญิงสาวเดินไปชั้นล่างเพื่อหยิบอาหารสดในห้องครัวใส่ลงไปในเจ้าสิ่งนั้น จริงๆเธอคิดว่าแคปซูลอาหารก็น่าจะเพียงพอให้เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นสบายไปทั้งชาติ แต่เธอไม่รู้ว่าโลกนั้นเป็นโลกแบบไหน หากหยิบเอาของในปัจจุบันออกมาสุ่มสี่สุ่มหา คนอื่นอาจจะคิดว่าเธอเป็นแม่มดหรือปีศาจ ตามความเชื่อโบราณก็ได้ “ลองหยิบไปทั้งหมดนี่แล้วกัน” ถึงแม้โมนิก้าจะคิดค้นแคปซูลอาหารที่มีสารอาหารครบ และสามารถเก็บไว้ได้นานไม่มีวันหมดอายุได้ แต่เธอก็ยังชอบกินอาหารทำสดใหม่อยู่ดี เพราะแบบนี้ได้รสสัมผัสมากกว่า ทั้งความร้อน หรือความสดใหม่ของผักและความนุ่มของเนื้อสัตว์ หญิงสาวทดลองหยิบของที่มีอยู่ในตู้เย็นทั้งหมดลงในเจ้าสิ่งนั้น วูบบบบ “ว้าววว ใส่เข้ามาได้จริงๆด้วย” โมนิก้ารออยู่ประมาณ 5 นาที ก่อนจะวาบเข้ามา เมื่อมาถึงเธอเหม่อมองสิ่งของที่ลองหยิบใส่เข้ามามั่วๆ พบว่าสิ่งนั้นได้เข้าไปกองอยู่ภายในห้องๆหนึ่งขนาดประมาณ 60 ตา

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 5 สูญเสีย

    “อึก ทำไม !!!” โรเบิร์ตโต้ที่ร่างกายเต็มไปเลือด ขาขาดข้างหนึ่งจากแรงกระแทก กระอักเลือดออกมา แรงระเบิดเมื่อครู่ทำให้แอนดริวที่เอาตัวมาบังเสียชีวิตค่าที่ ส่วนเขาที่ได้รับแรงระเบิดน้อยกว่า แต่ก็ต้องเสียขาไป ได้แต่นอนนิ่ง คาดว่าไม่นานความช่วยเหลือน่าจะมา ทว่ารอแล้วรอเล่าก็ยังคงเงียบ จนมีเสียงเท้าเดินมาทางที่เขานอนอยู่ สายตาพร่ามัวหากพอมองเห็นเบิกกว้างมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ “หึ ๆ ทำไมงั้นหรอโรเบิร์ตโต้ ก็แค่แกขวางทางฉันอยู่” พลเอกอีธานแสยะยิ้มชั่วร้าย เขาอยากฆ่ามันตั้งแต่เมื่อ10 กว่าปีที่แล้ว แม้ตำแหน่งของเขาจะสูงกว่าแต่ใครๆก็รู้กันว่าคนที่ถูกเคารพนับถือและได้รับสายตาชื่นชมจากประชาชนทุกคนคือมัน พ่อของเขาก็มักเปรียบเทียบมาตลอด อีกทั้งยังโดนซ้อมอย่างหนักเมื่อผลงานของเขาสู้มันไม่ได้ แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือขนาดมีลูกสาว ลูกสาวของเขาก็ยังสู้ลูกสาวมันไม่ได้ เพราะลูกสาวของมันคนเดียวที่ทำให้แผนของเขาพังไม่เป็นท่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่เขาอยากจะผูกขาดอุตสาหกรรมของดวงดาวไว้เองแต่เพราะมีนังเด็กนั่นที่ขยันผลิตสิ่งต่างๆออกมาจนคนในดวงดาวไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเขาเหมือนแต

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 6 เกิดใหม่

    “แม่นางเหมย เบ่งอีกนิดนะ” หมอตำแยบอกหญิงนางหนึ่งอายุไม่เกิน 18 ปี ที่ร้องอย่างเจ็บปวดเนื่องจากกำลังจะคลอดท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ครืนนน ซ่า “อะ โอ้ย ข้าเจ็บเหลือเกิน...” “อีกนิดเดียว เด็กกำลังกลับหัว” หมอหญิงวัยชราผู้ทำคลอดเอ่ยบอก มือพยายามบีบนวดหน้าท้องให้เด็กกลับหัว “อึก ขะ ข้าไม่ไหว” “เด็กกลับหัวแล้ว เบ่งอีก” “มะ ไม่ไหว แล้ว ฝะ ฝากลูกข้าด้วย กรี๊ดดดดด” “แม่นางเหมย แม่นาง !!” หมอชราส่งเสียงเรียกหญิงที่ได้เป็นแม่คนแล้วดังลั่น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปหลังเบ่งบุตรสาวออกมา จับชีพจรจึงพบว่าอีกฝ่ายได้เสียชีวิตลงแล้ว จ้องมองเด็กน้อยตัวขาวจ้ำม่ำไม่เหมือนเด็กที่คลอดก่อนกำหนดด้วยความเศร้าใจ เกิดมาก็กำพร้าแม่เลยหรือนี่ ผ่าง “เมียข้าเป็นอย่างไรบ้าง !” หลี่เจียหมิง เปิดประตูเข้ามาอย่างรีบร้อน ความตื่นเต้นทำให้เขาเผลอพรวดพราดเข้ามาอย่างอดใจไม่ไหว เมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดร้องของเมียรัก ทว่ากลับต้องตกตะลึงเมื่อพบร่างขาวซีดของเหมยลี่นอนนิ่ง หันไปหาหมอตำแยเพื่อฟังคำอ

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 7 หาของป่าครั้งแรก

    “เงินอันใด ไม่มีหรอกขอรับ” เจียหมิงตอบกลับอย่างเหนื่อยใจ ขนาดแยกบ้านมาแล้วยังมิวายตามมาไถเงินถึงหน้าบ้าน “แล้วแกเอาเงินที่ไหนไปซื้อน้ำนมจากสะใภ้เหลียง มีคนเห็นว่าแกจ่ายไปหลายเหมา” หลี่จ้านหญิงวัยกลางคนยืนชี้นิ้วด่าลูกเลี้ยงเสียงดัง หนอย แล้วบอกไม่มีเงิน ลูกจางหมิ่นของนางไปเห็นมันเอาเงินให้ฝั่งนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางมาขอเงินดีๆจากนังเหมยลี่ แต่นังนั่นกลับปฎิเสธต้องยื้อยุดอยู่นาน นางได้มาเพียงไม่กี่เหมา มาทราบเรื่องภายหลังว่าพอนางกลับไป นังเหมยลี่ก็คลอดทันที มีอย่างที่ไหน นางอุตส่าห์ช่วยเหลือให้ที่ซุกหัวนอนทั้งที่มันไม่มีญาติมิตร ใช้งานนิดๆหน่อยกลับเป็นลมเป็นแล้ง หึ สมน้ำหน้า หมาป่าตาขาว อกตัญญูแบบนี้ก็สมควรตายๆไปซะ “จำเป็นต้องบอกด้วยหรือขอรับ ส่วนเงินนั่นเป็นเงินที่ข้าซื้อน้ำนมให้เหลียนเอ๋อร์” เจียหมิงขมวดคิ้วเริ่มไม่พอใจ แค่เรื่องที่บ้านใหญ่เป็นสาเหตุให้เมียเขาคลอดก่อนกำหนดยังไม่ได้สะสาง เจีงหมิงคิดถึงตอนที่เขาบากหน้าไปขอซื้อนมจากคนในหมู่บ้าน ไม่มีหญิงพึ่งคลอดบุตรคนใด นอกจากสะใภ้เหลียงที่ช่วยเหลือ แต่ด้วยความรู้นิสัยบ้านนั้นดีเลยไม่ได้ขอเปล่า

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 8 มิติ

    “มะ หม่ำ” เหลียนฮวาใช้ความพยายามในการออกเสียง นางอยากบอกท่านพ่อเหลือเกินว่ามันกินได้ ดูตรงนู้นนั่นสิมีหัวมันหวานขนาดใหญ่ด้วย นึกพลางน้ำลายไหลย้อยอย่างห้ามไม่อยู่ จะให้ท่านพ่อขุดกลับไปให้หมดเลย “ถึงอย่างไรก็กินไม่ได้ มันมีพิษ” แม้จะดีใจที่บุตรสาวพูดคำอื่นได้บ้างแล้ว แต่พอเห็นดวงตาเป็นประกายของลูกก็ยิ้มระคนเอ็นดูในความช่างจ้อ เอื้อมหยิบผ้าสะอาดในอกมาเช็ดน้ำลาย เอ่ยอธิบายเสมือนเด็กน้อยเข้าใจสิ่งที่พูด หมับ “แอ้ !” เมื่อเห็นบิดากำลังจะเดินไปอีกทางแต่มีหรือที่นางจะยอม คว้าหมับที่คอเสื้อแล้วใช้สายตาออดอ้อนท่าไม้ตาย เบะปาก ส่งตาปริบๆไปให้คนเป็นพ่อใจอ่อน “พ่อไม่เคยชนะเจ้าเลย...” เจียหมิงพูดอย่างปลงๆกับตัวเอง ทำให้ตัวต้นเหตุดีดดิ้นกรี๊ดกร๊าดออกมาอย่างดีใจ “อ๊ายย คิกๆ” “ลองเก็บกลับมาเพียงนิดเดียว หากลูกเห็นว่ามันกินไม่ได้จริงๆ ต้องยอมให้พ่อเอาไปทิ้งนะ” เจียหมิงเอ่ยพลางใช้กิ่งไม้แข็งแรงแถวนั้นขุดเอาหัวมันขึ้นมาจากใต้ดิน ได้ 2-3 หัวใหญ่ก็พอ “อื้อ !” “อันนั้นด้วยหรือ…” เจียหมิงได้ยินเสียงร้องเรียกข

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 9 ร่ำลา

    ‘พร้อมครับ’ ทั้งสองตอบพร้อมกัน ก่อนที่เหลียนฮวาจะคิดว่า พวกเขาอยู่ภายในตึก วูบบบบบ ‘ได้จริงๆเจ้านาย ตอนนี้พวกเราอยู่ในตึก !’ บอทเต้พูดอย่างดีใจ พลางมองสำรวจพื้นที่ที่เข้ามาใหม่ พบว่าในตึกว่าห้องแบ่งออกเป็นหลายห้อง แต่ละห้องมีหุ่นยนต์กำลังทำงานของมันอยู่ “ยังเหมือนเดิมสินะ” เหลียนฮวาดีใจไม่แตกต่างกัน อย่างน้อยตึกเอไอจะได้มีคนคอยคุมไม่ให้พวกเอไอสร้างสิ่งของออกมาเกินความจำเป็น ‘เจ้านายจะให้พวกเราช่วยอะไรไหมครับ’ “ฉันฝากพวกนายคุมพวกเจ้าหุ่นยนต์แรงงานพวกนั้นไม่ให้ผลิตของมากเกินไป ฉันกลัวจะล้นคลังเก็บของ” ‘ได้ครับ’ บอทเต้รับคำงานนี้มันถนัด “อ้อ อีกอย่าง ช่วยชงนมให้ฉันหน่อยได้ไหม” เหลียนฮวาพูดอย่างอายๆ ในโลกก่อนเธอโตจนสามารถดูแลตัวเองได้ มาตอนนี้เธอกลับทำอะไรเองไม่ได้เลย นอกจากกินและนอน ‘โรบอทชงเองครับ !’ บอทเต้ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด โรบอทรีบชิงพูดตัดหน้าอย่างตื่นเต้น มันชอบเจ้านายในร่างเด็ก เพราะถูกสร้างมาในขณะที่เจ้านายโตแล้ว ไม่เหมือนบอทเต้ที่พูดจาโอ้อวดมันตลอดตั้งแต่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมว่าเ

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 10 ล่าสัตว์

    “มากันครบแล้วหรือยัง” หัวหน้าหมู่บ้านตะโกนถามทุกคน วันนี้ชายชรารับหน้าที่เป็นเพียงผู้ดูแลความเรียบร้อย พร้อมอธิบายกฎของหมู่บ้านก่อนการเดินทาง ส่วนเรื่องล่าสัตว์เขาให้บุตรชายนามว่าซูเหวินไปแทน เพราะเรื่องนี้เจ้าตัวถนัดนัก อีกทั้งเขาผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านยังอายุมากแล้ว “ครบแล้วขอรับ” “ดีๆ จากนี้ขอให้พวกเจ้าเดินทางปลอดภัย หมู่บ้านเรายังยึดกฎเดิม ห้ามเข้าไปในป่าด้านใน ห้ามให้คนนอกเข้าร่วม เนื้อที่ล่ามาได้แบ่งเท่ากันทุกบ้านที่เข้าร่วม” ชายชราเอ่ยอธิบายกฎการล่าสัตว์ของหมู่บ้าน ที่ต้องพูดก่อนเพราะเหมือนครั้งนี้จะมีหน้าใหม่เข้าร่วมหลายคน เขาจึงได้รับการไหว้วานจากโม่โฉวให้มาช่วยแนะนำเด็กใหม่ “กฎมิให้คนนอกเข้าร่วมมิใช่หรือ” จางหมิ่นหรือลูกเลี้ยงของนางจ้านพูดขึ้นลอยๆ แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ เดิมทีต้องเป็นเหยาฉือผู้เป็นผู้นำของบ้านเข้าร่วม ทว่าแม่ของเขายังตึงกับอีกฝ่ายเพราะทะเลาะกันคราก่อนที่เหยาฉือนำไก่เลี้ยงของบ้านไปให้ไอ้คนนอกตระกูล พอมีคนไปบอกที่บ้านว่าจะมีการล่าสัตว์ในวันรุ่งขึ้น อีกทั้งเหยาฉือออกไปทำงานข้างนอกไม่อยู่บ้าน ท่านแม่จึงไ

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 11 เค้าลางอันตราย

    “เราพบซากสัตว์นอนตายอยู่” เมื่อมาถึงชาวบ้านคนเดิมได้ชี้ให้ดูจุดที่พวกเขาเห็น “แย่ล่ะ ศพพวกมันคล้ายโดนตัวอะไรกัดกิน” โม่โฉวอึ้งกับภาพตรงหน้า มองซากสัตว์ที่กำลังนอนตายเกลื่อน สภาพทุกตัวมีบาดแผลเหวอะหวะจากการฉีกกระชาก จนเห็นเครื่องในไหลออกมา ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วป่า จากเลือดที่ยังสดอยู่ น่าจะตายได้ไม่นานนัก คล้ายเจ้าสัตว์ตัวต้นเหตุต้องการเพียงล่าเท่านั้น ที่คิดว่าเป็นสัตว์เพราะมีรอยเขี้ยวฝังบนร่างของสัตว์ที่นอนตายอยู่ อวัยวะภายในยังอยู่ครบ ไม่มีร่องรอยถูกกินแม้แต่น้อย สัตว์ชนิดใดหนอช่างฆ่าได้โหดเหี้ยมยิ่งนัก ไม่แน่มันอาจจะยังไปไหนได้ไม่ไกล ชายวัยกลางคนวิเคราะห์ มองเห็นชาวบ้านบางคนกำลังอาเจียนอยู่ แม้โม่โฉวที่ล่าสัตว์ตั้งแต่เด็กจนคิดว่าตัวเองนั้นชินกับภาพแบบนี้แล้ว ก็ยังมีอาการผะอืดผะอม ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นสัตว์ที่ล่าได้น่ากลัวขนาดนี้ เพราะตามวิสัยพวกมันจะล่าแค่พอกินสำหรับฝูงมันเท่านั้น ไม่ใช่ล่าแล้วปล่อยร่างทิ้งไว้ จนเป็นภาพสยดสยองดั่งเบื้องหน้า “ระ เราจะทำอย่างไรต่อดี ขะ ขอรับ” ชาวบ้านอีกคนพูดตะกุกตะกัก หวาดกลัวไม่ต่างจากคนอื่น

    Last Updated : 2024-12-23

Latest chapter

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 54 ความทรงจำ

    ศตวรรษ 3053“สังหารมันซะ” เซนท์ หรือเฟลิกซ์ ซัลลิแวนสั่งเสียงเหี้ยม ดวงตาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์นิ่งเฉยแม้จะสั่งฆ่าคนเวลาผ่านไปอีก 1 ปี นับจากที่ลุงโรเบิร์ต บิดาของคนรักได้ส่งอาวุธมาให้ หลังจากนั้นเขาได้ทำสงครามกับจักรวรรดิไซเนียอย่างเต็มกำลัง ข่าวคราวจากโลกสีน้ำเงินขาดหายไปถ้านับระยะเวลาทั้งหมดก็เป็นเวลา 1 ปี แล้ว คล้ายขาดการติดต่อโดยสิ้นเชิง วันเวลาผันผ่านไปช่างยาวนานสำหรับเขา วันแล้ววันเล่าที่รอเวลากลับไปหาคนรักชายหนุ่มจับจี้เรืองแสงที่ใส่ไว้ติดตัวตลอดซึ่งเป็นของสำคัญที่เขาต้องนำไปคืนคนรัก รวมถึงแหวนตกทอดของเสด็จแม่ที่ท่านให้ไว้ก่อนสวรรคต เพื่อนำไปมอบให้เจ้าของของมัน และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง สงครามจบลงโดยที่จักรวรรดิซีอัสเป็นฝ่ายชนะสงครามโดยเขากำลังสั่งให้ทหารลงมือสังหารจักรพรรดิของไซเนียและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ แม้จะชดเชยให้กับทหารที่เสียไปไม่ได้ก็ตาม“ระ เรามาเจรจากันดีหรือไม่” เสียงสั่นกลัวพยายามเรียกร้องการเจรจา“ไม่จำเป็น”

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 53 เด็กน้อยผู้โชคร้าย

    “ฮึก ฮึก” เจียวลู่หลังจากกลับจากร่ำลาพี่ใหญ่และทุกคน แอบมานั่งร้องไห้หลังครัวคนเดียว จุดเดิมที่เขาเคยนั่งกินปลาที่พี่ใหญ่แอบย่างให้กิน เขาคิดถึงพี่ใหญ่ พี่ใหญ่เป็นคนเดียวที่ดีกับเจียวลู่จากใจจริงในบ้านหลังนี้เรื่องเกิดขึ้นหลังจากที่เจียวลู่แอบไปได้ยินว่าจางหมิ่นติดเงินพนันในตอนที่พวกผู้คุมบ่อนมาตามทวงหนี้ถึงหน้าบ้าน ช่วงนั้นไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเจียวลู่และจางหมิ่น เจียวลู่จึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมด และโดนจางหมิ่นขู่ว่าถ้านำเรื่องไปบอกใครจะจัดการเขา เด็กน้อยที่กลัวว่าจะโดนพี่สามตี จึงปิดปากเงียบ วันต่อมาจางหมิ่นตัดสินใจขอเงินนางจ้านโดยอ้างว่านำไปลงทุน นางจ้านที่เห็นดีเห็นงามกับบุตรชายให้เงินที่พึ่งได้รับมาหมาดๆไปทั้งหมด เรื่องราวเหมือนจะจบลงแค่ตรงนั้นทว่าผ่านไปเกือบเดือนจางหมิ่นกลับไปเล่นพนันอีก จนกระทั่งพวกคุมบ่อนตามมาทวงอีกรอบ คราวนี้เรื่องเลยแดงขึ้น เนื่องจากตอนนั้นทุกคนอยู่บ้านกันหมด ยกเว้นเหยาฉือที่โดนนางจ้านไล่ออกจากบ้านไปแล้ว ด้วยเงินที่ค้างไว้หลายเหรียญเงิน พวกเขาไม่สามารถหามาจ่ายได้ พวกคุมบ่อนเลยจะ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 52 ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

    “ขะ ข้าขอเวลาอีกนิด เงินจำนวนนี้ข้าต้องแบ่งจ่ายให้กับพนักงาน” เถ้าแก่ใช้จุดบอดตอนหันหลังให้พวกมัน รีบยื่นตั๋วเงิน พร้อมรับค่าธรรมเนียมมาอย่างรวดเร็ว พลางกล่าวออกไปนับตั้งแต่โดนเจ้าถิ่นเข้ามาหาเรื่อง ยอดลูกค้าก็ตกลงอย่างเห็นได้ชัด กำไรที่ได้ก็ต้องแบ่งจ่ายให้พวกมัน ทำให้บางครั้งต้องติดค่าแรงพนักงานไว้ ผัดผ่อนหลายครั้ง ควักเงินส่วนตัวออกมาจ่ายก็หลายหน จะแจ้งทางการก็กลัวอิทธิพลของพวกมันชายชราอย่างเขาทำการค้าแลกเปลี่ยนตั๋วเงินด้วยความสุจริตมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี เกรงว่าจะนำความเดือดร้อนไปสู่ลูกหลาน พวกเขาออกเรือน แยกย้ายไปสร้างครอบครัวกันหมดแล้ว ไม่มีคนหนุนหลัง มีแต่สองมือที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนต่อกรกับคนเลวพวกนี้ได้ นอกจากกล้ำกลืนฝืนทนจ่ายให้จบๆ“เห็นพวกข้าเป็นคนการกุศลงั้นรึ จ่ายมาเร็วๆ!!!” ชายร่างสูงใหญ่ตะคอกเสียงดัง มันไม่สนเหตุผล ข้ออ้างร้อยแปดอะไรทั้งนั้น วันนี้ต้องได้เงินกลับไปมอบให้กับนายท่าน“คนอย่างพวกเจ้ารู้จักคำว่ากุศลด้วยรึ” เจียหมิงตัดสินใจโพล่งออกไป แม้จะดูเสียมารยาท แต่อดไ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 51 แลกเปลี่ยนตั๋วเงิน

    “อาหย่อยยยย” เหลียนฮวาตะโกนด้วยความสุขใจ จับแก้มกลมหลับตาพริ้ม ลิ้มรสอาหารที่ท่านพ่อท่านลุงผลัดกันป้อน โรงเตี๊ยมแห่งนี้อาหารช่างเป็นเลิศ นางมองอาหารหลายจานที่ทยอยนำมาเสิร์ฟ อาหารปรุงสุกอย่างไรก็ดีกว่าอาหารสำเร็จรูปแบบในโลกก่อนนางอยู่แล้ว เสียดายบอทเต้กับโรบอทไม่จำเป็นต้องกินอาหาร ถ้าทั้งสองได้มาชิมคงจะคิดไม่ต่างกัน“โรบอทแค่เห็นเจ้านายกินก็มีความสุขแล้วขอรับ” เสียงแว่วของโรบอทดังผ่านความคิด ส่วนบอทเต้ไปปฏิบัติภารกิจที่นายท่านมอบหมายไว้อยู่ ท่านพ่อบอกว่าพวกเราไม่ต้องกลัวสายตาสงสัยของคนในหมู่บ้านอีกแล้ว สามารถใช้เงินที่หามาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้อย่างเต็มที่ ส่วนท่านลุงเองก็มีเงินเก็บเยอะขึ้น เพราะไม่ต้องมีปลิงคอยสูบเงินแถมยังออกล่าสัตว์เกือบทุกวันกับท่านพ่อ นอกจากนี้ยังมีอาชีพเสริมเป็นนายหน้านำของในมิตินางไปขาย นางแบ่งปันเงินแต่ล่ะส่วนที่ได้มาให้เท่ากันทุกคนทุกวันนี้ในกระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่ท่านพ่อซื้อให้ยังนอนอยู่ในมิติ ซึ่งเต็มไปด้วยเหรียญหนักอึ้งจนยกไม่ไหว ต้องให้พ่อกับลุงช่วยยก หลังกินข้าวเสร็จ พวกเราจะไปโรงเตี๊ยมสำหรับแลกเงินกันต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 50 โรงเตี๊ยมหมื่นลี้

    “ว้าว คนเยอะมักเจ้าก่ะ” เมื่อมาถึง ทั้งสามคนตื่นเต้น มองผู้คนในเมืองหลวงที่แต่งตัวดูดี พ่อค้าแม่ค้าข้างทาง ของขายมีเยอะจนเลือกไม่ถูก หลายคนดูเหมือนมาจากตระกูลชนชั้นสูงรถม้ามีตราสัญลักษณ์เฉพาะตระกูลวิ่งขวักไขว่ไปมา“เหลียนเอ๋อร์อยู่ใกล้ๆพ่อกับลุงเจ้าไว้นะ” เจียหมิงที่ลายตา เพราะไม่รู้จะเดินไปทางไหนดี คล้ายบ้านนอกเข้ากรุงอย่างไงอย่างงั้น“จะ เจียหมิงเราจะไปทางไหนดี” เหยาฉือสับสน ไม่เคยมาเมืองหลวงมาก่อน“อืม ข้าก็ไม่แน่ใจ คิดว่าเราไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า” เจียหมิงก็ใช่ว่าจะรู้ทาง เขาพาทุกคนสุ่มเดินไปตามทางเรื่อยๆ หากเจอร้านอาหารค่อยแวะปรึกษากันอีกครั้ง “เดี๋ยว พวกเจ้าจะเข้ามาในร้านไม่ได้” ในที่สุดพวกเขาก็เจอโรงเตี๊ยมอาหารขนาดกลางแห่งหนึ่ง ตัดสินใจพากันเดินเข้าไปหาอะไรกิน ทว่าหญิงที่คาดว่าเป็นเสี่ยวเอ้อร์เอ่ยดักทั้งสามไว้ สายตาดูถูกมองผู้มาใหม่หัวจรดเท้า แอบชะงักชั่วครู่เมื่อกี้นางรู้สึกได้ถึงสายตากดดันจากเด็กน้อย แต่สลัดความคิดลง สงสัยจะตาฝาดไปเอง“เอ่อ ที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารหรือขอรับ” เจียหมิงถามอย่างสงสัย ไม่

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 49 เดินทาง

    “เก็บของเสร็จหรือยัง” และแล้ววันเวลาก็ผ่านไป โรบอทกับบอทเต้ได้ฝึกและให้ความรู้แก่นายท่านพวกมันจนมั่นใจว่าวิชาที่มอบให้จะช่วยให้พวกเขาชนะศัตรูได้ ทั้งดาบ ธนู หอก ปืน หน้าไม้ โรบอทรับหน้าที่ฝึกให้จนชำนาญ ส่วนบอทเต้ได้มอบความรู้ด้านกลยุทธ์ แผนการและวิธีทำอาวุธใช้เอง ไม่เว้นแม้แต่ตัวอักษรของโลกใบนี้บอทเต้ก็สามารถสอนได้บัดนี้นับว่าท่านพ่อและท่านลุงของนางพร้อมสำหรับการรบแล้ว ทุกวันพวกเขาจะฝึกกันถึง 3 รอบ บริเวณหลังบ้าน เพื่อไม่ให้ใครเห็น เรียกว่าเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมานี้แทบไม่มีใครเห็นตัวท่านพ่อกับท่านลุง เนื่องจากเก็บตัวเงียบ ส่วนนางก็ไม่ออกไปเล่นที่ไหน แม้เสี่ยวหยวนจะมาชวนหลายครั้งเหลียนฮวาที่ถูกห่อตัวด้วยผ้าหนาๆคล้ายเสี่ยวเหมา แก้มแดงปลั่งเพราะอากาศหนาว นางสะพายกระเป๋าผ้าที่มีเสบียงของตัวเองไว้ด้านหลัง ส่วนท่านพ่อท่านลุงมีจำพวกของใช้ เสื้อผ้าในถุงผ้าขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน“เสดแย้ว” เหลียนฮวาชูมืออย่างดีใจ เหมือนได้ออกไปผจญภัยกับทุกคน โรบอทกับบอทเต้นางให้เข้าไปในมิติแล้ว เกรงว่าถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าจะพากันตกใจ แล้วแห่มาบ้านนางไม

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 48 เริ่มฝึก

    “แฮ่กๆ ละ ลุงต้องทำ อะ อีกกี่ครั้ง” หลี่เหยาฉือเหงื่อเปียกชุ่มเอ่ยถามหลานสาวเสียงหอบ เสื้อผ้าของเจียหมิงที่ใส่อยู่แนบลู่ติดไปกับตัว หลานสาวปลุกเขาตั้งแต่เช้าให้มาทำท่าแปลกๆที่เรียกว่าออกกำลังกาย“อีกยี่สิบครั้งเจ้าก่ะ ห้ามหยุดน้า” เหลียนฮวาให้ท่านลุงของนางทำท่าซิทอัพเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ลดไขมันบริเวณหน้าท้อง ท่าต่อไปต้องเพิ่มกล้ามแขน ส่วนท่านพ่อของนางทำครบแล้ว เพราะลดเหลือวันละเซ็ต ตอนนี้น่าจะไปส่งจดหมายให้ทางการอยู่“อ่า ฮึบ แฮ่กๆ”“18 19 20 เย้ ท่างยุงเก่งที่สุด แปะๆ” เด็กน้อยกะโดดโลดเต้นผิดกับเทรนเนอร์สุดโหดเมื่อสักครู่“แฮ่กๆ ท่าต่อไป จัดมาเลย ลุงไหว” เหยาฉือที่บ้ายอ พอโดนหลานชมเก่งที่สุดก็มีแรงฮึดสู้ ไม่หวั่นแม้จะเหนื่อยแค่ไหน เข้าทางเด็กน้อยที่รอคำนี้อยู่แล้ว เวลาหนึ่งเดือนท่านพ่อและท่านลุงของนางต้องมีซิกแพ็ค เฮ้ย มีกล้ามเนื้อ แข็งแรงพอที่จะจับปืน จับดาบต่อสู้กับพวกศัตรูได้อย่างไม่แพ้ใคร ครึ่งเดือนผ่านไปเคล้ง เคล้ง! “ย๊า เจียหมิง เจ้าอย่าได้ออมแรง” เสียงชายผิ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 47 ครอบครัว

    “ท่างป้อ ท่างยุง” เหลียนฮวาที่ตื่นนอนนานแล้ว ลุกมาพับที่นอน ใช้ฝักบัวน้อยๆรดน้ำผักรอท่านพ่อ พอได้ยินเสียงก็รีบวางทุกอย่างลงวิ่งดุกดิกเข้ามาหา พอเห็นว่าลุงมาด้วยก็ร้องเรียกอย่างดีใจ นางขมวดคิ้วมองสภาพของลุงที่เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่นเล็กน้อย ตรงหน้าท้องมีรอยเท้าชัดเจน ใครบังอาจทำท่านลุงของนาง หลงลืมเรื่องที่ตัวเองต้องไปอยู่กับท่านลุงยามพ่อไปรบชั่วขณะ “เหลียนเอ๋อร์หลานลุง” หลี่เหยาฉืมองหลานแสนรักด้วยความคิดถึง “เกิดเยื่องไรเจ้ากะ ครายทามยุง” “เข้าบ้านกันก่อนสองลุงหลาน เราค่อยมาปรึกษาเรื่องนี้กันอีกที” เจียหมิงเรียกทุกคนไปคุยในบ้าน ก่อนที่เขาจะเปรยเรื่องขึ้นมา “แล้วเจ้าจะเอาอย่างไรต่อเจียหมิง” เหยาฉือถามหลังจากพวกเขานั่งพูดคุย โดยมีเจ้าตัวน้อยตั้งใจฟังด้วย เด็กน้อยขมวดคิ้วไม่พอใจยามได้ยินเรื่องราวของท่านลุง หนอย ยายเฒ่ามหาภัย บังอาจทำร้ายท่านลุง แค้นนี้สักวันเหลียนเอ๋อร์จะชำระให้เอง “ข้าคิดมาสักแล้วว่าจะลองส่งเรื่องร้องขอทางการ หากพวกเขาไม่เห็นด้วย ข้าจะหาทางทำทุกอย่า

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 46 ตัดขาด

    “นี่ๆ เจ้าได้ยินประกาศหรือยัง” เสียงซุบซิบนินทาดังไปทั่ว หลังมีประกาศเป็นราชโองการออกมา นั่นหมายถึงไม่มีใครสามารถขัดได้ ชาวบ้านหลายคนพากันร้องห่มร้องไห้ ตีระฆังร้องทุกข์ ขอคัดค้าน เนื่องจากในบ้านมีเสาหลักเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว หากต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ชีวิตคนที่เหลือต้องพบเจอความยากลำบาก บางบ้านมีบุตรชายหลายคน เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ถึงขั้นต่อยตีกันเสียงดังว่าใครจะเป็นคนไป บางบ้านมีลูกรักลูกชัง การเลือกจึงไม่ใช่เรื่องยากเสียงคร่ำครวญยังดังต่อเนื่อง ชาวบ้านหลายคนสีหน้าอมทุกข์ นับตั้งแต่มีประกาศออกมา เหยาฉือและเจียมิงก็กำลังเผชิญปัญหานั้นเช่นเดียวกัน “ป้อจ๋า นุจะไปด้วย” เหลียนฮวาเบะปากน้ำตาซึม หลังท่านพ่อจะต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร นางได้ยินคนคุยกันว่าจะต้องส่งไปครอบครับละหนึ่งคน ซึ่งพวกเราแยกบ้านออกมาแล้ว ดังนั้นท่านพ่อต้องเข้าร่วมกองทัพอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทว่าสิ่งที่ทำให้นางร้อนใจยิ่งกว่าคือการที่ท่านพ่อตัดสินใจจะพานางไปฝากเลี้ยงไว้กับบ้านเดิม“พ่อขอโทษเหลียนเอ๋อร์ แต่กองทัพอันตรายเกินไป พ่อพาลูกไปด้วยไม่ได้” เจีย

DMCA.com Protection Status