Share

ตอนที่ 9 ร่ำลา

last update Last Updated: 2024-12-23 21:52:05

          ‘พร้อมครับ’ ทั้งสองตอบพร้อมกัน  ก่อนที่เหลียนฮวาจะคิดว่า พวกเขาอยู่ภายในตึก

          วูบบบบบ

          ‘ได้จริงๆเจ้านาย ตอนนี้พวกเราอยู่ในตึก !’ บอทเต้พูดอย่างดีใจ พลางมองสำรวจพื้นที่ที่เข้ามาใหม่ พบว่าในตึกว่าห้องแบ่งออกเป็นหลายห้อง แต่ละห้องมีหุ่นยนต์กำลังทำงานของมันอยู่

          “ยังเหมือนเดิมสินะ” เหลียนฮวาดีใจไม่แตกต่างกัน อย่างน้อยตึกเอไอจะได้มีคนคอยคุมไม่ให้พวกเอไอสร้างสิ่งของออกมาเกินความจำเป็น

          ‘เจ้านายจะให้พวกเราช่วยอะไรไหมครับ’

          “ฉันฝากพวกนายคุมพวกเจ้าหุ่นยนต์แรงงานพวกนั้นไม่ให้ผลิตของมากเกินไป ฉันกลัวจะล้นคลังเก็บของ”         

          ‘ได้ครับ’ บอทเต้รับคำงานนี้มันถนัด

          “อ้อ อีกอย่าง ช่วยชงนมให้ฉันหน่อยได้ไหม” เหลียนฮวาพูดอย่างอายๆ ในโลกก่อนเธอโตจนสามารถดูแลตัวเองได้ มาตอนนี้เธอกลับทำอะไรเองไม่ได้เลย นอกจากกินและนอน

          ‘โรบอทชงเองครับ !’ บอทเต้ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด โรบอทรีบชิงพูดตัดหน้าอย่างตื่นเต้น มันชอบเจ้านายในร่างเด็ก เพราะถูกสร้างมาในขณะที่เจ้านายโตแล้ว ไม่เหมือนบอทเต้ที่พูดจาโอ้อวดมันตลอดตั้งแต่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมว่าเคยเห็นเจ้านายตอนเด็กกว่านี้  มันจึงได้แต่เก็บความอิจฉาไว้ในใจ นึกอยากเห็นการเติบโตของผู้มีพระคุณของมัน ส่วนวิธีชงค่อยถามบอทเต้ก็ได้

บอทเต้ได้แต่มองโรบอทอย่างหมั่นไส้  นี่เอไอนักรบหรือเอไอพี่เลี้ยงเด็ก ตอนป้อนโปรแกรมเจ้านายคงเผลอกดผิดไปแน่ๆ

          “เอ่อ ขอบใจนะ”  เหลียนฮวาคิดไม่ต่างกัน คิดภาพโรบอทกำลังชงนมไม่ถูกเลย 

          “มีอันใดหรือขอรับลุงโม่” เจิยหมิงที่กำลังซ่อมรั้วพุพังอยู่เอ่ยถามเมื่อลุงโม่ หรือโม่โฉว นายพรานในหมู่บ้านที่เขาเคยออกไปล่าสัตว์ด้วยครั้งยังอยู่ตระกูลหลักมาหา

          “พรุ่งนี้คนในหมู่บ้านจะพากันไปล่าสัตว์ ข้าเลยมาชวน เจ้าสนใจไหม”  ชายวัยกลางคนถามชายรุ่นลูกที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก พอแยกครอบครัวออกมาได้ก็คิดว่าโชคดีแล้วที่หลุดพ้นจากแม่เลี้ยงมหาภัย ทว่าชีวิตกำลังไปได้ดีกลับต้องสูญเสียภรรยา เหลือเพียงเด็กทารกพึ่งคลอด

          “ข้าย้ายมาอยู่นอกหมู่บ้านแล้วนะขอรับ คนอื่นจะยอมหรือ” เจียหมิงพูดเกรงใจ แต่ละหมู่บ้านก็จะมีกลุ่มเป็นของตัวเอง เขาซึ่งย้ายออกมาอยู่นอกหมู่บ้าน จะนับว่าเป็นคนในหมู่บ้านได้หรือ

          “อย่าได้เกรงใจ ทุกคนเห็นเจ้าเป็นคนในหมู่บ้านเสมอ” โม่โฉวเอ่ยอย่างรู้ทัน เพราะรู้นิสัยซื่อตรงของเจียหมิงดี คงกลัวเขาเดือดร้อนหากมาชวนคนนอกหมู่บ้าน

          “เหลียนเอ๋อร์นางยังเด็ก ข้ากลัว…”

          “เอาแบบนี้ เจ้าฝากเหลียนเอ๋อร์ไว้กับภรรยาข้าก็ได้ เสี่ยวหยวนจะได้มีเพื่อนเล่นด้วย”  เสี่ยวหยวนคือลูกชายคนเล็กวัย 3 ขวบ ของเขา ช่วงนี้อยู่ในวัยกำลังซน

          “ขอบคุณลุงมากขอรับ ขอข้าคิดดูอีกที”  เจียหมิงเห็นถึงความหวังดีของอีกฝ่าย แต่ก็ขอกลับมาคิดเพราะยังเป็นห่วงเหลียนฮวา บุตรสาวของเขาไม่เคยอยู่กับคนอื่น เกรงว่าจะทำให้ภรรยาโม่โฉวลำบาก

          “ไม่มีปัญหา หากเจ้าตกลง พรุ่งนี้ยามเฉินมาหาข้าที่บ้าน”  พูดเสร็จก็เดินจากไป เจียหมิงมองอีกฝ่ายจนลับสายตา

          “เหลียนเอ๋อร์ พรุ่งนี้หากพ่อไปล่าสัตว์กับคนในหมู่บ้าน เจ้าว่าจะดีหรือไม่” เจียหมิงซ่อมรั้วเสร็จ จึงเก็บของ ล้างมือเข้ามาหาบุตรสาวที่กำลังดูดนมอยู่ท่าทางเอร็ดอร่อย แม้จะเอะใจนางเอาขวดนมมาจากไหน แต่พอคิดว่าอาจเป็นเขาที่เผลอวางไว้ตอนนางนอนอยู่ จึงไม่สงสัยอะไรต่อ

          “อื้อ” เหลียนฮวานอนดูดขวดนมที่โรบอทชงให้อย่างสบายใจ พอเห็นผู้เป็นบิดาก็กำลังร้องทัก จู่ๆบิดาของนางชิงพูดขึ้นมาก่อน

 จากคำบอกเล่าของบิดา ได้แยกบ้านออกมาตั้งแต่นางยังไม่เกิด มาอาศัยอยู่นอกหมู่บ้าน อีกทั้งยังเล่าต่อว่าแคว้นที่เราอยู่มีชื่อว่าแคว้นจ้าวหลาง หรือแคว้นจ้าว หมู่บ้านเก่าที่เราเคยอาศัยคือหมู่บ้านเกาชาน ที่เรียกแบบนี้เพราะใกล้ภูเขา มีป่าล้อมรอบ ติดกับแคว้นลั่วหยาง

นอกจากนี้เวลาพูดถึงแคว้นต่างๆ ท่านพ่อมักทำสีหน้าตื่นเต้นเสมอ จนพอจะเดาได้ว่าท่านพ่อคงอยากเดินทางท่องเที่ยวไปยังแคว้นอื่น แม้ท่านจะไม่เคยเอ่ยแต่นางก็รู้  ผู้คนที่นี่กินข้าวเพียง 1-2มื้อต่อวัน สังเกตจากบิดากินแค่ 2 มื้อต่อวัน บางวันก็มื้อเดียว แล้วแต่ละมื้อมีเพียงข้าวหยาบๆ กับพวกผักป่า ดีหน่อยก็มีน้ำแกงจากวิญญาณเนื้อสัตว์ ที่บอกแบบนี้เพราะในน้ำแกงแทบไม่มีเนื้อสัตว์อยู่เลย ดูท่าคงเอาเนื้อสัตว์ที่วางกับดักมาได้ไปขายแลกน้ำนมมาหมด  เคยคิดอยากหยิบของจากมิติออกมาให้รู้แล้วรู้รอด แต่นางจะอธิบายอีกฝ่ายอย่างไร นางยังพูดไม่ได้ ได้แต่รอเวลาที่เหมาะสม 

          “แต่เจ้าต้องไปอยู่กับป้าโม่ พ่อกลัวเจ้างอแงเพราะไม่คุ้นเคย” เจียหมิงบอกสิ่งที่คิด แม้จะรู้ว่าบุตรสาวของตนรู้ความกว่าเด็กทารกทั่วไป ทว่านางก็เป็นแค่เด็ก มีเรื่องอีกตั้งมากมายที่เขาก็ยังไม่เข้าใจในนิสัยของนาง

          “แอ้ๆ” เหลียนฮวาดึงขวดนมออกจากปากมาคุยกับผู้เป็นพ่อ พยายามบอกให้เขาไปเถอะ นางอยู่ได้  แม้จะเป็นห่วงแต่ทำไมนางจะไม่รู้ว่าสาเหตุที่บิดาอยากไปล่าสัตว์กับคนในหมู่บ้านเพราะได้เนื้อเยอะกว่ากับดักสัตว์ อย่างไรก็ปลอดภัยกว่าล่าคนเดียวอยู่แล้ว  อีกทั้งยังขายได้เงินเยอะกว่าด้วยเพราะเวลาไปช่วยกันล่า สัตว์ที่ล่าได้มักจะตัวใหญ่ ต่อให้แบ่งกันหลายคนก็ยังคุ้ม

          “พ่อมิรู้ว่าการล่าครั้งนี้จะใช้เวลานานเพียงใด เจ้าจะคิดถึงพ่อใช่หรือไม่” แท้จริงแล้วคนที่คิดถึงคือเขาต่างหาก พอคิดว่าต้องห่างจากบุตรสาวเป็นวันๆ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึง

          “แอ้ !” นางโตแล้วนะ ถึงจะอยู่ในร่างเด็กก็เถอะ ต่อให้คิดถึง แต่ก็จะไม่ร้องไห้งอแงแน่นอน บิดาผู้หลงบุตรสาวอย่างท่านนั่นแหล่ะที่จะดิ้นเร้าๆทนไม่ไหว  เหลียนฮวาเถียงอยู่ในใจ  ทว่าสิ่งที่แสดงออกมากลับเป็นน้ำเสียงอ้อแอ้กับรอยยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกอย่างให้กำลังใจคนเป็นพ่อ

          “ลูกยิ้มหวานแบบนี้พ่อมีแรงฮึดสู้ งั้นพรุ่งนี้พ่อจะไปล่าสัตว์หาเงินเยอะๆไว้ซื้อน้ำนมให้เจ้านะ"

          ยามเฉิน (07.00 - 08.59 น.)

          “ข้าฝากนางด้วยนะขอรับ” เจียหมิงยื่นบุตรสาวตัวอ้วนกลมให้กับสะใภ้โม่หรือที่เขาเรียกว่าป้าโม่หลังจากพูดคุยเรื่องล่าสัตว์กันเรียบร้อย

          “ข้ามิเคยเห็นเด็กบ้านใดอ้วนถ้วนสมบูรณ์เท่าลูกเจ้าเลย ดูท่าจะเลี้ยงง่าย” นางโม่พูดอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นเด็กน้อยมองซ้ายทีขวาทีสำรวจไปทั่ว สายตาอยากรู้อยากเห็น

          “นางกินเก่งเลี้ยงง่ายมากขอรับ” เจียหมิงพูดอวดบุตรสาวกลายๆ จนคนฟังหัวเราะ ไม่รู้ว่าบุตรบ้านอื่นเป็นเช่นใด แต่สำหรับเจียหมิงในสายตาเขาเหลียนเอ๋อร์น่าเอ็นดูที่สุด

          “ดีๆ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ภรรยาข้านางมีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมามิน้อย เราออกเดินทางกันเถอะ” โม่โฉวมองเห็นสายตาของบิดาผู้หลงบุตรสาว ช่างอาลัยอาวรณ์เสียจนเขาต้องขัดขึ้น เพราะกลัวอีกฝ่ายเกิดเปลี่ยนใจ ฝีมือการล่าสัตว์ของเจียหมิงเก่งกาจมิน้อย หากมีพ่อลูกอ่อนคนนี้ไปด้วยก็เบาใจ พูดเสร็จพร้อมกอดคออีกฝ่าย เดินไปยังกลุ่มชาวบ้านที่เริ่มออกมารวมตัวกันแล้ว

          “พ่อไปก่อนนะเหลียนเอ๋อร์”

          “แอ้ คิกๆ”  เหลียนฮวารับคำพร้อมอวยพรให้บิดาโชคดีอยู่ในใจ นางหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีคลายความเป็นห่วงบิดาลงบ้างแล้วเพราะเมื่อเช้านางแอบหย่อนสิ่งของป้องกันตัวยามฉุกเฉินลงไปในย่ามคู่ใจของบิดา 

Related chapters

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 10 ล่าสัตว์

    “มากันครบแล้วหรือยัง” หัวหน้าหมู่บ้านตะโกนถามทุกคน วันนี้ชายชรารับหน้าที่เป็นเพียงผู้ดูแลความเรียบร้อย พร้อมอธิบายกฎของหมู่บ้านก่อนการเดินทาง ส่วนเรื่องล่าสัตว์เขาให้บุตรชายนามว่าซูเหวินไปแทน เพราะเรื่องนี้เจ้าตัวถนัดนัก อีกทั้งเขาผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านยังอายุมากแล้ว “ครบแล้วขอรับ” “ดีๆ จากนี้ขอให้พวกเจ้าเดินทางปลอดภัย หมู่บ้านเรายังยึดกฎเดิม ห้ามเข้าไปในป่าด้านใน ห้ามให้คนนอกเข้าร่วม เนื้อที่ล่ามาได้แบ่งเท่ากันทุกบ้านที่เข้าร่วม” ชายชราเอ่ยอธิบายกฎการล่าสัตว์ของหมู่บ้าน ที่ต้องพูดก่อนเพราะเหมือนครั้งนี้จะมีหน้าใหม่เข้าร่วมหลายคน เขาจึงได้รับการไหว้วานจากโม่โฉวให้มาช่วยแนะนำเด็กใหม่ “กฎมิให้คนนอกเข้าร่วมมิใช่หรือ” จางหมิ่นหรือลูกเลี้ยงของนางจ้านพูดขึ้นลอยๆ แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ เดิมทีต้องเป็นเหยาฉือผู้เป็นผู้นำของบ้านเข้าร่วม ทว่าแม่ของเขายังตึงกับอีกฝ่ายเพราะทะเลาะกันคราก่อนที่เหยาฉือนำไก่เลี้ยงของบ้านไปให้ไอ้คนนอกตระกูล พอมีคนไปบอกที่บ้านว่าจะมีการล่าสัตว์ในวันรุ่งขึ้น อีกทั้งเหยาฉือออกไปทำงานข้างนอกไม่อยู่บ้าน ท่านแม่จึงไ

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 11 เค้าลางอันตราย

    “เราพบซากสัตว์นอนตายอยู่” เมื่อมาถึงชาวบ้านคนเดิมได้ชี้ให้ดูจุดที่พวกเขาเห็น “แย่ล่ะ ศพพวกมันคล้ายโดนตัวอะไรกัดกิน” โม่โฉวอึ้งกับภาพตรงหน้า มองซากสัตว์ที่กำลังนอนตายเกลื่อน สภาพทุกตัวมีบาดแผลเหวอะหวะจากการฉีกกระชาก จนเห็นเครื่องในไหลออกมา ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วป่า จากเลือดที่ยังสดอยู่ น่าจะตายได้ไม่นานนัก คล้ายเจ้าสัตว์ตัวต้นเหตุต้องการเพียงล่าเท่านั้น ที่คิดว่าเป็นสัตว์เพราะมีรอยเขี้ยวฝังบนร่างของสัตว์ที่นอนตายอยู่ อวัยวะภายในยังอยู่ครบ ไม่มีร่องรอยถูกกินแม้แต่น้อย สัตว์ชนิดใดหนอช่างฆ่าได้โหดเหี้ยมยิ่งนัก ไม่แน่มันอาจจะยังไปไหนได้ไม่ไกล ชายวัยกลางคนวิเคราะห์ มองเห็นชาวบ้านบางคนกำลังอาเจียนอยู่ แม้โม่โฉวที่ล่าสัตว์ตั้งแต่เด็กจนคิดว่าตัวเองนั้นชินกับภาพแบบนี้แล้ว ก็ยังมีอาการผะอืดผะอม ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นสัตว์ที่ล่าได้น่ากลัวขนาดนี้ เพราะตามวิสัยพวกมันจะล่าแค่พอกินสำหรับฝูงมันเท่านั้น ไม่ใช่ล่าแล้วปล่อยร่างทิ้งไว้ จนเป็นภาพสยดสยองดั่งเบื้องหน้า “ระ เราจะทำอย่างไรต่อดี ขะ ขอรับ” ชาวบ้านอีกคนพูดตะกุกตะกัก หวาดกลัวไม่ต่างจากคนอื่น

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 12 สัตว์ประหลาด

    “ฮ่าๆ ฤดูหนาวนี้เรารอดแล้วๆ” โม่โฉวหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อกลุ่มพวกเขาล่าสัตว์ได้หลายตัว มีทั้งหมูป่า กวาง และกระต่ายป่า เห็นทีวันนี้ทุกคนจะได้ส่วนแบ่งเพียงพอต่อฤดูหนาวแน่ “พวกเรากลับกันเถอะขอรับ ข้าว่าสัตว์ป่าแถวนี้เริ่มหายไปแล้ว” เจียหมิงมองรอบๆ แล้วเอ่ยเตือน ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี อีกทั้งยังเป็นห่วงบุตรสาว ไม่รู้นางเป็นอย่างไรบ้าง จะงอแงหรือไม่ “ได้ๆ วันนี้ต้องยกความดีความชอบให้เจ้ากับซูเหวินเลยนะ นอกจากจะล่ากันเองได้หลายตัวแล้ว ยังพาพวกเรามาชี้จุดสัตว์ป่าอีก” แม้จะเอ่ยขอบคุณไปก่อนหน้าแล้วแต่โม่โฉวก็รู้ว่าไม่อาจมองข้ามสิ่งที่ทั้งสองทำ “เราล่าต่อกันอีกดีกว่า ยังมีสัตว์บางตัวหลงเหลืออยู่…” จางหมิ่นพูดขึ้น มองสัตว์ที่ทุกคนล่าได้สายตาเต็มไปด้วยความโลภ แม้เขาจะไม่ได้ช่วยล่า แต่ก็อยู่ในกลุ่มการล่าครั้งนี้ อย่างไรส่วนนึงก็ต้องเป็นของเขา จางหมิ่นตะล่อมให้ทุกคนอยู่ต่อ จนลืมว่าก่อนหน้าพวกเขาไปเจอกับอะไรมา โดยไม่ฟังคำเตือนของเจียหมิง “หากฟ้ามืดลงแล้วเกิดมีใครได้รับอันตรายขึ้นมา เจ้ารับผิดชอบไหวหรือ” เจียหมิงพูดมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจัง

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 13 ตัดสินใจ

    “มะ ไม่จริงใช่ไหม” ซูเหวินคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นพลันน้ำตาไหล มันหลอกพวกเขาว่าวิ่งตามหลัง แท้จริงแล้วกลับวิ่งไปดักด้านหน้า ตอนนี้ชาวบ้านคนอื่นๆคง... “เราไม่ได้ยินเสียงร้อง อาจจะเป็นเลือดของสัตว์ตัวอื่นก็ได้” โม่โฉวกำหมัดแน่น รู้สึกสะเทือนใจเมื่อตอนที่เห็นเลือดก็คิดไม่ต่างจากคนอื่น เนื่องจากทิศทางที่มันยืนอยู่เป็นทางที่ชาวบ้านวิ่งไป แต่ยังฝืนเปล่งเสียงพูดเพื่อปลอบใจทุกคนรวมถึงตนเอง โฮกกก เจ้าสัตว์ประหลาดคำรามลั่น มันมีความคิดเป็นของตัวเอง สิ่งที่มันชอบคือเหยื่อที่เป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์ทำให้มันต้องมีสภาพแบบนี้... เดิมทีมันเป็นสิงโต ได้ตายลงไปแล้วจากการล่าของพวกทหารชั่ว ทว่าคนที่พวกมนุษย์เรียกว่าหมอผีกลับชุบชีวิตมันกลับมา และทดลองกับร่างกายนี้สารพัด ถลกหนัง ผ่าร่าง เอาเขาของสัตว์ชนิดอื่นมาเย็บติดกับหัว ศักดิ์ศรีเจ้าป่าที่มันทะนงตัวมาตลอดไม่มีเหลือ มัน

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 14 ร่องรอย

    “เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นสัตว์ประหลาด” เจ้าหน้าที่ทางการสอบถามชายวัยกลางคนอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง พลางมองบรรยากาศรอบๆที่วุ่นวายไม่น้อย สภาพชาวบ้านบางคนที่ยังขวัญเสีย บางคนกำลังถูกรักษาโดยหมอที่โดนเรียกตัวมากะทันหัน สังเกตจากบาดแผลแล้วน่าจะเป็นสัตว์ร้ายมากกว่า “ขะ ขอรับ แม้พวกข้าจะเห็นไม่ชัด ตะ แต่มันเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ” โม่โฉวอธิบายเสียงสั่น หวนนึกถึงตอนเจอกับเจ้าสัตว์ที่หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว กลิ่นเหม็นคล้ายซากศพแล้วใจเต้นด้วยความหวาดกลัว ทว่าภายในใจก็อยากให้ทางการรีบไปช่วยเจียหมิงเร็วๆ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไร เขากับซูเหวินพากันหามจางหมิ่นมาถึงหมู่บ้าน พบว่ามีชาวบ้านบางคนมาถึงก่อนได้ไม่นาน สภาพร่างกายหลายคนเต็มไปด้วยบาดแผล เขาจึงสั่งให้ชาวบ้านรีบไปตามหมอกับทางการมา ท่ามกลางความตกใจและแตกตื่นของคนในหมู่บ้านที่เหลือ “เราไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร ทั้งยังมืดนัก หากสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไป เจ้าหน้าที่อาจเป็นอันตราย” เจ้าหน้าที่คนเดิมพูดอย่างมีเหตุผล ทว่าสายตากลับแอบเหลือบมองไปยังชายสวมหมวก ร่างกายสูงใหญ่ มีกลิ่นอายน่ายำเกรงอย่างหวั่นๆตลอดเวลา

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 15 สอบสวน

    “แอ้ แอ้” แปะ แปะ “อึก โอ้ย” เจียหมิงเริ่มรู้สึกตัวเพราะอาการเจ็บบาดแผล เขาค่อยๆลืมตา ภาพเลือนรางค่อยๆแจ่มจัดขึ้น นี่เขากลับมานอนบ้านแล้วหรือนี่ “แอ้” “เหลียนเอ๋อร์ลูกพ่อ” มองก้อนซาลาเปากลมๆที่ขดตัวอยู่ในอ้อมอกเขา ความรู้สึกเจ็บจิ๊ดก่อนลืมตาคงเป็นเพราะนางอยากปลุกเขาให้รู้สึกตัว พลันกระชับอ้อมกอดด้วยความคิดถึง เกือบไม่ได้กลับมาหาบุตรสาวแล้ว สำรวจร่างกายตัวเองพบว่าบาดแผลได้ถูกรักษาแถมยังพันผ้าบริเวณบาดแผลไว้เกือบทั้งตัว ความรู้สึกเจ็บแล่นทั่วร่างแต่เขาทำได้แค่อดทนไว้ บุตรสาวเขาฉลาดเกินวัยนัก ไม่อยากให้นางเห็นภาพอันน่าอนาจ “ตื่นแล้วหรือเจียหมิง” “ลุงโม่” เจ้าของชื่อพยายามลุกขึ้น ทว่ากลับโดนเสียงห้ามปรามจากอีกฝ่าย “เจ้าควรพักผ่อน ข้าจะไปจัดการเรื่องที่เหลือต่อสักหน่อย” โม่โฉวเพียงอยากเข้ามาให้เห็นกับตาว่าชายหนุ่มไม่เป็นอะไรเท่านั้น เขายังมีเรื่องต้องจัดการอีกมากโข ทั้งเรื่องศพ เรื่องครอบครัวผู้เสียชีวิต มองดูชายหนุ่มเห็นว่ารู้สึกตัวดีก็ทำท่าจะเดินออกไป “ดะ เดี๋ยวขอรับ แล้ว...” “ข้ารู้ว่า

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 16 รีดไถ

    หลายวันต่อมา หลังจากทางการนำประกาศห้ามขึ้นภูเขามาติดไว้ลานกลางหมู่บ้าน มีชาวบ้านหลายคนออกมาประท้วงเนื่องจากหลายครอบครัวมีฐานะยากจน อยู่ได้ด้วยการหาของป่า ทว่าผู้นำหมู่บ้านซึ่งได้รับมอบหมายจากทางการก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รับหน้าที่ในการแจ้งข่าวและลงชื่อแจกจ่ายเบี้ยเลี้ยงสำหรับทุกครัวเรือน ครัวละ 50 เหรียญทองแดง ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากสำหรับครอบครัวชาวบ้านทั่วไป เงินจำนวนนี้หากใช้อย่างประหยัด ครอบครัวหนึ่งสามารถอยู่ได้หลายเดือนเลยทีเดียว นับว่าท่านเจ้าหน้าที่ทางการมีเมตตายิ่งที่แจกจ่ายเงินจำนวนนี้ให้กับหมู่บ้านบริเวณรอบๆภูเขาทุกครัวเรือนอย่างไม่มีตกหล่น สถานการณ์จึงคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเงินจำนวนไม่น้อยนี้ บางครอบครับจึงรีบมุ่งหน้าซื้อของที่ตลาดมากักตุนเอาไว้ เนื่องจากไม่อยากถือเป็นเหรียญเงินที่เสี่ยงต่อการขโมยได้ง่าย บางบ้านถึงกับต้องปิดตัวเงียบเพื่อที่ไม่ให้เป็นที่โดดเด่น โดยเฉพาะพวกโจรที่หวังจะมาปล้น “เปิดประตู!!” ทว่านั่นไม่ใช่กับบ้านของเจียหมิงที่มีเสียงโหวกเวกโวยวายหลายเค่อดังไม่ลดละที่หน้าบ้านราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย “เจ้าหมาป่าตาขาวข้าบอกให้

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 17 นางไม่ได้อ้วน!

    หลังจากคุยกับพวกบอทเต้เสร็จ ก็ถึงเวลาตื่นนอนพอดี เธอลืมตาตื่นพบว่าท่านพ่อนอนหลับข้างๆ ด้วยความอ่อนเพลีย ไม่อยากรบกวนจึงเรียกขวดนมที่โรบอทชงให้ออกมาจากมิติ นอนดูดมองนั่นนี่ไปเรื่อย สักพักท่านพ่อก็ตื่น “หืม ตื่นแล้วหรือลูก” “แอ้ บา บู้” เจียหมิงสะลึมสะลือหลังจากตื่นขึ้น เขาสะดุ้งตื่นหลังกินยาที่ท่านหมอให้แล้วเผลอหลับไป มองบุตรสาวที่นอนอารมณ์ดี ใช้มือป้อมสั้นทั้งสองข้างประคองขวดนม ส่วนขาอวบๆยกไขว่ห้างสบายใจ เจียหมิงขยี้ตา มองภาพนั้นนิ่งงัน บุตรสาวฉลาดเกินวัยนัก ทั้งกินนมเอง ไหนจะท่านอนที่ไม่เหมาะกับกุลสตรีนั่นอีก ว่าแต่เขาชงนมทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไร สงสัยช่วงนี้กินยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม สมองเบลอ หลงลืมไปชั่วขณะ “แอ้ ปะ ปา” เหลียนฮวาเห็นท่านพ่อตื่นขึ้นมา จะเอาขวดนมที่กินอยู่เก็บก็ไม่ทันเสียแล้ว ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย หากท่านพ่อจับได้เธอจะเปิดเผยความจริง แม้จะพูดไม่ได้ก็เถอะ ทว่าดูเหมือนเธอจะดูถูกความหลงลูกสาวของท่านพ่อน้อยไป นอกจากจะไม่สงสัยแล้ว ยังเอ่ยชมเสียยกใหญ่ ตัวแค่นี้รู้จักหยิบนมกินเอง “หากอิ่มแล้วพ่อจะพาไปเดินเล่น”

    Last Updated : 2024-12-24

Latest chapter

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 5 ตลอดไป [จบบริบูรณ์]

    “อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 4 ลูกครึ่งซอมบี้

    แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 3 ลูกชายฝาแฝดตัวแสบ 

    4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 2 วันนี้ที่รอคอย

    “เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 1 สวรรค์ชั้นฟ้าหรือจะสู้ชะตากงล้อลิขิต  

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 109 จะรักตราบชั่วนิรันดร [The end]

    “พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 108 ชายาเดียว

    “อื้มม พะ พอก่อนเจ้าค่ะ แฮ่กๆ” เหลียนฮวาหลบชายคนรักที่ตะบมจูบอย่างหื่นกระหาย“เราไม่ได้สกินชิพกันมาหลายวันแล้วนะ” หยางหลงเอ่ยอย่างงอนๆ ไม่ว่าจะเดินไปไหนระหว่างพวกเขามักมีสายตาจับจ้อง ทั้งยังส่งเสียงทักทายมาให้ตลอด พอจะอยู่กันสองคนก็จะมีสายตาจับผิดของพ่อตามองมาอยู่เสมอ ทำให้เขาแทบปลีกตัวอยู่กันสองต่อสองไม่ได้เลย“ก็ใครใช้ให้พี่เป็นคนดังล่ะเจ้าคะ” เหล่าทหารหลายคนที่อยากขับรถแบบเขา จึงพากันเข้ามาพูดคุยขอให้เขาช่วยสอนขับรถ ทั้งยังพูดถึงแต่เรื่องรถ ความชอบของพวกผู้ชายหนีไม่พ้นพวกนี้เลยจริงๆ“พี่สอนพ่อตากับลุงแม่ทัพขับแล้ว พวกเขาไม่ไปถามทั้งสองบ้าง” หยางหลงพูดน้องใจอย่างไม่จริงจังนัก“คิกคิก ก็ไม่มีใครขับได้ผาดโผนเท่าพี่นี่นา” เหลียนฮวาหัวเราะขำ พวกทหารติดใจความเร็วของรถเครื่อง พอกลับไปนั่งรถม้าเริ่มพากันบ่นว่าช้าบ้าง อืดบ้าง ทั้งที่พอนั่งรถเครื่องก็พากัน

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 107 บทสรุปของเรื่องราว

    ณ พระราชวัง“พวกเจ้าจะทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้!!!” จ้าวฮ่องเต้ตะโกนลั่นอย่างไม่พอพระทัย เหล่าแม่ทัพต่างพากันจับกุมเขาและขุนนางฝ่ายสนับสนุน ใช้สายตาไม่พอใจมองไปทางแม่ทัพเลี่ยงจินที่เดิมทีมีหน้าที่ปกป้องเขา แต่กลับเข้าร่วมกับแม่ทัพคนอื่น“ฮ่องเต้ที่ละทิ้งประชาชน มิอาจดำรงอยู่ต่อไปได้หรอกพะย่ะค่ะ” เลี่ยงจินเป็นคนตอบ เขาตัดสินใจได้ทันทีหลังจากได้พูดคุยกับแม่ทัพเป่ยหวงและลู่จือ สิ่งที่แม่ทัพลู่จือพบเจอไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง“คะ ใคร ใครรายงานพวกเจ้า ข้าปิดประตูเมืองเพียงแค่รอสถานการณ์คลี่คลายเท่านั้น หากดีขึ้น...”“ฝ่าบาทมั่นใจว่าเป็นเช่นนั้นหรือพะย่ะค่ะ” เหล่าขุนนางที่ส่งจดหมายแจ้งแก่แม่ทัพเป่ยหวง พร้อมทั้งถือหลักฐานเดินเข้ามายังท้องพระโรง“พวกเจ้า ไม่จริง ข้าเพียงแค่ทำตามคำแนะนำของราชครู!!” จ้าวฮ่องเต้ที่เห็นหลักฐานในมือขุนนางกลับทำตาโตกล่าวถึ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 106 ชัยชนะ

    “นะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ออกไป” เยว่เล่อกล่าวออกมาอย่างสับสนพร้อมสั่งพวกมัน เขามองผีดิบที่พากันรุมเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่สนคำสั่งของเขา“เป็นอะไรไหมขอรับท่านแม่ทัพ”“ฮะ ฮุ่ยหมิง แค่กๆ” เป่ยหวงตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น ฮุ่ยหมิงตัวเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้า หรือเป็นเพียงภาพความฝันกันแน่ ทว่าสีตาของเขากลับเหมือนพวกคนคลั่ง“ข้าเองขอรับ” ฮุ่ยหมิงพยุงร่างของแม่ทัพขึ้น คิดว่าจะหนักแต่ผิดคาดตัวของท่านแม่ทัพเบากว่าที่คิด“จะ เจ้าจริงๆหรือ” เป่ยหวงถามขึ้นดวงตาพร่ามัวที่ใกล้จะปิด เขากลัวจะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น หากเฟยจินมาอยู่ตรงนี้ด้วยอีกฝ่ายคงดีใจไม่น้อย“ขอรับ” สิ้นสุดคำตอบของเขา เป่ยหวงสลบไปทันที ฮุ่ยหมิงใช้มือเช็คลมหายใจแล้วเป่าปากอย่างโล่งอก โชคดีที่ท่านแม่ทัพสลบไปเท่านั้นผลักก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status