แชร์

ตอนที่ 13 ตัดสินใจ

ผู้เขียน: ดุจเพชร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 09:22:28

          “มะ ไม่จริงใช่ไหม” ซูเหวินคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นพลันน้ำตาไหล มันหลอกพวกเขาว่าวิ่งตามหลัง แท้จริงแล้วกลับวิ่งไปดักด้านหน้า ตอนนี้ชาวบ้านคนอื่นๆคง...

          “เราไม่ได้ยินเสียงร้อง อาจจะเป็นเลือดของสัตว์ตัวอื่นก็ได้” โม่โฉวกำหมัดแน่น รู้สึกสะเทือนใจเมื่อตอนที่เห็นเลือดก็คิดไม่ต่างจากคนอื่น เนื่องจากทิศทางที่มันยืนอยู่เป็นทางที่ชาวบ้านวิ่งไป แต่ยังฝืนเปล่งเสียงพูดเพื่อปลอบใจทุกคนรวมถึงตนเอง

          โฮกกก

          เจ้าสัตว์ประหลาดคำรามลั่น มันมีความคิดเป็นของตัวเอง สิ่งที่มันชอบคือเหยื่อที่เป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์ทำให้มันต้องมีสภาพแบบนี้...

          เดิมทีมันเป็นสิงโต ได้ตายลงไปแล้วจากการล่าของพวกทหารชั่ว ทว่าคนที่พวกมนุษย์เรียกว่าหมอผีกลับชุบชีวิตมันกลับมา และทดลองกับร่างกายนี้สารพัด ถลกหนัง ผ่าร่าง เอาเขาของสัตว์ชนิดอื่นมาเย็บติดกับหัว ศักดิ์ศรีเจ้าป่าที่มันทะนงตัวมาตลอดไม่มีเหลือ มันแค้นมนุษ์ที่ทำกับมันแบบนี้ จนอยากกระชากร่างและฆ่าให้ตายอย่างทรมาน แต่ความเป็นจริงมันกลับทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย

          วันแล้ววันเล่าได้แต่นอนนิ่งๆจากการถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา เพื่อรอความตาย  แม้จะสูญเสียความรู้สึกทางร่างกาย แต่แลกมาด้วยกับมันมีความนึกคิด  นับวันความกระหายเลือดสดๆยิ่งเพิ่มขึ้น  จนเกือบจะควบคุมร่างกายไม่อยู่ บางครั้งพวกทหารเผลอ มันหลุดออกจากพันธนาการมาได้ แต่ก็โดนตามจับกลับไปอยู่ดี จนกระทั่งวันหนึ่งโชคเข้าข้าง  เจ้าหมอผีวิปริตออกไปทำภารกิจด้านนอกหลายวัน มันใช้โอกาสนี้หลบหนีออกมายังป่าบนภูเขา ทว่ากลิ่นเลือดทำให้มันกระหายการฆ่า เผลอลงมือฆ่าสัตว์ในป่าจนหนีหายไปหมด ทว่าสิ่งที่มันอยากฆ่ามากที่สุดคือมนุษย์ ผู้ที่ทำให้มันมาอยู่ในสภาพสมเพชแบบนี้

          และในที่สุดมันก็พบมนุษย์กลุ่มหนึ่ง คราแรกมันตั้งใจฆ่าทุกคน แต่พอสบตากับมนุษย์ผู้หนึ่ง ที่เป็นสมาชิกหนึ่งในนั้น ทำให้มันชะงักงัน หวนคิดถึงมันในอดีตเมื่อเห็นดวงตาอีกฝ่าย สายตาที่ไม่เกรงกลัวคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่า  สายตามุ่งมั่นที่อยากจะมีชีวิตรอด

          มันตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกมนุษย์ผู้นี้เป็นคู่ต่อสู้และผู้ที่จะปลิดชีพมัน  มันหยุดคิดแผน รอเหยื่อให้ชะล่าใจ พอได้เวลาลงมือ มันจึงวิ่งตามกลุ่มชาวบ้านที่วิ่งนำหน้ามันไป และอ้อมไปดักหน้าไว้ ฝืนหักห้ามตนเอง ทำแค่กัดแบบยั้งแรงเพื่อถ่วงเวลา  เพราะต้องการให้แค่บาดเจ็บจนไม่สามารถมายุ่งกับการต่อสู้ของมันได้  แล้วก็วิ่งกลับมายังกลุ่มชายคนที่มันเลือกอยู่

          แฮร่!

          “ชะ ช่วยด้วย” จางหมิ่นก้าวขาไม่ออก ได้แต่ร้องให้คนที่เหลือช่วยตน ซึ่งทุกคนก็เกิดอาการขาแข็งยืนนิ่งไม่ต่างกัน

          “อะ เอาอย่างไรต่อดะ ดี จะ เจียหมิง” ซูเหวินพูดตะกุกตะกักถามสหายคนสนิทที่นับว่าเป็นมันสมองของกลุ่มอยู่ตอนนี้

          “มันจ้องมาที่ข้า หากข้าขยับตัวมันจะส่งเสียงขู่ทันที” แสงไฟจากคบเพลิงทำให้เห็นสัตว์ประหลาดตรงหน้าอย่างชัดเชน แล้วมันก็กำลังจ้องมองเขาไม่ละสายตาเลยเช่นกัน

          “จะ จริงด้วย” ซูเหวินมองตามสายตามันพบว่าที่สหายพูดเป็นความจริง ทว่าทำไมเขารู้สึกว่าสายตาของมันมองสหายของเขาอย่างท้าทายมากกว่าจ้องจะฆ่า

          “เจ้าใช้โอกาสนี้พาลุงโม่และจางหมิ่นออกไปจากที่นี่ ไปเรียกทางการมาซะ” เจียหมิงพูดในขณะไม่ละสายตาไม่จากมัน ทำเหมือนกับว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหันมองอย่างอื่นเพียงเสี้ยววิ จะเป็นการเปิดศึกขึ้นทันที

          “ตะ แต่ว่าเจ้า…”  ซูเหวินยังคงเป็นห่วงเพื่อน

          “ข้าจะไม่ตายจนกว่าจะพบลูกสาวข้าหรอก ไปซะ”  เจียหมิงยืนหยันอย่างหนักแน่น ในเมื่อมันสนใจเพียงแค่เขา เขาก็จะไม่ปล่อยโอกาสหลุดไป อย่างน้อยต้องมีคนรอดเพื่อไปบอกเรื่องราวกับทางการและชาวบ้านที่เหลือ

          “เอาตามที่เจียหมิงว่าเถอะ” โม่โฉวแม้จะไม่เห็นสีหน้าเจียหมิง แต่น้ำเสียงเด็ดขาดของอีกฝ่ายบ่งบอกว่าได้ตัดสินใจแล้ว

          “พะ พาข้าไปที”  จางหมิ่นร่ำร้องเสียงสั่น เขากลัวจนไม่มีแรงจะเดิน ชายวัยกลางคนเข้าไปดึงแขนซูเหวินให้มาช่วยลากตัวจางหมิ่นด้วยกัน อดที่จะเหลือบมองเจ้าสัตว์ประหลาดไม่ได้ สายตามันจ้องแค่เจียหมิงไม่ละไปไหน พวกเขาช่วยกันลากตัวของจางหมิ่นออกมาพร้อมทั้งมองเจียหมิงอย่างเป็นห่วงไปจนสุดสายตา

          ‘ข้าจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้แน่นอน เจียหมิง’ โม่โฉวและซูเหวินได้ตั้งปนิธานกับตนเองในใจ

          “เอาล่ะ ทีนี้คงเป็นเรื่องของเจ้ากับข้าแล้ว”

          แฮร่ กรร มันส่งเสียงคล้ายอยากจะพูดคุยด้วย แต่สิ่งที่เจียหมิงเห็นนั้นกลับเป็นภาพสัตว์ประหลาดกำลังแยกเขี้ยว น้ำลายหยดลงพื้น

          กรอบบ

          ฟุบ

          เจียหมิงลองก้าวไปทางซ้าย สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ก้าวตาม เขาได้แต่งุนงงเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี

          “โฮกกก” มันส่งเสียงคำรามลั่น ประกาศว่ามันพร้อมสู้แล้ว นั่นทำให้เจียหมิงเริ่มสอดส่องสายตามองดูรอบๆหาอาวุธป้องกัน ทว่ากลับไม่มีสิ่งใดพอที่จะนำมาเป็นอาวุธได้เลย พลันสายตาเหลือบไปเห็นท่อนไม้ที่พอจะใช้ได้ แต่ก็ไกลออกไป เขาจึงตัดสินใจเอาย่ามไปไว้ด้านหลัง เพื่อง่ายต่อการวิ่ง แต่พอจับมันกลับพบบางอย่างแปลกๆอยู่ข้างใน เขาลองหยิบออกมาแล้วมองอย่างงุนงง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาเคยพบเห็นมาก่อน รูปร่างของมันคล้ายท่อนไม้กึ่งกระบอง แต่มีน้ำหนักเบากว่ามาก มีด้ามจับคล้ายดาบ

          เจียหมิงหยิบออกมาเพราะอย่างน้อยก็มีอาวุธติดมือ แม้จะไม่รู้วิธีใช้มันก็ตาม

          กรรภ์

         ฟึบ

          ร่างของมันพุ่งเข้ามารวดเร็วหมายกระชากร่าง เจียหมิงรีบเบี่ยงตัวหลบ ทว่าก็ไม่พ้นทำให้หัวไหล่โดนกรงเล็บของมันเข้าจังๆ เขาไม่ยอมเจ็บตัวฟรีจึงฟาดอาวุธประหลาดในมือกลับไป  

         ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรอดกลับไปหาบุตรสาวให้ได้

ความอยากมีชีวิตรอดทำให้เขาเผลอกำอาวุธในมือแน่น จนไปโดนปุ่มบางอย่างก่อนที่เขาจะฟาดมันโดนตัวเจ้าสัตว์ประหลาด

          เปี๊ยะๆ 

         แฮร่

         “อึก”  เจียหมิงกุมบาดแผลที่คาดว่าคงเหวอะหวะไม่น้อย เลือดไหลซึมอาภรณ์เนื้อหยาบจนเปียกชุ่ม มองของในมือด้วยสีหน้าตกใจ เสียงแปลกๆจากเจ้าอาวุธนี่ดูน่ากลัวไม่น้อย อีกทั้งตอนที่ฟาดลงโดนผิวของมันเมื่อกี้ หากตาไม่ฟาดเขาเห็นมันสะดุ้งและนิ่งไปชั่วครู่

         เจ้าสัตว์ประหลาดก็ไม่ให้เขาตกใจได้นาน มันพุ่งตัวเข้าโจมตีอีกรอบ เจียหมิงจึงลองทำแบบเดิม พบว่าครั้งนี้พอเขาเอา เจ้ากระบอง (แอบตั้งชื่อเอง) ฟาดลงบนผิวมันนานขึ้น ตัวมันชะงักไปนานกว่าเดิม

        กรรภ์

         เจ้าสิงโตหัวเสีย มันกระโจนใส่เป้าหมายอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งได้กลิ่นเลือดมันเริ่มคุมสติไว้ไม่อยู่  เจียหมิงได้แต่หลบเป็นพัลวัน ทั้งพ้นบ้างไม่พ้นบ้าง ได้บาดแผลมาเพิ่ม เพราะยามค่ำคืนแสงเริ่มหดหาย

         เจ้าอาวุธนี่ทำได้เพียงยื้อเวลาเท่านั้น เขาเริ่มหมดแรง

         “แฮ่กๆ” 

         แฮร่

         เจ้าสัตว์คล้ายสิงโตที่สติใกล้หมดลงเช่นกัน มันไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ หากพวกมนุษย์ชั่วที่ทำการทดลองมันมาพบเข้า มันต้องกลับไปยังขุมนรกนั่นอีก มันมองอีกฝ่ายที่สภาพร่อแร่ ทว่าดวงตาเด็ดเดี่ยว ทั้งสองสบตากันนิ่งคล้ายเข้าใจตรงกันว่าฉากต่อไปจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เจียหมิงตัดสินใจว่าจะโจมตีกลับ สภาพของเขาใกล้จะหมดแรงเต็มที ได้แต่เดิมพันกับอาวุธที่ทำให้เขารอดชีวิตได้มาถึงตอนนี้ครั้งสุดท้าย ก่อนจะลงมือกดปุ่มที่เขาเผลอไปโดนอีกครั้ง เจ้าสิงโตคำรามลั่นพร้อมหลับตายามเห็นสิ่งแปลกประหลาดในมือมนุษย์คนนี้แปรเปลี่ยนเป็นคมดาบ

         ดาบงั้นหรือ ในที่สุดสิ่งที่มันรอคอยก็มาถึง

         โฮกกกกก

         ฉั๊วะ

         ตุ้บบบ

         “จะ จบสักที อึก”  เจียหมิงทรุดตัวลงพื้นอย่างหมดแรง เขามองคอของเจ้าสัตว์ประหลาดที่โดนกระบอง เอ่อ ตอนนี้น่าจะเปลี่ยนเป็นดาบฟันเข้าที่คอ ซึ่งมันหลุดออกอย่างง่ายดายแทบไม่ต้องใช้แรง  หากเป็นดาบทั่วไปคงน่าจะไม่ง่ายเพียงนี้ ช่างเป็นอาวุธประหลาดโดยแท้ แล้วมันเข้ามาอยู่ในย่ามได้อย่างไรกัน ไม่ว่าอย่างไร มันคือสิ่งที่ช่วยชีวิตเขา

         ช่วงสุดท้ายเห็นมันหลับตา ภาพนั้นไม่ใช่คล้ายสิ่งที่ยอมจำนน เหมือนกับเป็นช่วงเวลาที่มันรอคอยมากกว่า เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่มืดมิด ยังดีที่มีแสงไฟจากคบเพลิงที่อยู่ห่างออกไป ต้องรีบกลับไปยังหมู่บ้าน ป่านนี้บุตรสาวคงร้องไห้งอแงแล้ว

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 14 ร่องรอย

    “เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นสัตว์ประหลาด” เจ้าหน้าที่ทางการสอบถามชายวัยกลางคนอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง พลางมองบรรยากาศรอบๆที่วุ่นวายไม่น้อย สภาพชาวบ้านบางคนที่ยังขวัญเสีย บางคนกำลังถูกรักษาโดยหมอที่โดนเรียกตัวมากะทันหัน สังเกตจากบาดแผลแล้วน่าจะเป็นสัตว์ร้ายมากกว่า “ขะ ขอรับ แม้พวกข้าจะเห็นไม่ชัด ตะ แต่มันเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ” โม่โฉวอธิบายเสียงสั่น หวนนึกถึงตอนเจอกับเจ้าสัตว์ที่หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว กลิ่นเหม็นคล้ายซากศพแล้วใจเต้นด้วยความหวาดกลัว ทว่าภายในใจก็อยากให้ทางการรีบไปช่วยเจียหมิงเร็วๆ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไร เขากับซูเหวินพากันหามจางหมิ่นมาถึงหมู่บ้าน พบว่ามีชาวบ้านบางคนมาถึงก่อนได้ไม่นาน สภาพร่างกายหลายคนเต็มไปด้วยบาดแผล เขาจึงสั่งให้ชาวบ้านรีบไปตามหมอกับทางการมา ท่ามกลางความตกใจและแตกตื่นของคนในหมู่บ้านที่เหลือ “เราไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร ทั้งยังมืดนัก หากสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไป เจ้าหน้าที่อาจเป็นอันตราย” เจ้าหน้าที่คนเดิมพูดอย่างมีเหตุผล ทว่าสายตากลับแอบเหลือบมองไปยังชายสวมหมวก ร่างกายสูงใหญ่ มีกลิ่นอายน่ายำเกรงอย่างหวั่นๆตลอดเวลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 15 สอบสวน

    “แอ้ แอ้” แปะ แปะ “อึก โอ้ย” เจียหมิงเริ่มรู้สึกตัวเพราะอาการเจ็บบาดแผล เขาค่อยๆลืมตา ภาพเลือนรางค่อยๆแจ่มจัดขึ้น นี่เขากลับมานอนบ้านแล้วหรือนี่ “แอ้” “เหลียนเอ๋อร์ลูกพ่อ” มองก้อนซาลาเปากลมๆที่ขดตัวอยู่ในอ้อมอกเขา ความรู้สึกเจ็บจิ๊ดก่อนลืมตาคงเป็นเพราะนางอยากปลุกเขาให้รู้สึกตัว พลันกระชับอ้อมกอดด้วยความคิดถึง เกือบไม่ได้กลับมาหาบุตรสาวแล้ว สำรวจร่างกายตัวเองพบว่าบาดแผลได้ถูกรักษาแถมยังพันผ้าบริเวณบาดแผลไว้เกือบทั้งตัว ความรู้สึกเจ็บแล่นทั่วร่างแต่เขาทำได้แค่อดทนไว้ บุตรสาวเขาฉลาดเกินวัยนัก ไม่อยากให้นางเห็นภาพอันน่าอนาจ “ตื่นแล้วหรือเจียหมิง” “ลุงโม่” เจ้าของชื่อพยายามลุกขึ้น ทว่ากลับโดนเสียงห้ามปรามจากอีกฝ่าย “เจ้าควรพักผ่อน ข้าจะไปจัดการเรื่องที่เหลือต่อสักหน่อย” โม่โฉวเพียงอยากเข้ามาให้เห็นกับตาว่าชายหนุ่มไม่เป็นอะไรเท่านั้น เขายังมีเรื่องต้องจัดการอีกมากโข ทั้งเรื่องศพ เรื่องครอบครัวผู้เสียชีวิต มองดูชายหนุ่มเห็นว่ารู้สึกตัวดีก็ทำท่าจะเดินออกไป “ดะ เดี๋ยวขอรับ แล้ว...” “ข้ารู้ว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 16 รีดไถ

    หลายวันต่อมา หลังจากทางการนำประกาศห้ามขึ้นภูเขามาติดไว้ลานกลางหมู่บ้าน มีชาวบ้านหลายคนออกมาประท้วงเนื่องจากหลายครอบครัวมีฐานะยากจน อยู่ได้ด้วยการหาของป่า ทว่าผู้นำหมู่บ้านซึ่งได้รับมอบหมายจากทางการก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รับหน้าที่ในการแจ้งข่าวและลงชื่อแจกจ่ายเบี้ยเลี้ยงสำหรับทุกครัวเรือน ครัวละ 50 เหรียญทองแดง ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากสำหรับครอบครัวชาวบ้านทั่วไป เงินจำนวนนี้หากใช้อย่างประหยัด ครอบครัวหนึ่งสามารถอยู่ได้หลายเดือนเลยทีเดียว นับว่าท่านเจ้าหน้าที่ทางการมีเมตตายิ่งที่แจกจ่ายเงินจำนวนนี้ให้กับหมู่บ้านบริเวณรอบๆภูเขาทุกครัวเรือนอย่างไม่มีตกหล่น สถานการณ์จึงคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเงินจำนวนไม่น้อยนี้ บางครอบครับจึงรีบมุ่งหน้าซื้อของที่ตลาดมากักตุนเอาไว้ เนื่องจากไม่อยากถือเป็นเหรียญเงินที่เสี่ยงต่อการขโมยได้ง่าย บางบ้านถึงกับต้องปิดตัวเงียบเพื่อที่ไม่ให้เป็นที่โดดเด่น โดยเฉพาะพวกโจรที่หวังจะมาปล้น “เปิดประตู!!” ทว่านั่นไม่ใช่กับบ้านของเจียหมิงที่มีเสียงโหวกเวกโวยวายหลายเค่อดังไม่ลดละที่หน้าบ้านราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย “เจ้าหมาป่าตาขาวข้าบอกให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 17 นางไม่ได้อ้วน!

    หลังจากคุยกับพวกบอทเต้เสร็จ ก็ถึงเวลาตื่นนอนพอดี เธอลืมตาตื่นพบว่าท่านพ่อนอนหลับข้างๆ ด้วยความอ่อนเพลีย ไม่อยากรบกวนจึงเรียกขวดนมที่โรบอทชงให้ออกมาจากมิติ นอนดูดมองนั่นนี่ไปเรื่อย สักพักท่านพ่อก็ตื่น “หืม ตื่นแล้วหรือลูก” “แอ้ บา บู้” เจียหมิงสะลึมสะลือหลังจากตื่นขึ้น เขาสะดุ้งตื่นหลังกินยาที่ท่านหมอให้แล้วเผลอหลับไป มองบุตรสาวที่นอนอารมณ์ดี ใช้มือป้อมสั้นทั้งสองข้างประคองขวดนม ส่วนขาอวบๆยกไขว่ห้างสบายใจ เจียหมิงขยี้ตา มองภาพนั้นนิ่งงัน บุตรสาวฉลาดเกินวัยนัก ทั้งกินนมเอง ไหนจะท่านอนที่ไม่เหมาะกับกุลสตรีนั่นอีก ว่าแต่เขาชงนมทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไร สงสัยช่วงนี้กินยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม สมองเบลอ หลงลืมไปชั่วขณะ “แอ้ ปะ ปา” เหลียนฮวาเห็นท่านพ่อตื่นขึ้นมา จะเอาขวดนมที่กินอยู่เก็บก็ไม่ทันเสียแล้ว ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย หากท่านพ่อจับได้เธอจะเปิดเผยความจริง แม้จะพูดไม่ได้ก็เถอะ ทว่าดูเหมือนเธอจะดูถูกความหลงลูกสาวของท่านพ่อน้อยไป นอกจากจะไม่สงสัยแล้ว ยังเอ่ยชมเสียยกใหญ่ ตัวแค่นี้รู้จักหยิบนมกินเอง “หากอิ่มแล้วพ่อจะพาไปเดินเล่น”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 18 แผนร้ายเริ่มคืบคลาน

    หลายวันต่อมาหลังจากท่านลุงเดินทางกลับด้วยท่าทีอิดออด คงเพราะยังอยากเล่นกับหลานสาวผู้น่ารักอย่างนาง กิจวัตรประจำวันของทารกก็ไม่มีอะไรมาก นั่งๆ นอนๆ แล้วก็กิน ส่วนท่านพ่อก็ออกไปซ่อมรั้วให้แข็งแรงขึ้น ไม่ก็ลงแปลงปลูกผักบ้าง อ้อ มีอีกอย่าง ท่านพ่อมักหยิบอาวุธกระบองที่นางแอบนำไปวางในย่ามอย่างยากลำบากก่อนเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นมาเช็ดๆถูๆอยู่ทุกวัน ดูท่าจะหวงไม่น้อย วนเวียนอยู่แบบนี้ “ฮึบ อีกนิดลูกสาวพ่อ” “แอ้ ปะ ปะ” เหลียนฮวาเกร็งตัวเพื่อคว่ำจนหน้าดำหน้าแดง เหลือบมองท่าทีของผู้เป็นพ่อที่ลุ้นยิ่งกว่า ฮึบ ฮึบ ต้องทำให้ได้ อีกนิดเดียวเท่านั้น ฟุบบ และแล้วความพยายามก็สำเร็จผล ฟอดด “เก่งมาก” ได้รางวัลเป็นการหอมแก้มฟอดใหญ่จากท่านพ่อที่ลุ้นจนตัวโก่ง จะมีเด็กวัยเพียง 3 เดือนกว่าที่ไหน พลิกคว่ำตัวได้แล้วบ้าง แม้จะมีพุงกลมๆเป็นอุปสรรค เหลียนฮวาอยากอวดพ่อเหลือเกินว่านางพลิกตัวได้ตั้งแต่วันแรกที่เกิด ทว่าหลังๆที่ไม่เห็นนางพลิกตัวโชว์เพราะนางอ้วนขึ้นเลยขี้เกียจพลิกตัว “ปะ ปะ หม่ำๆ” เจ้าร่างกายทารกนี่พอออกแรงหน่อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 19 ดาวไถตัวน้อยเอาคืน

    “ช่วยอย่าส่งเสียงดังด้วยนะขอรับ บุตรสาวข้า...” ระหว่างที่เจียหมิงกำลังพาทุกคนเข้ามาในบ้าน เพราะไม่อาจให้คุยกันนอกบ้านได้ เกรงว่าจะมีคนบังเอิญผ่านมาเห็นเข้า เขากำลังบอกให้ทุกคนเงียบๆ เพราะบุตรสาวเขาน่าจะกำลังนอนหลับอยู่ ทว่าพอเปิดประตูเข้าไปกลับต้องหน้าแดงก่ำ รีบวิ่งไปบังบุตรสาวไว้ เหลียนเอ๋อเล่นเขาเข้าแล้วไง “แอะ ปะ ปะ” “ฮ่าๆ ท่านอนดื่มนมของบุตรสาวเจ้า ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ” เป่ยหวงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ส่วนทหารที่เหลือ ขนาดได้ชื่อว่าเป็นพวกยิ้มยาก ยังแอบยิ้มขำ เมื่อเห็นร่างอวบอ้วนของเด็กน้อยนอนกินนมในท่าไขว้ห้าง เท้าป้อมๆกระดิกไปมา เป็นภาพแปลกตา หากฮูหยินหรือสตรีในเมืองหลวงเห็นคงต้องยกมือทาบอก อุทานอย่างตกใจเป็นแน่ นางเห็นพวกเขาที่ตัวใหญ่โตแทนที่จะตกใจ ร้องไห้อย่างเด็กทั่วไป กลับยิ้มแย้มยกมือโบกทักทายผู้เป็นพ่อ ครอบครัวนี้ช่างเปิดโลกแม่ทัพอย่างเขาดีแท้ “นะ นางแค่นอนในท่านี้แล้วสบาย ข้าไม่อยากบังคับลูก” เจียหมิงแก้ตัวแทนบุตรสาวด้วยสีหน้าเลิ่กลัก หันไปจัดท่านอนให้นางใหม่ “หึๆ ข้าเข้าใจ” เป่ยหวงมองตัวน้อยอย่างย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 20 เปลี่ยนแผน

    และแล้วก็ถึงวันนัดหมายเดินทาง ทางการส่งแม่นมหลวงและผู้ช่วยมาอย่างละคน ทั้งสองที่เคยทำหน้าที่ดูแลแต่เด็กบ้านที่มีฐานะ อย่างเช่น ขุนนาง ตระกูลพ่อค้าร่ำรวย พอมาเห็นบ้านที่ทางการส่งพวกนางมาก็ถึงกลับชะงัก ไม่คิดว่าจะเป็นบ้านของชาวบ้านธรรมดา ด้วยความเป็นมืออาชีพไม่นานก็ทำความเข้าใจได้ โดยเฉพาะแม่นมหลวงที่รับหน้าที่เลี้ยงดูบุตรหลานของพวกมีอันจะกินมาหลายบ้าน เรียกว่าใครๆก็อยากได้ตัวนางไปเลี้ยงดูบุตรหลานให้ เพราะนอกจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาแล้ว ยังบ่งบอกถึงความร่ำรวย เป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูล ส่วนสาเหตุที่เรียกว่าแม่นมหลวง เพราะเป็นแม่นมของทางการ ไม่ใช่แค่มีเงินจะสามารถจ้างได้ แต่ต้องได้รับการยอมรับจากทางการก่อนด้วย “ไม่รู้ว่าจะต้องไปกี่วัน พ่อต้องคิดถึงเจ้ามากแน่ๆ” เจียหมิงที่กำลังเอ่ยร่ำลาบุตรสาวอาลัยอาวรณ์ รอบๆมีชาวบ้านคนอื่นมาส่ง แต่ส่วนใหญ่จะอยากรู้อยากเห็นมากกว่า เมื่อเห็นชายหลายคนมาออกันที่บ้านของเจียหมิง คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ทางการ จึงพากันกระจายข่าว ทำให้ชาวบ้านหลายคนแห่กันมายืนออที่ริมรั้ว ส่วนซูหวินและโม่โฉวที่ทราบเรื่องคร่าวๆจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 21 ตัวทดลอง

    ยามโฉ่ว (01.00 - 02.59 น.) “ถึงแล้วหรือ” “ขอรับ พื้นที่ตรงหน้าคือชายแดน ค่ายทหารน่าจะอยู่ไม่ไกล ” มีครั้งหนึ่งในตอนที่เหลียนฮวาพึ่งคลอดใหม่ๆ เจียหมิงเคยแอบออกมาล่าสัตว์ในป่าลึกหวังจะได้สัตว์ไปขาย ซื้อน้ำนมให้บุตรสาว ด้วยความที่ตัวเองมัวแต่จดจ่อกับสัตว์ที่กำลังล่าจนไม่รู้ตัวว่าเขาเกือบข้ามเข้าไปยังเขตของแคว้นลั่วหยาง ครั้นได้ยินเสียงที่คิดว่าน่าจะเป็นทหารของทางฝั่งนั้น จึงรีบกุลีกุจอกลับหมู่บ้าน หลังจากนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะออกมาล่าบริเวณนี้คนเดียวอีกเลย กลัวว่าถ้าข้ามไปแล้วจะไม่ได้กลับมาเจอบุตรสาวอีก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีเหตุให้ต้องกลับมาอีกครั้ง “แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเฝ้าอยู่ตรงนี้ดูต้นทาง กลุ่มสองลอบเข้าไปด้านใน ข้าจะนำเอง เลี่ยงการปะทะ เข้าใจหรือไม่” “เข้าใจขอรับ” “เอ่อ แล้วข้าล่ะขอรับ” เจียหมิงโพล่งถามขึ้นมาเพราะไม่รู้ตัวเองต้องอยู่ตรงไหน ทำหน้าที่อะไรต่อจากนี้ “เจ้ารออยู่กับกลุ่มแรกที่นี่ หากได้รับสัญญาณให้วิ่งกลับไปยังทางที่เรามาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องสนใจทหารคนอื่น” ที่บอกว่าไม่ต้องสนใจ เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24

บทล่าสุด

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 5 ตลอดไป [จบบริบูรณ์]

    “อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 4 ลูกครึ่งซอมบี้

    แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 3 ลูกชายฝาแฝดตัวแสบ 

    4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 2 วันนี้ที่รอคอย

    “เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 1 สวรรค์ชั้นฟ้าหรือจะสู้ชะตากงล้อลิขิต  

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 109 จะรักตราบชั่วนิรันดร [The end]

    “พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 108 ชายาเดียว

    “อื้มม พะ พอก่อนเจ้าค่ะ แฮ่กๆ” เหลียนฮวาหลบชายคนรักที่ตะบมจูบอย่างหื่นกระหาย“เราไม่ได้สกินชิพกันมาหลายวันแล้วนะ” หยางหลงเอ่ยอย่างงอนๆ ไม่ว่าจะเดินไปไหนระหว่างพวกเขามักมีสายตาจับจ้อง ทั้งยังส่งเสียงทักทายมาให้ตลอด พอจะอยู่กันสองคนก็จะมีสายตาจับผิดของพ่อตามองมาอยู่เสมอ ทำให้เขาแทบปลีกตัวอยู่กันสองต่อสองไม่ได้เลย“ก็ใครใช้ให้พี่เป็นคนดังล่ะเจ้าคะ” เหล่าทหารหลายคนที่อยากขับรถแบบเขา จึงพากันเข้ามาพูดคุยขอให้เขาช่วยสอนขับรถ ทั้งยังพูดถึงแต่เรื่องรถ ความชอบของพวกผู้ชายหนีไม่พ้นพวกนี้เลยจริงๆ“พี่สอนพ่อตากับลุงแม่ทัพขับแล้ว พวกเขาไม่ไปถามทั้งสองบ้าง” หยางหลงพูดน้องใจอย่างไม่จริงจังนัก“คิกคิก ก็ไม่มีใครขับได้ผาดโผนเท่าพี่นี่นา” เหลียนฮวาหัวเราะขำ พวกทหารติดใจความเร็วของรถเครื่อง พอกลับไปนั่งรถม้าเริ่มพากันบ่นว่าช้าบ้าง อืดบ้าง ทั้งที่พอนั่งรถเครื่องก็พากัน

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 107 บทสรุปของเรื่องราว

    ณ พระราชวัง“พวกเจ้าจะทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้!!!” จ้าวฮ่องเต้ตะโกนลั่นอย่างไม่พอพระทัย เหล่าแม่ทัพต่างพากันจับกุมเขาและขุนนางฝ่ายสนับสนุน ใช้สายตาไม่พอใจมองไปทางแม่ทัพเลี่ยงจินที่เดิมทีมีหน้าที่ปกป้องเขา แต่กลับเข้าร่วมกับแม่ทัพคนอื่น“ฮ่องเต้ที่ละทิ้งประชาชน มิอาจดำรงอยู่ต่อไปได้หรอกพะย่ะค่ะ” เลี่ยงจินเป็นคนตอบ เขาตัดสินใจได้ทันทีหลังจากได้พูดคุยกับแม่ทัพเป่ยหวงและลู่จือ สิ่งที่แม่ทัพลู่จือพบเจอไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง“คะ ใคร ใครรายงานพวกเจ้า ข้าปิดประตูเมืองเพียงแค่รอสถานการณ์คลี่คลายเท่านั้น หากดีขึ้น...”“ฝ่าบาทมั่นใจว่าเป็นเช่นนั้นหรือพะย่ะค่ะ” เหล่าขุนนางที่ส่งจดหมายแจ้งแก่แม่ทัพเป่ยหวง พร้อมทั้งถือหลักฐานเดินเข้ามายังท้องพระโรง“พวกเจ้า ไม่จริง ข้าเพียงแค่ทำตามคำแนะนำของราชครู!!” จ้าวฮ่องเต้ที่เห็นหลักฐานในมือขุนนางกลับทำตาโตกล่าวถึ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 106 ชัยชนะ

    “นะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ออกไป” เยว่เล่อกล่าวออกมาอย่างสับสนพร้อมสั่งพวกมัน เขามองผีดิบที่พากันรุมเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่สนคำสั่งของเขา“เป็นอะไรไหมขอรับท่านแม่ทัพ”“ฮะ ฮุ่ยหมิง แค่กๆ” เป่ยหวงตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น ฮุ่ยหมิงตัวเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้า หรือเป็นเพียงภาพความฝันกันแน่ ทว่าสีตาของเขากลับเหมือนพวกคนคลั่ง“ข้าเองขอรับ” ฮุ่ยหมิงพยุงร่างของแม่ทัพขึ้น คิดว่าจะหนักแต่ผิดคาดตัวของท่านแม่ทัพเบากว่าที่คิด“จะ เจ้าจริงๆหรือ” เป่ยหวงถามขึ้นดวงตาพร่ามัวที่ใกล้จะปิด เขากลัวจะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น หากเฟยจินมาอยู่ตรงนี้ด้วยอีกฝ่ายคงดีใจไม่น้อย“ขอรับ” สิ้นสุดคำตอบของเขา เป่ยหวงสลบไปทันที ฮุ่ยหมิงใช้มือเช็คลมหายใจแล้วเป่าปากอย่างโล่งอก โชคดีที่ท่านแม่ทัพสลบไปเท่านั้นผลักก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status