Home / รักโบราณ / ดอกบัวในสงคราม / ตอนที่ 18 แผนร้ายเริ่มคืบคลาน

Share

ตอนที่ 18 แผนร้ายเริ่มคืบคลาน

last update Last Updated: 2024-12-24 18:44:12

          หลายวันต่อมาหลังจากท่านลุงเดินทางกลับด้วยท่าทีอิดออด คงเพราะยังอยากเล่นกับหลานสาวผู้น่ารักอย่างนาง กิจวัตรประจำวันของทารกก็ไม่มีอะไรมาก นั่งๆ นอนๆ แล้วก็กิน ส่วนท่านพ่อก็ออกไปซ่อมรั้วให้แข็งแรงขึ้น ไม่ก็ลงแปลงปลูกผักบ้าง อ้อ มีอีกอย่าง ท่านพ่อมักหยิบอาวุธกระบองที่นางแอบนำไปวางในย่ามอย่างยากลำบากก่อนเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นมาเช็ดๆถูๆอยู่ทุกวัน ดูท่าจะหวงไม่น้อย วนเวียนอยู่แบบนี้

          “ฮึบ อีกนิดลูกสาวพ่อ” 

          “แอ้ ปะ ปะ”  เหลียนฮวาเกร็งตัวเพื่อคว่ำจนหน้าดำหน้าแดง เหลือบมองท่าทีของผู้เป็นพ่อที่ลุ้นยิ่งกว่า ฮึบ ฮึบ ต้องทำให้ได้ อีกนิดเดียวเท่านั้น

          ฟุบบ

          และแล้วความพยายามก็สำเร็จผล

          ฟอดด

          “เก่งมาก”  ได้รางวัลเป็นการหอมแก้มฟอดใหญ่จากท่านพ่อที่ลุ้นจนตัวโก่ง จะมีเด็กวัยเพียง 3 เดือนกว่าที่ไหน พลิกคว่ำตัวได้แล้วบ้าง แม้จะมีพุงกลมๆเป็นอุปสรรค

          เหลียนฮวาอยากอวดพ่อเหลือเกินว่านางพลิกตัวได้ตั้งแต่วันแรกที่เกิด ทว่าหลังๆที่ไม่เห็นนางพลิกตัวโชว์เพราะนางอ้วนขึ้นเลยขี้เกียจพลิกตัว

          “ปะ ปะ หม่ำๆ” เจ้าร่างกายทารกนี่พอออกแรงหน่อยก็หิวอีกแล้ว  เหลียนฮวาบ่นในใจ 

          “หืม แต่ลูกพึ่งดื่มนมไปเอง พ่อว่า...” ท่านพ่อทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยขัด แต่มีหรือจะขัดใจเธอได้

          “หม่ำๆ ฮึก” เริ่มเบะปากเรียกคะแนนสงสารไปหนึ่งกรุป ตากลมโตมองท่านพ่ออย่างออดอ้อน

          “ก็ได้ๆ พ่อยอมแล้ว” เจียหมิงไม่เคยชนะลูกสาวตัวแสบได้เลย ชายหนุ่มเอื้อมไปหยิบขวดนมส่งให้เจ้าตัวอ้วน แอบเรียกลูกสาวในใจ อย่าไปเรียกให้นางได้ยินเชียว ประเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่

          “ถึงบ้านชายที่ชื่อเจียหมิงแล้วใช่หรือไม่” 

          “ใช่ขอรับ” เสียงแว่วๆดังจากนอกรั้ว ทำเอาพ่อลูกถึงกลับชะงัก เหลียนฮวาคลายจุกนมที่ดูดอึกใหญ่ก่อนจะเสหน้ามองไปทางประตู

          “แอ แอ” นางชวนพ่อคุย คล้ายถามว่าใครมาหรือ

          “พ่อก็ไม่รู้ ขอออกไปดูสักเดี๋ยว ลูกนอนดื่มนมอยู่นี่ก่อนนะ”  เจียหมิงคล้ายเข้าใจที่บุตรสาวพูด เขาก็สงสัยไม่ต่างกัน จึงเอาผ้ามาห่มให้นางกันหนาว แล้วเดินออกไปด้านนอก ด้วยความระแวงหรืออะไรไม่ทราบ ทำให้เขาเลือกที่จะหยิบย่ามที่มีอาวุธคู่ใจอยู่ในนั้นออกไปด้วย

          “พวกท่านมีเรื่องอันใดกับข้าหรือ”  เมื่อชายหนุ่มเดินมาถึง กลับพบว่าคนที่มาหาเป็นชายวัยกลางคนที่สวมหมวกใบสานวันนั้น เขาอยู่ในชุดทหารเต็มยศ ด้านหลังเป็นทหารที่สวมชุดไม่ต่างกัน อีก 2 นาย

          เขาเดาไว้ไม่มีผิดว่าชายวัยกลางคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนนี้ต้องมียศไม่ธรรมดา ส่วนชาวบ้านที่พาพวกเขามาหลังจากได้รับค่าตอบแทนก็รีบวิ่งหนีหายจากไปทันควัน

          “อ้าว เจ้าออกมาพอดี ขออภัยที่เสียมารยาท แต่คงต้องเริ่มจากแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้ามีนามว่า เป่ยหวง ประจำการในตำแหน่งแม่ทัพแดนตะวันออก ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องจะคุยและขอร้องเจ้า” เมื่อแนะนำตัวเสร็จ เป่ยหวงถอดหมวกออกเพื่อให้เห็นใบหน้า ค้อมศีรษะทักทาย

          เขาเลือกที่จะโพล่งออกไปตรงๆตามฉบับชายชาติทหารและเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเมืองโดยตรง

          “ชาวบ้านธรรมดาอย่างข้าคง...” เจียหมิงทำท่าหนักใจ ไม่คิดว่าจะเป็นถึงแม่ทัพ เห็นเค้าความวุ่นวายในอนาคตจึงจะปฏิเสธ ความตั้งใจของเขาเพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับบุตรสาว เลี้ยงนางให้เติบโตอย่างพ่อคนหนึ่งจะทำให้ได้

          “ข้าอยากให้เจ้าฟังเรื่องทั้งหมดก่อน”

          “งั้นคุยข้างในกันดีกว่าขอรับ” เจียหมิงชั่งใจสักครู่ พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะยอมแพ้จึงบอกให้ทุกคนเข้ามายังตัวบ้าน

         อีกด้าน

         ณ แคว้นลั่วหยาง

         ค่ายพักทหาร เขตชายแดน

          “ท่านอาจารย์ ตัวทดลองใหม่...” ฮั่วหมิงเดินเข้ามาถามผู้ที่มีศักดิ์เป็นหมอผี ที่เขานับถือเป็นอาจารย์ เนื่องจากเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กอย่างตื่นเต้น หลังจากมีคนไปรายงานถึงความประสบความสำเร็จของการทดลอง

          “ฮ่าๆ อาจารย์ผู้นี้ไม่ทำให้เจ้าผิดหวังหรอก” หมอผีนามว่าฮั่วเฉิง ร่างกายสูงใหญ่ หน้าตาเต็มไปด้วยตะปุ่มตะป่ำที่ได้ผลข้างเคียงมาจากการใช้มนต์ดำ เหลือบมองผลงานตัวเอง แล้วหัวเราะเสียงดัง ในที่สุดก็ทดลองกับคนได้สำเร็จ หลังจากต้องใช้ร่างสัตว์มานาน 

          “เมื่อไรมันจะฟื้นรึขอรับ”  ฮั่วหมิงมองไปยังร่างด้านหลัง ถึงแม้จะอยู่ในสภาพร่างกายมนุษย์แต่ก็ไม่อาจเรียกได้เต็มปาก เพราะผิวขาวซีด เส้นเลือดปูนโปน ดูน่าเกลียดน่ากลัวนั่นกำลังนอนนิ่งอยู่บนตั่งไม้

          “ถ้าเจ้าอยากให้มันฟื้น ก็ย่อมได้”

          “จริงหรือขอรับ ท่านสั่งมันได้หรือ” ฮั่วเฉิงหันมาถามอาจารย์อย่างตื่นเต้น มองร่างขาวซีดที่โดนล่ามไว้

          “หึหึ ลองหันหลังไปสิ” ฮั่วหมิงหันไปตามที่อาจารย์บอก แม้จะงุนงนว่ามันจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร

          ขวับ!

          แฮร่!

          “เฮ้ย !!” ฮั่วหมิงถึงกับอุทานลั่นอย่างตกใจ จู่ๆก็มีร่างที่ก่อนหน้านอนอยู่ ทว่าภาพที่เห็นคือมันกำลังยืนอยู่ด้านหลัง ดวงตาสีแดงก่ำมองมาที่เขาอย่างกระหายเลือด น้ำหนืดๆสีแดงหยดแหมะๆตามมุมปาก นี่มันตัวบ้าอะไรกัน

          “นำอาหารมาให้มัน!” หมอผีฮั่วเฉิงหันไปสั่งชายคนหนึ่งที่ยืนสั่นอยู่ไม่ไกล  ไม่นานชายคนนั้นก็มาพร้อมกับทาสคนหนึ่ง

          “ยะ อย่าทำอะไรข้าเลย ขะ ข้ากลัวแล้ว”  ร่างผอมโซของชายผู้โชคร้ายคนนั้นล้มลุกคลุกตามแรงลาก พลันสายตาเหลือบเห็นบางอย่าง มันได้แต่สั่นกลัว ร้องไห้ คุกเข่าอ้อนวอนเสียงสั่น น้ำตาไหลอาบหน้าฉี่ราดอาภรณ์ด้วยความหวาดกลัว 

         “รับไปสิ อาหารของแก” หมอผีไม่สนใจคำขอร้อง สั่งการเจ้าผีดิบ

         จบคำมันก็เดินเข้าไปกระชากร่างผอมโซขึ้นมา “ยะ อย่า อ๊ากกกกกกก”  ก่อนจะกระซวกเข้าไปที่ต้นคอ กัดกินเนื้อสดๆ เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย เป็นภาพที่แม้แต่แม่ทัพอย่างฮั่วหมิงยังแอบหันหน้าหนี ทว่าลึกๆก็ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ หากมีเจ้าตัวนี้ พวกศัตรูหรือใครหน้าไหนก็ทำอะไรแคว้นลั่วไม่ได้

Related chapters

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 19 ดาวไถตัวน้อยเอาคืน

    “ช่วยอย่าส่งเสียงดังด้วยนะขอรับ บุตรสาวข้า...” ระหว่างที่เจียหมิงกำลังพาทุกคนเข้ามาในบ้าน เพราะไม่อาจให้คุยกันนอกบ้านได้ เกรงว่าจะมีคนบังเอิญผ่านมาเห็นเข้า เขากำลังบอกให้ทุกคนเงียบๆ เพราะบุตรสาวเขาน่าจะกำลังนอนหลับอยู่ ทว่าพอเปิดประตูเข้าไปกลับต้องหน้าแดงก่ำ รีบวิ่งไปบังบุตรสาวไว้ เหลียนเอ๋อเล่นเขาเข้าแล้วไง “แอะ ปะ ปะ” “ฮ่าๆ ท่านอนดื่มนมของบุตรสาวเจ้า ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ” เป่ยหวงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ส่วนทหารที่เหลือ ขนาดได้ชื่อว่าเป็นพวกยิ้มยาก ยังแอบยิ้มขำ เมื่อเห็นร่างอวบอ้วนของเด็กน้อยนอนกินนมในท่าไขว้ห้าง เท้าป้อมๆกระดิกไปมา เป็นภาพแปลกตา หากฮูหยินหรือสตรีในเมืองหลวงเห็นคงต้องยกมือทาบอก อุทานอย่างตกใจเป็นแน่ นางเห็นพวกเขาที่ตัวใหญ่โตแทนที่จะตกใจ ร้องไห้อย่างเด็กทั่วไป กลับยิ้มแย้มยกมือโบกทักทายผู้เป็นพ่อ ครอบครัวนี้ช่างเปิดโลกแม่ทัพอย่างเขาดีแท้ “นะ นางแค่นอนในท่านี้แล้วสบาย ข้าไม่อยากบังคับลูก” เจียหมิงแก้ตัวแทนบุตรสาวด้วยสีหน้าเลิ่กลัก หันไปจัดท่านอนให้นางใหม่ “หึๆ ข้าเข้าใจ” เป่ยหวงมองตัวน้อยอย่างย

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 20 เปลี่ยนแผน

    และแล้วก็ถึงวันนัดหมายเดินทาง ทางการส่งแม่นมหลวงและผู้ช่วยมาอย่างละคน ทั้งสองที่เคยทำหน้าที่ดูแลแต่เด็กบ้านที่มีฐานะ อย่างเช่น ขุนนาง ตระกูลพ่อค้าร่ำรวย พอมาเห็นบ้านที่ทางการส่งพวกนางมาก็ถึงกลับชะงัก ไม่คิดว่าจะเป็นบ้านของชาวบ้านธรรมดา ด้วยความเป็นมืออาชีพไม่นานก็ทำความเข้าใจได้ โดยเฉพาะแม่นมหลวงที่รับหน้าที่เลี้ยงดูบุตรหลานของพวกมีอันจะกินมาหลายบ้าน เรียกว่าใครๆก็อยากได้ตัวนางไปเลี้ยงดูบุตรหลานให้ เพราะนอกจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาแล้ว ยังบ่งบอกถึงความร่ำรวย เป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูล ส่วนสาเหตุที่เรียกว่าแม่นมหลวง เพราะเป็นแม่นมของทางการ ไม่ใช่แค่มีเงินจะสามารถจ้างได้ แต่ต้องได้รับการยอมรับจากทางการก่อนด้วย “ไม่รู้ว่าจะต้องไปกี่วัน พ่อต้องคิดถึงเจ้ามากแน่ๆ” เจียหมิงที่กำลังเอ่ยร่ำลาบุตรสาวอาลัยอาวรณ์ รอบๆมีชาวบ้านคนอื่นมาส่ง แต่ส่วนใหญ่จะอยากรู้อยากเห็นมากกว่า เมื่อเห็นชายหลายคนมาออกันที่บ้านของเจียหมิง คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ทางการ จึงพากันกระจายข่าว ทำให้ชาวบ้านหลายคนแห่กันมายืนออที่ริมรั้ว ส่วนซูหวินและโม่โฉวที่ทราบเรื่องคร่าวๆจ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 21 ตัวทดลอง

    ยามโฉ่ว (01.00 - 02.59 น.) “ถึงแล้วหรือ” “ขอรับ พื้นที่ตรงหน้าคือชายแดน ค่ายทหารน่าจะอยู่ไม่ไกล ” มีครั้งหนึ่งในตอนที่เหลียนฮวาพึ่งคลอดใหม่ๆ เจียหมิงเคยแอบออกมาล่าสัตว์ในป่าลึกหวังจะได้สัตว์ไปขาย ซื้อน้ำนมให้บุตรสาว ด้วยความที่ตัวเองมัวแต่จดจ่อกับสัตว์ที่กำลังล่าจนไม่รู้ตัวว่าเขาเกือบข้ามเข้าไปยังเขตของแคว้นลั่วหยาง ครั้นได้ยินเสียงที่คิดว่าน่าจะเป็นทหารของทางฝั่งนั้น จึงรีบกุลีกุจอกลับหมู่บ้าน หลังจากนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะออกมาล่าบริเวณนี้คนเดียวอีกเลย กลัวว่าถ้าข้ามไปแล้วจะไม่ได้กลับมาเจอบุตรสาวอีก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีเหตุให้ต้องกลับมาอีกครั้ง “แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเฝ้าอยู่ตรงนี้ดูต้นทาง กลุ่มสองลอบเข้าไปด้านใน ข้าจะนำเอง เลี่ยงการปะทะ เข้าใจหรือไม่” “เข้าใจขอรับ” “เอ่อ แล้วข้าล่ะขอรับ” เจียหมิงโพล่งถามขึ้นมาเพราะไม่รู้ตัวเองต้องอยู่ตรงไหน ทำหน้าที่อะไรต่อจากนี้ “เจ้ารออยู่กับกลุ่มแรกที่นี่ หากได้รับสัญญาณให้วิ่งกลับไปยังทางที่เรามาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องสนใจทหารคนอื่น” ที่บอกว่าไม่ต้องสนใจ เ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 22 ศพมนุษย์

    “พบสิ่งผิดปกติอันใดหรือไม่” “ไม่ขอรับท่านแม่ทัพ” เป่ยหวงถามทหารอีกนายเสียงเครียด พวกเขาเข้ามายังถิ่นศัตรูแล้ว ทว่ายังไม่พบสิ่งปกติอะไร นอกจากการเดินลาดตระเวนอันหละหลวมของพวกทหาร ยิ่งเข้ามาด้านในค่ายเหมือนไม่ใช่ค่ายทหาร หน่วยก้านบางคนเหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่ถูกเกณฑ์มาด้วยซ้ำ ไหนจะประโยคสนทนาของพวกทหารก่อนหน้านั่นอีก “แปลกเกินไป กระจายกำลังสำรวจโดยรอบ อย่าให้โดนจับได้” “ให้ตายสิ กลิ่นบ้าอะไร เหม็นอย่างกับอะไรตาย” ทหารแคว้นจ้าวที่แอบเข้ามาสำรวจบริเวณด้านหลังสบถในใจ ทนไม่ไหวจนต้องยกมือขึ้นปิดจมูก พื้นที่ตรงนี้เหมือนจะไม่มีคนอยู่ เขาเห็นถึงความผิดปกติ เลยกะจะเข้ามาดูสักหน่อย ไม่คาดคิดว่าพอมาถึงแวบแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นเหม็น และดูเหมือนว่ายิ่งเดินเข้ามาใกล้เท่าไร กลิ่นยิ่งทวีความรุนแรง เขามองซ้ายขวาไม่เห็นใคร จึงเดินออกจากที่ซ่อน เดินตามกลิ่นก่อนจะเจอกับปากหลุมหลุมหนึ่ง เขาพยายามเพ่งมอง ทว่าด้วยความมืดทำให้ไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ด้านล่าง แต่กลิ่นที่โชยมาแตะจมูกคงไม่ใช่อะไรที่ดีแน่ หรืออาจเป็นแค่ซากสัตว์ตาย เพราะบริเวณนี้ใกล้กับ

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 23 ปะทะ

    “รายงานท่านแม่ทัพ จู่ๆทหารรอบๆก็พากันหมดสติไม่ทราบสาเหตุ” ทหารคนหนึ่งรีบเอ่ยขึ้นหลังกลับมายังจุดรวมตัว เป่ยหวงพยักหน้ารับเพราะก็เห็นถึงความผิดปกตินี้เหมือนกัน สายตาคมกริบกวาดมอง พบว่าคนในทีมยังขาดไปอีกคน “อี้ฟ่านไปไหน” เป่ยหวงถาม สายตามองหาลูกน้องอีกคน “เขายังไม่กลับมาขอรับ ข้ามาถึงเป็นคนแรก” “แย่ล่ะ รีบตามข้ามา!!” หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่คิด กรรภ์ เคล้งง ‘โธ่เอ้ย นี่มันตัวบ้าอะไร’ ชายที่มีนามว่า อี้ฟ่าน กุมบาดแผลบริเวณหน้าท้องที่โดนทำร้าย เลือดหลั่งไหลจนเปียกชุ่ม สายตาเริ่มพร่ามัว ย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนหน้า ‘ไม่ได้การ ต้องรีบไปรายงานท่านแม่ทัพ!’ อี้ฟ่านที่พบศพมนุษย์กำลังรีบตรงดิ่งเพื่อกลับไปยังจุดรวมตัว ‘หืม เหตุใดเงียบกว่าเดิม’ ทหารหนุ่มมองซ้ายขวาไม่พบศัตรูแม้แต่คนเดียว แม้แต่เสียงพูดคุยยังไม่ได้ยิน อย่างกับค่ายร้าง อี้ฟ่านเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น ฟึบบ หางตาเขาเหลือบไปเห็นเหมือนมนุษย์วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความหนาวของอากาศทำให้บรรยากาศเริ่มวังเวงมากขึ้น อี

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 24 ยาวิเศษช่วยชีวิต

    “อี้ฟ่าน เจ้าอดทนไว้” กู้หานพยุงร่างเพื่อนที่แทบประคองสติไว้ไม่อยู่ หากเลือดยังไม่หยุดไหล คาดว่าเลือดได้ออกหมดตัวแน่ มืออีกข้างยังคงถือพลุสัญญาณไว้ “กู้หาน อี้ฟ่าน เกิดอะไรขึ้น!!” เสียงฝีเท้า 6 คู่ วิ่งมาถึง ทำเอากู้หานหายใจโล่งขึ้น คนมาใหม่ขมวดคิ้วสงสัยเมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของอี้ฟ่าน “ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ท่านแม่ทัพกำลังสู้กับไอ้ตัวประหลาดอยู่” “ข้ากับอีกคนจะไปช่วยท่านแม่ทัพ ส่วนเจ้ามาช่วยดูอาการอี้ฟ่านที” ไม่มีเวลาให้ได้ถามถึงสถานการณ์อื่น ว่าจบจึงพากันรีบวิ่งไปทางที่กู้หานชี้บอก “บาดแผลสาหัสเอาการ เราต้องรีบพาเขาไปรักษา” คนพูดสีหน้าเคร่งเครียด ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล อีกทั้งยาห้ามเลือดที่นำมายังใช้แทบไม่ได้ผล “เฟยจินถึงไหนแล้ว” กู้หานถามขึ้น เฟยจิน เป็นชื่อของสายลับคนที่สอง “เขาบอกว่าตอนนี้อยู่ไกลจากที่นี่ อาจใช้เวลาเดินทาง” “แต่หากเราพาอี้ฟ่านกลับหมู่บ้านเกาซาน เขาคงทนไม่ไหวแน่” กู้หานทวีความเครียด เพราะถ้าสายลับอีกคนมาถึงอย่างน้อยยังพาไปรักษาหมู่บ้านแถวนี้ได้ “คะ แค่กๆ ปะ ไปช่วยท่าน มะ แม่ทัพเถอะ” อี้ฟ่า

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 25 คนคลั่ง

    “ท่านแม่ทัพ แฮ่กๆ เรา ถะ ถอยก่อนดีหรือไม่” ทหารนายหนึ่งที่บาดเจ็บจากการด่วนข่วนเต็มแขน สะบักสะบอม เอ่ยถามแม่ทัพที่มีสภาพไม่ต่างกัน “อึก ทุกคนถอย!” เป่ยหวงหันมองรอบๆ เห็นทหารได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งพวกมันยังไม่มีทีท่าจะเหนื่อยเลยสักนิด จึงพยักหน้ายืนยันคำสั่งถอย ไม่รู้ว่าคือตัวอะไรกันแน่ มันโจมตีตามสัญชาตญาณคล้ายสัตว์ป่ายามบ้าคลั่ง ทั้งแข็งแกร่ง ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่เหนื่อย แถมแรงยังมากกว่าคนปกติ ดาบทำอะไรพวกมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย จากตอนแรกมีแค่ตัวเดียว ไม่รู้มาเพิ่มจากไหนอีก 2 ตัว กลายเป็น 3 พวกเขาทำอะไรมันไม่ได้เลย แค่ปัดป้องยังตึงมือ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะเป็นพวกเขาที่หมดแรงเอง แฮร่ กรร ทว่าพวกมันไม่เปิดทางให้หนี ตีวงล้อมเข้ามาใกล้ คล้ายบางครั้งมันก็มีความคิด บางครั้งก็ทำตามสัญชาตญาณ เหมือนมันกำลังเล่นกับเหยื่อ หรือจะมีผู้สั่งการ แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก ใครจะไปควบคุมคนได้ ยิ่งเป็นคนคลั่งด้วยแล้ว เป่ยหวงสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัว หากว่าระหว่างนั้นเองเขากลับโดนมันโจมตีทางด้านหลัง “ท่านแม่ทัพระวัง!!” ไม่ทันได้ยินเสียงเตือน แต่แล้ว

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 26 ช่วยเหลือสายลับอีกครั้ง

    ยามอู่ (11.00 - 12.59 น.) “แผนต่อไปเราจะเอาอย่างไรกันต่อ” หนึ่งในทหารพูดเปิดประเด็น หลังจากทุกคนพักผ่อนเอาแรงกันแล้ว จึงมานั่งหารือกันกลางป่า ไม่ไกลจากค่ายศัตรูมากนัก ทว่าครั้งนี้มีสายลับคนที่สองนามว่าเฟยจินเข้าร่วมด้วย “บาดแผลพวกเจ้าเป็นไงบ้าง พร้อมสำหรับภารกิจต่อไปหรือไม่” เป่ยหวงสอบถามประเมินความพร้อมของลูกน้อง “ดีขึ้นแล้วขอรับ” อี้ฟ่านเป็นคนแรกที่เอ่ย เขานำผ้ามาพันแผลไว้เพื่อไม่ให้ทุกคนสังเกตได้ว่าตอนนี้มันสมานไปแล้ว โดยมีกู้หานคอยแสร้งมาทำแผล โปะยาให้ตลอด แล้วหันไปขยิบตากับเจียหมิงที่สะดุ้ง อย่างคนมีชะงักติดหลัง แต่ก็ยิ้มส่งให้ ‘ขอบคุณที่รักษาสัญญา’ “ส่วนของพวกข้ามีแค่รอยข่วน” “อืมม ไหวกันหรือไม่” เป่ยหวงถามพลางครุ่นคิด หากบาดเจ็บจนไม่ไหว เขาก็อยากถอยกลับไปตั้งหลักก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่ เขาเชื่อว่าสายลับคนที่ 1 ยังมีชีวิตอยู่ “ไหวขอรับ!” ทุกเสียงตอบพร้อมเพรียงกัน “เจ้าละเจียหมิง ข้าจะไม่บังคับเจ้าเช่นเดิม” “ทุกคนอยู่ ข้าก็อยู่ขอรับ” เจียหมิงพูดอย่างเด็ดเดี่ยว ร่วมเดินทางมาถึงขนาดนี้ เขาไม่อาจหนีกลับก่อนได้

    Last Updated : 2024-12-27

Latest chapter

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 55 องค์ชายปีศาจ

    “อึก ที่นี่ที่ไหนกัน” เฟลิกซ์ตื่นขึ้นมาอีกทีในที่แปลกประหลาด รอบตัวเขาเต็มไปด้วยความมืดมิด ทว่าแสงสลัวจากแสงจันทร์ที่สาดส่องทำให้ยังคงเห็นภายในห้องนอน เตียงขนาดใหญ่ รอบห้องกลับว่างเปล่า“อะ โอ้ย…” พอขยับตัวลุกขึ้น ความเจ็บปวดบริเวณศีรษะแล่นเข้ามารวดเร็วจนกุมหัวร้องออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่“องค์ชายตื่นแล้วหรือเพคะ” จู่ๆเสียงของหญิงนางหนึ่งวิ่งพรวดเข้ามาหน้าตาแตกตื่นระคนเป็นห่วง นางจุดตะเกียง รีบเข้าไปดูอาการองค์ชาย“บอกมาที่นี่ที่ไหน แล้วคุณเป็นใคร” เฟลิกซ์ยังคงกุมหัวที่เจ็บไว้ ท่าทีระแวงมองคนแปลกหน้า ถามเสียงดังลั่น ทว่าสิ่งที่เขาพึ่งรู้สึกตัวอีกอย่างคือเสียงที่เปล่งออกมาไม่ใช่เสียงของเขา ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาดูด้วยท่าทีแตกตื่น แขนขาเล็กนี่มันอะไรกัน เขามาอยู่ที่ไหนกันแน่ ความทรงจำล่าสุดที่พอจะนึกออกคือเขานอนหลับแล้วฝันไป ในฝันนั้นช่างมีความสุขเหลือเกิน เขาได้พบกับท่านแม่ นางบอกว่าเขาจะได้พบกับคนที่ตามหา หรือว่า“ฮื่อ เจ้าชายเพคะ จำแม่นมไม่ได้หรือ ใครก็ได้ตามหมอหลวงมาดูองค์ชายที” ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นแม่นมร้องอย่างแตกต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 54 ความทรงจำ

    ศตวรรษ 3053“สังหารมันซะ” เซนท์ หรือเฟลิกซ์ ซัลลิแวนสั่งเสียงเหี้ยม ดวงตาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์นิ่งเฉยแม้จะสั่งฆ่าคนเวลาผ่านไปอีก 1 ปี นับจากที่ลุงโรเบิร์ต บิดาของคนรักได้ส่งอาวุธมาให้ หลังจากนั้นเขาได้ทำสงครามกับจักรวรรดิไซเนียอย่างเต็มกำลัง ข่าวคราวจากโลกสีน้ำเงินขาดหายไปถ้านับระยะเวลาทั้งหมดก็เป็นเวลา 1 ปี แล้ว คล้ายขาดการติดต่อโดยสิ้นเชิง วันเวลาผันผ่านไปช่างยาวนานสำหรับเขา วันแล้ววันเล่าที่รอเวลากลับไปหาคนรักชายหนุ่มจับจี้เรืองแสงที่ใส่ไว้ติดตัวตลอดซึ่งเป็นของสำคัญที่เขาต้องนำไปคืนคนรัก รวมถึงแหวนตกทอดของเสด็จแม่ที่ท่านให้ไว้ก่อนสวรรคต เพื่อนำไปมอบให้เจ้าของของมัน และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง สงครามจบลงโดยที่จักรวรรดิซีอัสเป็นฝ่ายชนะสงครามโดยเขากำลังสั่งให้ทหารลงมือสังหารจักรพรรดิของไซเนียและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ แม้จะชดเชยให้กับทหารที่เสียไปไม่ได้ก็ตาม“ระ เรามาเจรจากันดีหรือไม่” เสียงสั่นกลัวพยายามเรียกร้องการเจรจา“ไม่จำเป็น”

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 53 เด็กน้อยผู้โชคร้าย

    “ฮึก ฮึก” เจียวลู่หลังจากกลับจากร่ำลาพี่ใหญ่และทุกคน แอบมานั่งร้องไห้หลังครัวคนเดียว จุดเดิมที่เขาเคยนั่งกินปลาที่พี่ใหญ่แอบย่างให้กิน เขาคิดถึงพี่ใหญ่ พี่ใหญ่เป็นคนเดียวที่ดีกับเจียวลู่จากใจจริงในบ้านหลังนี้เรื่องเกิดขึ้นหลังจากที่เจียวลู่แอบไปได้ยินว่าจางหมิ่นติดเงินพนันในตอนที่พวกผู้คุมบ่อนมาตามทวงหนี้ถึงหน้าบ้าน ช่วงนั้นไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเจียวลู่และจางหมิ่น เจียวลู่จึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมด และโดนจางหมิ่นขู่ว่าถ้านำเรื่องไปบอกใครจะจัดการเขา เด็กน้อยที่กลัวว่าจะโดนพี่สามตี จึงปิดปากเงียบ วันต่อมาจางหมิ่นตัดสินใจขอเงินนางจ้านโดยอ้างว่านำไปลงทุน นางจ้านที่เห็นดีเห็นงามกับบุตรชายให้เงินที่พึ่งได้รับมาหมาดๆไปทั้งหมด เรื่องราวเหมือนจะจบลงแค่ตรงนั้นทว่าผ่านไปเกือบเดือนจางหมิ่นกลับไปเล่นพนันอีก จนกระทั่งพวกคุมบ่อนตามมาทวงอีกรอบ คราวนี้เรื่องเลยแดงขึ้น เนื่องจากตอนนั้นทุกคนอยู่บ้านกันหมด ยกเว้นเหยาฉือที่โดนนางจ้านไล่ออกจากบ้านไปแล้ว ด้วยเงินที่ค้างไว้หลายเหรียญเงิน พวกเขาไม่สามารถหามาจ่ายได้ พวกคุมบ่อนเลยจะ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 52 ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

    “ขะ ข้าขอเวลาอีกนิด เงินจำนวนนี้ข้าต้องแบ่งจ่ายให้กับพนักงาน” เถ้าแก่ใช้จุดบอดตอนหันหลังให้พวกมัน รีบยื่นตั๋วเงิน พร้อมรับค่าธรรมเนียมมาอย่างรวดเร็ว พลางกล่าวออกไปนับตั้งแต่โดนเจ้าถิ่นเข้ามาหาเรื่อง ยอดลูกค้าก็ตกลงอย่างเห็นได้ชัด กำไรที่ได้ก็ต้องแบ่งจ่ายให้พวกมัน ทำให้บางครั้งต้องติดค่าแรงพนักงานไว้ ผัดผ่อนหลายครั้ง ควักเงินส่วนตัวออกมาจ่ายก็หลายหน จะแจ้งทางการก็กลัวอิทธิพลของพวกมันชายชราอย่างเขาทำการค้าแลกเปลี่ยนตั๋วเงินด้วยความสุจริตมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี เกรงว่าจะนำความเดือดร้อนไปสู่ลูกหลาน พวกเขาออกเรือน แยกย้ายไปสร้างครอบครัวกันหมดแล้ว ไม่มีคนหนุนหลัง มีแต่สองมือที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนต่อกรกับคนเลวพวกนี้ได้ นอกจากกล้ำกลืนฝืนทนจ่ายให้จบๆ“เห็นพวกข้าเป็นคนการกุศลงั้นรึ จ่ายมาเร็วๆ!!!” ชายร่างสูงใหญ่ตะคอกเสียงดัง มันไม่สนเหตุผล ข้ออ้างร้อยแปดอะไรทั้งนั้น วันนี้ต้องได้เงินกลับไปมอบให้กับนายท่าน“คนอย่างพวกเจ้ารู้จักคำว่ากุศลด้วยรึ” เจียหมิงตัดสินใจโพล่งออกไป แม้จะดูเสียมารยาท แต่อดไ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 51 แลกเปลี่ยนตั๋วเงิน

    “อาหย่อยยยย” เหลียนฮวาตะโกนด้วยความสุขใจ จับแก้มกลมหลับตาพริ้ม ลิ้มรสอาหารที่ท่านพ่อท่านลุงผลัดกันป้อน โรงเตี๊ยมแห่งนี้อาหารช่างเป็นเลิศ นางมองอาหารหลายจานที่ทยอยนำมาเสิร์ฟ อาหารปรุงสุกอย่างไรก็ดีกว่าอาหารสำเร็จรูปแบบในโลกก่อนนางอยู่แล้ว เสียดายบอทเต้กับโรบอทไม่จำเป็นต้องกินอาหาร ถ้าทั้งสองได้มาชิมคงจะคิดไม่ต่างกัน“โรบอทแค่เห็นเจ้านายกินก็มีความสุขแล้วขอรับ” เสียงแว่วของโรบอทดังผ่านความคิด ส่วนบอทเต้ไปปฏิบัติภารกิจที่นายท่านมอบหมายไว้อยู่ ท่านพ่อบอกว่าพวกเราไม่ต้องกลัวสายตาสงสัยของคนในหมู่บ้านอีกแล้ว สามารถใช้เงินที่หามาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้อย่างเต็มที่ ส่วนท่านลุงเองก็มีเงินเก็บเยอะขึ้น เพราะไม่ต้องมีปลิงคอยสูบเงินแถมยังออกล่าสัตว์เกือบทุกวันกับท่านพ่อ นอกจากนี้ยังมีอาชีพเสริมเป็นนายหน้านำของในมิตินางไปขาย นางแบ่งปันเงินแต่ล่ะส่วนที่ได้มาให้เท่ากันทุกคนทุกวันนี้ในกระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่ท่านพ่อซื้อให้ยังนอนอยู่ในมิติ ซึ่งเต็มไปด้วยเหรียญหนักอึ้งจนยกไม่ไหว ต้องให้พ่อกับลุงช่วยยก หลังกินข้าวเสร็จ พวกเราจะไปโรงเตี๊ยมสำหรับแลกเงินกันต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 50 โรงเตี๊ยมหมื่นลี้

    “ว้าว คนเยอะมักเจ้าก่ะ” เมื่อมาถึง ทั้งสามคนตื่นเต้น มองผู้คนในเมืองหลวงที่แต่งตัวดูดี พ่อค้าแม่ค้าข้างทาง ของขายมีเยอะจนเลือกไม่ถูก หลายคนดูเหมือนมาจากตระกูลชนชั้นสูงรถม้ามีตราสัญลักษณ์เฉพาะตระกูลวิ่งขวักไขว่ไปมา“เหลียนเอ๋อร์อยู่ใกล้ๆพ่อกับลุงเจ้าไว้นะ” เจียหมิงที่ลายตา เพราะไม่รู้จะเดินไปทางไหนดี คล้ายบ้านนอกเข้ากรุงอย่างไงอย่างงั้น“จะ เจียหมิงเราจะไปทางไหนดี” เหยาฉือสับสน ไม่เคยมาเมืองหลวงมาก่อน“อืม ข้าก็ไม่แน่ใจ คิดว่าเราไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า” เจียหมิงก็ใช่ว่าจะรู้ทาง เขาพาทุกคนสุ่มเดินไปตามทางเรื่อยๆ หากเจอร้านอาหารค่อยแวะปรึกษากันอีกครั้ง “เดี๋ยว พวกเจ้าจะเข้ามาในร้านไม่ได้” ในที่สุดพวกเขาก็เจอโรงเตี๊ยมอาหารขนาดกลางแห่งหนึ่ง ตัดสินใจพากันเดินเข้าไปหาอะไรกิน ทว่าหญิงที่คาดว่าเป็นเสี่ยวเอ้อร์เอ่ยดักทั้งสามไว้ สายตาดูถูกมองผู้มาใหม่หัวจรดเท้า แอบชะงักชั่วครู่เมื่อกี้นางรู้สึกได้ถึงสายตากดดันจากเด็กน้อย แต่สลัดความคิดลง สงสัยจะตาฝาดไปเอง“เอ่อ ที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารหรือขอรับ” เจียหมิงถามอย่างสงสัย ไม่

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 49 เดินทาง

    “เก็บของเสร็จหรือยัง” และแล้ววันเวลาก็ผ่านไป โรบอทกับบอทเต้ได้ฝึกและให้ความรู้แก่นายท่านพวกมันจนมั่นใจว่าวิชาที่มอบให้จะช่วยให้พวกเขาชนะศัตรูได้ ทั้งดาบ ธนู หอก ปืน หน้าไม้ โรบอทรับหน้าที่ฝึกให้จนชำนาญ ส่วนบอทเต้ได้มอบความรู้ด้านกลยุทธ์ แผนการและวิธีทำอาวุธใช้เอง ไม่เว้นแม้แต่ตัวอักษรของโลกใบนี้บอทเต้ก็สามารถสอนได้บัดนี้นับว่าท่านพ่อและท่านลุงของนางพร้อมสำหรับการรบแล้ว ทุกวันพวกเขาจะฝึกกันถึง 3 รอบ บริเวณหลังบ้าน เพื่อไม่ให้ใครเห็น เรียกว่าเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมานี้แทบไม่มีใครเห็นตัวท่านพ่อกับท่านลุง เนื่องจากเก็บตัวเงียบ ส่วนนางก็ไม่ออกไปเล่นที่ไหน แม้เสี่ยวหยวนจะมาชวนหลายครั้งเหลียนฮวาที่ถูกห่อตัวด้วยผ้าหนาๆคล้ายเสี่ยวเหมา แก้มแดงปลั่งเพราะอากาศหนาว นางสะพายกระเป๋าผ้าที่มีเสบียงของตัวเองไว้ด้านหลัง ส่วนท่านพ่อท่านลุงมีจำพวกของใช้ เสื้อผ้าในถุงผ้าขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน“เสดแย้ว” เหลียนฮวาชูมืออย่างดีใจ เหมือนได้ออกไปผจญภัยกับทุกคน โรบอทกับบอทเต้นางให้เข้าไปในมิติแล้ว เกรงว่าถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าจะพากันตกใจ แล้วแห่มาบ้านนางไม

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 48 เริ่มฝึก

    “แฮ่กๆ ละ ลุงต้องทำ อะ อีกกี่ครั้ง” หลี่เหยาฉือเหงื่อเปียกชุ่มเอ่ยถามหลานสาวเสียงหอบ เสื้อผ้าของเจียหมิงที่ใส่อยู่แนบลู่ติดไปกับตัว หลานสาวปลุกเขาตั้งแต่เช้าให้มาทำท่าแปลกๆที่เรียกว่าออกกำลังกาย“อีกยี่สิบครั้งเจ้าก่ะ ห้ามหยุดน้า” เหลียนฮวาให้ท่านลุงของนางทำท่าซิทอัพเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ลดไขมันบริเวณหน้าท้อง ท่าต่อไปต้องเพิ่มกล้ามแขน ส่วนท่านพ่อของนางทำครบแล้ว เพราะลดเหลือวันละเซ็ต ตอนนี้น่าจะไปส่งจดหมายให้ทางการอยู่“อ่า ฮึบ แฮ่กๆ”“18 19 20 เย้ ท่างยุงเก่งที่สุด แปะๆ” เด็กน้อยกะโดดโลดเต้นผิดกับเทรนเนอร์สุดโหดเมื่อสักครู่“แฮ่กๆ ท่าต่อไป จัดมาเลย ลุงไหว” เหยาฉือที่บ้ายอ พอโดนหลานชมเก่งที่สุดก็มีแรงฮึดสู้ ไม่หวั่นแม้จะเหนื่อยแค่ไหน เข้าทางเด็กน้อยที่รอคำนี้อยู่แล้ว เวลาหนึ่งเดือนท่านพ่อและท่านลุงของนางต้องมีซิกแพ็ค เฮ้ย มีกล้ามเนื้อ แข็งแรงพอที่จะจับปืน จับดาบต่อสู้กับพวกศัตรูได้อย่างไม่แพ้ใคร ครึ่งเดือนผ่านไปเคล้ง เคล้ง! “ย๊า เจียหมิง เจ้าอย่าได้ออมแรง” เสียงชายผิ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 47 ครอบครัว

    “ท่างป้อ ท่างยุง” เหลียนฮวาที่ตื่นนอนนานแล้ว ลุกมาพับที่นอน ใช้ฝักบัวน้อยๆรดน้ำผักรอท่านพ่อ พอได้ยินเสียงก็รีบวางทุกอย่างลงวิ่งดุกดิกเข้ามาหา พอเห็นว่าลุงมาด้วยก็ร้องเรียกอย่างดีใจ นางขมวดคิ้วมองสภาพของลุงที่เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่นเล็กน้อย ตรงหน้าท้องมีรอยเท้าชัดเจน ใครบังอาจทำท่านลุงของนาง หลงลืมเรื่องที่ตัวเองต้องไปอยู่กับท่านลุงยามพ่อไปรบชั่วขณะ “เหลียนเอ๋อร์หลานลุง” หลี่เหยาฉืมองหลานแสนรักด้วยความคิดถึง “เกิดเยื่องไรเจ้ากะ ครายทามยุง” “เข้าบ้านกันก่อนสองลุงหลาน เราค่อยมาปรึกษาเรื่องนี้กันอีกที” เจียหมิงเรียกทุกคนไปคุยในบ้าน ก่อนที่เขาจะเปรยเรื่องขึ้นมา “แล้วเจ้าจะเอาอย่างไรต่อเจียหมิง” เหยาฉือถามหลังจากพวกเขานั่งพูดคุย โดยมีเจ้าตัวน้อยตั้งใจฟังด้วย เด็กน้อยขมวดคิ้วไม่พอใจยามได้ยินเรื่องราวของท่านลุง หนอย ยายเฒ่ามหาภัย บังอาจทำร้ายท่านลุง แค้นนี้สักวันเหลียนเอ๋อร์จะชำระให้เอง “ข้าคิดมาสักแล้วว่าจะลองส่งเรื่องร้องขอทางการ หากพวกเขาไม่เห็นด้วย ข้าจะหาทางทำทุกอย่า

DMCA.com Protection Status