Home / รักโบราณ / ดอกบัวในสงคราม / ตอนที่ 20 เปลี่ยนแผน

Share

ตอนที่ 20 เปลี่ยนแผน

last update Last Updated: 2024-12-24 18:44:24

             และแล้วก็ถึงวันนัดหมายเดินทาง ทางการส่งแม่นมหลวงและผู้ช่วยมาอย่างละคน ทั้งสองที่เคยทำหน้าที่ดูแลแต่เด็กบ้านที่มีฐานะ อย่างเช่น ขุนนาง ตระกูลพ่อค้าร่ำรวย พอมาเห็นบ้านที่ทางการส่งพวกนางมาก็ถึงกลับชะงัก ไม่คิดว่าจะเป็นบ้านของชาวบ้านธรรมดา ด้วยความเป็นมืออาชีพไม่นานก็ทำความเข้าใจได้

             โดยเฉพาะแม่นมหลวงที่รับหน้าที่เลี้ยงดูบุตรหลานของพวกมีอันจะกินมาหลายบ้าน เรียกว่าใครๆก็อยากได้ตัวนางไปเลี้ยงดูบุตรหลานให้ เพราะนอกจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาแล้ว ยังบ่งบอกถึงความร่ำรวย เป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูล ส่วนสาเหตุที่เรียกว่าแม่นมหลวง เพราะเป็นแม่นมของทางการ ไม่ใช่แค่มีเงินจะสามารถจ้างได้ แต่ต้องได้รับการยอมรับจากทางการก่อนด้วย  

            “ไม่รู้ว่าจะต้องไปกี่วัน พ่อต้องคิดถึงเจ้ามากแน่ๆ”  เจียหมิงที่กำลังเอ่ยร่ำลาบุตรสาวอาลัยอาวรณ์  รอบๆมีชาวบ้านคนอื่นมาส่ง แต่ส่วนใหญ่จะอยากรู้อยากเห็นมากกว่า เมื่อเห็นชายหลายคนมาออกันที่บ้านของเจียหมิง คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ทางการ จึงพากันกระจายข่าว ทำให้ชาวบ้านหลายคนแห่กันมายืนออที่ริมรั้ว

            ส่วนซูหวินและโม่โฉวที่ทราบเรื่องคร่าวๆจากเจียหมิงว่าต้องรับหน้าที่พาทหารไปสำรวจป่า ก็อดมาส่งด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ อีกทั้งยังรับปากว่าจะช่วยดูเหลียนฮวาให้อีกแรง ส่วนสะใภ้โม่ก็พาเสี่ยวหยวนมาส่งเช่นกัน เด็กน้อยบอกกับเจียหมิงว่าจะมาเล่นกับเหลียนฮวาบ่อยๆ ทำเอาเจียหมิงยิ้มอย่างเอ็นดู และเอ่ยขอบคุณทุกคนที่มาส่ง  “ฝากดูแลบุตรสาวข้าด้วยนะขอรับ” เจียหมิงหันไปบอกกับแม่นมหลวง หญิงวัยกลางคนพยักหน้ายิ้มรับ

            “ปะ ปะ บัย” เหลียนฮวาที่แม่นมหลวงอุ้มอยู่ โบกมือให้เจียหมิง ตากลมโตมองพ่อตาละห้อย อาลัยอาวรณ์ไม่ต่างกัน ‘โชคดีนะท่านพ่อ’ นางแอบเอายาสมานแผลกับแคปซูลห้ามเลือดใส่ไว้ในย่ามให้แล้วเผื่อฉุกเฉิน หวังว่าท่านพ่อคงไม่ต้องมีเหตุให้ได้ใช้มัน  ถามว่าท่านพ่อจะทราบไหมว่ามันคืออะไร นางเชื่อท่านพ่อจะทราบเอง

            ก็นางยังพูดอธิบายเป็นประโยคไม่ได้นี่นา

            “ได้เวลาแล้ว ลุงไปก่อนนะเด็กน้อย”  เป่ยหวงเดินมาบอกเจียหมิง ก่อนจะหันไปเอ่ยเสียงเล็กเสียงน้อยกับเหลียนฮวา  ขัดกับหน้าตาโหด เต็มไปด้วยหนวดเครา โดยเขาสถาปนาตัวเองเป็นลุงแล้วเรียบร้อยตั้งแต่คุยกันรู้เรื่องครานั้น

            “แอะ บัย” ซึ่งเหลียนฮวาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โบกมือลาท่านลุงหมวกสานกับท่านพ่อหยอยๆ ไปจนลับสายตา 

            “เจ้าว่าทางนี้คือทางที่มาล่าสัตว์ครั้งก่อนรึ” เป่ยหวงเอ่ยถาม หลังจากเดินเข้าป่ามาหลายชั่วยาม เจียหมิงชี้ให้ดูจุดที่เคยเข้ามาล่าสัตว์

            “ขอรับ ครั้งก่อนพวกสัตว์จู่ๆมันก็พากันวิ่งไปอีกฝั่ง คล้ายหนีอะไรบางอย่าง” 

            “หืม ทางนั้นมัน…”  เป่ยหวงหันมองอีกด้านแล้วนึกบางอย่างได้

            “ท่านแม่ทัพ เราไม่พบร่องรอยผิดปกติเลยขอรับ”  ทหารนายหนึ่งเดินเข้ามารายงาน

            “อืม หาต่อไป อย่าลืมบอกให้จับกลุ่มกัน 2-3 คน ห้ามไปคนเดียวเด็ดขาด”  เป่ยหวงหันไปสั่งเสียงเข้ม ไม่แน่เจ้าสัตว์ประหลาดอาจจะยังหลบอยู่ในป่านี้  เจียหมิงที่ฆ่าสัตว์ประหลาดได้แต่ภาวนาขอให้หลุมที่เขาขุดฝังร่างของมันกลบลงไปให้มิด

            “เมื่อกี้เจ้าบอกว่าพวกสัตว์ป่ามันหนีจากอีกฝั่ง ไปอีกฝั่งใช่หรือไม่” 

            “ขอรับ” เจียหมิงตอบ แม้จะสงสัยว่าท่านแม่ทัพจะถามซ้ำอีกทำไม แต่พอวิเคราะห์ดีๆ ทางตรงข้ามที่สัตว์ป่าพากันหนีมา  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าน่าจะมีเจ้าสัตว์ประหลาดอยู่ พวกสัตว์จะมีสัญชาตญาณระวังภัยจึงได้พากันหนีมาอยู่อีกฝั่ง ส่วนทางด้านที่สัตว์ประหลาดมา ถ้าเขาเดาไม่ผิด ก็คือพื้นที่ติดชายแดนที่ติดกับแคว้นลั่วหยาง หรือว่า 

            “เจ้าคิดถูกแล้ว”  เป่ยหวงที่ลูบหนวดด้วยท่าครุ่นคิดเอ่ยดักเจียหมิงที่ทำหน้าตื่น คล้ายคิดอะไรบางอย่างออก ซึ่งหากให้เดาคงเป็นเรื่องที่เขาพึ่งเอะใจเมื่อสักครู่

            “จะ จริงหรือขอรับ” เจียหมิงไม่ได้พูดสิ่งที่ตัวเองคิด ลึกๆเขากลัวว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง แสดงว่าคนพวกนั้นกำลังคิดทำบางอย่าง และเลวร้ายที่สุดอาจถึงขั้นก่อสงครามได้เลย เพราะสัตว์ประหลาดตัวเดียว มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าทหารหลายสิบนาย หากเป็นแบบนั้นชาวบ้านตาดำๆคงรอดยาก แม้เขาจะไม่เคยประสบกับภัยสงครามมาก่อน แต่ก็พอรู้ว่าจะต้องเกิดความสูญเสียไม่มากก็น้อย เจียหมิงทำหน้าเป็นกังวล  เขาเป็นแค่ชาวบ้านที่อยากใช้ชีวิตกับลูกสาวแบบธรรมดาเท่านั้น

            “ทั้งจริงหรืออาจไม่จริง”  เป่ยหวงนึกชื่นชมในความมีไหวพริบของชายหนุ่ม แม้จะไม่เอ่ยออกมาตรงๆ

            “งั้นข้าก็ไม่แปลกใจแล้ว ทำไมท่านถึงออกมาสำรวจพื้นที่นี้อีกรอบ” 

           “คืนนี้เราพักกันตรงนี้ก่อน”  เป่ยหวงบอกทุกคน หลังจากพากันกระจายตัวออกสำรวจรอบป่า แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยใดๆ ส่วนเจียหมิงขอตัวออกไปทำธุระส่วนตัว

           “ท่านแม่ทัพขอรับ เหยี่ยวข่าว ส่งข้อความแจ้งว่า สายลับอีกคนติดต่อมาแล้ว” ลูกน้องฝีมือดีในกลุ่มเดินเข้ามารายงาน  หลังจากได้รับจดหมายที่ส่งโดยเหยี่ยวทหารที่ถูกฝึกมาโดยเฉพาะ

           “ติดต่อมาแล้วรึ ดีๆ” 

           “แต่ว่า...” นายทหารทำสีหน้าลำบากใจ

           “เกิดอะไรขึ้น”

           “จากรายงาน สายลับคนที่หนึ่งที่แฝงตัวอยู่ในกองทัพลั่วหยางกำลังตกอยู่ในอันตรายขอรับ” ที่เรียกว่าคนที่หนึ่ง เพราะเป็นสายลับอันดับหนึ่ง ที่ทางกองทัพเชื่อมั่นว่าหากส่งไปโอกาสรอดสูงที่สุด

           “ห๊ะ เป็นไปได้อย่างไร เขาโดนจับได้หรือ” เป่ยหวงอุทานอย่างไม่เชื่อหู สายลับที่ถูกฝึกมาอย่างดี อีกทั้งยังมีฝีมือลำดับต้นๆของกองทัพจะโดนจับได้

           “ไม่แน่ใจขอรับ เขาลองแสร้งเป็นญาติของสายลับอีกคนเพื่อเข้าไปขอพบแล้ว แต่ทหารในค่ายไม่ให้เข้าพบ พร้อมแจ้งว่าอาจตายไปแล้ว จากนั้นก็ไล่กลับ”

           “อืม พบพิรุธหลายอย่าง” เป่ยหวงรู้จักกับสายลับคนที่หนึ่ง ฝีมือไม่ธรรมดาเลยยากจะเชื่อว่าจะพลาดท่าได้ง่ายๆ

           “แล้วอีกอย่าง สายลับคนที่สองยังสังเกตเห็นร่องรอยที่แขนของทหารทุกคนมีรอยโดนกรีด” 

           “หืม รอยกรีด มีบอกถึงท่าทางหรือสีหน้าของทหารในค่ายหรือไม่” เป่ยหวงยังคงถามต่อ ทหารคนที่รายงานทำท่านึกชั่วครู่

           “บอกแค่ว่ามีท่าทางสั่นเหมือนกลัวอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลาขอรับ”  

           “เห็นทีเราจะช้าไม่ได้ ข้ามั่นใจแล้วว่าพวกนั้นกำลังซุ่มทำบางอย่าง ข้อสังเกตคือทหารในค่ายพูดว่า อาจตายไปแล้ว ทั้งที่ถ้าเห็นกับตาว่าตายจริง ต้องพูดว่าเขาตายแล้ว แสดงว่าคงไม่แน่ใจเหมือนกัน” เป่ยหวงวิเคราะห์ สีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ตามจริงเขาได้รับรายงานเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วว่าจู่ๆแคว้นลั่วหยางมาตั้งค่ายชั่วคราวใกล้ๆกับชายแดนติดกับแคว้นจ้าว  

           “เอ่อ พบปัญหาอะไรหรือไม่ขอรับ” เจียหมิงที่กลับมาจากล่าสัตว์ถามขึ้น หลังจากกลับมาเห็นสีหน้าทุกคนเคร่งเครียด

           “เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแผน...” 

           “เปลี่ยนแผน?” เจียหมิงยังคงทำสีหน้างุนงง

           “อยากถามความสมัครใจจากเจ้า จากทีแรกแผนของเราคือสำรวจป่าลึก เห็นทีว่าต้องเปลี่ยนไปสังเกตการณ์ชายแดนแทน” เป่ยหวงอธิบาย ถึงต่อให้เจียหมิงเลือกที่จะไม่ไปต่อ เขาก็จะให้ค่าจ้างเต็มจำนวนตามที่สัญญาเอาไว้

           “ชายแดนที่ติดกับแคว้นลั่วหยางนะหรือ” แม้จะแปลกใจทำไมเปลี่ยนกะทันหัน อีกทั้งสีหน้าทุกคนยังเคร่งเครียด ก่อนหน้าท่านแม่ทัพและทหารคนอื่นยังดูปกติ

           “ใช่ ขึ้นอยู่กับเจ้า เพราะข้อตกลงเราคือสำรวจป่าเท่านั้น” เป่ยหวงมองเจียหมิงที่มีสีหน้าไม่เข้าใจ ยื่นข้อเสนอให้เจียหมิงตัดสินใจเองได้เลย แม้จะเสี่ยง หากเดินทางไปโดยไม่มีคนชำนาญพื้นที่เพราะป่าแห่งนี้ไม่มีใครคุ้นชิน แต่จะให้เขาผิดคำพูดก็ไม่ได้ ทั้งยังสัญญาไว้แล้วว่าจะปลอดภัย

           ทว่าทางที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไป ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

           “ข้าจะนำทางให้เหมือนเดิม”

           “ข้าเคารพ... ห๋า เจ้าว่าอะไรนะ!” จากตอนแรกคิดว่าอย่างไรเจียหมิงก็น่าจะกลับ แต่กลับผิดคาด

           “เจ้าคิดดีแล้วรึ” ทหารอีกคนถามด้วยความสงสัย ชายคนนี้อายุมากกว่าเจียหมิงไม่กี่ปี เป็นหนึ่งในคนที่ไปบ้านของเขาวันนั้น 

           ทหารคนดังกล่าวนึกถึงเด็กน้อยที่สร้างความแปลกใจให้เขา แล้วอดจะเอ่ยถามย้ำพ่อของเด็กที่กำลังทำเรื่องที่เสี่ยงอันตรายไม่ได้  หากนางรู้ว่าพ่อของตนไปเสี่ยงอันตราย จนอาจได้รับบาดเจ็บ คงจะเศร้าใจไม่น้อย 

           “ข้าจะไปกับพวกท่าน และคิดดีแล้วขอรับ หน้าที่ของข้าคือนำทางให้ ตรงชายแดนก็นับว่าเป็นป่าเหมือนกัน ข้าแค่คิดว่าต้องทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้จบ” เจียหมิงตอบกลับทั้งสองอย่างแน่วแน่ สายตาไม่หวั่นเกรง จนทุกคนแอบนับถือกับหนุ่มชาวบ้านที่ไม่แม้จะเคยฝึกดาบคนนี้

           “เอาล่ะๆ ข้ายึดสัญญาเดิม หากเจ้าได้รับอันตราย ข้าจะช่วยเจ้าเต็มที่” 

           “ขอบคุณขอรับ จะเริ่มเดินทางตอนไหนหรือ” 

           “คืนนี้หลังจากเตรียมตัวเสร็จ อ้อ ฝากส่งเหยี่ยวข่าว แจ้งสายลับคนที่สองด้วย” ประโยคหลังเป่ยหวงหันไปสั่งนายทหารคนเดิมที่รับข่าวมา พลันคิดว่าอย่างไรก็ต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตาว่าสายลับคนที่หนึ่งยังปลอดภัยหรือไม่ หากตายต้องเห็นศพ และเพื่อความปลอดภัยจะลองไปดูลาดเลาก่อน

          ไม่รู้ทำไมลางสังหรณ์บอกว่าจะได้ทำมากกว่านั้น

Related chapters

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 21 ตัวทดลอง

    ยามโฉ่ว (01.00 - 02.59 น.) “ถึงแล้วหรือ” “ขอรับ พื้นที่ตรงหน้าคือชายแดน ค่ายทหารน่าจะอยู่ไม่ไกล ” มีครั้งหนึ่งในตอนที่เหลียนฮวาพึ่งคลอดใหม่ๆ เจียหมิงเคยแอบออกมาล่าสัตว์ในป่าลึกหวังจะได้สัตว์ไปขาย ซื้อน้ำนมให้บุตรสาว ด้วยความที่ตัวเองมัวแต่จดจ่อกับสัตว์ที่กำลังล่าจนไม่รู้ตัวว่าเขาเกือบข้ามเข้าไปยังเขตของแคว้นลั่วหยาง ครั้นได้ยินเสียงที่คิดว่าน่าจะเป็นทหารของทางฝั่งนั้น จึงรีบกุลีกุจอกลับหมู่บ้าน หลังจากนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะออกมาล่าบริเวณนี้คนเดียวอีกเลย กลัวว่าถ้าข้ามไปแล้วจะไม่ได้กลับมาเจอบุตรสาวอีก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีเหตุให้ต้องกลับมาอีกครั้ง “แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเฝ้าอยู่ตรงนี้ดูต้นทาง กลุ่มสองลอบเข้าไปด้านใน ข้าจะนำเอง เลี่ยงการปะทะ เข้าใจหรือไม่” “เข้าใจขอรับ” “เอ่อ แล้วข้าล่ะขอรับ” เจียหมิงโพล่งถามขึ้นมาเพราะไม่รู้ตัวเองต้องอยู่ตรงไหน ทำหน้าที่อะไรต่อจากนี้ “เจ้ารออยู่กับกลุ่มแรกที่นี่ หากได้รับสัญญาณให้วิ่งกลับไปยังทางที่เรามาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องสนใจทหารคนอื่น” ที่บอกว่าไม่ต้องสนใจ เ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 22 ศพมนุษย์

    “พบสิ่งผิดปกติอันใดหรือไม่” “ไม่ขอรับท่านแม่ทัพ” เป่ยหวงถามทหารอีกนายเสียงเครียด พวกเขาเข้ามายังถิ่นศัตรูแล้ว ทว่ายังไม่พบสิ่งปกติอะไร นอกจากการเดินลาดตระเวนอันหละหลวมของพวกทหาร ยิ่งเข้ามาด้านในค่ายเหมือนไม่ใช่ค่ายทหาร หน่วยก้านบางคนเหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่ถูกเกณฑ์มาด้วยซ้ำ ไหนจะประโยคสนทนาของพวกทหารก่อนหน้านั่นอีก “แปลกเกินไป กระจายกำลังสำรวจโดยรอบ อย่าให้โดนจับได้” “ให้ตายสิ กลิ่นบ้าอะไร เหม็นอย่างกับอะไรตาย” ทหารแคว้นจ้าวที่แอบเข้ามาสำรวจบริเวณด้านหลังสบถในใจ ทนไม่ไหวจนต้องยกมือขึ้นปิดจมูก พื้นที่ตรงนี้เหมือนจะไม่มีคนอยู่ เขาเห็นถึงความผิดปกติ เลยกะจะเข้ามาดูสักหน่อย ไม่คาดคิดว่าพอมาถึงแวบแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นเหม็น และดูเหมือนว่ายิ่งเดินเข้ามาใกล้เท่าไร กลิ่นยิ่งทวีความรุนแรง เขามองซ้ายขวาไม่เห็นใคร จึงเดินออกจากที่ซ่อน เดินตามกลิ่นก่อนจะเจอกับปากหลุมหลุมหนึ่ง เขาพยายามเพ่งมอง ทว่าด้วยความมืดทำให้ไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ด้านล่าง แต่กลิ่นที่โชยมาแตะจมูกคงไม่ใช่อะไรที่ดีแน่ หรืออาจเป็นแค่ซากสัตว์ตาย เพราะบริเวณนี้ใกล้กับ

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 23 ปะทะ

    “รายงานท่านแม่ทัพ จู่ๆทหารรอบๆก็พากันหมดสติไม่ทราบสาเหตุ” ทหารคนหนึ่งรีบเอ่ยขึ้นหลังกลับมายังจุดรวมตัว เป่ยหวงพยักหน้ารับเพราะก็เห็นถึงความผิดปกตินี้เหมือนกัน สายตาคมกริบกวาดมอง พบว่าคนในทีมยังขาดไปอีกคน “อี้ฟ่านไปไหน” เป่ยหวงถาม สายตามองหาลูกน้องอีกคน “เขายังไม่กลับมาขอรับ ข้ามาถึงเป็นคนแรก” “แย่ล่ะ รีบตามข้ามา!!” หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่คิด กรรภ์ เคล้งง ‘โธ่เอ้ย นี่มันตัวบ้าอะไร’ ชายที่มีนามว่า อี้ฟ่าน กุมบาดแผลบริเวณหน้าท้องที่โดนทำร้าย เลือดหลั่งไหลจนเปียกชุ่ม สายตาเริ่มพร่ามัว ย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนหน้า ‘ไม่ได้การ ต้องรีบไปรายงานท่านแม่ทัพ!’ อี้ฟ่านที่พบศพมนุษย์กำลังรีบตรงดิ่งเพื่อกลับไปยังจุดรวมตัว ‘หืม เหตุใดเงียบกว่าเดิม’ ทหารหนุ่มมองซ้ายขวาไม่พบศัตรูแม้แต่คนเดียว แม้แต่เสียงพูดคุยยังไม่ได้ยิน อย่างกับค่ายร้าง อี้ฟ่านเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น ฟึบบ หางตาเขาเหลือบไปเห็นเหมือนมนุษย์วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความหนาวของอากาศทำให้บรรยากาศเริ่มวังเวงมากขึ้น อี

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 24 ยาวิเศษช่วยชีวิต

    “อี้ฟ่าน เจ้าอดทนไว้” กู้หานพยุงร่างเพื่อนที่แทบประคองสติไว้ไม่อยู่ หากเลือดยังไม่หยุดไหล คาดว่าเลือดได้ออกหมดตัวแน่ มืออีกข้างยังคงถือพลุสัญญาณไว้ “กู้หาน อี้ฟ่าน เกิดอะไรขึ้น!!” เสียงฝีเท้า 6 คู่ วิ่งมาถึง ทำเอากู้หานหายใจโล่งขึ้น คนมาใหม่ขมวดคิ้วสงสัยเมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของอี้ฟ่าน “ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ท่านแม่ทัพกำลังสู้กับไอ้ตัวประหลาดอยู่” “ข้ากับอีกคนจะไปช่วยท่านแม่ทัพ ส่วนเจ้ามาช่วยดูอาการอี้ฟ่านที” ไม่มีเวลาให้ได้ถามถึงสถานการณ์อื่น ว่าจบจึงพากันรีบวิ่งไปทางที่กู้หานชี้บอก “บาดแผลสาหัสเอาการ เราต้องรีบพาเขาไปรักษา” คนพูดสีหน้าเคร่งเครียด ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล อีกทั้งยาห้ามเลือดที่นำมายังใช้แทบไม่ได้ผล “เฟยจินถึงไหนแล้ว” กู้หานถามขึ้น เฟยจิน เป็นชื่อของสายลับคนที่สอง “เขาบอกว่าตอนนี้อยู่ไกลจากที่นี่ อาจใช้เวลาเดินทาง” “แต่หากเราพาอี้ฟ่านกลับหมู่บ้านเกาซาน เขาคงทนไม่ไหวแน่” กู้หานทวีความเครียด เพราะถ้าสายลับอีกคนมาถึงอย่างน้อยยังพาไปรักษาหมู่บ้านแถวนี้ได้ “คะ แค่กๆ ปะ ไปช่วยท่าน มะ แม่ทัพเถอะ” อี้ฟ่า

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 25 คนคลั่ง

    “ท่านแม่ทัพ แฮ่กๆ เรา ถะ ถอยก่อนดีหรือไม่” ทหารนายหนึ่งที่บาดเจ็บจากการด่วนข่วนเต็มแขน สะบักสะบอม เอ่ยถามแม่ทัพที่มีสภาพไม่ต่างกัน “อึก ทุกคนถอย!” เป่ยหวงหันมองรอบๆ เห็นทหารได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งพวกมันยังไม่มีทีท่าจะเหนื่อยเลยสักนิด จึงพยักหน้ายืนยันคำสั่งถอย ไม่รู้ว่าคือตัวอะไรกันแน่ มันโจมตีตามสัญชาตญาณคล้ายสัตว์ป่ายามบ้าคลั่ง ทั้งแข็งแกร่ง ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่เหนื่อย แถมแรงยังมากกว่าคนปกติ ดาบทำอะไรพวกมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย จากตอนแรกมีแค่ตัวเดียว ไม่รู้มาเพิ่มจากไหนอีก 2 ตัว กลายเป็น 3 พวกเขาทำอะไรมันไม่ได้เลย แค่ปัดป้องยังตึงมือ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะเป็นพวกเขาที่หมดแรงเอง แฮร่ กรร ทว่าพวกมันไม่เปิดทางให้หนี ตีวงล้อมเข้ามาใกล้ คล้ายบางครั้งมันก็มีความคิด บางครั้งก็ทำตามสัญชาตญาณ เหมือนมันกำลังเล่นกับเหยื่อ หรือจะมีผู้สั่งการ แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก ใครจะไปควบคุมคนได้ ยิ่งเป็นคนคลั่งด้วยแล้ว เป่ยหวงสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัว หากว่าระหว่างนั้นเองเขากลับโดนมันโจมตีทางด้านหลัง “ท่านแม่ทัพระวัง!!” ไม่ทันได้ยินเสียงเตือน แต่แล้ว ฉับ ต

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 26 ช่วยเหลือสายลับอีกครั้ง

    ยามอู่ (11.00 - 12.59 น.) “แผนต่อไปเราจะเอาอย่างไรกันต่อ” หนึ่งในทหารพูดเปิดประเด็น หลังจากทุกคนพักผ่อนเอาแรงกันแล้ว จึงมานั่งหารือกันกลางป่า ไม่ไกลจากค่ายศัตรูมากนัก ทว่าครั้งนี้มีสายลับคนที่สองนามว่าเฟยจินเข้าร่วมด้วย “บาดแผลพวกเจ้าเป็นไงบ้าง พร้อมสำหรับภารกิจต่อไปหรือไม่” เป่ยหวงสอบถามประเมินความพร้อมของลูกน้อง “ดีขึ้นแล้วขอรับ” อี้ฟ่านเป็นคนแรกที่เอ่ย เขานำผ้ามาพันแผลไว้เพื่อไม่ให้ทุกคนสังเกตได้ว่าตอนนี้มันสมานไปแล้ว โดยมีกู้หานคอยแสร้งมาทำแผล โปะยาให้ตลอด แล้วหันไปขยิบตากับเจียหมิงที่สะดุ้ง อย่างคนมีชะงักติดหลัง แต่ก็ยิ้มส่งให้ ‘ขอบคุณที่รักษาสัญญา’ “ส่วนของพวกข้ามีแค่รอยข่วน” “อืมม ไหวกันหรือไม่” เป่ยหวงถามพลางครุ่นคิด หากบาดเจ็บจนไม่ไหว เขาก็อยากถอยกลับไปตั้งหลักก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่ เขาเชื่อว่าสายลับคนที่ 1 ยังมีชีวิตอยู่ “ไหวขอรับ!” ทุกเสียงตอบพร้อมเพรียงกัน “เจ้าละเจียหมิง ข้าจะไม่บังคับเจ้าเช่นเดิม” “ทุกคนอยู่ ข้าก็อยู่ขอรับ” เจียหมิงพูดอย่างเด็ดเดี่ยว ร่วมเดินทางมาถึงขนาดนี้ เขาไม่อาจหนีกลับก่อนได้

    Last Updated : 2024-12-27
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 27 สัญญา

    “หมายเลขหนึ่ง ยังไม่กลายร่างอีกหรือ” หมอผีเฒ่าเดินเข้ามาในกระโจม ยืนมองร่างที่นอนอ่อนแรงจากการขาดน้ำและอาหาร ขมวดคิ้วสงสัย ร่างกายมีเพียงแค่บริเวณศอกลงไปเท่านั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลง “ยังขอรับ” ชายชุดขาวตอบอย่างฉงนใจ มันไม่สามารถเพิ่ม ‘สิ่งนั้น’ ได้อีก เพราะหมอผีกลัวว่ามันจะรับไม่ไหว จึงได้แต่รอเวลาร่างทดลองกลายร่าง “เจ้าจะฝืนไปทำไม อย่างไรเจ้าก็ต้องกลายมาเป็นตัวทดลองที่สมบูรณ์ของข้า” หมอผีเฒ่าพูดอย่างเย้ยหยัน นับถือในความพยายามเอาชีวิตรอด แต่จะทนไปได้สักเท่าไร ร่างกายที่อ่อนแรงเช่นนี้ไม่อาจฝืนใช้ปราณได้อีกนานนักหรอก “อึก ขะ ข้ายอม ตะ ตายดีกว่า” สายลับใช้สายตาเคียดแค้นจ้องมองกลับ เขายอมอดข้าว อดน้ำ ฝืนใช้ปราณจนตาย ดีกว่ากลายเป็นสัตว์ประหลาด “ฮ่าฮ่า เข้าจะไม่ตายจนกว่าการทดลองข้าจะสำเร็จ!” ฮั่วเฉิงหัวเราะเยาะกับคำพูดนั้น ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงชายชุดขาวกับตัวทดลองอื่นที่กำลังร้องขอชีวิตด้วยความทรมาน “ทหารเหลือน้อยจนน่าตกใจ” กู้หานพูดเบาๆ หลังจากที่เข้ามายังในค่ายได้อย่างง่ายดาย คนเฝ้าด้านหน้าเหลือเพียงแค่ 2 คน จาก 4 คน นี่พวกมันไม่สง

    Last Updated : 2024-12-27
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 28 สรรพคุณแฝงของยา

    ทางด้านกู้หาน“ชายชุดขาวคล้ายบัณฑิต” กู้หานพึมพำย้ำๆเตือนความจำ สายตาก็พยายามสอดส่องหาเป้าหมาย ในคนอันน้อยนิดที่เดินไปมาในค่ายกลับไม่พบคนที่คล้ายกับที่ตามหาเลย ทั้งที่พอมาคิดดูอีกที ดึกแบบนี้ชายคนนั้นจะยังแต่งชุดขาวอยู่อีกหรือ กู้หานครุ่นคิดในเมื่อในบรรดาคนที่เดินเฝ้ายามในค่ายไม่มีใครดูคล้ายยคนที่ตามหา แสดงว่าอาจอยู่ในกระโจมใดกระโจมหนึ่ง คิดดังนั้นกู้หานจึงมุ่งหน้าไปหากระโจมที่ใกล้กับด้านหลังที่สุด เพราะอย่างไรคนที่ไอ้หมอผีชั่วมันไว้ใจถึงขนาดให้รู้เรื่องการทดลองของมัน คงไม่ปล่อยให้ไปพักไกลหูไกลตา ฝีเท้าเบาหยุดตรงกระโจมหลังหนึ่งคร่อก คร่อก~เสียงกรนดังขึ้น ขนาดอยู่ด้านนอกยังได้ยิน กู้หานค่อยๆย่างก้าวทีละก้าวเข้าไปด้านใน แม้แสงไฟจะน้อยนิดแต่ก็ยังพอเห็นคนที่นอนอยู่ เป็นชายสวมชุดขาวจริงด้วย นี่ใส่ยันตอนนอนเลยหรือกู้หานเดินสำรวจรอบๆอย่างเงียบงัน เพื่อหากุญแจ ในกระโจมของมันโล่งกว่าที่คิด ง่ายต่อการหาของ มองโดยรอบไม่เจอ งั้นแสดงว่าต้องเก็บไว้ใกล้ตัวและในที่สุดก็หาเจอ มันวางไว้ใต้หมอน โชคดีที่สอดไว้อย่างหมิ่นเหม่กับหัวพอดี จึงมองเห็นกุญแจสะท้อนกับแสงไฟที่สาดส่องเข้ามา เห็นเป็นแสงวิบวับ

    Last Updated : 2024-12-27

Latest chapter

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 5 ตลอดไป [จบบริบูรณ์]

    “อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 4 ลูกครึ่งซอมบี้

    แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 3 ลูกชายฝาแฝดตัวแสบ 

    4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 2 วันนี้ที่รอคอย

    “เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 1 สวรรค์ชั้นฟ้าหรือจะสู้ชะตากงล้อลิขิต  

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 109 จะรักตราบชั่วนิรันดร [The end]

    “พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 108 ชายาเดียว

    “อื้มม พะ พอก่อนเจ้าค่ะ แฮ่กๆ” เหลียนฮวาหลบชายคนรักที่ตะบมจูบอย่างหื่นกระหาย“เราไม่ได้สกินชิพกันมาหลายวันแล้วนะ” หยางหลงเอ่ยอย่างงอนๆ ไม่ว่าจะเดินไปไหนระหว่างพวกเขามักมีสายตาจับจ้อง ทั้งยังส่งเสียงทักทายมาให้ตลอด พอจะอยู่กันสองคนก็จะมีสายตาจับผิดของพ่อตามองมาอยู่เสมอ ทำให้เขาแทบปลีกตัวอยู่กันสองต่อสองไม่ได้เลย“ก็ใครใช้ให้พี่เป็นคนดังล่ะเจ้าคะ” เหล่าทหารหลายคนที่อยากขับรถแบบเขา จึงพากันเข้ามาพูดคุยขอให้เขาช่วยสอนขับรถ ทั้งยังพูดถึงแต่เรื่องรถ ความชอบของพวกผู้ชายหนีไม่พ้นพวกนี้เลยจริงๆ“พี่สอนพ่อตากับลุงแม่ทัพขับแล้ว พวกเขาไม่ไปถามทั้งสองบ้าง” หยางหลงพูดน้องใจอย่างไม่จริงจังนัก“คิกคิก ก็ไม่มีใครขับได้ผาดโผนเท่าพี่นี่นา” เหลียนฮวาหัวเราะขำ พวกทหารติดใจความเร็วของรถเครื่อง พอกลับไปนั่งรถม้าเริ่มพากันบ่นว่าช้าบ้าง อืดบ้าง ทั้งที่พอนั่งรถเครื่องก็พากัน

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 107 บทสรุปของเรื่องราว

    ณ พระราชวัง“พวกเจ้าจะทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้!!!” จ้าวฮ่องเต้ตะโกนลั่นอย่างไม่พอพระทัย เหล่าแม่ทัพต่างพากันจับกุมเขาและขุนนางฝ่ายสนับสนุน ใช้สายตาไม่พอใจมองไปทางแม่ทัพเลี่ยงจินที่เดิมทีมีหน้าที่ปกป้องเขา แต่กลับเข้าร่วมกับแม่ทัพคนอื่น“ฮ่องเต้ที่ละทิ้งประชาชน มิอาจดำรงอยู่ต่อไปได้หรอกพะย่ะค่ะ” เลี่ยงจินเป็นคนตอบ เขาตัดสินใจได้ทันทีหลังจากได้พูดคุยกับแม่ทัพเป่ยหวงและลู่จือ สิ่งที่แม่ทัพลู่จือพบเจอไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง“คะ ใคร ใครรายงานพวกเจ้า ข้าปิดประตูเมืองเพียงแค่รอสถานการณ์คลี่คลายเท่านั้น หากดีขึ้น...”“ฝ่าบาทมั่นใจว่าเป็นเช่นนั้นหรือพะย่ะค่ะ” เหล่าขุนนางที่ส่งจดหมายแจ้งแก่แม่ทัพเป่ยหวง พร้อมทั้งถือหลักฐานเดินเข้ามายังท้องพระโรง“พวกเจ้า ไม่จริง ข้าเพียงแค่ทำตามคำแนะนำของราชครู!!” จ้าวฮ่องเต้ที่เห็นหลักฐานในมือขุนนางกลับทำตาโตกล่าวถึ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 106 ชัยชนะ

    “นะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ออกไป” เยว่เล่อกล่าวออกมาอย่างสับสนพร้อมสั่งพวกมัน เขามองผีดิบที่พากันรุมเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่สนคำสั่งของเขา“เป็นอะไรไหมขอรับท่านแม่ทัพ”“ฮะ ฮุ่ยหมิง แค่กๆ” เป่ยหวงตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น ฮุ่ยหมิงตัวเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้า หรือเป็นเพียงภาพความฝันกันแน่ ทว่าสีตาของเขากลับเหมือนพวกคนคลั่ง“ข้าเองขอรับ” ฮุ่ยหมิงพยุงร่างของแม่ทัพขึ้น คิดว่าจะหนักแต่ผิดคาดตัวของท่านแม่ทัพเบากว่าที่คิด“จะ เจ้าจริงๆหรือ” เป่ยหวงถามขึ้นดวงตาพร่ามัวที่ใกล้จะปิด เขากลัวจะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น หากเฟยจินมาอยู่ตรงนี้ด้วยอีกฝ่ายคงดีใจไม่น้อย“ขอรับ” สิ้นสุดคำตอบของเขา เป่ยหวงสลบไปทันที ฮุ่ยหมิงใช้มือเช็คลมหายใจแล้วเป่าปากอย่างโล่งอก โชคดีที่ท่านแม่ทัพสลบไปเท่านั้นผลักก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status