Home / รักโบราณ / ดอกบัวในสงคราม / ตอนที่ 21 ตัวทดลอง

Share

ตอนที่ 21 ตัวทดลอง

last update Last Updated: 2024-12-24 18:44:31

           ยามโฉ่ว (01.00 - 02.59 น.)

           “ถึงแล้วหรือ”

           “ขอรับ พื้นที่ตรงหน้าคือชายแดน ค่ายทหารน่าจะอยู่ไม่ไกล ” มีครั้งหนึ่งในตอนที่เหลียนฮวาพึ่งคลอดใหม่ๆ เจียหมิงเคยแอบออกมาล่าสัตว์ในป่าลึกหวังจะได้สัตว์ไปขาย ซื้อน้ำนมให้บุตรสาว ด้วยความที่ตัวเองมัวแต่จดจ่อกับสัตว์ที่กำลังล่าจนไม่รู้ตัวว่าเขาเกือบข้ามเข้าไปยังเขตของแคว้นลั่วหยาง ครั้นได้ยินเสียงที่คิดว่าน่าจะเป็นทหารของทางฝั่งนั้น จึงรีบกุลีกุจอกลับหมู่บ้าน

           หลังจากนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะออกมาล่าบริเวณนี้คนเดียวอีกเลย  กลัวว่าถ้าข้ามไปแล้วจะไม่ได้กลับมาเจอบุตรสาวอีก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีเหตุให้ต้องกลับมาอีกครั้ง

           “แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเฝ้าอยู่ตรงนี้ดูต้นทาง กลุ่มสองลอบเข้าไปด้านใน ข้าจะนำเอง เลี่ยงการปะทะ เข้าใจหรือไม่”

           “เข้าใจขอรับ”

           “เอ่อ แล้วข้าล่ะขอรับ” เจียหมิงโพล่งถามขึ้นมาเพราะไม่รู้ตัวเองต้องอยู่ตรงไหน ทำหน้าที่อะไรต่อจากนี้

           “เจ้ารออยู่กับกลุ่มแรกที่นี่ หากได้รับสัญญาณให้วิ่งกลับไปยังทางที่เรามาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องสนใจทหารคนอื่น” ที่บอกว่าไม่ต้องสนใจ เพราะว่าทหารคนอื่นจะวิ่งตรงไปยังค่ายศัตรู เนื่องจากสัญญาณที่ส่งให้เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ ซึ่งทุกคนจะทราบและรู้ว่าต้องทำอย่างไร

           เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเข้าไปในค่ายศัตรูด้วย เกรงว่าตัวเขาเองจะไม่สามารถอยู่คุ้มกันใกล้ๆได้ อย่างไรชายชาติทหารที่มีชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเมืองอย่างเขา หากบาดเจ็บจนตายก็ถือว่าตายอย่างสมเกียรติ แต่ไม่ใช่กับเจียหมิง ชายหนุ่มยังมีลูกสาวให้กลับไปดูแล

           “ทำตามแผน ไปได้!!” เป่ยหวงหันไปพูดกับทหารคนอื่น ทุกคนพยักหน้าเป็นอันรู้กันก่อนจะแยกย้ายไปทำตามหน้าที่ เจียหมิงโดนทหารนายหนี่งพามาแอบซุ่มดูอยู่ห่างๆ

           “ทางนั้นมีคน” เป่ยหวงเอ่ยเตือนพลทหารอีก 2 นาย

           “เจ้าสังเกตหรือไม่ ช่วงนี้คล้ายจำนวนทหารในค่ายเราลดน้อยลงแปลกๆ” ทหารแคว้นลั่วหยางคนหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะกำลังเดินล่าตระเวณรอบๆ

           “อย่าเที่ยวพูดให้ใครได้ยิน เกรงว่าหัวจะหลุดจากบ่า” เพื่อนอีกคนมองซ้ายขวาเตือน ทั้งที่มันก็คิดไม่ต่างจากอีกฝ่าย

           “บ๊ะ ก็ที่นี่มีแค่เรา ไหนจะเรื่องที่เรียกเราไปกรีดเลือดทุกวันอีก ข้าว่า…”

           แกร็บ

           “นั่นใคร!!” บทสนทนาเป็นอันต้องชะงักลงเพราะมีคนหนึ่งในนั้นได้ยินเสียงแปลกๆ แล้วตะโกนขึ้นมา เป่ยหวงที่ส่งสายตาบอกทหารคนที่เผลอเหยียบใบไม้ให้ค่อยๆเคลื่อนตัวไปอีกทาง 

           “เจ้าหูฝาดเองแล้ว ข้าไม่ได้ยินอะไรเลย” ยังเป็นทหารที่พูดไม่หยุดคนเดิมที่ขัดขึ้น ทว่าอีกคนยังไม่ลดความระแวง  โชคดีที่ลมพัดมาพอดี เศษใบไม้ปลิวตามลม “เห็นไหม ข้าบอกแล้ว เข้าหูฟาดไปเอง”

           ทหารฝ่ายแคว้นจ้าวทุกคนได้ยินอย่างนั้นจึงพากันโล่งอก ไม่ต้องการปะทะ โดยเฉพาะในถิ่นศัตรู

           กระโจมทดลอง

           “อึก อื้อ” บนตั่งไม้หยาบ มีร่างหนึ่งดีดดิ้นด้วยความทรมาน เหงื่อผุดพราย สีหน้าแสดงความเจ็บปวด เขาโดนมัดไว้ทั่วร่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งปาก เขาพยายามดิ้นให้หลุดพันธนาการ ทว่ากลับไร้ซึ่งหนทางรอด พลันเรื่องราวตัวเองผุดขึ้นมาในความคิด เขาเป็นหนึ่งในสายลับแคว้นจ้าว ถูกส่งให้มาสืบการซ่องสุมกำลังของพวกลั่วหยาง ลอบเข้ามาสืบยังค่ายนี้ได้สำเร็จ คราแรกยังนึกแปลกใจทำไมการป้องกันของค่ายถึงหละหลวมยิ่งนัก 

           ตอนนี้กลับเข้าใจแจ่มแจ้ง พวกมันกำลังทดลองบางอย่าง ที่เขารู้เพราะจู่ๆก็ถูกเรียกให้เข้ามาในกระโจมพร้อมกับทหารอีก 4 นาย เหมือนมันสุ่มคน พอเข้ามาถึงด้วยความมืด ไม่ทันตั้งตัวก็ถูกฉีดยาบางอย่างทำให้สลบไป ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนหมดเรี่ยวแรงบนตั่งเตียง โดนปิดตา มัดมือมัดเท้า แต่ละวันได้แต่ฟังเสียงพวกมันทำบางอย่าง ได้ยินมันพูดว่าตัวทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกมันช่างโหดเหี้ยม ไม่เว้นแม้แต่ทหารของฝ่ายมัน เขาได้ยินแต่เสียงร้องอู้อี้ บ้างก็เสียงคำราม ทว่าไม่ถึง 2 ชั่วยาม เสียงนั้นก็เงียบไป

           แม้ความหวังจะริบหรี่ อย่างไรก็ต้องรอดไปให้ได้  กลับไปแจ้งข่าวแก่แม่ทัพใหญ่ ชีวิตของคนในแคว้นจ้าวไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ไม่รู้ว่ามันกำลังทดลองอะไร แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นผลดีต่อแคว้นอื่นแน่ๆ

           ฟึบบ

           แสงสาดส่องเข้าดวงตาจนสายลับที่คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาชะงัก หรี่ตาเพื่อปรับแสง มีแค่ผ้าที่ปิดตาที่โดนกระชากออกไปเท่านั้น พลันร่างของคนผู้หนึ่งแต่งชุดขาวทั้งตัว ทว่ากลับเปื้อนไปด้วยคราบเลือด กำลังทำบางอย่างกับข้อมือเขา

           จึก

           “อื้ออ”  ชายคนนั้นเอาเข็มทิ่มข้อมือเสร็จ แล้วนำบางอย่างทาไปตรงบริเวรณที่ทิ่ม หลังจากนั้นสายลับเบิกตาโพรงด้วย ความตกใจ ร่างกายร้อนเป็นไฟ คล้ายกำลังแตกพล่าน มีบางอย่างกำลังแล่นเข้ามากลืนกินตัวเขา ใจสั่นแรง เจ็บดั่งถูกไฟแผดเผา จนกระทั่งเขาตัดสินใจเดินลมปราณเพื่อขับสิ่งแปลกปลอมออก  ทว่านั่นก็ทำเอาเขาเหนื่อย เหมือนคนวิ่งมาหลายร้อยลี้

           “ท่านหมอผี ผ่านไป 1 เค่อแล้ว ร่างของตัวทดลองหมายเลข 5 ยังไม่กลายร่างขอรับ” ลูกมือของหมอผีทำหน้าสงสัยก่อนจะเอ่ยรายงาน ซึ่งตัวมันเองรับหน้าที่คอยช่วยเหลือท่านหมอผี เปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นอาวุธอันทรงพลัง มองภาพคนหลายคนที่นอนดิ้นทุรนทุรายด้วยสายตาเรียบเฉย พวกมันก็แค่มดปลวกที่จะกลายเป็นตัวทดลอง ไม่ต้องสนใจว่าจะอยู่หรือตาย ทว่าทหารผู้นี้กลับสร้างความแปลกใจให้มัน ปกติไม่ถึง 1 เค่อก็กลายร่างแล้ว แต่หลังจากนั้นจะมีชีวิตอยู่ต่อไหมก็อีกเรื่อง

           “อืมม เจ้าใช้ ‘สิ่งนั้น’ น้อยไปหรือ” หมอผีเฒ่าที่วุ่นอยู่กับร่างทดลองหมายเลข 2 อยู่ไม่ไกลเอ่ยถาม

           “ไม่ขอรับ ข้าใช้ในสัดส่วนเหมือนกับทุกคน”

           “งั้นรึ ไปๆ ข้าดูต่อเอง เจ้ารีบนำร่างตัวทดลองที่ล้มเหลวนั่นไปฝังเถอะ” หมอผียกมือไล่ลูกมืออย่างตัดรำคาญ  ชี้นิ้วไปทางร่างมนุษย์ขาวซีดที่นอนทับถมกันเป็นภูเขาขนาดย่อม กลิ่นศพเหม็นเน่าลอยคละคลุ้ง ก่อนเดินเข้ามาใกล้ร่างของสายลับที่จ้องมองทางตนอย่างเคียดแค้น “ฮ่าๆ สีหน้าดีนี่” ฮั่วหมิงหัวเราะชอบใจยามเห็นสีหน้าเหยื่อ ที่ต้องเอาผ้าปิดตาออก เพราะส่วนใหญ่จะสังเกตสีดวงตาที่จะต้องแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วย  และปกติก็มักจะเห็นแต่สายตาหวาดกลัว ไม่ก็สายตาร้องขอชีวิต ทว่าชายคนนี้กลับมีสายตาที่แข็งกร้าว

           “ถุย พะ พวกแกต้องไม่ตายดี!”

           “หึ ยังปากดีได้อยู่ ดูหน่อย เหตุใดร่างกายเจ้ายังไม่เปลี่ยนแปลง” หมอผีเฒ่าร่ายมนต์ ก่อนจะใช้มีดลงอาคมกรีดบนแขนจนเกิดบาดแผลเป็นทางยาว เลือดค่อยๆซึมไหลออกมา  มือยื่นไปหยิบของที่เรียกว่า ‘สิ่งนั้น’ มาหยดใส่บนบาดแผล

           “อึก อักก”  พลันแขนของสายลับค่อยๆเปลี่ยนเป็นขาวซีดช้าๆ เส้นเลือดผุดขึ้นคล้ายผีดิบ ทว่ากลับเป็นไปได้ช้ามาก ผิดกับมนุษย์คนอื่น ที่แค่สัมผัสผิวที่มีรอยแผลแค่เล็กน้อย ก็สามารถกลายเป็นผีดิบกระหายเลือดได้

           สายลับแม้จะเจ็บปวด แต่ความอยากรู้มีมากไม่ต่างกัน เขามองการกระทำของไอ้หมอผีวิปริต ที่แท้เจ้าสิ่งนั้นที่พวกมันพูดถึงกันก่อนหน้านี้คือเมือกเหนียวๆ ส่งกลิ่นเหม็นแทบอาเจียนที่นำมาใส่บนแผล เขาพยายามทำแบบเดิมโดยการโคจรลมปราณตัวเองให้กระจายไปทั่วร่าง ฝืนร่างกายเพื่อขับสิ่งแปลกปลอม ทว่าครั้งนี้กลับแปลกออกไป

           “ฮ่าฮ่าฮ่า เพราะแบบนี้นี่เอง” จู่ๆหมอผีเฒ่าหัวเราะลั่น หลังสังเกตเห็นการกระทำของตัวทดลองหมายเลข 5  ไม่สนใจสีหน้าแปลกใจของอีกฝ่ายเลยสักนิด “เจ้าคงสงสัยใช่หรือไม่ ทำไมวิธีที่เจ้าใช้ตอนแรกถึงใช้ไม่ได้ผล หึหึ” 

           “นะ นี่มันอะไรกัน” 

           “เจ้าเป็นวรยุทธใช่หรือไม่” หมอผีมองที่แขนข้างซ้ายที่โดนกรีดของหมายเลข 5 ก่อนจะยิ้มพึงพอใจ เชื้อไม่ได้แพร่กระจายอย่างตอนแรก ทว่ามันกลับมันกลับค่อยๆเปลี่ยนแทรกซึมทีละนิดจนไม่อาจสังเกตได้

           ดูเหมือนจะตกหนูตัวใหญ่ได้เสียแล้ว เขารู้ว่าในค่ายทหารแห่งนี้นอกจากฮั่วหมิง ไม่มีใครมีวรยุทธที่แข็งแกร่ง เพราะเลือกมากับมือว่าคนในค่ายแห่งนี้จะต้องเป็นเหยื่อของการทดลอง ฮ้องเต้จึงส่งแต่พวกทหารชั้นเลวหรือไม่ก็พวกชาวบ้านธรรมดาๆมาให้ ดังนั้นไม่มีทางที่คนที่มีวรยุทธจะปะปนมายังค่าย เว้นเสียแต่เป็นพวกสายลับจากแคว้นอื่น จะมาจากแคว้นไหนกันนะ ชักตื่นเต้นเสียแล้ว แต่ไม่ว่าจะแคว้นไหน อย่างไรแผนของเขาก็คือยึดครองทุกแคว้นอยู่แล้ว

           “กะ แกทำอะไรกับคนพวกนั้น” สายลับมีสีหน้าตื่นตระหนก แต่เพียงครู่เดียวก็เปลี่ยนเป็นเดิม และเลือกที่จะถามถึงศพมนุษย์ที่ถูกขนย้ายออกไปด้านหลังกระโจมทีละร่าง

           “ทำอะไรนะหรือ ข้าก็แค่คัดสรรมนุษย์ด้วยเจ้าสิ่งนี้”  พูดพรางยกบางอย่างขึ้นมา พบว่าเป็นเมือกที่ส่งกลิ่นเหม็น 

           “นั่นคืออะไร!” 

           “จุ๊จุ๊ ช่างน่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นกันได้ทุกคน แค่ผู้ถูกเลือกเท่านั้น” หมอผียังบรรยายต่อไป ไม่สนใจท่าทีของคนที่มองมา

Related chapters

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 22 ศพมนุษย์

    “พบสิ่งผิดปกติอันใดหรือไม่” “ไม่ขอรับท่านแม่ทัพ” เป่ยหวงถามทหารอีกนายเสียงเครียด พวกเขาเข้ามายังถิ่นศัตรูแล้ว ทว่ายังไม่พบสิ่งปกติอะไร นอกจากการเดินลาดตระเวนอันหละหลวมของพวกทหาร ยิ่งเข้ามาด้านในค่ายเหมือนไม่ใช่ค่ายทหาร หน่วยก้านบางคนเหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่ถูกเกณฑ์มาด้วยซ้ำ ไหนจะประโยคสนทนาของพวกทหารก่อนหน้านั่นอีก “แปลกเกินไป กระจายกำลังสำรวจโดยรอบ อย่าให้โดนจับได้” “ให้ตายสิ กลิ่นบ้าอะไร เหม็นอย่างกับอะไรตาย” ทหารแคว้นจ้าวที่แอบเข้ามาสำรวจบริเวณด้านหลังสบถในใจ ทนไม่ไหวจนต้องยกมือขึ้นปิดจมูก พื้นที่ตรงนี้เหมือนจะไม่มีคนอยู่ เขาเห็นถึงความผิดปกติ เลยกะจะเข้ามาดูสักหน่อย ไม่คาดคิดว่าพอมาถึงแวบแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นเหม็น และดูเหมือนว่ายิ่งเดินเข้ามาใกล้เท่าไร กลิ่นยิ่งทวีความรุนแรง เขามองซ้ายขวาไม่เห็นใคร จึงเดินออกจากที่ซ่อน เดินตามกลิ่นก่อนจะเจอกับปากหลุมหลุมหนึ่ง เขาพยายามเพ่งมอง ทว่าด้วยความมืดทำให้ไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ด้านล่าง แต่กลิ่นที่โชยมาแตะจมูกคงไม่ใช่อะไรที่ดีแน่ หรืออาจเป็นแค่ซากสัตว์ตาย เพราะบริเวณนี้ใกล้กับ

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 23 ปะทะ

    “รายงานท่านแม่ทัพ จู่ๆทหารรอบๆก็พากันหมดสติไม่ทราบสาเหตุ” ทหารคนหนึ่งรีบเอ่ยขึ้นหลังกลับมายังจุดรวมตัว เป่ยหวงพยักหน้ารับเพราะก็เห็นถึงความผิดปกตินี้เหมือนกัน สายตาคมกริบกวาดมอง พบว่าคนในทีมยังขาดไปอีกคน “อี้ฟ่านไปไหน” เป่ยหวงถาม สายตามองหาลูกน้องอีกคน “เขายังไม่กลับมาขอรับ ข้ามาถึงเป็นคนแรก” “แย่ล่ะ รีบตามข้ามา!!” หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่คิด กรรภ์ เคล้งง ‘โธ่เอ้ย นี่มันตัวบ้าอะไร’ ชายที่มีนามว่า อี้ฟ่าน กุมบาดแผลบริเวณหน้าท้องที่โดนทำร้าย เลือดหลั่งไหลจนเปียกชุ่ม สายตาเริ่มพร่ามัว ย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนหน้า ‘ไม่ได้การ ต้องรีบไปรายงานท่านแม่ทัพ!’ อี้ฟ่านที่พบศพมนุษย์กำลังรีบตรงดิ่งเพื่อกลับไปยังจุดรวมตัว ‘หืม เหตุใดเงียบกว่าเดิม’ ทหารหนุ่มมองซ้ายขวาไม่พบศัตรูแม้แต่คนเดียว แม้แต่เสียงพูดคุยยังไม่ได้ยิน อย่างกับค่ายร้าง อี้ฟ่านเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น ฟึบบ หางตาเขาเหลือบไปเห็นเหมือนมนุษย์วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความหนาวของอากาศทำให้บรรยากาศเริ่มวังเวงมากขึ้น อี

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 24 ยาวิเศษช่วยชีวิต

    “อี้ฟ่าน เจ้าอดทนไว้” กู้หานพยุงร่างเพื่อนที่แทบประคองสติไว้ไม่อยู่ หากเลือดยังไม่หยุดไหล คาดว่าเลือดได้ออกหมดตัวแน่ มืออีกข้างยังคงถือพลุสัญญาณไว้ “กู้หาน อี้ฟ่าน เกิดอะไรขึ้น!!” เสียงฝีเท้า 6 คู่ วิ่งมาถึง ทำเอากู้หานหายใจโล่งขึ้น คนมาใหม่ขมวดคิ้วสงสัยเมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของอี้ฟ่าน “ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ท่านแม่ทัพกำลังสู้กับไอ้ตัวประหลาดอยู่” “ข้ากับอีกคนจะไปช่วยท่านแม่ทัพ ส่วนเจ้ามาช่วยดูอาการอี้ฟ่านที” ไม่มีเวลาให้ได้ถามถึงสถานการณ์อื่น ว่าจบจึงพากันรีบวิ่งไปทางที่กู้หานชี้บอก “บาดแผลสาหัสเอาการ เราต้องรีบพาเขาไปรักษา” คนพูดสีหน้าเคร่งเครียด ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล อีกทั้งยาห้ามเลือดที่นำมายังใช้แทบไม่ได้ผล “เฟยจินถึงไหนแล้ว” กู้หานถามขึ้น เฟยจิน เป็นชื่อของสายลับคนที่สอง “เขาบอกว่าตอนนี้อยู่ไกลจากที่นี่ อาจใช้เวลาเดินทาง” “แต่หากเราพาอี้ฟ่านกลับหมู่บ้านเกาซาน เขาคงทนไม่ไหวแน่” กู้หานทวีความเครียด เพราะถ้าสายลับอีกคนมาถึงอย่างน้อยยังพาไปรักษาหมู่บ้านแถวนี้ได้ “คะ แค่กๆ ปะ ไปช่วยท่าน มะ แม่ทัพเถอะ” อี้ฟ่า

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 25 คนคลั่ง

    “ท่านแม่ทัพ แฮ่กๆ เรา ถะ ถอยก่อนดีหรือไม่” ทหารนายหนึ่งที่บาดเจ็บจากการด่วนข่วนเต็มแขน สะบักสะบอม เอ่ยถามแม่ทัพที่มีสภาพไม่ต่างกัน “อึก ทุกคนถอย!” เป่ยหวงหันมองรอบๆ เห็นทหารได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งพวกมันยังไม่มีทีท่าจะเหนื่อยเลยสักนิด จึงพยักหน้ายืนยันคำสั่งถอย ไม่รู้ว่าคือตัวอะไรกันแน่ มันโจมตีตามสัญชาตญาณคล้ายสัตว์ป่ายามบ้าคลั่ง ทั้งแข็งแกร่ง ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่เหนื่อย แถมแรงยังมากกว่าคนปกติ ดาบทำอะไรพวกมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย จากตอนแรกมีแค่ตัวเดียว ไม่รู้มาเพิ่มจากไหนอีก 2 ตัว กลายเป็น 3 พวกเขาทำอะไรมันไม่ได้เลย แค่ปัดป้องยังตึงมือ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะเป็นพวกเขาที่หมดแรงเอง แฮร่ กรร ทว่าพวกมันไม่เปิดทางให้หนี ตีวงล้อมเข้ามาใกล้ คล้ายบางครั้งมันก็มีความคิด บางครั้งก็ทำตามสัญชาตญาณ เหมือนมันกำลังเล่นกับเหยื่อ หรือจะมีผู้สั่งการ แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก ใครจะไปควบคุมคนได้ ยิ่งเป็นคนคลั่งด้วยแล้ว เป่ยหวงสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัว หากว่าระหว่างนั้นเองเขากลับโดนมันโจมตีทางด้านหลัง “ท่านแม่ทัพระวัง!!” ไม่ทันได้ยินเสียงเตือน แต่แล้ว ฉับ ต

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 26 ช่วยเหลือสายลับอีกครั้ง

    ยามอู่ (11.00 - 12.59 น.) “แผนต่อไปเราจะเอาอย่างไรกันต่อ” หนึ่งในทหารพูดเปิดประเด็น หลังจากทุกคนพักผ่อนเอาแรงกันแล้ว จึงมานั่งหารือกันกลางป่า ไม่ไกลจากค่ายศัตรูมากนัก ทว่าครั้งนี้มีสายลับคนที่สองนามว่าเฟยจินเข้าร่วมด้วย “บาดแผลพวกเจ้าเป็นไงบ้าง พร้อมสำหรับภารกิจต่อไปหรือไม่” เป่ยหวงสอบถามประเมินความพร้อมของลูกน้อง “ดีขึ้นแล้วขอรับ” อี้ฟ่านเป็นคนแรกที่เอ่ย เขานำผ้ามาพันแผลไว้เพื่อไม่ให้ทุกคนสังเกตได้ว่าตอนนี้มันสมานไปแล้ว โดยมีกู้หานคอยแสร้งมาทำแผล โปะยาให้ตลอด แล้วหันไปขยิบตากับเจียหมิงที่สะดุ้ง อย่างคนมีชะงักติดหลัง แต่ก็ยิ้มส่งให้ ‘ขอบคุณที่รักษาสัญญา’ “ส่วนของพวกข้ามีแค่รอยข่วน” “อืมม ไหวกันหรือไม่” เป่ยหวงถามพลางครุ่นคิด หากบาดเจ็บจนไม่ไหว เขาก็อยากถอยกลับไปตั้งหลักก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่ เขาเชื่อว่าสายลับคนที่ 1 ยังมีชีวิตอยู่ “ไหวขอรับ!” ทุกเสียงตอบพร้อมเพรียงกัน “เจ้าละเจียหมิง ข้าจะไม่บังคับเจ้าเช่นเดิม” “ทุกคนอยู่ ข้าก็อยู่ขอรับ” เจียหมิงพูดอย่างเด็ดเดี่ยว ร่วมเดินทางมาถึงขนาดนี้ เขาไม่อาจหนีกลับก่อนได้

    Last Updated : 2024-12-27
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 27 สัญญา

    “หมายเลขหนึ่ง ยังไม่กลายร่างอีกหรือ” หมอผีเฒ่าเดินเข้ามาในกระโจม ยืนมองร่างที่นอนอ่อนแรงจากการขาดน้ำและอาหาร ขมวดคิ้วสงสัย ร่างกายมีเพียงแค่บริเวณศอกลงไปเท่านั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลง “ยังขอรับ” ชายชุดขาวตอบอย่างฉงนใจ มันไม่สามารถเพิ่ม ‘สิ่งนั้น’ ได้อีก เพราะหมอผีกลัวว่ามันจะรับไม่ไหว จึงได้แต่รอเวลาร่างทดลองกลายร่าง “เจ้าจะฝืนไปทำไม อย่างไรเจ้าก็ต้องกลายมาเป็นตัวทดลองที่สมบูรณ์ของข้า” หมอผีเฒ่าพูดอย่างเย้ยหยัน นับถือในความพยายามเอาชีวิตรอด แต่จะทนไปได้สักเท่าไร ร่างกายที่อ่อนแรงเช่นนี้ไม่อาจฝืนใช้ปราณได้อีกนานนักหรอก “อึก ขะ ข้ายอม ตะ ตายดีกว่า” สายลับใช้สายตาเคียดแค้นจ้องมองกลับ เขายอมอดข้าว อดน้ำ ฝืนใช้ปราณจนตาย ดีกว่ากลายเป็นสัตว์ประหลาด “ฮ่าฮ่า เข้าจะไม่ตายจนกว่าการทดลองข้าจะสำเร็จ!” ฮั่วเฉิงหัวเราะเยาะกับคำพูดนั้น ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงชายชุดขาวกับตัวทดลองอื่นที่กำลังร้องขอชีวิตด้วยความทรมาน “ทหารเหลือน้อยจนน่าตกใจ” กู้หานพูดเบาๆ หลังจากที่เข้ามายังในค่ายได้อย่างง่ายดาย คนเฝ้าด้านหน้าเหลือเพียงแค่ 2 คน จาก 4 คน นี่พวกมันไม่สง

    Last Updated : 2024-12-27
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 28 สรรพคุณแฝงของยา

    ทางด้านกู้หาน“ชายชุดขาวคล้ายบัณฑิต” กู้หานพึมพำย้ำๆเตือนความจำ สายตาก็พยายามสอดส่องหาเป้าหมาย ในคนอันน้อยนิดที่เดินไปมาในค่ายกลับไม่พบคนที่คล้ายกับที่ตามหาเลย ทั้งที่พอมาคิดดูอีกที ดึกแบบนี้ชายคนนั้นจะยังแต่งชุดขาวอยู่อีกหรือ กู้หานครุ่นคิดในเมื่อในบรรดาคนที่เดินเฝ้ายามในค่ายไม่มีใครดูคล้ายยคนที่ตามหา แสดงว่าอาจอยู่ในกระโจมใดกระโจมหนึ่ง คิดดังนั้นกู้หานจึงมุ่งหน้าไปหากระโจมที่ใกล้กับด้านหลังที่สุด เพราะอย่างไรคนที่ไอ้หมอผีชั่วมันไว้ใจถึงขนาดให้รู้เรื่องการทดลองของมัน คงไม่ปล่อยให้ไปพักไกลหูไกลตา ฝีเท้าเบาหยุดตรงกระโจมหลังหนึ่งคร่อก คร่อก~เสียงกรนดังขึ้น ขนาดอยู่ด้านนอกยังได้ยิน กู้หานค่อยๆย่างก้าวทีละก้าวเข้าไปด้านใน แม้แสงไฟจะน้อยนิดแต่ก็ยังพอเห็นคนที่นอนอยู่ เป็นชายสวมชุดขาวจริงด้วย นี่ใส่ยันตอนนอนเลยหรือกู้หานเดินสำรวจรอบๆอย่างเงียบงัน เพื่อหากุญแจ ในกระโจมของมันโล่งกว่าที่คิด ง่ายต่อการหาของ มองโดยรอบไม่เจอ งั้นแสดงว่าต้องเก็บไว้ใกล้ตัวและในที่สุดก็หาเจอ มันวางไว้ใต้หมอน โชคดีที่สอดไว้อย่างหมิ่นเหม่กับหัวพอดี จึงมองเห็นกุญแจสะท้อนกับแสงไฟที่สาดส่องเข้ามา เห็นเป็นแสงวิบวับ

    Last Updated : 2024-12-27
  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 29 ช่วยเหลือสำเร็จ

    “ขะ ข้าอยู่ที่ไหน” ฮุ่ยหมิงสะลืมสะลือลุกขึ้น หวนนึกถึงเหตุการณ์ที่จำได้ล่าสุดเป็นตอนท่านแม่ทัพมาช่วยเขาไว้ ก่อนภาพจะตัด เขาเห็นชายสามคนกำลังรุมจ้องมาทางเข้า ด้วยอาการเบลอๆจากความอ่อนเพลียยังมึนงงว่าใครเป็นใครบ้าง“อะแฮ่มๆ เจ้าควรนอนพักก่อน อาการพึ่งดีขึ้น” อี้ฟ่านที่เอ่ยก่อน เขาสองคนกับเจียหมิงช่วยกันแก้ตัว ในสถานการณ์ก่อนหน้าเป็นพัลวัน หลังจากทหารอีกคนเริ่มเอ๊ะใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่จู่ๆคนสภาพร่อแร่ ผิวเริ่มซีด ตัวร้อนจี๋ จู่ๆอาการกลับดีขึ้นจนเห็นได้ชัด เหมือนคนหลับไปเท่านั้นหาข้ออ้างอยู่นานจนอีกฝ่ายปักใจเชื่อว่าแค่บังเอิญเพราะร่างกายตอบสนองต่อยา ดีนะที่ทหารอีกคนไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเนื่องจากไปหยิบกระบอกน้ำมาให้ เลยยังพอถูไถคำตอบไปได้ แต่ก็เล่นทั้งคู่เหงื่อแตกพลั่กๆ“นั่นอี้ฟ่านรึ”“ใช่ข้าเอง เจ้าตัวร้อนจัด พวกเราเลยต้องให้เจ้ากินยา”“จริงสิ ขะ แขน แขนข้า...” ฮุ่ยหมิงลนลานดูแขนตัวเองที่เขาใช้ปราณสกัดกั้นมันเอาไว้ตลอด ตอนเผลอหลับไปไม่รู้ว่ามันจะลามไปยังส่วนไหนบ้าง “เอ๊ะ ทะ ทำไม…”“เจ้าได้ยาดีหน่ะ” อี้ฟ่านเหล่มองเจียหมิงที่พยักหน้างึกงักเออออตาม“อ้อ ฮะ ฮ่าๆ เป็นแบบนี้นี่เอง” แม้ฮุ

    Last Updated : 2024-12-27

Latest chapter

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 5 ตลอดไป [จบบริบูรณ์]

    “อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 4 ลูกครึ่งซอมบี้

    แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 3 ลูกชายฝาแฝดตัวแสบ 

    4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 2 วันนี้ที่รอคอย

    “เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 1 สวรรค์ชั้นฟ้าหรือจะสู้ชะตากงล้อลิขิต  

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 109 จะรักตราบชั่วนิรันดร [The end]

    “พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 108 ชายาเดียว

    “อื้มม พะ พอก่อนเจ้าค่ะ แฮ่กๆ” เหลียนฮวาหลบชายคนรักที่ตะบมจูบอย่างหื่นกระหาย“เราไม่ได้สกินชิพกันมาหลายวันแล้วนะ” หยางหลงเอ่ยอย่างงอนๆ ไม่ว่าจะเดินไปไหนระหว่างพวกเขามักมีสายตาจับจ้อง ทั้งยังส่งเสียงทักทายมาให้ตลอด พอจะอยู่กันสองคนก็จะมีสายตาจับผิดของพ่อตามองมาอยู่เสมอ ทำให้เขาแทบปลีกตัวอยู่กันสองต่อสองไม่ได้เลย“ก็ใครใช้ให้พี่เป็นคนดังล่ะเจ้าคะ” เหล่าทหารหลายคนที่อยากขับรถแบบเขา จึงพากันเข้ามาพูดคุยขอให้เขาช่วยสอนขับรถ ทั้งยังพูดถึงแต่เรื่องรถ ความชอบของพวกผู้ชายหนีไม่พ้นพวกนี้เลยจริงๆ“พี่สอนพ่อตากับลุงแม่ทัพขับแล้ว พวกเขาไม่ไปถามทั้งสองบ้าง” หยางหลงพูดน้องใจอย่างไม่จริงจังนัก“คิกคิก ก็ไม่มีใครขับได้ผาดโผนเท่าพี่นี่นา” เหลียนฮวาหัวเราะขำ พวกทหารติดใจความเร็วของรถเครื่อง พอกลับไปนั่งรถม้าเริ่มพากันบ่นว่าช้าบ้าง อืดบ้าง ทั้งที่พอนั่งรถเครื่องก็พากัน

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 107 บทสรุปของเรื่องราว

    ณ พระราชวัง“พวกเจ้าจะทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้!!!” จ้าวฮ่องเต้ตะโกนลั่นอย่างไม่พอพระทัย เหล่าแม่ทัพต่างพากันจับกุมเขาและขุนนางฝ่ายสนับสนุน ใช้สายตาไม่พอใจมองไปทางแม่ทัพเลี่ยงจินที่เดิมทีมีหน้าที่ปกป้องเขา แต่กลับเข้าร่วมกับแม่ทัพคนอื่น“ฮ่องเต้ที่ละทิ้งประชาชน มิอาจดำรงอยู่ต่อไปได้หรอกพะย่ะค่ะ” เลี่ยงจินเป็นคนตอบ เขาตัดสินใจได้ทันทีหลังจากได้พูดคุยกับแม่ทัพเป่ยหวงและลู่จือ สิ่งที่แม่ทัพลู่จือพบเจอไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง“คะ ใคร ใครรายงานพวกเจ้า ข้าปิดประตูเมืองเพียงแค่รอสถานการณ์คลี่คลายเท่านั้น หากดีขึ้น...”“ฝ่าบาทมั่นใจว่าเป็นเช่นนั้นหรือพะย่ะค่ะ” เหล่าขุนนางที่ส่งจดหมายแจ้งแก่แม่ทัพเป่ยหวง พร้อมทั้งถือหลักฐานเดินเข้ามายังท้องพระโรง“พวกเจ้า ไม่จริง ข้าเพียงแค่ทำตามคำแนะนำของราชครู!!” จ้าวฮ่องเต้ที่เห็นหลักฐานในมือขุนนางกลับทำตาโตกล่าวถึ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 106 ชัยชนะ

    “นะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ออกไป” เยว่เล่อกล่าวออกมาอย่างสับสนพร้อมสั่งพวกมัน เขามองผีดิบที่พากันรุมเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่สนคำสั่งของเขา“เป็นอะไรไหมขอรับท่านแม่ทัพ”“ฮะ ฮุ่ยหมิง แค่กๆ” เป่ยหวงตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น ฮุ่ยหมิงตัวเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้า หรือเป็นเพียงภาพความฝันกันแน่ ทว่าสีตาของเขากลับเหมือนพวกคนคลั่ง“ข้าเองขอรับ” ฮุ่ยหมิงพยุงร่างของแม่ทัพขึ้น คิดว่าจะหนักแต่ผิดคาดตัวของท่านแม่ทัพเบากว่าที่คิด“จะ เจ้าจริงๆหรือ” เป่ยหวงถามขึ้นดวงตาพร่ามัวที่ใกล้จะปิด เขากลัวจะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น หากเฟยจินมาอยู่ตรงนี้ด้วยอีกฝ่ายคงดีใจไม่น้อย“ขอรับ” สิ้นสุดคำตอบของเขา เป่ยหวงสลบไปทันที ฮุ่ยหมิงใช้มือเช็คลมหายใจแล้วเป่าปากอย่างโล่งอก โชคดีที่ท่านแม่ทัพสลบไปเท่านั้นผลักก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status