แชร์

ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว
ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว
ผู้แต่ง: จิ้งเยี่ยน

บทที่ 1

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!”

“คุณหนูสามตามพวกเรากลับไปเถอะ!!”

เฟิ่งเชียนอวี่ตกใจจนฝีเท้าเคลื่อนไหวเร็วขึ้น “ข้าไม่กลับ!! ข้าไม่แต่งกับท่านอ๋องหก!!”

หนังสือสัญญาแต่งงานของฝ่าบาทระบุอย่างชัดเจน ให้พี่สาวของนางแต่งงานกับท่านอ๋องหก แล้วตอนนี้พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาบังคับนางแต่งงานแทน?

“อ๊ะ!...”

ทันใดนั้นเท้าลื่น ทั้งร่างตกลงมาจากหน้าผา!

ความรู้สึกไร้น้ำหนักสายหนึ่งถาโถมเข้ามา ใต้หน้าผามืดสนิท

ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง เฟิ่งเชียนอวี่กลัวจนสิ้นใจ

เสียงดังปัง หยดน้ำสาดกระเซ็น! ศพของนางตกลงไปในน้ำพุร้อนที่อยู่ใต้หน้าผา

ท่ามกลางไอร้อนที่พวยพุ่ง ชายคนหนึ่งแช่อยู่ในน้ำพุร้อนครึ่งตัว แผ่นหลังพิงโขดหิน จ้องผิวน้ำที่สงบไร้คลื่น จากนั้นก็ว่ายเข้าไป

น้ำอุ่นทะลักเข้าไปในปากและจมูก จู่ๆ ใบหน้าเล็กที่ไร้ปฏิกิริยาของเฟิ่งเชียนอวี่ก็ย่น และสำลักฟองน้ำ

แม่งเอ้ย ใครโยนเธอลงมาแช่น้ำเนี่ย?!

วินาทีต่อมา พละกำลังสายหนึ่งกระชากท้ายทอยของนาง ฉูดนางขึ้นมาโดยตรง!

เฟิ่งเชียนอวี่ลืมตาขึ้นอย่างสับสน

“เจ้าเป็นใคร?” ใบหน้าชายคนนี้ใสเปล่งปลั่งราวหยก คิ้วบางขมวดแน่น ดวงตาที่เหมือนผลึกแก้วจ้องนางเขม็ง มีกลิ่นอายของการพิจารณาที่เข้มข้นแฝงอยู่

เฟิ่งเชียนอวี่มองตาค้าง พูดอะไรไม่ออก

ดวงตาหงส์หลุบลง สายตาอดไม่ได้ที่จะหยุดอยู่ตรงหน้าอกอันขาวเนียนของเขา…

เห็นเพียงหน้าอกที่เปลือยเปล่าราวกับเป็นหินหยกของเขา กระเพื่อมขึ้นลงตามลมหายใจ เส้นผมยาวสีหมึกถูกขัดด้วยปิ่นหยกชิ้นหนึ่ง ปอยผมหลายจุกที่ห้อยตกลงมาพาดบนไหล่ ล่องลอยอยู่เหนือน้ำพุร้อน

เอื๊อก เฟิ่งเชียนอวี่อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

ทว่าครู่ต่อมา ลมหายใจนางชะงัก ลำคอที่เพรียวบางของนางถูกบีบอย่างแรง!

“พูด ใครส่งเจ้ามา!”

ดวงตาของเขาเปล่งแสงอันเยือกเย็น น้ำเสียงเฉยชา กลับให้ความรู้สึกที่หนาวเย็นมาก

“อ๊ะ…”

ใบหน้าเฟิ่งเชียนอวี่แดงไปถึงกกหู!

เธอก็อยากรู้เหมือนกัน!!

เธอที่เป็นดอกเตอร์สาขาแพทยศาสตร์คนหนึ่ง กำลังศึกษาความสำเร็จทางการแพทย์ล่าสุดในห้องทดลอง แค่เผลองีบหลับแพล็บเดียว ก็มาปรากฏตัวในสถานที่บ้าบอแห่งนี้แล้ว!

ริมฝีปากที่ซีดเล็กน้อยของตงฟางจิ่งเผยอขึ้น และมีประกายที่เหี้ยมเกรียมเสี้ยวหนึ่งแลบผ่านแววตา “ไม่พูด? เช่นนั้นก็อย่าโทษว่าข้าไร้ความปรานี…”

เสียงก๊อกแก๊กดังขึ้นอย่างชัดเจน มือใหญ่ที่มีข้อต่อกระดูกชัดเจนของเขาเพิ่มกำลังแรงขึ้น!

“ปล่อย ปล่อยมือ…” ลำคอของเฟิ่งเชียนอวี่เกือบโดนเขาบีบจนหักทั้งเป็น ความรู้สึกขาดอากาศสายหนึ่งพุ่งพรวดขึ้นไปที่ศีรษะ!

เสียงดังปัง เฟิ่งเชียนอวี่ถูกเขาโยนเข้าไปในน้ำพุร้อน

ภาพตรงหน้าขาวโพลง เธอกลับมาที่ห้องทดลองของเธออีกครั้ง!

หัวใจเฟิ่งเชียนอวี่เต้นรัว มือเอื้อมไปทางแอสไพรินที่วางอยู่บนโต๊ะวิจัย…

——เธอสัมผัสโดนของจริงๆ!! นี่คือทะลุมิติกลับมาแล้ว?

ทว่ายังไม่ทันได้ดีใจ จู่ๆ ก็มีน้ำทะลักเข้ามาในห้องทดลอง!

เสียงดังซ่า เฟิ่งเชียนอวี่ใช้ท่าลูกหมาตกน้ำว่ายออกมาเหนือผิวน้ำอย่างสุดชีวิต

แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้เธอต้องสิ้นหวังอีกครั้ง

ภาพตรงหน้าเป็นหน้าผาอันวังเวง บ่อน้ำพุที่มีไอร้อนพวยพุ่ง และร่างกายที่เปลือยเปล่าครึ่งท่อนของผู้ชาย…นี่มันยังอยู่ที่เดิมชัดๆ!!

เพียงแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อกี้

ตงฟางจิ่งพิงโขดหิน ใบหน้าผอมซีดเหมือนกระดาษ ย่นเข้าด้วยกัน แม้แต่มือที่วางอยู่บนริมฝั่งก็กำแน่นจนมีเส้นเอ็นปูดโปน

หนังตาเฟิ่งเชียนอวี่กระตุกทีหนึ่ง เช็ดหยดน้ำบนใบหน้าแล้วกล่าวถาม “นาย…นายเป็นอะไร?”

เห็นเพียงสีหน้าตงฟางจิ่งซีดเซียว กัดฟันแน่นจนสั่น เมื่อได้ยินเสียง เขาลืมตาจ้องไปทางผู้หญิงที่ไม่ทราบที่มาคนนี้

“ข้า…ให้หนทางรอดแก่เจ้า ไสหัวไป”

คราวนี้เฟิ่งเชียนอวี่ไม่กลัวเขาแล้ว เหลือกตามองบนไปทีหนึ่ง ก็เดินลุยน้ำอุ่นเข้าไปหาเขา “ไสหัวไป? สภาพนายจะตายมิตายแหล่ ยังจะบอกว่าให้หนทางรอดกับฉัน?”

สัญชาตญาณความเป็นหมอสั่งให้มือเฟิ่งเชียนอวี่สัมผัสข้อมือของเขา ซี้ด เย็นมาก! ทำไมตัวเขาถึงเย็นขนาดนี้?

“อย่าแตะต้อง…ข้า…”

ใบหน้าตงฟางจิ่งซีดเซียว ดวงตาที่จ้องนางกลับแดงก่ำ แม้แต่คอก็เกร็งจนมีเส้นเอ็นสีเขียวปูดขึ้น

เพียงแต่การจ้องเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นการข่มขวัญใดๆ สำหรับเฟิ่งเชียนอวี่

เฟิ่งเชียนอวี่พ่นลมออกจากจมูกดัง ‘ฮึ่ม’ ทีหนึ่ง ก็เอื้อมมือไปจับใบหน้าของเขาแรงๆ “นายสั่งให้ฉันอย่าแตะ ก็ต้องไม่แตะเลย? วันนี้ฉันจะแตะให้ได้ นายจะทำไม?”

อืม ลื่นๆ รู้สึกดีใช้ได้เลยแฮะ

มือของนางอดไม่ได้ที่จะเลื่อนไปตรงขากรรไกรล่างที่เหมือนหยกของเขา ยกใบหน้าของเขาขึ้นอย่างยิ้มแย้ม วิจารณ์ประโยคหนึ่งอย่างยียวน “อืม หน้าตาดีใช้ได้”

“เจ้ากล้า…อื้อ!” ตงฟางจิ่งกำลังจะโต้แย้งด้วยสายตาที่เกรี้ยวกราด ปากของเขากลับถูกนางยัดของทรงกลมเข้าไป!

“อย่าขยับ ไม่ได้จะทำร้ายนาย”

พลันเฟิ่งเชียนอวี่ยิ้มอย่างสวยๆ ทีหนึ่ง หลังจากยัดแอสไพรินเข้าไปในปากของเขาแล้ว ก็ใช้มืออุดริมฝีปากของเขา เพื่อไม่ให้เขาคลายออกมา

แม้ไม่รู้ว่าเขาเป็นโรคอะไรกันแน่ แต่ไม่มีทางใช้ยาแก้ปวดผิดแน่นอน

“เอ๋ เหมือนฉันจะทำเกินความจำเป็นนะ?” เฟิ่งเชียนอวี่เอียงศีรษะ กล่าวถามอย่างไร้เดียงสา “เวลาที่พิษนายกำเริบ ขยับตัวไม่ได้แต่แรกแล้วใช่หรือเปล่า?”

ดวงตาสีดำตงฟางจิ่งเยือกเย็น กลับยิ่งกัดฟันแน่นแล้ว

ถูกผู้หญิงคนนี้พูดถูก

ตอนนี้แค่เขาขยับ ก็รู้สึกว่าอวัยวะภายในถูกเข็มน้ำแข็งแทงทะลุ…

ในปากก็ไม่รู้ว่าถูกนางยัดอะไรเข้าไป แม้เขาพยายามใช้ฟันกั้นของสิ่งนั้นไว้แล้ว แต่ของสิ่งนั้นกลับค่อยๆ ละลายในปาก!!

เห็นเขาทำหน้าทั้งอายทั้งโกรธ เฟิ่งเชียนอวี่อดไม่ได้ที่จะเผยอริมฝีปากแดง แล้วลูบใบหน้าของเขาอย่างยียวนอีกครั้ง “นายอย่าตื่นเต้นสิสุดหล่อ นายหน้าตาดีขนาดนี้ ฉันจะทำร้ายนายลงได้ยังไง?”

นางกะพริบตาปริบๆ อย่างไร้เดียงสา “อืม หรือนายไม่รู้สึกว่าร่างกายของนายดีขึ้นแล้ว?”

ดวงตาสีดำตงฟางจิ่งสั่นไหวเล็กน้อย

เหมือนว่าความเย็นบนร่างกายบรรเทาลงไม่น้อย…

เฟิ่งเชียนอวี่เลิกคิ้วยิ้ม “วางใจได้ ยาอาจจะออกฤทธิ์อีกสักพัก” มองแอสไพรินที่เหลือในมือของตนเองแวบหนึ่ง ลังเลอยู่สักพัก แต่ก็ยังโยนใส่บนฝั่งให้เขา

“ถ้าหากนายเชื่อใจฉัน วันหลังถ้าพิษเหมันต์กำเริบอีกก็กินหนึ่งถึงสองเม็ด ยังไงนี่ก็เป็นยาแก้ปวด สามารถบรรเทาความเจ็บปวดของนาย”

เฟิ่งเชียนอวี่พูดไปพลาง ก็ใช้มือเท้าปีนขึ้นฝั่งไปพลาง

ลมเย็นโถมเข้ามา หนาวจนนางขนลุกซู่ เหลือบเห็นเสื้อคลุมสีเทาอ่อนบนฝั่ง ก็เอามาคลุมบนร่างกายโดยไม่ต้องคิด

ฟู่ อุ่นจัง หันกลับไปมองตงฟางจิ่งแล้วยิ้ม “นี่ เสื้อคลุมตัวนี้ก็คิดซะว่าเป็นค่ารักษาพยาบาลของฉันก็แล้วกันนะ! งั้นสุดหล่อ ฉันไปแล้วนะจ๊ะ! บ๊ายบาย…”

หญิงคนนี้จู่ๆ ก็ปรากฏตัวเหมือนแสงสีขาวสายหนึ่ง แล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

คิ้วของตงฟางจิ่งกลับยิ่งขมวดแน่นแล้ว

ค่ารักษาพยาบาล…สุดหล่อ…

ของพวกนี้มันคืออะไร?

แต่ว่า…

ตงฟางจิ่งลองขยับร่างกายดู พลันม่านตาสีดำหด…เขาขยับตัวได้แล้ว! ความเจ็บปวดบนร่างกายก็ลดลงอย่างน้อยห้าส่วน!

ที่ผ่านมาเวลาพิษเหมันต์กำเริบ เขามักจะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนสองชั่วยามถึงจะหาย แต่ตอนนี้เขากลับหายง่ายๆ ทั้งเช่นนี้?

ตงฟางจิ่งขมวดคิ้ว สายตามองกล่องยาที่เฟิ่งเชียนอวี่ทิ้งไว้บนฝั่ง

“ฮัดชิ้ว!”

เฟิ่งเชียนอวี่เดินท่ามกลางความมืด ถูกลมเย็นพัดจนขนลุกซู่

ในสมองก็ยอมรับความทรงจำของเจ้าของร่างคนเดิมอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้วิญญาณของนางข้ามมิติมาอยู่ในร่างนี้ เป็นคุณหนูสามของจวนอัครเสนาบดี

เพียงแต่คุณหนูสามคนนี้เป็นคุณหนูที่ให้กำเนิดโดยอนุภรรยา ไม่ได้มีสถานะอะไรในจวน ไม่เพียงถูกพี่สาวที่เป็นทายาทสายตรงข่มเหงรังแก แม้แต่รัชทายาทในดวงใจของนาง ก็ถูกพี่สาวสายตรงของนางแย่งไปแล้ว

ฮ่องเต้องค์ใหม่ประทานหนังสือสัญญาแต่งงาน ยกเฟิ่งหลิงหลงพี่สาวสายตรงของนางให้ท่านอ๋องหก เจ้าของร่างคนเดิมแอบปลื้มปีติ แต่หารู้ไม่ เฟิ่งหลิงหลงกลับจิตใจคับแคบ จะบังคับนางแต่งงานแทนให้ได้!

มีหรือที่เจ้าของร่างคนเดิมจะยินยอม? เมื่อได้ยินว่าแต่งกับท่านอ๋องหก ก็กลัวจนหนีออกจากจวนตระกูลเฟิ่งในคืนนั้น

“ซี้ด…”

เฟิ่งเชียนอวี่ขมวดคิ้วและเอียงศีรษะ ท่านอ๋องหกคนนี้หน้าตาอัปลักษณ์ขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่อย่างนั้นทำไมเจ้าของร่างกับเฟิ่งหลิงหลงถึงไม่ยอมแต่งล่ะ?

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status