เพียงแต่น่าเสียดายมาก ในความทรงจำของเจ้าของร่าง ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับหน้าตาของท่านอ๋องหกคนนี้ ท่านอ๋องที่ไม่มีอำนาจอย่างเขา เฟิ่งหลิงหลงไม่มองข่าวลือบอกว่าท่านอ๋องหกคนนี้เกิดมาก็มีความบกพร่องโดยกำเนิด ต้องกินยาตลอดปี งานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ในวังก็ไม่เคยเข้าร่วม เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิดอย่างตาเป็นประกาย จวนตระกูลเฟิ่งในเวลานี้ วุ่นวายไปหมดนานแล้วเฟิ่งหลิงหลงเดินวนอยู่ในห้องอย่างร้อนใจ ใบหน้าที่งดงามก็ย่นยู่เป็นซาลาเปา“จบแล้วๆ!! ตอนนี้เฟิ่งเชียนอวี่ตายแล้ว ใครจะมาช่วยข้าแต่งงานกับไอ้คนขี้โรคนั่น?” นางน้ำตาคลอเบ้า มองไปทางฮูหยินใหญ่ มารดาของนางอย่างน่าเวทนา “ท่านแม่ ข้าจะเป็นพระชายารัชทายาท จะแต่งงานกับท่านอ๋องหกไม่ได้นะ…”“หลิงหลงเจ้าใจเย็นๆ ให้แม่ลองคิดดูก่อน” ฮูหยินใหญ่รวบรวมสมาธิครุ่นคิด แต่ศีรษะแทบระเบิดเพราะเสียงเอะอะของนางนานแล้ว จะมีแผนรับมือภายใต้ความตื่นตระหนกได้อย่างไร “หรือไม่…หรือไม่ พวกเราลองไปหารือกับรัชทายาท?”เพิ่งสิ้นเสียง จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะที่ถากถางสายหนึ่งดังขึ้น “รัชทายาท? รัชทายาทชอบพี่หญิงจริงๆ หรือ?”เสียงนี้…เฟิ่งหลิงหลงแน่นหน้าอกฉับพลัน ม่านตาขยายใหญ
ตงฟางจิ่งกำผ้ามงคลไว้ เผยอมุมปากหัวเราะอย่างเย็นชา “ที่แท้เป็นเจ้า”ใบหน้าเล็กเฟิ่งเชียนอวี่แดงทันทีร้องตะโกนในใจ : ข้าไม่ใช่! ข้าเปล่า! พูดเหลวไหล!!ขากรรไกรล่างถูกเขาบีบฉับพลันเฟิ่งเชียนอวี่ถูกบังคับให้จ้องตาเขา ตงฟางจิ่งก้มมองนาง ดวงตาที่เยือกเย็นลึกไม่อาจหยั่ง “เจ้าคือเฟิ่งหลิงหลงจริงหรือ?”หัวใจเฟิ่งเชียนอวี่สั่นสะท้านความแตกแล้วหรือ?เป็นไปไม่ได้นี่นา! ตงฟางจิ่งไม่เคยพบนางกับเฟิ่งหลิงหลงจึงจะถูก!เฟิ่งเชียนอวี่ยิ้มตอบ มุมปากชาเล็กน้อย “แน่ แน่นอนสิ! เหตุใดท่านอ๋องจึงสงสัยเรื่องนี้?”ความถากถางที่มุมปากของตงฟางจิ่งยิ่งเข้มข้นแล้วเรื่องแต่งงานแทนของตระกูลเฟิ่ง ที่จริงสายลับของเขามารายงานนานแล้วเพียงแต่เขาไม่ได้ถือสามากนักผู้หญิงที่แต่งเข้ามา แซ่อะไร ชื่ออะไร ลูกสาวบ้านไหน เขาไม่ได้ใส่ใจเพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเฟิ่งเชียนอวี่ที่แต่งงานแทนคนนี้ จะเป็นผู้หญิงที่เจอใต้หน้าผาในวันนั้น…ซิ้ดเบาๆ ทีหนึ่ง มือที่บีบขากรรไกรล่างของนางค่อยๆ เปลี่ยนเป็นลูบไล้เพียงแต่มือเย็นเล็กน้อย ไร้ความอบอุ่น“ข้าแค่ได้ยินมาว่าเฟิ่งหลิงหลง คุณหนูรองจวนอัครเสนาบดีเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมใน
หน้าอกที่กระพือขึ้นลงอย่างต่อเนื่องของเขาเผยออกมาทั้งแผ่นตงฟางจิ่งหลับตา กัดฟันตำหนิด้วยความโกรธอย่างให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย “เจ้ากล้าแตะต้องข้า พรุ่งนี้เจ้าได้สวย[1]แน่!”เชอะ นางจะกลัวหรือ?“สวย? ตอนนี้ข้าก็สวยดีนะ”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคาง กะพริบตาปริบๆ อย่างไร้เดียงสา มือหยกยังคงลูบไล้อยู่บนหน้าอกของเขาเหมือนเอาคืนเมื่อสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขายิ่งแข็ง นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เหตุใดท่านอ๋องคนนี้ถึงหยอกเล่นหน่อยก็ไม่ได้เลย?แต่ว่านางไม่ได้มีเจตนาหยอกเขาเล่น หลังจากเจตนายิ้มในดวงตาลดลงไม่น้อย เฟิ่งเชียนอวี่ก็หยิบเข็มฝังเข็มที่เอามาจากห้องทดลองเมื่อครู่มาสายตาจับจ้องเส้นชีพจรหลักหลายจุดบนหน้าอกของเขา พลันพลิกฝ่ามือ ก็แทงลงไปอย่างชำนาญ!ร่างกายตงฟางจิ่งสั่นเล็กน้อย คิ้วก็ขมวดคิ้วย่นเป็นภูเขาแม่น้ำโดยไม่รู้ตัว“เจ้า…กำลังทำอะไร!”“ช่วยชีวิตท่าน” ดวงตาหงส์เฟิ่งเชียนอวี่กลับสู่ความสุขุม สีหน้าสยบ หยิบเข็มฝังเข็มขึ้นก็แทงลงไปบนหน้าผากตงฟางจิ่งมีเม็ดเหงื่อขนาดเท่าถั่วเขียวโผล่ออกมาแล้วช่วยชีวิต? เขาจะเชื่อผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร!“เจ้า หากกล้าทำอะไรไม่ดีกับข้า ข้ารับรองว่า…ทั
“สภาพนี้ของหลิงหลง เกรงว่าจะทำให้ฮองเฮาตกใจ” เฟิ่งเชียนอวี่แสร้งกะพริบตาปริบๆ อย่างน่าสังเวช “หรือไม่รอหลิงหลงเป็นผื่นหายแล้ว ค่อยไปขอขมาฮองเฮา?” “ไม่จำเป็นแล้ว”ตงฟางจิ่งหรี่ตายิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มจางๆ กลับทำให้เฟิ่งเชียนอวี่แอบตกใจ“คิดว่าเสด็จแม่ก็คงไม่สนใจรายละเอียดยิบย่อยเหล่านี้มากนัก ถ้าหากพระชายากังวลจริงๆ…”ดวงตาที่เยือกเย็นของตงฟางจิ่งขยับเล็กน้อย จู่ๆ เขาก็คว้ามือของเฟิ่งเชียนอวี่!เฟิ่งเชียนอวี่เพิ่งร้อง ‘อ๊ะ’ ผ้าไหมที่อยู่ในแขนเสื้อก็ถูกเขาแย่งไปแล้ว ครู่ต่อมา คลุมบนใบหน้านาง!เขามองตรงไปที่นาง กลิ่นอายที่ไม่อนุญาตให้แสดงความคิดเห็นสายหนึ่งแผ่ออกมาในเวลานี้ “ถ้าหากพระชายาถือสา สามารถใช้ผ้าไหมปิดผื่นแดงไว้ พระชายาคิดว่าเป็นอย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่ถูกเขาถามจนหนังตากระตุก คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องขี้โรคคนนี้จะมีแรงมากเช่นนี้ ถึงกับทำให้นางไม่กล้าโต้แย้งอีก!นางแอบร้องทุกข์ระทมในใจ กลับทำได้เพียงสวมผ้าไหมแต่โดยดี “แค่ก…ท่านอ๋อง ฉลาดหลักแหลม”ระหว่างทางเข้าวัง เฟิ่งเชียนอวี่กระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลาเฟิ่งเชียนอวี่เป็นที่เป็นลูกอนุภรรยาจวนอัครเสนาบดี ฮองเฮาย่อมไม่เคยพบนาง แ
“เจ้าหลอกข้า?”สีหน้าของเฟิ่งเชียนอวี่ไม่อาจคาดเดาได้ หน้าเขียวหน้าแดง เมื่อนึกถึงท่าทางดัดจริต หลอกลวงของตนเองที่แสดงต่อหน้าเขา อันที่จริงถูกเขาเห็นตั้งแต่แรกแล้ว เพลิงโทสะเพราะถูกทำให้กลายเป็นตัวตลกก็พลุ่งพล่านขึ้นในหัวใจ“ว่าอะไรนะ?” ตงฟางจิ่งขมวดคิ้วนางกัดฟันกรอด “ท่านรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าข้าเป็นใคร”เฮอะ ที่แท้ก็คือเรื่องนี้ตงฟางจิ่งเลิกคิ้ว ท่าทางไม่ใส่ใจ “แปลกใจมากงั้นหรือ? อย่างไรก็ตาม เจ้าโง่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะโง่เหมือนกับเจ้า”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”น่ารังเกียจ หลอกนางแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะยังด่านางอีก?เฟิ่งเชียนอวี่โมโหจนหัวร้อนทันที หรี่ตากัดฟัน พูดจาข่มขู่ทันที “ท่านอ๋อง ข้าขอเตือนท่านเอาไว้จะพูดจาหรือทำอะไรก็ควรจะให้มันพอประมาณ อย่าลืมเสียละ ว่าท่านมีความลับที่เป็นจุดอ่อนอยู่ในมือของข้า”คนทั้งโลกต่างรู้ว่าท่านอ๋องหกเป็นคนขี้โรคที่ไร้ซึ่งหนทางรักษา แต่นางรู้อยู่เต็มอกว่า เจ้าหมอนี่เพียงแค่โดนพิษเหมันต์เท่านั้น แล้วฝีมือก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วยเห็นได้ชัดว่าตงฟางจิ่งผู้นี้เก็บซ่อนความลับนี้เอาไว้มานานหลายปี ความลับที่ไม่สามารถเปิดนี้ได้ถูกนางรู้เข้าแล้ว นางสามารถใ
ทันทีที่ร่างกายของตงฟางจิ่งโงนเงน ก็ล้มลงบนที่นอนความหนาวเย็นกลุ่มหนึ่งแผ่ซ่านออกมา นางหนาวจนตัวสั่นระริกเฟิ่งเชียนอวี่แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่แท้ก็พิษเหมันต์กำเริบ มิน่าล่ะถึงได้มีท่าทางเหมือนจะตายแบบนั้น ทำให้นางคิดไปเองว่าเจอผีเสื้อชั้นในของตงฟางจิ่งได้เปียกชุ่มไปหมด จนแนบเนื้อ จากสายตาของเฟิ่งเชียนอวี่มองไป จึงสามารถมองเห็นเค้าโครงแผ่นหลังที่แข็งแกร่งและเรียบเนียนได้นางตาสว่างทันที กระแอมเบา ๆ พยุงเขาขึ้นมาด้วยท่าทางที่ไม่รู้ไม่ชี้ ฉวยโอกาสใช้มือลูบขึ้นลงแอบแต๊ะอั๋งเขาตงฟางจิ่งไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าร่างกายไม่มีความรู้สึก ใบหน้าอันหล่อเหลาแข็งทื่อ กัดฟัน กล่าวอย่างลำบาก“เจ้า บังอาจ”เฟิ่งเชียนอวี่กลอกตาใส่ ไม่ใส่ใจ ตงฟางจิ่งตอนที่พิษกำเริบก็เป็นเหมือนกับเสือกระดาษ นางจะกลัวทำไม“หื่นกระหายอะไร ท่านพิษเหมันต์กำเริบ พูดจาให้น้อยที่สุด ไม่กลัวเหนื่อยตายหรือไร”หลังจากที่นางสัมผัสจนพอใจแล้ว ทันทีที่พลิกข้อมือ ยาเม็ดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ เฟิ่งเชียนอวี่ยัดเข้าไปในปากของเขาทันที ในเวลาเดียวกันก็สงสัย“พิษเหมันต์ของท่านเพิ่งจะกำเริบเมื่อวาน เหตุใ
นี่ไม่ใช่ชีวิตที่เฟิ่งเชียนอวี่ต้องการ จำเป็นต้องหนีให้พ้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชายสมัยโบราณที่มีภรรยาหลายคน สวยงามโดดเด่น ผู้หญิงมีสถานะต่ำต้อย แต่งงานออกไปต้องให้ความสำคัญกับสามีเป็นอันดับหนึ่ง ถูกขังอยู่ในเรือน ไม่มีอิสระ นางเป็นคนยุคสมัยใหม่ จะยอมรับได้ที่ไหนกันเฟิ่งเชียนอวี่เอาแต่คิดหาทางออกในวันข้างหน้า เวลาก็ผ่านไปอีกวันแล้วเช้าวันรุ่งขึ้น นางไปที่ห้องหนังสือที่เรือนด้านหน้า เพื่อหาตงฟางจิ่ง“ท่านอ๋อง กำลังทำอะไรหรือ” นางกล่าวอย่างยิ้มแย้มตงฟางจิ่งกำลังอ่านหนังสืออยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน สวมชุดปักลายหม่างสีเงิน เข็มขัดหยกสีขาว แขนเสื้อปักลายต้นไผ่ บุคลิกเย็นยะเยือก ท่าทางเที่ยงตรง หน้าตาหล่อเหลา “มีเรื่องอันใด?”เฟิ่งเชียนอวี่เดินเข้ามา วางยาแอสไพรินเม็ดหนึ่งลงบนโต๊ะทำงาน สีหน้าจริงจัง “ครั้งก่อนยาที่ให้ท่านอ๋องไว้ ท่านอ๋องน่าจะกินหมดแล้ว ข้าเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อเอาอันใหม่มาให้”ตงฟางจิ่งหยุดชะงัก กวาดตามองยาแวบหนึ่ง ในที่สุดดวงตาที่เย็นชาก็หยุดอยู่ที่ตัวของนาง ริมฝีปากบางเผยอออก“เจ้ามีฝีมือการรักษาด้วยหรือ?”เฟิ่งเชียนอวี่โบกมืออย่างถ่อมตัว “นิดหน่อยน่า”ตงฟางจิ่งหร
ตงฟางจิ่งมองดูใบสั่งยา สีหน้ากลับมีความประหลาดใจเล็กน้อยเขากล่าวอย่างไม่มั่นใจ “นี่คือ ลายมือเจ้า?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “ถูกต้อง มีปัญหาอะไร?”ตงฟางจิ่งหัวเราะพรวดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแค่ประหลาดใจมากเท่านั้น ตัวอักษรนี่ ช่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆ”น่าเกลียดเป็นพิเศษตัวหนังสืออัปลักษณ์เช่นนี้ เกิดมาเขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกจริง ๆ ในเวลาเดียวกันในก็ยิ่งมีความสงสัยเฟิ่งเชียนอวี่นับว่าเป็นลูกอนุภรรยา แต่ก็เกิดในจวนอัครเสนาบดี แม้ว่าจะไม่ได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ควรจะเขียนหนังสือเช่นนี้ไม่มีเค้าโครงใด ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปร่างของตัวอักษร แม้แต่เด็กอายุห้าหกขวบที่เพิ่งเข้าเรียนในสถานศึกษา ก็เขียนได้สวยกว่าเฟิ่งเชียนอวี่เฟิ่งเชียนอวี่ตะลึงงันไป จากนั้นก็มีเสียงดังตูม หน้าแดงอย่างอดไม่ได้ รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อยนางเป็นคนยุคสมัยปัจจุบันคนหนึ่ง เขียนพู่กันของคนโบราณเป็นที่ไหนกัน มองเห็นชัดก็พอแล้วไม่ใช่เหรอไง จะมาจับผิดว่าตัวหนังสือสวยหรือไม่สวยทำไม?ตงฟางจิ่งสุขภาพไม่แข็งแรง จึงมีสมุนไพรติดเรือนอยู่เสมอ ยังมีห้องยาหนึ่งห้องเป็นการเ
“ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื
“รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง
ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท
“พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้
บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี
“...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้
“เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่
“เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ