ตงฟางจิ่งมองดูใบสั่งยา สีหน้ากลับมีความประหลาดใจเล็กน้อยเขากล่าวอย่างไม่มั่นใจ “นี่คือ ลายมือเจ้า?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “ถูกต้อง มีปัญหาอะไร?”ตงฟางจิ่งหัวเราะพรวดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแค่ประหลาดใจมากเท่านั้น ตัวอักษรนี่ ช่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆ”น่าเกลียดเป็นพิเศษตัวหนังสืออัปลักษณ์เช่นนี้ เกิดมาเขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกจริง ๆ ในเวลาเดียวกันในก็ยิ่งมีความสงสัยเฟิ่งเชียนอวี่นับว่าเป็นลูกอนุภรรยา แต่ก็เกิดในจวนอัครเสนาบดี แม้ว่าจะไม่ได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ควรจะเขียนหนังสือเช่นนี้ไม่มีเค้าโครงใด ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปร่างของตัวอักษร แม้แต่เด็กอายุห้าหกขวบที่เพิ่งเข้าเรียนในสถานศึกษา ก็เขียนได้สวยกว่าเฟิ่งเชียนอวี่เฟิ่งเชียนอวี่ตะลึงงันไป จากนั้นก็มีเสียงดังตูม หน้าแดงอย่างอดไม่ได้ รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อยนางเป็นคนยุคสมัยปัจจุบันคนหนึ่ง เขียนพู่กันของคนโบราณเป็นที่ไหนกัน มองเห็นชัดก็พอแล้วไม่ใช่เหรอไง จะมาจับผิดว่าตัวหนังสือสวยหรือไม่สวยทำไม?ตงฟางจิ่งสุขภาพไม่แข็งแรง จึงมีสมุนไพรติดเรือนอยู่เสมอ ยังมีห้องยาหนึ่งห้องเป็นการเ
เฟิ่งเชียนอวี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง อารมณ์ไม่ค่อย นางไม่เชื่อว่า ไอ้ผู้ชายชาติชั่วนั่นจะไม่มาขอร้องตนอีกสองสามวันข้างหน้า เฟิ่งเชียนอวี่เข้าสู่โหมดสงครามเย็นเพียงฝ่ายเดียว แต่เห็นได้ชัดเจนมาก ว่าคนที่รู้สึกทรมานก็คือนาง เวลาผ่านไปอีกสองวัน ในที่สุดนางก็อดทนไม่ไหวแล้วหลายวันมานี้ เฟิ่งเชียนอวี่ทำได้เพียงอยู่ในเรือนของจวนอ๋องทุกวัน ไม่สามารถแม้แต่ออกจากเรือน ชีวิตแบบนี้เรียกได้ว่าทนผ่านไปไม่ได้ดังนั้น นางจึงเป็นฝ่ายมาหาตงฟางจิ่งอีกครั้ง“มีธุระอันใดอีก?”ภายในห้องหนังสือ ตงฟางจิ่งยังคงอ่านหนังสือจิบชาอย่างผ่อนคลาย สุขุมเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง ในทางกลับกันเป็นเฟิ่งเชียนอวี่ที่ฉุนเฉียวเป็นพิเศษ ราวกับว่าคนที่ถูกพิษเหมันต์คือนางเฟิ่งเชียนอวี่จ้องมองเขาอย่างเย็นชา ทันใดนั้นก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ท่านอ๋อง ที่ท่านไม่ยอมเขียนหนังสือหย่า คงจะไม่ใช่เพราะว่าชอบข้าเข้าแล้วหรอกกระมัง”ตงฟางจิ่งหยุดชะงักทันที ไม่เหลือบมองแม้แต่หางตา กล่าวช้า ๆ “ไม่เจอหน้ากันไม่กี่วัน หนังหน้าของพระชายาหนาขึ้นมากกว่าเดิมนะ” น้ำเสียงที่เรียบเฉยแฝงไปด้วยความเยาะหยันถ้าอย่างนั้นนายก็เขียนสิ!เฟิ่งเชียนอว
ภายในบ่อนการพนันค่อนข้างครึกครื้น สถานที่กว้างใหญ่วางโต๊ะพนันเอาไว้มากมาย มีเกมหลากหลายประเภท ทั้งลูกเต๋า ไพ่ปายโกว พนันม้าที่ควรจะมีก็มีหมดแต่ละโต๊ะพนันต่างก็ห้อมล้อมไปด้วยผู้คน เต็มไปด้วยเสียงครื้นเครงเฟิ่งเชียนอวี่แต่งกายเหมือนคุณชายหนุ่มผู้มั่งคั่ง เมื่อเข้าประตูมาก็ดึงดูดความสนใจของผู้ดูแลได้ทันที ดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย ต่างก็พากันมองสบตากันมีแกะอ้วนตัวหนึ่งเข้ามาแล้วเมื่อเทียบกับท่าทีอันสูงส่ง ของเฟิ่งเชียนอวี่ สาวใช้ทั้งสองกลับดูเหมือนว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับศัตรูอันน่าเกรงขาม คอยยืนอยู่ข้างพระชายาของพวกนางทั้งซ้ายและขวา แล้วก้าวเดินตามไป คอยจับจ้องไปรอบๆ ด้วยใบหน้าระแวดระวังในตอนนี้ ผู้ดูแลบ่อนพนันคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ค่อยๆ โค้งกายประสานมือ “คุณชายท่านนี้ดูสง่างามไม่ธรรมดา ดูแล้วมีโชคสวรรค์สรรค์สร้าง จะลองลงเล่นสักสองตาหรือไม่?”เฟิ่งเชียนอวี่เม้มริมฝีปาก “ตกลง มีสถานที่ที่สะอาด กว่านี้หรือไม่?”“มี มีขอรับ เชิญท่านขึ้นชั้นบนได้เลย” ผู้ดูแลเดินนำทางไปด้วยความกระตือรือร้นสีหน้าของสาวใช้ทั้งสองแดงก่ำ พวกนางไม่คิดเลยว่า พระชายาไม่เพียงแต่จะเข้ามา
สาวใช้ทั้งสองเองก็ตกใจไม่น้อย ทว่าก็แสร้งทำเป็นกล้าหาญลุกขึ้นมา“พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกัน?”“พวกเจ้านี้ช่างกล้าเสียจริงๆ รู้หรือไม่ว่าคุณชายของข้าเป็นใครกัน?”หากว่าไม่เอ่ยถึงน้ำเสียงที่สั่นเหมือนตะแกรงของพวกนางแล้ว เช่นนั้นแล้วก็คงพอจะดูมีพลังอยู่บ้างเฟิ่งเชียนอวี่ดูหมดคำที่จะเอ่ยออกมาผู้ดูแลยิ้มเย็นออกมา “ข้าจะไปสนใจว่าพวกเจ้าเป็นใครไปทำไมกัน กล้าที่จะมาก่อเรื่องในบ่อนพนันซื่อไห่ของพวกเรา แล้วทำไมถึงได้ไม่สืบมาก่อนว่าเจ้านายของบ่อนพนันของพวกเราเป็นใครกัน”เขาเอ่ยออกมาพลางพร้อมมองไปทางเฟิ่งเชียนอวี่ “คุณชายท่านนี้ ท่านให้ร้ายชื่อเสียงของบ่อนพนันของพวกเราอย่างโจ่งแจ้ง ความเสียหายคราวนี้ อย่างไรเสียก็คงต้องคิดบัญชี”เฟิ่งเชียนอวี่สูดลมหายใจเข้าลึก บีบบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งขึ้นมา“เจ้าจะคิดบัญชีอย่างไร?”หญิงสาวอย่างพวกนางสามคน ตอนนี้ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยกลุ่มชายอันธพาล จะรีบพุ่งตัวออกไปคงจะเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำเมื่อครู่นี้ทว่าเฟิ่งเชียนอวี่เองก็ไม่คิดเลยว่า บ่อนการพนันแห่งนี้ทำไมถึงได้กล้าหาญเช่นนี้ การกระทำของพวกเขาไม่ต่างจากการปล้นกันแบบโจ่งแจ้ง แล้ว
สีหน้าของผู้ดูแลเปลี่ยนไปทันที เมื่อมองไปยังท่าทีเย็นชาจนไม่อาจต่อรองใดได้อีก จึงทำได้เพียงกัดฟันยอมรับมันแน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดว่า ท่านอ๋องผู้สง่างามจะไม่รักษาคำพูด และก็หมายความว่า หากว่าเขาแพ้จริงๆ แล้ว เช่นนั้นมือคู่นั่นของตนเอง...ในใจของผู้ดูแลหนาวเหน็บเป็นอย่างมาก ดวงตาดุร้าย ลอบกัดฟัน อย่างจะต้องชนะเท่านั้นเฟิ่งเชียนอวี่ลูบคาง ดวงตากลอกไปมา ในเมื่อตงฟางจิ่งเอ่ยออกมาเช่นนี้ เช่นนั้นก็หมายความว่า เขาไม่เพียงแต่สามารถเล่นพนันเท่านั้น แต่ยังเก่งอีกด้วย?นางเลิกคิ้วขึ้น น่าสนใจเข้าอีกแล้ว แล้วคอยรอชมการแสดงเถิดในเมื่อเป็นเรื่องของการพนันแล้ว และในเมื่อเป็นถึงผู้ดูแลของบ่อนพนันที่สามารถมาจนถึงตำแหน่งนี้ได้ ก็เห็นได้ชัดว่าจะต้องมีความสามารถมากกว่าทุกคนอย่างน้อย ทักษะการพนันก็ไม่เป็นรองใครผู้ดูแลนั่งลงบนตำแหน่งหลัก ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียด ถ้วยลูกเต๋าในมือของเขาเขย่าไปมาอย่างรวดเร็ว มีเพียงแค่ภาพติดตาเท่านั้นที่มาพร้อมกับเสียงดังปึงปัง“ท่านอ๋องวางเดิมพันได้แล้ว” เขาเอ่ยออกมาเสียงขรึมตงฟางจิ่งวางทองคำแท่งหนึ่งเดิมพันไปทางด้านต่ำดวงตาของเฟิ่งเชียนอวี่เป็นประกายเ
ชายหนุ่มนั่งล้อมรอบเป็นวงกลมอยู่ด้านล่างเวที แต่ละคนต่างก็คอยจับจ้องไม่ยอมหันเหสายตาไปที่ใด สายตาหรี่เล็ก จนแทบทนไม่ไหวที่จะกระโจนขึ้นไป ขาดก็เพียงแค่น้ำลายไหลออกมาเท่านั้นด้านบนนั้นห้อมล้อมไปด้วยห้องส่วนตัว แขกด้านในนั้นไม่ใช่คนที่ใจกว้างมีน้ำใจนัก เป็นคนที่มีสถานะไม่ธรรมดาเฟิ่งเชียนอวี่เองก็เป็นหนึ่งในนั้นนางยังคงแต่งกายเป็นคุณชายดังเก่า คนด้านข้างที่คอยรับใช้อยู่ ยังคงเป็นหลิวซูและอิ้งเสวี่ยที่แต่งกายเป็นเด็กรับใช้เดิมทีเฟิ่งเชียนอวี่เพียงแค่ได้ยินว่าทางฝั่งถนนทิศตะวันตกในเมืองหลวงนั้น มีร้านอาหารเปิดใหม่ ในนั้นมีเป็ดย่างที่เป็นเอกลักษณ์รสชาติอร่อยมากเป็นพิเศษ นางจึงคิดอยากจะลองชิมดูสุดท้ายแล้วผ่านตรอกดอกไม้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ นางถูกตึกสีแดงงดงามหลังนั้นดึงดูดสายตาเข้า หอนางโลมในยุคสมัยโบราณหากว่าไม่เข้าไปเดินเล่นสักครั้งก็คงจะน่าเสียดายนักสาวใช้ที่น่าสงสารทั้งสองอย่างหลิวซูและอิ้งเสวี่ย บทเรียนจากบ่อนพนันยังไม่ทันจางหายไป ก็มาถูกเจ้านายที่ไม่มีขีดจำกัดอย่างเฟิ่งเชียนอวี่มากระตุ้นความเครียดขึ้นมาอีกครั้ง“พวกเจ้าอย่ามัวแต่ตกตะลึงกันไป ของอร่อยมากมายถึงเพียงนี้ ไม่เพลิดเพล
หานจวิ้นใบหน้าเต็มไปด้วยท่าทีก็ควรจะเป็นเช่นนั้น “แน่นอน สหายศึกษาของข้าก็เหมือนเป็นตัวแทนของข้า มีอะไรจะไม่ได้กัน”ให้ตายเถอะ ทำไมถึงได้หน้าไม่อายเช่นนี้ เฟิ่งเชียนอวี่อดไม่ได้ที่จะลอบสบถด่าออกมานางมองไปที่คนอื่นๆ พบว่าแม้แต่แม่เล้าเองก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรออกมา ช่างหมดคำพูดเสียจริงๆ“นี่ ไอ้น้อง หากว่าเจ้าทำไม่ได้ก็รีบออกไปเสีย อย่าได้มายุ่งวุ่นวายต่อหน้าข้าอีก” หานจวิ้นมองไปยังเฟิ่งเชียนอวี่ ท่าทีเต็มไปด้วยความไม่เกรงใจเฟิ่งเชียนอวี่หรี่ตาลง ยิ้มเยาะเย้ยออกมา เมื่อคิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงได้เรียกหลิวซูสาวใช้ของตนเองออกมา “ข้าจะพูดออกมา เจ้ามาเขียน”นางเขียนออกมาเองได้ ทว่าตัวอักษรของนางคงไม่อาจจะรับได้จริงๆ ให้หลิวซูมาช่วยนางเขียนออกมาคงจะดีกว่าไม่นาน บทกวีสองบทก็ถูกปล่อยออกมาทางด้านของหานจวิ้น เป็นสหายศึกษาของเขาที่เป็นคนเขียนสายน้ำกระเพื่อมเป็นระลอกคลื่นในวันแสงแดดสดใส น้ำไหลผ่านทางลาดด้านตะวันตก เป็นระลอกคลื่นน้ำชื่นชมกับหยดน้ำ ถวิลหาลอยไปมาเพื่อดมกลิ่นหอมในหอหงซิ่วมีคนรู้หนังสืออยู่ไม่น้อย กวีบทนี้ถือได้ว่าธรรมดาไม่พิเศษใด วาทศิลป์นั้นดูจะผิวเผินจนเกินไป ไม่อ
พลันสีหน้าหัวหน้าทหารแข็งทื่อ ยิ้มอย่างขมขื่นในใจ เห็นได้ชัดว่าป้ายคำสั่งนี้เป็นของจริง เขากล้าลงมือกับคนของจวนอ๋องเสียที่ไหนเขามองสีหน้าที่ดุร้ายของหานจวิ้น ขนลุกซู่จนรีบกล่าว “คุณชายหาน สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คืออาการบาดเจ็บของท่าน ข้าน้อยจะส่งคนไปเชิญหมอเดี๋ยวนี้ขอรับ”สีหน้าหานจวิ้นเปลี่ยนทันที ระบายความแค้นกับเฟิ่งเชียนอวี่ ย่อมไม่สำคัญเท่ารักษาดวงตาของเขา เขากัดฟันกล่าว “เช่นนั้นเจ้ายังไม่รีบไปอีก”แม้ในใจไม่ได้คาดหวัง แต่ก็ยังคิดว่าเผื่อจะโชคดี“ขอรับๆ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”ในใจหัวหน้าทหารโล่งอก เขาสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเฝ้าอยู่ที่นี่ แล้วรีบพาคนสนิทสองสามคนออกจากหอหงซิ่วด้านหนึ่งเป็นคนของจวนอ๋องหก ด้านหนึ่งเป็นคุณชายของจวนมหาราชครู ฝั่งไหนเขาก็ล่วงเกินไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถแทรกแซงได้แล้วเขาสั่งให้คนสนิทคนหนึ่งไปแจ้งข่าวที่จวนมหาราชครู คนหนึ่งไปแจ้งข่าวที่จวนอ๋อง คนหนึ่งไปตามหมอ ส่วนเขาจำเป็นต้องไปรายงานผู้บังคับบัญชาเดี๋ยวนี้ภายในหอหงซิ่ว เฟิ่งเชียนอวี่สะกิดหลิวซู กล่าวเสียงเบา “ตามสถานะแล้ว ข้าควรจะใหญ่กว่าหานจวิ้นกระมัง?”หลิวซูพยักหน้า “มันแน่อ
“ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื
“รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง
ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท
“พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้
บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี
“...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้
“เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่
“เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ