Share

บทที่ 8

นี่ไม่ใช่ชีวิตที่เฟิ่งเชียนอวี่ต้องการ จำเป็นต้องหนีให้พ้น

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชายสมัยโบราณที่มีภรรยาหลายคน สวยงามโดดเด่น ผู้หญิงมีสถานะต่ำต้อย แต่งงานออกไปต้องให้ความสำคัญกับสามีเป็นอันดับหนึ่ง ถูกขังอยู่ในเรือน ไม่มีอิสระ นางเป็นคนยุคสมัยใหม่ จะยอมรับได้ที่ไหนกัน

เฟิ่งเชียนอวี่เอาแต่คิดหาทางออกในวันข้างหน้า เวลาก็ผ่านไปอีกวันแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น นางไปที่ห้องหนังสือที่เรือนด้านหน้า เพื่อหาตงฟางจิ่ง

“ท่านอ๋อง กำลังทำอะไรหรือ” นางกล่าวอย่างยิ้มแย้ม

ตงฟางจิ่งกำลังอ่านหนังสืออยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน สวมชุดปักลายหม่างสีเงิน เข็มขัดหยกสีขาว แขนเสื้อปักลายต้นไผ่ บุคลิกเย็นยะเยือก ท่าทางเที่ยงตรง หน้าตาหล่อเหลา

“มีเรื่องอันใด?”

เฟิ่งเชียนอวี่เดินเข้ามา วางยาแอสไพรินเม็ดหนึ่งลงบนโต๊ะทำงาน สีหน้าจริงจัง “ครั้งก่อนยาที่ให้ท่านอ๋องไว้ ท่านอ๋องน่าจะกินหมดแล้ว ข้าเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อเอาอันใหม่มาให้”

ตงฟางจิ่งหยุดชะงัก กวาดตามองยาแวบหนึ่ง ในที่สุดดวงตาที่เย็นชาก็หยุดอยู่ที่ตัวของนาง ริมฝีปากบางเผยอออก

“เจ้ามีฝีมือการรักษาด้วยหรือ?”

เฟิ่งเชียนอวี่โบกมืออย่างถ่อมตัว “นิดหน่อยน่า”

ตงฟางจิ่งหรี่ตา “ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า คุณหนูสามแห่งจวนตระกูลเฟิ่งจะเชี่ยวชาญด้านการรักษา”

นางอดไม่ได้ที่จะใจเต้น กล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “ท่านอ๋อง ไม่มีใครสามารถรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับโลกได้ เรื่องที่ท่านไม่เคยได้ยินยังมีมากมายนะ”

“ยิ่งไปกว่านั้น ข้ามีฝีมือการรักษาได้อย่างไรนั้นไม่สำคัญ ท่านอ๋องรู้ไว้เพียงแค่ว่า ข้ามียาที่สามารถช่วยคลายอาการกำเริบพิษเหมันต์ของท่านได้ สามารถกำจัดพิษให้ท่านได้อย่างหายขาด ก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรือ”

ตงฟางจิ่งจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง “เจ้าจะกำจัดพิษอย่างไร?”

เฟิ่งเชียนอวี่หุบยิ้ม กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “อย่างแรก ต้องการเลือดของท่านอ๋องสักเล็กน้อย เพื่อให้ข้านำไปศึกษา”

นางอยากจะนำอุปกรณ์จากในห้องทดลองออกมาซะเลย เพื่อตรวจร่างกายทั้งหมดของตงฟางจิ่ง แบบนั้นจะยิ่งละเอียดกว่าเดิม

แต่วิธีการแบบนี้ทำได้แค่เพียงคิดเท่านั้น ด้วยนิสัยที่ขี้ระแวงของตงฟางจิ่ง แม้ว่าเขาจะยอมให้ความร่วมมือ ปิดตาของเขา ก็มีความเสี่ยงที่อุปกรณ์จะถูกเปิดเผย ไม่เสี่ยงจะดีกว่า

คนโบราณมีข้อห้ามบางอย่างเกี่ยวกับเลือด เฟิ่งเชียนอวี่เองก็มีความไม่มั่นใจอยู่หน่อย ๆ เช่นกัน ไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายจะยอมหรือไม่

แต่โชคดีที่ เหมือนกับตงฟางจิ่งไม่ได้คิดอะไรจุกจิก เพียงแค่หยุดชะงักเล็กน้อย แล้วก็ตอบตกลง

เฟิ่งเชียนอวี่ดูดตัวอย่างเลือดออกมาเล็กน้อย แล้วก็ออกไปอย่างอดรนทนไม่ไหว

นางกลับไปที่เรือนชิงหลาน ไล่พวกสาวใช้ทั้งหมดออกไป ปิดประตูห้อง ทันทีที่คิด ก็ถือตัวอย่างเลือดเดินเข้าไปในห้องทดลอง

เฟิ่งเชียนอวี่จ้องมองห้องทดลองอันใหญ่โต ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่แสนทันสมัย ภายในใจเต็มไปด้วยความเบิกบานใจ

จะมัวชักช้าไม่ได้ นางหยิบเสื้อคลุมสีขาว ผ้าปิดจมูกและถุงมือที่ใช้ในทางการแพทย์ออกมาจากด้านในตู้ฆ่าเชื้อ เมื่อสวมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ออร่าของนางก็เปลี่ยนไป หยิบตัวอย่างเลือดขึ้นมาแล้วเดินไปยังด้านหน้าอุปกรณ์ทดลอง เริ่มดำเนินการ

อุปกรณ์ทั้งหมดในนี้สามารถต่อไฟได้ แหล่งกำเนิดของไฟฟ้านอกจากการกักเก็บของตัวมันเอง ก็คือพลังงานจลน์

ชิปที่ฝังอยู่ภายในร่างกายของนาง ขอเพียงแค่นางแขนขาขยับ แม้ว่าจะแค่เดิน ก็สามารถชาร์จแบตอุปกรณ์ทั้งหมดของห้องทดลองได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลปัญหาด้านการใช้พลังงาน

เฟิ่งเชียนอวี่จ้องมองข้อมูลต่าง ๆที่แสดงผลอยู่บนอุปกรณ์

สิ่งที่เรียกพิษเหมันต์ ตามวิธีการทางการแพทย์แผนจีน อันที่จริงก็คือพลังหยางในร่างกายอ่อนแอลง พลังหยินเพิ่มขึ้น การหมุนเวียนของเลือดไม่ราบรื่น ทำให้เกิดการอุดตัน

เมื่อกลุ่มอาการเย็นตกค้างอยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน ก็จะก่อให้เกิดความผิดปกติของโครงกระดูก กล้ามเนื้อข้อต่อทั่วร่างกายจะเจ็บปวดจนทนไม่ไหว ผู้ที่มีอาการรุนแรง เมื่อไอเย็นเข้าสู่ปอด การเกิดอาการเป็นลมอย่างกะทันหันทุกเมื่อถือเป็นเรื่องปกติ

ในยุคสมัยปัจจุบัน ก็มีอาการประเภทนี้ แน่นอนว่า ผู้ป่วยจำนวนมากเป็นเพศหญิง อย่างไรก็ตาม เดิมทีร่างกายของเพศหญิงก็แฝงไปด้วยความเย็น

อาการของตงฟางจิ่งเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างบางอย่าง แต่วิธีการแก้ไขส่วนมากก็แทบจะไม่ต่างกัน

ตำรับยาแผนจีนจำนวนมากในยุคสมัยปัจจุบัน ก็คือการผสมผสานยาแผนโบราณกับยุคปัจจุบันเข้าด้วยกัน

เฟิ่งเชียนอวี่นั่งอยู่ด้านข้างโต๊ะคอมพิวเตอร์ ตั้งสมาธิครุ่นคิด เคาะแป้นพิมพ์ที่เป็นชื่อสมุนไพรจีนแต่ละแถวออกมาอย่างรวดเร็ว

นางรู้แล้วว่าควรจะต้องรักษายังไง ไม่ยาก แต่ก็มีความยุ่งยากนิดหน่อย

วันต่อมา เฟิ่งเชียนอวี่ใบหน้าแฝงไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง เดินเชิดหน้าไปหาตงฟางจิ่งที่ห้องหนังสืออีกครั้ง

“ข้ารู้แล้วว่าควรจะรักษาพิษเหมันต์ของท่านอย่างไร”

ทันทีที่นางเข้ามาก็ตรงเข้าประเด็นทันที ตงฟางจิ่งหรี่ตา แต่สีหน้ากลับไปไม่มีความรู้สึกใด ๆ

“งั้นหรือ? ลองว่ามา”

เฟิ่งเชียนอวี่ก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน นั่งลงด้วยตนเอง จ้องมองเขาที่ค่อย ๆแสยะยิ้ม “ท่านอ๋องหก พวกเรามาคุยกันเถอะ”

“ข้าสามารถช่วยกำจัดพิษเหมันต์ให้ท่านได้อย่างสิ้นซาก แต่มีข้อแม้”

ตงฟางจิ่งจิบชาอึกหนึ่ง “ว่ามา”

“ท่านอ๋องหก การแต่งงานของพวกเราทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะจับพลัดจับผลู เดิมทีพระชายาของท่านไม่ใช่ข้า แน่นอนว่า ไม่ว่าจะอย่างไร การได้รู้จักกันก็ถือว่าเป็นวาสนา”

“ดังนั้น ข้าช่วยกำจัดพิษให้ท่าน ท่านคืนอิสระให้ข้า พวกเราเลิกแล้วต่อกัน เป็นอย่างไร?”

ตงฟางจิ่งหยุดชะงักทันที กล่าวเสียงเรียบ “เจ้าหมายความว่า อยากให้ข้าปลดเจ้า?”

เฟิ่งเชียนอวี่อึดอัดหัวใจขึ้นมาทันที เกือบจะระงับความโมโหเอาไว้ไม่อยู่ นางฮึบเอาไว้ แสยะยิ้ม กล่าวเตือน “กฎหมายของแคว้นตงเยว่ หากสามีภรรยาไม่ลงรอยกัน สามารถแยกทางกันได้”

ไอ้ผู้ชายชาติชั่วนี่ คิดอะไรน่ะ จะปลดภรรยา?

ตงฟางจิ่งเลิกคิ้ว กล่าวพึมพำ “เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องหก กลายเป็นสะใภ้หลวง จัดบันทึกในหนังสือลำดับญาติของราชวงศ์ แล้ว ทั้งเคยก่อความวุ่นวายตอนเข้าวังหลวงเมื่อวันก่อน ยังผ่านพระเนตรของฮ่องเต้แล้วอีกด้วย”

“ข้ากับเจ้ามีความรักอันลึกซึ้งต่อกัน เจ้าอยากจะแต่งงานกับข้าแทนพี่สาว โดยที่ไม่สนใจเรื่องที่ชื่อเสียงจะเสียหาย เรื่องนี้รู้กันไปทั่วทั้งราชสำนักและวังหลัง แต่แล้วก็กลับจะแยกทางกับข้า? เหตุผลล่ะ?”

ในขณะที่ตงฟางจิ่งกำลังพูด ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเห็นสะใภ้หลวงเป็นอะไร? เจ้าอยากจะเป็นก็เอา ไม่อยากเป็นก็ไม่เอาอย่างนั้นหรือ?”

เฟิ่งเชียนอวี่เม้มปาก นางย่อมรู้ว่า ในสมัยโบราณ เมื่อมีความเกี่ยวพันกันกับราชวงศ์ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลุดพ้นไปได้ นี่คือความแตกต่างจากการแต่งงานของชาวบ้านทั่วไป

แต่ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วจะยังไงล่ะ?

ก็นางไม่อยากถูกกักขังเอาไว้ในสถานแห่งนี้ไปชั่วชีวิต เหมือนกับหญิงสาวยุคสมัยโบราณคนอื่น ๆ ที่ทุกคนต้องเอาแต่คลุกอยู่ในเรือนลึก ใช้ชีวิตที่ไร้อิสระและสิทธิมนุษยชน

เฟิ่งเชียนอวี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จ้องมองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

“ท่านอ๋อง เหมือนกับว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่ปัญหาที่ข้าควรครุ่นคิด นอกเสียจากท่านไม่อยากกำจัดพิษเหมันต์”

ตงฟางจิ่งหรี่ดวงตาอย่างอันตราย “เจ้ากำลังข่มขู่ข้า”

นางกล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “ก็แค่กำลังบรรยายเรื่องจริงเท่านั้น”

“ท่านอ๋อง ท่านเองก็ไม่ต้องข่มขู่ข้าหรอก เรื่องการแยกทางแบบนี้ ทำได้ง่าย แล้วก็ทำได้ยากเช่นกัน ข้าเชื่อว่า ท่านอ๋องจะต้องมีหนทาง”

“อย่างไรเสีย การร่วมมือกันครั้งนี้สำหรับท่านอ๋องแล้ว ไม่มีความเสียหายใด ๆ ยังสามารถกำจัดการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ยุ่งยากใจมานานหลายปีได้ในครั้งเดียว ก็นับว่าคุ้มค่ามาก ไม่ใช่หรือ”

ตงฟางจิ่งกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าเอาแต่พูดว่าสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องพิษเหมันต์ของข้าได้ มีหลักฐานหรือไม่? คงจะไม่ได้คิดว่าแค่พูดปากเปล่า ข้าก็จะเชื่อหรอกกระมัง”

เฟิ่งเชียนอวี่ยักไหล่ทั้งสองข้าง “ข้อนี้ง่ายมาก แค่ทดสอบก็จะรู้เอง”

ในขณะที่นางพูด ก็หยิบใบสั่งยาฉบับหนึ่งที่คัดลอกเอาไว้ตั้งนานแล้วออกมาจากด้านในแขนเสื้อแล้วยื่นให้ “นี่เป็นสมุนไพรที่จำเป็นต้องใช้ในการแช่สมุนไพรครั้งที่หนึ่ง ท่านอ๋องเตรียมไว้ให้ครบ พวกเราสามารถเริ่มได้ทุกเมื่อ”

เฟิ่งเชียนอวี่วางแผนมาเป็นอย่างดี ย่อมมีความมั่นใจในตนเองและสุขุม

แต่ว่า...

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status