แชร์

บทที่ 16

ผู้เขียน: จิ้งเยี่ยน
พลันสีหน้าหัวหน้าทหารแข็งทื่อ ยิ้มอย่างขมขื่นในใจ เห็นได้ชัดว่าป้ายคำสั่งนี้เป็นของจริง เขากล้าลงมือกับคนของจวนอ๋องเสียที่ไหน

เขามองสีหน้าที่ดุร้ายของหานจวิ้น ขนลุกซู่จนรีบกล่าว “คุณชายหาน สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คืออาการบาดเจ็บของท่าน ข้าน้อยจะส่งคนไปเชิญหมอเดี๋ยวนี้ขอรับ”

สีหน้าหานจวิ้นเปลี่ยนทันที ระบายความแค้นกับเฟิ่งเชียนอวี่ ย่อมไม่สำคัญเท่ารักษาดวงตาของเขา เขากัดฟันกล่าว “เช่นนั้นเจ้ายังไม่รีบไปอีก”

แม้ในใจไม่ได้คาดหวัง แต่ก็ยังคิดว่าเผื่อจะโชคดี

“ขอรับๆ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”

ในใจหัวหน้าทหารโล่งอก เขาสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเฝ้าอยู่ที่นี่ แล้วรีบพาคนสนิทสองสามคนออกจากหอหงซิ่ว

ด้านหนึ่งเป็นคนของจวนอ๋องหก ด้านหนึ่งเป็นคุณชายของจวนมหาราชครู ฝั่งไหนเขาก็ล่วงเกินไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถแทรกแซงได้แล้ว

เขาสั่งให้คนสนิทคนหนึ่งไปแจ้งข่าวที่จวนมหาราชครู คนหนึ่งไปแจ้งข่าวที่จวนอ๋อง คนหนึ่งไปตามหมอ ส่วนเขาจำเป็นต้องไปรายงานผู้บังคับบัญชาเดี๋ยวนี้

ภายในหอหงซิ่ว เฟิ่งเชียนอวี่สะกิดหลิวซู กล่าวเสียงเบา “ตามสถานะแล้ว ข้าควรจะใหญ่กว่าหานจวิ้นกระมัง?”

หลิวซูพยักหน้า “มันแน่อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 17

    มหาราชครูหานไม่กล้าเงยหน้าด้วยซ้ำ “ท่านอ๋องใจเย็นๆ เกิดเรื่องเช่นนี้กับลูกของข้าน้อย ชั่วขณะโมโหเกินไป ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นแน่นอนขอรับ”แม้หานจวิ้นกลัวตงฟางจิ่ง แต่ยิ่งโกรธที่ตนเองได้รับบาดเจ็บ ทนไม่ไหวกล่าว “ท่านพ่อ เรื่องนี้จะปล่อยไปทั้งเช่นนี้ไม่ได้ ตาของลูกรักษาไม่หายแล้วนะ”เฟิ่งเชียนอวี่มองบน หัวเราะอย่างเย็นชาทีหนึ่ง “คุณชายหาน เมื่อครู่ข้าไม่พูด ปล่อยให้เจ้าใส่ร้าย เจ้ายังจะเอาอีกใช่ไหม”“ตาเจ้าบอดเกี่ยวอะไรกับข้า วันนี้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน เจ้าเจตนาจะทำร้ายผู้อื่น แต่กลับโชคร้ายพลัดตกจากเวทีจนตาขวาบาดเจ็บ ทำชั่วได้ชั่ว ล้วนเกิดจากการกระทำของตัวเองทั้งนั้น”“อีกอย่างนะ เมื่อครู่ข้าให้สาวใช้แสดงป้ายคำสั่งจวนอ๋องเพื่อยืนยันสถานะ คุณชายหานกลับทำดีมาก ไม่เพียงมองข้าม มารยาทยิ่งเลวทราม ทำไม นี่เจ้ากำลังมองข้ามจวนอ๋องหกของข้าหรือ?”“เจ้า…” หานจวิ้นเกลียดชัง“จวิ้นเอ๋อร์หุบปาก”มหาราชครูหานกัดฟันตำหนิ เขามองเฟิ่งเชียนอวี่ “พระชายาอย่าพูดเหลวไหล ลูกข้าไม่มีเจตนาเช่นนี้แน่นอน”เฟิ่งเชียนอวี่ยักไหล่ “ใครจะไปรู้ล่ะ”มหาราชครูหานชะงัก ดวงตาที่ขุ่นมัวมืดมนลงเล็กน้อยเรื่องของวัน

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 18

    หลายวันต่อจากนั้น เฟิ่งเชียนอวี่ไม่ได้ออกจากจวน อยู่แต่ในเรือนทุกวัน ให้สาวใช้หาของเล่นใหม่ๆ มาให้นางเล่น แล้วก็ทำยาผงต่างๆภายในห้อง เฟิ่งเชียนอวี่มองขวดหยกดินเผาสิบกว่าใบตรงหน้า ข้างในล้วนเป็นผลงานในช่วงไม่กี่วันนี้ของนางเมื่อก่อนนางเป็นถึงดอกเตอร์แพทยศาสตร์ชั้นนำของประเทศเฮช ภายในประเทศมีสถาบันวิจัยทางการแพทย์เฉพาะทาง ครอบคลุมทั้งแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนตะวันตก นางในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านการวิจัยไม่กี่คน มีอำนาจสูงมากเช่นกันอะไรที่เกี่ยวข้องกับยา แค่นางเอ่ยปาก ก็มีคนหามาให้นางโดยเฉพาะมรดกยาจีนตกทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ วัตถุโบราณอย่างหนังสือผ้าไหม หนังสือผ้าแพร และรวมถึงหนังสือต้นฉบับที่ แล้วก็หวงตี้เน่ยจิง[1] เปิ่นเฉ่ากังมู่[2]ต่างๆ ที่ถูกขุดพบ ล้วนไม่รู้ว่าถูกนางเปิดอ่านแล้วกี่รอบด้วยพรสวรรค์ทางการแพทย์ของนาง ได้รับการยกระดับจากพื้นฐานเดิม สำหรับการวิจัยและผลิต ไม่นับว่าเป็นเรื่องยากอะไรภายในขวดดินเผาที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้มีทั้งยาเม็ดและยาผง มีทั้งยารักษาและยาพิษลองจินตนาการดูว่าถ้าหากต่อไปมีคนกล้ามาปิดล้อมนาง นางก็สาดยาผงออกไปหนึ่งกำมือ ต้องเป็นภาพที่ล้มระเนระนาดในพริบตาแน่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 19

    เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า นางรู้จักภาษาสันสกฤต นั่นเป็นเพราะนางมีปู่ที่ชื่นชอบวรรณกรรมโบราณกับวัฒนธรรมทางศาสนาพุทธมากอินเดียนับถือศาสนาพุทธมาโดยตลอด โบสถ์พุทธมีรากฐานที่ลึกซึ้ง ย่อมเป็นเป้าหมายในการวิจัยของปู่นางด้วยเช่นกัน ภาษาแรกของอินเดียก็คือภาษาสันสกฤตเฟิ่งเชียนอวี่เติบโตมากับปู่ตั้งแต่เด็ก เมื่อได้เห็นได้ยินทุกวัน นางอ่านภาษาสันสกฤตได้ก็ไม่แปลกแต่คุณหนูสามของจวนอัครเสนาบดีรู้จักภาษาสันสกฤต เช่นนั้นก็น่าแปลกแล้ว แต่ตงฟางจิ่งไม่ได้พูดออกมา“เจ้าอ่านที่ข้าเขียนทั้งหมดหนึ่งรอบ” ตงฟางจิ่งกล่าวเฟิ่งเชียนอวี่เบะปาก “ทำไม ไม่เชื่อว่าข้ารู้จักหรือ อ่านก็อ่าน”นางเดิมอ้อมโต๊ะ เริ่มอ่านตั้งแต่บรรทัดแรก“มรรคมีสามรัตนะ ฟ้า ดิน มนุษย์ มนุษย์มีสามรัตนะ แก่นแท้ ปราณ จิตวิญญาณผันกระดูกควรยึดตามคัมภีร์ล้างไขกระดูก ขัดเกลาแก่นแท้ หลอมปราณ แปรผันสู่เทพ บุรุษคือผู้ใช้กำปั้น วิชาเป็นตาย เมื่อเข้าถึงย่อมรู้แจ้ง…”เฟิ่งเชียนอวี่อ่านทีละบรรทัดโดยไม่สนใจคนอื่น ไม่สังเกตเห็นสายตาแปลกๆ ของคนในห้องหนังสือเลย“เป็นอย่างไร อ่านไม่ผิดกระมัง” เฟิ่งเชียนอวี่เลิกคิ้วตงฟางจิ่งเม้มปาก “ดีมาก ดูเหมือนพระ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 20

    ตงฟางจิ่งค่อนข้างสงบ ยังมีอารมณ์วิเคราะห์ให้นางฟัง “อาการบาดเจ็บของหานจวิ้น แม้แต่หมอหลวงในวังก็ทำอะไรไม่ได้ เจ้าบอกว่าเจ้าสามารถรักษา? ใครจะเชื่อ?”“หากไม่มีข้า เกรงว่าเจ้าไม่สามารถเข้าประตูใหญ่ของจวนหานด้วยซ้ำ ข้ารับประกันทักษะการแพทย์ของเจ้า ก็ต้องรับความเสี่ยงเช่นกัน”“ท่าน…” เฟิ่งเชียนอวี่โมโหจนแทบกระอักเลือดแล้ว“พระชายาเลือกเอง ระหว่างไม่ได้ค่าตอบแทนแม้แต่แดงเดียว หรือได้ค่าตอบแทนห้าส่วน” ตงฟางจิ่งกล่าวอย่างเชื่องช้าเฟิ่งเชียนอวี่จ้องเขาเขม็ง อัดอั้นอยู่ครึ่งค่อนวันจึงจะเอ่ยปาก “สองส่วน”ตงฟางจิ่งไม่ได้สนใจนาง“สามส่วน…”ตงฟางจิ่งยังคงไม่สนใจเขาเฟิ่งเชียนอวี่อยากหมุนกายเดินจากไปอย่างสง่างาม แต่เท้าของนางกลับไม่ขยับ แม้แบ่งครึ่งหนึ่งมันทำให้นางปวดใจมากแต่ก็เหมือนกับที่หมอนี่พูด เขาไม่พานางไป นางก็จะไม่ได้แม้แต่แดงเดียวชั่วขณะ เฟิ่งเชียนอวี่ก็เหี่ยวลงเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกเจาะ ยอมประนีประนอมแล้วคราวนี้ตงฟางจิ่งเหมือนนึกถึงอะไร “หนังสือต้นฉบับภาษาสันสกฤตที่ข้าพูดเมื่อครู่ ถ้าหากพระชายาตอบตกลง ข้าก็จะยอมถอยส่วนสองส่วนก็ใช่ว่าจะไม่ได้”สีหน้าเฟิ่งเชียนอวี่เดี๋ยวมืดเด

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 21

    เฟิ่งเชียนอวี่มองตัวเองในกระจกสัมฤทธิ์ ลูบหนวดไม่กี่เส้นที่อยู่ใต้คาง กระแอมเสียงหนาทีหนึ่ง จงใจทำให้เสียงทุ้มต่ำ หันไปหาตงฟางจิ่ง พลันสะบัดแส้ ประสานมืออย่างยิ้มแย้ม “คำนับท่านอ๋อง”ตงฟางจิ่งกล่าวอย่างเรียบเฉย “เลิกลูบได้แล้ว หนวดหลุดแล้ว”“ฮะ? จริงหรือ?”พลันเฟิ่งเชียนอวี่ตกใจ รีบลูบแล้วลูบอีกอีกครั้ง เมื่อเห็นตงฟางจิ่งเดินไปแล้วก็รีบตามไป“นี่ ท่านอ๋องรอข้าด้วยสิ หนวดนี่กันน้ำหรือไม่ ถ้าหากหลุดจริงๆ จะทำอย่างไร? ท่านอ๋อง…”ในเมืองหลวง ถนนทุกสายสร้างติดกัน จวนของขุนนางในราชสำนัก แบ่งตามลำดับขั้น จากต่ำไปสูง ตำแหน่งของการสร้างจวนก็ไล่จากชานเมืองสู่ใจกลางเมืองหลวงลำดับขั้นยิ่งต่ำ ที่ตั้งของจวนก็ยิ่งอยู่ห่างออกไป ลำดับขั้นยิ่งสูง จวนก็ยิ่งใกล้ใจกลางเมืองหลวงอย่างเช่นตงฟางจิ่งที่เป็นอ๋องหกคนนี้ ในฐานะที่เป็นลูกหลานของราชวงศ์ ระยะห่างของจวนกับวังหลวง ด้วยความเร็วในการนั่งรถม้า ใช้แค่ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วนี่ก็คือความแตกต่างของสถานะมหาราชครูหานเป็นขุนนางขั้นห้า ทำงานในสำนักราชบัณฑิต รถม้าของจวนอ๋องต้องใช้เวลาถึงหนึ่งก้านธูปจึงจะถึงหนึ่งก้านธูปของยุคโบราณ เท่ากับประมาณครึ่งชั่วโ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 22

    สำหรับอาจารย์ที่เฟิ่งเชียนอวี่พูดถึง ตงฟางจิ่งยอมเชื่อ อย่างไรก็ตาม นี่จึงจะสามารถอธิบายได้ว่าทักษะการแพทย์ที่แปลกประหลาดของนางมาจากที่ไหนแต่เฟิ่งเชียนอวี่บอกว่านางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวตนของอาจารย์เลย ตงฟางจิ่งกลับไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ผู้หญิงคนนี้ยอมบอกแต่โดยดีสิถึงจะแปลกตงฟางจิ่งสั่งให้คนขับรถม้าเปลี่ยนเส้นทาง ไปที่คุกหลวงกรมราชทัณฑ์แทนนักโทษที่กรมราชทัณฑ์กักขัง นอกจากขุนนางบางส่วนที่ถูกสั่งจองจำ ที่เหลือก็เป็นคนในยุทธภพที่เป็นภัยและกระทำความผิดร้ายแรงขุนนางของกรมราชทัณฑ์คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องหกจะมา ต่างพากันออกมาต้อนรับ “พวกเราคำนับท่านอ๋อง”“ลุกขึ้นเถอะ”“ขอบคุณท่านอ๋อง”เฟิ่งเชียนอวี่กวาดมองโดยรอบอย่างอยากรู้อยากเห็น นี่ก็คือคุกหลวงของกรมราชทัณฑ์ในยุคโบราณหรือ ได้ยินมาว่าในวังหลวงยังมีคุกสวรรค์ที่ใหญ่กว่านี้ ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไรตงฟางจิ่งให้ขุนนางทั้งหลายนำหนังสือหลักฐานของนักโทษที่มีโทษประหาร และได้มีราชโองการให้ตัดศีรษะหลังฤดูใบไม้ผลิร่วงออกมาดูโดยตรงหนึ่งในขุนนางลังเลครู่หนึ่ง รวบรวมความกล้าสอบถาม “ไม่ทราบว่าท่านอ๋องอยากทำอะไรหรือขอรับ?”อ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 23

    เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้าแล้วเดินเข้าไป นางมองหลิวต้านอย่างเย็นชา สำหรับคนชั่วที่ทำร้ายเด็กเช่นนี้ น่าเกลียดชังที่สุดนางแตะหลิวต้านพลิกตัวกลับมา นั่งยองๆ เปิดหนังตาของเขา ตรวจดูอย่างละเอียดครู่หนึ่งดวงตาของหลิวต้านขุ่นมัว และถึงขั้นมีจุดสีเหลืองจางๆ ที่ขอบ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ากระจกตาของเขา ไม่ได้มีสุขภาพที่ดีมากนักแต่เฟิ่งเชียนอวี่ก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนคน หานจวิ้นคนนั้นก็ไม่ใช่คนดีอะไร นางไม่ได้ใจดีถึงขั้นพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้อีกฝ่าย สามารถทำให้เขามองเห็นแสงสว่างได้อีกครั้งก็ดีมากแล้วเฟิ่งเชียนอวี่มองข้ามตงฟางจิ่งที่อยู่ข้างๆ ล้วงเครื่องมือสองสามอย่างออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง หลังจากนั้นก็เอากระจกตาของหลิวต้านออกมาแช่ในยาน้ำอย่างระมัดระวัง  “ท่านอ๋อง เสร็จแล้ว”ตงฟางจิ่งมองทักษะที่เรียกได้ว่าคล่องแคล่วสวยงามของนาง มีความประหลาดใจสายหนึ่งแลบผ่านแววตา พยักหน้าก็พาเฟิ่งเชียนอวี่จากไปคนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าไปยังจวนตระกูลหานต่อหน้าประตูจวนตระกูลหานเฟิ่งเชียนอวี่ลงจากรถม้าตามหลังตงฟางจิ่ง ยามเฝ้าประตูของจวนย่อมสามารถมองสถานะของรถม้าออกในปราดเดียว รีบเข้าไปรายงานทันทีไม่นา

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 24

    “ท่านนักพรตสามารถรักษาลูกชายข้าจริงๆ?” มหาราชครูหานกล่าวถามอย่างตื่นเต้นเล็กน้อยเฟิ่งเชียนอวี่เลิกคิ้ว “เรื่องนี้แน่นอน”“เยี่ยมไปเลย ลูกข้ามีทางรักษาแล้ว ท่านอ๋อง บุญคุณใหญ่หลวงเช่นนี้ ข้าน้อยไม่รู้ควรตอบแทนอย่างไร”มหาราชครูหานไม่คิดว่าตงฟางจิ่งที่เป็นถึงท่านอ๋องจะมาหลอกเขาเล่น ดังนั้นอารมณ์จึงเป็นตื่นเต้นมากจริงๆตงฟางจิ่งโบกมือ “ข้าเป็นแค่คนกลาง คนที่มีความสามารถจริงๆ คือนักพรตท่านนี้”“ขอรับๆ ไม่ทราบว่านามของท่านนักพรตคือ?”แววตาเฟิ่งเชียนอวี่สั่นไหวเล็กน้อย “ข้าแซ่เฟิง”พูดถึงก็บังเอิญ เดิมทีนางก็ชื่อเชียนอวี่ เพียงแต่เป็นเฟิงเชียนอวี่ มาถึงยุคโบราณ ก็ยังชื่อเดิม แต่นามสกุลเปลี่ยนไปแล้วท่าทางของมหาราชเกรงใจมาก “ที่แท้ก็คือนักพรตเฟิง ไม่ทราบว่าท่านรักษาลูกชายข้า ต้องใช้สมุนไพรล้ำค่าชนิดใดบ้าง ข้าจะได้เตรียมล่วงหน้าได้สะดวก”เฟิ่งเชียนอวี่ล้วงกระดาษแผ่นออกจากแขนเสื้ออย่างคล้อยตาม มีชื่อสมุนไพรยี่สิบกว่าชนิดเขียนอยู่บนนั้นสมุนไพรเหล่านี้มีราคาสูงมาก ทุกอย่างล้วนต้องใช้เงินไม่น้อยจึงจะซื้อได้นี่เป็นของที่เฟิ่งเชียนอวี่เตรียมไว้ล่วงหน้านานแล้ว ที่จริงรักษาหานจวิ้นไม่จำเ

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 206

    “...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 205

    “เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 204

    “เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status