สำหรับอาจารย์ที่เฟิ่งเชียนอวี่พูดถึง ตงฟางจิ่งยอมเชื่อ อย่างไรก็ตาม นี่จึงจะสามารถอธิบายได้ว่าทักษะการแพทย์ที่แปลกประหลาดของนางมาจากที่ไหนแต่เฟิ่งเชียนอวี่บอกว่านางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวตนของอาจารย์เลย ตงฟางจิ่งกลับไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ผู้หญิงคนนี้ยอมบอกแต่โดยดีสิถึงจะแปลกตงฟางจิ่งสั่งให้คนขับรถม้าเปลี่ยนเส้นทาง ไปที่คุกหลวงกรมราชทัณฑ์แทนนักโทษที่กรมราชทัณฑ์กักขัง นอกจากขุนนางบางส่วนที่ถูกสั่งจองจำ ที่เหลือก็เป็นคนในยุทธภพที่เป็นภัยและกระทำความผิดร้ายแรงขุนนางของกรมราชทัณฑ์คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องหกจะมา ต่างพากันออกมาต้อนรับ “พวกเราคำนับท่านอ๋อง”“ลุกขึ้นเถอะ”“ขอบคุณท่านอ๋อง”เฟิ่งเชียนอวี่กวาดมองโดยรอบอย่างอยากรู้อยากเห็น นี่ก็คือคุกหลวงของกรมราชทัณฑ์ในยุคโบราณหรือ ได้ยินมาว่าในวังหลวงยังมีคุกสวรรค์ที่ใหญ่กว่านี้ ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไรตงฟางจิ่งให้ขุนนางทั้งหลายนำหนังสือหลักฐานของนักโทษที่มีโทษประหาร และได้มีราชโองการให้ตัดศีรษะหลังฤดูใบไม้ผลิร่วงออกมาดูโดยตรงหนึ่งในขุนนางลังเลครู่หนึ่ง รวบรวมความกล้าสอบถาม “ไม่ทราบว่าท่านอ๋องอยากทำอะไรหรือขอรับ?”อ
เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้าแล้วเดินเข้าไป นางมองหลิวต้านอย่างเย็นชา สำหรับคนชั่วที่ทำร้ายเด็กเช่นนี้ น่าเกลียดชังที่สุดนางแตะหลิวต้านพลิกตัวกลับมา นั่งยองๆ เปิดหนังตาของเขา ตรวจดูอย่างละเอียดครู่หนึ่งดวงตาของหลิวต้านขุ่นมัว และถึงขั้นมีจุดสีเหลืองจางๆ ที่ขอบ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ากระจกตาของเขา ไม่ได้มีสุขภาพที่ดีมากนักแต่เฟิ่งเชียนอวี่ก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนคน หานจวิ้นคนนั้นก็ไม่ใช่คนดีอะไร นางไม่ได้ใจดีถึงขั้นพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้อีกฝ่าย สามารถทำให้เขามองเห็นแสงสว่างได้อีกครั้งก็ดีมากแล้วเฟิ่งเชียนอวี่มองข้ามตงฟางจิ่งที่อยู่ข้างๆ ล้วงเครื่องมือสองสามอย่างออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง หลังจากนั้นก็เอากระจกตาของหลิวต้านออกมาแช่ในยาน้ำอย่างระมัดระวัง “ท่านอ๋อง เสร็จแล้ว”ตงฟางจิ่งมองทักษะที่เรียกได้ว่าคล่องแคล่วสวยงามของนาง มีความประหลาดใจสายหนึ่งแลบผ่านแววตา พยักหน้าก็พาเฟิ่งเชียนอวี่จากไปคนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าไปยังจวนตระกูลหานต่อหน้าประตูจวนตระกูลหานเฟิ่งเชียนอวี่ลงจากรถม้าตามหลังตงฟางจิ่ง ยามเฝ้าประตูของจวนย่อมสามารถมองสถานะของรถม้าออกในปราดเดียว รีบเข้าไปรายงานทันทีไม่นา
“ท่านนักพรตสามารถรักษาลูกชายข้าจริงๆ?” มหาราชครูหานกล่าวถามอย่างตื่นเต้นเล็กน้อยเฟิ่งเชียนอวี่เลิกคิ้ว “เรื่องนี้แน่นอน”“เยี่ยมไปเลย ลูกข้ามีทางรักษาแล้ว ท่านอ๋อง บุญคุณใหญ่หลวงเช่นนี้ ข้าน้อยไม่รู้ควรตอบแทนอย่างไร”มหาราชครูหานไม่คิดว่าตงฟางจิ่งที่เป็นถึงท่านอ๋องจะมาหลอกเขาเล่น ดังนั้นอารมณ์จึงเป็นตื่นเต้นมากจริงๆตงฟางจิ่งโบกมือ “ข้าเป็นแค่คนกลาง คนที่มีความสามารถจริงๆ คือนักพรตท่านนี้”“ขอรับๆ ไม่ทราบว่านามของท่านนักพรตคือ?”แววตาเฟิ่งเชียนอวี่สั่นไหวเล็กน้อย “ข้าแซ่เฟิง”พูดถึงก็บังเอิญ เดิมทีนางก็ชื่อเชียนอวี่ เพียงแต่เป็นเฟิงเชียนอวี่ มาถึงยุคโบราณ ก็ยังชื่อเดิม แต่นามสกุลเปลี่ยนไปแล้วท่าทางของมหาราชเกรงใจมาก “ที่แท้ก็คือนักพรตเฟิง ไม่ทราบว่าท่านรักษาลูกชายข้า ต้องใช้สมุนไพรล้ำค่าชนิดใดบ้าง ข้าจะได้เตรียมล่วงหน้าได้สะดวก”เฟิ่งเชียนอวี่ล้วงกระดาษแผ่นออกจากแขนเสื้ออย่างคล้อยตาม มีชื่อสมุนไพรยี่สิบกว่าชนิดเขียนอยู่บนนั้นสมุนไพรเหล่านี้มีราคาสูงมาก ทุกอย่างล้วนต้องใช้เงินไม่น้อยจึงจะซื้อได้นี่เป็นของที่เฟิ่งเชียนอวี่เตรียมไว้ล่วงหน้านานแล้ว ที่จริงรักษาหานจวิ้นไม่จำเ
เฟิ่งเชียนอวี่เบะปาก “แน่นอน”มหาราชครูหานปลื้มปีติกับสิ่งที่เกินความคาดหมายมาก เขาคำนับขอบคุณเฟิ่งเชียนอวี่โดยตรง“นักพรตเฟิงเป็นผู้วิเศษจริงๆ ท่านวางใจได้ ท่านเหนื่อยทั้งที ค่าตอบแทนไม่มีขาดตกบกพร่องแน่นอน”สีหน้าเฟิ่งเชียนอวี่ถึงจะดูดีขึ้นมาก นางมาครั้งนี้ ก็เพื่อคำนี้ไม่ใช่หรือเสร็จงานแล้ว เฟิ่งเชียนอวี่ตามตงฟางจิ่งออกจากจวนหาน พร้อมกับมีทองคำเพิ่มมาอีกสองพันตำลึงเวลาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเร็วมากตงฟางจิ่งในฐานะท่านอ๋องหก ข่าวที่พานักพรตหมอเทวดาไปจวนหาน ถูกคนมากมายในเมืองหลวงให้ความสนใจเดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับอะไร ผู้คนได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว พวกเขาพลางคาดเดาจุดประสงค์ของท่านอ๋องหก พลางจับตาดูการเคลื่อนไหวของจวนตระกูลหานไม่นาน ข่าวที่ตาขวาของหานจวิ้นจวนหานหายดีได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงไม่มีความลับอะไร ช่วงก่อนหน้านี้ พระชายาอ๋องหกแต่งกายเป็นชายไปเที่ยวหอนางโลม ได้เกิดการโต้เถียงกับคุณชายของมหาราชครูหาน หานจวิ้นยังได้รับบาดเจ็บที่ตาขวา กลายเป็นคนตาบอดเรื่องนี้เกิดขึ้นในสถานที่คึกคักอย่างหอหงซิ่ว มีคนมากมายเช่นนั้นดูอยู่ อย่างไรก็ปิดไม่อ
ตงฟางจิ่งนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถอนหายใจ “นักพรตตรวจชีพให้หม่อมฉันแต่อาการป่วยของหม่อมฉันทิ้งเอาไว้นานจนเกินไป แม้ว่าจะเป็นนักพรต ก็หมดหนทางเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”ทันทีที่ฮ่องเต้เทียนหยวนได้ยิน ก็รู้สึกหมดหวังทันที แต่ก็อยู่ในการคาดเดาเช่นกัน อาการป่วยของเจ้าหกเป็นมานานสิบกว่าปีแล้ว โรคเรื้อรังนี้ จะสามารถรักษาได้อย่างง่ายดายเสียที่ไหนกันละ? เฮ้อ“จิ่งเอ๋อร์อย่าได้ทุกข์ใจไป ใต้หล้านี้คนมีความสามารถมากมาย เราเชื่อว่า สุขภาพของเจ้าจะต้องมีหนทางรักษาจนหายดีได้แน่นอน”ฮ่องเต้เทียนหยวนทำได้แค่เพียงพูดปลอบใจตงฟางจิ่งเท่านั้นตงฟางจิ่งนิ่งเงียบไม่พูดจาเมื่อฮ่องเต้เทียนหยวนเห็นดังนั้น ก็ไม่อยากจะหารือหัวข้อนี้อีกต่อไป “จิ่งเอ๋อร์ นักพรตท่านนั้นยังอยู่ที่จวนของเจ้าหรือไม่?”ตงฟางจิ่งกล่าว “หม่อมฉันกับนักพรตเฟิงได้เจอกันโดยบังเอิญ หม่อมฉันบังเอิญช่วยชีวิตนักพรตเอาไว้ นักพรตจิตใจเมตตา ต้องการจะตอบแทนหม่อมฉันถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรักษาอาการป่วยของหม่อมฉันได้อย่างหายขาด แต่ก็ช่วยปรับสมดุลสุขภาพร่างกายของหม่อมฉันพอไหวพ่ะย่ะค่ะ”“นักพรตไม่ได้อยู่ในจวน ไปเก็บสมุนไพรที่บริเวณใกล้ ๆกับภูเขาอวิ๋นเสีย
“ในเมื่อเจ้าชอบพอคุณหนูสามเฟิ่งคนนั้น เราก็ไม่พูดอะไรมากแล้ว แต่ว่าทางที่ดีควรจะดูแลพระชายาของเจ้าให้ดี เป็นหญิงเป็นนาง ทั้งยังเป็นพระชายาผู้สง่าผ่าเผย แต่กลับปลอมตัวเป็นชายไปเที่ยวหอนางโลม? มีอย่างที่ไหนกัน ทำตัวเหลวไหลจริง ๆ”ฮ่องเต้เทียนหยวนพูดไป ก็อดไม่ได้ที่จะทำสีหน้าเคร่งขรึมตงฟางจิ่งพยักหน้า “เชียนเชียนเพียงแค่นิสัยรักสนุกไปหน่อยเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเองก็ตามใจจนเกินไป เสด็จพ่อทรงวางพระทัย ว่าจะไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีกแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้เทียนหยวนโบกมือ “เอาละ สุขภาพของเจ้าไม่แข็งแรง รีบกลับจวนไปพักผ่อนเถอะ”“พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันทูลลา”ตงฟางจิ่งออกจากห้องทรงพระอักษร เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังประตูเสินอู่ ก็เจอเข้ากับอ๋องสามและอ๋องห้าพอดีอ๋องสามตงฟางเย่า สวมชุดสีแดงเข้ม ห้อยหยกรูปนกกระเรียนบินอยู่บริเวณเอว มือถือพัดพับ ที่พัดมีก้อนหินสีฟ้าอมเขียวที่มูลค่าไม่ธรรมดาห้อยอยู่ เดินไปแกว่งไป ท่าทางสง่างามอ๋องห้าตงฟางฉี่ สวมชุดปักลายหม่างสีดำ ห้อยตราประทับอยู่บริเวณเอว มือถือลูกประคำไม้กฤษณาเส้นหนึ่งอยู่ เดินอย่างผ่าเผย หน้าตาหล่อเหลาไม่ธรรมดาเมื่อทั้งสองคนเห็นต
เรื่องที่แพร่ออกมาตอนหลังว่า เจ้าหกกับลูกของอนุภรรยาคนนั้นรักกันมาตั้งนานแล้ว เรื่องแต่งงานแทนจึงเป็นเรื่องที่ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว พวกเขาไม่เชื่อเลยสักนิดถึงแม้จะไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร แต่เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว ก็เพื่อไว้หน้าเจ้าหกก็เท่านั้น จึงจงใจเผยแพร่ออกไปก็เท่านั้น“ปกติน้องหกมักจะเก็บตัวอยู่ในบ้าน ยากที่จะได้เจอสักครั้ง วันนี้ได้เจอกัน พวกเราพี่น้องกินข้าวด้วยกันสักมื้อดีหรือไม่?” ตงฟางฉี่เสนอความคิดเห็นตงฟางจิ่งเหลือบมองทั้งสองคนแวบหนึ่ง กล่าวเสียงเรียบ “ความหวังดีของพี่สามกับพี่ห้าข้ารับเอาไว้ด้วยใจแล้ว แต่ว่าสุขภาพของข้าไม่แข็งแรง ไม่เป็นไรดีกว่า”เมื่อทั้งสองคนได้ยินก็ไม่สนใจ ตงฟางจิ่งสุขภาพไม่ดีตั้งแต่เด็ก ร่างกายอ่อนแอ คลุกอยู่ภายในจวนมาหลายปี ปรากฏตัวน้อยมาก นิสัยก็เย็นชาเหมือนน้ำแข็งมาโดยตลอดตงฟางเย่านึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ยิ้ม “น้องหก ได้ยินมาว่าที่จวนของเจ้ามีนักพรตเฟิง ฝีมือการรักษาน่ามหัศจรรย์ แม้แต่ตาที่บอดของหานจวิ้นก็สามารถหายกลับเป็นปกติได้?”“เรื่องนี้จริงหรือไม่?”เมื่อตงฟางฉี่ได้ยิน หัวใจหวั่นไหวทันที แล้วก็มองตงฟางจิ่งตงฟางจิ่งหยักห
เรือนชิงหลาน เฟิ่งเชียนอวี่ให้สาวใช้ยกเก้าอี้สนมเอก[1]ออกมาข้างนอก ตนเองนอนอยู่ด้านบน กำลังอาบแดดอย่างเกียจคร้าน ปากบ่นพึมพำ“เบื่อ น่าเบื่อเหลือเกิน...”หลิวซูกับอิ้งเสวี่ยสบตากันแวบหนึ่ง เดินมาข้างหน้า“พระชายา บ่าวร้องเพลงให้ท่านฟังดีหรือไม่”“ใช่เจ้าค่ะ พระชายา บ่าวยังเล่าเรื่องตลกเป็นนะเจ้าคะ ท่านฟังแก้เบื่อได้”เฟิ่งเชียนอวี่มุ่ยปาก เล่าเรื่องตลก? จะยังมีอะไรน่าขำไปกว่ามุกตลกสมัยใหม่ที่หลากหลายพวกนั้นอีกเหรอไง? ช่างเถอะนางครุ่นคิด “หรือว่า พวกเราออกไปเที่ยวเล่นที่นอกจวนกันเถอะ ถนนทิศตะวันออกกับถนนทิศใต้ทางด้านนั้น มีสถานที่อีกมากมายที่ยังไม่ได้เลยนะ”สาวใช้ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย“พระชายา ท่านดูสิเจ้าคะว่าวันนี้แดดแรงมากแค่ไหน ถ้าออกไปละก็ ถ้าหากไม่ระวังตากแดดจนดำ ถ้าแบบนั้นก็จะไม่สวยเอานะเจ้าคะ”“ถูกต้องเจ้าค่ะพระชายา หรือไม่พวกเราค่อยไปเดินเที่ยวกันวันหลังนะเจ้าคะ รอให้อากาศเย็นสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่อดไม่ได้ที่จะมองบน “ตอนนี้เพิ่งจะเดือนห้า รอให้อากาศเย็นสบาย อย่างน้อยก็ต้องเดือนสิบนู่นพวกเจ้าไม่อยากออกไปกับข้าก็พูดมาตรง ๆ ก็จบแล้ว”สาวใช้ทั้งสองคนเม้มปาก กล่าว
“ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื
“รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง
ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท
“พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้
บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี
“...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้
“เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่
“เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ