Home / LGBTQ+ / ชายาข้าน่ารักเกินใคร / บทที่ 1 หนี้แค้นตระกูลหลี่

Share

บทที่ 1 หนี้แค้นตระกูลหลี่

       

             “เกอเกอ... ท่านอย่าตายนะ... เกอเกอ...”

ภายในตำหนักอี้ชิ่งอันกว้างใหญ่ ท่ามกลางผ้าม่านสีขาวโปร่งบางเป็นชั้นๆ ปลิวล้อสายลมยามย่ำรุ่ง ปรากฏเงาร่างกลมป้อมของ 'เฉินซือหยาง' นอนกระสับกระส่ายพลิกไปพลิกมาบนแท่นบรรทม มือเล็กกำผ้าห่มแน่น เหงื่อกาฬแตกพลั่กไหลโทรมกายเปียกชุ่มฟูกนอน เสียงละเมอของเด็กน้อยครางเครือในลำคอดังขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาจางเสี่ยวเหล่ยหรือจางกงกงที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูตำหนักตื่นตระหนกตกใจจนต้องรีบเข้าไปดู

             “องค์รัชทายาท องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”

             “เกอเกอ!”

             เฮือก!!

             เฉินซือหยางสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย ผุดลุกขึ้นนั่งหายใจหอบหนัก ในห้วงความคิดภาพเหตุการณ์ในฝันยังคงวนเวียนอยู่ในหัว มันชัดเจนราวกับว่าเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นจริงที่ไหนสักแห่ง ไม่ใช่เพียงแค่ความฝัน

             ‘แล้วมันคือที่ใดกันเล่า เกอเกอที่ข้าเรียกหานั้นคือผู้ใดกัน’

             เฉินซือหยางยิ่งคิดยิ่งสับสนมึนงง ใบหน้างามสง่าในห้วงฝันเริ่มเลือนรางห่างไกลราวกับคนผู้นี้ไม่มีอยู่จริง เหตุใดทุกครั้งที่เขาลืมตาตื่นพอนึกถึงภาพใบหน้าของคนผู้นั้นทีไรถึงนึกไม่ออกเล่า

             “เป็นอะไรไปพ่ะย่ะค่ะ ทรงพระสุบินร้ายอีกแล้วหรือ” จางกงกงห่วงใย เห็นองค์รัชทายาทน้อยคลึงขมับเล็กๆ ไม่หยุด เหงื่อยังผุดซึมเต็มดวงหน้า จึงกวักมือเรียกขันทีให้เอาผ้ามาซับเหงื่อให้นายเหนือหัว

             เฉินซือหยางส่ายศีรษะให้หายมึน ปล่อยให้ข้ารับใช้คนสนิทเช็ดหน้าเช็ดมือให้จนรู้สึกสบายตัวขึ้นเล็กน้อย

             “อืม ตอนนี้ยามใดแล้ว”

             “ยามอิ๋นสามเค่อ[1] แล้ว จะทรงบรรทมต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

             เฉินซือหยางโบกมือปฏิเสธกงกงคนสนิท “ไปเตรียมน้ำเถอะ ข้าอยากอาบน้ำเสียหน่อย”

             “พ่ะย่ะค่ะ” จางกงกงออกไปสั่งการให้ขันทีจัดเตรียมห้องสรงน้ำเพียงครู่ แล้วกลับเข้ามาปรนนิบัติองค์รัชทายาทเช็ดหน้าบ้วนปาก ถอดฉลองพระองค์ให้แล้วพาองค์รัชทายาทตัวน้อยไปสรงน้ำ แต่เฉินซือหยางกลับโบกมือไล่ข้ารับใช้เหล่านั้นออกไป เหล่านางกำนัลขันทีต่างค้อมกายรับคำสั่ง ถอยห่างจากตำหนักหลักเงียบๆ เหลือเพียงจางกงกงที่ยืนรออยู่หลังฉากบังลมไม้หวงฮวาหลี[2] ฉลุลายกิเลนทองเหยียบเมฆมงคล

             “วันนี้ฝ่าบาทมีรับสั่งให้พระองค์เข้าเฝ้าหลังเลิกเรียนนะพ่ะย่ะค่ะ” จางกงกงแจ้งพระประสงค์ของฝ่าบาทซึ่งกำชับเขาเมื่อคืนหลังจากทรงกล่อมองค์รัชทายาทเข้าบรรทมแล้ว

             “เสด็จพ่อได้ตรัสหรือไม่ว่าเรื่องใด”

             “ไม่ได้ทรงตรัสไว้พ่ะย่ะค่ะ”

             “ข้าเข้าใจแล้ว” เฉินซือหยางแช่น้ำอีกครู่ พอน้ำเริ่มเย็นจึงลุกออกจากถังน้ำ จางกงกงรอท่าอยู่แล้วถือผ้ามาช่วยซับหยดน้ำจากร่างเล็กนุ่มนิ่ม ขันทีคอยเงี่ยหูฟังการเคลื่อนไหวในตำหนักต่างรีบเข้ามาปรนนิบัติองค์รัชทายาทแต่งกายอย่างรู้หน้าที่ เหล่านางกำนัลเองก็ยกเครื่องเสวยร้อนๆ จากห้องเครื่องตั้งสำรับไว้พร้อมสรรพ

             เฉินซือหยางยืนนิ่งปล่อยให้เหล่าข้ารับใช้ปรนนิบัติด้วยสีหน้าเรียบเฉย คันฉ่องทองแดงสะท้อนภาพใบหน้าอวบอิ่มของเขา คิ้วคมเข้มปาดเฉียงรับกับดวงตาสีดำดุจรัตติกาลลึกล้ำเกินหยั่งถึงเป็นประกายกล้า ริมฝีปากบางเม้มแน่นปราศจากรอยยิ้มดูเคร่งขรึมเกินวัย ไม่เข้ากับวัยเพียง 9 ชันษาของเขาเอาเสียเลย แต่เฉินซือหยางหาได้สนใจสายตาของผู้ใด เขายังคงปฏิบัติราชกิจประจำวันของตนเองด้วยอาการเฉยชา ร่างเล็กสาวเท้าออกจากตำหนักอี้ชิ่งท่ามกลางหิมะแรกที่โปรยปรายในฤดูเหมันต์

[1] เป็นนับโมงยามของจีน ยามอิ๋นคือเวลา 3.00 น. ถึง 05.00 น. หนึ่งเค่อประมาณ 15 นาที ฉะนั้น ‘ยามอิ๋นสามเค่อ’ คือเวลา 03.45  น.

[2] หวงฮวาหลี ( 黄花梨 ) เป็นต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่าบนเกาะไหหลำ เนื้อไม้แน่น มีลวดลายสวยงาม นิยมนำมาใช้ทำเป็นเครื่องเรือน มีราคาสูง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status