Share

บทที่ 9

last update Huling Na-update: 2024-11-22 20:35:53

 

เหตุการณ์ลอบสังหารในงานเลี้ยงฉลองชัยราชสำนักสูญเสียขุนนางไปครึ่งค่อน โอรสสวรรค์พิโรธหนักเรียกขุนนางใหญ่ทั้ง 3 กรมเข้าเฝ้าเพื่อสืบคดีให้ถึงที่สุด ลากตัวผู้อยู่เบื้องหลังการลอบปลงพระชนม์ออกมาสำเร็จโทษ หลังการสอบสวนเสนาบดีกรมพิธีการ และพรรคพวกถูกลากไปตัดหัวที่ประตูอู่เหมินเซ่นดวงวิญญาณของผู้สูญเสีย เหอต๋าผู้บัญชาการทหารเก้าประตูถูกโบยแปดสิบไม้ และปลดออกจากตำแหน่งโทษฐานเพิกเฉยต่อหน้าที่

       เฉินเทียนอี้ถือโอกาสนี้ปรับขั้วอำนาจในราชสำนักครั้งใหญ่ จ้วงหยวน ปั๋งเหยี่ยน และทั่นฮวาฝ่ายบุ๋น[1] ในปีนี้โชคดีราวกับมีขนมเปี๊ยะหล่นลงมาจากฟ้า ล้วนแล้วแต่เข้ารับตำแหน่งสำคัญทั้งสิ้น 'หานจางหมิ่น' จ้วงหยวนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นราชครูในองค์รัชทายาท จินซานปั๋งเหยี่ยนเลื่อนจากขุนนางในกรมอารักษ์เล็กๆ ขึ้นเป็นรองเสนาบดีกรมพิธีการ ส่วนทั่นฮวาผู้ไม่ถูกเอ่ยนามได้รับตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นสี่ในกรมโยธา แน่นอนว่าไทเฮาย่อมเป็นฝ่ายเสียหายหนัก เพราะขุนนางที่ถูกสังหารล้วนแล้วแต่เป็นคนของหลี่ย่าเสียงไทเฮาทั้งสิ้น ตระกูลหลี่ทั้งบนล่างร้อนใจดุจมดในกระทะร้อน อู๋กั๋วกงหลี่เจียงเองก็ไม่นิ่งนอนใจ รุดเข้าเฝ้าไทเฮาแต่เช้าจนถึงตอนนี้ประตูตำหนักฉือซวนยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดต้อนรับผู้ใด

       ภายในตำหนักฉือซวนหลี่เจียงเห็นบุตรสาวเอนกายผ่อนคลายอารมณ์อยู่บนตั่งคนงาม มีหม่าหมัวมัวนางกำนัลคนสนิทคอยรับใช้ข้างกาย ความร้อนรุ่มกลุ้มใจที่มีก็คลายลงไม่น้อย

       “เหนียงเหนียง[2]”

       “ท่านพ่อไม่ต้องมากพิธี มาหาข้าแต่เช้าเช่นนี้มีเรื่องด่วนอะไรหรือ” หลี่ย่าเสียงส่งสายตาให้หม่าหมัวมัวยกโต๊ะรินชาให้กับอู๋กั๋วกงผู้เฒ่า หลี่เจียงเองก็ไม่มากพิธีอีก พอนั่งลงบนเก้าอี้ก็เริ่มปรึกษาหารือเรื่องในราชสำนักกับบุตรสาวอย่างเคร่งเครียด

       “จะเรื่องใดเล่า หากไม่ใช่เหตุการณ์ลอบสังหารในครานี้ พวกเซียนเป่ยน่าตายนั่นทำคนของเราตายดุจใบไม้ร่วง เหนียงเหนียงก็รู้ว่าสองสามปีมานี้ ตั้งแต่พระนางลงจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทน ตระกูลเราถูกลดทอนอำนาจไปมากเพียงใด คนเก่าคนแก่ยังมาถูกพวกเซียนเป่ยสังหารไปอีก ช่วงนี้พ่อกับอาเจี๋ยจะขยับตัวทำอะไรก็ลำบากไปหมด คนที่เข้ามารับตำแหน่งแทนคนของเราก็เป็นคนของไอ้เด็กเวรนั่นทั้งนั้น ทีนี้เราจะทำอย่างไรกันดีเล่า”

       “ท่านพ่อจะร้อนใจไปไย ในเมื่อแต่งตั้งได้เราก็หาเรื่องปลดได้เช่นกัน หากปลดออกจากตำแหน่งไม่ได้ เราก็แค่หยิบยื่นผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ หลอกล่อ ใครบ้างไม่ต้องการ อันคำว่ามนุษย์นั้นย่อมมีความเห็นแก่ตัวเป็นที่ตั้ง ผู้ใดจะปฏิเสธหนทางก้าวหน้าในชีวิตของตนเอง ช่วงนี้ท่านพ่อกับพี่ชายก็ทนอึดอัดคับข้องใจไปก่อน หลังจากนี้ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเอาคืน” หลี่ย่าเสียงรับน้ำชามาจิบให้ชุ่มคอ หม่าหมัวมัวคอยนวดขาคลายเมื่อย ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจไปกับบิดาเลยสักนิด มีพี่ชายอย่างหลี่เหยียนเจี๋ยเป็นถึงเสนาบดีกรมขุนนาง เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายขุนนางในราชสำนักนั้นง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ

       “เหนียงเหนียงตรัสเช่นนี้พ่อค่อยสบายใจหน่อย แล้วเรื่องของเหลียนเอ๋อร์เล่าไปถึงไหนแล้ว แต่งงานมาตั้ง 9 ปี เหตุใดถึงยังไม่มีข่าวดีเสียที อย่าหาว่าพ่อเร่งรัดเลยนะ เหนียงเหนียงก็รู้เรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการให้กำเนิดองค์ชายน้อยจากตระกูลหลี่ของเรา ถ้าเหลียนเอ๋อร์ไม่ได้จริงๆ ยังมีเหม่ยเอ๋อร์กับอิงเอ๋อร์ที่ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ อย่าได้รังเกียจว่าเหม่ยเอ๋อร์กับอิงเอ๋อร์เป็นแค่สายรอง อย่างไรเสียพวกนางก็มีสายเลือดตระกูลหลี่เช่นกัน พอองค์ชายคลอดออกมาอย่างไรก็ต้องยกให้เป็นบุตรของเหลียนเอ๋อร์อยู่ดี แต่ถ้าเหนียงเหนียงไม่ชอบใจก็รอให้เหลียนเอ๋อร์มีบุตรเป็นของตัวเอง ถึงตอนนั้นเราค่อยเปลี่ยนตัวฮ่องเต้ก็ยังไม่สาย” หลี่เจียงหารือกับบุตรสาว เหม่ยเอ๋อร์กับอิงเอ๋อร์ที่เขากล่าวถึงก็คือ หลี่ลู่เหม่ย และหลี่ลู่อิงหลานสาวของน้องชายเขาที่เพิ่งเข้าวังมาก่อนหน้านี้

       “ใช่ว่าข้าจะไม่ร้อนใจกับเรื่องนี้เสียเมื่อไหร่ เดิมทีข้าวางแผนส่งตัวเหม่ยเอ๋อร์และอิงเอ๋อร์เข้าตำหนักหยางซินได้แล้ว แผนการรัดกุมทุกอย่างถูกเตรียมการไว้พร้อมสรรพขาดก็แต่ลมบูรพาเท่านั้น ผู้ใดเล่าจะคิดว่าลมยังไม่มา แต่ที่มาคือพายุฝนคาวโลหิตแทน แผนที่ข้าวางไว้เลยพังไม่เป็นท่า” หลี่ย่าเสียงแค้นใจ แผนการที่วางไว้เสียดิบดีกลับต้องมาพังไม่เป็นท่าเพราะคนป่าเถื่อนพวกนั้น

       “ทางด้านเต๋อเฟยก็ไม่มีวี่แววเลยหรือ”

       “นังปีศาจจิ้งจอกนั่น นอกจากยั่วยวนไปวันๆ แล้ว หาได้มีประโยชน์อันใดไม่ แค่ส่งข่าวเล็กๆ น้อยๆ ยังอิดออดเกียจคร้าน ถ้าไม่เห็นแก่หน้ารองเสนาบดีซูแล้วละก็ข้าคงกำจัดนางทิ้งไปตั้งนานแล้ว”

       “เวลาก็ผ่านมาตั้งเนิ่นนานขนาดนี้แล้ว เหตุใดถึงยังไม่มีองค์ชายองค์หญิงหลุดออกมาสักคน หรือว่าข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง” หลี่เจียงพึมพำเสียงเบาลูบหนวดครุ่นคิดถึงข่าวลือที่แพร่สะพัดในหมู่ประชาราษฎร์กันหนาหูในระยะนี้

       “ข่าวลือเรื่องใดหรือท่านพ่อ”

       “จำเรื่องที่เราส่งคนไปลอบสังหารไอ้เด็กนั่นในสนามรบได้หรือไม่” หลี่เจียงกล่าวถึงตอนที่เฉินเทียนอี้อาสายกทัพไปปราบเผ่าซยงหนูในคราวนั้นด้วยตนเอง เขารู้ถึงความทะเยอทะยานของเฉินเทียนอี้ดี เลยซ้อนแผนกะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายตกไปในสงครามนั่นเสีย แล้ววางแผนยกเฉินซือหยางขึ้นครองบัลลังก์แทน เพราะถึงอย่างไรตอนที่หลานกุ้ยเฟยตั้งครรภ์เฉินเทียนอี้ก็ไม่ได้ล่วงรู้ว่ามีบุตรคนนี้อยู่ การฆ่ามารดาเอาบุตรนั้นเป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง เพราะสำหรับสตรีแล้วการคลอดบุตรก็เหมือนกับการไปเยือนประตูผีมารอบหนึ่ง เดิมทีแผนการทุกอย่างรัดกุม บัลลังก์มังกรก็เหมือนกับของที่อยู่ในถุงหนังของสกุลหลี่ ใครจะนึกว่าเฉินเทียนอี้กลับดวงแข็งสามารถยกทัพกลับมาพร้อมชัยชนะทั้งยังข่มขู่เอาเด็กไปจากพวกเขาได้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะแลกกับการแต่งตั้งเหลียนเอ๋อร์เป็นฮองเฮา และยอมดื่มพิษสะบั้นวิญญาณก็เถอะ แต่เขาก็รู้สึกว่าไม่คุ้มค่าอยู่ดี ถ้าไม่มัวแต่อยากได้องค์ชายที่มีสายเลือดสกุลหลี่ ป่านนี้สกุลหลี่ของเขาคงลักมังกรเปลี่ยนหงส์สำเร็จไปนานแล้ว พูดมาก็ให้เสียดายยิ่งนัก หลี่เจียงส่ายศีรษะทอดถอนใจ

       “ลูกจำได้แม่นเลยทีเดียว” เห็นชัดว่าหลี่ย่าเสียงก็คิดเช่นเดียวกัน

       “เห็นเขาลือว่าฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บที่ส่วนนั้นตอนสู้รบจึงไม่สามารถมีทายาทได้อีก”

       “จะเป็นไปได้อย่างไร แล้วที่เขาเที่ยวหว่านเมล็ดพันธุ์เป็นว่าเล่นในวังหลังนั่น เขาตบตาอายเจียอยู่หรือ บัดซบ!” หลี่ย่าเสียงเขวี้ยงถ้วยชาโมโหเลือดขึ้นหน้า หลายปีที่นางยัดเยียดนางสนมมากหน้าหลายตาเข้าวังหลังเพื่อสิ่งใดกัน

       “เหนียงเหนียงโปรดระงับโทสะ ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ข่าวที่ชาวบ้านเขาลือกัน ใช่ว่าจะเป็นจริงเสียเมื่อไหร่ เราหาทางสืบเรื่องนี้ให้แน่ชัดแล้วค่อยวางแผนกันอีกทีดีหรือไม่” หลี่เจียงพยายามระงับอารมณ์ของบุตรสาว หลี่ย่าเสียงสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ข่มอารมณ์กรุ่นโกรธ เค้นเสียงสั่งบิดาเสียงต่ำ

       “ได้! ท่านพ่อรีบให้พี่ชายสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างเถิด หากข้ารู้ว่าเจ้าเด็กนั่นกล้าเล่นแง่กับข้ามาหลายปีขนาดนี้แล้วละก็ ข้าจะทำให้มันอยู่ไม่สู้ตาย”

       หลี่เจียงไม่ขัดบุตรสาวเพียงพยักหน้าคล้อยตาม ก่อนกลับไม่ลืมกำชับบุตรสาวอีกรอบ “ราตรียาวนาน ความฝันมากมาย[3] เหนียงเหนียงรีบหาวิธีเถิด หากชักช้าจะยิ่งเสียการใหญ่”

[1] เป็นตำแหน่งของผู้ที่สอบเข้ารับราชการเป็นขุนนางในสมัยโบราณ แบ่งเป็นฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ โดยจ้วงหยวนคือ ผู้ที่สอบได้อันดับ 1 ปั๋งเหยี่ยนคือ ผู้ที่สอบได้อันดับ 2 และทั่นฮวาคือ ผู้ที่สอบได้อันดับ 3 ในการสอบเตี้ยนซื่อหรือการสอบหน้าพระที่นั่ง

[2] เหนียงเหนียง (娘娘) คำที่ใช้เรียกไทเฮา ฮองเฮา หรือพระสนมยศสูงด้วยความเคารพ

[3] หมายความว่า เวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคยิ่งมีมากขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 10

    วันคืนผ่านพ้น หลังเหตุการณ์การสูญเสียครั้งใหญ่ มีคนโศกเศร้าเสียใจ ย่อมมีคนดีอกดีใจ มีคนกลุ้มอกกลุ้มใจ ย่อมมีคนวางเฉย มีคนบินสูงสู่ยอดไม้ ย่อมมีบางคนตกต่ำไม่อาจผงาดขึ้นมาได้อีก พอเรื่องร้ายผ่านพ้นไป เรื่องดีๆ ก็เข้ามาพร้อมๆ กัน วันนี้จวนไท่เว่ยคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากทางจวนจัดงานเลี้ยงฉลองเลื่อนตำแหน่งของเจิ้งกั๋วกงจ้าวมู่ อีกทั้งยังเป็นวันครบรอบขวบปีของคุณชายเจ็ดจ้าวลี่หมิง จวนไท่เว่ยจึงจัดพิธีจวาโจว[1] พร้อมกันเสียเลย เรียกว่าเป็นงานมงคลคู่ที่หาได้ยากยิ่ง ผู้คนในจวนทั้งบนล่างต่างวิ่งวุ่นจัดงานแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น แน่นอนว่าคนที่ว่างแสนว่างจนไม่มีอะไรให้ทำอย่างพวกสามแฝดตระกูลจ้าวก็มีเรื่องให้ทำเช่นกัน หลังจากสามแสบวุ่นวายอยู่ในห้องครัวอยู่พักใหญ่ ทำเอาห้องครัวของจวนไท่เว่ยอลหม่านจนไก่บินสุนัขกระโดดกำแพง[2] กันไปยกหนึ่ง จึงถูกกู้ฟางเหนียงโยนเข้าห้องไล่ให้ไปเลี้ยงน้องมันเสียเลย “ลี่จูๆ ลี่จิน... ลี่หลินเบื่ออ่ะ” จ้าวลี่หลินกระตุกชายแขนเสื้อของฝาแฝด ใบหน้าเริ่มมีเค้าความงามงอง้ำ บุ้ยปาก

    Huling Na-update : 2024-11-23
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 11

    ในขณะที่ทางฝั่งเด็กๆ กำลังเล่นจับนกกันอย่างสนุกสนาน ทางด้านเรือนใหญ่เองก็เริ่มเปิดประตูต้อนรับขุนนางผู้มาร่วมแสดงความยินดีกับเจิ้งกั๋วกงที่ได้เลื่อนตำแหน่ง กู้ฟางเหนียงในฐานะฮูหยินตราตั้งจึงต้องออกมาช่วยสามี และแม่สามีต้อนรับแขกเหรื่อ แน่นอนว่าจ้าวลี่จ้ง และจ้าวลี่เจียเองก็ถูกลากให้มาต้อนรับบรรดาคุณหนู บุตรีผู้สูงศักดิ์ที่มาร่วมงานกับครอบครัวเช่นเดียวกัน “ใกล้จะได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว จ้งเอ๋อร์ไปดูสิว่าแม่นมหลิ่วแต่งตัวให้เสี่ยวชีเสร็จหรือยัง” “เจ้าค่ะท่านแม่” จ้าวลี่จ้งรับคำ ผละกายจากไปได้เพียงไม่นาน ก็มีเสียงขานนามดังก้อง “องค์รัชทายาทเสด็จ” เฉินซือหยางมาร่วมงานอย่างเหนือความคาดหมายของทุกคน บรรดาขุนนางทั้งหลายที่มาร่วมงานต่างแตกตื่นตกใจ รีบค้อมกายทำความเคารพ พลางรู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่มาร่วมงานในครั้งนี้ นอกจากจะได้ประจบเอาใจจ้าวมู่แล้วยังได้ประจบเอาใจรัชทายาทอีกทาง ซึ่งเป็นผลดีกับตำแหน่งหน้าที่ของตนเองในอนาคต&nbs

    Huling Na-update : 2024-11-24
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 12

    ผู้คนต่างทอดถอนใจ นึกถึงตอนนั้นที่ 'หลานซือเยว่' ไต่เต้าจากนางกำนัลข้างกายองค์ชายเก้าหรือเฉินเทียนอี้ฮ่องเต้ จนได้เป็นถึงกุ้ยเฟย ทั้งที่พระนางมีพระชนมายุมากกว่าเฉินเทียนอี้ฮ่องเต้ถึง 7 ชันษา กลับกุมหทัยองค์จักรพรรดิไว้อย่างเหนียวแน่น หากไม่เพราะคนงามอายุสั้น เสียชีวิตหลังคลอดบุตรแล้วละก็คงไม่มีหลี่ฮองเฮาในวันนี้ ถึงกระนั้นตำแหน่งกุ้ยเฟยก็ถูกปล่อยให้ว่างไว้ ไม่มีพระสนมนางใดปีนป่ายถึงตำแหน่งนี้สักคน แม้แต่ซูโม่หลันพระสนมคนโปรดที่หน้าตาเหมือนกับหลานกุ้ยเฟยราวกับแกะยังได้ดำรงตำแหน่งแค่เต๋อเฟย เห็นได้ชัดถึงความรักใคร่ที่เฉินเทียนอี้ฮ่องเต้มีให้กับหลานซือเยว่ “สวรรค์กลั่นแกล้งโฉมสะคราญโดยแท้” ขุนนางผู้เฒ่าคนหนึ่งเปรยขึ้น คนส่วนใหญ่ต่างเออออคล้อยตาม ทอดถอนใจกับชะตาชีวิตอันแสนรัดทนของหญิงงาม ผิดกับเจิ้งกั๋วกงที่มุมปากกระตุกตั้งแต่เฉินซือหยางหยิบปิ่นหงส์ออกมาแล้ว ปิ่นปักผมของหญิงสาวจะเหมาะกับบุตรชายของเขาได้อย่างไร แต่ในเมื่ออีกฝ่ายหวังดี? (ประสงค์ร้าย) เขาเองก็ไม่อยากทำตัวเป็นผู้ใหญ่รังแกเด

    Huling Na-update : 2024-11-25
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 13

    หลังองค์รัชทายาทเสด็จกลับ งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปตลอดทั้งบ่าย วันนั้นเกิดเรื่องราวมากมาย แน่นอนว่าเรื่องใหญ่ล้วนไม่พ้นเรื่องที่องค์รัชทายาทพึงใจในตัวบุตรชายของเจิ้งกั๋วกงจนถึงขั้นมอบของแทนใจให้อีกไม่นานคงมีราชโองการพระราชทานสมรสตามมา แน่นอนว่าเรื่องเหลวไหลไร้สาระพรรค์นี้ล้วนถูกบิดเบือนจากการเล่าลือในหมู่ชาวบ้าน เรื่องราวลุกลามถึงขั้นมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงรูปโฉมของคุณชายตระกูลจ้าวว่างดงามดุจเทพเซียน งามสะท้านสะเทือนถึงสามภพ รูปงามเสียจนมัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา จันทร์หลบโฉมภาดา มวลผกาละอายชาย?[1] เรื่องเหล่านี้เราจะไม่กล่าวถึงเป็นการชั่วคราว เพราะมีเรื่องราวเล็กๆ ที่น่าสนใจหลายเรื่องที่ยังไม่ได้กล่าวถึง แน่นอนว่าเรื่องแรกคงหนีไม่พ้นจ้าวลี่จ้งที่ก่อนหน้านี้ออกตามหาน้องชายให้วุ่น ในระหว่างตามหาน้องชายอยู่นั้น บังเอิญพบกับจินซานปั๋งเหยี่ยนคนใหม่ที่นางเคยช่วยไว้เมื่อคราวก่อน ตอนแรกนางจำเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ จิตใจจดจ่ออยู่กับการตามหาน้องชายด้วยความห่วงใย แต่บุรุษรูปงามดุจหยกยืนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้นานาพรรณแข่งกันอวดโฉ

    Huling Na-update : 2024-11-26
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 14

    เรื่องสุดท้ายคงหนีไม่พ้นแฝดสามตระกูลจ้าว หลังงานเลี้ยงเลิกราไปแล้วสมาชิกตระกูลจ้าวยังคงรวมตัวกันในห้องโถงของเรือนหลัก โดยมีฮูหยินผู้เฒ่านั่งเป็นประธานพิจารณาความผิดของสามแฝดรวมถึงบ่าวรับใช้ผู้มีหน้าที่ดูแลจ้าวลี่หมิง ฮูหยินผู้เฒ่ายกชาขึ้นจิบ บรรยากาศคล้ายถูกแช่แข็ง ทุกคนพร้อมใจกันเงียบเสียง ภายในห้องเงียบฉี่ หากมีเข็มหล่นบนพื้นคงได้ยินกันทั่ว เฉาม่านเหลือบตามองหลานสาวที่นั่งหน้าหงอยอยู่เบื้องหน้าตนแล้วถอนหายใจอย่างหนักอก ความซุกซนของหลานสาวทั้งสามคนเกือบก่อเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว กึก! มือบางที่มีริ้วรอยตามกาลเวลาวางถ้วยชากระทบโต๊ะเสียงดัง ทำเอาสามแฝดสะดุ้งโหยง รู้ว่าคราวนี้ท่านย่าโกรธแล้วจริงๆ “รู้ความผิดของตนเองหรือไม่” “ทราบเจ้าค่ะ” จ้าวลี่จู จ้าวลี่จิน จ้าวลี่หลิน รวมถึงสาวใช้ที่นั่งคุกเ

    Huling Na-update : 2024-11-27
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 15

    “เยว่เอ๋อร์” เฉินเทียนอี้มองเรือนร่างงดงามดุจกิ่งหลิวในชุดฉลองพระองค์สีเหลืองทองลายพญาหงส์ห้าสี ศีรษะสวมมงกุฎหงส์ ติ่งหูบอบบางนุ่มนิ่มประดับกุณฑลไข่มุกเม็ดงาม ลำคอระหงใส่หลิ่งเยวีย[1] เส้นสวย พาดทับด้วยประคำไข่มุกเฉาจูเส้นยาวเต็มพิธีการ สายตาคมเข้มจับจ้องดวงหน้างดงามหมดจด บริสุทธิ์ อ่อนหวานดั่งดวงจันทราในฝากฟ้ายามรัตติกาลที่เขาคะนึงหาทุกวันคืนด้วยสายตารักใคร่หลงใหล ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งบนแท่นหยกน้ำแข็งพันปี โดยไม่สะทกสะท้านต่อความเย็นเยียบจับขั้วหัวใจ มือหนาสั่นเทาขณะเอื้อมไปสัมผัสแก้มนวลเย็นเฉียบของหลานซือเยว่ นิ้วเรียวยาวเขี่ยไล้แก้มอิ่มเบาๆ ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปสัมผัสกับขนตางอนยาว หวังเหลือเกินว่าดวงตาหงส์ที่กำลังหลับพริ้มอยู่จะลืมตาตื่นขึ้นมาสบตากับเขาอีกครา เฉินเทียนอี้รวบมือบางขึ้นมาลูบไล้เล่น ขณะพูดคุยกับหญิงสาวเหมือนเช่นเคย “รู้หรือไม่เยว่เอ๋อร์ คนที่เคยทำร้ายเจ้ากำลังจะได้รับผลกรรมที่พวกมัน

    Huling Na-update : 2024-11-28
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 16

    “ฝ่าบาท” เฝิงไห่เอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา ดึงสติของเฉินเทียนอี้กลับมาจากห้วงคำนึงอันแสนยาวนาน “มาแล้วหรือ เป็นอย่างไร รสชาติของนังแพศยาตระกูลหลี่ แทบกระเดือกไม่ลงเลยสิท่า” เฉินเทียนอี้ถามเสียงนุ่ม ขัดกับนัยน์ตาวาววับเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังไม่จางหาย “พ่ะย่ะค่ะ” เฝิงไห่ค้อมกายรับคำเสียงเรียบ สายตาหลุบต่ำมองหลานซือเยว่แฝงประกายอ่อนโยน สลับกับเงาร่างของเฉินเทียนอี้ที่อยู่เคียงข้างด้วยอารมณ์ซับซ้อน ก่อนจะถอนหายใจเสียงแผ่ว “เจ้าคงสะอิดสะเอียนมากสินะ ทำเรื่องเช่นนี้แทนข้ามาหลายปี คงเบื่อมากเลยสิท่า” “หามิได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทประสงค์สิ่งใด กระหม่อมย่อมปฏิบัติตามโดยสิ้น” “ประเสริฐ! ข้าต้องการ ‘บุตร’ เพิ่มอีกหลายคน มีกับพระสนมขั้นสูงได้ยิ่งดี ช่วงนี้คงต้องลำบากเจ้าแล้ว” เฉินเทียนอี้ยิ้มหยัน ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ย่อมมีความโลภเป็นที่ตั้ง เขาไม่เชื่อหรอกว่

    Huling Na-update : 2024-11-29
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 17

    อาการประชวรของเฉินเทียนอี้ถูกปิดมิด ไม่มีผู้ใดในเมืองหลวงระแคะระคายเลยว่าเฉินเทียนอี้ฮ่องเต้ผู้ออกว่าราชการนั้นเป็นตัวปลอม เฝิงไห่แสดงเป็นเฉินเทียนอี้ได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติสมกับที่ทำเช่นนี้มานานปี ข่าวลือเรื่องการประชวรไม่มีเล็ดลอดออกไป แต่ข่าวลือที่เฉินซือหยางไปวางระเบิดไว้ที่จวนไท่เว่ยกลับกระจายออกไปทั่วบ้านทั่วเมือง “นี่ๆ เหล่าหลู่เจ้าได้ยินข่าวลือช่วงนี้หรือไม่” ผู้เฒ่าจูเดินขายถังหูลู่แต่เช้าจนขาแข็ง หยุดพักเหนื่อยที่ร้านน้ำชาของผู้เฒ่าหลู่ ถือโอกาสชวนคุยขณะนั่งจิบน้ำชาคลายหนาว “เรื่องอะไรหรือ” ผู้เฒ่าหลู่หูผึ่ง สนใจใคร่รู้ขึ้นมาทันที “อ้าว! ก็เรื่ององค์รัชทายาทอย่างไรเล่า” “ใช่เรื่องที่องค์รัชทายาทไปถูกตาต้องใจบุตรชายของเจิ้งกั๋วกงหรือไม่เหล่าจู” พ่อค้าขายเซาปิ่ง[1] ทิ้งแผงมาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคน “เรื่องนั้นแหละ ได้ยินว่าให้ของแทนใจทั้งปิ่นหงส์ ทั้

    Huling Na-update : 2024-11-30

Pinakabagong kabanata

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทสัมภาษณ์พิเศษ

    ‘เปิดตำหนักลับฉบับวายป่วง’ สำนักข่าวเถียนเถียนรายงานสดจากตำหนักจินหลวน นักข่าวนิรนาม : “มีคนบ่นว่าพระเอกเรื่องนี้ไม่เหมือนพระเอกจริงหรือไม่ขอรับ” สวีจิ้งเฟิ่ง : “ผู้ใดบอกให้นักเขียนผู้นั้นให้บทเด่นกับท่านพ่อมากเกินไปเล่า” สวีจิ้งเฟิ่งแบมืออย่างช่วยไม่ได้ นักเขียน : “C £ C!!” ถึงกับเลิ่กลั่ก นักข่าวนิรนาม : “คุณแย่งซีนบุตรชายเช่นนี้ รู้สึกผิดหรือไม่ขอรับ” สวีเฟยหลง : “แย่งซีนคืออันใด” ไป่ชิงถง : “กินได้หรือไม่” หลินเสวี่ยเฟิ่ง : “ข้าว่าน่าจะไม่ใช่ของ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 4

    ด้วยความเพียรพยายามมุมานะอุตสาหะกกไข่แทนภรรยาของสองพ่อลูกแซ่สวี ในที่สุดไข่ใบน้อยก็เริ่มกะเทาะเปลือกออกมาแล้ว "อีกนิด ลูกทำได้ เจาะเปลือกบนหัวออกก่อนแบบนั้นแหละ" เสียงพ่อลูกแซ่สวีให้กำลังใจลูกน้อยดังขึ้นเป็นระยะ ไม่นานหงส์ทองตัวน้อยกับมังกรเหมันต์ก็โผล่ศีรษะเล็กๆ ออกมา ดวงตาใสแจ๋วสองคู่มองคนนั้นทีคนนี้ที "เห็นไหม ข้าบอกแล้วว่าเขาจะต้องเป็นมังกรเหมือนข้า" สวีเฟยหลงคีบบุตรชายมาอวดภรรยาด้วยความภาคภูมิใจ "ชีชี เจ้าดูลูกของเราสิ น่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ" สวีจิ้งเฟิ่งประคองลูกหงส์ขนอุยในมือให้ภรรยาเห็นชัดๆ "พวกท่านเห่อลูกให้น้อยลงหน่อยจะได้หรือไม่" ไป่ชิงถงกับหลินเสวี่ยเฟิ่งเอ็ดคนทั้งคู่ รับบุตรชายตัวน้อยของตนมาดูแลบ้าง "เสด็จพ่อตั้งชื่อน้องชายว่าอะไรหรือ"

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 3

    กาลเวลาล่วงเลยไปดั่งสายน้ำไหลไม่อาจหวนคืน วันเวลาของเทพเซียนนั้นช่างแสนยาวนานจนน่าเบื่อหน่าย ไป่ชิงถงจึงหางานอดิเรกทำแก้เซ็ง นั่นก็คือการตระเวนกินของอร่อยไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดน "อืม ปลาเก๋าเก้าครีบราดพริกไฟนรกร้านนี้สุดยอดเลย เผ็ดจัดจ้านถึงใจข้ายิ่งนัก" ไป่ชิงถงกินไปปาดเหงื่อไป ถึงจะเผ็ดแค่ไหนก็ไม่ยอมแพ้ กินจนริมฝีปากบวมเจ่อก็ยังหยุดกินไม่ได้ "เคยมีอะไรไม่ถูกปากเจ้าด้วยหรือ" สวีจิ้งเฟิ่งยิ้มขำนอนตะแคงมองภรรยาเพลินๆ ระหว่างรออีกฝ่ายทานมื้อกลางวัน "ไม่มี ข้ากินได้หมดทุกอย่างแหละ ข้าถือคติคนกินห้ามบ่น ไม่ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรก็ต้องบอกอร่อยไว้ก่อนเพราะเราไม่ได้เป็นคนทำอาหาร หากเจ้าทำกินเองจะบ่นอย่างไรก็ได้ไม่มีผู้ใดว่ากล่าว แต่ถ้าพ่อครัวทำให้ทานจำไว้แค่ว่าต้องกล่าวคำขอบคุณกับอร่อยเท่านั้น นั่นแหละถึงจะเรียกว่านักกิน

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 2

    หยาดน้ำฝนโปรยปรายผ่านหน้าต่างบานเล็ก บรรยากาศเย็นสบายชวนให้ง่วงงุน “เราหายมาโดยไม่บอกกล่าวผู้ใด ทุกคนจะไม่ตามหาแย่หรือ” ไป่ชิงถงถามเสียงงัวเงีย กระชับผ้าห่มผืนหนาบนร่างคลายความหนาวเย็น "งานเลี้ยงฉลองยังมีอีกหลายวันไม่มีผู้ใดสนใจเราหรอก" ริมฝีปากหนาจุมพิตเคล้าคลอหัวไหล่เปลือยเปล่าขาวผ่องที่โผล่พ้นชายผ้าห่ม จนปรากฏร่องรอยสีกุหลาบน่าหลงใหล "อย่ากวนน่า ทั้งคืนยังไม่พออีกหรือไง" มือบางปิดปากหนาก่อนจะโฉบเข้ามารังแกเขาอีก "บอกแล้วไงข้าไม่มีวันอิ่มเอมในตัวเจ้า" สวีจิ้งเฟิ่งจูบฝ่ามืองามหนักๆ ลิ้นสากไล้เล็มนิ้วงามดุจลำเทียนเล่น จนไป่ชิงถงรู้สึกชาหน่อยๆ "ให้จริงเถอะ" ไป่ชิงถงชักมือกลับ จู่ๆ กลิ่นหอมติดปลายจมูกก็หายวับไ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 1

    คงโหวหัวหงส์เก้าชั้นฟ้า[1] บรรเลงบทเพลงแว่วหวานเคล้าคลอสายลมยามค่ำคืน เสียงสรวลเสเฮฮา และจอกสุรากระทบกันฟังดูครื้นเครงดังแว่วถึงตำหนักแสงดาว เรือนหอที่วิจิตรตระการตาที่สุดในสี่ทะเลแปดดินแดนของไท่จื่อพระองค์ใหม่ งานอภิเษกสมรสขององค์ไท่จื่อ และไท่จื่อจวินจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แต่บรรยากาศครึกครื้นภายในงานไม่รบกวนเจ้าสาวในห้องหอเลยแม้แต่น้อย ไป่ชิงถงในชุดแต่งงานลายหงส์ นั่งหยุกหยิกบนเตียงหยกปูลาดด้วยผ้าห่มยวนยางผืนหนานุ่ม ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาอยู่ไม่สุขเช่นนี้ก็มาจากกลิ่นหอมเตะจมูกลอยตลบอบอวลอยู่ทั่วห้อง จนเขาอดสูดดมเข้าปอดแรงๆ ไม่ได้ ดวงตากลมโตจ้องมองอาหารละลานตาบนโต๊ะเบื้องหน้าตาเป็นมัน ลอบกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ต้องบอกก่อนว่าเมื่อครั้นยังเป็นมนุษย์เขาก็เป็นนักกินตัวยง แม้การคืนร่างเดิมกลายเป็นเทพเซียนจะไม่รู้สึกหิวโหยอีกต่อไป แต่เมื่อมีอาหารน่าทานมายั่วน้ำลายเช่นนี้ผู้ใดเล่าจะอดใจ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทส่งท้าย

    ด้านสวีจิ้งเฟิ่ง หลังจากเขากับไป่ชิงถงแยกตัวออกมา เซียนรับใช้ก็พาทั้งสองเดินชมทิวทัศน์ด้านหลังตำหนักใหญ่ที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ แต่ที่สะดุดตาเป็นที่สุดเห็นจะเป็นดอกอู๋ถงสีขาวบริสุทธิ์ชูช่อเบ่งบานเต็มผืนป่า “ว้าว! ต้นอู๋ถงเต็มไปหมดเลย” ไป่ชิงถงดวงตาเปล่งประกาย ดีใจมากถึงกับถลาเข้าไปถามไถ่เพื่อนฝูงอย่างสนิทชิดเชื้อ “สวัสดีต้นนี้เป็นลูกของเจ้าหรือ เขาน่ารักยิ่ง ต่อไปต้องเติบโตอย่างแข็งแรงแน่นอน” มือเรียวแตะสัมผัสอู๋ถงต้นน้อยอย่างเบามือ ก้านใบน้อยๆ ส่ายไหวสัมผัสมือบางกลับเหมือนตอบรับคำอวยพรของไป่ชิงถง ต้นอู๋ถงโดยรอบต่างกิ่งก้านส่ายไหว ยินดีที่ราชาของพวกเขามาเยี่ยมเยือน ดอกอู๋ถงโปรยปรายรอบกายคนตัวเล็ก บางส่วนติดตามเรือนผมยาวสลาย ยิ่งขับเน้นให้คนตรงหน้าน่ามองยิ่งกว่าสิ่งใด งดงามจนทัศนียภาพรอบกายจืดชืดไร้

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 127

    หลังเหตุการณ์เลวร้ายผ่านพ้นเรื่องน่ายินดีก็บังเกิด ข่าวเรื่องอดีตองค์ไท่จื่อสวีเฟยหลงคือเทพมังกรบรรพกาลแพร่สะพัดไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดน และที่สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้กัน ก็คงหนีไม่พ้นสวีจิ้งเฟิ่ง หงส์ทองเพียงหนึ่งเดียวแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ยิ่งได้รู้ว่าเขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเทพมังกรบรรพกาล ผู้คนยิ่งตื่นเต้นคึกคัก จัดขบวนต้อนรับทั้งสองพระองค์กลับสู่แดนสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่ คดีใส่ร้ายอดีตองค์ไท่จื่อว่าเป็นผู้นำกบฏในสงครามเทพมารเมื่อคราก่อนก็ได้รับการคลี่คลาย หลินหลิงจึงประกาศความจริงออกไปให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อสลายความเข้าใจผิด และชำระมลทินให้กับสวีเฟยหลง เหล่าผู้คนที่เคยกล่าวร้ายท่านเทพต่างก็แพ้ภัยตนเอง ทั้งสวีหนิงหลงที่ร่างกายแหลกสลายไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยววิญญาณ หรือแม้แต่สวีจวินอดีตเทียนตี้ผู้ปกครองสวรรค์ยังถูกทำลายตบะ ก่อนจะถูกส่งตัวไปคุมขัง ณ ห้วงอนธการ จนกว่าอายุขัยของเทพเซียนจะสูญสิ้น หลินหลิงมองส่ง

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 126

    เหล่าเทพเซียนที่รายล้อมอยู่รอบตัวสวีจวินแตกฮือรีบหนีตาย เมื่อสวีจวินก่อกรรมทำเข็ญเข่นฆ่าผู้คนโดยไม่เลือกหน้า จนสวีเฟยหลงต้องเข้ามาหยุดยั้งอีกฝ่ายเอาไว้ สวีหนิงหลงอาศัยจังหวะที่ผู้คนไม่ได้สนใจในตัวเขาลอบหลบหนี แต่กลับถูกสวีจิ้งเฟิ่งขวางหน้า “จะหนีไปไหน อยู่เล่นเป็นเพื่อนข้าก่อนสิเสด็จอา” สวีจิ้งเฟิ่งยิ้มเย็น หนี้แค้นที่อีกฝ่ายติดค้างบิดา เขาจะเป็นคนทวงคืนให้เอง! กระบี่เกล็ดเหมันต์วูบไหว บินเฉียดลำคอแกร่งของสวีหนิงหลงไปเพียงแค่เส้นยาแดงผ่าแปดแต่ปราณกระบี่คมกริบกลับกรีดเฉือนผิวหนังหนาๆ ของสวีหนิงหลงจนได้เลือด สวีหนิงหลงเจ็บแปล๊บบริเวณลำคอ คลำดูแล้วเห็นเลือดสีแดงฉานไหลเต็มฝ่ามือ อยู่ห่างเงามัจจุราชเพียงแค่เอื้อมทำให้สวีหนิงหลงโมโหหนัก “แก! รนหาที่ตาย!!” สวีหนิงหลงลงมือหนักหน่วง มวลน้ำวนดุจพายุหมุนห้าสายสูงเสียด

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 125

    หลินเสวี่ยเฟิ่งร้องห้ามเสียงดังลั่น สวีเฟยหลงลืมตาพรึ่บ พลังแห่งเทพบรรพกาลระเบิดออกอย่างรุนแรง จนภูผาวารีสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น กระแทกเงาร่างของศัตรูในรัศมีร้อยลี้จนตัวปลิว ผู้ที่มีพลังตบะอ่อนด้อยต่างเลือดออกทั้งเจ็ดทวารตายคาที่ แม้แต่สวีหนิงหลง และจอมมารหลัวเหยียนที่เข้าร่วมสนามรบยังถูกพลังอันมหาศาลจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวจนกระอักเลือดออกมากองใหญ่ มังกรเกล็ดทองอร่าม ลำตัวยาวเหยียดราวกับจะโอบล้อมทั้งสามภพไว้ในอุ้งมือกู่ร้องเสียงดังกึกก้อง ร่างกายใหญ่โตทะยานสู่ฟากฟ้ายามสุริยันกระจ่างแจ้ง เมฆมงคลไหลเรื่อย แสงเงินแสงทองส่องประกายวาววับ ไอมงคลสีทองระยับโปรยปรายดุจสายฝนฉ่ำริน นำพาไอวิเศษอันแสนอบอุ่นอ่อนโยนโอบล้อมทุกหมู่เหล่า วัชระม่วงครามซึ่งเป็นทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุดตอบรับเสียงเรียกร้องแห่งบรรพกาล ผ่าฟาดลงบนแท่นมังกรวัชระ ปลุกจิตวิญญาณของอาวุธเทพให้ตื่นฟื้น อาวุธเทพหลับใหลมานานดั่งได้พานพบนายเก่า ส่งสายฟ้าสีม่วงครามต

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status