Share

บทที่ 17

last update Last Updated: 2024-11-30 20:35:37

อาการประชวรของเฉินเทียนอี้ถูกปิดมิด ไม่มีผู้ใดในเมืองหลวงระแคะระคายเลยว่าเฉินเทียนอี้ฮ่องเต้ผู้ออกว่าราชการนั้นเป็นตัวปลอม เฝิงไห่แสดงเป็นเฉินเทียนอี้ได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติสมกับที่ทำเช่นนี้มานานปี

       ข่าวลือเรื่องการประชวรไม่มีเล็ดลอดออกไป แต่ข่าวลือที่เฉินซือหยางไปวางระเบิดไว้ที่จวนไท่เว่ยกลับกระจายออกไปทั่วบ้านทั่วเมือง

       “นี่ๆ เหล่าหลู่เจ้าได้ยินข่าวลือช่วงนี้หรือไม่” ผู้เฒ่าจูเดินขายถังหูลู่แต่เช้าจนขาแข็ง หยุดพักเหนื่อยที่ร้านน้ำชาของผู้เฒ่าหลู่ ถือโอกาสชวนคุยขณะนั่งจิบน้ำชาคลายหนาว

       “เรื่องอะไรหรือ” ผู้เฒ่าหลู่หูผึ่ง สนใจใคร่รู้ขึ้นมาทันที

       “อ้าว! ก็เรื่ององค์รัชทายาทอย่างไรเล่า”

       “ใช่เรื่องที่องค์รัชทายาทไปถูกตาต้องใจบุตรชายของเจิ้งกั๋วกงหรือไม่เหล่าจู” พ่อค้าขายเซาปิ่ง[1] ทิ้งแผงมาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคน

       “เรื่องนั้นแหละ ได้ยินว่าให้ของแทนใจทั้งปิ่นหงส์ ทั้งหยกพกคู่กาย ไม่ใช่ว่าบุตรชายของเจิ้งกั๋วกงคือพระชายาที่องค์รัชทายาทหมายตาไว้หรอกหรือ”

       “ไอ้หยา!! แบบนี้ราชวงศ์ของเราคงสูญสิ้นแล้วแน่ๆ ใครจะเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อจากนี้เล่า” ผู้เฒ่าหลู่เริ่มร้อนใจ ฮ่องเต้มีองค์รัชทายาทเป็นผู้สืบเชื้อสายเพียงหนึ่งเดียว องค์รัชทายาทพึงใจในตัวบุรุษเช่นนี้ วันหน้าคงสิ้นไร้ทายาท ศึกแย่งชิงบัลลังก์ต้องเกิดขึ้นอีกแน่

       “เจ้าจะห่วงเรื่องนี้ไปไย ในวังหลวงมีสาวงามถึงสามพันนาง ยังห่วงว่าผู้อื่นจะไม่มีทายาทอีกหรือ เรื่องที่ข้าอยากรู้คือรูปโฉมของบุตรชายเจิ้งกั๋วกงต่างหากเล่า ได้ยินว่างามยิ่งกว่าพานอัน[2] มันคือเรื่องจริงใช่หรือไม่” เหล่าจูตบโต๊ะพูดถึงประเด็นสำคัญที่เขาสนใจ ใครจะครองบัลลังก์ไม่เห็นเกี่ยวกับชาวบ้านตาดำๆ หาเช้ากินค่ำเช่นเขา

       “เรื่องนี้ข้ารู้ ได้ยินว่าบุตรชายของเจิ้งกั๋วกงเกิดมาหน้าตาเหมือนมารดายิ่ง เรื่องรูปโฉมรับรองได้เลยว่าเลิศล้ำเหนือผู้ใดในแผ่นดิน” พ่อค้าเซาปิ่งยืดอกการันตีเป็นมั่นเป็นเหมาะ ทำเอาเหล่าจูและเหล่าหลู่รีบยื่นหน้าเข้าไปกระซิบถาม

       “เจ้ามั่นใจได้อย่างไร”

       “แน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมมีมูลเหตุ กู้ฟางเหนียงมารดาของเขาคือโฉมสะคราญอันดับหนึ่งแห่งเมืองผิงอาน แล้วบุตรชายที่นางคลอดออกมาจะด้อยไปกว่านางได้อย่างไร”

       “ข้าว่าตรรกะเจ้าเพี้ยนนะ ไม่ใช่ว่าบุตรชายของกู้ฟางเหนียงต้องหน้าตาหล่อเหลาสมชายชาตรีหรอกหรือ บุตรสาวของนางต่างหากถึงจะเรียกว่างดงาม”

       “แสดงว่าพวกเจ้ายังไม่เคยเห็นบุตรสาวตระกูลจ้าวน่ะสิ แต่ละคนหน้าตาโขกออกมาจากเจิ้งกั๋วกงทั้งนั้น มีเพียงบุตรชายผู้นี้นี่แหละที่หน้าตาเหมือนมารดา อันว่าบุตรสาวเหมือนพ่อ บุตรชายเหมือนแม่เป็นผู้มีวาสนาสูงส่ง นี่อย่างไรเล่าอายุไม่เท่าไหร่ยังถูกตาต้องใจองค์รัชทายาทได้ อนาคตไม่ใช่ว่าที่ชายาองค์รัชทายาทแล้วจะเป็นกระไรได้”

       “งั้นที่เขาลือกันว่าถึงขั้นมอบของแทนใจให้กันแล้วก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ” เหล่าจูกระซิบถามเสียงค่อย

       “เรื่องจริง"

       “ฮา!” ผู้เฒ่าทั้งสองคนอุทานพร้อมกัน

       “จุ๊ๆ วาสนาคนเรานี่นะ ถ้าข้ามีบุตรชายแบบเจิ้งกั๋วกงสักคนได้ก็ดีนะซี้ เผื่อองค์รัชทายาทจะชอบพอบุตรชายของข้าบ้าง” เหล่าหลู่รำพึงรำพัน อิจฉาในโชควาสนาของผู้อื่น

       “เหอะ เลิกฝันกลางวันเถอะน่า ก้มหน้าก้มตาทำมาหากินยังพอมีหวังร่ำรวยขึ้นมาบ้าง นี่เหล่าจู ถ้าเจ้าอยากเห็นรูปโฉมบุตรชายของเจิ้งกั๋วกงไม่ลองไปเดินขายถังหูลู่แถวถนนตะวันออกดูเล่า” พ่อค้าขายเซาปิ่งกระซิบบอก

       “นั่นมันย่านของชนชั้นสูงไม่ใช่หรือ ข้าไปเดินแถวนั้นจะไม่โดนทหารเฝ้าประตูจวนพวกนั้นกวาดออกมาอีกรึ” เหล่าจูก้มมองชุดเก่าโทรมเต็มไปด้วยรอยปะชุนของตนเอง เขาเคยมีประวัติถูกชนชั้นสูงจับโยนออกมาไม่ให้ไปเกะกะหน้าจวน ผู้เฒ่าจูจึงฝังใจไม่ไปเยือนถนนฝั่งตะวันออกของเมืองอีกเลย

       “ไปเถอะน่า ไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นหรอก ไม่แน่นะเจ้าอาจได้ข่าวดีข่าวเด็ดมาเล่าสู่พวกข้าฟังอีกก็ได้” พ่อค้าขายเซาปิ่งยักคิ้วหลิ่วตาอย่างมีเลศนัย ผู้เฒ่าจูได้ยินดังนั้นก็รู้สึกคันยุบยิบไปทั้งตัวและหัวใจ สุดท้ายความอยากรู้อยากเห็นก็ชนะทุกอย่าง จึงพยักหน้ารับคำพ่อค้าขายเซาปิ่งแล้วตรงดิ่งไปยังถนนตะวันออก

จวนไท่เว่ยตกเป็นที่พูดถึงไปทั่วบ้านทั่วเมือง วันนี้กำลังเปิดประตูต้อนรับการมาเยือนของรองเสนาบดีกรมพิธีการคนใหม่ จินซานกลับเรือนด้วยความหนักอกหนักใจในวันนั้น วันนี้มาเยือนจวนไท่เว่ยอีกครั้งพร้อมแม่สื่อชื่อดังของเมืองหลวง

       รถม้าคันใหญ่จอดเทียบหน้าประตูใหญ่จวนไท่เว่ย จินซานในชุดขุนนางขั้นสามเต็มยศประคองฮูหยินผู้เฒ่าจินลงจากรถม้า

       “ทางเดินลำบากหรือไม่เจ้าคะ” กู้ฟางเหนียงนำขบวนสาวใช้คอยต้อนรับขับสู้ ฮูหยินผู้เฒ่าจินได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นก็รู้สึกเกรงอกเกรงใจอีกฝ่ายขึ้นมาทันที

       “ไม่ลำบากๆ เป็นยายแก่อย่างข้าต่างหากที่ทำให้ไท่เว่ยฮูหยินต้องลำบากรอแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่าจินตบมือเรียวบางของกู้ฟางเหนียงขณะเข้ามาประคองตนเบาๆ

       กู้ฟางเหนียงเห็นแบบนั้นก็ให้ยิ้มแย้มกว้างขึ้น ตอนได้รับเทียบเชิญขอเข้าพบเพื่อพูดคุยเรื่องหมั้นหมายจากจินซาน นางยังนึกว่าตนเองฝันไปเสียอีก โชคดีหล่นลงมาจากฟ้าหาบุตรเขยได้โดยไม่เปลืองแรงเป่าฝุ่นเช่นนี้กู้ฟางเหนียงจะไม่ยินดีได้อย่างไร ยิ่งได้เห็นรูปร่างหน้าตาอันสุภาพอ่อนโยนราวกับหยกของว่าที่บุตรเขยแล้ว กู้ฟางเหนียงยิ่งคึกคักราวกับฉีดเลือดไก่

       “เชิญฮูหยินผู้เฒ่าเข้าไปนั่งดื่มชาพูดคุยกันด้านในเถิดเจ้าค่ะ” กู้ฟางเหนียงเชื้อเชิญ ทั้งหมดจึงเคลื่อนขบวนเข้าไปด้านในจวน

       เหตุการณ์ดังกล่าวตกอยู่ในสายตาของผู้เฒ่าจูคนขายถังหูลู่ผู้กะมายลโฉมคนงามโดยเฉพาะ

       “ไอ้หยา! มีเรื่องให้เล่าอีกแล้ว”

       ด้วยเหตุนี้ผู้เฒ่าจูเลยเตร็ดเตร่ขายถังหูลู่หาคนพูดคุยเรื่องนี้ด้วยตลอดทั้งเช้า

       “เชิญนั่งเจ้าค่ะ”

       กู้ฟางเหนียงประคองฮูหยินผู้เฒ่าจินนั่งลงสนทนากันในห้องโถงหลัก ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวและฮูหยินผู้เฒ่าจินอายุรุ่นราวคราวเดียวกันจึงพูดคุยกันถูกคอยิ่งนัก แม่สื่อเองก็ร่วมวงพูดจาสรรเสริญเยินยอกันไปยกหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายก็แลกเทียบดวงชะตากันอย่างราบรื่นบรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่นเบิกบาน

       จินซานปลีกตัวออกมาตั้งแต่ต้น ปล่อยให้เป็นธุระของญาติผู้ใหญ่ ส่วนตนเองก็เดินชมทิวทัศน์บริเวณสวนท้อด้านหลังจวนไปพลางๆ

       “ไม่นึกว่าท่านจะเป็นคนมีสัจจะผู้หนึ่ง” จ้าวลี่จ้งเอ่ยทักจินซาน หลังจากเห็นชายหนุ่มนั่งเหม่อในศาลาแปดเหลี่ยมมาสักพักหนึ่งแล้ว

       “คุณหนูจ้าว” จินซานคารวะ ไม่แปลกใจที่เห็นหญิงสาวที่นี่ ข่าวเรื่องที่เขาพาแม่สื่อมาสู่ขอคงรู้ถึงหูนางแล้ว

       “อย่าพูดจาห่างเหินกันอยู่เลยน่า ถึงอย่างไรก็ใกล้จะหมั้นหมายกันแล้ว เรียกข้าว่าอาจ้งเถอะ” จ้าวลี่จ้งนั่งลงตรงข้ามอีกฝ่ายอย่างสง่าผ่าเผย มือหยาบกร้านผิดสตรีรินชาให้บุรุษตรงหน้าด้วยตัวเอง

       “อาจ้ง” จินซานเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา "มาหาข้ามีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ" ใบหน้างดงามคล้ายอิสตรีมองประเมินจ้าวลี่จ้ง ไม่รู้ว่านางมาพูดคุยกับเขาเพราะต้องการอะไรอีก

       “ไม่ต้องระแวงขนาดนั้นก็ได้ ข้าแค่อยากตกลงกับท่านนิดหน่อย ไหนๆ เราก็ล่มหัวจมท้ายกันแล้ว ท่านเองก็รู้ว่าเราสองคนจะแต่งงานกันด้วยเหตุใด ข้าต้องการให้ที่บ้านเลิกวุ่นวายใจกับเรื่องออกเรือนของข้า ส่วนท่านเพราะอยากตอบแทนบุญคุณจริงๆ ก็ดี หรือเพื่อผลประโยชน์ในวันหน้าก็ช่าง ข้ามีข้อเรียกร้องจากท่านเพียงข้อเดียว ท่านจะให้ข้าได้หรือไม่” จ้าวลี่จ้งไม่มัวอ้อมค้อมเอ่ยจุดประสงค์ออกมาตามตรง นางไม่เชื่อหรอกว่าการพบกันครั้งก่อนเป็นเรื่องบังเอิญ อีกฝ่ายเป็นถึงปั๋งเหยี่ยนไม่ใช่คนโง่งมโดยแท้ เขาอุตส่าห์เข้าหานางอย่างแนบเนียนปานนี้ จะไม่ให้นางผลักเรือตามน้ำได้อย่างไร

       “ลองเอ่ยมาก่อนสิ” สายตาลุ่มลึกจ้องมองหญิงสาวด้วยความสนอกสนใจขึ้นกว่าครั้งก่อน จินซานเลิกเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนใสซื่อ ดวงหน้าสวยยิ้มร้าย บุตรสาวของเจิ้งกั๋วกงไม่อาจดูเบาได้จริงๆ

       จ้าวลี่จ้งมุมปากกระตุก นั่นไง! พวกบัณฑิตนอกจากมีความรู้เต็มท้องแล้วยังเจ้าเล่ห์กลิ้งกลอกเป็นที่หนึ่งดั่งที่ท่านพ่อว่าจริงๆ ด้วย

       “ท่านพ่อของข้ามีท่านแม่แค่คนเดียว ข้าเองก็หวังว่าท่านจะมีแค่ข้าเป็นภรรยาเพียงผู้เดียวเช่นกัน”

       “เหตุใดข้าต้องรับปากเจ้าด้วยล่ะ” จินซานเล่นลิ้น เท้าคางมองใบหน้าอีกฝ่าย หยอกเย้าจ้าวลี่จ้งเล่น

       “ที่ข้าพูดแบบนี้ก็เพื่อตัวท่านเอง ท่านไม่เห็นว่าข้าหวังดีหรอกหรือ” จ้าวลี่จ้งชักกระบี่คมกริบออกมาปักบนโต๊ะหินอ่อนแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำเอาจินซานผงะตกใจแทบตกเก้าอี้

       “มะ... มีอะไรค่อยๆ คุยกันดีหรือไม่”

       “ข้าก็กำลังขอร้องท่านด้วยความสุภาพอยู่นี่อย่างไรเล่า” จ้าวลี่จ้งบอกหน้าตาย ขัดกับท่าทางเท้าเอวเอาเท้าเหยียบเก้าอี้ราวกับนักเลงอันธพาล ไหนจะกระบี่คมกริบที่แกว่งไปแกว่งมาตรงกลางโต๊ะหินอีก แล้วจะให้เขาเชื่อได้อย่างไรว่านางกำลัง ‘ขอร้อง’ เขาอยู่ ไม่ใช่ ‘ข่มขู่คุกคาม’

       “แต่ว่าท่าทางของเจ้ามัน...”

       “ท่าทางของข้ามันอย่างไรหรือ หืมมม” จ้าวลี่จ้งยืนค้ำร่างสูงโปร่ง ชะโงกใบหน้าคมเข้มแทบชิดใบหน้าหวานของจินซาน ชายหนุ่มเอนตัวหนีอย่างจนมุม สุดท้ายก็จำต้องยอมรับปากหญิงสาว

       “ก็ได้ๆ ข้ายอมทำตามข้อเสนอของเจ้าก็ได้” จินซานยกมือยอมแพ้ ชักจะมองเห็นอนาคตหลังแต่งงานของตนเองรางๆ ที่เขาหาเรื่องใส่ตัวเช่นนี้ สรุปว่ามันดีหรือไม่ดีกันแน่นะ

       จ้าวลี่จ้งมองท่าทางจนใจของจินซานพานยิ้มพึงใจ มือหนาตบหน้างามเบาๆ เชิงหยอกล้อ “เยี่ยม หวังว่าจากนี้ไปเราจะอยู่ร่วมกันด้วยดีนะซานเอ๋อร์”

       ซานเอ๋อร์?

       "..." จินซานผู้ถูกบังคับให้กลืนยาขม

[1] เซาปิ่ง หรือขนมแป้งทอด เป็นขนมโบราณของคนจีนยัดไส้ด้วยถั่วเหลืองหรือเผือกกดเป็นแผ่นแบนแล้วนำไปทอด

[2] พานอัน (潘安) เป็นนักปราชญ์ที่เกิดในสมัยจิ้นตะวันตก ได้ชื่อว่าเป็นบุรุษรูปงามที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 18

    ฮวงจุ้ยของจวนไท่เว่ยน่าจะดีเป็นพิเศษ นอกจากมีข่าวเรื่องการหมั้นหมายระหว่างคุณหนูรองตระกูลจ้าวกับรองเสนาบดีกรมพิธีการในช่วงเช้ากระจายออกไปแล้ว ช่วงบ่ายก็มีขบวนรถจากวังหลวงเดินทางมาถึงจวนไท่เว่ย รถม้าติดตราราชวงศ์หลายสิบคันจอดเรียงรายยาวเหยียดแทบปิดเส้นทางสัญจรฝั่งตะวันออกของเมือง เฉินซือหยางนำหวังกงกงมาเยือนจวนไท่เว่ยกะทันหัน ทำเอาจ้าวมู่ที่เพิ่งได้รับรายงานจากทหารรับใช้รีบควบม้ากลับจวน เห็นองค์รัชทายาทยืนรอพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวของเขา จ้าวมู่ก็รีบเข้าไปค้อมกายทักทายทันที “องค์รัชทายาท” “เจิ้งกั๋วกง” เฉินซือหยางพยักหน้าให้อีกฝ่ายยิ้มๆ อีกฝ่ายมาต้อนรับเขารวดเร็วถึงเพียงนี้ คงได้รับข่าวตั้งแต่เขาก้าวเท้าออกจากวังเลยกระมัง “เหตุใดองค์รัชทายาทถึงให้เกียรติมาเยือนจวนของผู้น้อยได้ขอรับ” “เราบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเราถูกชะตากับบุตรชายของท่านยิ่งนัก ไหนๆ วันนี้เสด็จพ่อก็มีเรื่องจะแจ้งให้ท่านทรา

    Last Updated : 2024-12-01
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 19

    จ้าวมู่เดินนำกู้ฟางเหนียงกลับเรือนนอน หลังจากสองสามีภรรยาปิดประตูห้องสนิท กู้ฟางเหนียงที่ร้อนอกร้อนใจเรื่องของบุตรชายอยู่เป็นทุนเดิมก็ผวาจับมือสามีแน่น “ท่านพี่ เราจะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะ เหตุใดฝ่าบาทถึงทรงรับสั่งเช่นนี้ แล้วท่าทีขององค์รัชทายาทที่มีต่อเสี่ยวชีนี่มันอะไรกัน” “น้องหญิงใจเย็นๆ ก่อน” “จะให้น้องใจเย็นได้อย่างไร นี่มันชีวิตทั้งชีวิตของลูกเราเลยนะเจ้าคะ” “แล้วเจ้าจะให้พี่ทำเช่นไร ขัดราชโองการอย่างนั้นหรือ ถ้าทำเช่นนั้นคนที่จะถูกประหารเป็นคนแรกคือเสี่ยวชีรู้หรือไม่” กู้ฟางเหนียงทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างอ่อนแรงเมื่อได้ยินคำตอบของสามี ดวงตากลมโตของนางแดงระเรื่อ สะท้อนใจกับอนาคตที่ไม่แน่นอนของบุตรชาย “ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ หรือ” จ้าวมู่นั่งลงข้างกายกู้ฟางเหนียง รวบร่างบางเข้ามาโอบกอดไว้ในอ้อมแขน มือหนาลูบไล้บ่าบ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 20

    ทันทีที่เฉินซือหยางกลับวังข่าวพระราชทานสมรสระหว่างองค์รัชทายาทกับจ้าวลี่หมิงบุตรชายของเจิ้งกั๋วกงก็แพร่สะพัดออกไปราวกับพายุลูกใหญ่ ราษฎรโจษจันกันเป็นวงกว้าง บ้างก็ว่าองค์ฮ่องเต้วิปลาสไปแล้ว มีที่ไหนออกราชโองการให้บุตรชายหมั้นหมายกับบุรุษด้วยกันเอง บ้างก็เล่าลือว่าองค์รัชทายาทไม่เป็นที่โปรดปรานอีกต่อไปจึงมีพระราชทานสมรสเช่นนี้ออกมา บ้างก็บอกว่าฮ่องเต้กลัวองค์รัชทายาทสั่นคลอนบัลลังก์จึงคิดตัดไฟแต่ต้นลมโดยการให้สมรสกับบุรุษจนอีกฝ่ายสิ้นไร้ทายาท บ้างก็ว่าจ้าวลี่หมิงผู้มีรูปโฉมงดงามล่มเมืองยั่วยวนให้องค์รัชทายาทหลงใหลจนเก็บไปละเมอเพ้อหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่เป็นอันกินอันนอน ฮ่องเต้ทรงเห็นองค์รัชทายาทปวดพระทัยไข้ใจรุมเร้าจึงมีรับสั่งบังคับให้บุตรชายของผู้อื่นหมั้นหมายด้วยเช่นนี้ บ้างก็เล่าลือว่าความสัมพันธ์ระหว่างองค์รัชทายาทกับจ้าวลี่หมิงลึกซึ้งเกินหยั่งถึง ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปเสียแล้ว ฮ่องเต้จึงจำใจต้องออกราชโองการพระราชทานสมรสให้ ยิ่งลือยิ่งไปกันใหญ่ โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงเลยว่าบุคคลผู้กำลังเป็นที่ฮือฮาถูกพูดถึงกันอยู่นั้น

    Last Updated : 2024-12-03
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 21

    อย่างไรก็ดีข่าวเรื่องการคัดค้านการแต่งตั้งชายาองค์รัชทายาทในครั้งนี้ก็ไม่อาจกลบความจริงที่ว่าตอนนี้จวนไท่เว่ยทะยานขึ้นฟ้ากระทั่งไก่สุนัขยังพลอยได้ขึ้นสวรรค์[1] ตามไปด้วย ของขวัญแสดงความยินดีกับจ้าวลี่หมิงหลั่งไหลมาดุจสายน้ำหลากในยามวสันต์ มีคนคิดประจบเอาใจย่อมมีคนอิจฉาริษยา คนไม่พอใจที่เจิ้งกั๋วกงได้ดีแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมี 'ต่งเซิน' รวมอยู่ด้วย หลังออกจากท้องพระโรง เสนาบดีกรมคลังผู้อุดมไปด้วยไขมันพกความไม่พอใจที่มีอยู่เต็มท้องไปเยือน 'หอผู่เยว่' หอโคมเขียวอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง ที่นี่มีทั้งคณิกาหญิงและชายไว้คอยปรนนิบัติรับใช้ แต่ละคนล้วนมีใบหน้างดงามตรึงใจ แน่นอนว่าดาวเด่นของหอผู่เยว่คือ แม่นางฟางเซียนที่ต่งเซินพลาดประมูลคืนแรกไปอย่างน่าเสียดาย มิหนำซ้ำนางยังถูกส่งไปเป็นอนุของเจิ้งกั๋วกงอีก สมัยก่อนกู้ฟางเหนียงขึ้นชื่อว่าเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง ยอดบุปผางามที่ชายทุกคนต่างหมายปอง ฟางเซียนผู้มีดวงหน้าคล้ายคลึงย่อมไม่ด้อยไปกว่ากันสักเท่าใด เขาแอบชื่นชมกู้ฟางเหนียงใจสลายมาแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้ยังมีฟ

    Last Updated : 2024-12-04
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 22

    ค่ำคืนดึกสงัดร้างไร้ผู้คน จันทราหลบเร้นหลังม่านเมฆไร้แสงดาวเงาร่างในอาภรณ์สีนิลหลายนายอาศัยความมืดอำพรางกายเร้นหายไปในย่านชุมชนแออัดฝั่งตะวันตกของเมือง ณ เรือนไม้ผุพังหลังหนึ่งท้ายชุมชน “มา! ดื่ม” ผู้คุ้มกันที่ต่งเซินจ้างวานมาปลอมตัวเป็นคนงานแบกหามกำลังนั่งก๊งเหล้ากับพรรคพวกภายในเรือนเก่าโทรมหลังน้อยที่ใช้กักขังหมอใบ้ผู้ชรา หลังจากเห็นว่าหมอเฒ่าเข้านอนแล้ว ทั้งสองคนก็ออกมาดื่มเหล้าท้าลมหนาวตั้งแต่หัวค่ำ ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกรา ทำงานคุ้มกันมาเป็นสิบปียังไม่เคยมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น ทุกคนจึงชะล่าใจไม่ได้เข้มงวดกวดขันเหมือนตอนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ เลยไม่ได้ระมัดระวังปล่อยตัวตามสบายดั่งเช่นทุกวันที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสองเมามายไร้สติอยู่นั้น เงาร่างสูงใหญ่ในชุดพรางกายสีดำสนิทก็โผล่มาข้างกายผู้คุ้มกันทั้งสองอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะลงมือปลิดชีพพวกเขาในดาบเดียว  

    Last Updated : 2024-12-05
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 23

    หลี่เหยียนเจี๋ยเองก็กำลังหัวเสียพอกัน หลังออกจากที่ประชุมเช้าก็ตรงดิ่งขอเข้าเฝ้าหลี่ไทเฮาทันที “เหนียงเหนียง” “ท่านพี่มาหาข้าด้วยเหตุอันใด” “เหนียงเหนียงทรงทราบหรือไม่ว่าองค์รัชทายาทเองก็ทรงเข้าร่วมประชุมเช้าเหมือนกัน” “หืมมม มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ เหตุใดข้าถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน” “คนที่เราวางไว้ในตำหนักอี้ชิ่งคงต้องกำจัดทิ้งแล้ว หากไม่มีข่าวคราวของอีกฝ่ายเล็ดลอดออกมาถึงเราเช่นนี้ แสดงว่าคนพวกนั้นอาจถูกเปิดโปงแล้ว จะเก็บเอาไว้ไม่ได้” “จัดการตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ยังไงเจ้าเด็กนั่นก็หาทางสอดเท้าเข้าไปบริหารราชกิจบ้านเมืองได้อยู่ดี ราชสำนักประดุจดั่งบ่อโคลนคอยดูดกลืนผู้คน ผู้ใดโถมตัวลงไปก็มีแต่จะแปดเปื้อนไปทั้งตัวก็เท่านั้น ดีเสียอีกเราจะได้หาทางกำจัดพวกมันได้ง่ายหน่อย ท่านพี่หาทางขัดแข้งขัดขามันเข้าเถอะ ช่วงนี้ข้ายุ่งอยู่กับการบำรุงร่างกายของเหม่ยเอ

    Last Updated : 2024-12-06
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 24

    เฉินซือหยางกลับจากจวนไท่เว่ยก็เรียกที่ปรึกษาส่วนตัวเข้าร่วมประชุมทันที คนทั้งหมดประชุมกันจนดึกดื่นค่อนคืน จัดทำแผนงานจนรัดกุมดีแล้ว รุ่งเช้าเฉินซือหยางจึงนำเข้าที่ประชุมให้เฉินเทียนอี้ทอดพระเนตร “สำนักป้องกันอัคคีภัยที่ก่อตั้งขึ้นนั้นจะต้องสร้างไว้ใจกลางเมือง โดยเราจะขุดบ่อน้ำขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางที่ทำการเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย หอสังเกตการณ์จะตั้งอยู่ทางทิศเหนือซึ่งสะดวกต่อการสังเกตทิศทางลม และสัญญาณควัน หากเจ้าหน้าที่บนหอสังเกตการณ์เห็นเพลิงไหม้หรือควันไฟจะรีบตีระฆังแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่คนอื่นทันที ด้านหน้าลูกจะเอาไว้เป็นที่จอดรถม้าสำหรับใช้ขนส่งน้ำ โดยจะต่อตัวรถเป็นถังไม้สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่เพื่อใช้บรรจุน้ำ เพิ่มจำนวนล้อเพื่อรับน้ำหนักของน้ำและตัวรถเป็นหกล้อ" เฉินซือหยางคลี่แบบแปลนอาคาร และภาพร่างรถขนน้ำประกอบคำอธิบาย "ลูกกลัวว่าตัวรถจะสูงเกินไปทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงตักน้ำลำบากลูกจึงทำท่อระบายน้ำไว้รอบตัวรถจำนวน 40 ท่อเปิดปิดได้สะดวกยิ่ง เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟจะได้รองน้ำใส

    Last Updated : 2024-12-07
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 25

    บรรยากาศในท้องพระโรงขมุกขมัวเต็มไปด้วยเขม่าดินปืน ไม่นึกว่าแค่คำพูดเพียงไม่กี่คำขององค์รัชทายาทก็สามารถผลักเสนาบดีหลี่ที่เป็นผู้กุมอำนาจในราชสำนักมาช้านานตกลงไปในหุบเหวลึกจนไม่อาจฟื้นตัวขึ้นมาได้อีก ขุนนางฝ่ายสนับสนุนตระกูลหลี่จึงพากันร้อนๆ หนาวๆ หวั่นกลัวองค์รัชทายาทผู้นี้ยิ่งนัก แต่เฉินซือหยางไม่สนใจเห็บหมัดพวกนี้แม้แต่น้อย วันนี้เขาอารมณ์ดียิ่งจึงเอ่ยปากออกทรัพย์สินสมทบโครงการก่อตั้งสำนักป้องกันอัคคีภัยอย่างหาได้ยาก “ในเมื่อไม่มีผู้ใดคัดค้านการก่อตั้งสำนักป้องกันอัคคีภัยอีก ลูกขอบริจาคเงินหนึ่งแสนตำลึงทองเพื่อเป็นต้นทุนในการก่อสร้างพ่ะย่ะค่ะ” “กระหม่อมถึงจะมีเบี้ยหวัดเพียงน้อยนิดแต่ก็มีใจห่วงใยประชาชนดุจเดียวกัน ขอหน้าหนาพึ่งใบบุญองค์รัชทายาทร่วมสมทบหมื่นตำลึงเงินพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวมู่หาจังหวะประจบเอาใจเฉินเทียนอี้และเฉินซือหยางได้อย่างประจวบเหมาะเพราะพอเขาออกปากเช่นนั้น ขุนนางน้อยใหญ่ในราชสำนักจะไม่ออกปากร่วมสมทบเลยก็กระไร จึงจำใจกรีดเลือดควักเนื้อออกมาสมทบกันคนละนิดคนละหน่อย

    Last Updated : 2024-12-08

Latest chapter

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทสัมภาษณ์พิเศษ

    ‘เปิดตำหนักลับฉบับวายป่วง’ สำนักข่าวเถียนเถียนรายงานสดจากตำหนักจินหลวน นักข่าวนิรนาม : “มีคนบ่นว่าพระเอกเรื่องนี้ไม่เหมือนพระเอกจริงหรือไม่ขอรับ” สวีจิ้งเฟิ่ง : “ผู้ใดบอกให้นักเขียนผู้นั้นให้บทเด่นกับท่านพ่อมากเกินไปเล่า” สวีจิ้งเฟิ่งแบมืออย่างช่วยไม่ได้ นักเขียน : “C £ C!!” ถึงกับเลิ่กลั่ก นักข่าวนิรนาม : “คุณแย่งซีนบุตรชายเช่นนี้ รู้สึกผิดหรือไม่ขอรับ” สวีเฟยหลง : “แย่งซีนคืออันใด” ไป่ชิงถง : “กินได้หรือไม่” หลินเสวี่ยเฟิ่ง : “ข้าว่าน่าจะไม่ใช่ของ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 4

    ด้วยความเพียรพยายามมุมานะอุตสาหะกกไข่แทนภรรยาของสองพ่อลูกแซ่สวี ในที่สุดไข่ใบน้อยก็เริ่มกะเทาะเปลือกออกมาแล้ว "อีกนิด ลูกทำได้ เจาะเปลือกบนหัวออกก่อนแบบนั้นแหละ" เสียงพ่อลูกแซ่สวีให้กำลังใจลูกน้อยดังขึ้นเป็นระยะ ไม่นานหงส์ทองตัวน้อยกับมังกรเหมันต์ก็โผล่ศีรษะเล็กๆ ออกมา ดวงตาใสแจ๋วสองคู่มองคนนั้นทีคนนี้ที "เห็นไหม ข้าบอกแล้วว่าเขาจะต้องเป็นมังกรเหมือนข้า" สวีเฟยหลงคีบบุตรชายมาอวดภรรยาด้วยความภาคภูมิใจ "ชีชี เจ้าดูลูกของเราสิ น่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ" สวีจิ้งเฟิ่งประคองลูกหงส์ขนอุยในมือให้ภรรยาเห็นชัดๆ "พวกท่านเห่อลูกให้น้อยลงหน่อยจะได้หรือไม่" ไป่ชิงถงกับหลินเสวี่ยเฟิ่งเอ็ดคนทั้งคู่ รับบุตรชายตัวน้อยของตนมาดูแลบ้าง "เสด็จพ่อตั้งชื่อน้องชายว่าอะไรหรือ"

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 3

    กาลเวลาล่วงเลยไปดั่งสายน้ำไหลไม่อาจหวนคืน วันเวลาของเทพเซียนนั้นช่างแสนยาวนานจนน่าเบื่อหน่าย ไป่ชิงถงจึงหางานอดิเรกทำแก้เซ็ง นั่นก็คือการตระเวนกินของอร่อยไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดน "อืม ปลาเก๋าเก้าครีบราดพริกไฟนรกร้านนี้สุดยอดเลย เผ็ดจัดจ้านถึงใจข้ายิ่งนัก" ไป่ชิงถงกินไปปาดเหงื่อไป ถึงจะเผ็ดแค่ไหนก็ไม่ยอมแพ้ กินจนริมฝีปากบวมเจ่อก็ยังหยุดกินไม่ได้ "เคยมีอะไรไม่ถูกปากเจ้าด้วยหรือ" สวีจิ้งเฟิ่งยิ้มขำนอนตะแคงมองภรรยาเพลินๆ ระหว่างรออีกฝ่ายทานมื้อกลางวัน "ไม่มี ข้ากินได้หมดทุกอย่างแหละ ข้าถือคติคนกินห้ามบ่น ไม่ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรก็ต้องบอกอร่อยไว้ก่อนเพราะเราไม่ได้เป็นคนทำอาหาร หากเจ้าทำกินเองจะบ่นอย่างไรก็ได้ไม่มีผู้ใดว่ากล่าว แต่ถ้าพ่อครัวทำให้ทานจำไว้แค่ว่าต้องกล่าวคำขอบคุณกับอร่อยเท่านั้น นั่นแหละถึงจะเรียกว่านักกิน

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 2

    หยาดน้ำฝนโปรยปรายผ่านหน้าต่างบานเล็ก บรรยากาศเย็นสบายชวนให้ง่วงงุน “เราหายมาโดยไม่บอกกล่าวผู้ใด ทุกคนจะไม่ตามหาแย่หรือ” ไป่ชิงถงถามเสียงงัวเงีย กระชับผ้าห่มผืนหนาบนร่างคลายความหนาวเย็น "งานเลี้ยงฉลองยังมีอีกหลายวันไม่มีผู้ใดสนใจเราหรอก" ริมฝีปากหนาจุมพิตเคล้าคลอหัวไหล่เปลือยเปล่าขาวผ่องที่โผล่พ้นชายผ้าห่ม จนปรากฏร่องรอยสีกุหลาบน่าหลงใหล "อย่ากวนน่า ทั้งคืนยังไม่พออีกหรือไง" มือบางปิดปากหนาก่อนจะโฉบเข้ามารังแกเขาอีก "บอกแล้วไงข้าไม่มีวันอิ่มเอมในตัวเจ้า" สวีจิ้งเฟิ่งจูบฝ่ามืองามหนักๆ ลิ้นสากไล้เล็มนิ้วงามดุจลำเทียนเล่น จนไป่ชิงถงรู้สึกชาหน่อยๆ "ให้จริงเถอะ" ไป่ชิงถงชักมือกลับ จู่ๆ กลิ่นหอมติดปลายจมูกก็หายวับไ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 1

    คงโหวหัวหงส์เก้าชั้นฟ้า[1] บรรเลงบทเพลงแว่วหวานเคล้าคลอสายลมยามค่ำคืน เสียงสรวลเสเฮฮา และจอกสุรากระทบกันฟังดูครื้นเครงดังแว่วถึงตำหนักแสงดาว เรือนหอที่วิจิตรตระการตาที่สุดในสี่ทะเลแปดดินแดนของไท่จื่อพระองค์ใหม่ งานอภิเษกสมรสขององค์ไท่จื่อ และไท่จื่อจวินจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แต่บรรยากาศครึกครื้นภายในงานไม่รบกวนเจ้าสาวในห้องหอเลยแม้แต่น้อย ไป่ชิงถงในชุดแต่งงานลายหงส์ นั่งหยุกหยิกบนเตียงหยกปูลาดด้วยผ้าห่มยวนยางผืนหนานุ่ม ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาอยู่ไม่สุขเช่นนี้ก็มาจากกลิ่นหอมเตะจมูกลอยตลบอบอวลอยู่ทั่วห้อง จนเขาอดสูดดมเข้าปอดแรงๆ ไม่ได้ ดวงตากลมโตจ้องมองอาหารละลานตาบนโต๊ะเบื้องหน้าตาเป็นมัน ลอบกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ต้องบอกก่อนว่าเมื่อครั้นยังเป็นมนุษย์เขาก็เป็นนักกินตัวยง แม้การคืนร่างเดิมกลายเป็นเทพเซียนจะไม่รู้สึกหิวโหยอีกต่อไป แต่เมื่อมีอาหารน่าทานมายั่วน้ำลายเช่นนี้ผู้ใดเล่าจะอดใจ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทส่งท้าย

    ด้านสวีจิ้งเฟิ่ง หลังจากเขากับไป่ชิงถงแยกตัวออกมา เซียนรับใช้ก็พาทั้งสองเดินชมทิวทัศน์ด้านหลังตำหนักใหญ่ที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ แต่ที่สะดุดตาเป็นที่สุดเห็นจะเป็นดอกอู๋ถงสีขาวบริสุทธิ์ชูช่อเบ่งบานเต็มผืนป่า “ว้าว! ต้นอู๋ถงเต็มไปหมดเลย” ไป่ชิงถงดวงตาเปล่งประกาย ดีใจมากถึงกับถลาเข้าไปถามไถ่เพื่อนฝูงอย่างสนิทชิดเชื้อ “สวัสดีต้นนี้เป็นลูกของเจ้าหรือ เขาน่ารักยิ่ง ต่อไปต้องเติบโตอย่างแข็งแรงแน่นอน” มือเรียวแตะสัมผัสอู๋ถงต้นน้อยอย่างเบามือ ก้านใบน้อยๆ ส่ายไหวสัมผัสมือบางกลับเหมือนตอบรับคำอวยพรของไป่ชิงถง ต้นอู๋ถงโดยรอบต่างกิ่งก้านส่ายไหว ยินดีที่ราชาของพวกเขามาเยี่ยมเยือน ดอกอู๋ถงโปรยปรายรอบกายคนตัวเล็ก บางส่วนติดตามเรือนผมยาวสลาย ยิ่งขับเน้นให้คนตรงหน้าน่ามองยิ่งกว่าสิ่งใด งดงามจนทัศนียภาพรอบกายจืดชืดไร้

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 127

    หลังเหตุการณ์เลวร้ายผ่านพ้นเรื่องน่ายินดีก็บังเกิด ข่าวเรื่องอดีตองค์ไท่จื่อสวีเฟยหลงคือเทพมังกรบรรพกาลแพร่สะพัดไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดน และที่สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้กัน ก็คงหนีไม่พ้นสวีจิ้งเฟิ่ง หงส์ทองเพียงหนึ่งเดียวแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ยิ่งได้รู้ว่าเขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเทพมังกรบรรพกาล ผู้คนยิ่งตื่นเต้นคึกคัก จัดขบวนต้อนรับทั้งสองพระองค์กลับสู่แดนสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่ คดีใส่ร้ายอดีตองค์ไท่จื่อว่าเป็นผู้นำกบฏในสงครามเทพมารเมื่อคราก่อนก็ได้รับการคลี่คลาย หลินหลิงจึงประกาศความจริงออกไปให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อสลายความเข้าใจผิด และชำระมลทินให้กับสวีเฟยหลง เหล่าผู้คนที่เคยกล่าวร้ายท่านเทพต่างก็แพ้ภัยตนเอง ทั้งสวีหนิงหลงที่ร่างกายแหลกสลายไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยววิญญาณ หรือแม้แต่สวีจวินอดีตเทียนตี้ผู้ปกครองสวรรค์ยังถูกทำลายตบะ ก่อนจะถูกส่งตัวไปคุมขัง ณ ห้วงอนธการ จนกว่าอายุขัยของเทพเซียนจะสูญสิ้น หลินหลิงมองส่ง

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 126

    เหล่าเทพเซียนที่รายล้อมอยู่รอบตัวสวีจวินแตกฮือรีบหนีตาย เมื่อสวีจวินก่อกรรมทำเข็ญเข่นฆ่าผู้คนโดยไม่เลือกหน้า จนสวีเฟยหลงต้องเข้ามาหยุดยั้งอีกฝ่ายเอาไว้ สวีหนิงหลงอาศัยจังหวะที่ผู้คนไม่ได้สนใจในตัวเขาลอบหลบหนี แต่กลับถูกสวีจิ้งเฟิ่งขวางหน้า “จะหนีไปไหน อยู่เล่นเป็นเพื่อนข้าก่อนสิเสด็จอา” สวีจิ้งเฟิ่งยิ้มเย็น หนี้แค้นที่อีกฝ่ายติดค้างบิดา เขาจะเป็นคนทวงคืนให้เอง! กระบี่เกล็ดเหมันต์วูบไหว บินเฉียดลำคอแกร่งของสวีหนิงหลงไปเพียงแค่เส้นยาแดงผ่าแปดแต่ปราณกระบี่คมกริบกลับกรีดเฉือนผิวหนังหนาๆ ของสวีหนิงหลงจนได้เลือด สวีหนิงหลงเจ็บแปล๊บบริเวณลำคอ คลำดูแล้วเห็นเลือดสีแดงฉานไหลเต็มฝ่ามือ อยู่ห่างเงามัจจุราชเพียงแค่เอื้อมทำให้สวีหนิงหลงโมโหหนัก “แก! รนหาที่ตาย!!” สวีหนิงหลงลงมือหนักหน่วง มวลน้ำวนดุจพายุหมุนห้าสายสูงเสียด

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 125

    หลินเสวี่ยเฟิ่งร้องห้ามเสียงดังลั่น สวีเฟยหลงลืมตาพรึ่บ พลังแห่งเทพบรรพกาลระเบิดออกอย่างรุนแรง จนภูผาวารีสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น กระแทกเงาร่างของศัตรูในรัศมีร้อยลี้จนตัวปลิว ผู้ที่มีพลังตบะอ่อนด้อยต่างเลือดออกทั้งเจ็ดทวารตายคาที่ แม้แต่สวีหนิงหลง และจอมมารหลัวเหยียนที่เข้าร่วมสนามรบยังถูกพลังอันมหาศาลจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวจนกระอักเลือดออกมากองใหญ่ มังกรเกล็ดทองอร่าม ลำตัวยาวเหยียดราวกับจะโอบล้อมทั้งสามภพไว้ในอุ้งมือกู่ร้องเสียงดังกึกก้อง ร่างกายใหญ่โตทะยานสู่ฟากฟ้ายามสุริยันกระจ่างแจ้ง เมฆมงคลไหลเรื่อย แสงเงินแสงทองส่องประกายวาววับ ไอมงคลสีทองระยับโปรยปรายดุจสายฝนฉ่ำริน นำพาไอวิเศษอันแสนอบอุ่นอ่อนโยนโอบล้อมทุกหมู่เหล่า วัชระม่วงครามซึ่งเป็นทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุดตอบรับเสียงเรียกร้องแห่งบรรพกาล ผ่าฟาดลงบนแท่นมังกรวัชระ ปลุกจิตวิญญาณของอาวุธเทพให้ตื่นฟื้น อาวุธเทพหลับใหลมานานดั่งได้พานพบนายเก่า ส่งสายฟ้าสีม่วงครามต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status