Share

บทที่ 16

last update Last Updated: 2024-11-29 20:35:10

       “ฝ่าบาท” เฝิงไห่เอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา ดึงสติของเฉินเทียนอี้กลับมาจากห้วงคำนึงอันแสนยาวนาน

       “มาแล้วหรือ เป็นอย่างไร รสชาติของนังแพศยาตระกูลหลี่ แทบกระเดือกไม่ลงเลยสิท่า” เฉินเทียนอี้ถามเสียงนุ่ม ขัดกับนัยน์ตาวาววับเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังไม่จางหาย

       “พ่ะย่ะค่ะ” เฝิงไห่ค้อมกายรับคำเสียงเรียบ สายตาหลุบต่ำมองหลานซือเยว่แฝงประกายอ่อนโยน สลับกับเงาร่างของเฉินเทียนอี้ที่อยู่เคียงข้างด้วยอารมณ์ซับซ้อน ก่อนจะถอนหายใจเสียงแผ่ว

       “เจ้าคงสะอิดสะเอียนมากสินะ ทำเรื่องเช่นนี้แทนข้ามาหลายปี คงเบื่อมากเลยสิท่า”

       “หามิได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทประสงค์สิ่งใด กระหม่อมย่อมปฏิบัติตามโดยสิ้น”

       “ประเสริฐ! ข้าต้องการ ‘บุตร’ เพิ่มอีกหลายคน มีกับพระสนมขั้นสูงได้ยิ่งดี ช่วงนี้คงต้องลำบากเจ้าแล้ว”

       เฉินเทียนอี้ยิ้มหยัน ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ย่อมมีความโลภเป็นที่ตั้ง เขาไม่เชื่อหรอกว่าหากมีองค์ชายเกิดจากตระกูลตน ขุนนางเหล่านั้นจะยังจงรักภักดีกับหลี่ย่าเสียง อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคาดว่าเสด็จแม่ของเขาต้องยุ่งจนหัวหมุนเป็นแน่แท้

       “กระหม่อมรับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ”

       “ปรมาจารย์เสิ่นอวิ๋นเล่า ยังไม่มีข่าวคราวอีกหรือ” เฉินเทียนอี้วางมือของหลานซือเยว่ลงอย่างเบามือ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย

       “ยังไม่ออกจากด่านกักตนเลยพ่ะย่ะค่ะ”

       ปรมาจารย์ 'เสิ่นอวิ๋น' ผู้ถูกกล่าวถึงคือ นักพรตที่มีพลังบำเพ็ญเพียรแก่กล้าถึงระดับต้าเฉิงหรือสู่มหายาน ชื่อเสียงโด่งดังมากในโลกผู้บำเพ็ญเพียร แต่ท่านผู้เฒ่ากลับเร้นกายไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก ในขณะที่เฉินเทียนอี้สั่งให้คนออกตามหาผู้ทรงฤทธิ์อย่างลับๆ นักพรตเสิ่นอวิ๋นกลับมาเยือนถึงที่พร้อมแท่นหยกน้ำแข็งพันปี และยาเปลี่ยนชีพคืนวิญญาณ ทำให้สามารถคงรูปร่างของหลานซือเยว่ไม่ให้สูญสลาย ก่อนจะปิดด่านกักตนเพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของหลานซือเยว่บนยอดเขาเซี่ยซิงห่างจากเมืองหลวงไกลนับร้อยลี้ จนป่านนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกจากด่านกักตน

       “ยังไม่มีวี่แววเลยหรือ” เฉินเทียนอี้รู้ว่าการฟื้นคืนชีพให้หลานซือเยว่นั้นช่างริบหรี่ เขาทำได้เพียงรักษาม้าตายดุจม้าเป็น[1] ความหวังทั้งหมดล้วนฝากไว้ที่เสิ่นอวิ๋น แต่พอได้รับคำตอบจากเฝิงไห่ อารมณ์ของเขาก็ดิ่งลงถึงขีดสุด

       “พ่ะย่ะค่ะ”

       “เก้าปี! ข้ารอมานานถึงเก้าปีเชียวนะ ยังจะต้องให้ข้ารออีกเนิ่นนานแค่ไหนกัน”

       เพล้ง!!

       มือหนาปัดแจกันหยกสมัยปฐมจักรพรรดิตกแตกละเอียดไม่มีชิ้นดีด้วยแรงอารมณ์ เฉินเทียนอี้เดือดดาลจนดวงตาแดงก่ำ เลือดลมในกายพลุ่งพล่านประกอบกับถูกฤทธิ์ของธูปเสน่หาผสมกับพิษสะบั้นวิญญาณที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกายเคี่ยวกรำ รวมทั้งความหนาวเหน็บที่ได้รับจากแท่นหยกน้ำแข็งพันปีเกิดการปะทะกันภายในกาย ทำให้ร่างสูงตระหง่านเจ็บหนัก ฝืนยืนหยัดต่อไปไม่ไหวจนร่างกายเซถลาชนเข้ากับแท่นหยกน้ำแข็งพันปี โลหิตสดๆ พ่นออกมาจากริมฝีปากหนา

       พรืด!!

       “ฝ่าบาท!!!”

       เฝิงไห่โผรับเฉินเทียนอี้ที่หมดสติไปก่อนร่างสูงจะล้มกระแทกพื้น จี้สกัดจุดไม่ให้พิษกำเริบ แล้วประคองอีกฝ่ายเร้นกายกลับตำหนักหยางซิน

       “รีบไปตามหมอหลวงเร็ว!”

       “ขอรับ” หวังกงกงรับคำ เร่งฝีเท้าไปยังสำนักแพทย์หลวงอย่างเร่งร้อน

       เฝิงไห่พยุงเฉินเทียนอี้นอนบนแท่นบรรทม แล้วหันไปสั่งองครักษ์เงาเสียงเข้ม “จับตาดูไว้ ผู้ใดกล้าแพร่งพรายอาการประชวรของฝ่าบาทฆ่าได้ทันที ส่วนเจ้าเร่งไปแจ้งข่าวองค์รัชทายาทเดี๋ยวนี้”

       “ขอรับ / ขอรับ”

       ทุกคนแยกออกไปทำตามคำสั่ง ไม่นานเฉินซือหยางที่เพิ่งทราบข่าวก็รีบเร้นกายมาตำหนักหยางซินเพียงลำพัง

       “เกิดอะไรขึ้น เหตุใดเสด็จพ่อถึงประชวรได้”

       เฉินซือหยางซับหยาดเหงื่อที่ผุดพรายเต็มศีรษะเฉินเทียนอี้ด้วยตนเอง ความห่วงใยฉายชัดบนดวงหน้ากลม ร่างเล็กของเด็กชายช่วยประคองศีรษะของเสด็จพ่อขึ้นป้อนโอสถจากหมอหลวง เห็นร่างสูงของเฉินเทียนอี้มีท่าทางผ่อนคลายลง สีหน้าไม่หลงเหลือความเจ็บปวด ค่อยออกปากซักถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

       “วันนี้ฝ่าบาทเสด็จไปยังตำหนักคุนหนิง มีรับสั่งให้หลี่ลู่เหม่ยหลานสาวของไทเฮาถวายงานจึงถูกกลิ่นธูปราคะเล่นงานเข้า ประกอบกับเสด็จไปเยี่ยมกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงที่ตำหนักซูเซียว ทำให้พระอารมณ์แปรปรวน อาการประชวรเลยกำเริบพ่ะย่ะค่ะ” เฝิงไห่ก้มหน้ารายงานเสียงต่ำ

       “รู้ทั้งรู้ว่าเสด็จพ่อพระวรกายอ่อนแอ เจ้าไม่เพียงไม่ห้ามปราม กลับส่งเสริมให้เสด็จพ่อกระทำเรื่องที่เป็นอันตรายต่อพระองค์เองเช่นนี้ ข้าจะมีเจ้าไว้เพื่อการใดกัน!” เฉินซือหยางเดือดดาลหนัก เขวี้ยงถ้วยยาใส่ศีรษะเฝิงไห่จนหน้าผากแตกเลือดอาบหน้า แต่โทสะที่มีอยู่เต็มอกไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ร่างเล็กๆ หงุดหงิดงุ่นง่าน จนหวังกงกงต้องเข้ามาเอ่ยปลอบ

       “ขอองค์รัชทายาทโปรดระงับโทสะ”

       “เจ้ายังมีหน้ามาบอกให้ข้าใจเย็นอยู่อีกหรือ เสด็จพ่อเป็นหนักขนาดนี้ แล้วเจ้าเล่ามัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่อยู่ข้างกายเสด็จพ่อ ข้ากำชับนักกำชับหนาแล้วว่าต้องห้ามปรามไม่ให้เสด็จพ่อบุ่มบ่ามทำอะไรที่เป็นการทำร้ายพระองค์เอง แล้วเป็นอย่างไรเล่า ฝืนพระองค์จนเจ็บหนักถึงเพียงนี้ หากว่าเสด็จพ่อเป็นอะไรไปละก็ ข้าจะบั่นศีรษะพวกเจ้าทุกคน” เฉินซือหยางด่ากราดไม่ไว้หน้าผู้ใด ใบหน้าถมึงทึงแฝงความอำมหิตโหดเหี้ยมเกินเด็ก ทำเอาหวังกงกงหวาดกลัวจนตัวสั่น

       “พระอาญาไม่พ้นเกล้า โปรดพระราชทานอภัยให้กระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ต่อไปนี้กระหม่อมขอสาบานว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับฝ่าบาทอีกเป็นอันขาด”

       “กระหม่อมขอสาบานเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ” เฝิงไห่โขกศีรษะขออภัยเช่นเดียวกับหวังกงกง

       เฉินซือหยางมองคนสนิทข้างกายเฉินเทียนอี้ด้วยสายตาเย็นชา สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อระงับโทสะ ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อหันหลังให้ตัวไร้ประโยชน์พวกนี้ด้วยความรำคาญ “หากว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก พวกเจ้าจะไม่มีโอกาสได้เอ่ยปากอีกเป็นครั้งที่สอง”

       “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท”

       “เสด็จพ่อมีแผนการใดต่อไป”

       “ฝ่าบาทประสงค์จะมีทายาทในนามเพิ่มขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”

       “เสด็จพ่อคิดจะกวนน้ำจับปลา[2] สินะ สองสามวันนี้เจ้าก็ปลอมตัวเป็นเสด็จพ่อให้ดี ห้ามเผยพิรุธเป็นอันขาด”

       “รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ”

       “หวังกงกง เจ้าประกบเฝิงไห่ไว้ อย่าให้เขาทำอะไรผิดพลาดเด็ดขาด ส่วนราชกิจของเสด็จพ่อข้าจะเป็นคนสะสางเอง พวกเจ้าแค่แสดงละครตบตาตาเฒ่าพวกนั้นให้ดีเป็นพอ ช่วงนี้เสด็จพ่อเพิ่งปรับขั้วอำนาจใหม่ ระหว่างออกว่าราชการอย่าลืมสังเกตท่าทีของเหล่าขุนนางด้วย หากผู้ใดมีทีท่าว่าจะสานสัมพันธ์กับตระกูลหลี่แล้วละก็รีบรายงานข้าทันที”

       “รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ”

       “เอาล่ะพวกเจ้าออกไปได้ ข้าจะเป็นคนดูแลเสด็จพ่อเอง” เฉินซือหยางโบกมือไล่ เขาเดินเข้าไปในห้องบรรทมอีกครา เห็นเฉินเทียนอี้นอนหลับด้วยสีหน้าความเจ็บปวดเหนื่อยล้า เฉินซือหยางก็รู้สึกปวดใจและเจ็บแค้นแทนเสด็จพ่อยิ่งนัก เสด็จพ่อต้องคอยวางแผนเพื่อความอยู่รอดของเขาและแก้แค้นให้เสด็จแม่ ทรมานตัวเองทั้งกายใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน โดยไม่นึกห่วงพระองค์เอง

       เฉินซือหยางกำหมัดแน่นลอบสาบานในใจ ตระกูลหลี่ต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกมันทำกับครอบครัวเขาอย่างสาสม!

[1] รักษาม้าตายดุจม้าเป็น หมายถึง ทำในสิ่งที่รู้ว่าไม่มีทางทำได้ หรือดันทุรังทำในสิ่งที่เกินความสามารถ

[2] 1 ใน 36 กลยุทธ์จากเรื่องสามก๊ก หมายถึง การฉกฉวยผลประโยชน์ขณะที่ศัตรูเกิดความปั่นป่วนหรือขัดแย้งกันเอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 17

    อาการประชวรของเฉินเทียนอี้ถูกปิดมิด ไม่มีผู้ใดในเมืองหลวงระแคะระคายเลยว่าเฉินเทียนอี้ฮ่องเต้ผู้ออกว่าราชการนั้นเป็นตัวปลอม เฝิงไห่แสดงเป็นเฉินเทียนอี้ได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติสมกับที่ทำเช่นนี้มานานปี ข่าวลือเรื่องการประชวรไม่มีเล็ดลอดออกไป แต่ข่าวลือที่เฉินซือหยางไปวางระเบิดไว้ที่จวนไท่เว่ยกลับกระจายออกไปทั่วบ้านทั่วเมือง “นี่ๆ เหล่าหลู่เจ้าได้ยินข่าวลือช่วงนี้หรือไม่” ผู้เฒ่าจูเดินขายถังหูลู่แต่เช้าจนขาแข็ง หยุดพักเหนื่อยที่ร้านน้ำชาของผู้เฒ่าหลู่ ถือโอกาสชวนคุยขณะนั่งจิบน้ำชาคลายหนาว “เรื่องอะไรหรือ” ผู้เฒ่าหลู่หูผึ่ง สนใจใคร่รู้ขึ้นมาทันที “อ้าว! ก็เรื่ององค์รัชทายาทอย่างไรเล่า” “ใช่เรื่องที่องค์รัชทายาทไปถูกตาต้องใจบุตรชายของเจิ้งกั๋วกงหรือไม่เหล่าจู” พ่อค้าขายเซาปิ่ง[1] ทิ้งแผงมาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคน “เรื่องนั้นแหละ ได้ยินว่าให้ของแทนใจทั้งปิ่นหงส์ ทั้

    Last Updated : 2024-11-30
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 18

    ฮวงจุ้ยของจวนไท่เว่ยน่าจะดีเป็นพิเศษ นอกจากมีข่าวเรื่องการหมั้นหมายระหว่างคุณหนูรองตระกูลจ้าวกับรองเสนาบดีกรมพิธีการในช่วงเช้ากระจายออกไปแล้ว ช่วงบ่ายก็มีขบวนรถจากวังหลวงเดินทางมาถึงจวนไท่เว่ย รถม้าติดตราราชวงศ์หลายสิบคันจอดเรียงรายยาวเหยียดแทบปิดเส้นทางสัญจรฝั่งตะวันออกของเมือง เฉินซือหยางนำหวังกงกงมาเยือนจวนไท่เว่ยกะทันหัน ทำเอาจ้าวมู่ที่เพิ่งได้รับรายงานจากทหารรับใช้รีบควบม้ากลับจวน เห็นองค์รัชทายาทยืนรอพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวของเขา จ้าวมู่ก็รีบเข้าไปค้อมกายทักทายทันที “องค์รัชทายาท” “เจิ้งกั๋วกง” เฉินซือหยางพยักหน้าให้อีกฝ่ายยิ้มๆ อีกฝ่ายมาต้อนรับเขารวดเร็วถึงเพียงนี้ คงได้รับข่าวตั้งแต่เขาก้าวเท้าออกจากวังเลยกระมัง “เหตุใดองค์รัชทายาทถึงให้เกียรติมาเยือนจวนของผู้น้อยได้ขอรับ” “เราบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเราถูกชะตากับบุตรชายของท่านยิ่งนัก ไหนๆ วันนี้เสด็จพ่อก็มีเรื่องจะแจ้งให้ท่านทรา

    Last Updated : 2024-12-01
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 19

    จ้าวมู่เดินนำกู้ฟางเหนียงกลับเรือนนอน หลังจากสองสามีภรรยาปิดประตูห้องสนิท กู้ฟางเหนียงที่ร้อนอกร้อนใจเรื่องของบุตรชายอยู่เป็นทุนเดิมก็ผวาจับมือสามีแน่น “ท่านพี่ เราจะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะ เหตุใดฝ่าบาทถึงทรงรับสั่งเช่นนี้ แล้วท่าทีขององค์รัชทายาทที่มีต่อเสี่ยวชีนี่มันอะไรกัน” “น้องหญิงใจเย็นๆ ก่อน” “จะให้น้องใจเย็นได้อย่างไร นี่มันชีวิตทั้งชีวิตของลูกเราเลยนะเจ้าคะ” “แล้วเจ้าจะให้พี่ทำเช่นไร ขัดราชโองการอย่างนั้นหรือ ถ้าทำเช่นนั้นคนที่จะถูกประหารเป็นคนแรกคือเสี่ยวชีรู้หรือไม่” กู้ฟางเหนียงทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างอ่อนแรงเมื่อได้ยินคำตอบของสามี ดวงตากลมโตของนางแดงระเรื่อ สะท้อนใจกับอนาคตที่ไม่แน่นอนของบุตรชาย “ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ หรือ” จ้าวมู่นั่งลงข้างกายกู้ฟางเหนียง รวบร่างบางเข้ามาโอบกอดไว้ในอ้อมแขน มือหนาลูบไล้บ่าบ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 20

    ทันทีที่เฉินซือหยางกลับวังข่าวพระราชทานสมรสระหว่างองค์รัชทายาทกับจ้าวลี่หมิงบุตรชายของเจิ้งกั๋วกงก็แพร่สะพัดออกไปราวกับพายุลูกใหญ่ ราษฎรโจษจันกันเป็นวงกว้าง บ้างก็ว่าองค์ฮ่องเต้วิปลาสไปแล้ว มีที่ไหนออกราชโองการให้บุตรชายหมั้นหมายกับบุรุษด้วยกันเอง บ้างก็เล่าลือว่าองค์รัชทายาทไม่เป็นที่โปรดปรานอีกต่อไปจึงมีพระราชทานสมรสเช่นนี้ออกมา บ้างก็บอกว่าฮ่องเต้กลัวองค์รัชทายาทสั่นคลอนบัลลังก์จึงคิดตัดไฟแต่ต้นลมโดยการให้สมรสกับบุรุษจนอีกฝ่ายสิ้นไร้ทายาท บ้างก็ว่าจ้าวลี่หมิงผู้มีรูปโฉมงดงามล่มเมืองยั่วยวนให้องค์รัชทายาทหลงใหลจนเก็บไปละเมอเพ้อหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่เป็นอันกินอันนอน ฮ่องเต้ทรงเห็นองค์รัชทายาทปวดพระทัยไข้ใจรุมเร้าจึงมีรับสั่งบังคับให้บุตรชายของผู้อื่นหมั้นหมายด้วยเช่นนี้ บ้างก็เล่าลือว่าความสัมพันธ์ระหว่างองค์รัชทายาทกับจ้าวลี่หมิงลึกซึ้งเกินหยั่งถึง ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปเสียแล้ว ฮ่องเต้จึงจำใจต้องออกราชโองการพระราชทานสมรสให้ ยิ่งลือยิ่งไปกันใหญ่ โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงเลยว่าบุคคลผู้กำลังเป็นที่ฮือฮาถูกพูดถึงกันอยู่นั้น

    Last Updated : 2024-12-03
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 21

    อย่างไรก็ดีข่าวเรื่องการคัดค้านการแต่งตั้งชายาองค์รัชทายาทในครั้งนี้ก็ไม่อาจกลบความจริงที่ว่าตอนนี้จวนไท่เว่ยทะยานขึ้นฟ้ากระทั่งไก่สุนัขยังพลอยได้ขึ้นสวรรค์[1] ตามไปด้วย ของขวัญแสดงความยินดีกับจ้าวลี่หมิงหลั่งไหลมาดุจสายน้ำหลากในยามวสันต์ มีคนคิดประจบเอาใจย่อมมีคนอิจฉาริษยา คนไม่พอใจที่เจิ้งกั๋วกงได้ดีแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมี 'ต่งเซิน' รวมอยู่ด้วย หลังออกจากท้องพระโรง เสนาบดีกรมคลังผู้อุดมไปด้วยไขมันพกความไม่พอใจที่มีอยู่เต็มท้องไปเยือน 'หอผู่เยว่' หอโคมเขียวอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง ที่นี่มีทั้งคณิกาหญิงและชายไว้คอยปรนนิบัติรับใช้ แต่ละคนล้วนมีใบหน้างดงามตรึงใจ แน่นอนว่าดาวเด่นของหอผู่เยว่คือ แม่นางฟางเซียนที่ต่งเซินพลาดประมูลคืนแรกไปอย่างน่าเสียดาย มิหนำซ้ำนางยังถูกส่งไปเป็นอนุของเจิ้งกั๋วกงอีก สมัยก่อนกู้ฟางเหนียงขึ้นชื่อว่าเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง ยอดบุปผางามที่ชายทุกคนต่างหมายปอง ฟางเซียนผู้มีดวงหน้าคล้ายคลึงย่อมไม่ด้อยไปกว่ากันสักเท่าใด เขาแอบชื่นชมกู้ฟางเหนียงใจสลายมาแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้ยังมีฟ

    Last Updated : 2024-12-04
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 22

    ค่ำคืนดึกสงัดร้างไร้ผู้คน จันทราหลบเร้นหลังม่านเมฆไร้แสงดาวเงาร่างในอาภรณ์สีนิลหลายนายอาศัยความมืดอำพรางกายเร้นหายไปในย่านชุมชนแออัดฝั่งตะวันตกของเมือง ณ เรือนไม้ผุพังหลังหนึ่งท้ายชุมชน “มา! ดื่ม” ผู้คุ้มกันที่ต่งเซินจ้างวานมาปลอมตัวเป็นคนงานแบกหามกำลังนั่งก๊งเหล้ากับพรรคพวกภายในเรือนเก่าโทรมหลังน้อยที่ใช้กักขังหมอใบ้ผู้ชรา หลังจากเห็นว่าหมอเฒ่าเข้านอนแล้ว ทั้งสองคนก็ออกมาดื่มเหล้าท้าลมหนาวตั้งแต่หัวค่ำ ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกรา ทำงานคุ้มกันมาเป็นสิบปียังไม่เคยมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น ทุกคนจึงชะล่าใจไม่ได้เข้มงวดกวดขันเหมือนตอนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ เลยไม่ได้ระมัดระวังปล่อยตัวตามสบายดั่งเช่นทุกวันที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสองเมามายไร้สติอยู่นั้น เงาร่างสูงใหญ่ในชุดพรางกายสีดำสนิทก็โผล่มาข้างกายผู้คุ้มกันทั้งสองอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะลงมือปลิดชีพพวกเขาในดาบเดียว  

    Last Updated : 2024-12-05
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 23

    หลี่เหยียนเจี๋ยเองก็กำลังหัวเสียพอกัน หลังออกจากที่ประชุมเช้าก็ตรงดิ่งขอเข้าเฝ้าหลี่ไทเฮาทันที “เหนียงเหนียง” “ท่านพี่มาหาข้าด้วยเหตุอันใด” “เหนียงเหนียงทรงทราบหรือไม่ว่าองค์รัชทายาทเองก็ทรงเข้าร่วมประชุมเช้าเหมือนกัน” “หืมมม มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ เหตุใดข้าถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน” “คนที่เราวางไว้ในตำหนักอี้ชิ่งคงต้องกำจัดทิ้งแล้ว หากไม่มีข่าวคราวของอีกฝ่ายเล็ดลอดออกมาถึงเราเช่นนี้ แสดงว่าคนพวกนั้นอาจถูกเปิดโปงแล้ว จะเก็บเอาไว้ไม่ได้” “จัดการตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ยังไงเจ้าเด็กนั่นก็หาทางสอดเท้าเข้าไปบริหารราชกิจบ้านเมืองได้อยู่ดี ราชสำนักประดุจดั่งบ่อโคลนคอยดูดกลืนผู้คน ผู้ใดโถมตัวลงไปก็มีแต่จะแปดเปื้อนไปทั้งตัวก็เท่านั้น ดีเสียอีกเราจะได้หาทางกำจัดพวกมันได้ง่ายหน่อย ท่านพี่หาทางขัดแข้งขัดขามันเข้าเถอะ ช่วงนี้ข้ายุ่งอยู่กับการบำรุงร่างกายของเหม่ยเอ

    Last Updated : 2024-12-06
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 24

    เฉินซือหยางกลับจากจวนไท่เว่ยก็เรียกที่ปรึกษาส่วนตัวเข้าร่วมประชุมทันที คนทั้งหมดประชุมกันจนดึกดื่นค่อนคืน จัดทำแผนงานจนรัดกุมดีแล้ว รุ่งเช้าเฉินซือหยางจึงนำเข้าที่ประชุมให้เฉินเทียนอี้ทอดพระเนตร “สำนักป้องกันอัคคีภัยที่ก่อตั้งขึ้นนั้นจะต้องสร้างไว้ใจกลางเมือง โดยเราจะขุดบ่อน้ำขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางที่ทำการเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย หอสังเกตการณ์จะตั้งอยู่ทางทิศเหนือซึ่งสะดวกต่อการสังเกตทิศทางลม และสัญญาณควัน หากเจ้าหน้าที่บนหอสังเกตการณ์เห็นเพลิงไหม้หรือควันไฟจะรีบตีระฆังแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่คนอื่นทันที ด้านหน้าลูกจะเอาไว้เป็นที่จอดรถม้าสำหรับใช้ขนส่งน้ำ โดยจะต่อตัวรถเป็นถังไม้สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่เพื่อใช้บรรจุน้ำ เพิ่มจำนวนล้อเพื่อรับน้ำหนักของน้ำและตัวรถเป็นหกล้อ" เฉินซือหยางคลี่แบบแปลนอาคาร และภาพร่างรถขนน้ำประกอบคำอธิบาย "ลูกกลัวว่าตัวรถจะสูงเกินไปทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงตักน้ำลำบากลูกจึงทำท่อระบายน้ำไว้รอบตัวรถจำนวน 40 ท่อเปิดปิดได้สะดวกยิ่ง เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟจะได้รองน้ำใส

    Last Updated : 2024-12-07

Latest chapter

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทสัมภาษณ์พิเศษ

    ‘เปิดตำหนักลับฉบับวายป่วง’ สำนักข่าวเถียนเถียนรายงานสดจากตำหนักจินหลวน นักข่าวนิรนาม : “มีคนบ่นว่าพระเอกเรื่องนี้ไม่เหมือนพระเอกจริงหรือไม่ขอรับ” สวีจิ้งเฟิ่ง : “ผู้ใดบอกให้นักเขียนผู้นั้นให้บทเด่นกับท่านพ่อมากเกินไปเล่า” สวีจิ้งเฟิ่งแบมืออย่างช่วยไม่ได้ นักเขียน : “C £ C!!” ถึงกับเลิ่กลั่ก นักข่าวนิรนาม : “คุณแย่งซีนบุตรชายเช่นนี้ รู้สึกผิดหรือไม่ขอรับ” สวีเฟยหลง : “แย่งซีนคืออันใด” ไป่ชิงถง : “กินได้หรือไม่” หลินเสวี่ยเฟิ่ง : “ข้าว่าน่าจะไม่ใช่ของ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 4

    ด้วยความเพียรพยายามมุมานะอุตสาหะกกไข่แทนภรรยาของสองพ่อลูกแซ่สวี ในที่สุดไข่ใบน้อยก็เริ่มกะเทาะเปลือกออกมาแล้ว "อีกนิด ลูกทำได้ เจาะเปลือกบนหัวออกก่อนแบบนั้นแหละ" เสียงพ่อลูกแซ่สวีให้กำลังใจลูกน้อยดังขึ้นเป็นระยะ ไม่นานหงส์ทองตัวน้อยกับมังกรเหมันต์ก็โผล่ศีรษะเล็กๆ ออกมา ดวงตาใสแจ๋วสองคู่มองคนนั้นทีคนนี้ที "เห็นไหม ข้าบอกแล้วว่าเขาจะต้องเป็นมังกรเหมือนข้า" สวีเฟยหลงคีบบุตรชายมาอวดภรรยาด้วยความภาคภูมิใจ "ชีชี เจ้าดูลูกของเราสิ น่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ" สวีจิ้งเฟิ่งประคองลูกหงส์ขนอุยในมือให้ภรรยาเห็นชัดๆ "พวกท่านเห่อลูกให้น้อยลงหน่อยจะได้หรือไม่" ไป่ชิงถงกับหลินเสวี่ยเฟิ่งเอ็ดคนทั้งคู่ รับบุตรชายตัวน้อยของตนมาดูแลบ้าง "เสด็จพ่อตั้งชื่อน้องชายว่าอะไรหรือ"

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 3

    กาลเวลาล่วงเลยไปดั่งสายน้ำไหลไม่อาจหวนคืน วันเวลาของเทพเซียนนั้นช่างแสนยาวนานจนน่าเบื่อหน่าย ไป่ชิงถงจึงหางานอดิเรกทำแก้เซ็ง นั่นก็คือการตระเวนกินของอร่อยไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดน "อืม ปลาเก๋าเก้าครีบราดพริกไฟนรกร้านนี้สุดยอดเลย เผ็ดจัดจ้านถึงใจข้ายิ่งนัก" ไป่ชิงถงกินไปปาดเหงื่อไป ถึงจะเผ็ดแค่ไหนก็ไม่ยอมแพ้ กินจนริมฝีปากบวมเจ่อก็ยังหยุดกินไม่ได้ "เคยมีอะไรไม่ถูกปากเจ้าด้วยหรือ" สวีจิ้งเฟิ่งยิ้มขำนอนตะแคงมองภรรยาเพลินๆ ระหว่างรออีกฝ่ายทานมื้อกลางวัน "ไม่มี ข้ากินได้หมดทุกอย่างแหละ ข้าถือคติคนกินห้ามบ่น ไม่ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรก็ต้องบอกอร่อยไว้ก่อนเพราะเราไม่ได้เป็นคนทำอาหาร หากเจ้าทำกินเองจะบ่นอย่างไรก็ได้ไม่มีผู้ใดว่ากล่าว แต่ถ้าพ่อครัวทำให้ทานจำไว้แค่ว่าต้องกล่าวคำขอบคุณกับอร่อยเท่านั้น นั่นแหละถึงจะเรียกว่านักกิน

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 2

    หยาดน้ำฝนโปรยปรายผ่านหน้าต่างบานเล็ก บรรยากาศเย็นสบายชวนให้ง่วงงุน “เราหายมาโดยไม่บอกกล่าวผู้ใด ทุกคนจะไม่ตามหาแย่หรือ” ไป่ชิงถงถามเสียงงัวเงีย กระชับผ้าห่มผืนหนาบนร่างคลายความหนาวเย็น "งานเลี้ยงฉลองยังมีอีกหลายวันไม่มีผู้ใดสนใจเราหรอก" ริมฝีปากหนาจุมพิตเคล้าคลอหัวไหล่เปลือยเปล่าขาวผ่องที่โผล่พ้นชายผ้าห่ม จนปรากฏร่องรอยสีกุหลาบน่าหลงใหล "อย่ากวนน่า ทั้งคืนยังไม่พออีกหรือไง" มือบางปิดปากหนาก่อนจะโฉบเข้ามารังแกเขาอีก "บอกแล้วไงข้าไม่มีวันอิ่มเอมในตัวเจ้า" สวีจิ้งเฟิ่งจูบฝ่ามืองามหนักๆ ลิ้นสากไล้เล็มนิ้วงามดุจลำเทียนเล่น จนไป่ชิงถงรู้สึกชาหน่อยๆ "ให้จริงเถอะ" ไป่ชิงถงชักมือกลับ จู่ๆ กลิ่นหอมติดปลายจมูกก็หายวับไ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 1

    คงโหวหัวหงส์เก้าชั้นฟ้า[1] บรรเลงบทเพลงแว่วหวานเคล้าคลอสายลมยามค่ำคืน เสียงสรวลเสเฮฮา และจอกสุรากระทบกันฟังดูครื้นเครงดังแว่วถึงตำหนักแสงดาว เรือนหอที่วิจิตรตระการตาที่สุดในสี่ทะเลแปดดินแดนของไท่จื่อพระองค์ใหม่ งานอภิเษกสมรสขององค์ไท่จื่อ และไท่จื่อจวินจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แต่บรรยากาศครึกครื้นภายในงานไม่รบกวนเจ้าสาวในห้องหอเลยแม้แต่น้อย ไป่ชิงถงในชุดแต่งงานลายหงส์ นั่งหยุกหยิกบนเตียงหยกปูลาดด้วยผ้าห่มยวนยางผืนหนานุ่ม ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาอยู่ไม่สุขเช่นนี้ก็มาจากกลิ่นหอมเตะจมูกลอยตลบอบอวลอยู่ทั่วห้อง จนเขาอดสูดดมเข้าปอดแรงๆ ไม่ได้ ดวงตากลมโตจ้องมองอาหารละลานตาบนโต๊ะเบื้องหน้าตาเป็นมัน ลอบกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ต้องบอกก่อนว่าเมื่อครั้นยังเป็นมนุษย์เขาก็เป็นนักกินตัวยง แม้การคืนร่างเดิมกลายเป็นเทพเซียนจะไม่รู้สึกหิวโหยอีกต่อไป แต่เมื่อมีอาหารน่าทานมายั่วน้ำลายเช่นนี้ผู้ใดเล่าจะอดใจ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทส่งท้าย

    ด้านสวีจิ้งเฟิ่ง หลังจากเขากับไป่ชิงถงแยกตัวออกมา เซียนรับใช้ก็พาทั้งสองเดินชมทิวทัศน์ด้านหลังตำหนักใหญ่ที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ แต่ที่สะดุดตาเป็นที่สุดเห็นจะเป็นดอกอู๋ถงสีขาวบริสุทธิ์ชูช่อเบ่งบานเต็มผืนป่า “ว้าว! ต้นอู๋ถงเต็มไปหมดเลย” ไป่ชิงถงดวงตาเปล่งประกาย ดีใจมากถึงกับถลาเข้าไปถามไถ่เพื่อนฝูงอย่างสนิทชิดเชื้อ “สวัสดีต้นนี้เป็นลูกของเจ้าหรือ เขาน่ารักยิ่ง ต่อไปต้องเติบโตอย่างแข็งแรงแน่นอน” มือเรียวแตะสัมผัสอู๋ถงต้นน้อยอย่างเบามือ ก้านใบน้อยๆ ส่ายไหวสัมผัสมือบางกลับเหมือนตอบรับคำอวยพรของไป่ชิงถง ต้นอู๋ถงโดยรอบต่างกิ่งก้านส่ายไหว ยินดีที่ราชาของพวกเขามาเยี่ยมเยือน ดอกอู๋ถงโปรยปรายรอบกายคนตัวเล็ก บางส่วนติดตามเรือนผมยาวสลาย ยิ่งขับเน้นให้คนตรงหน้าน่ามองยิ่งกว่าสิ่งใด งดงามจนทัศนียภาพรอบกายจืดชืดไร้

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 127

    หลังเหตุการณ์เลวร้ายผ่านพ้นเรื่องน่ายินดีก็บังเกิด ข่าวเรื่องอดีตองค์ไท่จื่อสวีเฟยหลงคือเทพมังกรบรรพกาลแพร่สะพัดไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดน และที่สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้กัน ก็คงหนีไม่พ้นสวีจิ้งเฟิ่ง หงส์ทองเพียงหนึ่งเดียวแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ยิ่งได้รู้ว่าเขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเทพมังกรบรรพกาล ผู้คนยิ่งตื่นเต้นคึกคัก จัดขบวนต้อนรับทั้งสองพระองค์กลับสู่แดนสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่ คดีใส่ร้ายอดีตองค์ไท่จื่อว่าเป็นผู้นำกบฏในสงครามเทพมารเมื่อคราก่อนก็ได้รับการคลี่คลาย หลินหลิงจึงประกาศความจริงออกไปให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อสลายความเข้าใจผิด และชำระมลทินให้กับสวีเฟยหลง เหล่าผู้คนที่เคยกล่าวร้ายท่านเทพต่างก็แพ้ภัยตนเอง ทั้งสวีหนิงหลงที่ร่างกายแหลกสลายไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยววิญญาณ หรือแม้แต่สวีจวินอดีตเทียนตี้ผู้ปกครองสวรรค์ยังถูกทำลายตบะ ก่อนจะถูกส่งตัวไปคุมขัง ณ ห้วงอนธการ จนกว่าอายุขัยของเทพเซียนจะสูญสิ้น หลินหลิงมองส่ง

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 126

    เหล่าเทพเซียนที่รายล้อมอยู่รอบตัวสวีจวินแตกฮือรีบหนีตาย เมื่อสวีจวินก่อกรรมทำเข็ญเข่นฆ่าผู้คนโดยไม่เลือกหน้า จนสวีเฟยหลงต้องเข้ามาหยุดยั้งอีกฝ่ายเอาไว้ สวีหนิงหลงอาศัยจังหวะที่ผู้คนไม่ได้สนใจในตัวเขาลอบหลบหนี แต่กลับถูกสวีจิ้งเฟิ่งขวางหน้า “จะหนีไปไหน อยู่เล่นเป็นเพื่อนข้าก่อนสิเสด็จอา” สวีจิ้งเฟิ่งยิ้มเย็น หนี้แค้นที่อีกฝ่ายติดค้างบิดา เขาจะเป็นคนทวงคืนให้เอง! กระบี่เกล็ดเหมันต์วูบไหว บินเฉียดลำคอแกร่งของสวีหนิงหลงไปเพียงแค่เส้นยาแดงผ่าแปดแต่ปราณกระบี่คมกริบกลับกรีดเฉือนผิวหนังหนาๆ ของสวีหนิงหลงจนได้เลือด สวีหนิงหลงเจ็บแปล๊บบริเวณลำคอ คลำดูแล้วเห็นเลือดสีแดงฉานไหลเต็มฝ่ามือ อยู่ห่างเงามัจจุราชเพียงแค่เอื้อมทำให้สวีหนิงหลงโมโหหนัก “แก! รนหาที่ตาย!!” สวีหนิงหลงลงมือหนักหน่วง มวลน้ำวนดุจพายุหมุนห้าสายสูงเสียด

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 125

    หลินเสวี่ยเฟิ่งร้องห้ามเสียงดังลั่น สวีเฟยหลงลืมตาพรึ่บ พลังแห่งเทพบรรพกาลระเบิดออกอย่างรุนแรง จนภูผาวารีสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น กระแทกเงาร่างของศัตรูในรัศมีร้อยลี้จนตัวปลิว ผู้ที่มีพลังตบะอ่อนด้อยต่างเลือดออกทั้งเจ็ดทวารตายคาที่ แม้แต่สวีหนิงหลง และจอมมารหลัวเหยียนที่เข้าร่วมสนามรบยังถูกพลังอันมหาศาลจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวจนกระอักเลือดออกมากองใหญ่ มังกรเกล็ดทองอร่าม ลำตัวยาวเหยียดราวกับจะโอบล้อมทั้งสามภพไว้ในอุ้งมือกู่ร้องเสียงดังกึกก้อง ร่างกายใหญ่โตทะยานสู่ฟากฟ้ายามสุริยันกระจ่างแจ้ง เมฆมงคลไหลเรื่อย แสงเงินแสงทองส่องประกายวาววับ ไอมงคลสีทองระยับโปรยปรายดุจสายฝนฉ่ำริน นำพาไอวิเศษอันแสนอบอุ่นอ่อนโยนโอบล้อมทุกหมู่เหล่า วัชระม่วงครามซึ่งเป็นทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุดตอบรับเสียงเรียกร้องแห่งบรรพกาล ผ่าฟาดลงบนแท่นมังกรวัชระ ปลุกจิตวิญญาณของอาวุธเทพให้ตื่นฟื้น อาวุธเทพหลับใหลมานานดั่งได้พานพบนายเก่า ส่งสายฟ้าสีม่วงครามต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status