Share

บทที่ 4

“หนึ่งคำนับฟ้าดิน!”

“สองคำนับบิดามารดา!”

“สามีภรรยาคำนับกันและกัน!”

“พิธีเสร็จสิ้น ส่งตัวเข้าห้องหอ!”

งานแต่งงานที่เหลวไหลเป็นไปไม่ได้แต่กลับกลายเป็นความจริง เมิ่งจิ่นเหยาไม่ได้เป็นฮูหยินของซื่อจื่อ แต่กลายเป็นฮูหยินของฉางซินโหวแทน

บรรดาแขกเหรื่อต่างมึนงง รู้สึกว่าเข้าร่วมงานแต่งงานมามากมาย ทว่าครั้งนี้เป็นงานที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ช่วงเวลาว่างหลังดื่มชารับประทานอาหารจะมีเรื่องใหม่ให้พูดคุยกันแล้ว และพวกเขายังเป็นประจักษ์พยานที่ได้เห็นกับตาตัวเองอีกด้วย

ต้องกล่าวว่าเมิ่งจิ่นเหยามีสายตาแหลมคมมาก กู้จิ่งซีมีทั้งความสามารถและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น บัดนี้เขาดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีศาลต้าหลี่ หากไม่ใช่เพราะช่วยเหลือฮ่องเต้จนได้รับบาดเจ็บ เป็นโรคที่มิอาจกล่าวได้ และถูกคู่หมั้นถอนหมั้นจนหมดกำลังใจเรื่องแต่งงานมาตลอด ก็คงไม่ถึงตาให้เมิ่งจิ่นเหยามาเก็บตกไปได้

คนของบ้านใหญ่กับบ้านรองก็มึนงงเช่นกัน เรื่องเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป คิดไม่ถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่ากู้จะเห็นด้วยกับเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ได้ อีกทั้งกู้จิ่งซีที่เคร่งครัดมาตลอดก็แต่งงานกับว่าที่ลูกสะใภ้ในตอนแรกเช่นกัน พรุ่งนี้บ้านของพวกเขาย่อมกลายเป็นเรื่องขบขันของทั้งเมืองหลวง

ในขณะที่พวกเขายังไม่ทันได้สติกลับมาทั้งหมด คู่บ่าวสาวอย่างเมิ่งจิ่นเหยาและกู้จิ่งซีได้ดำเนินพิธีการแต่งงานขั้นถัดไป ซึ่งก็คือส่งตัวเข้าห้องหอ

เดิมทีการเข้าห้องหอจะต้องไปที่เรือนของกู้ซิวหมิง ทางนั้นได้จัดเตรียมเตียงวิวาห์อะไรพวกนั้นไว้เรียบร้อยแล้ว บัดนี้เปลี่ยนตัวเจ้าบ่าว ย่อมต้องส่งไปยังเรือนของกู้จิ่งซีแทน

เมื่อเปิดผ้าแพรแดงที่คลุมหน้าออก คู่บ่าวสาวยังดื่มสุรามงคลตามขั้นตอน กู้จิ่งซีมองภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน เห็นว่านางดูเยือกเย็นสงบนิ่ง หากมองข้ามสองมือที่กำแน่นของนาง เขายังนึกว่านางใจเย็นเหมือนภายนอกจริง ๆ ถึงอย่างไรนางก็เป็นแม่นางน้อยวัยสิบกว่าปี เขาก็ไม่อยากทำให้แม่นางน้อยผู้หนึ่งลำบากใจ จึงเอ่ยเพียงว่า “ข้าไปต้อนรับแขกก่อน หากเจ้าหิวแล้วก็ให้สาวใช้ไปนำอาหารเข้ามา”

เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าตอบรับว่า “ได้เจ้าค่ะ”

หลังจากที่กู้จิ่งซีจากไป เมิ่งจิ่นเหยาค่อยพรูลมหายใจเฮือกหนึ่ง บัดนี้ฝ่ามือชุ่มเหงื่อเนื่องจากตื่นเต้นมากเกินไป หัวใจยังเต้นระส่ำ แม้จะเป็นการเปิดฉากที่เลวร้าย แต่นางก็พลิกสถานการณ์กลับมาได้ และได้รับผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าพอใจ เวลานี้ไพ่ขยะที่ถูกยัดใส่มือเริ่มดีขึ้นแล้ว

อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่นางก็จะพยายามใช้ชีวิตอยู่ต่อไป ใช้ชีวิตให้ดีในแต่ละวัน นางเป็นคนที่มารดาเสี่ยงชีวิตพามาที่โลกใบนี้ ต้องทำให้ดวงวิญญาณของมารดาในสวรรค์สบายใจให้ได้

นางสังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัว ห้องนอนของกู้จิ่งซีเป็นห้องนอนที่มีลักษณะสมกับเป็นห้องนอนของผู้ชายโดยแท้ การตกแต่งเรียบง่าย ผ้าม่านสีฟ้าคราม ผ้าห่มที่พับไว้อย่างเป็นระเบียบก็เป็นสีฟ้าครามเช่นกัน

เมื่อหนิงตงกับชิงชิวถูกเรียกเข้ามาปรนนิบัติรับใช้ก็เห็นคุณหนูของตนนั่งตัวตรงด้วยสีหน้าแข็งทื่อ เรื่องวันนี้จะต้องกระทบกระเทือนจิตใจอย่างแน่นอน อันที่จริงแม้แต่ในบทละครก็ไม่กล้าเขียนแบบนี้ด้วยซ้ำ มันเหลวไหลมากเกินไปจริง ๆ

หนิงตงปวดใจจนขอบตาแดง น้ำตาซึมเล็กน้อย กล่าวพลางสะอึกสะอื้นว่า “คุณหนู ท่านได้รับความทุกข์ใจแล้ว นี่มันเรื่องอันใดกัน ก่อนหน้านี้ซื่อจื่อดูสุภาพเรียบร้อย คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ ใช้ไม่ได้เช่นนี้”

เมิ่งจิ่นเหยาส่ายหน้าเบา ๆ แล้วพรูลมหายใจยาว เอ่ยอย่างไม่เร่งรีบว่า “ไม่ทุกข์หรอก นี่ถือว่าเขาโชคดีในคราวเคราะห์ หากถูกถอนหมั้นแล้วไม่ได้แต่งงานกลับไปที่สกุลเมิ่ง เช่นนั้นแม่เลี้ยงกับบิดาของข้าคงไม่ปล่อยข้าไป หากทำตามความต้องการของสกุลกู้แล้วดำเนินพิธีการแต่งงานต่อไป แต่งงานกับกู้ซิวหมิง วันหน้าข้าย่อมไม่ได้รับความรักจากสามี หาเลือกระหว่างคุณชายรองกับคุณชายสี่ อีกฝ่ายถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับคู่หมั้นของญาติผู้น้อง ข้าอาจไม่สามารถใช้ชีวิตที่ดีได้เช่นกัน การแต่งงานกับท่านโหวกู้ถึงจะเหมาะสม ท่านโหวกู้มีคุณธรรมสูงส่ง และข้ากลายเป็นญาติผู้ใหญ่ของกู้ซิวหมิงทันที วันหน้าเขาเจอข้าต้องเรียกข้าว่ามารดา”

ชิงชิวเอ่ยเสริมว่า “คุณหนูกล่าวถูกต้อง เทียบดูแล้ว นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ท่านโหวกู้เป็นคนซื่อตรง ไม่มีทางทำไม่ดีกับคุณหนู อย่างน้อยก็สามารถให้ความเคารพคุณหนูอย่างที่ภรรยาที่แท้จริงสมควรได้รับ บ้านใหญ่กับบ้านรองของสกุลกู้ล้วนเกิดจากอนุภรรยา นอกจากฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว ท่านก็คือสตรีที่มีศักดิ์สูงที่สุดในสกุลกู้นี้”

เมิ่งจิ่นเหยาเอ่ยเตือนว่า “ข้าแต่งงานเป็นภรรยาผู้อื่น ไม่ใช่คุณหนูแล้ว พวกเจ้าก็ควรเปลี่ยนคำเรียกเช่นกัน”

หนิงตงกับชิงชิวเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า “เจ้าค่ะ ฮูหยิน”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status