Share

บทที่ 10

เรือนเวยหรุยเซวียน

บ่าวไพร่ในเรือนเห็นเมิ่งจิ่นเหยากลับมาจากการไปหาฮูหยินผู้เฒ่า โดยมีเพียงสาวใช้คนสนิทของนางอยู่ข้างกาย ท่านโหวไม่ได้มาด้วย สายตาที่มองนางก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

จริงอยู่ที่สุดท้ายนางบีบบังคับให้ท่านโหวแต่งงานกับนาง และทำให้ท่านโหวขายหน้า กลายเป็นที่ขบขันไปด้วย ท่านโหวจะสนใจตัวต้นเหตุอย่างนางได้อย่างไร?

นางเป็นเพียงบุตรสาวจากตระกูลตกอับ อาศัยสัญญาหมั้นหมายที่ตกลงกันไว้ในรุ่นท่านโหวผู้เฒ่าแต่งงานกับซื่อจื่อได้ก็เป็นการปีนขึ้นที่สูงแล้ว ซื่อจื่อหลบหนีการแต่งงาน จวนโหวให้จัดพิธีแต่งงานตามที่กำหนดไว้เพื่อรับนางเข้ามา นี่เป็นการไว้หน้านางแล้ว

ใครจะรู้ว่านางจะก่อปัญหาสร้างเรื่องราวที่น่าตกตะลึงเช่นนี้ ไม่แต่งงานกับซื่อจื่อ ทว่าแต่งงานกับท่านโหวอย่างไร้ยางอาย ใครจะรู้ว่านางทำเพื่อแก้แค้นซื่อจื่อหรือเปล่า ถึงได้ไม่เป็นภรรยาของซื่อจื่อ แต่เป็นมารดาของซื่อจื่อแทน

ซื่อจื่อย่อมมีความผิด แต่การที่นางแต่งงานกับว่าที่บิดาสามีในตอนแรกก็เป็นเรื่องเหลวไหลอย่างยิ่ง ต่อให้ไม่แต่งงานกับซื่อจื่อ จะแต่งงานกับคุณชายรองหรือคุณชายสี่ก็ได้

ทันทีที่เข้ามาในห้อง หนิงตงก็อดกล่าวไม่ได้ว่า “ฮูหยิน พวกนางคารวะท่าน แต่ใบหน้ากลับไม่มีความเคารพเลย ท่านเป็นเจ้านาย พวกนางเป็นสาวใช้ ไว้หน้าพวกนางแล้วจริง ๆ เหตุใดท่านห้ามไม่ให้พวกข้าสั่งสอนพวกนางที่เสียมารยาทด้วยเจ้าคะ?”

เมิ่งจิ่นเหยาตอบว่า “พวกนางขาดความเคารพไปบ้าง แต่ก็ยังหาข้อผิดพลาดอันใดออกมาไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเชือดไก่ให้ลิงดู”

หนิงตงงุนงง “เช่นนั้นเมื่อไรจะถึงเวลาเจ้าคะ?”

เมิ่งจิ่นเหยายิ้มหวานแล้วกล่าวว่า “รอให้ท่านโหวกลับมาก็จะรู้เอง”

หนิงตงฟังแล้วรู้สึกปวดใจไม่หยุด ก่อนคุณหนูออกเรือนต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงื้อมมือของมารดาเลี้ยง ต้องคอยระมัดระวังตัว หลังออกเรือนก็ต้องประพฤติตัวโดยดูสีหน้าของผู้อื่นอีก

ผ่านไปไม่นานนัก กู้จิ่งซีกลับมาจากโถงโซ่วอัน ทันทีที่เข้ามาในห้องก็เห็นภรรยาตัวน้อยที่เพิ่งแต่งงานกำลังเท้าคาง ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เขานึกถึงคำเตือนของมารดา จึงพยายามทำหน้าที่สามีสอบถามว่า “ฮูหยินมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ในเมื่อเจ้าแต่งงานเข้ามา ก็เป็นคนของสกุลกู้แล้ว หากมีปัญหา สกุลกู้ไม่นิ่งดูดายเช่นกัน”

เมิ่งจิ่นเหยาได้ยินคำกล่าวก็เงยหน้าขึ้นมา มองไปรอบ ๆ ห้องแล้วตอบกลับโดยแฝงการหยั่งเชิงเล็กน้อยว่า “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ เพียงแต่เห็นว่าการตกแต่งของห้องท่านพี่ดูเรียบง่ายไปบ้างจริง ๆ”

กู้จิ่งซีฟังแล้วก็เข้าใจความหมายจึงตอบว่า “หากฮูหยินคิดว่ามันดูเรียบง่าย ก็ตกแต่งใหม่ตามความชอบของฮูหยินได้” เขากล่าวจบก็เอ่ยเสริมอีกประโยคว่า “ข้าไม่มีความต้องอะไร”

เมิ่งจิ่นเหยาถามอีกว่า “เช่นนั้นเรือนนี้มีสถานที่ใดที่ข้าไปไม่ได้หรือไม่?

กู้จิ่งซีเอ่ยโดยไม่ใคร่ครวญเลยว่า “ฮูหยินเป็นนายหญิงของเรือนเวยหรุยเซวียน ฮูหยินสามารถไปได้ทุกมุมของเรือนนี้”

เมิ่งจิ่นเหยาฟังจบก็เผยรอยยิ้มบนใบหน้าในที่สุด ก่อนจะถามอย่างได้ใจว่า “เช่นนั้นสาวใช้ในเรือนล่ะ? หากพวกนางทำผิด ควรทำอย่างไร?”

กู้จิ่งซีอึ้งไปเล็กน้อย เดาออกว่าน่าจะมีสาวใช้หาเรื่องนาง เขามองภรรยาตัวน้อยที่มีแววตาเจ้าเล่ห์ พลันคิดว่าแม่นางน้อยผู้นี้น่าสนใจมากและเฉลียวฉลาดมาก

เห็นได้ชัดว่านางกล้าหาญมาก สามารถลงมือก่อนค่อยแจ้งทีหลังได้ แต่นางยังมาหยั่งเชิงความคิดของเขา หากคำตอบที่เขาให้ทำให้นางพอใจได้ เช่นนั้นย่อมพูดคุยกันได้ง่าย หากนางไม่ถูกใจ ก็คงจะหาทางทำให้ตนเองถูกใจ

สรุปว่า จำเป็นต้องให้เขายอมรับก่อน แบบนี้จึงจะลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ได้โดยไม่มีความกังวลภายหลัง แม้ว่ามีสิ่งใดกระทำไม่เหมาะสม เขาก็ยากจะวิจารณ์ชั่วคราว เห็นได้ว่าแม่นางน้อยผู้นี้มีนิสัยที่สุขุมมาก รอบคอบระมัดระวังทุกย่างก้าว ดีกว่าบุตรชายโง่เขลาของเขาที่อายุเท่ากันมาก

เขาเอ่ยพลางแย้มยิ้ม “ หากซิวหมิงทำผิด ฮูหยินสามารถลงโทษเขาได้ในฐานะมารดา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสาวใช้สักคน? หากมีสาวใช้คนใดกระทำความผิด ฮูหยินจัดการตามที่เห็นสมควรได้เลย”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status