Share

บทที่ 9

ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ได้ยินคำกล่าวนี้ สีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “นางดูเป็นคนเฉลียวฉลาด สามารถแก้ปัญหาหลายเรื่องด้วยตนเอง แต่ไม่ว่านางจะต้องการหรือไม่ ท่าทีของเจ้าทำให้นางหลบเลี่ยงเรื่องวุ่นวายมากมายได้ ปีนั้นข้าไม่ตั้งครรภ์อยู่นาน อนุภรรยาทั้งสองคนของพ่อเจ้าต่างก็ให้กำเนิดบุตรชาย ข้าโดนมารดาสามีกดดัน อนุภรรยาเยาะเย้ยทั้งต่อหน้าและลับหลัง บิดาของเจ้าเอาแต่นิ่งดูดาย ข้าทนรับความเจ็บช้ำน้ำใจมากมายไม่ไหว”

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องในวัยสาวของตนเอง ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็หลั่งน้ำตาแห่งความชอกช้ำในใจ โชคดีที่นางให้กำเนิดบุตรชายตอนอายุยี่สิบห้า สถานการณ์ถึงค่อย ๆ ดีขึ้น ความทุกข์ที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับ นางไม่อยากให้ลูกสะใภ้ต้องทนรับเช่นกัน

กู้จิ่งซีตะลึงงัน ก่อนผงกศีรษะ “ท่านแม่โปรดวางใจ ลูกไม่มีทางปล่อยให้นางโดนรังแก นางคือฮูหยินของท่านโหว เป็นตัวแทนศักดิ์ศรีของสกุลกู้ หากคนอื่นดูหมิ่นนาง ลูกก็ไม่มีหน้าแล้วเช่นกัน”

ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ไม่ค่อยพอใจกับคำตอบนี้จึงเอ่ยว่า “วางเรื่องมีหน้าหรือไม่มีหน้าไว้ข้าง ๆ ก่อน อย่างน้อยเจ้าต้องปฏิบัติต่อนางเหมือนภรรยา เมื่อก่อนนางเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของเจ้า แต่บัดนี้แต่งงานกับเจ้าแล้ว ก็คือภรรยาของเจ้าแล้ว”

กู้จิ่งซีผงกศีรษะอีกครั้ง เอ่ยรับรองว่า “ท่านแม่โปรดวางใจ ลูกไม่มีทางปฏิบัติไม่ดีกับนาง ข้าสั่งสอนบุตรชายไม่ดี ปล่อยให้นางได้รับความไม่เป็นธรรม ในเมื่อนางแต่งงานกับข้าแล้ว สถานะและการยกย่องต่าง ๆ ที่ฮูหยินท่านโหวพึงได้รับ นางก็จะได้รับทั้งหมด”

ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ “...”

เอาเถิด เด็กยังไม่เปิดใจ วันหน้าอยู่ด้วยกันมากขึ้น มีความผูกพันกันก็น่าจะรักใคร่กันดีได้แล้ว

……

เมื่อออกจากโถงโซ่วอัน นางจางกับนางเฉินเดินสนทนาด้วยกัน

หลังจากที่รอให้เด็กรุ่นหลังจากไปแล้ว นางจางพลันเอ่ยโดยที่แฝงการเยาะหยันว่า “เมิ่งจิ่นเหยาเพิ่งแต่งเข้ามา น้องสะใภ้รองต้องรีบไปประจบถึงเพียงนี้หรือ?”

นางเฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “คำพูดนี้ของพี่สะใภ้ใหญ่หมายความเช่นไร? เหตุใดข้าฟังแล้วไม่เข้าใจ?”

นางจางแค่นเสียงเย็น เอ่ยเยาะหยันว่า “เวลานี้ไม่มีคนอื่นแล้ว น้องสะใภ้รองแสร้งโง่ต่อหน้าข้าไปไย? พวกเราเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้กันมาเกือบยี่สิบปี ไม่เห็นน้องสะใภ้รองคุยเรื่องชงชากับข้าเลย”

เมื่อได้ยินคำกล่าว นางเฉินก็ทำหน้าชะงักไป ก่อนจะแย้งด้วยหลักการอ่อนพิชิตแข็งว่า “พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าเรื่องพวกนี้เป็นของเล่นที่ทำให้ดูดีเท่านั้นไม่ใช่หรือ? พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้มากที่สุด”

เมื่อคำพูดนี้ออกมาก็ทำให้นางจางสำลัก คำกล่าวนี้ทิ่มแทงจุดเจ็บปวดของนางจางแล้ว

นางมาจากครอบครัวยากจน เนื่องจากบิดาพยายามอย่างหนักจนสอบได้ตำแหน่งจอหงวน นางจึงอาศัยความงามมัดใจสามี ทำให้สามีแต่งงานกับนาง เป็นฮูหยินใหญ่ของสกุลกู้

ยามที่บิดาได้ตำแหน่งจอหงวน นางก็อายุสิบเอ็ดแล้ว สิ่งที่บุตรสาวตระกูลขุนนางมากมายควรได้เรียน นางก็เรียนไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงศึกษาอย่างลวก ๆ ก่อนแต่งงานเล็กน้อย ด้วยความพยายามที่จะแต่งงานกับคนดี ๆ เนื่องจากนางศึกษามาไม่ลึกซึ้ง ทำให้ก่อเรื่องน่าขบขันอยู่หลายครั้ง นางจึงเกลียดสิ่งเหล่านี้

นางเฉินเห็นนางถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้ แววตาก็มีความดูแคลนพาดผ่าน ก่อนจะกล่าวอีกว่า “แทนที่พี่สะใภ้ใหญ่จะสร้างปัญหาให้ข้าที่นี่ ไม่สู้กลับไปคิดดูให้ดีว่าจะรักษาอำนาจควบคุมบ้านอย่างไร? ถึงแม้น้องสะใภ้สามจะเป็นน้องสะใภ้ แต่นางเป็นฮูหยินของท่านโหว ลูกสะใภ้ของบุตรชายแท้ ๆ ของฮูหยินผู้เฒ่า นางเข้ามาแล้ว ไฉนเลยยังมีตำแหน่งของพวกเรา?”

นางจางฟังจบก็รู้สึกได้ถึงวิกฤติที่จู่โจมมาจากทุกทิศทาง ก่อนหน้านี้เนื่องจากกู้จิ่งซีไม่ได้ตบแต่งภรรยา ส่วนนางเป็นสะใภ้ใหญ่ของบุตรที่เกิดจากอนุภรรยา การจัดการเรื่องต่าง ๆ ในบ้านจึงควรตกอยู่ในมือของนาง ดังนั้นมารดาสามีเลยมอบหมายให้นาง

อย่างไรก็ตาม มารดาสามีดูแคลนที่นางเกิดจากครอบครัวเล็ก ๆ คิดว่านางดูแลบ้านได้ไม่ดี จึงใช้เหตุผลว่านางต้องสั่งสอนเลี้ยงดูบุตรชายสองคนและบุตรสาวหนึ่งคน เกรงว่าจะยุ่งจนทำไม่ไหว เลยให้นางเฉินที่เป็นบุตรสาวของอนุภรรยาจากตระกูลชั้นสูงคอยช่วยเหลือ ให้พี่สะใภ้และน้องสะใภ้ดูแลบ้านร่วมกัน

จำเป็นต้องพูดว่าขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด หมากตานี้ของมารดาสามีแยบยลมากจริง ๆ ไม่ได้แสดงท่าทีลำเอียง และทำให้พวกนางกำกับดูแลกันและกัน ไม่ทำอะไรตามอำเภอใจ ยิ่งลอบหาผลประโยชน์ให้ตัวเองได้ยาก

นางเฉินปรายตามองนางอย่างเรียบนิ่ง ปิดปากหาวเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ เมื่อคืนข้าหลับไม่สนิท วันนี้จึงง่วงมาก ต้องกลับไปพักผ่อน ท่านตามสบายเถิด”

นางกล่าวจบก็จากไปอย่างอ้อยอิ่ง ทิ้งนางจางที่มีสีหน้าเคร่งขรึมเอาไว้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status