นางร้ายไป๋หรงระลึกชาติได้ว่าตนเองเมื่อชาติที่แล้วเป็นฮองเฮา ชาตินี้เธอมีชาติกำเนิดต่ำต้อย เธอจะใช้ความสามารถเมื่ออดีตชาติให้ตนกลายหงส์อีกครั้ง
View Moreตอนที่ 74 ร้อนตัว อี้เฟยหยางตื่นมายืนรอไป๋หรงก่อนเวลานัดหมายเกือบชั่วโมง เขายืนนิ่งพิงกายอยู่หน้าประตูห้องของหญิงสาวใบหน้ายิ้มแย้มคล้ายคนโง่งม ชายหนุ่มปัดหน้าจอมือถือไปมา เมื่อก่อนเขาไม่เคยจะโพสลงเวยปั๋วส่วนตัวเองสักครั้ง หากจำไม่ผิดโพสเองล่าสุดจะเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นอกนั้นจะเป็นของสื่อหรือเหล่าเซเลบแท็กมาเสียมากกว่า เพราะเรื่องราวเหล่านั้นล้วนไร้สาระสนุกสนานไปวัน ๆ ทว่าวันนี้เป็นวันแรกที่เขาอยากจะโพสเก็บความทรงจำไว้ เขาจึงอยากจะขอไป๋หรงโพสข้อความประทับใจเก็บไว้ด้วยกันดวงตาของอี้เฟยหยางเป็นประกายวับวาว รอยยิ้มกดลึกลงกว่าเดิมแต่ว่า!!! สิ่งที่อยู่ในหน้าจอมือถือที่หน้าเวยปั๋วส่วนตัวของเขา ทำให้ดวงตาของชายหนุ่มกลายเป็นสีหม่นเบิกกว้างตกตะลึง อะไรกัน ทำไมมีโพสไร้สาระมากมายขนาดนี้กันเนี้ย เฮ้ย!! ไม่นะ ความฝันหวานฉ่ำพังทลายลงไม่มีสิ้นดี ในเวยปั๋วล้วนมีแต่ภาพอี้เฟยหยางโอบกอดคอลเคลียกับดาราหญิงมากหน้าหลายตาในงานเลี้ยงสังสรรค์แทบจะไม่ซ้ำสถานที่ บางชนแก้ว บางชนแก้ม แม้จะดูไม่วาบหวิวทว่าแต่ละรูปล้วนเต็มไปด้วยความผิดค่อนข้างร้ายแรงภาพเหล่า
ตอนที่ 73 อาจจะเป็นเรื่องเพ้อเจ้ออี้เฟยหยางเดินส่งไป๋หรงเข้าห้องพัก พลางชำเลืองมองดูมือที่กุมอยู่เรื่อย ๆ เกรงว่าสิ่งที่เป็นอยู่จะเป็นเพียงแค่ฝันไป แม้ฝีเท้าอิดออดทว่าก็พาพวกเขามาถึงหน้าห้องพักอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มไม่กล้าทำท่าทางงอแงเอายกมือของหญิงสาวขึ้นมา กุมวางไว้บนหน้าอกพูดขึ้น “นอนหลับฝันดีนะครับ พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปเยี่ยมชมแกลลอรี่” ไป๋หรงยิ้มอ่อนละมุน “ค่ะ ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ” เพิ่งจะเป็นแฟนกันไม่กี่ชั่วโมง หัวใจของอี้เฟยหยางยังเต้นระรัวแรงไม่หยุด หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาสามารถเอ่ยพูดจาหวานเสนาะหูได้อีกหลายคำ ทว่าพอเป็นไป๋หรงชายหนุ่มกลับพูดออกมาเป็นประโยคสั้น “ครับคนดี ผม ผมไปล่ะนะ” “ค่ะ” อี้เฟยหยางยังคงยืนอยู่กับที่ จนหญิงสาวส่งสายตาคำถาม ไปสิค่ะ ฉันจะได้เข้าห้อง ถูกสายตาไล่แบบกลาย ๆ ชายหนุ่มจึงได้แต่หันตัวกลับ เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดเขาก็หันกลับไปมองยิ้มแบบคนโง่งมเป็นแฟนกันแล้ว ต้องบอกท่านแม่ก่อน อี้เฟยหยางเดินเข้าห้องพักที่อยู่ข้างกัน เขากระโดดลงบนโซฟาแล้วหยิบมือถือขึ้นมาส่
ตอนที่ 72 วันเวลาของสองเราเริ่มต้นแล้วหญิงสาวกลับเข้าห้องพักด้วยจิตใจที่อ่อนเพลีย เธอได้เห็นคลิปที่จ้าวซูเฟยโดนย้ำยี เพราะจิตใจครึ่งหนึ่งของไป๋หรงเป็นคนสมัยโบราณ หากเธอโดนกระทำเช่นนี้คงไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ความโกรธแค้นของจ้าวซูเฟยเธอรับรู้ได้ดี ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะอยู่อย่างมีความสุขได้อย่างไรบิดาของเธอก็ช่างเลวเหลือเกิน ความจริงแล้วหากให้เป็นคดีเหตุทำไปเพราะความแค้นชั่ววูบจ้าวซูเฟยเองอาจจะไม่ต้องทนทุกข์ขนาดนี้ หากไม่ใช่เพราะคนในตระกูลจ้าวจะใครล่ะที่ทำให้มันออกมาแบบนี้ หน้าตาและชื่อเสียงวงศ์ตระกูลคลิปและข่าวจึงไม่อาจจะหลุดรอดออกมาได้ ทุกอย่างย่อมต้องมีเรื่องราวให้แลกหากไม่ใช่เพราะจ้าวซูเฟย เธอเองก็คงไม่รับรู้เรื่องบิดาไปตลอดชีวิตและแถมยังได้เงินมรดกมาอีกตั้งหลายหมื่นล้าน เรื่องราวในครั้งนี้สำหรับรุ่นลูกควรจะให้มันจบไปน่าจะดีที่สุด ไป๋หรงหลับไปด้วยความเพลีย ด้วยความว้าวุ่นในใจทำให้กึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกตัวขึ้นมากลางดึก เมื่อมองไปตรงประตูสีขาวนวลส่องแสงคล้ายกำลังรอเธอเดินเข้าไป จึงลุกขึ้นเดินออกไปคล้ายมีมนต์สะกดใจ ปลายทางประตูเป็นสุสานแห่งหนึ่ง “สุสานของราชวงศ์รึ”
ตอนที่ 71 ขอให้คุณมีความสุขไป๋หรงไปศึกษาข้อมูลที่โรงพยาบาลทุกวันและเข้าเรียนการแสดงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง“คุณไป๋หรง มีพื้นฐานด้านการแสดงดีมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงการดีใจ เสียใจ หดหู่ สะเทือนใจ ทั้งสีหน้าและแววตาแม้กระทั่งกายล้วนไม่มีที่ติ” อาจารย์สอนการแสดงเอ่ยชมไป๋หรงอย่างภูมิใจในตัวลูกศิษย์ “ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ” ไป๋หรงโค้งคำนับอาจารย์ด้วยมารยาทเรียบร้อย “แต่การรับบทหมอ คุณไป๋หรงได้ไปเรียนรู้ที่สถานที่จริง ฉันเชื่อว่าคุณสามารถนำมาปรับใช้ได้ คุณมีพรสวรรค์ด้านการแสดงนะคะ”ก่อนมาเรียน ไป๋หรงได้บอกอาจารย์ไว้ก่อนล่วงหน้าว่าเธออยากรู้ว่าเธอความมีความสามารถด้านการแสดงหรือไม่ หากไม่มีเธอจะได้ตั้งใจทำงานด้านอื่นแทน อยากให้อาจารย์ประเมินตามความเป็นจริง“ขอบพระคุณอาจารย์อีกครั้งที่ใส่ใจฉันมากขนาดนี้”ไป๋หรงจบคอร์สเรียนการแสดงอย่างรวดเร็ว อาจารย์บอกไม่มีอะไรจะสอนเธออีกแล้วนอกจากนี้จะเป็นการหาประสบการณ์ด้วยตนเอง เวลาส่วนมากเธอจึงปักหลักอยู่โรงพยาบาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วพรุ่งนี้ไป๋หรงต้องเดินทางไปดูงานแกลลอรี่ที่ต่างประเทศกับอี้เฟยหยางการไปครั้งนี้เธอตั้งใจไ
ตอนที่ 70 ครอบครัวก็คือครอบครัวพ่อเลี้ยงฉินมาถึงเกือบบ่าย เสียงรถจอดอยู่หน้าบ้านมีฉินหยางกำลังยืนรอพ่อด้วยความตื่นเต้น“พี่หยาง ฉันมาแล้ว” เสียงฉินเหมยตะโกนออกมาก่อนที่จะลงรถฉินหยางตกใจเมื่อเห็นว่าฉินเหมยจะวิ่งมากอดตัวเอง มือที่กำลัง เก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ยกขึ้นเตรียมโอบกอดน้องสาวแต่ร่างเล็กของน้องสาวกลับวิ่งเลยไปตัวเขาไป “พี่ไป๋หรง พี่คิดถึงฉันไหม” ฉินหยางหันมองตามเห็นฉินเหมยซุกตัวในอ้อมกอดของไป๋หรง“เข้าบ้านกันก่อนค่ะ” ไป๋หรงหันมาคำนับทักทายพ่อเลี้ยงเล็กน้อยฉินหยางรีบวิ่งไปถือของช่วยพ่อ ฉินฟางยืนดูทุกคนยิ้มน้อย ๆ ใบหน้าแฝงความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน“ฉันมีเรื่องจะเล่าให้พี่ฟังเยอะแยะมากมาย เอาเรื่องอะไรก่อนดี”ฉินเหมยคล้ายคนมีเรื่องพูดไม่หยุด โชคดีที่พ่อเลี้ยงแวะไปรับลูกสาวคนเล็กก่อนเดินทางมา ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นไม่น้อย เพราะสาวน้อยจอแจไม่หยุด“แม่คะ บ้านยังตกแต่งไม่เสร็จ แม่กลับบ้านไปช่วยพ่อตกแต่งบ้านนะคะ” ฉินเหมยเอ่ยพูดขึ้น เธออยากให้พ่อแม่คืนดีกัน แม้เหมือนไม่มีเรื่องทะเลาะแต่ความขุนเคืองในใจกลับมีมากมาย“ไป๋หรง ลุงขอบใจนะ ขอบใจในทุก ๆ เรื่องๆ
ตอนที่ 69 ให้เวลากัน ไป๋หรงไปที่โรงพยาบาลเป่าเจียพร้อมอี้เฟยหยาง รัศมีความหวานของทั้งสองแพร่กระจายให้ทุกคนรับรู้ รอยยิ้มจางๆของไป๋หรงใครก็มองว่ากำลังมีความรัก ใบหน้างามดูอ่อนโยนละมุนละไมอี้เฟยหยางคอยเทคแคร์หญิงสาวอยู่ไม่ห่างหลังจากที่ไปจัดการแนะนำหน้าที่และงานในโรงพยาบาลเสร็จ ไป๋หรงกับอี้เฟยหยางก็ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อบริเวณหน้าโรงพยาบาลเฟยเฟยได้คุยตกลงกับนักข่าวล่วงหน้า ขอให้ถามเกี่ยวกับงานก่อนเรื่องส่วนตัว“อยากให้คุณไป๋หรงเล่าเรื่องการมาทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ ที่โรงพยาบาลเป่าเจียสักเล็กน้อยคะ” //นักข่าว1ไป๋หรงยิ้มน้อย ๆ หันไปให้อี้เฟยหยางตอบแทน เธอเองพึ่งจะทราบว่าข่าวจะออกมาเช่นนี้อยากรู้ว่าชายหนุ่มจะตอบอย่างไร อี้เฟยหยางเห็นยิ้มหวานของไป๋หรง ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะปฏิเสธเลย“ครับ ผมเป็นคนเชิญของไป๋หรงมาทำงานตรงนี้ เธอชอบทำงานและศึกษางานหลายอย่าง ผมในฐานะที่เป็นคนที่ตามจีบเธอจึงต้องทำทุกวิถีทางครับ”วี๊ด!!เสียงแซวดังขึ้น ไป๋หรงแววตาตกตะลึง ไม่อยากเชื่อเลยว่า อี้เฟยหยางจะเอ่ยเช่นนั้น ไม่น่าให้พูดเลย แก้มเนียนละเอียดมีสีแดงระเรือภาพไป๋หรงเขินอายถูกถ่าย
ตอนที่ 68 อ้อมกอดแรกอาจจะเป็นเพราะทำงานมาทั้งวันหรือเพราะความไว้ใจ วางใจ หรือเริ่มรู้ถึงใจตนเอง ไป๋หรงที่นั่งนิ่งมาจึงปล่อยตัวเองเผลอหลับ อี้เฟยหยางที่เฝ้าสังเกตไป๋หรงอยู่ตลอดเวลาจึงได้นั่งมองหญิงสาวเต็มตา เขาหันขึ้นไปสบตากับคนขับรถผ่านกระจก รถจึงค่อยๆ เคลื่อนตัวช้าลง แววตาของอี้เฟยหยางเต็มไปด้วยความลุ่มหลง รักในตอนนี้ไม่ใช่การครอบครอง เขาขอแค่ได้ทำ ได้อยู่ใกล้ๆ ได้นั่งมองแบบนี้ก็พอแล้ว แม้ไม่บอกเขาก็พอมองออกว่าไป๋หรงอยากประสบความสำเร็จอยากมีชื่อเสียง อยากได้รับการยอมรับด้วยตัวเธอเอง หญิงสาวมีพลังเต็มเปี่ยมเธออยากรู้อยากทำไปทุกอย่าง เขาจะอยู่ข้างๆ เช่นนี้จนกว่าไป๋หรงจะไล่เขาไปไป๋หรงรู้สึกว่ารถเริ่มหยุดนิ่ง จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา“ถึงแล้วหรือคะ”อี้เฟยหยางยิ้มอย่างอ่อนโยนแทนคำตอบ “พรุ่งนี้ฉันจะแจ้งวันที่จะไปโรงพยาบาลนะคะ อาจจะรบกวนคุณไปเป็นเพื่อน”ไป๋หรงยอมรับการดูแลจากอี้เฟยหยาง “ครับ ผมจะรอ คุณรีบเข้าบ้านเถอะอากาศเย็นแล้ว”แม้จะอยากอยู่กันให้นานกว่านี้แต่อี้เฟยหยางก็ไม่อยากใช้หญิงสาวไม่สบาย “ค่ะ ขอบคุณพี่หยางหยางนะคะ” เสียงไป๋หรงนุ่มนวลและอ่อนโยนพร้อมส่งสายตา
ตอนที่ 67 เริ่มมีใจรึเปล่าไป๋หรงชำเลืองหรี่ตามองอี้เฟยหยาง คิดอะไรอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้อี้เฟยหยางรู้สึกว่ามีคนเฝ้ามอง จึงเงยหน้าขึ้นมามองสบตาอันล้ำลึกของไป๋หรง แววตานิ่งตั้งคำถาม มีความอ่อนละมุนอยู่จางๆ ชายหนุ่มจึงคลี่ยิ้มน้อยๆ ความสุขเอ่อล้นทั่วตัว“มีอะไรรึเปล่าครับ”ไป๋หรงยิ้มกว้าง เอ่ยขึ้น“พิธีกรบนเวที กำลังจะเรียนเชิญท่านอี้เฟยหยางขึ้นบนเวทีแล้วค่ะ”อี้เฟยหยางตะลึงเล็กน้อย หันไปเห็นคนของตัวเองยื่นก้มหน้าต่ำอยู่ข้างๆ จึงรีบปรับสีหน้าจัดจับคอเสื้อเล็กน้อย รอขึ้นกล่าว ไป๋หรงมองอี้เฟยหยางที่กำลังก้าวเดินไป แผ่นหลังยังคงมั่นคง สีหน้ามีความจริงจัง เขาขึ้นกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานและพูดถึงแผนการตลาดและจุดมุ่งหมายของบริษัทที่จะก้าวเดินต่อไป น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยพลังหนักแน่น สร้างความน่าเชื่อถือและสายตาชื่นชมจากแขกที่มาร่วมงานไม่น้อยหากสังเกตดี ๆ จังหวะนั้น จะพบว่าคุณนายอี้หยิบมาเช็ดหน้าเข็ดน้ำตาที่หางตาเล็กน้อย ลูกชายเธอเติบโตแล้วอี้เฟยหยางในมุมนี้ ใช่ว่าไป๋หรงไม่เคยเห็นแต่ลืมเลือนไปแล้ว ไม่รู้เมื่อไรที่อี้เฟยหยางที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ขี้เล่นแต่จริงใจ ใบหน้าที
ตอนที่ 66 ไม่ให้รัก หลง ได้อย่างไรไป๋หรงปรากฏกายที่งานเลี้ยงฉลองยอดขายน้ำหอม ด้วยชุดราตรีหรูหราสีน้ำเงินประกาย เธอมาในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ควงคู่มาพร้อมกับอี้เฟยหยาง“กล้อง one ครับคุณไป๋หรงคุณอี้เฟยหยางมองกล้องครับ สวยงามมากครับ ขอบคุณครับ”เสียงตากล้องจากสื่อต่างๆ แข่งกันเรียกให้ทั้งสองถ่ายภาพไป๋หรงยังคงยิ้มน้อยพิพม์ใจน้อย ๆ ต่างจากอี้เฟยหยางที่ยิ้มหน้าระรื่นไปถึงดวงตา ชายหนุ่มไม่ได้ปกปิดวางมาดที่แสดงถึงการเอาใจใส่ไป๋หรงแม้แต่น้อย หากมีใครได้ยินเสียงหัวใจของอี้เฟยหยางจะรู้ว่ามันเต้นระรัวมากงานนี้ไม่เพียงแต่เป็นการประกาศความสำเร็จของบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศความสามารถให้คนในตระกูลอี้ได้เห็นถึงศักยภาพของ อี้เฟยหยาง“คุณนายอี้ ได้ยินลือข่าวว่าไป๋หรงดาราคนนี้คือว่าที่สะใภ้ตระกูลอี้”หนึ่งในผู้นั่งร่วมโต๊ะเริ่มเปิดวงสนทนา คุณนายฉียังคงมีสีหน้าเรียบเฉย แม้ในใจจะนึกโมโหแต่จะให้โวยวายเธอย่อมไม่ทำ แต่ลูกสาวของเธอจะกลายเป็นตัวตลกไม่ได้เช่นกัน “เฟยหยางอายุก็ยังน้อย ส่วนไป๋หรงก็ 18-19 ปี เรื่องนี้คงตอบตอนนี้น่าจะเร็วไป แต่ก่อนฉันก็เล็งหนูฉีป๋ายเฉิน แต่เมื่อเ
ตี๊ด…เสียงเตือนจากเครื่องวัดอัตราการหายใจลากยาว ทำให้ทีมพยาบาลเตรียมการกู้ชีพอย่างเร่งด่วนผู้ป่วยมีอาการตัวร้อนสูงจนเกิดอาการช๊อคหัวใจหยุดเต้น เวลาผ่านไปอย่างช้า ช้า ทั้งหมอและพยาบาลต่างไม่ลดละความพยาบาลในการดึงชีวิตเธอกลับมาในที่สุดคุณหมอก็สามารถดึงมือเธอกลับมายมฑูตจนได้หลังจากนอนห้องไอซียูมาหลาย อาการป่วยของเธอค่อยๆ ดีขึ้น คุณหมอก็ให้เธอกลับไปฟักฟื้นที่บ้านทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลายคนบอกว่าเธอเปลี่ยนไป เงียบและไม่ค่อยคุยแต่บางคนก็บอกว่า เธอยังไม่หายดี หลายคนโทรศัพท์มาสอบถามต่างบอกให้เธอรักษาตัวให้ดีแล้วปล่อยเธอทิ้งไว้ที่คอนโดเพียงลำพัง จนกระทั่งผ่านไปถึง 3 วัน เธอถึงได้รับสายจากผู้จัดการ “สวัสดีค่ะพี่ เฟยเฟย” ไป๋หรงรับเอ่ยด้วยเสียงเนื่อยๆ เล็กน้อย 2-3 วันมานี้เธอนอนจนร่างกายเหนื่อยล้าจริงๆ “พักมา 3 วันแล้วคงดีขึ้นแล้วใช่ไหม อย่างนั้น พรุ่งนี้มากองถ่ายด้วยค่ะ ผู้กำกับอยากจะปิดกล้องแล้ว เหลือเพียงฉากที่มีหนูอยู่ไม่กี่ฉาก หวังว่าพรุ่งนี้เวลา 08.00 น. จะเจอตัวนะคะ”ตู๊ด ตู๊ด เฟย เฟย กลัวว่าไป๋หรงจะโยเยปฏิเสธจึงพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วรีบวางสายไป ไป๋หรงไม่ได้รู้สึกแป...
Comments