เปิดเรื่องในสมัยโบราณของญี่ปุ่น ชูเท็นโดจิ อสูรร่างสูงใหญ่ ผมยาวสีแดงเพลิง หน้าเข้ม มีดวงตาเหมือนเสือ มีเขาคู่หนึ่งบนหัว ความสามารถ พละกำลัง ใช้เวทสายไฟ กับ อิบารากิโดจิ รูปร่างผอมบาง ผมยาวสีขาว มีเขาที่กลางหน้าผาก มีความเร็ว มีเล็บคมเหมือนมีด แปลงร่างได้ ยืดแขนได้ กำลังบุกโจมตีบ้านเมืองอยู่ โดยมีเหล่าซามูไรกำลังพยายามต่อสู้แต่ไม่สามารถหยุดทั้งสองตนได้ เหล่า นักบวชได้ทำการร่ายมนตร์เพื่อจัดการส่งอสูรทั้งสองลงนรก แต่มีคนไม่ครบ เพราะว่ามีนักบวชถูกสังหารไปหนึ่งคนโดย อิบารากิ ทำให้ทั้งสองไปโผล่ที่ มหาสุวรรณทวีป (มีบรรยากาศแบบไทยโบราณ)
View Moreณ เมือง ชิจา ประเทศญี่ปุ่น สมัยเฮอัน
บ้านเมืองที่เคยสงบสุข ยามนี้กลับถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศสับสนวุ่นวาย เหล่าซามูไรกระจายตัวทั่วเมือง ออกคำสั่ง กวาดต้อนชาวบ้านให้เข้าไปหลบในบ้านของตน เพื่อให้รอดพ้นจากภัยร้ายที่ชายชาตินักรบยังหวาดหวั่น แม่ทัพร่างใหญ่จดจ้องไปยังแผ่นดินกว้างเบื้องหน้า ใบหน้ากร้านแดดเขม็งตึงด้วยความเครียดและหวาดหวั่น สักพักชายร่างอ้วนเตี้ยก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหา “ท่านแม่ทัพ แน่ใจแล้วเหรอขอรับว่ามันจะมา"
แม่ทัพพยักหน้าแล้วพูดว่า “แน่สิขอรับ สายรายงานมาแล้ว อีกอย่างท่านผู้ว่าก็รู้นี่ ว่าที่นี่เป็นบ้านเกิดมัน”
ผู้ว่าหน้าเสีย แม่ทัพจึงบอกกับเขาว่า“แต่ไม่ต้องกลัวไปหรอกขอรับ ทหารที่ข้าพามาเนี่ยจัดการมันได้แน่ ๆ อีกอย่างพวกนักบวชก็เตรียมตัวพร้อมแล้ว อย่าได้กังวลไป ตอนนี้ให้ทุกคนไปหลบในบ้าน รอให้สงบก่อนแล้วค่อยออกมาก็ได้”
ผู้ว่าพยักหน้า ที่กำแพงเมือง เหล่านักรบซามูไรเตรียมพร้อม หลายคนเริ่มมีท่าทางหวาดกลัว บางคนกำเครื่องรางที่ติดตัวมาด้วยแน่น บางคนก็สวดภาวนาตามความเชื่อของตนเอง แม่ทัพเดินตรวจทัพแล้วก็ถอนใจ จะโทษทหารเหล่านี้คงไม่ได้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้
“ท่านแม่ทัพดูโน้น”
คนกลุ่มใหญ่กำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างมา เมื่อแม่ทัพมองดูพวกเขาชัด ๆ ก็ต้องตกตะลึงเพราะทุกคนที่กำลังหนีเป็นซามูไรทั้งนั้น ทำให้รู้ได้ทันทีว่า สิ่งที่เขารออยู่กำลังมาแล้ว
“มันมาแล้ว ! เตรียมพร้อม”
เหล่าพลธนูตั้งท่าเตรียมพร้อม ถ้าเป็นสิ่งพวกเขารออยู่ รับรองได้เจอฝนลูกธนูแน่ !
เสียงฮัมเพลงดังขึ้นมา แม้จะเหมือนกับการฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี แต่สำหรับคนที่ได้ยินแล้วมันชวนให้สยอง ชายร่างสูงใหญ่ ผมยาวสีแดง คิ้วเข้ม มีดวงตาเหมือนเสือ มีเขาคู่หนึ่งบนหัว เขาสวมชุดสีแดง ในมือถือน้ำเต้าใส่สุราอยู่ เขาเห็นทหารแล้วก็แสยะยิ้มและยกสุราขึ้นดื่ม
“อะไรกันวะ ข้า ชูเท็นโดจิ อุตส่าห์ กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดทั้งที จะเอาลูกธนูมาต้อนรับกันเลยเหรอ” ชูเท็นโดจิพูดและยกสุราขึ้นดื่มอีก ด้วยความกลัวทำให้มีพลธนูคนหนึ่งเผลอยิงออกไป ลูกธนูพุ่งมา
แต่ชูเท็นโดจิจับลูกธนูและหักทิ้ง ยังไม่ทันไรลูกธนูจำนวนมากก็ถูกยิงตามมา แต่ลูกธนูถูกทำลายก่อนมาถึงตัวชูเท็นโดจิ มีชายอีกคนปรากฏตัว เขาเป็นชายร่างผอมสูง ผมยาวสีขาว มีดวงตาสีแดงเหมือนกับเลือด มีใบหน้าอ่อนเยาว์ราวกับชายแรกรุ่น มีเล็บคมเหมือนกับมีด “ระวังหน่อยสิสหายข้า”
“จะกลัวไปทำไม ก็ข้ามีเจ้าอยู่ด้วยนี่ อิบารากิ” เมื่อได้ยินชื่อของอิบารากิ แม่ทัพก็ตกใจมาก
“อิบารากิโดจิก็มาด้วยหรือเนี่ย บ้าเอ๊ย ! ฆ่ามัน !” พลธนูกำลังจะยิงอีกครั้ง แต่พวกเขาก็ล้มลงเลือดไหลนองพื้นเต็มไปหมด อิบารากิโดจิมายืนด้านหลังแม่ทัพเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มันเอาบางอย่างมาทิ้งตรงหน้าเขา เมื่อมองลงไปก็ต้องโกรธแทบคลั่ง มันคือ คอหอย ! “น่าสงสารจะเป็นผีทั้งที ก็ต้องเป็นผีใบ้ !”
แม่ทัพชักดาบออกมาตวัดไปเต็มแรง แต่อิบารากิโดจิ หายไปจากตรงนั้นและไปยืนข้าง ๆ ชูเท็นโดจิ แม่ทัพสั่งให้เหล่าซามูไรเข้าโจมตีทันที
“ไม่ต้องกลัวมันมาแค่สองตัว ฆ่ามันให้ได้” อิบารากิโดจิตั้งท่าเตรียมพร้อม แต่ชูเท็นโดจิบอกว่า
“ให้ข้าสนุกบ้างสิ !”
พวกทหารเดินตรงเข้ามาเรื่อย ๆ ชูเท็นโดจิ พ่นไฟออกมาเหล่าทหารโดนไฟเผาเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมา
ชูเท็นโดจิวิ่งเข้าไปในกลุ่มทหารเงื้อหมัดและชกไปที่ร่างของทหารคนหนึ่ง เขาโดนชกกระเด็น เลือดไหลกบปาก มีคนหนึ่งกำลังจะเอาดาบมาฟัน แต่ชูเท็นโดจิใช้เพียงสองนิ้วรับดาบเอาไว้และหักทิ้งเอาคมดาบมาแทงคอของทหารคนนั้น ทุกหมัดที่ออกไป ต้องมีเลือดของทหารไหลออกมาจนกำปั้นทั้งสองของเขากลายเป็นสีเลือด มีทหารคนหนึ่ง เห็นช่องว่างจึงคิดจะลอบทำร้ายเขาจากด้านหลัง อิบารากิโดจิเห็นก่อนจึงมาตัดมือทหารคนนั้น เลือดไหลพุ่งมาอาบหน้าของเขา
“อย่ามาแตะตัวสหายข้า”
แม่ทัพเห็นทหารล้มตายไปเช่นนี้ เขาก็โกรธจัด เลยร้องสั่งทหารว่า “ไปตามซูโคกิมาเดี๋ยว นี้ !”
ทั้งชูเท็นโดจิ และอิบารากิโดจิ กำลังสนุกกับการฆ่าเหล่าทหาร แต่จู่ ๆ ชูเท็นโดจิก็หยุดการโจมตีไปดื้อ ๆ พวกทหารรีบถอยออกมาห่าง ๆ เป็นการคุ้มเชิงเอาไว้ ชูเท็นโดจิทิ้งตัวลงนั่ง และยกเหล้าขึ้นดื่ม
“หยุดทำไมสหายข้า” อิบารากิโดจิถาม
“ข้าว่า เดี๋ยวต้องมีอะไรสนุก ๆ ให้ข้าเล่นแน่” ชูเท็นโดจิพูดราวกับเด็กที่กำลังจะได้ของเล่น เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นมา ชายร่างอ้วนใหญ่ สวมเกราะใส่หน้ากากคาบูกิ ถือกระบองหนามทำจากไม้ ทุกก้าวเดินของมันทำให้พื้นสะเทือน ซูโคกิคือตำแหน่งทัพหน้า ! ต้องคัดเลือกจากนักกีฬาซูโม่ และฝึกการใช้อาวุธอีกนับสิบปี ผ่านสงครามมาก็มาก ทำให้คนที่ได้ตำแหน่งนี้ มักจะมีความภูมิใจในตำแหน่งมาก ชูเท็นโดจิยิ้มออกมาและพูดว่า
“นี่ล่ะน่าสนุก” ชูเท็นโดจิลุกขึ้นมาและออกหมัดไป โดนเข้าที่ท้องแต่ชั้นไขมันของอีกฝ่ายหนามาก ทำให้รับแรงกระแทกได้ ซูโคกิสวนกลับด้วยกระบองไม้ ฟาดเข้าที่ลำตัวของชูเท็นโดจิทำให้เขากระเด็นแต่กลับไม่แสดงสีหน้าว่าเจ็บปวดเลยสักนิด
“ทำได้แค่นี้เหรอ” ชูเท็นโดจิพูด ซูโคกิตะลึงนี่เป็นครั้งแรกที่เขาฟาดแล้วอีกฝ่ายแทบไม่เป็นอะไรเลย จึงตัดสินใจฟาดกระบองไปอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ชูเท็นโดจิเอาสองมือรับกระบองเอาไว้ ซูโคกิพยายามกดกระบองลงไปแต่แทบไม่ขยับเลย และยังไม่ทันไรกระบองก็ถูกหักเป็นสองท่อนทุกคนตกตะลึง
ชูเท็นโดจิจับทางได้จึงคว้าข้อมือ ยุรนันท์เอาไว้ทัน และกระหน่ำหมัดใส่เขาไม่หยุด ยุรนันท์เจ็บหนัก เขาสลัดมือให้หลุด แล้วถอยมายังไม่ทันได้ตั้งตัวชูเท็นโดจิก็เขามาจับร่างของเขาทุ่มข้ามหัวลงไปกระแทกกับพื้นเสียงดังสนั่น ชูเท็นโดจิ ชูมือเป็นสัญญาณว่าตัวเองชนะแล้ว แต่เขารับรู้สึกจิตสังหารเลยหันไปดูยุรนันท์ลุกขึ้นมาเขากลายเป็นนรสิงฆ์เต็มขั้น รูปร่างเขาตอนนี้ดูสูงใหญ่ หัวกลายเป็นสิง มีเขี้ยวเล็บที่ ดูน่ากลัว เขาคำรามเสียงดังก้อง และเขาประชิดตัวตบกรงเล็บมา ชูเท็นโดจิตั้งรับแต่เขาถูกตบกระเด็น“ยุรนันท์แปลงร่างแล้ว เจ้าชูเท็นโดจิไม่รอดแน่” ราชินีย์ตะวันเอ่ยขึ้น อรุณนภาหน้าเสียอยากจะบอกให้ชูเท็นโดจิยอมแพ้ไปซะเพื่อรักษาชีวิต แต่ราชาสุริยะที่นิ่งมานานกลับบอกนางว่า“ดูสายตาเขาสิ”อรุณนภามองไปสายตาของชูเท็นโดจิ นางเห็นความมุ่งมั่ง ที่จะเอาชนะให้ นางจึงตัดสินใจตะโกนเสียงดังไปว่า “สู้เขานะชูเท็นโดจิ !”ชูเท็นโดจิได้ยินเขาก็มีกำลังใจมาขึ้นมาและเข้าไปต่อสู่กับยุรนันท์ทันที เขารวมพลังไปที่หมัดและชกเข้าไปเต็ม ๆ ที่หน้าของยุรนันท์แต่อีกฝ่ายไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด แถมยังตบกรงเล็บใส่ ชูเท็นโดจิหล
อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็รู้สึกโล่งอกแต่ก็แอบโกรธเขาอยู่เหมือนกันที่เขามาสาย อาทิตย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราชินีตะวันมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย จริง ๆ นางอยากจะตัดสินสิทธิ์ชูเท็นโดจิให้แพ้ไปเลย แต่หากทำแบบนั้น คงจะโดนทั้งอาณาจักรครหาได้ เลยไม่พูดอะไรปล่อยให้การประลองดำเนินต่อไป ชูเท็นโดจิหันมายิ้มให้กับอรุณนภา และไม่ได้สนใจยุรนันท์เท่าไหร่ แถมยังยกเหล้าขึ้นดื่มต่อหน้าต่อตา ยุรนันท์กัดฟัน กรอด ๆ ด้วยความโกรธ“ไอ้คนไร้มารยาท ทำไมถึงได้มาช้า !” แต่ชูเท็นโดจิทำเหมือนไม่ได้ยิน เขายกเหล้าขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์“จะช้า จะเร็วมันสำคัญตรงไหน ยังไงซะแกก็ต้อง แพ้ !” ชูเท็นโดจิพูดจบก็ยกเหล้าขึ้นดื่มอีก ยุรนันท์ยิ่งโมโหจัดเขาจึงท้าว่า“ถ้าเจ้าแพ้ข้า เจ้าต้องไสหัวออกไปจากนรสิงฆ์นครตลอดชีวิต แต่ถ้าข้าแพ้ ข้าก็จะยอมออกจากนรสิงฆ์นครเช่นกัน” มีเสียงฮื่อฮาดังขึ้น ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่ม แล้วพูดเสียงดังว่า“ก็ได้ข้ารับคำท้า”สัญญาณเริ่มการต่อสู้เริ่มขึ้น ชูเท็นโดจิออกหมัดก่อน แต่อีกฝ่ายหลบได้ และออกหมัดสวนไป ชูเท็นโดจิหลบได้ แต่เขารู้สึกถึงแรงลมจากหมัด รู้เลยว่าถ้าโดนเข้าไปจัง ๆ เขาได้เจ็บหนักแน่ ยั
“ข้ายังจำท่าของเจ้าได้ คราวนี้อย่าหวังว่าข้าจะแพ้ !” ชูเท็นโดจิออกหมัดไป อีกฝ่ายใช้มือปัดการโจมตีและสวนกลับด้วยการกระแทกศอก แต่คราวนี้ชูเท็นโดจิหลบได้และเหวี่ยงหมัดสวนไป อมเรศวรหลบไม่ทันโดนเข้าเต็ม ๆ หน้า ชูเท็นโดจิยังคงออกหมัดมา หมายจะโจมตีอีกครั้งแต่คราวนี้อมเรศวรก้มตัวหลบและชกหมัดขวาไปเป้าหมายคือปลายคางแต่ชูเท็นโดจิเอามือไปรับหมัดเอาได้และชกเข้าที่แขนทำให้อมเรศวรต้องรีบถอยออกมา เขาต้องการหยุดการต่อสู้โดยเร็วจึงตัดสินใช้เพลงแตะแต่ว่าชูเท็นโดจิจับขาเขาเอาไว้ เหวี่ยงร่างของอมเรศวรลอยไปเขาล้มลงไปกระแทกพื้น อมเรศวรลุกไม่ขึ้นอีกแล้ว เท่ากับว่าชูเท็นโดจิชนะ เขาเดินไปหาอมเรศวรประคองให้ลุกขึ้นและถามว่า“เจ้าไม่ได้ออมมือใช่มั้ย”“เปล่า เลยเจ้าอ่านทางมวยข้าได้แล้ว ข้าถึงได้แพ้” หลังจากที่อมเรศวรแพ้ไปแล้ว เจ้าชายเมืองอื่นก็รีบถอนตัวไปเกือบหมด เพราะเห็นฝีมือของชูเท็นโดจิแล้วไม่อยากเสี่ยงต่อสู้ด้วย เหลือแต่มารุตกับยุรนันท์เท่านั้น ซึ่งยุรนันท์ได้เข้าไปรอรอบชิงเลยด้วยความช่วยเหลือของราชินีตะวัน แถมในตอนแรกนางจะให้ชูเท็นโดจิต่อสู้เลยด้วยซ้ำแต่มารุตบอกว่า“ให้เขาไปพักก่อน ไม่งั้นมันไม่
“สหายข้า” เสียงของอิบารากิโดจิเรียกชูเท็นโดจิจากภวังค์ เพื่อนรักของเขาอยู่ตรงหน้า ในยามนี้เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้น “มีอะไรอิบารากิ” ชูเท็นโดจิกำลังจะยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิห้ามเอาไว้ “หยุดกินได้แล้ว สหายข้า”ชูเท็นโดจิแปลกใจมาก อิบารากิโดจิ ไม่เคยห้ามเขาเลย เวลาจะทำอะไร แต่วันนี้กลับห้ามไม่ให้ดื่มเหล้า “ห้ามข้าทำไม” “เจ้าดูสภาพตัวเองหรือเปล่า นี่ไม่ใช่ตัวเจ้าที่ข้ารู้จัก” อิบารากิโดจิพูด“ช่างข้าสิ” ชูเท็นโดจิสะบัดมือออก และยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิปัดมือเขา“หยุดซะที แต่ก่อนเจ้าเป็นนักสู้ แต่ตอนนี้เมาเหมือนหมาไม่มีผิด”“หุปปากไปเลย แกจะเข้าใจอะไร” ชูเท็นโดจิ จะยกเหล้าขึ้นดื่ม อิบารากิโดจิใช้มือปัด ทำให้ชูเท็นโดจิเริ่มโมโห“อย่ามายุ่งกับข้า เดี๋ยวก็ได้เสียแขนอีกข้างหรอก”“อย่างเจ้าตอนนี้ ตบแมลงยังไม่ตายเลยมั้ง” อิบารากิโดจิพูดเย้ย ชูเท็นโดจิได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า เขาออกหมัดไป อิบารากิโดจิแม้จะมีแขนเดียว แต่ความเร็วของเขายังเท่าเดิม ทำให้ชูเท็นโดจิชกพลาด แขนเสื้อของอิบารากิโดจิฟาดหน้าเขา ทำให้เขาได้สติถ้าอิบารากิโดจิมีแขนข้างนี้ ตาเข
“ขอร้อง ล่ะ!” มัน เน้นเสียงตรงคำว่า ล่ะ ทำให้เกิดคลื่นเสียงมาทำให้ชูเท็นโดจิเสียหลัก การอนรีบลุกขึ้นมาและกำลังจะหนีแต่ ชูเท็นโดจิตั้งตัวได้กระโดดไปดักหน้าการอนเอาไว้ และทุบหัวของการอสด้วยสองมือร่างของการอนค่อย ๆ จมลงไปในดินจนเหลือแต่หัว กระดูกทั้งตัวแหลก ชูเท็นโดจิทุบซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้หัวของมันแหลกไปแล้ว“การอนตาย แล้ว !” ชูเท็นโดจิประกาศเสียงดังลั่นหลังจากที่การอนตายพวกออร์คก็ถูกสังหารไปจนหมด อรุณนภา กับ อาทิตย์รีบไปตามหาพ่อกับแม่ ซึ่งก็พบว่า ยุรนันท์พาทั้งสองออกมาแล้ว ราชาสุริยะนั้นได้บาดเจ็บหนัก ส่วนราชินีตะวันปลอดภัยดี ทุกคนเข้าไปกอดกันด้วยความรัก และร้องไห้ออกมาด้วยซาบซึ้งในใจ ชูเท็นโดจิเดินมาเห็นภาพนี้เขาก็ยิ้มออกมา อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็วิ่งเข้าไปกอดเขา“เจ้ากลับมา เจ้ากลับมา” อรุณนภาพูดทั้งน้ำตา ชูเท็นโดจิกอดนาง“ข้ากลับมาแล้วว่าแต่มีเหล้ากินมั้ยเนี่ย” เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ นางจึงตะโกนชื่อของเขา หลังจากนั้นทุกคนก็ตะโกนตาม“ชูเท็นโดจิ ชูเท็นโดจิ” เสียงเรียกชื่อเขาดังไปหมด แต่มันไม่ได้ดังด้วยความหวดกลัวเหมือนกับทุกครั้ง หากแต่เต็มไปด้วยความช
การอนแม้จะรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นของชูเท็นโดจิ ก็หาได้กลัวไม่ มันเข้าโจมตีชูเท็นโดจิด้วยการกระหน่ำหมัด แต่กลายเป็นว่า ชูเท็นโดจิหลบหมัดทั้งหมดได้ และคว้าข้อมือของการอนเอาไว้ออกแรงบีบอย่างแรง จนการอนร้องลั่งด้วยความเจ็บปวด เมื่อสลัดออกมาได้ ก็พบข้อมือมีรอยไหม้เป็นรูปมืออยู่ นั่นทำให้มันตกตะลึง จึงตัดสินรวมพลังไปที่ฝ่ามือและกระแทกใส่ชูเท็นโดจิ แต่กลายเป็นว่าครั้งนี้เขาไม่สะเทือนเลย แถมยังชกการอนกระเด็น“บังอาจมาทำร้ายอรุณนภา ข้าจะฆ่าเจ้าซะ !” ชูเท็นโดจิหยิบหินที่พื้นมาซัดออกไป การอนเอามือปัดแต่ครั้งนี้หินทะลุมือของมันเป็นรู ชูเท็นโดจิเขามาประชิดตัวพ่นไฟใส่ร่างของการอนมันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด อย่างที่มันไม่เคยเจอมาก่อน“เคยใช้แต่ตัวปลอมสินะ งั้นก็มาเจอกับความเจ็บปวดของจริง เป็นยังไงล่ะ” ชูเท็นโดจิชกซ้ำร่าง การอนกระเด็น ล้มลงไปฝ่ายของการอนเมื่อเห็นนายล้มลงไปแล้วกำลังใจก็เริ่มเสีย ทำให้ฝ่ายต่อต้าน เริ่มมีกำลังใจมากขึ้น แต่มันเร็วไปที่จะดีใจ การอนลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ร่างของมันกลับเป็นร่างแรก แถมอาการบาดเจ็บลดลงไปมาก“ไม่คิดเลยนะว่าจะเจอคนที่ทำให้ข้าเจ็บได้ งั้นก็หายไปซะ !” ร
“ข้าไม่ชอบอยู่ในเงาใคร โดยเฉพาะไอ้พวกที่ชอบสร้างตัวปลอม !” ชูเท็นโดจิพูดเสียงดังลั่นการอนส่ายหน้าแล้วจุ๊ปาก“จุ๊ ๆ แกคิดผิด แล้ว!” มันเน้นเสียงตรงคำว่าแล้ว เกิดคลื่นเสียงมากระแทกร่างของชูเท็นโดจิกระเด็นอีกครั้งหนึ่ง แล้วการอนก็ผิวปากเสียงร้องดังขึ้นมามันเหมือนกับเสียงไก่ สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งสูงแค่เอวของชูเท็นโดจิ รูปร่างของมันเหมือนไก่แต่มีเกล็ดเหมือนงูและคอยาว มีหัวเป็นไก่และมีหางเหมือนกับงู มันส่งเสียงแหลมทำจนแสบหู“บาซิลิสก์ ฆ่ามัน ” การอนออกคำสั่ง“อย่ามาล้อเล่นกับข้า มาสู้กันเดี๋ยวนี้” ชูเท็นโดจิกำลังวิ่งเข้าหาการอน บาซิลิสก์มายืนขว้างหน้าของเขาและส่งเสียงขู่เหมือนงู“หลีกไป” ชูเท็นโดจิตะโกนเสียงดังลั่นบาซิลิสก์เข้าโจมตีด้วยการจิกทันที ชูเท็นโดจิหลบได้ แรงจิกของมันทำให้เสาเป็นรู และมันยังโจมตีไม่หยุด ชูเท็นโดจิรีบพ่นไฟสวนไปแต่มันกระโดดสูงและร่อนลงมาเอาสองขากระหน่ำแตะหน้าของชูเท็นโดจิ มันมีเล็บอันแหลมคมทำให้หน้าเขาเป็นรอยข่วย รู้สึกเจ็บปวดมาก มันแค่รอยข่วนเท่านั้น ทำไมเขาถึงได้เจ็บขนาดนี้ คิดได้อย่างเดียว เจ้าตัวประหลาดนี่มีพิษ ! ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็โดนกระหน่ำจิกไปอีกหลายแผ
ขณะที่กำลังวิ่งไปนั้น อิบารากิโดจิเกิดนึกช่วงเวลาที่เขาอยู่กับลายขึ้นมา ไม่ว่าเขาจะร้ายกับลายแค่ไหนลายก็ไม่เคยโกรธเขาเลย ไม่ยอมไปไหน ฝีมือของไดเขาก็รู้ดีว่ามีขนาดไหน จะปล่อยให้ลายตายโดยไม่ช่วยอะไรเลย เขาทำไม่ได้ จึงหยุดวิ่งและตัดสินใจ“สหายข้า ข้าขอโทษ”อิบารากิโดจิตัดสินใจวิ่งกลับไป ลายต่อสู้กับได เขาแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย ดาบสองเล่มของไดเคลื่อนไหวเหมือนมีชีวิต ลายเหมือนกับสู้กับนักดาบเก่ง ๆ พร้อมกันสองคน อิบารากิโดจิปรากกฎตัวขึ้นมาปัดดาบทิ้งทั้งสองเล่ม“เจ้ากลับมาทำไม” ลายถามด้วยความตกใจ“ข้าไม่รู้ แต่ข้าจะยอมให้เจ้าตายโดยที่ข้าไม่ช่วยไม่ได้”ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรกันต่อ ดาบก็เข้ามาโจมตี ทั้งสองรับมือดาบกันคนละเล่ม ไดเห็นว่าอิบารากิโดจิมีฝีมือที่จะรับมือดาบได้อย่างสูสี จึงเสกดาบออกมาอีกเล่ม และสั่งให้เข้าไปโจมตีอิบารากิโดจิ เมื่อต้องรับมือดาบสองเล่มพร้อมกัน อิบรากิโดจิทำได้แค่หลบ ไม่มีโอกาสโจมตีสวนได้เลย ลายอยากไปช่วยแต่ลำพังเขายังเอาตัวแทบไม่รอด ไดเสกดาบมาอีกเล่มและสั่งให้เข้าไปโจมตีลายทันที ซึ่งเป้าหมายไม่ทันระวังตัวจึงโดนดาบแทงสีข้างเลือดไหลอาบ และถูกดาบทั้ง
“พอได้แล้ว” อรุณนภาตะโกนขึ้นมา ทั้งสองหยุดการโต้เถียงทันที อรุณนภานิ่งคิด การอยู่แบบนี้ก็เหมือนกับตายอย่างที่ ชูเท็นโดจิพูด แต่การให้คนไปออกรบก็ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาด“เจ้าไม่เคยขอความช่วยเหลือจากเมืองอื่นเลยเหรอ” อิบารากิโดจิพูดขึ้นมา“ข้าก็อยากจะทำเช่นนั้นเหมือนกัน แต่พวกมันปิดทางเข้าออกไว้เกือบหมด พวกเราพยายามแล้ว” ยุรนันท์พูดขึ้นมา“ข้าว่าข้ามีทางนะขอรับ” ศุภมิตรพูดขึ้นมา“ยังไงเหรอท่านนักสิทธิ์น้อย” ยุรนันท์รีบถาม ศุภมิตรนิ่งไปสักพักแล้วก็พูดขึ้นมา“ช่วงที่พวกเราไปอยู่กับศุกราจารย์ ท่านให้ข้าอ่านคัมภีร์ เปิดประตูมิติ ข้าจะลองส่งกระแสจิตไปหาทุกคนเราเคยเจอ พวกเขาอาจมาช่วย”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ยุรนันท์ก็ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า“มันออกจะเกินตัวท่านไปนะขอรับ ท่านยังไม่ได้ฤาษีที่มีตบะแก่กล้ามากพอ จะเปิดประตูมิติให้ทหารทั้งกองทัพออกมาได้ขนาดนั้นได้หรือขอรับ”ศุภมิตรนิ่งคิด จริงของยุรนันท์ ที่เป็นการเสี่ยงแบบสุด ๆ แม้แต่ชีวิตของเขาก็อาจจะต้องจบสิ้น ทำให้เขาเริ่มลังเล แต่ชูเท็นโดจิกลับพูดว่า“อย่าได้มาดูถูกนักสิทธิ์น้อยผู้นี้ ท่านมีความสามารถเกินตัวแบบที่พวกท่านคาดไม่ถึ
Comments