Share

บทที่ 3

ทุกคนต่างประหลาดใจ

แต่ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของอวี้เส้าถิง และในไม่ช้าทุกคนก็ออกไป เหลือเพียงพวกเขาสองคนอยู่ในห้องทำงานนั้น

อวี้เส้าถิงหรี่ตาลงมองดูเอกสาร ไม่สนใจเฉินฮั่ว

เขาไม่ได้พูดแต่มีความรู้สึกของการกดขี่ที่รุนแรงแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ

เฉินฮั่วไม่รู้ว่าอวี้เส้าถิงทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เมื่อมองดูใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของชายคนนั้น เธอก็ลังเลและเอ่ยออกมาก่อน “ประธานอวี้ เรื่องที่เกิดขึ้นที่หงโหลวเมื่อคืน เราถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้นนะคะ ฉันจะไม่บอกใคร”

เธอคิดว่าในฐานะประธาน อวี้เส้าถิงคงต้องการรักษาหน้า คงจะเป็นเรื่องน่าละอายหากรู้ว่าเขาเรียกใช้บริการพิเศษ คงจะเป็นการดูไม่ดี เขาจึงเรียกเธอไว้ตามลำพังเพราะเหตุนี้

ในความเป็นจริง เฉินฮั่วเองก็ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ ถ้าเธอรู้ว่าเขาเป็นเจ้านายคนใหม่ของเธอ เมื่อคืนนี้เธอคงไม่เข้าไปในห้องของเขาแม้ว่าเธอจะขาดแคลนเงินขนาดไหนก็ตาม

ในความเป็นจริง เฉินฮั่วประเมินระดับศีลธรรมของอวี้เส้าถิงสูงเกินไปจริง ๆ เขาไม่สนใจเรื่องนี้เลย

ปลายนิ้วที่ชัดเจนของอวี้เส้าถิงจับปากกา เซ็นเอกสารด้วยลายมือพลิ้วไหว เขาเงยหน้าขึ้นมองดูใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามและบริสุทธิ์ของหญิงสาว สายตาตาหนักแน่นเล็กน้อย

ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้น...

เธอทำตัวสบายเกินไปแล้ว!

อวี้เส้าถิงหรี่ตา “เลขาเฉิน ลงจากเตียงแล้ว คุณก็ลืมกันเลยเหรอ?”

เฉินฮั่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และถามด้วยความประหลาดใจ "คุณอวี้ หรือคุณต้องการให้ดิฉันใช้เรื่องนี้มาสร้างปัญหาให้คุณหรือคะ?”

ไม่ใช่แน่นอน

อวี้เส้าถิงเกลียดการถูกผู้หญิงมาวุ่นวายมาโดยตลอด

เฉินฮั่วรับปากว่าจะไม่บอกใคร ถือว่าเธอรู้กาลเทศะ แต่ความรู้กาลเทศะนี้กลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล

อวี้เส้าถิงไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงหงุดหงิด อาจเป็นเพราะความภาคภูมิใจของผู้ชาย

อย่างไรเสีย เขาก็เคยเจอผู้หญิงมากมายที่พยายามก่อกวนเขาทุกวิถีทาง เธอเป็นคนแรกที่ให้ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้น

“อวี้กรุ๊ปให้เงินเดือนเธอน้อยไปเหรอ?”

น้ำเสียงของชายคนนั้นเย็นชาราวกับกำลังคุยเล่น

“ไม่น้อยค่ะ”

แม้ว่าเธอไม่รู้ว่าเขาถามทำไม แต่เธอก็ยังตอบ

เธอเป็นเด็กจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน เงินเดือนฝึกงานหลังหักภาษีแล้วเหลือราว ๆ สามหมื่นห้าพันบาท อวี้กรุ๊ปให้เงินเดือนดีที่สุดในอุตสาหกรรมนี้แล้ว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงชื่นชอบงานนี้มาก

“แล้วทำไมถึงต้องขายอะไรแบบนั้นล่ะ?”

การแสดงออกของเฉินฮั่วแข็งทื่อ เธอกัดริมฝีปาก “เงินไม่พอใช้ค่ะ”

เขาถามมาตรง ๆ

เธอก็ตอบตรง ๆ

ไม่มีเงินก็ขายร่างกาย

แววตาของอวี้เส้าถิงมีแววเย้ยหยัน ผู้หญิงที่เห็นแก่เงิน ความใคร่ที่ถูกปลุกขึ้นจากเสียงของเธอก็หายไป เขาไม่อยากคุยกับเธออีก ดูเอกสารต่อแล้วพูดเสียงเบาว่า “ออกไปได้แล้ว”

เฉินฮั่วรู้สึกโล่งใจ จากไปทันทีโดยไม่พูดอะไรทันที

……

เมื่อกลับมาที่โต๊ะทำงาน พี่โจวก็รีบเข้ามาสอบถามว่าอวี้เส้าถิงพูดอะไรกับเธอ

“พี่โจวนี่ล่ะก็ คนเขาจะบอกเรื่องจริงกับพี่เหรอ? เฉินฮั่ว เธอนี่มีความสามารถมากจริง ๆ เธออ่อยเขาได้ตั้งแต่วันแรกที่ประธานอวี้มาที่นี่ ฉันประเมินเธอต่ำไปแล้ว!”

คำเสียดสีของเฉียวอันน่ามาจากด้านข้าง

ในแผนกเลขานุการนี้มีเลขาอยู่สามคน อวี้เส้าถิงไม่ได้ถามชื่อเลขาอีกสองคน แต่กลับเรียกเฉินฮั่วคุยเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้ เฉินฮั่วก็ทั้งสาวทั้งสวย คนก็เลยอดคิดไม่ได้

เฉินฮั่วพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “เลขาเฉียว คุณอวี้แต่งงานแล้ว คุณปล่อยข่าวลือแบบนี้ไม่ดีหรอก ว่าไหมคะ?”

“เธอ... ได้! เฉินฮั่ว เรามาดูกัน!”

เฉียวอันน่าถูกเธอสกัดไว้ด้วยคำพูด จ้องมองเธออย่างโกรธแค้น แล้วเดินจากไป

……

ในวันแรกของอวี้เส้าถิงที่บริษัท เขาได้จัดการประชุมต่าง ๆ มากมาย แผนกเลขานุการมีหน้าที่รับผิดชอบในการคัดแยกและจัดการเอกสารทุกประเภท และยุ่งจนหัวหมุนไปหมด

เฉินฮั่วกังวลเล็กน้อยว่าอวี้เส้าถิงจะทำให้เธอต้องยุ่งยาก แต่เธอคิดมากไป อวี้เส้าถิงไม่ได้ใส่ใจเธอมากนัก และงานส่วนใหญ่ก็เรียกหาพี่โจวและเฉียวอันน่าที่ทำงานเป็นเวลานานแล้ว

ดูเหมือนว่าคืนนั้น สำหรับเขาเป็นแค่การซื้อขายที่ผ่านไปแล้วเท่านั้น

ดีเลย เฉินฮั่วแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอแค่อยากทำงานให้ดี ผ่านการทดลองงานไปได้อย่างราบรื่น และหารายได้มากขึ้น

แต่เฉินฮั่วไม่คาดคิดว่าข่าวลือเกี่ยวกับเธอและอวี้เส้าถิงจะแพร่กระจายในบริษัท

เธอไปที่ห้องน้ำชาเพื่อชงกาแฟ แต่พอเธอไปถึงประตู เธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังมาจากข้างใน

“...ตั้งแต่วันแรกที่ประธานอวี้มาที่นี่พวกเขาก็มีอะไรกันแล้ว เฉินฮั่วเป็นฝ่ายอ่อยเขาก่อน ปกติเห็นเธอเรียบร้อย ไม่นึกเลยว่าจะหน้าไม่อายขนาดนี้ ดูไม่ออกเลยจริง ๆ!”

“ใช่แล้ว ได้ยินว่าทั้งสองคนมีอะไรกันในห้องทำงาน ไม่ได้ปิดประตูด้วย! เสียงกรีดร้องของเฉินฮั่วดังไปทั่วทั้งชั้นเลย”

เฉินฮั่วกระชับนิ้วของเธอที่ถือแก้วน้ำ ความเย็นชาฉายชัดในดวงตาของเธอ

เสียงเหล่านี้คุ้นเคยมาก พวกเขาล้วนเป็นเพื่อนร่วมงานที่เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วย มักจะร่วมโต๊ะทานอาหารกลางวันด้วยกันเสมอ ไม่คิดเลยว่าคนพวกนั้นจะนินทาเธอลับหลัง

“พวกเราไม่ได้เห็นกับตา อย่าพูดอะไรแบบนี้เลย มันจะทำลายชื่อเสียงคนอื่นเอาได้นะ”

“ทำไมต้องออกหน้าแทนเธอด้วย? นี่เป็นเรื่องจริงนะ ถ้าเธอไม่เชื่อฉันก็ถามเลขาเฉียวสิ เลขาเฉียว คุณเห็นเฉินฮั่วอ่อยคุณอวี้ด้วยตาของคุณเองนี่ เล่าให้ทุกคนเลยสิ”

จากนั้นเสียงเยาะเย้ยของเฉียวอันน่าก็ดังขึ้นในห้องน้ำชา “เฉินฮั่วเป็นฝ่ายเริ่มอ่อยก่อน ตอนแรกคุณอวี้ก็ไม่เต็มใจ ใครจะรู้ว่าเฉินฮั่วเป็นฝ่ายถอดเสื้อผ้าเขาก่อน ผู้ชายที่ไหนจะทนไหว? ฉันกลับมาเอาโทรศัพท์พอดีถึงเห็น น่ารังเกียจจริง ๆ…”

“เธอร่านมาก...”

เฉินฮั่วกัดฟัน บีบนิ้วบนแก้วน้ำให้แน่นแล้วเตะประตูให้เปิดออก

ปัง!

เสียงที่ดัง ทำให้ผู้หญิงข้างในตกใจ

เมื่อพวกเธอเห็นเฉินฮั่วยืนอยู่ที่ประตูด้วยใบหน้าที่เย็นชา พวกเธอก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยและยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

ในทางกลับกัน เฉียวอันน่าซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ กลอกตาอย่างเหยียดหยามและค่อย ๆ ยกน้ำขึ้นดื่ม

“ฮ่าฮ่า เลขาเฉิน ทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ?”

มีคนทักทายเธอ แต่เฉินฮั่วเพิกเฉยต่อคนเหล่านั้นและเดินตรงไปหาเฉียวอันน่า

เฉียวอันน่าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็รู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็วและพูดอย่างยั่วยุ “เธอจะทำอะไร?”

เฉินฮั่วยิ้มอย่างเย็นชา

เธอยกมือขึ้นและตบเฉียวอันน่าอย่างแรง แม่นยำ ไม่พูดอะไรสักคำ

“โอ๊ย!” เฉียวอันน่าตะลึงกับการตบนั้น เธอตกตะลึงไปสองสามวินาทีก่อนจะได้สติ เธอกุมใบหน้าและชี้ไปที่เฉินฮั่วด้วยความโกรธจัด “เธอกล้าตบฉันเหรอ เฉินฮั่ว ฉันจะตบเธอคืนแน่!”

เฉินฮั่วไม่พูดพร่ำทำเพลง เตะเข้าที่ท้องน้อยของเฉียวอันน่าด้วยส้นสูงแหลม เฉียวอันน่าล้มลงกุมท้องร้องโอดครวญ

มีเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังไปทั่ว!

“โอ้แม่เจ้า มีคนทะเลาะกัน!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status