เฉินฮั่วคิดอยู่นาน แต่ก็คิดอะไรไม่ออกจนรู้สึกเวียนหัวมาก ดังนั้นเธอจึงหยุดคิดเรื่องนี้“คุณหนูเฉิน นี่คือชุดคนไข้ คุณใส่แล้วจะสบายตัวมากขึ้นหน่อย” ตอนนี้เอง พยาบาลก็นำชุดคนไข้หลวม ๆ มาให้เธอแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณอยากให้ฉันช่วยไหมคะ”เฉินฮั่วพบว่าผู้คนที่นี่ดูเอาใจเธอเล็กน้อย อาจเป็นเพราะอวี้เส้าถิง“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ต้องช่วยก็ได้ค่ะ ฉันเปลี่ยนชุดเองได้” เฉินฮั่วไม่ชินกับการที่ต้องให้คนอื่นมาช่วยเธอเปลี่ยนเสื้อผ้า ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างสุภาพ“ได้ค่ะ ถ้าคุณต้องการอะไร เรียกดิฉันได้เลยนะคะ”“ได้ค่ะ”……หลังจากที่พยาบาลออกไปแล้ว เฉินฮั่วก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงสักพัก เธอถอดเสื้อยืดที่สกปรกออก และเตรียมจะสวมเสื้อผ้าที่สะอาดของโรงพยาบาลเนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บ เธอจึงขยับตัวอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ ดึงมือข้างหนึ่งออกจากแขนเสื้อ แล้วจึงถอดแขนเสื้ออีกข้างออก…เมื่ออวี้เส้าถิงกลับมาที่ห้อง เขาก็พบเข้ากับฉากนี้…เฉินฮั่วกำลังนั่งอยู่บนเตียง เสื้อยืดที่ถูกถกขึ้นเผยให้เห็นเอวขาวและเรียวของเธอ เธอดูแลหุ่นได้ดีมาก ผิวพรรณที่อวบอิ่มและขาวผ่องมีน้ำมีนวลของเธอนั้น ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาจาก
เหนื่อยเหรอ?จัดการกับคนพวกนั้น และเฝ้าดูผู้หญิงคนนั้นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อยั่วยวนและแสดงละครในทุกสถานการณ์…อวี้เส้าถิงไม่รู้สึกเหนื่อย เขาคุ้นเคยกับฉากพวกนั้นมานานแล้วแต่ด้วยเหตุผลบางประการ เมื่อมองดูดวงตาที่สะอาดและกระจ่างใสของผู้หญิงตรงหน้า จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยอวี้เส้าถิงหรี่ตาลง เขาเอื้อมมือไปจับข้อมือของเฉินฮั่วแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา หลีกเลี่ยงบริเวณที่เธอได้รับบาดเจ็บ จะได้ไม่เผลอทำร้ายเธอร่างสูงของชายหนุ่มล้มนอนบนเตียง แขนอันบึกบึนแข็งแกร่งโอบเอวเรียวของร่างบางไว้อย่างครอบงำ “ฉันเหนื่อยนิดหน่อย นอนเป็นเพื่อนฉันสักพักนะ”เตียงในวอร์ดวีไอพีเป็นเตียงใหญ่สำหรับสองคน พวกเขาจึงสามารถนอนบนเตียงเดียวกันได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่เบียดเสียดเฉินฮั่วนอนอยู่ในอ้อมแขนของอวี้เส้าถิง โดยมีหน้าอกกว้างของอวี้เส้าถิงบังอยู่ข้างหน้า รับฟังเสียงการเต้นของหัวใจอันทรงพลังของชายหนุ่ม อารมณ์ที่ซับซ้อนก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเธออวี้เส้าถิงกลับมาแล้วแถมยังกอดเธอไว้แบบนี้ นี่หมายความว่าเขาตกลงที่จะทำข้อตกลงกับเธอแล้วใช่ไหม?“ฉันจะช่วยเธอช่วยคนออกมา เฉินฮั่ว ฉันให้โอกาสเธอกลับค
เฉินฮั่วรู้สึกร้อนเล็กน้อย เธอจึงขยับร่างกายนิดหน่อยเพื่อพยายามรักษาระยะห่างระหว่างทั้งสองให้มากขึ้นอีกนิดตอนนี้เอง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกไม่สบายท้องอย่างรุนแรง เธออดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นปิดปาก แล้วยกผ้าห่มขึ้นคลุมด้วยมืออีกข้างแต่อวี้เส้าถิงกอดเธอแน่นเกินไป การเคลื่อนไหวของเธอจึงดูเหมือนกำลังถูไถร่างของชายหนุ่มส่วนท้องน้อยของอวี้เส้าถิงแน่นขึ้น เนื่องจากการหยอกเย้าของเธอ เขาจึงขมวดคิ้วและลืมตาขึ้น จ้องเธอด้วยสายตาอันตราย “เลขาเฉิน เธออยากพิการจริง ๆ ใช่ไหม?”ขืนเธอยังขยับต่อไปเขาคงไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะอดกลั้นมันต่อไปได้เดิมทีเขาไม่มีแผนที่จะแตะต้องเธอในคืนนี้ แต่ถ้าเธอยืนกรานที่จะทำอะไรสักอย่างเขาก็จะไม่รังเกียจที่จะทำตามความปรารถนาของเธอเฉินฮั่วรู้สึกทนไม่ไหวอีกแล้ว และขมวดคิ้วแน่น “ประธานอวี้ ฉันอยากจะ… อาเจียน”……ในห้องน้ำ เฉินฮั่วใช้นิ้วจับขอบชักโครกไว้แน่นและอาเจียนแรงมาก เธอแทบจะอาเจียนเอาอวัยวะภายในของเธอออกมาในที่สุด เมื่อเธอหยุดลง เธอก็มานั่งอย่างเหนื่อยล้าข้างชักโครก ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษอวี้เส้าถิงขมวดคิ้วและอุ้มเธอขึ้นมา วางเธอไว้บนขอบอ่างล้างหน้า แล
“คุณจาง”“เฉินฮั่ว เมื่อคืนนี้เธอไปหาประธานอวี้หรือเปล่า? เธอได้ไปค้างคืนกับเขาไหม?” จางเหม่ยจือพูดอย่างกังวลเฉินฮั่วชะงักแต่ความเงียบสั้น ๆ ของเธอนั้นกลับทำให้คุณจางคิดว่าเธอกลับคำพูดแล้ว เธอเปล่งเสียงขึ้นทันทีว่า “เฉินฮั่ว! เมื่อวานนี้เธอรับปากกับฉันแล้วไม่ใช่เหรอ? เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงหลอกฉัน! พวกเราช่วยเหลือเธอมาหลายปี เธอคิดจะบีบพวกเราจนตายเลยหรือไง เธอทำถูกแล้วเหรอ ต่อความเมตตาของเราที่มีต่อเธอหลายปีมานี้?”คำพูดเหล่านี้ เมื่อคืนนี้เธอได้ยินมาหลายครั้งแล้ว เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “คุณจางคะ ฉันได้ทำข้อตกลงกับอวี้เส้าถิงแล้ว เขารับปากแล้วว่าจะช่วย”“จริงเหรอ? เธอไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?” คุณจางพูดอย่างกังขาในใจ“จริงค่ะ”“ถ้าอย่างนั้น วันนี้ฉันจะได้เห็นเสี่ยวเวยแล้วใช่ไหม!” คุณจางพูดอย่างทนรอไม่ไหวเฉินฮั่วเม้มริมฝีปากลง “ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เขาช่วยออกมาวันนี้ ฉันจะโทรบอกคุณถ้ามีข่าวดีนะคะ”“เฉินฮั่ว เธอต้องขอให้ประธานอวี้ช่วยเสี่ยวเวยออกมาวันนี้ให้ได้นะ เสี่ยวเวยรอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว! เธอกับประธานอวี้คุยกันดี ๆ! บอกเขาว่าต้องช่วยเสี่ยวเวยวั
หลังจากนั้นไม่นาน อวี้เส้าถิงก็เดินออกมาหลังจากล้างหน้าเสร็จเขาติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอีกครั้ง แม้ว่าเสื้อผ้าจะยังยับยู่ยี่ แต่เขาก็แต่งตัวเรียบร้อย ดูจริงจังและให้อารมณ์เหินห่างยิ่งกว่าเมื่อสักครู่นี้หลายส่วนชายหนุ่มนั่งลงตรงข้ามเธอ เหลือบมองอาหารบนโต๊ะแล้วหยิบชามเกี๊ยวน้ำไปจากเธออย่างไม่เกรงใจเฉินฮั่วชะงักกึก “นี่มันอาหารของฉันนะ” เธอวางแผนจะกินมันหลังจากกินคัสตาร์ดไข่เสร็จแล้ว!อวี้เส้าถิงเงยหน้าขึ้นมองอย่างเย็นชา “แต่ฉันเป็นคนจ่ายเงินไม่ใช่เหรอ?”น้ำเสียงที่ครอบงำและคำพูดที่เย็นชาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยการกดขี่ ราวกับต้องการจะพูดว่า เธอลองมาแย่งไปดูสิ?“…”เฉินฮั่วหุบปากเงียบ มองไปที่ชามเกี๊ยวน้ำอย่างไม่เต็มใจนักเธอไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลแพงหูฉี่ในวอร์ดวีไอพีได้ เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของเงิน งั้นก็ช่างเถอะ ให้เขากินก็ได้ในความเป็นจริงอวี้เส้าถิงไม่รู้สึกสนใจเกี๊ยวน้ำอะไรนี่สักนิด แต่เมื่อเขาเห็นเธอดูเหมือนจะอยากกินมาก เขาก็อยากรังแกเธอขึ้นมา สาเหตุมาจากนิสัยที่ไม่ดีในเลือดของชายหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจกินเกี๊ยวน้ำชามนี้ของเธอเขาหยิบช้อนขึ้นมาแล้วตักเกี๊ยวน้ำเข้าปาก ไ
อวี้เส้าถิงอารมณ์ดี เขาเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นโอบเอวของเธอ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาเฮ่อเฉา สั่งให้เขาพาผู้บัญชาการตำรวจมาที่โรงพยาบาลเฮ่อเฉาดำเนินการอย่างรวดเร็ว และพาบุคคลผู้นั้นมาหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเมื่อเขามาถึง เฉินฮั่วกำลังนั่งอยู่บนตักของอวี้เส้าถิง ชายหนุ่มนั่งอ่านข่าวเศรษฐกิจ ขณะที่เฉินฮั่วดูละครโทรทัศน์ในโทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อฆ่าเวลาเดิมทีเฉินฮั่วไม่ชอบถูกกอดแบบนี้และอยากจะปฏิเสธ แต่การปฏิเสธไร้ผลเมื่อเธอได้ยินเสียงเคาะประตู เธอกำลังจะลุกจากตักของเขา แต่จู่ ๆ แขนรอบเอวของเธอก็กระชับแน่นขึ้น อวี้เส้าถิงมองเธออย่างเย็นชา “ทำอะไร?”“ประธานอวี้ คุณรีบปล่อยฉันลงก่อน มีคนมาแล้วนะคะ” เฉินฮั่วพูดอย่างเขินอาย“มาแล้วยังไง? นั่งดี ๆ อย่าขยับ”ใบหน้าที่สงบและหล่อเหลาของอวี้เส้าถิงไม่ได้แสดงออก แต่น้ำเสียงของเขากลับครอบงำมากเฉินฮั่ว “...”เธอรู้สึกว่ามันไม่ดีที่จะให้คนอื่นมาเห็นพวกเขาในสภาพนี้ แต่อวี้เส้าถิงปฏิเสธที่จะปล่อยมือ ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยุดเคลื่อนไหว“เข้ามา”ในไม่ช้า เฮ่อเฉาซึ่งได้รับอนุญาตก็เปิดประตูแล้วเดินเ
ฝนแรกของฤดูใบไม้ร่วงชะล้างหน้าต่างของห้องวีไอพีภายในบาร์ภายในห้องนั้น เฉินฮั่วถูกชายคนหนึ่งจับมือทั้งสองข้างของเธอกดลงบนโซฟา เขาร้องขออย่างดุเดือดอีกฝ่ายเดือดพล่านมาก หลังจากผ่านช่วงความเจ็บปวดที่รุนแรงและการตกอยู่ในภวังค์ในตอนแรก ตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างหนักร่างกายดูเหมือนจะไม่ใช่ของตัวเอง“อื้อ... พอ... พอแล้ว...”เสียงร้องขอที่แผ่วเบาหลุดจากริมฝีปากแต่ไม่มีทางที่เธอจะหยุดเรื่องแบบนี้ได้ชายคนนั้นไม่รับฟังแรงดุดันไม่ได้ลดลงเลยเขาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไฟในร่างกายโหมกระหน่ำ เฉินฮั่วถูกดันไปที่จุดสูงสุดแล้วกระแทกกลับลงมาอย่างรุนแรง...“ครืด…”เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นกะทันหัน ทำลายบรรยากาศที่คลุมเครือนั้นลงชายคนนั้นถูกขัดจังหวะ หยุดเคลื่อนไหวกะทันหัน“ปิดมันซะ!”เธอไม่อาจทำให้ชายคนนี้โกรธได้เฉินฮั่วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์แต่กลับทำหล่นลงพื้นเสียงเรียกเข้าจึงยังคงดำเนินต่อไปเธอโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แต่ชายคนนั้นไม่มีความอดทน เขาใช้มือใหญ่บีบเอวหญิงสาวแล้วลากร่างนั้นกลับมา...ผ่านไปไม่นาน รักร้อนอันดุเดือดก็จบลงอย่างรวดเร็ว
เฉินฮั่วเดินออกจากบาร์ แล้วกดหมายเลขโทรศัพท์โทรกลับไป“เฉินฮั่ว เธอเก็บเงินได้ครบหรือยัง?” เสียงเย็นชาของคุณจางดังมาจากโทรศัพท์“คุณจาง ฉันรวบรวมเงินได้ครบแล้วค่ะ จะโอนให้เดี๋ยวนี้เลย”“เยี่ยมเลย!” น้ำเสียงของคุณจางเริ่มเป็นมิตรมากขึ้นทันที “พอมีเงินก้อนนี้ เสี่ยวเวยจะได้ประกันตัวออกมาได้ แต่ค่ารักษาของเธอยังต้องหาทางอีก ฉันไม่อยากบีบบังคับเธอ แต่ฉันไม่มีทางเลือก เธอจะปล่อยให้เสี่ยวเวยตายไม่ได้”เฉินฮั่วเม้มริมฝีปาก “ฉันรู้ค่ะ ฉันจะหาทางหาเงินเพิ่ม”เมื่อสองเดือนที่แล้ว บริษัทชื่อดังอย่างเซี่ยกรุ๊ปล้มละลายลง คนในตระกูลเซี่ยกว่าสิบคนถูกจับเข้าคุกเมื่อสามวันก่อน คุณนายเซี่ยหรือจางเหม่ยจือมาตามหาเฉินฮั่ว และขอให้เฉินฮั่วหาเงินห้าแสนบาทให้เธอ เพราะเธอต้องการประกันตัวลูกสาวของเธอที่ป่วยเป็นโรคหัวใจออกจากคุกเฉินฮั่วไม่สามารถปฏิเสธได้ เธอเป็นนักเรียนที่ยากจนที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเซี่ย และตระกูลเซี่ยก็ช่วยฝังศพแม่ของเธอด้วย เธอจึงต้องตอบแทนบุญคุณนี้หลายปีมานี้ เฉินฮั่วทำงานพาร์ทไทม์ตลอดเวลา หักค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตไปแล้ว เธอมีเงินเก็บไม่มาก เธอยืมจากเพื่อนอีกบ้าง แต่สุดท้า