เฉินฮั่วรู้สึกร้อนเล็กน้อย เธอจึงขยับร่างกายนิดหน่อยเพื่อพยายามรักษาระยะห่างระหว่างทั้งสองให้มากขึ้นอีกนิดตอนนี้เอง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกไม่สบายท้องอย่างรุนแรง เธออดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นปิดปาก แล้วยกผ้าห่มขึ้นคลุมด้วยมืออีกข้างแต่อวี้เส้าถิงกอดเธอแน่นเกินไป การเคลื่อนไหวของเธอจึงดูเหมือนกำลังถูไถร่างของชายหนุ่มส่วนท้องน้อยของอวี้เส้าถิงแน่นขึ้น เนื่องจากการหยอกเย้าของเธอ เขาจึงขมวดคิ้วและลืมตาขึ้น จ้องเธอด้วยสายตาอันตราย “เลขาเฉิน เธออยากพิการจริง ๆ ใช่ไหม?”ขืนเธอยังขยับต่อไปเขาคงไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะอดกลั้นมันต่อไปได้เดิมทีเขาไม่มีแผนที่จะแตะต้องเธอในคืนนี้ แต่ถ้าเธอยืนกรานที่จะทำอะไรสักอย่างเขาก็จะไม่รังเกียจที่จะทำตามความปรารถนาของเธอเฉินฮั่วรู้สึกทนไม่ไหวอีกแล้ว และขมวดคิ้วแน่น “ประธานอวี้ ฉันอยากจะ… อาเจียน”……ในห้องน้ำ เฉินฮั่วใช้นิ้วจับขอบชักโครกไว้แน่นและอาเจียนแรงมาก เธอแทบจะอาเจียนเอาอวัยวะภายในของเธอออกมาในที่สุด เมื่อเธอหยุดลง เธอก็มานั่งอย่างเหนื่อยล้าข้างชักโครก ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษอวี้เส้าถิงขมวดคิ้วและอุ้มเธอขึ้นมา วางเธอไว้บนขอบอ่างล้างหน้า แล
“คุณจาง”“เฉินฮั่ว เมื่อคืนนี้เธอไปหาประธานอวี้หรือเปล่า? เธอได้ไปค้างคืนกับเขาไหม?” จางเหม่ยจือพูดอย่างกังวลเฉินฮั่วชะงักแต่ความเงียบสั้น ๆ ของเธอนั้นกลับทำให้คุณจางคิดว่าเธอกลับคำพูดแล้ว เธอเปล่งเสียงขึ้นทันทีว่า “เฉินฮั่ว! เมื่อวานนี้เธอรับปากกับฉันแล้วไม่ใช่เหรอ? เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงหลอกฉัน! พวกเราช่วยเหลือเธอมาหลายปี เธอคิดจะบีบพวกเราจนตายเลยหรือไง เธอทำถูกแล้วเหรอ ต่อความเมตตาของเราที่มีต่อเธอหลายปีมานี้?”คำพูดเหล่านี้ เมื่อคืนนี้เธอได้ยินมาหลายครั้งแล้ว เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “คุณจางคะ ฉันได้ทำข้อตกลงกับอวี้เส้าถิงแล้ว เขารับปากแล้วว่าจะช่วย”“จริงเหรอ? เธอไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?” คุณจางพูดอย่างกังขาในใจ“จริงค่ะ”“ถ้าอย่างนั้น วันนี้ฉันจะได้เห็นเสี่ยวเวยแล้วใช่ไหม!” คุณจางพูดอย่างทนรอไม่ไหวเฉินฮั่วเม้มริมฝีปากลง “ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เขาช่วยออกมาวันนี้ ฉันจะโทรบอกคุณถ้ามีข่าวดีนะคะ”“เฉินฮั่ว เธอต้องขอให้ประธานอวี้ช่วยเสี่ยวเวยออกมาวันนี้ให้ได้นะ เสี่ยวเวยรอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว! เธอกับประธานอวี้คุยกันดี ๆ! บอกเขาว่าต้องช่วยเสี่ยวเวยวั
หลังจากนั้นไม่นาน อวี้เส้าถิงก็เดินออกมาหลังจากล้างหน้าเสร็จเขาติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอีกครั้ง แม้ว่าเสื้อผ้าจะยังยับยู่ยี่ แต่เขาก็แต่งตัวเรียบร้อย ดูจริงจังและให้อารมณ์เหินห่างยิ่งกว่าเมื่อสักครู่นี้หลายส่วนชายหนุ่มนั่งลงตรงข้ามเธอ เหลือบมองอาหารบนโต๊ะแล้วหยิบชามเกี๊ยวน้ำไปจากเธออย่างไม่เกรงใจเฉินฮั่วชะงักกึก “นี่มันอาหารของฉันนะ” เธอวางแผนจะกินมันหลังจากกินคัสตาร์ดไข่เสร็จแล้ว!อวี้เส้าถิงเงยหน้าขึ้นมองอย่างเย็นชา “แต่ฉันเป็นคนจ่ายเงินไม่ใช่เหรอ?”น้ำเสียงที่ครอบงำและคำพูดที่เย็นชาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยการกดขี่ ราวกับต้องการจะพูดว่า เธอลองมาแย่งไปดูสิ?“…”เฉินฮั่วหุบปากเงียบ มองไปที่ชามเกี๊ยวน้ำอย่างไม่เต็มใจนักเธอไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลแพงหูฉี่ในวอร์ดวีไอพีได้ เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของเงิน งั้นก็ช่างเถอะ ให้เขากินก็ได้ในความเป็นจริงอวี้เส้าถิงไม่รู้สึกสนใจเกี๊ยวน้ำอะไรนี่สักนิด แต่เมื่อเขาเห็นเธอดูเหมือนจะอยากกินมาก เขาก็อยากรังแกเธอขึ้นมา สาเหตุมาจากนิสัยที่ไม่ดีในเลือดของชายหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจกินเกี๊ยวน้ำชามนี้ของเธอเขาหยิบช้อนขึ้นมาแล้วตักเกี๊ยวน้ำเข้าปาก ไ
อวี้เส้าถิงอารมณ์ดี เขาเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นโอบเอวของเธอ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาเฮ่อเฉา สั่งให้เขาพาผู้บัญชาการตำรวจมาที่โรงพยาบาลเฮ่อเฉาดำเนินการอย่างรวดเร็ว และพาบุคคลผู้นั้นมาหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเมื่อเขามาถึง เฉินฮั่วกำลังนั่งอยู่บนตักของอวี้เส้าถิง ชายหนุ่มนั่งอ่านข่าวเศรษฐกิจ ขณะที่เฉินฮั่วดูละครโทรทัศน์ในโทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อฆ่าเวลาเดิมทีเฉินฮั่วไม่ชอบถูกกอดแบบนี้และอยากจะปฏิเสธ แต่การปฏิเสธไร้ผลเมื่อเธอได้ยินเสียงเคาะประตู เธอกำลังจะลุกจากตักของเขา แต่จู่ ๆ แขนรอบเอวของเธอก็กระชับแน่นขึ้น อวี้เส้าถิงมองเธออย่างเย็นชา “ทำอะไร?”“ประธานอวี้ คุณรีบปล่อยฉันลงก่อน มีคนมาแล้วนะคะ” เฉินฮั่วพูดอย่างเขินอาย“มาแล้วยังไง? นั่งดี ๆ อย่าขยับ”ใบหน้าที่สงบและหล่อเหลาของอวี้เส้าถิงไม่ได้แสดงออก แต่น้ำเสียงของเขากลับครอบงำมากเฉินฮั่ว “...”เธอรู้สึกว่ามันไม่ดีที่จะให้คนอื่นมาเห็นพวกเขาในสภาพนี้ แต่อวี้เส้าถิงปฏิเสธที่จะปล่อยมือ ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยุดเคลื่อนไหว“เข้ามา”ในไม่ช้า เฮ่อเฉาซึ่งได้รับอนุญาตก็เปิดประตูแล้วเดินเ
ฝนแรกของฤดูใบไม้ร่วงชะล้างหน้าต่างของห้องวีไอพีภายในบาร์ภายในห้องนั้น เฉินฮั่วถูกชายคนหนึ่งจับมือทั้งสองข้างของเธอกดลงบนโซฟา เขาร้องขออย่างดุเดือดอีกฝ่ายเดือดพล่านมาก หลังจากผ่านช่วงความเจ็บปวดที่รุนแรงและการตกอยู่ในภวังค์ในตอนแรก ตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างหนักร่างกายดูเหมือนจะไม่ใช่ของตัวเอง“อื้อ... พอ... พอแล้ว...”เสียงร้องขอที่แผ่วเบาหลุดจากริมฝีปากแต่ไม่มีทางที่เธอจะหยุดเรื่องแบบนี้ได้ชายคนนั้นไม่รับฟังแรงดุดันไม่ได้ลดลงเลยเขาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไฟในร่างกายโหมกระหน่ำ เฉินฮั่วถูกดันไปที่จุดสูงสุดแล้วกระแทกกลับลงมาอย่างรุนแรง...“ครืด…”เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นกะทันหัน ทำลายบรรยากาศที่คลุมเครือนั้นลงชายคนนั้นถูกขัดจังหวะ หยุดเคลื่อนไหวกะทันหัน“ปิดมันซะ!”เธอไม่อาจทำให้ชายคนนี้โกรธได้เฉินฮั่วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์แต่กลับทำหล่นลงพื้นเสียงเรียกเข้าจึงยังคงดำเนินต่อไปเธอโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แต่ชายคนนั้นไม่มีความอดทน เขาใช้มือใหญ่บีบเอวหญิงสาวแล้วลากร่างนั้นกลับมา...ผ่านไปไม่นาน รักร้อนอันดุเดือดก็จบลงอย่างรวดเร็ว
เฉินฮั่วเดินออกจากบาร์ แล้วกดหมายเลขโทรศัพท์โทรกลับไป“เฉินฮั่ว เธอเก็บเงินได้ครบหรือยัง?” เสียงเย็นชาของคุณจางดังมาจากโทรศัพท์“คุณจาง ฉันรวบรวมเงินได้ครบแล้วค่ะ จะโอนให้เดี๋ยวนี้เลย”“เยี่ยมเลย!” น้ำเสียงของคุณจางเริ่มเป็นมิตรมากขึ้นทันที “พอมีเงินก้อนนี้ เสี่ยวเวยจะได้ประกันตัวออกมาได้ แต่ค่ารักษาของเธอยังต้องหาทางอีก ฉันไม่อยากบีบบังคับเธอ แต่ฉันไม่มีทางเลือก เธอจะปล่อยให้เสี่ยวเวยตายไม่ได้”เฉินฮั่วเม้มริมฝีปาก “ฉันรู้ค่ะ ฉันจะหาทางหาเงินเพิ่ม”เมื่อสองเดือนที่แล้ว บริษัทชื่อดังอย่างเซี่ยกรุ๊ปล้มละลายลง คนในตระกูลเซี่ยกว่าสิบคนถูกจับเข้าคุกเมื่อสามวันก่อน คุณนายเซี่ยหรือจางเหม่ยจือมาตามหาเฉินฮั่ว และขอให้เฉินฮั่วหาเงินห้าแสนบาทให้เธอ เพราะเธอต้องการประกันตัวลูกสาวของเธอที่ป่วยเป็นโรคหัวใจออกจากคุกเฉินฮั่วไม่สามารถปฏิเสธได้ เธอเป็นนักเรียนที่ยากจนที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเซี่ย และตระกูลเซี่ยก็ช่วยฝังศพแม่ของเธอด้วย เธอจึงต้องตอบแทนบุญคุณนี้หลายปีมานี้ เฉินฮั่วทำงานพาร์ทไทม์ตลอดเวลา หักค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตไปแล้ว เธอมีเงินเก็บไม่มาก เธอยืมจากเพื่อนอีกบ้าง แต่สุดท้า
ทุกคนต่างประหลาดใจแต่ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของอวี้เส้าถิง และในไม่ช้าทุกคนก็ออกไป เหลือเพียงพวกเขาสองคนอยู่ในห้องทำงานนั้นอวี้เส้าถิงหรี่ตาลงมองดูเอกสาร ไม่สนใจเฉินฮั่วเขาไม่ได้พูดแต่มีความรู้สึกของการกดขี่ที่รุนแรงแพร่กระจายไปทั่วบริเวณเฉินฮั่วไม่รู้ว่าอวี้เส้าถิงทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เมื่อมองดูใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของชายคนนั้น เธอก็ลังเลและเอ่ยออกมาก่อน “ประธานอวี้ เรื่องที่เกิดขึ้นที่หงโหลวเมื่อคืน เราถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้นนะคะ ฉันจะไม่บอกใคร”เธอคิดว่าในฐานะประธาน อวี้เส้าถิงคงต้องการรักษาหน้า คงจะเป็นเรื่องน่าละอายหากรู้ว่าเขาเรียกใช้บริการพิเศษ คงจะเป็นการดูไม่ดี เขาจึงเรียกเธอไว้ตามลำพังเพราะเหตุนี้ในความเป็นจริง เฉินฮั่วเองก็ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ ถ้าเธอรู้ว่าเขาเป็นเจ้านายคนใหม่ของเธอ เมื่อคืนนี้เธอคงไม่เข้าไปในห้องของเขาแม้ว่าเธอจะขาดแคลนเงินขนาดไหนก็ตามในความเป็นจริง เฉินฮั่วประเมินระดับศีลธรรมของอวี้เส้าถิงสูงเกินไปจริง ๆ เขาไม่สนใจเรื่องนี้เลยปลายนิ้วที่ชัดเจนของอวี้เส้าถิงจับปากกา เซ็นเอกสารด้วยลายมือพลิ้วไหว เขาเงยหน้าขึ้นมองดู
ไม่ไกลประตูลิฟต์ก็เปิดออก ชายหนุ่มรูปหล่อสามคนก็เดินออกมาอวี้เส้าถิงเป็นคนแรกที่ก้าวออกจากลิฟต์ ซ่งซูเหยียนที่ติดตามเขากำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่ได้ยินเสียงดังมาจากบริเวณนี้ อวี้เส้าถิงจึงหยุดและหันไปมองดู คิ้วขมวดทันที“นี่ พี่สาม คนของพี่ถ่ายหนังบู๊กันเหรอ?” ซ่งซูเหยียนเห็นใครบางคนทะเลาะกันก็พูดเยาะเย้ยอย่างสนุกสนานเมื่อรู้ว่าอวี้เส้าถิงชอบความสงบเฮ่อเฉาจึงรีบพูดว่า "ประธานอวี้ ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้ครับ!"เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ไม่จำเป็นต้องให้เขาออกหน้า อวี้เส้าถิงไม่ได้พูดอะไร เขามองออกไปอย่างไม่แสดงออกและเดินไปยังห้องทำงานของประธานด้วยเรียวขายาวเฮ่อเฉาขมวดคิ้ว และถามพนักงานที่อยู่ข้าง ๆ “เกิดอะไรขึ้น?”“ผู้ช่วยเฮ่อ คือเลขาเฉียวจากแผนกเลขานุการกำลังทะเลาะวิวาทกับเลขาเฉิน”คำว่า 'เลขาเฉิน' ลอยเข้ามาในหูของอวี้เส้าถิง เขาหยุดฝีเท้าและมองกลับไปที่กลุ่มคน แววตาคมเข้มขึ้นเล็กน้อย…… “เฉินฮั่ว ยายตัวดี!”เฉียวอันน่าถูกจิกผมและตบหน้า เจ็บปวดจนกรีดร้องและด่าทออย่างบ้าคลั่ง เธอคว้าถ้วยข้างตัวเธอแล้วฟาดใส่ศีรษะของเฉินฮั่ว!นั่นเป็นถ้วยกระเบื้องที่มีน้ำหนักไม่น้อย ถ้าฟาดลงไปที่เฉินฮั่ว