Share

บทที่ 5

เฉินฮั่วไม่รู้ว่าเธอกำลังถูกจับตามอง

ซ่งซูเหยียนลูบคาง มองดูอย่างสนใจยืนอยู่หน้าต่างพูดด้วยความประหลาดใจ “ผู้หญิงคนนี้ดูอ่อนแอออก ไม่คิดว่าจะสู้ได้เก่งขนาดนี้! พี่สาม เธอเป็นเลขาของพี่ ช่างบังเอิญจริง ๆ”

“บังเอิญมากจริง ๆ” อวี้เส้าถิงพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

แต่ซ่งซูเหยียนได้ยินสิ่งที่แฝงในน้ำเสียงของเขา เขาเองก็เป็นคนฉลาด จึงคิดได้ทันที และพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า "พี่สาม พี่กำลังสงสัยว่าเธอเป็นคนที่ใครบางคนแอบวางไว้ข้างกายพี่ใช่ไหม?"

คืนนั้นอวี้เส้าถิงโดนวางยา เฉินฮั่วช่วยเขาไว้ แต่จู่ ๆ เธอก็กลายมาเป็นเลขานุการของบริษัทเขา คนอย่างพวกเขาไม่เคยเชื่อเรื่องบังเอิญเช่นนี้

ที่สำคัญกว่านั้น คนนี้เป็นคนที่เขาหามาเอง!

ถ้าเฉินฮั่วถูกจัดให้มาอยู่กับอวี้เส้าถิงในคืนนั้นจริง ๆ งั้นเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย!

“พี่สาม พี่ตรวจสอบประวัติของเธอแล้วหรือยัง?” ซ่งซูเหยียนถามอย่างรวดเร็ว

“ตอนนี้ยังไม่เจอปัญหาอะไร”

ดวงตาที่มืดมนของอวี้เส้าถิงเย็นชา

แน่นอนว่าเขาได้ตรวจสอบแล้ว หากมีอะไรผิดปกติกับเฉินฮั่ว เธอคงไม่ได้อยู่ในบริษัทตอนนี้

ในเวลานี้ เฮ่อเฉาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและพูดด้วยความเคารพ “ประธานอวี้ เรื่องการทะเลาะวิวาทตรวจสอบแล้วครับ เลขาเฉียวอันน่าและพนักงานหลายคนกำลังซุบซิบกันเรื่องระหว่างคุณกับเลขาเฉินในห้องน้ำชา สิ่งที่พวกเธอพูด... "

เขาหยุดพูด อวี้เส้าถิงถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “พูดว่าอะไร?”

เฮ่อเฉามองเขาแล้วพูดต่อ “พวกเธอพูดกันว่า เลขาเฉินแก้ผ้ายั่วยวนคุณ และทำเรื่องอย่างว่ากับคุณในห้องทำงาน... พวกเธอพูดกันอย่างน่าเกลียดมาก และเลขาเฉินมาได้ยินเข้า ก็เลยมีเรื่องกันทันทีครับ”

ซ่งซูเหยียนกล่าวขึ้นว่า “อย่างนี้จะโทษผู้หญิงคนนั้นทั้งหมดก็ไม่ได้ ใครจะทนเรื่องแบบนี้ได้กันล่ะ?”

ดวงตาของอวี้เส้าถิงเย็นลงเรื่อย ๆ เขามองไปด้านข้างที่หน้าต่างกระจกอย่างเย็นชา

ในห้องทำงานข้าง ๆ เฉินฮั่วกำลังมัดผมของเธอ เอวเรียวบางของเธอตั้งตรง เธอไม่ได้ใช้หวี นิ้วมือขาวสะอาดจับผมสีดำขึ้นอย่างลวก ๆ เผยให้เห็นคอหงส์ที่ขาวราวหงส์สง่า

แสงอาทิตย์ตกกระทบบนร่างหญิงสาว งดงามราวกับภาพวาด

เฉินฮั่ว

สวยงามดั่งภาพวาด

เหมือนชื่อของเธอ

ดวงตาของอวี้เส้าถิงตกลงไปที่ด้านข้างคอของหญิงสาวอย่างไม่ทราบสาเหตุ

เขารู้ว่ามีไฝเม็ดเล็ก ๆ อยู่ตรงนั้น ซึ่งจะยิ่งดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษหลังเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ...

ภาพของคืนนั้นปรากฏขึ้น เธอนอนอยู่ใต้ร่างเขาเหมือนเต้าหู้นุ่ม ๆ ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือขึ้นสีแดงสดจากความเจ็บปวด ไม่กล้าผลักเขาออกไป ร้องไห้เบา ๆ ร้องขอให้เขาหยุด...

มันรู้สึกดีมาก จนทำให้อวี้เส้าถิงจึงจดจำเหตุการณ์ในคืนนั้นได้อย่างชัดเจน และจู่ ๆ ก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา

ซ่งซูเหยียนกลอกตาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มแกน “พี่สาม ผมต้องการเลขาอยู่พอดี ถ้าพี่สงสัยในตัวผู้หญิงคนนั้น ทำไมไม่ยกเธอให้ผมล่ะ แล้วให้ผมเล่นกับเธอสักสองสามวัน ผมจะจับตาดูเธอให้พี่เอง”

ดวงตาของอวี้เส้าถิงเย็นลงเมื่อเขาได้ยินเขาพูดว่า ‘เล่นกับเธอสักสองสามวัน’ “นายว่างมากนักหรือไง?”

จู่ ๆ เขาก็เลิกยิ้มอย่างจริงจัง ซ่งซูเหยียนสะดุ้ง “ไม่ว่าง ไม่ว่าง ผมมาที่นี่เพราะจะคุยกับพี่เรื่องโครงการพัฒนาในเมืองท่า งั้นตอนนี้เรา…”

“วันนี้ฉันไม่ว่าง!” อวี้เส้าถิงบอกเฮ่อเฉาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “แจ้งผู้บริหารประชุมในอีกสิบทีหลังจากนี้!”

ซ่งซูเหยียนตกตะลึง “???”

ไม่ได้ตกลงกันว่าจะมาคุยเรื่องแผนการพัฒนาเหรอ จู่ ๆ จะไปประชุมแบบนี้ นี่แกล้งกันหรือไง?

……

เฉินฮั่วกำลังแยกแยะข้อมูล จู่ ๆ ก็มีหัวคนโผล่ขึ้นมาข้างคอมพิวเตอร์ ทำให้เธอตกใจ

“เธอชื่อเฉินฮั่วเหรอ?”

ซ่งซูเหยียนมองดูป้ายพนักงานของเธอด้วยรอยยิ้ม

เฉินฮั่วจำเขาได้ว่าเป็นหนุ่มหล่อที่มากับอวี้เส้าถิงเมื่อครู่ เมื่อรู้ว่าเขาเป็นแขกของอวี้เส้าถิง จึงพูดอย่างสุภาพว่า “มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ?”

ตอนนี้เธอประพฤติตนดี อ่อนโยน และสุภาพ ต่างจากที่ตบหน้าคนอื่นอย่างรุนแรงเมื่อครู่ราวกับเป็นคนละคน

ซ่งซูเหยียนหัวเราะ “หน้าเธอมีแผลนะ มันจะเป็นรอยแผลเป็น ให้ฉันพาเธอไปโรงพยาบาลเถอะ ฉันรู้จักโรงพยาบาลศัลยกรรมที่ดาราหลายคนไปทำ เรื่องลบรอยแผลได้ผลดีมากจริง ๆ!”

เฉินฮั่วรู้สึกสับสนเล็กน้อย

เขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลศัลยกรรมหรืออย่างไร คนรวยสมัยนี้ขายของเองเลยเหรอ?

แต่เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนของอวี้เส้าถิงแล้ว เฉินฮั่วก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันยังมีงานต้องทำ"

ซ่งซูเหยียนหัวเราะ “งานนี้พี่สามให้เงินเธอเท่าไหร่กัน ถึงทำให้เธอทุ่มเทขนาดนี้ ไม่อยากย้ายไปทำงานกับฉันเหรอ ฉันให้เธอสองเท่าได้เลยนะ…”

ดวงตาของเฉินฮั่วเป็นประกายเมื่อได้ยินคำว่า 'สองเท่า' แต่ทันใดนั้นเสียงคำรามของอวี้เส้าถิงก็ดังมาจากอินเตอร์คอมบนโต๊ะว่า

“ซ่งซูเหยียน! ไสหัวไป!”

เสือเริ่มโกรธแล้ว! ซ่งซูเหยียนที่กำลังจีบคนอยู่หน้าซีดแล้ววิ่งหนีไปทันที!

เฉินฮั่วมมองดูหลังของเขาที่หนีไปด้วยความเสียดายในใจ เธออยากฟังว่าให้เงินสองเท่าจริงไหม โอกาสทองลอยหายไปแล้ว

จากนั้นก็ไม่มีเสียงจากอินเตอร์คอมอีก

เฉินฮั่วยังคงทำงานต่อไป

ในช่วงบ่าย เฉินฮั่วทำงานล่วงเวลาอีกแล้ว กว่าเธอจะทำงานเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบจะสามทุ่มแล้ว

ตอนเลิกงาน มีความเจ็บปวดรุนแรงเกิดขึ้นที่ข้อเท้า ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะสูดหายใจ ใบหน้าซีดไปเล็กน้อย

เธอมองลงไปและพบว่าข้อเท้าที่บาดเจ็บของเธอบวมเหมือนซาลาเปานึ่ง

เฉินฮั่วกัดริมฝีปากพลางอดทนต่อความเจ็บปวด เธอค่อย ๆ เดินไปที่ประตู หลังจากออกจากห้องทำงานของเลขานุการ ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นเงาดำสูงใหญ่อยู่ไม่ไกล และตกใจจนกรีดร้องทันที

“โอ๊ย!!! ประ... ประธานอวี้?”

เมื่อเห็นใบหน้าของร่างที่มืดมิดอย่างชัดเจน เฉินฮั่วก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

อวี้เส้าถิงเพิ่งออกมาจากห้องทำงาน เสื้อสูทของเขาพับอยู่บนแขน ภายใต้แสงไฟ ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มช่างไร้ที่ติ รูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ บรรยากาศเย็นชาของเขาทำให้ดูห่างเหินอย่างไม่อาจเอื้อมถึง

ผู้ชายคนนี้หล่อมากจริง ๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้หญิงพวกนั้นเต้าข่าวลือเกี่ยวกับเธอด้วยความคับแค้น

เฉินฮั่วไม่คิดว่าดึกขนาดนี้แล้วเขาจะยังไม่เลิกงาน เขาไม่คิดจะส่งเสียงเลยหรืออย่างไร?

รู้ไหมว่าทำให้คนตกใจ อาการตกใจทำให้คนตายได้เลยนะ!

แน่นอนว่า เฉินฮั่วไม่กล้าพูดคำดังกล่าวออกไป เธอทำใจนิ่ง ๆ แล้วทักทายอย่างสุภาพ “ประธานอวี้คุณเพิ่งเลิกงานนี่เอง”

อวี้เส้าถิงมองดูใบหน้าซีดเซียวและหวาดกลัวของหญิงสาวอย่างไม่แยแส และสังเกตเห็นถึงความไม่พอใจที่แวบผ่านตาเธอเมื่อครู่นี้ได้

กล้าต่อสู้กับคนอื่น นึกว่าเธอกล้าหาญแค่ไหน จริง ๆ ก็ขี้ขลาดเหมือนหนูตัวน้อย

ภายใต้กระโปรงสั้น ขายาวคู่สวยสวมถุงน่องสีเนื้อ ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ เรียวขานั้นมีความเย้ายวนใจในแบบที่ผู้ชายทุกคนชอบ เพียงแต่ข้อเท้าข้างขวาที่บวมแดงทำลายความสวยงามนี้

“เจ็บข้อเท้าเหรอ?”

เสียงทุ้มลึกของชายคนนั้นฟังดูชัดเจนและไพเราะเป็นพิเศษในโถงทางเดิน

เฉินฮั่วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่สามารถพูดคุยกับเขาได้ เธอจึงตอบว่า “ค่ะ”

“ทำไมไม่บอกผมล่ะ?”

น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายราวกับว่าเขากำลังคุยกับเธอ

“ไม่จำเป็นนี่คะ”

พูดหรือไม่พูดแล้วจะอย่างไรล่ะ?

คงเป็นเพราะแม่เธอเสียไปตั้งแต่ยังเด็ก สถานะการเงินของเธอไม่ดี เฉินฮั่วจึงคุ้นเคยกับการอดทนต่อความเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเอง เธอจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่อยากรบกวนคนอื่น

อวี้เส้าถิงมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ที่เรียบเฉยของเธอ อาจเป็นเพราะความเจ็บปวด เธอจึงขมวดคิ้วเล็กน้อยเพื่ออดทนต่อความเจ็บปวด แต่ดวงตาที่สดใสและชัดเจนของเธอเต็มไปด้วยความดื้อรั้น

อวี้เส้าถิงหรี่ตาลง “คุณอยากให้ช่วยไหม?”

น้ำเสียงต่ำของชายคนนั้นสุภาพแต่เย็นชา เฉินฮั่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แน่นอนว่าเธอไม่คิดว่าอวี้เส้าถิงจะช่วยเธอจริง ๆ เธอลดสายตาลงแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ ประธานอวี้ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ ดิฉันเดินเองได้”

น้ำเสียงของเธอสุภาพและห่างเหิน

อวี้เส้าถิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยไม่พูดอะไร จากนั้นจึงสาวเท้าไปที่ลิฟต์

เงาร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มเดินผ่านเธอไปโดยไม่หยุดแม้สักก้าวเดียว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status