Share

บทที่ 7

เป็นสายของคุณผู้หญิงอวี้!

ใบหน้าของเฉินฮั่วแข็งทื่อ

เธอรีบหยิบถุงพลาสติกที่ใส่ยาขึ้นมา ผลักประตูรถแล้วลงจากรถ แต่เผลอเอาเท้าไปกระแทกประตูรถ

"โอ๊ย!"

ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้เธอร้องออกมาอย่างไม่อาจทานทนได้

หลังจากร้องออกไปแล้ว เฉินฮั่วก็ตอบสนองทันที ยกมือขึ้นปิดริมฝีปากของเธอไว้โดยไม่รู้ตัว และมองอวี้เส้าถิงด้วยความตื่นตระหนก

แย่แล้ว!

คุณผู้หญิงอวี้คงได้ยินสิ่งที่เธอร้องเมื่อกี้แน่

“ที่รัก นายอยู่กับผู้หญิงคนอื่นหรือ?” วินาทีต่อมา เสียงถามอย่างจริงจังของผู้หญิงก็ดังขึ้นในรถ

ตอนนี้ยิ่งอธิบายก็จะยิ่งไปกันใหญ่

เฉินฮั่วมองไปยังอวี้เส้าถิงด้วยสีหน้าขอโทษ เธอนั่งหันแล้วหลังลงจากรถไปราวกับกำลังวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด

เธอเดินกะโผลกกะเผลกเกือบจะล้มแล้ว ฝืนยืนให้มั่นคงอย่างตื่นตระหนก เธอยืนอยู่กับที่และอดทนต่อความเจ็บปวดแล้วรีบก้าวไปข้างหน้า

แสงสลัวส่งกระทบรูปร่างเพรียวของหญิงสาว เอวของเธอส่ายไปมา ร่างกายบอบบางเหมือนต้นหลิวที่ลู่ลม ทำให้คนรู้สึกอยากโอบเธอไว้ในอ้อมแขน

“ที่รัก ทำไมนายไม่พูดอะไรล่ะ? นายอยู่กับผู้หญิงที่ไหน?”

ร่างเล็ก ๆ ของเฉินฮั่วหายไปที่ประตูเข้าอาคาร

อวี้เส้าถิงค่อย ๆ ละสายตากลับมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ซ่งเจียหนิง เธอไม่สบายหรือไง?”

ในโทรศัพท์ ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะเบา ๆ “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะขัดจังหวะความสุขของนาย ไม่ต้องดุขนาดนั้นก็ได้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักใหม่ของนายเหรอ?”

“ถ้าไม่มีอะไร ก็วางสายซะ!”

“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันมีธุระสำคัญจะคุยด้วย”

เธอรู้ว่าเขาพูดจริงทำจริงมาโดยตลอด ซ่งเจียหนิงจึงไม่กล้าเล่นมุกอีก “เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ฉันจะกลับจีนเดือนหน้า นายไปรับฉันที่สนามบินนะ”

อวี้เส้าถิงหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา “ซ่งเจียหนิง เธอต้องให้ฉันเตือนเธอไหมว่าเราแค่แต่งงานตามข้อตกลง? อย่าเอาปัญหาของเธอมาโยนใส่ฉัน!"

หลังจากพูดแล้วเขาก็วางสายโทรศัพท์โดยไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวฝ่ายตรงข้ามพูด

ไม่ไกลนัก ไฟสีเหลืองนวลสว่างขึ้นในห้องที่ชั้นหนึ่ง ม่านถูกดึงมากางปิดไว้ กันไม่ให้มองเห็นด้านในของห้อง

อวี้เส้าถิงจ้องมองที่หน้าต่างสักพัก

มองออกไปอย่างเงียบ ๆ ก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไป ไม่นานรถคันหรูก็หายไปในค่ำคืนอันมืดมิดหนาวเหน็บ

……

ทันทีที่ เฉินฮั่วเดินเข้ามา เสิ่นอินอินเพื่อนสนิทของเธอก็รีบเข้ามากอดเธออย่างตื่นเต้น

“เสี่ยวฮั่ว แฟนใหม่ของเธอเพิ่งมาส่งเหรอ? โอ้โห ผู้ชายคนนั้นขับรถมายบัคเชียวนะ! เขารวยมากจริง ๆ!”

เฉินฮั่วยิ้ม “เท้าของฉันแพลง ให้ฉันนั่งลงก่อนเถอะนะ”

“หา? เกิดอะไรขึ้น? ให้ฉันช่วยพยุงดีกว่า”

ทั้งสองนั่งลงบนโซฟา เฉินฮั่วอธิบายเรื่องอาการบาดเจ็บ เธอไม่อยากให้เสิ่นอินอินกังวล จึงบอกไปว่าเป็นเพราะสะดุดตอนขึ้นบันได

เธอชะงักและถามว่า “ละครเรื่องใหม่ของเธอเป็นยังไงบ้าง? ได้เป็นนักแสดงนำหญิงลำดัลที่สี่จริง ๆ เหรอ?”

ใบหน้าของเสิ่นอินอินหม่นลง “อย่าพูดถึงเลย มีคนพกเงินเข้ากอง ฉันเลยโดนเปลี่ยนตัวออก”

เฉินฮั่วและเสิ่นอินอินเป็นเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัย หลังจากสำเร็จการศึกษา ทั้งสองเช่าห้องนี้อยู่ด้วยกัน เสิ่นอินอินทำงานในวงการบันเทิง แต่น่าเสียดายที่เธอไม่มีเงินและคนคอยหนุนหลัง ดังนั้นเธอจึงไม่เคยประสบความสำเร็จ

เฉินฮั่วเอื้อมมือไปกอดเธอ “อย่าเศร้าไปเลย บางทีครั้งต่อไปเธออาจจะได้รับบทบาทดี ๆ ก็ได้”

“ฉันชินแล้วล่ะ” เสิ่นอินอินยิ้มหยัน “เลิกพูดเรื่องของฉันเถอะ เล่าเรื่องแฟนใหม่ของเธอบ้าง รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?”

“เขาไม่ใช่คนรักของฉันหรอก เขาเป็นประธานบริษัทของเรา แล้วเขาก็แต่งงานแล้วด้วย”

“แต่งงานแล้ว?”

ทันใดนั้น ใบหน้าของเสิ่นอินอินก็เปลี่ยนไป เธอพูดด้วยความโกรธ “แต่งงานแล้วแต่ยังมาส่งเธอที่บ้านเนี่ยนะ ผู้ชายที่แต่งงานแล้วชอบหลอกสาวน้อยอย่างนี้แหละ! เสี่ยวฮั่วอย่าหลงกลล่ะ! ไม่อย่างนั้นเธอก็ลาออกไปจากอวี้กรุ๊ป อยู่ให้ห่างจากคนชั่วคนนี้ไปซะ!”

เฉินฮั่วส่ายหัว “เงินเดือนของอวี้กรุ๊ปสูงขนาดนั้น ฉันต้องการเงินเลยยังลาออกไม่ได้ ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ตัวเองดี"

อวี้เส้าถิงไม่ได้โกหกเธอ และเธอควรอยู่ให้ห่างจากเขา

อย่างไรก็ตาม คืนนี้เธอพูดอย่างชัดเจนแล้ว อวี้เส้าถิงคงไม่น่ามายุ่งเกี่ยวกับเธออีก

เสิ่นอินอินมองเธอด้วยสายตาที่ซับซ้อน “เสี่ยวฮั่ว เธอยังรอเสิ่นเชียนเหวินอยู่หรือเปล่า?”

เมื่อเอ่ยถึงชื่อของคนคนนั้นเฉินฮั่วก็ชะงักไป ความรู้สึกที่ซับซ้อนฉายวาบในดวงตาของเธอ

เสิ่นอินอินเห็นสิ่งนี้ในดวงตาของเธอและตบไหล่เธออย่างปลอบใจ “เสี่ยวฮั่ว เขาไม่ติดต่อเธอมานานขนาดนี้ จงใจหายไป เพราะเขาไม่อยากอยู่กับเธอแล้ว เธอควรตื่นได้แล้วนะ อย่าจมอยู่กับมันเลย มองไปข้างหน้าได้แล้ว”

เสิ่นเชียนเหวินคบหากับเฉินฮั่วมาสองปีแล้ว แต่จู่ ๆ เมื่อสองเดือนก่อนเขาก็หายหน้าไป

บางครั้ง เฉินฮั่วก็รู้สึกราวกับว่าเธอไม่เคยรู้จักเสิ่นเชียนเหวินมาก่อนแม้แต่น้อย

……

สองวันถัดมาคือวันเสาร์และวันอาทิตย์ เฉินฮั่วหยุดพักเป็นเวลาสองวัน ตอนเช้าวันจันทร์ที่ไปทำงาน ขาของเธอก็หายดีเกือบสนิทแล้ว

ทันทีที่มาถึงบริษัท เฉินฮั่วก็ได้ยินข่าวว่าพนักงานหญิงที่แพร่ข่าวลือในห้องน้ำชาถูกไล่ออก

ไม่คิดว่าอวี้เส้าถิงจะไล่พวกเธอออก เมื่อคิดอีกที อวี้เส้าถิงรู้เรื่องข่าวลือ เขาต้องโกรธมากแน่ การไล่คนพวกนั้นออกก็ถือเป็นเรื่องปกติ

เฉินฮั่วทะเลาะกับเฉียวอันน่าครั้งหนึ่ง อีกทั้งพวกที่นินทาก็ถูกไล่ออก ไม่มีใครกล้าแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับเธอและอวี้เส้าถิงในบริษัทอีก

เฉียวอันน่าเกลียดแค้นเธอ จึงใช้ประโยชน์จากงานจงใจให้เฉินฮั่วจัดการเอกสารและข้อมูลจำนวนมาก

เธอมีเหตุผลที่สมควร เฉินฮั่วจึงพูดอะไรไม่ได้ เธอนั่งทำงานทั้งวันยุ่งจนแทบไม่ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้

เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงาน เฉินฮั่วก็มาถึงประตูห้องทำงานของประธาน

เธอไม่อยากติดหนี้บุญคุณอวี้เส้าถิง จึงวางแผนจะคืนค่ารักษาให้เขา

ประตูห้องทำงานของประธานไม่ได้ปิดแน่น เฉินฮั่วกำลังจะเคาะประตู ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะอ่อนหวานของผู้หญิงดังออกมาจากข้างใน

“ประธานอวี้ ฉันรู้จักบ่อน้ำพุร้อนที่ดีมากค่ะ คุณทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ฉันจองที่ไว้แล้ว เราไปผ่อนคลายกันเถอะค่ะ”

เป็นเสียงของเฉียวอันน่า

เฉินฮั่วเหลือบมองไปเล็กน้อย

ผ่านรอยแยกของประตู จากมุมของเธอเห็นเพียงขากางเกงสีดำเทาของผู้ชาย ขาเปลือยของผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงซึ่งถูเบา ๆ กับขาผู้ชาย ภาพนั้นดูเย้ายวนมาก

อวี้เส้าถิงไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงการยั่วเย้าของเฉียวอันน่า ราวกับว่าเขากำลังเพลิดเพลินกับการยั่วยวนนั้นของเฉียวอันน่า

เกมสำหรับผู้ใหญ่ เธอเข้าใจทุกอย่างแล้ว

เฉินฮั่วถอนสายตา และเดินออกไป

ไม่คิดว่าจะเห็นภาพที่อวี้เส้าถิงกับเฉียวอันน่าหยอกเย้ากัน

แม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้วแต่อวี้เส้าถิงก็ยังมีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาเลยเหรอ?

เขาอาจจะไม่สนใจจริง ๆ นั่นแหละ ไม่อย่างนั้นคืนนั้นเขาคงไม่ทำเรื่องอย่างว่ากับเธอที่หงโหลว...

คนรวยมีทุน มีทุนไว้เล่นสนุก ไม่มีใครที่จริงใจสักคน

แต่ทว่า นี่เป็นเรื่องส่วนตัว และเธอไม่มีสิทธิ์พูดอะไร

……

หลังจากออกจากบริษัท เฉินฮั่วก็ขึ้นรถบัสไปที่หงโหลว

เธอทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ที่นี่เพื่อหาเงินมาตั้งแต่เรียนปีสาม

“น้องสาว ไม่คิดจะพิจารณาอีกทีเหรอ? ฉันไม่ได้หลอกเธอนะ ด้วยหน้าตาของเธอ ครึ่งเดือนฉันก็ทำให้เธอกลายเป็นดาวเด่นได้แล้ว ชีวิตที่เหลือของเธอก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าไปตลอดชีวิตเลยนะ”

พี่หงเจ้าของบาร์ใส่ชุดราตรีสีแดงเปลือยไหล่ พ่นควันบุหรี่วงสวยไปยังเฉินฮั่ว

เธอส่ายหน้า “พี่หง ฉันจะขายแค่ครั้งเดียว จากนี้ไป ฉันแค่อยากทำงานหาเงินเท่านั้น”

พี่หงไม่ได้บังคับเธอ “ก็ได้ แต่ถ้าเธอเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็มาหาฉันได้เลยนะ”

เธอหยุดยิ้ม และพูดติดตลก “ว่าแต่ คืนนั้นเป็นยังไงบ้าง? ผู้ชายคนนั้นสุดยอดเลยใช่ไหม?”

ทันใดนั้น ใบหน้าของเฉินฮั่วก็เปลี่ยนเป็นสีแดง “พี่หง ... “

“หึ ดูเหมือนเธอจะสนุกนะ”

พี่หงยิ้มอย่างมีเลศนัย พูดหยอกล้อเธอสองสามคำก่อนจะไปต้อนรับลูกค้า

ใบหน้าของเฉินฮั่วแดงฉาน ไม่ว่าเธอจะพยายามควบคุมตัวเองอย่างหนักเท่าไร บางฉากจากคืนนั้นก็ยังผุดขึ้นมาในหัวของเธออย่างห้ามไม่ได้

ที่จริงแล้วเธอยังรู้สึกเจ็บเล็กน้อยจนถึงตอนนี้

อวี้เส้าถิงไม่เพียงแต่เก่งเท่านั้น แต่ยังยอดเยี่ยมเกินไปอีกด้วย

เดี๋ยวก่อน นี่เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย!

เฉินฮั่วส่ายหน้า โยนความคิดยุ่ง ๆ เหล่านี้ออกไปจากหัว สวมชุดบาร์เทนเดอร์และเริ่มทำงาน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status