เฉินฮั่วตกตะลึง จากนั้นก็ตระหนักว่าเธอยังจับแขนของอวี้เส้าถิงอยู่ จึงรีบปล่อยมือทันที“ดิฉันขอโทษค่ะ ประธานอวี้ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามายุ่ง” เฉินฮั่วก้มหน้าลงและขอโทษอย่างแผ่วเบา “ขอโทษที่รบกวนค่ะ ดิฉันจะไปเดี๋ยวนี้”หลังจากพูดอย่างนั้นเฉินฮั่วก็ยืนขึ้นเตรียมจะเดินออกไปตอนที่ต้องการใช้เขา ก็ทำเสียงอ่อนหวานประจบเขา เอาเขาเป็นโล่กำบังหลังจากใช้ประโยชน์เสร็จก็ดูเหมือนจะขอโทษอย่างสุภาพแล้วก็จากไปอย่างง่ายดายเขาใจดีกับเธอเกินไปหรืออย่างไร?อวี้เส้าถิงหรี่ตาลงและพูดอย่างเย็นชา “ไม่ใช่มาอยู่กับฉันหรอกเหรอ?”เฉินฮั่วหยุดชะงัก เขาหมายความว่าอย่างไร?อวี้เส้าถิงมองดวงตาที่ใสสะอาดของเธอ “อยากจะทำการค้าอีกแล้วเหรอ?”ภายในห้องเงียบกริบ เสียงของเขาดังชัดเจนมากปากของผู้ชายคนนี้ช่างร้ายกาจ เฉินฮั่วรู้สึกเขินอายเล็กน้อย “ไม่ใช่ค่ะ ดิฉันมาทำงานแล้วก็ถูกคนคนนั้นมารบกวน”“อืม มาทำงานจริง ๆ ด้วย ทำงานที่บริษัทตอนกลางวัน ตอนกลางคืนก็ยังทำงานพาร์ทไทม์อีก เป็นคนทำงานดีจริง ๆ”แม้จะพูดแบบนั้น แต่น้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยการเสียดสีเฉินฮั่วกล่าวคำว่า "ทำงาน" หมายถึงการทำงานในบาร์ และอวี้เส้
อวี้เส้าถิงสูดควันบุหรี่เข้าไปลึก ๆ แล้วใช้มือยาวที่มีข้อนิ้วชัดเจนบีบหน้าของเธอพร้อมโน้มใบหน้าลงทั้งกระบวนการใช้เวลาไม่ถึงสามวินาที เฉินฮั่วยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกขังอยู่ในอ้อมแขนของอวี้เส้าถิงแล้ว!กลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ ห่อหุ้มเธอไว้ ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มอยู่ห่างจากริมฝีปากของเธอไม่ถึงสองเซนติเมตรเฉินฮั่วตกตะลึง ตัวสั่นไปทั้งร่างไม่กี่วินาทีก็ฟื้นคืนสติ พอตั้งสติได้ก็เริ่มดิ้น “ประธานอวี้ คุณจะทำอะไร?”อวี้เส้าถิงล็อกข้อมือทั้งสองของเธอไว้ด้านหลังด้วยมือข้างเดียว เธอดิ้นไม่หลุด แถมยิ่งดิ้นก็ยิ่งทำให้ร่างกายของเธอแนบชิดกับหน้าอกของเขามากขึ้น กลับกลายเป็นคำเชิญที่ไร้คำพูดผิวหนังบนหน้าอกของเธอขาวเนียนสะดุดตา อวี้เส้าถิงหรี่ตามองแล้วริมฝีปากบางก็ลงไปที่ลำคอของร่างเล็กทันใดนั้นเฉินฮั่วก็เบิกตากว้าง!เขากำลังกัดเธอ!แต่ก็ไม่นับเป็นการกัด เพราะเธอไม่รู้สึกเจ็บฟันของอวี้เส้าถิงขบเนื้ออ่อนที่คอของเธอ และบดเล็กน้อยเฉินฮั่วสั่นไปทั้งตัว กลัวว่าอีกวินาทีเดียวเธอจะถูกกัดทะลุลำคอและหลอดเลือดแดง!เธอไม่กล้าแม้แต่จะผลักเขาออกไปที่จริงแล้ว อวี้เส้าถิงอยากจะกัดเธอจริง ๆ เขาไม่ได้เ
เฉินฮั่วไม่ได้ติดต่อกับอวี้เส้าถิงเธอเพิ่งปฏิเสธเขาไป ตอนนี้จะไปขอให้เขาช่วย เธอเองก็พูดไม่ออกตกดึก หลังจากที่เฉินฮั่วอาบน้ำเสร็จ เธอก็ได้รับเอกสารเกี่ยวกับการประชุมในวันพรุ่งนี้จากเฮ่อเฉาเอกสารมีเนื้อหามากมาย เฉินฮั่วอดนอนทั้งคืนกว่าจะอ่านจบ พอฟ้าสางก็เอนหลังลงนอนหลับไปนิดหน่อย“เสี่ยวฮั่ว ตื่นสิ! เสี่ยวฮั่ว ตื่นเร็วเข้า!”เฉินฮั่วถูกปลุกให้ตื่นในสภาพสะลึมสะลือ เมื่อเปิดตาเห็นเสิ่นอินอินยืนอยู่ข้างเตียงด้วยใบหน้าวิตกกังวล เธอขยี้ตา “อินอิน กลับมาแล้วเหรอ อืม กี่โมงแล้ว?”“จะแปดโมงแล้ว เธอมีไข้นะ! ตัวเธอร้อนมาก รีบใส่เสื้อผ้าเร็ว ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล”เสิ่นอินอินถ่ายละครตอนกลางคืน เธอกลับมาจากที่ทำงานก็เห็นเฉินฮั่วนอนอยู่บนโซฟา พอเธอเรียกให้ตื่นก็พบว่าเฉินฮั่วมีไข้สูง“แปดโมงแล้วเหรอ?”เฉินฮั่วตื่นขึ้นทันที ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกเวียนศีรษะกะทันหัน เกือบจะตกจากโซฟา เสิ่นอินอินรีบคว้าตัวเธอไว้ด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เสี่ยวฮั่ว เธอเป็นอะไรไหม?”เธอปวดหัวอย่างรุนแรงหลังจากนอนดึกเมื่อคืนนี้เฉินฮั่วส่ายหัว “ฉันไม่เป็นไร วันนี้มีประชุมสำคัญที่บริษัท ฉันใกล้จะส
เฮ่อเฉามองด้วยความประหลาดใจ พลางคิดในใจว่า ‘จะไม่เห็นได้ยังไง นี่เขาปกป้องเลขาเฉินชัด ๆ’“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”ขณะที่เขากำลังพูด จู่ ๆ ก็มีคนมาเคาะประตูห้องทำงานของประธานอวี้เส้าถิง “เข้ามา”เฉินฮั่วผลักประตูให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไป“โอ้โห เลขาเฉินวันนี้ดูสวยเชียวนะครับ ประธานอวี้ ไม่ว่าการซื้อกิจการจะประสบความสำเร็จหรือไม่ อย่างน้อยฝ่ายเราก็คงจะชนะในแง่ของรูปลักษณ์อย่างแน่นอน”วันนี้เฉินฮั่วยังคงสวมชุดทำงาน แต่ชุดทำงานวันนี้ไม่ใช่สีขาวดำอย่างที่เธอมักจะสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงทรงดินสอสีชมพูอ่อน และรองเท้าส้นเข็มสีทองอ่อน สีค่อนข้างน่าดึงดูดมาก หากใส่ไม่ดีจะดูแก่และล้าสมัย แต่เธอใส่ออกมาแล้วกลับดูดีมากหญิงสาวในวัยอย่างเธอ รูปร่างหน้าตางดงาม ใบหน้าสวยงามขาวอมชมพู เหมือนดอกไม้ตูมที่ยืนต้นสวยงาม บอบบางจนน่าหยิบ น่าทะนุถนอม ไม่อาจปล่อยให้ยุงไต่ไรตอมได้เป็นเรื่องจริงหากเกิดอะไรขึ้น ใช้แรงเพียงเล็กน้อยก็ร้องไห้ไม่หยุดแล้ว...นิ้วเรียวยาวของอวี้เส้าถิงค่อย ๆ ลูบถ้วยกาแฟอย่างช้า ๆ สายตาจ้องมองเธออย่างเยือกเย็นสายตาของชายหนุ่มดูเหมือนจะเรียบเฉยแต่กลับมีความก้าวร้าวแฝงอยู่เฉินฮ
เฉินฮั่วไม่ต้องการรับคำตำหนิ ดังนั้นเธอคิดว่าจำเป็นต้องอธิบาย“ประธานอวี้ ผู้อำนวยการหลินและดิฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน เขาแค่เห็นว่าดิฉันป่วยเลยหวังดีให้เสื้อดิฉันเท่านั้นค่ะ”หวังดี...อวี้เส้าถิงหัวเราะเยาะเย้ย “เลขาเฉิน ความหวังดีของผู้ชายล้วนมีจุดประสงค์ทั้งนั้น”เฉินฮั่วพูดไม่ออก “ประธานอวี้ ผู้อำนวยการหลินแค่เป็นห่วงในฐานะเพื่อนร่วมงาน อย่าพูดเหมือนว่าทุกคนเหมือนคุณสิคะ”“เหมือนผมยังไง?”เฉินฮั่วหน้าแดงอยู่บ้าง มองเขา แต่เขินอายจนไม่กล้าพูดออกมาแต่อวี้เส้าถิงช่วยพูดแทนเธอว่า “เหมือนผมที่อยากนอนกับคุณน่ะเหรอ?”เฉินฮั่ว "..."นี่เขาจะช่วยหยุดพูดคำสกปรกแบบนี้ออกมาตรง ๆ ได้ไหม!ความเย็นชาของเขาระหว่างการประชุมเมื่อกี้หายไปไหนแล้ว?อวี้เส้าถิงมองดูเธอ “ผมอยากนอนกับคุณ ผมบอกคุณชัดเจนแล้ว คุณคิดว่าเขาไม่อยากนอนกับคุณเหรอ? เลขาเฉิน คุณรู้สึกขอบคุณผู้ชายที่มีความคิดว่าอยากจะนอนคุณเนี่ยนะ ไข้ขึ้นจนสมองกลับรึยังไง?”เฉินฮั่วพูดไม่ออก ที่หน้าแดงก็ไม่รู้เพราะไข้หรือเพราะอายแล้ว “ประธานอวี้ คุณหยุดพูดสักทีได้ไหมคะ! ดิฉัน... ดิฉันจะกลับไปสำนักงานแล้ว ขอตัวค่ะ!”เธอไม่อยากได้
ร่างกายของหญิงสาวนุ่มนิ่มและอุ่นราวกับก้อนสำลีอวี้เส้าถิงถูกเธอกอดโดยไม่ทันระวัง คิ้วของเขาขมวดขึ้นเล็กน้อย“เลขาเฉิน ถ้าคุณไม่ปล่อยผม ผมก็จะไม่รังเกียจที่จะทำให้คุณเสียเหงื่อด้วยวิธีอื่นหรอกนะ!”เธอไม่รู้ตัวก็จริง แต่เขาตื่นเต็มที่ ไม่สามารถทนต่อการยั่วยวนของเธอได้“......”เฉินฮั่วพึมพำไม่ได้ศัพท์เป็นระยะ ๆอวี้เส้าถิงตั้งใจฟังและได้ยินคำพูดของเธอซ้ำไปซ้ำมาเช่น 'แม่อย่าไป'เธอคิดว่าเขาเป็นแม่ของเธอจริง ๆ สินะ!ใบหน้าหล่อเหลาของอวี้เส้าถิงกลายเป็นหน้ามุ่ยทันที เขาพูดอย่างไม่พอใจว่า “เฉินฮั่ว ตื่น!”“ถ้าคุณไม่ตื่น ผมจะหักเงินเดือนคุณ!”“เฉินฮั่ว ผมจะนับถึงสาม ถ้าคุณไม่ตื่น ผมจะไล่คุณออก!”“...”เฉินฮั่วไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อยเป็นเรื่องยากที่อวี้เส้าถิงจะทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ เขาจึงโกรธมากเขาอยากจะหยิกผู้หญิงในอ้อมแขนให้ตื่น แต่เมื่อมองดูใบหน้าเล็ก ๆ ที่ซีดเซียวของเธอแล้วเขาก็ทำไม่ลงอย่างน่าประหลาดในท้ายที่สุด เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องนั่งลงบนโซฟาแล้วกอดเธอไว้อวี้เส้าถิงนำมือเล็ก ๆ ที่ถูกแทงสายน้ำเกลือไว้ด้านหน้า จับข้อมือเล็ก ๆ ของเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอเคลื่อนไหววิธ
“เอ๋?”“เฉินฮั่ว สีหน้าเธอนี่มันหมายความว่ายังไง? เธอคิดว่าฉันจงใจเอาเปรียบเธออย่างนั้นเหรอ?” อวี้เส้าถิงจ้องมองเธออย่างเย็นชา“...”เฉินฮั่วคิดอย่างนั้นจริง ๆเธอไม่เชื่อว่าเธอจะทำอะไรอย่างการจับเขาไว้ไม่ยอมปล่อยแบบนั้นใบหน้าหล่อเหลาของอวี้เส้าถิงตึงขึ้น “เธอฝันถึงแม่ของเธอ คิดว่าฉันเป็นท่าน เธอเลยกอดฉันไว้ไม่ยอมปล่อย!”โชคดีที่เขาคอยปกป้องข้อมือของเธอไว้จนน้ำเกลือหมดถุงและถอดเข็มออกให้ถ้ารู้ก่อนอย่างนี้เขาคงไม่มายุ่งด้วย!ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในดวงตาของเฉินฮั่ว เธอจำได้ว่าเธอจับมือแม่เธอในความฝัน และรู้สึกว่าแม่อยู่เคียงข้างเธอจริง ๆ ความรู้สึกเหมือนจริงมาก แต่กลายเป็นว่าอวี้เส้าถิงอยู่ข้าง ๆ เธอ ในเวลานั้น...อันที่จริงแม่ของเธอเสียชีวิตไปหลายปีแล้วเธอชินแล้วและฝันถึงแม่ไม่บ่อยครั้งนักร่องรอยของความโศกเศร้าแวบขึ้นมาในดวงตาของเฉินฮั่ว เธอมองเห็นขวดน้ำเกลือข้าง ๆ และเปลี่ยนเรื่อง "ประธานอวี้ ทำไมคุณถึงขอให้หมอรักษาฉันล่ะคะ?"อวี้เส้าถิงจ้องมองเธอด้วยดวงตามืดลง “เธอคิดว่าไงล่ะ?”ชายคนนั้นไม่ตอบแต่ถามกลับ น้ำเสียงต่ำฟังดูขี้เล่นเล็กน้อย แต่ความหมายก็ชัดเจนในตัวเองเฉินฮ
จิตใจของเฉินฮั่วสับสนอย่างหนักนิ้วมือขาวซีดของเธอเกร็งแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวอวี้เส้าถิงมองเธออย่างไม่แยแส ไม่เร่งรัดอะไรเธอ นิ้วมือเรียวยาวของเขาเคาะเบา ๆ บนโต๊ะด้วยความอดทนเสียงเคาะแต่ละที เหมือนเสียงกลองที่ตีกระทบลงบนหัวใจของเฉินฮั่วหนึ่งครั้งเฉินฮั่วพูดกับตัวเองในใจว่า… แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว!เฉินฮั่วกัดริมฝีปากแล้วเดินไปหาอวี้เส้าถิงระยะทางจากบริเวณพื้นที่รับแขกไปจนถึงจุดที่อวี้เส้าถิงนั่งอยู่นั้นอยู่ไม่ไกลมาก แต่ระยะทางเพียงไม่กี่ก้าวเธอกลับรู้สึกว่ายาวนานเป็นพิเศษอวี้เส้าถิงจ้องไปที่หญิงสาวที่ค่อย ๆ ย่างก้าวเข้ามาหาเขาด้วยสายตาเยือกเย็น ในแววตาของเขามีประกายลึกลับแฝงอยู่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก การกระทำของเธอบอกถึงการตัดสินใจที่ชัดเจนอยู่แล้วเฉินฮั่วเดินไปหาอวี้เส้าถิงอวี้เส้าถิงหรี่ตาลง เหยียดมือใหญ่ของเขาออกเพื่อกอดเอวอันเรียวบางของเธอ และดึงเธอให้นั่งลงบนตักของเขาด้วยแรงเพียงเล็กน้อยลมหายใจทรงพลังของเขาสร้างกำแพงล่องหนห้อมล้อมร่างเล็กในทันที ห่อหุ้มกายเธอไว้แน่นเฉินฮั่วขยับตัวอย่างกระวนกระวาย ร่างกายของอวี้เส้าถิงแข็งทื่อ แขนที่โ