ที่หน้าอ่างล้างมือในห้องน้ำเฉินฮั่วกวักน้ำขึ้นมาสาดลงบนแก้ม จ้องมองตัวเองในกระจกอย่างเหม่อลอยเกือบไปแล้ว เธอเกือบจะทำแบบนั้นกับอวี้เส้าถิงเข้าแล้วจริง ๆแม้จะไม่ได้เกิดขึ้น แต่ไม่รู้ทำไมเธอกลับรู้สึกว่าตัวเองเต็มไปด้วยกลิ่นอายของอวี้เส้าถิงการหายใจหนักหน่วงของชายคนนั้นคล้ายจะยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขาเฉินฮั่วกัดริมฝีปาก สูดหายใจเข้าลึก ๆ และเลิกคิดถึงภาพวาบหวามเหล่านั้นเธอหยิบมือถือออกมา เปิดที่รูปโปรไฟล์ในไลน์ของเสิ่นเชียนเหวินข้อความสุดท้ายที่เสิ่นเชียนเหวินส่งถึงเธอคือเมื่อสองเดือนก่อนเขาบอกว่ามีธุระด่วนต้องกลับบ้าน แล้วจะพาเธอไปพบพ่อแม่ พอกลับมาแล้วจะคุยเรื่องกำหนดการแต่งงานแต่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เสิ่นเชียนเหวินก็หายตัวไปจากโลก ไม่มีข่าวใด ๆ อีกเลยเฉินฮั่วมองไปที่กล่องข้อความด้วยสายตาที่ซับซ้อน เสิ่นเชียนเหวิน คุณอยู่ที่ไหน?"ครืด..."ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเฉินฮั่วกลับมามีสติอีกครั้ง เมื่อเห็นหมายเลขบนหน้าจอ แสงสว่างในตาก็พลันมอดดับลงอย่างรวดเร็วอีกครั้งเฉินฮั่วรับโทรศัพท์ เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธของจางเหม่ยจือก็ดังก้องอยู่ในหูของเธอ “เฉินฮั่ว ทำไ
กลางดึกคืนนั้น เฉินฮั่วและเสิ่นอินอินมายังแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลแพทย์บอกว่า จางเหม่ยจือพยายามฆ่าตัวตายด้วยการปาดข้อมือที่บ้าน โชคดีที่คนทวงหนี้มาพบเธอเข้าจึงส่งตัวมาโรงพยาบาลในห้องผู้ป่วย จางเหม่ยจือนอนหลับตาแน่นอยู่บนเตียงพร้อมกับสายน้ำเกลือ ใบหน้าของเธอซีดเซียว และผมแห้งเหลือง ดูทรุดโทรมมากกว่าเมื่อครั้งที่แล้วที่พบกันมาก“คุณจาง คุณจาง?” เฉินฮั่วยืนอยู่ข้างเตียงและตะโกนเบา ๆหลังจากนั้นไม่นาน จางเหม่ยจือก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สายตาไร้ความรู้สึกเมื่อเห็นเธอก็ตกใจเล็กน้อย แล้วหันหน้าหนีอย่างเย็นชา “เธอมาทำอะไรที่นี่ ออกไป!”เฉินฮั่วสะดุ้งและเหลือบมองผ้าก๊อซที่พันรอบข้อมือของเธอ “คุณจาง ทำไมคุณทำแบบนี้ คุณหนูเซี่ยยังอยู่ในคุก ถ้าเธอรู้ว่าคุณทำร้ายตัวเอง เธอจะต้องเสียใจมากแน่”จางเหม่ยจือยิ้มเยาะ หันหน้าไปจ้องมองเธออย่างดุดัน “เธอไม่ช่วยเสี่ยวเวยอยู่แล้ว เสี่ยวเวยถูกขังอยู่ข้างใน จะรู้ได้ยังไง?”เฉินฮั่ว “...”“พอแล้ว เธอไม่ต้องพูดอะไรอีก ฉันรู้ว่าขอให้เธอช่วยมันลำบากสำหรับเธอ! เธอไม่ต้องมาแสดงละครแถวนี้แล้ว เฉินฮั่ว ฉันจะไม่ขอให้เธอช่วยเสี่ยวเวยแล้ว ลูกสาวของฉันกำลังจะตาย และฉัน
เมื่อเฉินฮั่วเดินออกจากห้องผู้ป่วย พยาบาลคนหนึ่งเรียกเธอแล้วส่งใบเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลให้เธอค่ารักษาพยาบาลกว่าหนึ่งหมื่นบาท เฉินฮั่วไม่มีเงินมากขนาดนั้น ดังนั้นเสิ่นอินอินที่ไล่ตามเธอจึงช่วยเธอจ่ายเงินไปให้ก่อน“อินอินถ้าฉันหาเงินได้ ฉันจะคืนให้เธอนะ”ก่อนหน้านี้เพื่อหาค่าประกันตัว เฉินฮั่วเคยยืมเงินจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทจากเสิ่นอินอินด้วยใบหน้าของเสิ่นอินอินเต็มไปด้วยความจริงจัง “ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดเรื่องเงินเลย! เสี่ยวฮั่ว เธออยากจะไปหาประธานอวี้จริง ๆ เหรอ? เธอดูไม่ออกเหรอว่ายายป้านั่นกำลังเล่นลูกไม้ใส่เราอยู่? หล่อนดูเหมือนคนอยากตายจริง ๆ เสียที่ไหน! แค่แกล้งทำเพื่อบีบให้เธอทำตามต่างหาก!”หากคนคนหนึ่งต้องการที่จะตายจริง ๆ ก็มีตั้งหลายวิธี จางเหม่ยจื่อปาดข้อมือของตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย แต่กลับถูกคนพบเข้าพอดี ไม่บังเอิญไปหน่อยหรือไรเฉินฮั่วเม้มริมฝีปาก พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “บางทีเธออาจจะกำลังเล่นลูกไม้อยู่จริง ๆ แต่ไม่สำคัญหรอกว่าเธอเล่นลูกไม้หรือเปล่า ยังไงฉันก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี ถูกไหมล่ะ?”ถ้าเธอไม่ช่วยเซี่ยเสี่ยวเวย คุณจางคงขู่ว่าจะตายไม่เลิก คำว่า “ฉันไม่สนใจ” สี่ค
เฉินฮั่วเคยคาดเดาถึงเรื่องไม่ดีต่าง ๆ มากมาย กังวลว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุ กังวลว่าเขาจะถูกลักพาตัว…สิ่งเดียวที่ไม่ได้คาดเดาก็คือ เสิ่นเชียนเหวินจะกลับบ้านไปแต่งงาน!เสิ่นเชียนเหวินแต่งงานกับคุณหนูตระกูลเศรษฐีผู้ซึ่งมีฐานะเท่าเทียมกัน พิธีกรในงานแต่งใช้ถ้อยคำชื่นชมบ่าวสาวเพื่อบรรยายงานสมรสระหว่างหนุ่มหล่อและสาวสวยตระกูลเศรษฐี ทำให้ทุกคนต่างอิจฉาหัวสมองของเฉินฮั่วว่างเปล่า เธอมองไปที่ชายบนหน้าจออยู่พักหนึ่ง จากนั้นเดินไปที่ประตูโรงพยาบาลโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามองพวกเขาอยู่ด้วยกันมาสองปี เสิ่นเชียนเหวินเป็นคนประหยัดอดออม และมักจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดอยู่เสมอ เฉินฮั่วคิดมาตลอดว่าครอบครัวของเขายากจนจู่ ๆ แฟนของเธอก็กลายเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยและไปแต่งงานกับคนอื่น เฉินฮั่วไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวเธอเอง!เธอรู้สึกว่ามันไร้สาระไปหน่อย เพราะเวลาสองปีเต็มนั้น ยกเว้นชื่อเสิ่นเชียนเหวิน เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเขาที่เธอรู้ล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด!ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เธอกังวลเรื่องเขาจนนอนไม่หลับ พยายามคิดหาวิธีตามหาเขา แต่หารู้ไม่ อีกฝ่ายกลับกำ
อันที่จริง เมื่อเฮ่อเฉาเห็นเฉินฮั่วและจำเธอได้ เขาก็เริ่มชะลอรถแล้ว หลังจากได้ยินคำสั่งของอวี้เส้าถิงเขาก็เร่งเครื่องเปลี่ยนเลนทันทีและขับไปยังทิศทางของเฉินฮั่วอวี้เส้าถิงไม่ได้บอกให้รับเฉินฮั่วขึ้นรถ ดังนั้นเขาจึงทำเพียงค่อย ๆ ขับมายบัคตามหลังหญิงสาวในระยะที่ไม่ไกลนักเฉินฮั่วไม่ได้มองย้อนกลับไป จึงไม่รู้ว่ามีรถขับตามมา ตอนนี้จิตใจของกำลังเธอสับสนและว่างเปล่า ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน ได้แต่เดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย“เลขาเฉินจะไปไหนกัน?” เฮ่อเฉาอดไม่ได้คาดเดาอย่างสงสัยด้านในรถ ดวงตาสีเข้มของอวี้เส้าถิงมองตามร่างเพรียวบางบนถนน คิ้วของเขาค่อย ๆ ขมวดเป็นปมมีบางอย่างผิดปกติกับเธอ!ระหว่างนั้นก็มีเสียงแตรรถดังลั่น“ปี๊น!!!!”ทันใดนั้นเอง แสงสีขาวแสบตาก็สาดตรงมา!เฉินฮั่วหยุดและหันศีรษะไปมอง แสงสีขาวเจิดจ้าทำให้เธอหลับตาปี๋ ไม่ไกลนักเธอเห็นรถบรรทุกคันหนึ่งกำลังพุ่งตรงเข้ามาหาเธอ!“เอี๊ยด”“ปัง!”มีเสียงเบรกแสบแก้วหูดังขึ้นบนถนนในยามวิกาล!แม้ว่ารถบรรทุกจะเบรกทันเวลา แต่เฉินฮั่วก็ยังถูกรถชน!เธอล้มลงอย่างแรง ร่างกายกลิ้งไปหลายตลบ จากนั้นหน้าผากก็ไปชนเข้ากับราวกั้นริมถนน หัวสมองของ
ทำไมถึงเป็นเขา?ไม่ใช่เสิ่นเชียนเหวิน ไม่ใช่หัวใจของเธอ คนที่ช่วยชีวิตเธอกลับกลายเป็น…อวี้เส้าถิง!อวี้เส้าถิงขมวดคิ้วแน่น เมื่อสักครู่นี้เขาอยู่ไกล แต่เมื่อเข้ามาใกล้ ๆ ถึงได้เห็นว่าเฉินฮั่วได้รับบาดเจ็บ ที่หน้าผากของเธอมีเลือดออก ใบหน้าของเธอก็ขาวซีดราวกับกระดาษ!ดวงตาของชายหนุ่มมืดครึ้มลงอย่างรุนแรง บรรยากาศรอบตัวที่แต่เดิมเย็นอยู่แล้วพลันหนาวเหน็บยิ่งขึ้นจนทำให้หนังศีรษะชาหนึบ ไอสังหารอันตรายระเบิดออกมาจากทั่วร่างของเขา!เฉินฮั่วไม่ได้พูดอะไร อวี้เส้าถิงจึงไม่สามารถระบุระดับอาการบาดเจ็บของเธอได้ เขาไม่รอช้า รีบอุ้มเธอขึ้นแล้วก้าวไปทางรถมายบัคที่จอดอยู่ริมถนนอีกด้านหนึ่ง คนขับรถลุกขึ้นและตะโกนใส่อวี้เส้าถิงด้วยสีหน้าอาฆาต “แกกล้าดียังไงมายุ่งเรื่องดี ๆ ของฉัน! อยากตายหรือไง? ถ้าแกรู้ความละก็ส่งยายเด็กนั่นมา ไม่งั้นฉันฆ่าแกแน่ จะลองไหมล่ะ!”อวี้เส้าถิงไม่แม้แต่จะปรายตามองไปทางเขา ราวกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า และเมื่อเขาเดินผ่านเฮ่อเฉา เขาก็สั่งอย่างเย็นชาว่า “จัดการซะ”“ครับ ประธานอวี้”เฮ่อเฉามองคนขับรถที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นรอยยิ้มอั
“ประธานอวี้คะ~~~~”น้ำเสียงฉอเลาะมีเสน่ห์ของผู้หญิงคนหนึ่ง ชัดเจนเป็นพิเศษในค่ำคืนที่เงียบสงัดเฉินฮั่วตกใจและหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเธอก็เห็นสาวสวยในชุดกระโปรงสีแดงลงมาจากรถ และเดินตรงมาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าเฉินฮั่วตะลึงงันเธอไม่คิดเลยว่าอวี้เส้าถิงจะมากับคนอื่น!เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดไปเมื่อสักครู่นี้ ใบหน้าของเฉินฮั่วก็รู้สึกร้อนผ่าวเธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้คือภรรยาของประธานอวี้ แต่ทันใดนั้น เธอก็เห็นว่านิ้วนางของเธอไม่ได้สวมแหวน จึงตระหนักได้ว่าเธออาจเป็นเพียงหญิงคนสนิทของอวี้เส้าถิง“ประธานอวี้คะ นี่ต้องเป็นเลขาเฉินแน่ ๆ ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสนะ รีบพาเธอไปโรงพยาบาลกันเถอะ”ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาหาอวี้เส้าถิง และมองมาที่เฉินฮั่วด้วยรอยยิ้มในดวงตา ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นห่วงเป็นใยเฉินฮั่วมาก แต่ในสายตาของเธอกลับแฝงไปด้วยความระแวดระวังตอนอยู่บนรถเธอไม่เห็นหน้าของเฉินฮั่ว เห็นเพียงว่าเธอเป็นเด็กสาวที่รูปร่างดีเท่านั้น เธอจึงคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่สาววัยรุ่นหน้าตาดีคนหนึ่ง แต่พอได้เห็นใบหน้าของเฉินฮั่วเธอก็ถึงกับตกตะลึงแม้ว่าเ
เฉินฮั่วสะดุ้งเฮือก เธอเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง และเห็นนิ้วที่เรียวสวยของอวี้เส้าถิงถือกระดาษทิชชูอยู่ เขาตั้งใจที่จะเช็ดเลือดบนหน้าผากของเธอสายตาของเฉินฮั่ววูบไหวเล็กน้อย เธอหันหน้าหนีโดยไม่รู้ตัวและพูดด้วยเสียงเบาว่า “ประธานอวี้คะ ดิฉันทำเองได้ค่ะ”ผู้หญิงของเขาที่ยังนั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ นี้ทำให้เฉินฮั่วรู้สึกอึดอัดมาก เธอกัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บปวดและจะย้ายไปนั่งข้าง ๆ เขา“ว่าง่ายหน่อย อย่าขยับ!”อวี้เส้าถิงขมวดคิ้วและดุเธอ แต่ไม่ยอมปล่อยแขนออกจากเอวของเธอ เขาเช็ดแผลให้เธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และเมื่อเขาแตะโดนบาดแผล เฉินฮั่วก็หลุดร้องครางอืมอย่างช่วยไม่ได้“เจ็บเหรอ?” อวี้เส้าถิงเลิกคิ้ว“อื้ม”เธอบาดเจ็บหนักมาก ไม่เจ็บสิแปลก“สมควร!”“…”“ข้ามถนนไม่มองรถ เธอบ้าหรือไง?” อวี้เส้าถิงพูดด้วยสีหน้าจริงจังและโกรธเคืองเฉินฮั่วพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่งคำพูดขอบคุณเขาที่ช่วยชีวิตเธอไว้ติดอยู่ที่ริมฝีปาก จากนั้นเธอก็เก็บมันกลับไปอย่างเงียบ ๆน้ำเสียงของอวี้เส้าถิงดุมาก เฉินฮั่วยังคงเวียนศีรษะและไม่มีแรงที่จะโต้เถียงกับเขา เธอจึงเลือกที่จะเงียบและไม่พูดอะไรอีกอวี้เส้าถิงเหลือบมองใบ