เฉินฮั่วเคยคาดเดาถึงเรื่องไม่ดีต่าง ๆ มากมาย กังวลว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุ กังวลว่าเขาจะถูกลักพาตัว…สิ่งเดียวที่ไม่ได้คาดเดาก็คือ เสิ่นเชียนเหวินจะกลับบ้านไปแต่งงาน!เสิ่นเชียนเหวินแต่งงานกับคุณหนูตระกูลเศรษฐีผู้ซึ่งมีฐานะเท่าเทียมกัน พิธีกรในงานแต่งใช้ถ้อยคำชื่นชมบ่าวสาวเพื่อบรรยายงานสมรสระหว่างหนุ่มหล่อและสาวสวยตระกูลเศรษฐี ทำให้ทุกคนต่างอิจฉาหัวสมองของเฉินฮั่วว่างเปล่า เธอมองไปที่ชายบนหน้าจออยู่พักหนึ่ง จากนั้นเดินไปที่ประตูโรงพยาบาลโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามองพวกเขาอยู่ด้วยกันมาสองปี เสิ่นเชียนเหวินเป็นคนประหยัดอดออม และมักจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดอยู่เสมอ เฉินฮั่วคิดมาตลอดว่าครอบครัวของเขายากจนจู่ ๆ แฟนของเธอก็กลายเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยและไปแต่งงานกับคนอื่น เฉินฮั่วไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวเธอเอง!เธอรู้สึกว่ามันไร้สาระไปหน่อย เพราะเวลาสองปีเต็มนั้น ยกเว้นชื่อเสิ่นเชียนเหวิน เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเขาที่เธอรู้ล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด!ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เธอกังวลเรื่องเขาจนนอนไม่หลับ พยายามคิดหาวิธีตามหาเขา แต่หารู้ไม่ อีกฝ่ายกลับกำ
อันที่จริง เมื่อเฮ่อเฉาเห็นเฉินฮั่วและจำเธอได้ เขาก็เริ่มชะลอรถแล้ว หลังจากได้ยินคำสั่งของอวี้เส้าถิงเขาก็เร่งเครื่องเปลี่ยนเลนทันทีและขับไปยังทิศทางของเฉินฮั่วอวี้เส้าถิงไม่ได้บอกให้รับเฉินฮั่วขึ้นรถ ดังนั้นเขาจึงทำเพียงค่อย ๆ ขับมายบัคตามหลังหญิงสาวในระยะที่ไม่ไกลนักเฉินฮั่วไม่ได้มองย้อนกลับไป จึงไม่รู้ว่ามีรถขับตามมา ตอนนี้จิตใจของกำลังเธอสับสนและว่างเปล่า ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน ได้แต่เดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย“เลขาเฉินจะไปไหนกัน?” เฮ่อเฉาอดไม่ได้คาดเดาอย่างสงสัยด้านในรถ ดวงตาสีเข้มของอวี้เส้าถิงมองตามร่างเพรียวบางบนถนน คิ้วของเขาค่อย ๆ ขมวดเป็นปมมีบางอย่างผิดปกติกับเธอ!ระหว่างนั้นก็มีเสียงแตรรถดังลั่น“ปี๊น!!!!”ทันใดนั้นเอง แสงสีขาวแสบตาก็สาดตรงมา!เฉินฮั่วหยุดและหันศีรษะไปมอง แสงสีขาวเจิดจ้าทำให้เธอหลับตาปี๋ ไม่ไกลนักเธอเห็นรถบรรทุกคันหนึ่งกำลังพุ่งตรงเข้ามาหาเธอ!“เอี๊ยด”“ปัง!”มีเสียงเบรกแสบแก้วหูดังขึ้นบนถนนในยามวิกาล!แม้ว่ารถบรรทุกจะเบรกทันเวลา แต่เฉินฮั่วก็ยังถูกรถชน!เธอล้มลงอย่างแรง ร่างกายกลิ้งไปหลายตลบ จากนั้นหน้าผากก็ไปชนเข้ากับราวกั้นริมถนน หัวสมองของ
ทำไมถึงเป็นเขา?ไม่ใช่เสิ่นเชียนเหวิน ไม่ใช่หัวใจของเธอ คนที่ช่วยชีวิตเธอกลับกลายเป็น…อวี้เส้าถิง!อวี้เส้าถิงขมวดคิ้วแน่น เมื่อสักครู่นี้เขาอยู่ไกล แต่เมื่อเข้ามาใกล้ ๆ ถึงได้เห็นว่าเฉินฮั่วได้รับบาดเจ็บ ที่หน้าผากของเธอมีเลือดออก ใบหน้าของเธอก็ขาวซีดราวกับกระดาษ!ดวงตาของชายหนุ่มมืดครึ้มลงอย่างรุนแรง บรรยากาศรอบตัวที่แต่เดิมเย็นอยู่แล้วพลันหนาวเหน็บยิ่งขึ้นจนทำให้หนังศีรษะชาหนึบ ไอสังหารอันตรายระเบิดออกมาจากทั่วร่างของเขา!เฉินฮั่วไม่ได้พูดอะไร อวี้เส้าถิงจึงไม่สามารถระบุระดับอาการบาดเจ็บของเธอได้ เขาไม่รอช้า รีบอุ้มเธอขึ้นแล้วก้าวไปทางรถมายบัคที่จอดอยู่ริมถนนอีกด้านหนึ่ง คนขับรถลุกขึ้นและตะโกนใส่อวี้เส้าถิงด้วยสีหน้าอาฆาต “แกกล้าดียังไงมายุ่งเรื่องดี ๆ ของฉัน! อยากตายหรือไง? ถ้าแกรู้ความละก็ส่งยายเด็กนั่นมา ไม่งั้นฉันฆ่าแกแน่ จะลองไหมล่ะ!”อวี้เส้าถิงไม่แม้แต่จะปรายตามองไปทางเขา ราวกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า และเมื่อเขาเดินผ่านเฮ่อเฉา เขาก็สั่งอย่างเย็นชาว่า “จัดการซะ”“ครับ ประธานอวี้”เฮ่อเฉามองคนขับรถที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นรอยยิ้มอั
“ประธานอวี้คะ~~~~”น้ำเสียงฉอเลาะมีเสน่ห์ของผู้หญิงคนหนึ่ง ชัดเจนเป็นพิเศษในค่ำคืนที่เงียบสงัดเฉินฮั่วตกใจและหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเธอก็เห็นสาวสวยในชุดกระโปรงสีแดงลงมาจากรถ และเดินตรงมาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าเฉินฮั่วตะลึงงันเธอไม่คิดเลยว่าอวี้เส้าถิงจะมากับคนอื่น!เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดไปเมื่อสักครู่นี้ ใบหน้าของเฉินฮั่วก็รู้สึกร้อนผ่าวเธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้คือภรรยาของประธานอวี้ แต่ทันใดนั้น เธอก็เห็นว่านิ้วนางของเธอไม่ได้สวมแหวน จึงตระหนักได้ว่าเธออาจเป็นเพียงหญิงคนสนิทของอวี้เส้าถิง“ประธานอวี้คะ นี่ต้องเป็นเลขาเฉินแน่ ๆ ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสนะ รีบพาเธอไปโรงพยาบาลกันเถอะ”ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาหาอวี้เส้าถิง และมองมาที่เฉินฮั่วด้วยรอยยิ้มในดวงตา ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นห่วงเป็นใยเฉินฮั่วมาก แต่ในสายตาของเธอกลับแฝงไปด้วยความระแวดระวังตอนอยู่บนรถเธอไม่เห็นหน้าของเฉินฮั่ว เห็นเพียงว่าเธอเป็นเด็กสาวที่รูปร่างดีเท่านั้น เธอจึงคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่สาววัยรุ่นหน้าตาดีคนหนึ่ง แต่พอได้เห็นใบหน้าของเฉินฮั่วเธอก็ถึงกับตกตะลึงแม้ว่าเ
เฉินฮั่วสะดุ้งเฮือก เธอเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง และเห็นนิ้วที่เรียวสวยของอวี้เส้าถิงถือกระดาษทิชชูอยู่ เขาตั้งใจที่จะเช็ดเลือดบนหน้าผากของเธอสายตาของเฉินฮั่ววูบไหวเล็กน้อย เธอหันหน้าหนีโดยไม่รู้ตัวและพูดด้วยเสียงเบาว่า “ประธานอวี้คะ ดิฉันทำเองได้ค่ะ”ผู้หญิงของเขาที่ยังนั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ นี้ทำให้เฉินฮั่วรู้สึกอึดอัดมาก เธอกัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บปวดและจะย้ายไปนั่งข้าง ๆ เขา“ว่าง่ายหน่อย อย่าขยับ!”อวี้เส้าถิงขมวดคิ้วและดุเธอ แต่ไม่ยอมปล่อยแขนออกจากเอวของเธอ เขาเช็ดแผลให้เธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และเมื่อเขาแตะโดนบาดแผล เฉินฮั่วก็หลุดร้องครางอืมอย่างช่วยไม่ได้“เจ็บเหรอ?” อวี้เส้าถิงเลิกคิ้ว“อื้ม”เธอบาดเจ็บหนักมาก ไม่เจ็บสิแปลก“สมควร!”“…”“ข้ามถนนไม่มองรถ เธอบ้าหรือไง?” อวี้เส้าถิงพูดด้วยสีหน้าจริงจังและโกรธเคืองเฉินฮั่วพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่งคำพูดขอบคุณเขาที่ช่วยชีวิตเธอไว้ติดอยู่ที่ริมฝีปาก จากนั้นเธอก็เก็บมันกลับไปอย่างเงียบ ๆน้ำเสียงของอวี้เส้าถิงดุมาก เฉินฮั่วยังคงเวียนศีรษะและไม่มีแรงที่จะโต้เถียงกับเขา เธอจึงเลือกที่จะเงียบและไม่พูดอะไรอีกอวี้เส้าถิงเหลือบมองใบ
เฉินฮั่วคิดอยู่นาน แต่ก็คิดอะไรไม่ออกจนรู้สึกเวียนหัวมาก ดังนั้นเธอจึงหยุดคิดเรื่องนี้“คุณหนูเฉิน นี่คือชุดคนไข้ คุณใส่แล้วจะสบายตัวมากขึ้นหน่อย” ตอนนี้เอง พยาบาลก็นำชุดคนไข้หลวม ๆ มาให้เธอแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณอยากให้ฉันช่วยไหมคะ”เฉินฮั่วพบว่าผู้คนที่นี่ดูเอาใจเธอเล็กน้อย อาจเป็นเพราะอวี้เส้าถิง“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ต้องช่วยก็ได้ค่ะ ฉันเปลี่ยนชุดเองได้” เฉินฮั่วไม่ชินกับการที่ต้องให้คนอื่นมาช่วยเธอเปลี่ยนเสื้อผ้า ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างสุภาพ“ได้ค่ะ ถ้าคุณต้องการอะไร เรียกดิฉันได้เลยนะคะ”“ได้ค่ะ”……หลังจากที่พยาบาลออกไปแล้ว เฉินฮั่วก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงสักพัก เธอถอดเสื้อยืดที่สกปรกออก และเตรียมจะสวมเสื้อผ้าที่สะอาดของโรงพยาบาลเนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บ เธอจึงขยับตัวอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ ดึงมือข้างหนึ่งออกจากแขนเสื้อ แล้วจึงถอดแขนเสื้ออีกข้างออก…เมื่ออวี้เส้าถิงกลับมาที่ห้อง เขาก็พบเข้ากับฉากนี้…เฉินฮั่วกำลังนั่งอยู่บนเตียง เสื้อยืดที่ถูกถกขึ้นเผยให้เห็นเอวขาวและเรียวของเธอ เธอดูแลหุ่นได้ดีมาก ผิวพรรณที่อวบอิ่มและขาวผ่องมีน้ำมีนวลของเธอนั้น ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาจาก
เหนื่อยเหรอ?จัดการกับคนพวกนั้น และเฝ้าดูผู้หญิงคนนั้นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อยั่วยวนและแสดงละครในทุกสถานการณ์…อวี้เส้าถิงไม่รู้สึกเหนื่อย เขาคุ้นเคยกับฉากพวกนั้นมานานแล้วแต่ด้วยเหตุผลบางประการ เมื่อมองดูดวงตาที่สะอาดและกระจ่างใสของผู้หญิงตรงหน้า จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยอวี้เส้าถิงหรี่ตาลง เขาเอื้อมมือไปจับข้อมือของเฉินฮั่วแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา หลีกเลี่ยงบริเวณที่เธอได้รับบาดเจ็บ จะได้ไม่เผลอทำร้ายเธอร่างสูงของชายหนุ่มล้มนอนบนเตียง แขนอันบึกบึนแข็งแกร่งโอบเอวเรียวของร่างบางไว้อย่างครอบงำ “ฉันเหนื่อยนิดหน่อย นอนเป็นเพื่อนฉันสักพักนะ”เตียงในวอร์ดวีไอพีเป็นเตียงใหญ่สำหรับสองคน พวกเขาจึงสามารถนอนบนเตียงเดียวกันได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่เบียดเสียดเฉินฮั่วนอนอยู่ในอ้อมแขนของอวี้เส้าถิง โดยมีหน้าอกกว้างของอวี้เส้าถิงบังอยู่ข้างหน้า รับฟังเสียงการเต้นของหัวใจอันทรงพลังของชายหนุ่ม อารมณ์ที่ซับซ้อนก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเธออวี้เส้าถิงกลับมาแล้วแถมยังกอดเธอไว้แบบนี้ นี่หมายความว่าเขาตกลงที่จะทำข้อตกลงกับเธอแล้วใช่ไหม?“ฉันจะช่วยเธอช่วยคนออกมา เฉินฮั่ว ฉันให้โอกาสเธอกลับค
เฉินฮั่วรู้สึกร้อนเล็กน้อย เธอจึงขยับร่างกายนิดหน่อยเพื่อพยายามรักษาระยะห่างระหว่างทั้งสองให้มากขึ้นอีกนิดตอนนี้เอง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกไม่สบายท้องอย่างรุนแรง เธออดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นปิดปาก แล้วยกผ้าห่มขึ้นคลุมด้วยมืออีกข้างแต่อวี้เส้าถิงกอดเธอแน่นเกินไป การเคลื่อนไหวของเธอจึงดูเหมือนกำลังถูไถร่างของชายหนุ่มส่วนท้องน้อยของอวี้เส้าถิงแน่นขึ้น เนื่องจากการหยอกเย้าของเธอ เขาจึงขมวดคิ้วและลืมตาขึ้น จ้องเธอด้วยสายตาอันตราย “เลขาเฉิน เธออยากพิการจริง ๆ ใช่ไหม?”ขืนเธอยังขยับต่อไปเขาคงไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะอดกลั้นมันต่อไปได้เดิมทีเขาไม่มีแผนที่จะแตะต้องเธอในคืนนี้ แต่ถ้าเธอยืนกรานที่จะทำอะไรสักอย่างเขาก็จะไม่รังเกียจที่จะทำตามความปรารถนาของเธอเฉินฮั่วรู้สึกทนไม่ไหวอีกแล้ว และขมวดคิ้วแน่น “ประธานอวี้ ฉันอยากจะ… อาเจียน”……ในห้องน้ำ เฉินฮั่วใช้นิ้วจับขอบชักโครกไว้แน่นและอาเจียนแรงมาก เธอแทบจะอาเจียนเอาอวัยวะภายในของเธอออกมาในที่สุด เมื่อเธอหยุดลง เธอก็มานั่งอย่างเหนื่อยล้าข้างชักโครก ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษอวี้เส้าถิงขมวดคิ้วและอุ้มเธอขึ้นมา วางเธอไว้บนขอบอ่างล้างหน้า แล